The Royal Wedding : รักนี้ที่วังหลวง
เมื่อเจ้าชายหนุ่มรูปงามแห่งศตวรรษที่ 21 ผู้ที่สตรีทั่วราชอาณาจักรต่่างเฝ้าฝันจะได้ควงคู่ กลับถูกสี่สาวพี่น้องตระกูลหนึ่งไม่เห็นว่าสำคัญ พระองค์จะทำอย่างไร เมื่อปัญหายิ่งหนักขึ้นด้วยสมเด็จพระราชินีมีพระดำรัสต้องการได้สะใภ้หลวงเป็น 1 ใน 4 สาวนั้น

เรื่องราวของซินเดอเรลล่ายุคใหม่เริ่มต้นขึ้น ไม่แปลกและไม่แตกต่าง แต่ก็เป็นสิ่งที่ใครๆอยากสัมผัสเสมอมา
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: วางแผน

The Royal Wedding 9

“ครับท่าน ผมจะรีบทำให้เร็วที่สุดครับ ตอนนี้เหรอครับ…เอ่อ…” ดนัยพูดสายกับผู้บังคับบัญชากรมทหารที่เขาสังกัดอยู่ พลางมองไปที่สาวสวยแต่งตัวสะดุดตาที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยความกระอักกระอ่วนใจ เจ้าหล่อนส่งตาเขียวมาให้เขา จนทำให้ชายหนุ่มต้องรีบอธิบายให้ปลายสายเข้าใจ

“ตอนนี้ผมทานข้าวกลางวันอยู่น่ะครับท่าน เอาไว้บ่ายนี้ผมรีบทำแน่นอนครับ คร้าบ สวัสดีครับท่าน” ชายหนุ่มวางสายลงพลางถอนหายใจโล่งอก

“ดีไม่เข้าใจ นี่เวลาพักนะคะ เจ้านายคุณมีสิทธิ์โทรมาสั่งนู่นนี่ได้ยังไง” สาวสวยที่ใบหน้างามบ่งบอกถึงความเป็นลูกครึ่ง ทำสีหน้าไม่สบอารมณ์ แต่ถึงแม้หล่อนจะอารมณ์เสียอย่างไร ก็ยังดูสะดุดตาและถูกใจดนัยอยู่นั่นเอง

“แหม ดี ก็จะไม่ให้เขามีสิทธิ์ได้อย่างไรล่ะจ๊ะ ก็คุณพ่อพี่เขาฝากพี่มาทำงานนี่นา ใช้เส้นใช้สายอย่างนี้ก็ต้องเอาใจเจ้านายกันหน่อย” หนุ่มหล่อพูดแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว เขาชินกับการใช้เส้นสายมาแต่ไหนแต่ไร และไม่เคยคิดว่ามันเป็นเรื่องแปลกหรือไร้ศักดิ์ศรีแม้แต่น้อย สมัยประถมเขาไม่สามารถสอบเข้าโรงเรียนประถมที่ดีที่สุดได้ คุณพ่อของเขาก็เพียงแต่เข้าไปพบผู้อำนวยการแล้วโยนซองสีน้ำตาลหนาๆให้เขาก็ได้เรียนทันที พอขึ้นมัธยมปลายเขาไม่ได้ไปสอบโรงเรียนเตรียมทหารสักที แต่คุณพ่อก็ใช้มุก ‘ซองน้ำตาลหนาๆ’ จนเขาได้เข้าเรียนแบบงงๆ นี่เขายังเคยแอบแซวพ่อตัวเองเลยว่า ทำไมไม่ใช้แส้นยัดให้เขาเข้าไปเรียนที่โรงเรียนนายร้อยแซนด์เฮิร์สบ้าง

“ไอ้นี่ ได้คืบจะเอาศอก แซนด์เฮิร์สไม่เหมาะกับคนเหยาะแหยะอย่างเอ็งหรอกเว้ย”

แล้วกับไอ้แค่เข้าทำงานรับราชการทหาร นายพลอัศวิน คุณพ่อของเขา ร่ำรวยและมีอำนาจในกรมทหารเสียอย่างนั้น เขาจะทำงานที่ไหน ตำแหน่งอะไรก็ย่อมได้

