The Royal Wedding : รักนี้ที่วังหลวง
เมื่อเจ้าชายหนุ่มรูปงามแห่งศตวรรษที่ 21 ผู้ที่สตรีทั่วราชอาณาจักรต่่างเฝ้าฝันจะได้ควงคู่ กลับถูกสี่สาวพี่น้องตระกูลหนึ่งไม่เห็นว่าสำคัญ พระองค์จะทำอย่างไร เมื่อปัญหายิ่งหนักขึ้นด้วยสมเด็จพระราชินีมีพระดำรัสต้องการได้สะใภ้หลวงเป็น 1 ใน 4 สาวนั้น
เรื่องราวของซินเดอเรลล่ายุคใหม่เริ่มต้นขึ้น ไม่แปลกและไม่แตกต่าง แต่ก็เป็นสิ่งที่ใครๆอยากสัมผัสเสมอมา
เรื่องราวของซินเดอเรลล่ายุคใหม่เริ่มต้นขึ้น ไม่แปลกและไม่แตกต่าง แต่ก็เป็นสิ่งที่ใครๆอยากสัมผัสเสมอมา
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: วางแผน
The Royal Wedding 9
“ครับท่าน ผมจะรีบทำให้เร็วที่สุดครับ ตอนนี้เหรอครับ…เอ่อ…” ดนัยพูดสายกับผู้บังคับบัญชากรมทหารที่เขาสังกัดอยู่ พลางมองไปที่สาวสวยแต่งตัวสะดุดตาที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยความกระอักกระอ่วนใจ เจ้าหล่อนส่งตาเขียวมาให้เขา จนทำให้ชายหนุ่มต้องรีบอธิบายให้ปลายสายเข้าใจ
“ตอนนี้ผมทานข้าวกลางวันอยู่น่ะครับท่าน เอาไว้บ่ายนี้ผมรีบทำแน่นอนครับ คร้าบ สวัสดีครับท่าน” ชายหนุ่มวางสายลงพลางถอนหายใจโล่งอก
“ดีไม่เข้าใจ นี่เวลาพักนะคะ เจ้านายคุณมีสิทธิ์โทรมาสั่งนู่นนี่ได้ยังไง” สาวสวยที่ใบหน้างามบ่งบอกถึงความเป็นลูกครึ่ง ทำสีหน้าไม่สบอารมณ์ แต่ถึงแม้หล่อนจะอารมณ์เสียอย่างไร ก็ยังดูสะดุดตาและถูกใจดนัยอยู่นั่นเอง
“แหม ดี ก็จะไม่ให้เขามีสิทธิ์ได้อย่างไรล่ะจ๊ะ ก็คุณพ่อพี่เขาฝากพี่มาทำงานนี่นา ใช้เส้นใช้สายอย่างนี้ก็ต้องเอาใจเจ้านายกันหน่อย” หนุ่มหล่อพูดแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว เขาชินกับการใช้เส้นสายมาแต่ไหนแต่ไร และไม่เคยคิดว่ามันเป็นเรื่องแปลกหรือไร้ศักดิ์ศรีแม้แต่น้อย สมัยประถมเขาไม่สามารถสอบเข้าโรงเรียนประถมที่ดีที่สุดได้ คุณพ่อของเขาก็เพียงแต่เข้าไปพบผู้อำนวยการแล้วโยนซองสีน้ำตาลหนาๆให้เขาก็ได้เรียนทันที พอขึ้นมัธยมปลายเขาไม่ได้ไปสอบโรงเรียนเตรียมทหารสักที แต่คุณพ่อก็ใช้มุก ‘ซองน้ำตาลหนาๆ’ จนเขาได้เข้าเรียนแบบงงๆ นี่เขายังเคยแอบแซวพ่อตัวเองเลยว่า ทำไมไม่ใช้แส้นยัดให้เขาเข้าไปเรียนที่โรงเรียนนายร้อยแซนด์เฮิร์สบ้าง
