ในสวนศิลป์
พี่ต้นกล้า นาวาตรีจิรวัติ สุกปลั่งนั้น ไม่ใช่ปัญหาของกฤษณะอีกต่อไปแล้ว วันนี้เป็นวันวิวาห์ของเขากับพี่แพรวพรรณที่เพาะบ่มความรักดูใจกันตามที่แม่ของพี่แพรวพรรณต้องการมาถึงเกือบสองปี..
ปัญหาของกฤษณะก็คือพี่ต้นกล้วย เดชาพงษ์ ซึ่งจนบัดนี้ก็ดูไม่มีวี่แววว่าจะชอบพอกับผู้หญิงคนไหน แต่เธอก็มั่นใจว่าด้วยญาณหยั่งรู้ของที่ได้จับมือและได้ทำนายพี่ชายของเธอไปแล้วนั้น เขาจะต้องได้เจอกับเนื้อคู่ของเขาและลงเอยด้วยการแต่งงานกันอย่างแน่นอน..แต่ว่าเธอไม่รู้ว่ามันจะใช้เวลานานแค่ไหน
เพราะคนเฉย ๆ อย่างพี่ต้นกล้วย เมขลาคิดไม่ออกจริง ๆ ว่า ถึงคราวจะต้องจีบผู้หญิงจะทำอย่างไร..แต่เธอก็มั่นใจว่า พระพรหมท่านก็คงมีวิถีของท่าน..คงมีวิธีการที่ทำให้คนสองคนได้พบกันมีเรื่องทำด้วยกันและผูกพันจนกระทั่งรักกันในที่สุด..เหมือนคู่ของเธอกับกฤษณะ ที่เริ่มต้นจากการเดินชนกันที่สถานีรถไฟและสุดท้ายมันก็กลายเป็นเรื่องจุดไต้ตำตอ..
ปัญหาของกฤษณะก็คือพี่ต้นกล้วย เดชาพงษ์ ซึ่งจนบัดนี้ก็ดูไม่มีวี่แววว่าจะชอบพอกับผู้หญิงคนไหน แต่เธอก็มั่นใจว่าด้วยญาณหยั่งรู้ของที่ได้จับมือและได้ทำนายพี่ชายของเธอไปแล้วนั้น เขาจะต้องได้เจอกับเนื้อคู่ของเขาและลงเอยด้วยการแต่งงานกันอย่างแน่นอน..แต่ว่าเธอไม่รู้ว่ามันจะใช้เวลานานแค่ไหน
เพราะคนเฉย ๆ อย่างพี่ต้นกล้วย เมขลาคิดไม่ออกจริง ๆ ว่า ถึงคราวจะต้องจีบผู้หญิงจะทำอย่างไร..แต่เธอก็มั่นใจว่า พระพรหมท่านก็คงมีวิถีของท่าน..คงมีวิธีการที่ทำให้คนสองคนได้พบกันมีเรื่องทำด้วยกันและผูกพันจนกระทั่งรักกันในที่สุด..เหมือนคู่ของเธอกับกฤษณะ ที่เริ่มต้นจากการเดินชนกันที่สถานีรถไฟและสุดท้ายมันก็กลายเป็นเรื่องจุดไต้ตำตอ..
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: 19.1 "ถ้าได้แฟนศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้านี่ถือว่าดับเบิ้ลบุญลาภเลยใช่ไหมคะ”
บทที่ 19
แม้จะเหนื่อยปากเหนื่อยใจกับคนงานชาวพม่าสองคนแต่จรินนาก็ได้แง่คิดเกี่ยวกับเรื่องป้าสำเนียงที่ย้ายไปอยู่กับสุนันทาว่าสุดท้ายคนเราก็ต้องพึ่งพาตัวเองและการสอนงานคนอื่นให้ได้ดีดังใจตัวเองนั้นจะต้องใจเย็นเป็นอย่างมาก นอกจากนั้นการจะซื้อใจสาวพม่าสองคนที่เพิ่งเข้ามาอยู่เมืองไทยได้ไม่นาน ก็คือการเอาใจใส่ดูแลเรื่องสุขอนามัย อาหารการกินและที่สำคัญคือเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย...