สาวสวยที่ชื่อ ดี หรือ ดีว่า ได้ฟังดังนั้นก็ยิ้มหัวเราะชอบใจ “นั่นสิคะ คุณพ่อของพี่ออกจะมีอำนาจใหญ่โต แต่แหม หัวหน้าพี่เขาก็ไม่น่าเบียดเบียนเวลาพักเที่ยงเลยนะคะ” พูดไม่พูดเปล่า หล่อนเข้ามากระแซะชายหนุ่ม พลางควงแขนอีกต่างหาก ก่อนจะกระซิบข้างหูดนัยเบาๆ

“แล้วเย็นนี้…ว่างไหมล่ะคะ ไปทานข้าวกับดีนะ”

ดนัยใจเต้นไม่เป็นส่ำ เขาหน้าแดงจัด พลางมองร่างบางที่แนบชิดอยู่ข้างๆ เขารู้จักกับดีว่าเพราะหล่อนเป็นเพื่อนนางแบบของซาร่า เริ่มคบกันไม่ถึงสามเดือน แต่ดนัยกลับติดใจหล่อนเป็นบ้า ก็หล่อนขี้อ้อนและช่างเอาใจเขาเสียอย่างนี้

เขากระซิบแผ่วเบาบนหน้าผากกลมมนของหล่อน “ว่างสิจ๊ะ เดี๋ยวพี่ไปรับที่คอนโดนะ”

เมื่อทานอาหารกลางวันพลางออดอ้อนกันเสร็จ สองคู่ชู้ชื่นก็เดินกอดเอวกันออกมาจากร้านอาหารหรูในห้างชั้นนำใจกลางเมือง ก่อนจะเดินผ่านร้านหนังสือแห่งหนึ่งที่ทำให้ดีว่าต้องหยุดชะงัก ก่อนจะทำตาโตพูดเสียงแหลมปรี๊ดด้วยความดีใจ

“ออกแล้ว!!! แม็กกาซีนที่ดีว่าไปถ่ายแบบลงปกให้น่ะค่ะ ออกแล้วค่ะพี่ดอน ไปค่ะ ไปดูกัน!” แล้วหล่อนก็จูงมือแข็งแรงเข้าไปที่แผงหนังสือ ดนัยรู้สึกตื่นเต้นไปด้วย และอดภูมิใจไม่ได้ที่เขามีแฟนเป็นถึงนางแบบสุดฮ็อต

ดีว่าใช้นิ้วเรียวยาวค่อยๆกรีดกรายเข้าไปหยิบนิตยสารชื่อดังปกมันวับ ก่อนจะหยิบขึ้นมาพลางชี้ไปที่รูปตัวเองกำลังโพสท่าสุดเก๋ไก๋

“ไงคะ ดี สวยใช่ไหมล่ะคะ พี่พลรู้ไหม บ.ก. เขาคัดเลือกนางแบบหลายคนมากเลยนะ แต่ดีว่ากลับชนะพวกนั้นได้หมดเลย” แล้วหล่อนก็เอียงคอมากระซิบเขา “ชนะแม้กระทั่งซาร่าเลยค่ะ”

ดนัยมองหล่อนด้วยความชื่นชมอย่างหมดหัวใจ หล่อนว่าอะไรก็เออออพยักหน้าเห็นดีเห็นชอบไปเสียหมด

“หืม ชุดนี้นี่แพงมากเลยนะคะ เห็นพี่ไก่สไตลิสบอกว่า ดี ใส่ขึ้นเหมือนนางแบบที่ลงปกโว้กเดือนที่แล้วเลยล่ะค่ะ ต๊าย! รูปนี่ดีก็ถ่ายขึ้นมากเลยล่ะค่ะ….”