“ไอ้นี่ ได้คืบจะเอาศอก แซนด์เฮิร์สไม่เหมาะกับคนเหยาะแหยะอย่างเอ็งหรอกเว้ย”
แล้วกับไอ้แค่เข้าทำงานรับราชการทหาร นายพลอัศวิน คุณพ่อของเขา ร่ำรวยและมีอำนาจในกรมทหารเสียอย่างนั้น เขาจะทำงานที่ไหน ตำแหน่งอะไรก็ย่อมได้
สาวสวยที่ชื่อ ดี หรือ ดีว่า ได้ฟังดังนั้นก็ยิ้มหัวเราะชอบใจ “นั่นสิคะ คุณพ่อของพี่ออกจะมีอำนาจใหญ่โต แต่แหม หัวหน้าพี่เขาก็ไม่น่าเบียดเบียนเวลาพักเที่ยงเลยนะคะ” พูดไม่พูดเปล่า หล่อนเข้ามากระแซะชายหนุ่ม พลางควงแขนอีกต่างหาก ก่อนจะกระซิบข้างหูดนัยเบาๆ
“แล้วเย็นนี้…ว่างไหมล่ะคะ ไปทานข้าวกับดีนะ”
ดนัยใจเต้นไม่เป็นส่ำ เขาหน้าแดงจัด พลางมองร่างบางที่แนบชิดอยู่ข้างๆ เขารู้จักกับดีว่าเพราะหล่อนเป็นเพื่อนนางแบบของซาร่า เริ่มคบกันไม่ถึงสามเดือน แต่ดนัยกลับติดใจหล่อนเป็นบ้า ก็หล่อนขี้อ้อนและช่างเอาใจเขาเสียอย่างนี้
เขากระซิบแผ่วเบาบนหน้าผากกลมมนของหล่อน “ว่างสิจ๊ะ เดี๋ยวพี่ไปรับที่คอนโดนะ”
เมื่อทานอาหารกลางวันพลางออดอ้อนกันเสร็จ สองคู่ชู้ชื่นก็เดินกอดเอวกันออกมาจากร้านอาหารหรูในห้างชั้นนำใจกลางเมือง ก่อนจะเดินผ่านร้านหนังสือแห่งหนึ่งที่ทำให้ดีว่าต้องหยุดชะงัก ก่อนจะทำตาโตพูดเสียงแหลมปรี๊ดด้วยความดีใจ
“ออกแล้ว!!! แม็กกาซีนที่ดีว่าไปถ่ายแบบลงปกให้น่ะค่ะ ออกแล้วค่ะพี่ดอน ไปค่ะ ไปดูกัน!” แล้วหล่อนก็จูงมือแข็งแรงเข้าไปที่แผงหนังสือ ดนัยรู้สึกตื่นเต้นไปด้วย และอดภูมิใจไม่ได้ที่เขามีแฟนเป็นถึงนางแบบสุดฮ็อต
ดีว่าใช้นิ้วเรียวยาวค่อยๆกรีดกรายเข้าไปหยิบนิตยสารชื่อดังปกมันวับ ก่อนจะหยิบขึ้นมาพลางชี้ไปที่รูปตัวเองกำลังโพสท่าสุดเก๋ไก๋
“ไงคะ ดี สวยใช่ไหมล่ะคะ พี่พลรู้ไหม บ.ก. เขาคัดเลือกนางแบบหลายคนมากเลยนะ แต่ดีว่ากลับชนะพวกนั้นได้หมดเลย” แล้วหล่อนก็เอียงคอมากระซิบเขา “ชนะแม้กระทั่งซาร่าเลยค่ะ”
ดนัยมองหล่อนด้วยความชื่นชมอย่างหมดหัวใจ หล่อนว่าอะไรก็เออออพยักหน้าเห็นดีเห็นชอบไปเสียหมด
“หืม ชุดนี้นี่แพงมากเลยนะคะ เห็นพี่ไก่สไตลิสบอกว่า ดี ใส่ขึ้นเหมือนนางแบบที่ลงปกโว้กเดือนที่แล้วเลยล่ะค่ะ ต๊าย! รูปนี่ดีก็ถ่ายขึ้นมากเลยล่ะค่ะ….”