จรินนาใช้เวลาฝึกงานสาวพม่าทั้งคู่อยู่สองสัปดาห์กระทั่งอุ่นใจได้ว่าผู้เป็นพ่อจะกลับมาสุขสบายเหมือนตอนที่ป้าสำเนียงอยู่ด้วย บ้านจะกลับมาเป็นบ้านที่มีแต่ความสะอาดเป็นระเบียบอีกครั้ง หญิงสาวจึงกลับไปเอาใจใส่ผู้ชายที่ทำให้หัวใจของตัวเองพองโตได้อย่างประหลาด...แม้ข้ออ้างที่จะโทรหาเขามีตั้งมากมาย แต่จรินนาก็เลือกดึงเรื่องที่สำคัญที่สุดขึ้นมาเอ่ยถึง
“ลืมเรื่องนัดไปซื้อของทอดกฐินอะไรหรือยังคะ”
“ไม่ลืมหรอกครับ ทำบุญออกพรรษาแล้วค่อยไปซื้อก็ได้ ของเรา เอ้อ ของคุณพ่อคุณจินทอดหลังจากออกพรรษาไปแล้วสองสัปดาห์แน่ะ”
“แล้วของต้องซื้อตอนไหนละคะ”
“จะซื้อไว้ก่อนก็ได้ครับ เอาไว้ที่บ้าน หรือจะเอาไว้ที่ทำงานเพื่อบอกบุญคนอื่น ๆ ก็ได้ แต่งานนี้เหมือนคุณพ่อคุณจินจะทำบุญคนเดียว ไม่ได้ชวนใครสักเท่าไหร่ ตรงนั้นผมก็ไม่รู้นะ ต้องถามท่านอีกที แต่รู้สึกว่าไม่ได้มีแจกซองไม่ใช่เหรอครับ...”
“ตรงนั้นจินก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ รู้แต่วันที่จะไป แล้วงานนี้พ่อก็อยากให้จินไปด้วยเป็นอย่างมาก”
“มันเป็นเรื่องที่ดีมากเลยนะครับ ปีหนึ่ง วัดหนึ่งทอดได้แค่ปีละหนเท่านั้น และก็ไม่ใช่ทอดกันง่าย ๆ เพราะวัดที่จะทำบุญทอดกฐินได้นั้นจะต้องมีพระอยู่จำพรรษา 5 รูปขึ้นไป...” เดชาพงษ์อธิบายยืดยาวและ จรินนาก็ฟังเสียงของเขาจนเพลิน.. กระทั่งเขาสรุปว่า “มีพ่อแม่ที่มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้านี่ถือว่าเป็นบุญลาภนะคุณจิน”
“ทำไมละคะ”
“ท่านไม่เพียงแต่จะให้สมบัติเราไว้แต่ชาตินี้ แต่ว่าท่านจะพาเราไปสวรรค์ในชาติหน้าด้วย”
“ยิ่งถ้าได้แฟนศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้านี่ถือว่าดับเบิ้ลบุญลาภเลยใช่ไหมคะ”
“ประมาณนั้นครับ”
“แบบนี้จินต้องหาให้ได้”
“หายากอยู่เหมือนกันนะ...แต่ใช่ว่าจะไม่มี”
“จินว่าจินเจอแล้วค่ะ แต่จินว่าคนเราจะคบกันจนได้ชื่อว่าแฟนกัน มันก็ต้องดูนิสัยใจคอกันให้ถึงที่สุด”
“ครับ...ผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน...”
“ไม่ได้คิดเลียนแบบจินนะคะ”
“ไม่ครับ สาบานผมคิดมานานแล้วครับ”
“อ้อ จินได้ข่าวมาว่า น้องหนูนาสามารถหยั่งรู้อนาคตโดยเฉพาะเรื่องเนื้อคู่ใช่ไหมคะ”
“ได้ข่าวมาจากไหนครับ”
เรื่องคุณวิเศษของเมขลานั้น นาทีรับรู้มาจากปากของแพรวพรรณ แล้วมาเล่าให้เอกรินทร์ฟังตามประสาคนเพิ่งคบกันที่ต้องหาเรื่องมาคุยกันเพื่อเรียนรู้กันและกันให้มากที่สุด... เอกรินทร์รับเรื่องมาแล้วก็มาเล่าให้จรินนาฟังอีกที หญิงสาวจึงต้องเอ่ยถามออกไปทั้งที่ลึก ๆ นั้นไม่ค่อยจะเชื่อเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่
“เสียงลือเสียงเล่าอ้าง อันใดพี่เอย...”
“เสียงย่อมยอยศใคร ทั่วหล้า”
พอเดชาพงษ์ต่อวรรคที่สองของโครงสี่สุภาพอันลือลั่นจากเรื่องลิลิตพระลอแล้วจรินนาก็หัวเราะเสียงใสทีเดียว... “ยังไม่บอกผมเลยว่า รู้มาจากไหน”
“เรื่องจริงหรือเปล่าคะ”
“ถ้าเป็นเรื่องจริงคุณจินจะให้น้องหนูนาดูไหมละครับ”
“ลึก ๆ จินไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่”
“แบบตื้น ๆ ก็เชื่อใช่ไหมครับ”
“ก็นะ...อยากรู้ไว้เหมือนกัน...ตกลงว่าน้องหนูนาดูได้”
“เมื่อก่อนเคยดูได้ครับ แต่ตอนนี้ดูไม่ได้แล้ว เรื่องมันยาวครับ ถ้าเล่าให้ฟังคืนนี้ เห็นทีจะไม่ได้นอนกันแน่ ๆ”
“ยาวขนาดนั้นเลย”
“นิยายเรื่องหนึ่งละครับ ยืนยันว่าเล่าตอนนี้หูชาแน่ ๆ”
“งั้นไม่ต้องเล่าก็ได้ค่ะ แต่จินถามอะไรหน่อย อาจารย์เคยให้น้องเขาดูไหมละคะ ตอนที่เขายังดูได้”
“ไม่เคยครับ”
“ทำไมละ”
“ผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้เป็นทุนอยู่แล้ว ผมเชื่อว่าคนสองคนจะลงเอยอยู่กินด้วยกันได้ ก็น่าจะเกิดจากความรักและความเข้าอกเข้าใจกันช่วยเหลือเกื้อกูลกัน แต่ว่าน้องหนูนาเค้าก็ถือวิสาสะคว้ามือผมไปดูจนได้ครับ...”