“ขอโทษนะคะ…” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังแทรกขึ้นเสียงแหลมของดีว่า แต่อาจจะเบาไป เพราะเธอกลับไม่ได้รับความสนใจ

“ไหนๆ ดูซิคะ ว่ารูปที่ดีใส่สร้อยเพชรราคาเฉียดร้อยล้านนั่นอยู่ไหน…”

“เอ่อคุณคะ ขอฉันหยิบ…” แต่คราวนี้เธอคนนั้นยังพูดแทรกไม่จบ ดีว่ากลับหันมาถลึงตาใส่

“อะไรกันคะคุณ!” หล่อนถามเสียงสูงแหลม แล้วมองหน้าหญิงสาวผู้เรียบร้อยตรงหน้า

ดนัยมองตามทันทีและนั่นกลับทำเอาเขาประหลาดใจ

“อ้าว คุณด้วยรัก มาทำอะไรครับ” เขาทักทายหล่อนอย่างเป็นมิตร จนทำเอาดีว่าที่เริ่มจะหัวเสียมองเขาด้วยความโกรธ

ด้วยรักละสายตาจากดีว่า ก่อนจะเห็นว่าดนัยที่เต้นรำด้วยกันเมื่อคืนยิ่มร่าให้เธออยู่

หล่อนยิ้ม “อ้าวคุณดนัย สวัสดีค่ะ ฉันมาซื้อหนังสือเรียนเปียโนให้เด็กเข้าใหม่น่ะค่ะ แล้วก็…” ด้วยรักที่หมดความอดทนกับ ‘ยายขี้วีน’ จึงเอื้อมมือผ่านหน้าหล่อนไปหยิบตำราเรียนเปียโนออกมาแบบไม่ต้องกลัวเสียมารยาท ที่สำคัญด้วยรักไม่แม้แต่จะสบตาดีว่าด้วยซ้ำ พอหยิบเสร็จ ก็ล่ำลาดนัยแล้วเดินออกไป

แต่เรื่องกลับไม่จบแค่นั้น

“นี่หล่อน กลับมาขอโทษฉันเดี๋ยวนี้นะ” ดีว่าพูดจาออกคำสั่งเสียงแหลม ดนัยมองหล่อนด้วยความตกใจ
แต่ด้วยรักกลับหยุดชะงัก แล้วหันกลับมามองหล่อนทีหนึ่งด้วยสายตาว่างเปล่า ก่อนจะหันหลังเดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์

ดีว่าหัวเสียมากขึ้น หล่อนคว้านิตยสารที่ตัวเองถ่ายแบบลงปก ก่อนจะเดินดุ่มไปตัดหน้าด้วยรัก วางหนังสือแทรกหล่อนที่หน้าเค้าน์เตอร์จ่ายเงิน ดนัยพยายามห้ามหล่อน แต่กลับไม่ทัน

“เท่าไรคะ” ดีว่าถามพนักงานแต่จิกสายตาไปที่ด้วยรัก

ใบหน้าสวยหวานและทีท่าเรียบร้อยนั้น มองคนแปลกหน้าอย่างสงบ ในใจหล่อนคิดอย่างไร ดีว่ากลับอ่านไม่ออก

ดนัยกำลังจะเข้าไปเกลี้ยกล่อมแฟนของเขา แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไร ตัวเขาเองกลับตกตะลึงในสิ่งที่เห็นแทน

ด้วยรัก หยิบหนังสือของตัวเองที่ถูกดีว่าวางทับออก ก่อนจะกระแทกวางบนหนังสือแม็กกาซีนที่มีรูปหน้าของสาวสวยที่ยิ้มอย่างยั่วยวนโดยแรง หล่อนจ้องดีว่าไม่วางตา ขณะทื่ยื่นธนบัตรที่มีราคาเกินกว่าหนังสือเรียนเปียโนของเด็กๆหลายเท่านัก

“ไม่ต้องทอนค่ะ” ประโยคสุดท้ายหล่อนหันไปยิ้มหวานให้พนักงานแคชเชียร์ที่ยิ้มตอบกลับหล่อนด้วยความพอใจเช่นกัน

ดีว่าตกตะลึงนิ่งงันมองสาวเรียบร้อยตรงหน้า และหลังจากที่ด้วยรักจุดไฟเกรี้ยวกราดของดีว่าให้ลุกโชน ขึ้นแล้วหล่อนก็ทิ้งระเบิดลูกใหญ่ลงซ้ำอีกครั้ง

“คุณดนัย ฉันไปก่อนนะคะ อ้อ งานเต้นรำเมื่อคืนสนุกมาก ขอบคุณนะคะ” แล้วหล่อนก็เดินท่าทีสง่าจากหนุ่มหล่อและสาวสวยคู่นี้ไป