“ขอโทษนะคะ…” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังแทรกขึ้นเสียงแหลมของดีว่า แต่อาจจะเบาไป เพราะเธอกลับไม่ได้รับความสนใจ
“ไหนๆ ดูซิคะ ว่ารูปที่ดีใส่สร้อยเพชรราคาเฉียดร้อยล้านนั่นอยู่ไหน…”
“เอ่อคุณคะ ขอฉันหยิบ…” แต่คราวนี้เธอคนนั้นยังพูดแทรกไม่จบ ดีว่ากลับหันมาถลึงตาใส่
“อะไรกันคะคุณ!” หล่อนถามเสียงสูงแหลม แล้วมองหน้าหญิงสาวผู้เรียบร้อยตรงหน้า
ดนัยมองตามทันทีและนั่นกลับทำเอาเขาประหลาดใจ
“อ้าว คุณด้วยรัก มาทำอะไรครับ” เขาทักทายหล่อนอย่างเป็นมิตร จนทำเอาดีว่าที่เริ่มจะหัวเสียมองเขาด้วยความโกรธ
ด้วยรักละสายตาจากดีว่า ก่อนจะเห็นว่าดนัยที่เต้นรำด้วยกันเมื่อคืนยิ่มร่าให้เธออยู่
หล่อนยิ้ม “อ้าวคุณดนัย สวัสดีค่ะ ฉันมาซื้อหนังสือเรียนเปียโนให้เด็กเข้าใหม่น่ะค่ะ แล้วก็…” ด้วยรักที่หมดความอดทนกับ ‘ยายขี้วีน’ จึงเอื้อมมือผ่านหน้าหล่อนไปหยิบตำราเรียนเปียโนออกมาแบบไม่ต้องกลัวเสียมารยาท ที่สำคัญด้วยรักไม่แม้แต่จะสบตาดีว่าด้วยซ้ำ พอหยิบเสร็จ ก็ล่ำลาดนัยแล้วเดินออกไป
แต่เรื่องกลับไม่จบแค่นั้น
“นี่หล่อน กลับมาขอโทษฉันเดี๋ยวนี้นะ” ดีว่าพูดจาออกคำสั่งเสียงแหลม ดนัยมองหล่อนด้วยความตกใจ
แต่ด้วยรักกลับหยุดชะงัก แล้วหันกลับมามองหล่อนทีหนึ่งด้วยสายตาว่างเปล่า ก่อนจะหันหลังเดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์
ดีว่าหัวเสียมากขึ้น หล่อนคว้านิตยสารที่ตัวเองถ่ายแบบลงปก ก่อนจะเดินดุ่มไปตัดหน้าด้วยรัก วางหนังสือแทรกหล่อนที่หน้าเค้าน์เตอร์จ่ายเงิน ดนัยพยายามห้ามหล่อน แต่กลับไม่ทัน
“เท่าไรคะ” ดีว่าถามพนักงานแต่จิกสายตาไปที่ด้วยรัก
ใบหน้าสวยหวานและทีท่าเรียบร้อยนั้น มองคนแปลกหน้าอย่างสงบ ในใจหล่อนคิดอย่างไร ดีว่ากลับอ่านไม่ออก
ดนัยกำลังจะเข้าไปเกลี้ยกล่อมแฟนของเขา แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไร ตัวเขาเองกลับตกตะลึงในสิ่งที่เห็นแทน
ด้วยรัก หยิบหนังสือของตัวเองที่ถูกดีว่าวางทับออก ก่อนจะกระแทกวางบนหนังสือแม็กกาซีนที่มีรูปหน้าของสาวสวยที่ยิ้มอย่างยั่วยวนโดยแรง หล่อนจ้องดีว่าไม่วางตา ขณะทื่ยื่นธนบัตรที่มีราคาเกินกว่าหนังสือเรียนเปียโนของเด็กๆหลายเท่านัก
“ไม่ต้องทอนค่ะ” ประโยคสุดท้ายหล่อนหันไปยิ้มหวานให้พนักงานแคชเชียร์ที่ยิ้มตอบกลับหล่อนด้วยความพอใจเช่นกัน