“แล้วปรากฏว่า”
“ก็บอกแล้วว่าผมไม่ค่อยเชื่อ คุณจินก็คงไม่เชื่อแน่ ๆ อย่าไปรู้เลยครับ”
“พูดให้อยากรู้นะคะ”
“รู้สึกอย่างนั้นเหรอครับ”
“เดี๋ยวนี้เล่นลิ้นเก่งนะคะ โยกโย้เหลือเกิน”
“จริง ๆ ผมก็เป็นมาตั้งนานแล้วนะ...”
“ยัง”
“คุณจินอยากได้รูปสีดาหน้าหมวยหรือยัง ตอนนี้เสร็จแล้วนะครับ...สวยมาก” เดชาพงษ์เปลี่ยนเรื่องคุยหลังจากที่ยั่วอารมณ์หญิงสาวได้
“จินอยากรู้เรื่องนางสีดามากกว่าคะ บอกตรง ๆ ว่า จินรู้เรื่องวรรณคดีไทยอะไรพวกนี้น้อยมาก หวังว่าเรื่องนางสีดานี่คงไม่ยาวเท่าเรื่องของน้องสาวอาจารย์กล้วยนะคะ”
“ยาวกว่าครับ เรื่องนางสีดา พระราม พระลักษณ์ ทศกัณฑ์นี่เรียกว่ามหากาพย์เลยครับเอาไว้โอกาสดี ๆ ค่อยเล่าให้ฟัง...”
“แต่จินอยากฟังวันนี้”
“วันนี้ผมไม่ว่าง กำลังวาดรูปให้ลูกค้าอยู่”เดชาพงษ์จงใจปฏิเสธหญิงสาวโดยคิดว่าเหตุผลมันพอเพื่อจะดูปฏิกิริยา แล้วจรินนาก็ทำให้เขาได้ชื่นใจ...
“แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก คุยอยู่ได้ตั้งนาน เสียงานเสียการหมด”
“คุณจินโทรมาผมก็อยากคุยด้วยนาน ๆ ครับ...เสียงคุณจินเพราะดี ฟังแล้วเพลิน”
“เสียงอาจารย์ก็เพราะค่ะ โดยเฉพาะตอนร้องเพลง...อยากได้ยินเสียงอาจารย์ร้องเพลงจัง ร้องให้ฟังหน่อยได้เปล่า”
“ผมไม่อยากให้คุณจินเรียกผมว่าอาจารย์เลยครับ เปลี่ยนคำเรียกได้ไหม”
“อยากให้เรียกอะไร พี่กล้วยหรือคะ”
“มันก็ทะแม่ง ๆ เหมือนกัน”
“แล้วน้องหนูนาเรียกอาจารย์ว่าอะไร”
“พี่กล้วยบ้าง พี่ต้นกล้วยบ้าง แล้วแต่อารมณ์”
“ต้นกล้วย” ทวนชื่อของเขาแล้วจรินนาก็หัวเราะขำ...
“คุณจินอย่าคิดอกุศลกับชื่อผมนะ”
“เรียกพี่กล้วยอย่างที่น้องหนูนาเรียกก็ได้ค่ะ พี่กล้วยร้องเพลงให้จินฟังหน่อยได้ไหมคะ”
“คุณจินอยากฟังเพลงประมาณไหนผมร้องได้หมดทุกแนวนะ”
“เพลงฝรั่ง”
“ร้องอย่างไรละครับ...ไหนคุณจินลองร้องให้ผมฟังก่อน”
“แนะ จินจะฟังเสียงอาจารย์” ด้วยติดปากไปแล้วมันก็ยากที่จะเปลี่ยน
“ผมร้องได้แต่เพลงภาษาไทยครับ”
“อยากร้องเพลงอะไรก็ร้องเลยค่ะ”
“นึกไม่ออกครับ...คิดก่อน”
“จินอยากฟังเพลงแพ้ใจของใหม่ เจริญปุปะ”
“เจริญปุระครับ”
“นั่นแหละ ๆ”
“เพลงผู้หญิงนี่..”