ปล่อยให้ดนัยเผชิญชะตากรรมอยู่เพียงลำพัง



สมเด็จพระราชินีทรงดื่มพระสุธารสชายามบ่ายร่วมกับเจ้าหญิงอรรัมภาที่สวนหย่อมหลังวังอย่างสบายพระทัย วันนี้อากาศยามบ่ายค่อนข้างปลอดโปร่งจึงนับว่าเป็นเวลาอันดีที่ทั้งสองพระองค์จะได้สนทนากันถึงเรื่องราวของงานเลี้ยงเมื่อคืน

“อิศเรศร์นี่ไม่ไหวเลยเพคะสมเด็จแม่ ลูกสังเกตว่าน้องนั้นหว่านเสน่ห์ให้ทุกคน เจ้าชู้ชะมัด”

สมเด็จพระราชินีทรงนึกภาพงานเต้นรำและสาวสวยทั้งสี่เมื่อคืนอย่างพิจารณา

“หรือจะเป็นน้องสาวคนเล็ก” พระราชินีทรงตรัสขึ้นลอยๆ

เจ้าหญิงอรรัมภาทรงหยุดดื่มพระสุธารสชาทันที “คิดเหมือนลูกเลยเพคะ แต่ว่าออกจะสวยน้อยกว่าพี่สาวเสียหน่อย ไม่ใช่แนวที่อิเรศร์ชอบเท่าไร”

พระราชินีสรวลเบาๆ “สี่สาวพี่น้องนั่นมีดีต่างกันไปนะจ๊ะอรรัมภา แม่คนเล็กนั่นน่ะเรียบร้อยแต่กลับแข็งอยู่ในที”

เจ้าหญิงทรงพยักพักตร์เห็นด้วยกับพระมารดา “เสด็จแม่คิดว่าอิศเรศร์จะทราบไหมเพคะว่าพวกเรากำลังจะทำอะไร…..อ้าวนั่นไงพ่อตัวดี กลับจากประชุมสภาแล้ว” เจ้าหญิงยังตรัสไม่ทันเสร็จ พระวรกายสูงสง่าของพระอนุชาก็เสด็จตรงมายังที่ประทับของสองพระองค์ทันที

พระราชินีและเจ้าหญิงทรงหยุดตรัสถึงเรื่องสี่สาวโดยทันที เมื่อเจ้าชายเสด็จเข้ามาใกล้ก่อนจะประทับลงข้างพระเชษฐภคินี

“วุ่นวายมากพะย่ะค่ะ ลูกอยากเสนอแผนปฏิรูปการศึกษาใหม่ แต่พวกหัวเก่ากลับคัดค้านกันเพียบ”

เจ้าชายตรัสอย่างหัวเสีย

“แล้วเสนออะไรเข้าล่ะ ยกเลิกระบบสอบเข้าหรือไง” เจ้าหญิงทรงแขวะพระอนุชา

เจ้าชายอิศเรศร์เสวยคุกกี้หนึ่งคำ ก่อนจะตรัสตอบ “เปล่าพี่หญิง ชายเสนอให้ย้ายครูที่เก่งๆในเมืองหลวง กระจายไปต่างจังหวัด พวกครูจากโรงเรียนดังน่ะอัดแน่นใจกลางเมืองที่มีครบทุกอย่างจนเกินไป”

พระราชินีทรงได้ยินดังนั้นก็รู้สึกพอพระทัยเจ้าชายรัชทายาทเป็นอย่างมาก นับวันเจ้าชายทรงยิ่งขยันทำงานและใส่พระทัยต่อเรื่องปัญหาของบ้านเมืองมากขึ้น อย่างนี้สิถึงเหมาะสมกับตำแหน่งมกุฎราชกุมาร เสียเพียงย่างเดียว เรื่องผู้หญิงนั่นล่ะ

“เป็นเรื่องที่ดีนะอิศเรศร์ แต่ลูกต้องพิสูจน์ตัวเองให้เหล่าสมาชิกรัฐสถามั่นใจในศักยภาพของลูกมากกว่านี้ พวกเขาอาจจะยอมรับลูกมากขึ้นก็เป็นได้”