ดีว่าตกตะลึงนิ่งงันมองสาวเรียบร้อยตรงหน้า และหลังจากที่ด้วยรักจุดไฟเกรี้ยวกราดของดีว่าให้ลุกโชน ขึ้นแล้วหล่อนก็ทิ้งระเบิดลูกใหญ่ลงซ้ำอีกครั้ง
“คุณดนัย ฉันไปก่อนนะคะ อ้อ งานเต้นรำเมื่อคืนสนุกมาก ขอบคุณนะคะ” แล้วหล่อนก็เดินท่าทีสง่าจากหนุ่มหล่อและสาวสวยคู่นี้ไป
ปล่อยให้ดนัยเผชิญชะตากรรมอยู่เพียงลำพัง
สมเด็จพระราชินีทรงดื่มพระสุธารสชายามบ่ายร่วมกับเจ้าหญิงอรรัมภาที่สวนหย่อมหลังวังอย่างสบายพระทัย วันนี้อากาศยามบ่ายค่อนข้างปลอดโปร่งจึงนับว่าเป็นเวลาอันดีที่ทั้งสองพระองค์จะได้สนทนากันถึงเรื่องราวของงานเลี้ยงเมื่อคืน
“อิศเรศร์นี่ไม่ไหวเลยเพคะสมเด็จแม่ ลูกสังเกตว่าน้องนั้นหว่านเสน่ห์ให้ทุกคน เจ้าชู้ชะมัด”
สมเด็จพระราชินีทรงนึกภาพงานเต้นรำและสาวสวยทั้งสี่เมื่อคืนอย่างพิจารณา
“หรือจะเป็นน้องสาวคนเล็ก” พระราชินีทรงตรัสขึ้นลอยๆ
เจ้าหญิงอรรัมภาทรงหยุดดื่มพระสุธารสชาทันที “คิดเหมือนลูกเลยเพคะ แต่ว่าออกจะสวยน้อยกว่าพี่สาวเสียหน่อย ไม่ใช่แนวที่อิเรศร์ชอบเท่าไร”
พระราชินีสรวลเบาๆ “สี่สาวพี่น้องนั่นมีดีต่างกันไปนะจ๊ะอรรัมภา แม่คนเล็กนั่นน่ะเรียบร้อยแต่กลับแข็งอยู่ในที”
เจ้าหญิงทรงพยักพักตร์เห็นด้วยกับพระมารดา “เสด็จแม่คิดว่าอิศเรศร์จะทราบไหมเพคะว่าพวกเรากำลังจะทำอะไร…..อ้าวนั่นไงพ่อตัวดี กลับจากประชุมสภาแล้ว” เจ้าหญิงยังตรัสไม่ทันเสร็จ พระวรกายสูงสง่าของพระอนุชาก็เสด็จตรงมายังที่ประทับของสองพระองค์ทันที
พระราชินีและเจ้าหญิงทรงหยุดตรัสถึงเรื่องสี่สาวโดยทันที เมื่อเจ้าชายเสด็จเข้ามาใกล้ก่อนจะประทับลงข้างพระเชษฐภคินี
“วุ่นวายมากพะย่ะค่ะ ลูกอยากเสนอแผนปฏิรูปการศึกษาใหม่ แต่พวกหัวเก่ากลับคัดค้านกันเพียบ”
เจ้าชายตรัสอย่างหัวเสีย
“แล้วเสนออะไรเข้าล่ะ ยกเลิกระบบสอบเข้าหรือไง” เจ้าหญิงทรงแขวะพระอนุชา
เจ้าชายอิศเรศร์เสวยคุกกี้หนึ่งคำ ก่อนจะตรัสตอบ “เปล่าพี่หญิง ชายเสนอให้ย้ายครูที่เก่งๆในเมืองหลวง กระจายไปต่างจังหวัด พวกครูจากโรงเรียนดังน่ะอัดแน่นใจกลางเมืองที่มีครบทุกอย่างจนเกินไป”
พระราชินีทรงได้ยินดังนั้นก็รู้สึกพอพระทัยเจ้าชายรัชทายาทเป็นอย่างมาก นับวันเจ้าชายทรงยิ่งขยันทำงานและใส่พระทัยต่อเรื่องปัญหาของบ้านเมืองมากขึ้น อย่างนี้สิถึงเหมาะสมกับตำแหน่งมกุฎราชกุมาร เสียเพียงย่างเดียว เรื่องผู้หญิงนั่นล่ะ