“อยากฟังในเวอร์ชั่นพี่กล้วย” จรินนาทำเสียงออดอ้อน
“งั้นตั้งใจฟัง”
พอเขากระแอมเรียกเสียง จรินนาก็เอาโทรศัพท์หนีบกับไหล่แล้วปรบมือแสดงความยินดี...
“ผมยังไม่ได้ร้องเลย”
“ตบรอไว้ก่อน”
“ฟังนะครับ...แต่เอ คุณจินเคยอกหักผิดหวังเสียใจหรือครับ”
“ลืม ๆ ไปแล้วค่ะ...”
“ทำไมลืม”
“ผู้ชายบางคนก็ไม่มีค่าควรแก่การจดจำอะไรหรอกค่ะอาจารย์”
“ไม่ให้เรียกอาจารย์แล้ว...”
“พี่กล้วย หรือจะเอาพี่เดดี...”
“กล้วยแหละครับ...ชินหูกว่า...”
“งั้นพี่กล้วยร้องเพลงได้แล้วค่ะ จินรอฟัง...”
“ไม่เคยร้องผ่านโทรศัพท์สักที เขินครับ...”
“งั้นไปร้องที่คาราโอเกะกันไหม...”
“ช่วงนี้ผมไม่ค่อยว่างจริง ๆ ครับคุณจิน...งานรัดตัวมาก ทั้งที่โรงแรม ทั้งที่บ้าน สุมกันเข้ามา..อยากจะมีสักสิบมืออย่างทศกัณฑ์จริง ๆ”
“งานเยอะ เงินก็เยอะด้วย เอาไปใช้อะไรหมด”
“ก็ต้องให้พ่อแม่ สำหรับตัวเอง แล้วก็อนาคตครับ”
“อนาคต”
“เอาไว้ขอสาวครับ เป็นผู้ชายนี่ครับ ต้องเตรียมไว้” ที่ตัดสินใจบอกไปเพราะเวลานี้หัวใจของเดชาพงษ์นั้นพองคับอกเสียแล้ว...
“ผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นคนโชคดีมาก”
“เป็นคนมีดับเบิ้ลบุญลาภเลยแหละ” ยกหางตัวเองแล้วเดชาพงษ์ก็หัวเราะเบา ๆ...และความเขินก็ทำให้จรินนาหยุดครุ่นคิด...
“เงียบไปเลย...”
“ก็เพิ่งรู้ตัวว่ากวนพี่กล้วย”
“ไม่กวนหรอกครับ...”
“รูปนางสีดาเอามาให้พรุ่งนี้ที่บ้านตอนเย็น ๆ จะกวนไหม...”
“ถ้าเลี้ยงอาหารเย็นสักมื้อก็ไม่กวนครับ...”
“ได้ค่ะ อยากฉัน เอ้ย อยากกินอะไรคะ”
“แล้วแต่คุณจินเลยครับ...คุณจินคิดว่าอร่อย ผมก็เชื่อว่ามันต้องอร่อย”
“โอเคค่ะ งั้น คืนนี้จินไม่กวนแล้ว พรุ่งนี้ รอกิน แกงหมูเทโพฝีมือจินแล้วกัน”
“ทำเป็นด้วย”
“จะเรียกป้าสำเนียงมาสอนให้ค่ะ สวนเมนูอื่น ๆ เดี๋ยวคิดอีกที..แค่นี้นะคะ”
“ครับผม ขอบคุณครับ..ฝันดีครับ”
“ฝันดีเช่นกันค่ะ..” กว่าที่ทั้งคู่จะตัดสายจากกันได้ก็เล่นเอาเป็นว่า ความเงียบที่ต่างไม่ยอมพูดอะไรต่อนั้นทำให้ได้ยินเสียงเต้นของหัวใจทีเดียว...
แม้จะเหนื่อยปากเหนื่อยใจกับคนงานชาวพม่าสองคนแต่จรินนาก็ได้แง่คิดเกี่ยวกับเรื่องป้าสำเนียงที่ย้ายไปอยู่กับสุนันทาว่าสุดท้ายคนเราก็ต้องพึ่งพาตัวเองและการสอนงานคนอื่นให้ได้ดีดังใจตัวเองนั้นจะต้องใจเย็นเป็นอย่างมาก นอกจากนั้นการจะซื้อใจสาวพม่าสองคนที่เพิ่งเข้ามาอยู่เมืองไทยได้ไม่นาน ก็คือการเอาใจใส่ดูแลเรื่องสุขอนามัย อาหารการกินและที่สำคัญคือเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย...