เจ้าชายหนุ่มทรงนิ่งฟังพระมารดาอย่างมีเหตุผล แต่แล้วกลับทรงรู้สึกเหนื่อยที่จะต้องตรัสเรื่องงานอีก
“เปลี่ยนเรื่องกันดีกว่าพะย่ะค่ะ เสด็จพ่อเสด็จไหนแต่เช้าเชียวพี่หญิง”

เจ้าหญิงตรัสตอบพลางพลิกนิตยสารอ่าน “เสด็จเป็นประธานการประชุมประจำปีของชมรมขี่ม้าน่ะ ผลคัดตัวนักกีฬาทีมชาติปีนี้ออกมาแล้ว” ตรัสเสร็จเจ้าหญิงก็ทอดพระเนตรพระอนุชาอย่างไม่วางสายพระเนตร

“เปี่ยมสุขก็ติดด้วยนะ ตัวเต็งอันดับหนึ่งเชียว ชายจำได้ใช่ไหม ลูกสาวคนที่สองของคุณหลวงสีหนาถน่ะ”

แน่ล่ะสิพระองค์จะจำหญิงสาวที่ถูกพระทัยเพียงแรกเห็นไม่ได้ได้อย่างไร เมื่อคืนพระองค์ได้ใกล้ชิดกับหล่อนมากขึ้นขณะเต้นรำ และได้ทรงทราบอีกด้วยว่า นอกจากจะรู้ทันและถือตัวแล้ว หล่อนยังแสดงทีท่าไม่ชอบพระองค์อย่างเห็นได้ชัด

“จำได้พะย่ะค่ะ ลูกสาวคุณหลวงนี่เหมือนคุณหลวงทุกคน หยิ่งยโส แต่คนโตกับคนที่สามออกจะอ่อนหวานกว่าหน่อย”

พระราชินีทรงสังเกตอากัปกิริยาพระโอรสขณะพูดถึงสี่สาว “ลูกโปรดด้วยรักเหรอจ๊ะพ่อชาย” ตรัสเสร็จอย่างอารมณ์ดีก็ทรงถูกสายพระเนตรพิฆาตของพระธิดาองค์โตทรงปรามไว้ ประมาณว่า เดี๋ยวพ่อชายก็ทรงทราบกันพอดีหรอกเพคะ

เมื่อได้ทรงฟังดังนั้นเจ้าชายก็สรวลเสียงดัง “เสด็จแม่ ชายรู้ทันหรอกพะย่ะค่ะ จะคลุมถุงชนชายล่ะสิ แต่นี่ศตวรรษที่ 21 แล้วนะพะย่ะค่ะ อีกอย่างหลวงสีหนาถคงไม่ยอมยกลูกสาวให้ง่ายๆ”

พระมารดาทรงวางแก้วพระสุธารสชาดังกริ๊งก่อนจะทรงวางมาดขึงขัง “แล้วชายจะหาเองอย่างนั้นหรือ หลวงสีหนาถคงไม่ขัดข้องหรอกหากลูกเลิกคบกับแม่นางแบบอะไรนั่น”

บรรยากาสการสนทนาเริ่มตึงเครียด เจ้าชายทรงเงียบกริบทันทีเมื่อพระมารดาทรงวกกลับเข้าเรื่องส่วนตัวของพระองค์

เจ้าฟ้าหญิงอรรัมภาทอดพะเนตรพระมารดาและพรอนุชาพลางนึกขัน แม่ลูกคู่นี้ทะเลาะกันอีกแล้ว

“แล้วคุณหลวงทราบเรื่องนี้หรือยังเพคะเสด็จแม่”

พระราชินีตรัสเรียบๆ พลางทอดพระเนตรพระโอรสอย่างไม่พอพระทัย “คิดว่ายังจ้ะลูกรัก แม่บอกเพียงว่าอยากขอบคุณเขาเท่านั้นเอง”

“ถ้าอย่างนั้น…ก็ยังเป็นเรื่องดีเพคะ เพราะลูกสาวคุณหลวงทั้งสี่คงไม่พอใจถ้าจะถูกคลุมถุงชน”

เจ้าชายอิศเรศร์ทรงทนฟังเรื่องถุกบังคับแบบนี้ต่อไปอีกไม่ไหว จริงอยู่ที่พระองค์โปรดสาวสวยเหล่านั้น แต่ทุกคนจะหวังให้พระองค์รักใครง่ายๆอย่างนั้นเลยหรือ ที่สำคัญ ตอนนี้ซาร่าก็ช่างน่ารักน่าเอ็นดูเสียจริง