“เป็นเรื่องที่ดีนะอิศเรศร์ แต่ลูกต้องพิสูจน์ตัวเองให้เหล่าสมาชิกรัฐสถามั่นใจในศักยภาพของลูกมากกว่านี้ พวกเขาอาจจะยอมรับลูกมากขึ้นก็เป็นได้”
เจ้าชายหนุ่มทรงนิ่งฟังพระมารดาอย่างมีเหตุผล แต่แล้วกลับทรงรู้สึกเหนื่อยที่จะต้องตรัสเรื่องงานอีก
“เปลี่ยนเรื่องกันดีกว่าพะย่ะค่ะ เสด็จพ่อเสด็จไหนแต่เช้าเชียวพี่หญิง”
เจ้าหญิงตรัสตอบพลางพลิกนิตยสารอ่าน “เสด็จเป็นประธานการประชุมประจำปีของชมรมขี่ม้าน่ะ ผลคัดตัวนักกีฬาทีมชาติปีนี้ออกมาแล้ว” ตรัสเสร็จเจ้าหญิงก็ทอดพระเนตรพระอนุชาอย่างไม่วางสายพระเนตร
“เปี่ยมสุขก็ติดด้วยนะ ตัวเต็งอันดับหนึ่งเชียว ชายจำได้ใช่ไหม ลูกสาวคนที่สองของคุณหลวงสีหนาถน่ะ”
แน่ล่ะสิพระองค์จะจำหญิงสาวที่ถูกพระทัยเพียงแรกเห็นไม่ได้ได้อย่างไร เมื่อคืนพระองค์ได้ใกล้ชิดกับหล่อนมากขึ้นขณะเต้นรำ และได้ทรงทราบอีกด้วยว่า นอกจากจะรู้ทันและถือตัวแล้ว หล่อนยังแสดงทีท่าไม่ชอบพระองค์อย่างเห็นได้ชัด
“จำได้พะย่ะค่ะ ลูกสาวคุณหลวงนี่เหมือนคุณหลวงทุกคน หยิ่งยโส แต่คนโตกับคนที่สามออกจะอ่อนหวานกว่าหน่อย”
พระราชินีทรงสังเกตอากัปกิริยาพระโอรสขณะพูดถึงสี่สาว “ลูกโปรดด้วยรักเหรอจ๊ะพ่อชาย” ตรัสเสร็จอย่างอารมณ์ดีก็ทรงถูกสายพระเนตรพิฆาตของพระธิดาองค์โตทรงปรามไว้ ประมาณว่า เดี๋ยวพ่อชายก็ทรงทราบกันพอดีหรอกเพคะ
เมื่อได้ทรงฟังดังนั้นเจ้าชายก็สรวลเสียงดัง “เสด็จแม่ ชายรู้ทันหรอกพะย่ะค่ะ จะคลุมถุงชนชายล่ะสิ แต่นี่ศตวรรษที่ 21 แล้วนะพะย่ะค่ะ อีกอย่างหลวงสีหนาถคงไม่ยอมยกลูกสาวให้ง่ายๆ”
พระมารดาทรงวางแก้วพระสุธารสชาดังกริ๊งก่อนจะทรงวางมาดขึงขัง “แล้วชายจะหาเองอย่างนั้นหรือ หลวงสีหนาถคงไม่ขัดข้องหรอกหากลูกเลิกคบกับแม่นางแบบอะไรนั่น”
บรรยากาสการสนทนาเริ่มตึงเครียด เจ้าชายทรงเงียบกริบทันทีเมื่อพระมารดาทรงวกกลับเข้าเรื่องส่วนตัวของพระองค์
เจ้าฟ้าหญิงอรรัมภาทอดพะเนตรพระมารดาและพรอนุชาพลางนึกขัน แม่ลูกคู่นี้ทะเลาะกันอีกแล้ว
“แล้วคุณหลวงทราบเรื่องนี้หรือยังเพคะเสด็จแม่”
พระราชินีตรัสเรียบๆ พลางทอดพระเนตรพระโอรสอย่างไม่พอพระทัย “คิดว่ายังจ้ะลูกรัก แม่บอกเพียงว่าอยากขอบคุณเขาเท่านั้นเอง”