จรินนาใช้เวลาฝึกงานสาวพม่าทั้งคู่อยู่สองสัปดาห์กระทั่งอุ่นใจได้ว่าผู้เป็นพ่อจะกลับมาสุขสบายเหมือนตอนที่ป้าสำเนียงอยู่ด้วย บ้านจะกลับมาเป็นบ้านที่มีแต่ความสะอาดเป็นระเบียบอีกครั้ง หญิงสาวจึงกลับไปเอาใจใส่ผู้ชายที่ทำให้หัวใจของตัวเองพองโตได้อย่างประหลาด...แม้ข้ออ้างที่จะโทรหาเขามีตั้งมากมาย แต่จรินนาก็เลือกดึงเรื่องที่สำคัญที่สุดขึ้นมาเอ่ยถึง
“ลืมเรื่องนัดไปซื้อของทอดกฐินอะไรหรือยังคะ”
“ไม่ลืมหรอกครับ ทำบุญออกพรรษาแล้วค่อยไปซื้อก็ได้ ของเรา เอ้อ ของคุณพ่อคุณจินทอดหลังจากออกพรรษาไปแล้วสองสัปดาห์แน่ะ”
“แล้วของต้องซื้อตอนไหนละคะ”
“จะซื้อไว้ก่อนก็ได้ครับ เอาไว้ที่บ้าน หรือจะเอาไว้ที่ทำงานเพื่อบอกบุญคนอื่น ๆ ก็ได้ แต่งานนี้เหมือนคุณพ่อคุณจินจะทำบุญคนเดียว ไม่ได้ชวนใครสักเท่าไหร่ ตรงนั้นผมก็ไม่รู้นะ ต้องถามท่านอีกที แต่รู้สึกว่าไม่ได้มีแจกซองไม่ใช่เหรอครับ...”
“ตรงนั้นจินก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ รู้แต่วันที่จะไป แล้วงานนี้พ่อก็อยากให้จินไปด้วยเป็นอย่างมาก”
“มันเป็นเรื่องที่ดีมากเลยนะครับ ปีหนึ่ง วัดหนึ่งทอดได้แค่ปีละหนเท่านั้น และก็ไม่ใช่ทอดกันง่าย ๆ เพราะวัดที่จะทำบุญทอดกฐินได้นั้นจะต้องมีพระอยู่จำพรรษา 5 รูปขึ้นไป...” เดชาพงษ์อธิบายยืดยาวและ จรินนาก็ฟังเสียงของเขาจนเพลิน.. กระทั่งเขาสรุปว่า “มีพ่อแม่ที่มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้านี่ถือว่าเป็นบุญลาภนะคุณจิน”
“ทำไมละคะ”
“ท่านไม่เพียงแต่จะให้สมบัติเราไว้แต่ชาตินี้ แต่ว่าท่านจะพาเราไปสวรรค์ในชาติหน้าด้วย”
“ยิ่งถ้าได้แฟนศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้านี่ถือว่าดับเบิ้ลบุญลาภเลยใช่ไหมคะ”
“ประมาณนั้นครับ”
“แบบนี้จินต้องหาให้ได้”
“หายากอยู่เหมือนกันนะ...แต่ใช่ว่าจะไม่มี”
“จินว่าจินเจอแล้วค่ะ แต่จินว่าคนเราจะคบกันจนได้ชื่อว่าแฟนกัน มันก็ต้องดูนิสัยใจคอกันให้ถึงที่สุด”
“ครับ...ผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน...”
“ไม่ได้คิดเลียนแบบจินนะคะ”
“ไม่ครับ สาบานผมคิดมานานแล้วครับ”
“อ้อ จินได้ข่าวมาว่า น้องหนูนาสามารถหยั่งรู้อนาคตโดยเฉพาะเรื่องเนื้อคู่ใช่ไหมคะ”
“ได้ข่าวมาจากไหนครับ”
เรื่องคุณวิเศษของเมขลานั้น นาทีรับรู้มาจากปากของแพรวพรรณ แล้วมาเล่าให้เอกรินทร์ฟังตามประสาคนเพิ่งคบกันที่ต้องหาเรื่องมาคุยกันเพื่อเรียนรู้กันและกันให้มากที่สุด... เอกรินทร์รับเรื่องมาแล้วก็มาเล่าให้จรินนาฟังอีกที หญิงสาวจึงต้องเอ่ยถามออกไปทั้งที่ลึก ๆ นั้นไม่ค่อยจะเชื่อเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่
“เสียงลือเสียงเล่าอ้าง อันใดพี่เอย...”