“ชายก็ไม่ชอบพะย่ะค่ะ ผู้หญิงของชาย ชายย่อมเลือกเอง ชายขอตัว” ตรัสเสร็จก็ทรงลุกจากที่ประทับ

พระราชินีทรงกริ้วขึ้นมาทันที “พ่อชายอย่าลืมนะว่าตัวเองเป็นใคร อย่าบอกนะว่าลูกรักแม่นางแบบอะไรนั่น”

น่าแปลกที่เจ้าชายรู้สึกไม่ค่อยดีกับพระดำรัสนั่น พระองค์ทรงนิ่งไป ราวกับทรงคิดอะไรบางอย่าง

พระสุรเสียงแข็งกร้าวของพระราชินีเริ่มอ่อนลง แต่แฝงไว้ด้วยความท้าทาย “ถ้าลูกรักหล่อนจริงและพิสูจน์ได้ว่าหล่อนเหมาะที่จะเป็นราชินีในอนาคต แม่ก็จะยอมรับ”

เจ้าชายทอดพระเนตรพระมารดาและพระเชษฐภคินีด้วยความรู้สึกประหลาด ก่อนจะทรงผละออกจากบริเวณนั้นเสด็จกลับเข้าไปในวัง

รัก และ พิสูจน์ อย่างนั้นหรือ เสด็จแม่ทรงคิดอะไรกัน พระองค์ไม่เคยคิดอะไรกับซาร่ามากว่ามีความสุขกับหล่อนไปวันๆ

เจ้าชายทรงหายเข้าไปประทับในวังนานแล้ว เจ้าหญิงอรรัมภาแย้มพระสรวลอย่างมีเลศนัย

“ยิ้มอะไรกันลูกหญิง แม่ล่ะกลุ้มใจจะแย่”

“ทรงอย่ากลุ้มเลยเพคะ อิศเรศร์ไม่รักแม่นางแบบหรอก เพียงแต่ตอนนี้กำลังหลงเท่านั้นเอง แต่ลูกกำลังคิดว่าในเมื่อทั้งอิศเรศร์และลุกๆของคุณหลวงต่างไม่ชอบการคลุมถุงชน เราก็พียงแต่ทำให้สองฝ่ายนั้นรักกันเองอย่างเต็มใจสิเพคะ”

พระราชินีทรงเบิกพระเนตรโตอย่างสนพระทัย “ไม่ยากไปหรือ”

เจ้าฟ้าหญิงอรรัมภาแย้มพระโอษฐ์อย่างอารมณ์ดี “ ไม่หรอกเพคะ เพียงแต่เราต้องเร่งมือเท่านั้น”

ก่อนจะทรงหยุดคิดนิดหนึ่ง “ก่อนที่ผู้หญิงของอิศเรศร์จะคิดทำอะไรเสียก่อน”










ลายเส้น
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 พ.ค. 2554, 19:00:23 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 พ.ค. 2554, 22:13:31 น.

จำนวนการเข้าชม : 1384





<< เข้าวัง   สินบน >>
jink 12 พ.ค. 2554, 19:07:25 น.
เนื่อหามันขาดไปหรือเปล่าคะ รบกวนช่วยตรวจสอบหน่อยค่า


ลายเส้น 12 พ.ค. 2554, 19:09:27 น.
ใช่ค่ะ งงอย่างแรง โทดทีค่ะ


พิพินทุ์ 15 พ.ค. 2554, 14:35:16 น.
อืม อ่านสองตอนถัดมาแล้วต้องย้อนมาอ่านตอนนี้ ตกลงทรงพลหรือดนัยกันน่คะ ที่ควงดีว่าไปปะฉะดะกับด้วยรัก หรือเราอ่านไม่ดีเอง? แต่จากคาแรคเตอร์ น่าจะเป็นดนัย ใช่มั้ย


ลายเส้น 15 พ.ค. 2554, 22:06:40 น.
เอ่อ หรือเราพิมพ์ผิดคะ เราพิมผิดบ่อยเฮ้อ เป็นดนัยค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account