“เสียงย่อมยอยศใคร ทั่วหล้า”
พอเดชาพงษ์ต่อวรรคที่สองของโครงสี่สุภาพอันลือลั่นจากเรื่องลิลิตพระลอแล้วจรินนาก็หัวเราะเสียงใสทีเดียว... “ยังไม่บอกผมเลยว่า รู้มาจากไหน”
“เรื่องจริงหรือเปล่าคะ”
“ถ้าเป็นเรื่องจริงคุณจินจะให้น้องหนูนาดูไหมละครับ”
“ลึก ๆ จินไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่”
“แบบตื้น ๆ ก็เชื่อใช่ไหมครับ”
“ก็นะ...อยากรู้ไว้เหมือนกัน...ตกลงว่าน้องหนูนาดูได้”
“เมื่อก่อนเคยดูได้ครับ แต่ตอนนี้ดูไม่ได้แล้ว เรื่องมันยาวครับ ถ้าเล่าให้ฟังคืนนี้ เห็นทีจะไม่ได้นอนกันแน่ ๆ”
“ยาวขนาดนั้นเลย”
“นิยายเรื่องหนึ่งละครับ ยืนยันว่าเล่าตอนนี้หูชาแน่ ๆ”
“งั้นไม่ต้องเล่าก็ได้ค่ะ แต่จินถามอะไรหน่อย อาจารย์เคยให้น้องเขาดูไหมละคะ ตอนที่เขายังดูได้”
“ไม่เคยครับ”
“ทำไมละ”
“ผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้เป็นทุนอยู่แล้ว ผมเชื่อว่าคนสองคนจะลงเอยอยู่กินด้วยกันได้ ก็น่าจะเกิดจากความรักและความเข้าอกเข้าใจกันช่วยเหลือเกื้อกูลกัน แต่ว่าน้องหนูนาเค้าก็ถือวิสาสะคว้ามือผมไปดูจนได้ครับ...”
“แล้วปรากฏว่า”
“ก็บอกแล้วว่าผมไม่ค่อยเชื่อ คุณจินก็คงไม่เชื่อแน่ ๆ อย่าไปรู้เลยครับ”
“พูดให้อยากรู้นะคะ”
“รู้สึกอย่างนั้นเหรอครับ”
“เดี๋ยวนี้เล่นลิ้นเก่งนะคะ โยกโย้เหลือเกิน”
“จริง ๆ ผมก็เป็นมาตั้งนานแล้วนะ...”
“ยัง”
“คุณจินอยากได้รูปสีดาหน้าหมวยหรือยัง ตอนนี้เสร็จแล้วนะครับ...สวยมาก” เดชาพงษ์เปลี่ยนเรื่องคุยหลังจากที่ยั่วอารมณ์หญิงสาวได้
“จินอยากรู้เรื่องนางสีดามากกว่าคะ บอกตรง ๆ ว่า จินรู้เรื่องวรรณคดีไทยอะไรพวกนี้น้อยมาก หวังว่าเรื่องนางสีดานี่คงไม่ยาวเท่าเรื่องของน้องสาวอาจารย์กล้วยนะคะ”
“ยาวกว่าครับ เรื่องนางสีดา พระราม พระลักษณ์ ทศกัณฑ์นี่เรียกว่ามหากาพย์เลยครับเอาไว้โอกาสดี ๆ ค่อยเล่าให้ฟัง...”
“แต่จินอยากฟังวันนี้”
“วันนี้ผมไม่ว่าง กำลังวาดรูปให้ลูกค้าอยู่”เดชาพงษ์จงใจปฏิเสธหญิงสาวโดยคิดว่าเหตุผลมันพอเพื่อจะดูปฏิกิริยา แล้วจรินนาก็ทำให้เขาได้ชื่นใจ...
“แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก คุยอยู่ได้ตั้งนาน เสียงานเสียการหมด”
“คุณจินโทรมาผมก็อยากคุยด้วยนาน ๆ ครับ...เสียงคุณจินเพราะดี ฟังแล้วเพลิน”
“เสียงอาจารย์ก็เพราะค่ะ โดยเฉพาะตอนร้องเพลง...อยากได้ยินเสียงอาจารย์ร้องเพลงจัง ร้องให้ฟังหน่อยได้เปล่า”
“ผมไม่อยากให้คุณจินเรียกผมว่าอาจารย์เลยครับ เปลี่ยนคำเรียกได้ไหม”
“อยากให้เรียกอะไร พี่กล้วยหรือคะ”
“มันก็ทะแม่ง ๆ เหมือนกัน”
“แล้วน้องหนูนาเรียกอาจารย์ว่าอะไร”
“พี่กล้วยบ้าง พี่ต้นกล้วยบ้าง แล้วแต่อารมณ์”
“ต้นกล้วย” ทวนชื่อของเขาแล้วจรินนาก็หัวเราะขำ...
“คุณจินอย่าคิดอกุศลกับชื่อผมนะ”
“เรียกพี่กล้วยอย่างที่น้องหนูนาเรียกก็ได้ค่ะ พี่กล้วยร้องเพลงให้จินฟังหน่อยได้ไหมคะ”
“คุณจินอยากฟังเพลงประมาณไหนผมร้องได้หมดทุกแนวนะ”
“เพลงฝรั่ง”
“ร้องอย่างไรละครับ...ไหนคุณจินลองร้องให้ผมฟังก่อน”
“แนะ จินจะฟังเสียงอาจารย์” ด้วยติดปากไปแล้วมันก็ยากที่จะเปลี่ยน
“ผมร้องได้แต่เพลงภาษาไทยครับ”
“อยากร้องเพลงอะไรก็ร้องเลยค่ะ”
“นึกไม่ออกครับ...คิดก่อน”
“จินอยากฟังเพลงแพ้ใจของใหม่ เจริญปุปะ”
“เจริญปุระครับ”
“นั่นแหละ ๆ”
“เพลงผู้หญิงนี่..”
“อยากฟังในเวอร์ชั่นพี่กล้วย” จรินนาทำเสียงออดอ้อน
“งั้นตั้งใจฟัง”
พอเขากระแอมเรียกเสียง จรินนาก็เอาโทรศัพท์หนีบกับไหล่แล้วปรบมือแสดงความยินดี...
“ผมยังไม่ได้ร้องเลย”
“ตบรอไว้ก่อน”
“ฟังนะครับ...แต่เอ คุณจินเคยอกหักผิดหวังเสียใจหรือครับ”
“ลืม ๆ ไปแล้วค่ะ...”
“ทำไมลืม”
“ผู้ชายบางคนก็ไม่มีค่าควรแก่การจดจำอะไรหรอกค่ะอาจารย์”
“ไม่ให้เรียกอาจารย์แล้ว...”
“พี่กล้วย หรือจะเอาพี่เดดี...”
“กล้วยแหละครับ...ชินหูกว่า...”
“งั้นพี่กล้วยร้องเพลงได้แล้วค่ะ จินรอฟัง...”
“ไม่เคยร้องผ่านโทรศัพท์สักที เขินครับ...”
“งั้นไปร้องที่คาราโอเกะกันไหม...”
“ช่วงนี้ผมไม่ค่อยว่างจริง ๆ ครับคุณจิน...งานรัดตัวมาก ทั้งที่โรงแรม ทั้งที่บ้าน สุมกันเข้ามา..อยากจะมีสักสิบมืออย่างทศกัณฑ์จริง ๆ”
“งานเยอะ เงินก็เยอะด้วย เอาไปใช้อะไรหมด”
“ก็ต้องให้พ่อแม่ สำหรับตัวเอง แล้วก็อนาคตครับ”
“อนาคต”
“เอาไว้ขอสาวครับ เป็นผู้ชายนี่ครับ ต้องเตรียมไว้” ที่ตัดสินใจบอกไปเพราะเวลานี้หัวใจของเดชาพงษ์นั้นพองคับอกเสียแล้ว...
“ผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นคนโชคดีมาก”
“เป็นคนมีดับเบิ้ลบุญลาภเลยแหละ” ยกหางตัวเองแล้วเดชาพงษ์ก็หัวเราะเบา ๆ...และความเขินก็ทำให้จรินนาหยุดครุ่นคิด...
“เงียบไปเลย...”
“ก็เพิ่งรู้ตัวว่ากวนพี่กล้วย”
“ไม่กวนหรอกครับ...”
“รูปนางสีดาเอามาให้พรุ่งนี้ที่บ้านตอนเย็น ๆ จะกวนไหม...”
“ถ้าเลี้ยงอาหารเย็นสักมื้อก็ไม่กวนครับ...”
“ได้ค่ะ อยากฉัน เอ้ย อยากกินอะไรคะ”
“แล้วแต่คุณจินเลยครับ...คุณจินคิดว่าอร่อย ผมก็เชื่อว่ามันต้องอร่อย”
“โอเคค่ะ งั้น คืนนี้จินไม่กวนแล้ว พรุ่งนี้ รอกิน แกงหมูเทโพฝีมือจินแล้วกัน”
“ทำเป็นด้วย”
“จะเรียกป้าสำเนียงมาสอนให้ค่ะ สวนเมนูอื่น ๆ เดี๋ยวคิดอีกที..แค่นี้นะคะ”
“ครับผม ขอบคุณครับ..ฝันดีครับ”
“ฝันดีเช่นกันค่ะ..” กว่าที่ทั้งคู่จะตัดสายจากกันได้ก็เล่นเอาเป็นว่า ความเงียบที่ต่างไม่ยอมพูดอะไรต่อนั้นทำให้ได้ยินเสียงเต้นของหัวใจทีเดียว...
จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 ส.ค. 2555, 20:26:57 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 ส.ค. 2555, 20:40:03 น.
จำนวนการเข้าชม : 2205
<< 18.2 “เปิดหู เปิดตา เปิดใจบ้างพี่ มองคนที่เขามองเราดีกว่านะ” | 19.2 “พาขึ้นสวรรค์อย่างเดียวก็พอแล้วมั้ง...” >> |
จุฬามณีเฟื่องนคร 15 ส.ค. 2555, 20:27:39 น.
ครึ่งตอนนี้สำหรับแฟนคลับพี่ต้นกล้วยโดยเฉพาะ.....
ครึ่งตอนนี้สำหรับแฟนคลับพี่ต้นกล้วยโดยเฉพาะ.....
imsoul 15 ส.ค. 2555, 20:33:24 น.
รักคนเขียนคะ
รักคนเขียนคะ
nateetip 15 ส.ค. 2555, 20:45:50 น.
อึ๋ยยยยย...อ่านไปยิ้มไป ใจพองตาม น่ารักมากกก...
อึ๋ยยยยย...อ่านไปยิ้มไป ใจพองตาม น่ารักมากกก...
boon 15 ส.ค. 2555, 20:55:00 น.
รอตอนต่อไปค่ะ
รอตอนต่อไปค่ะ
boon 15 ส.ค. 2555, 20:56:28 น.
ขออีกครึ่งตอนได้ไหมค่ะ.
ขออีกครึ่งตอนได้ไหมค่ะ.
จุฬามณีเฟื่องนคร 15 ส.ค. 2555, 21:03:13 น.
พรุ่งนี้เช้าน่าจะได้ครับ วันนี้ไม่ได้งานเลยครับ เพิ่งมาได้ตอนเย็น ๆ นี่เอง งานรัดตัวเหมือนอาจารย์กล้วยเด๊ะเลย....คริคริ....
พรุ่งนี้เช้าน่าจะได้ครับ วันนี้ไม่ได้งานเลยครับ เพิ่งมาได้ตอนเย็น ๆ นี่เอง งานรัดตัวเหมือนอาจารย์กล้วยเด๊ะเลย....คริคริ....
หนอนฮับ 15 ส.ค. 2555, 22:22:17 น.
พี่ต้น...เอ๊ยยย เรียกพี่กล้วยดีกว่า น่ารักอ่ะ
พี่ต้น...เอ๊ยยย เรียกพี่กล้วยดีกว่า น่ารักอ่ะ
คิมหันตุ์ 15 ส.ค. 2555, 23:03:21 น.
ฮ่าฮ่า...พรุ่งนี้หนูจะรอพี่กล้วยนะคะ อิอิ
ฮ่าฮ่า...พรุ่งนี้หนูจะรอพี่กล้วยนะคะ อิอิ
nutcha 15 ส.ค. 2555, 23:16:34 น.
จุ๊บ จุ๊บ คุณเฟื่องน่ารักมาก ตอนนี้พี่ต้นกล้วยน่ารักมั๊ก มาก
จุ๊บ จุ๊บ คุณเฟื่องน่ารักมาก ตอนนี้พี่ต้นกล้วยน่ารักมั๊ก มาก
แว่นใส 16 ส.ค. 2555, 07:53:35 น.
แอบกุ๊กกิ๊กกันด้วยนะเนี่ย
แอบกุ๊กกิ๊กกันด้วยนะเนี่ย
saralun 16 ส.ค. 2555, 08:39:58 น.
หวานมาก ^^
หวานมาก ^^
คนเหงา 16 ส.ค. 2555, 09:00:23 น.
พี่กล้วย เริ่มพูดเก่งนะ
พี่กล้วย เริ่มพูดเก่งนะ
ปริยฉัตร 16 ส.ค. 2555, 09:21:28 น.
พี่กล้วยเริ่มจีบหญิงเป็นแล้ว
พี่กล้วยเริ่มจีบหญิงเป็นแล้ว
goldensun 16 ส.ค. 2555, 13:06:43 น.
น่ารักจัง แต่ข้ออ้างพี่กล้วยฟังไม่ขึ้นแล้วนะคะ บอกว่าติดวาดรูปให้ลูกค้า แต่ก็ชวนคุยตั้งนาน
เริ่มมีลูกล่อลูกชนแล้ว
น่ารักจัง แต่ข้ออ้างพี่กล้วยฟังไม่ขึ้นแล้วนะคะ บอกว่าติดวาดรูปให้ลูกค้า แต่ก็ชวนคุยตั้งนาน
เริ่มมีลูกล่อลูกชนแล้ว
Orathai 16 ส.ค. 2555, 23:49:50 น.
จีบกันอย่างไว้เชิง
จีบกันอย่างไว้เชิง
Zephyr 22 ส.ค. 2555, 22:22:59 น.
ยังจีบกันกั๊กๆนะ
พี่ต้น พี่กล้วย พี่ต้นกล้วย พี่เด พี่ชา พี่พงษ์
555จินเรียกไปเหอะ ซักชื่อ
ยังจีบกันกั๊กๆนะ
พี่ต้น พี่กล้วย พี่ต้นกล้วย พี่เด พี่ชา พี่พงษ์
555จินเรียกไปเหอะ ซักชื่อ