“ถ้าอย่างนั้น…ก็ยังเป็นเรื่องดีเพคะ เพราะลูกสาวคุณหลวงทั้งสี่คงไม่พอใจถ้าจะถูกคลุมถุงชน”
เจ้าชายอิศเรศร์ทรงทนฟังเรื่องถุกบังคับแบบนี้ต่อไปอีกไม่ไหว จริงอยู่ที่พระองค์โปรดสาวสวยเหล่านั้น แต่ทุกคนจะหวังให้พระองค์รักใครง่ายๆอย่างนั้นเลยหรือ ที่สำคัญ ตอนนี้ซาร่าก็ช่างน่ารักน่าเอ็นดูเสียจริง
“ชายก็ไม่ชอบพะย่ะค่ะ ผู้หญิงของชาย ชายย่อมเลือกเอง ชายขอตัว” ตรัสเสร็จก็ทรงลุกจากที่ประทับ
พระราชินีทรงกริ้วขึ้นมาทันที “พ่อชายอย่าลืมนะว่าตัวเองเป็นใคร อย่าบอกนะว่าลูกรักแม่นางแบบอะไรนั่น”
น่าแปลกที่เจ้าชายรู้สึกไม่ค่อยดีกับพระดำรัสนั่น พระองค์ทรงนิ่งไป ราวกับทรงคิดอะไรบางอย่าง
พระสุรเสียงแข็งกร้าวของพระราชินีเริ่มอ่อนลง แต่แฝงไว้ด้วยความท้าทาย “ถ้าลูกรักหล่อนจริงและพิสูจน์ได้ว่าหล่อนเหมาะที่จะเป็นราชินีในอนาคต แม่ก็จะยอมรับ”
เจ้าชายทอดพระเนตรพระมารดาและพระเชษฐภคินีด้วยความรู้สึกประหลาด ก่อนจะทรงผละออกจากบริเวณนั้นเสด็จกลับเข้าไปในวัง
รัก และ พิสูจน์ อย่างนั้นหรือ เสด็จแม่ทรงคิดอะไรกัน พระองค์ไม่เคยคิดอะไรกับซาร่ามากว่ามีความสุขกับหล่อนไปวันๆ
เจ้าชายทรงหายเข้าไปประทับในวังนานแล้ว เจ้าหญิงอรรัมภาแย้มพระสรวลอย่างมีเลศนัย
“ยิ้มอะไรกันลูกหญิง แม่ล่ะกลุ้มใจจะแย่”
“ทรงอย่ากลุ้มเลยเพคะ อิศเรศร์ไม่รักแม่นางแบบหรอก เพียงแต่ตอนนี้กำลังหลงเท่านั้นเอง แต่ลูกกำลังคิดว่าในเมื่อทั้งอิศเรศร์และลุกๆของคุณหลวงต่างไม่ชอบการคลุมถุงชน เราก็พียงแต่ทำให้สองฝ่ายนั้นรักกันเองอย่างเต็มใจสิเพคะ”
พระราชินีทรงเบิกพระเนตรโตอย่างสนพระทัย “ไม่ยากไปหรือ”
เจ้าฟ้าหญิงอรรัมภาแย้มพระโอษฐ์อย่างอารมณ์ดี “ ไม่หรอกเพคะ เพียงแต่เราต้องเร่งมือเท่านั้น”
ก่อนจะทรงหยุดคิดนิดหนึ่ง “ก่อนที่ผู้หญิงของอิศเรศร์จะคิดทำอะไรเสียก่อน”
“ครับท่าน ผมจะรีบทำให้เร็วที่สุดครับ ตอนนี้เหรอครับ…เอ่อ…” ดนัยพูดสายกับผู้บังคับบัญชากรมทหารที่เขาสังกัดอยู่ พลางมองไปที่สาวสวยแต่งตัวสะดุดตาที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยความกระอักกระอ่วนใจ เจ้าหล่อนส่งตาเขียวมาให้เขา จนทำให้ชายหนุ่มต้องรีบอธิบายให้ปลายสายเข้าใจ
“ตอนนี้ผมทานข้าวกลางวันอยู่น่ะครับท่าน เอาไว้บ่ายนี้ผมรีบทำแน่นอนครับ คร้าบ สวัสดีครับท่าน” ชายหนุ่มวางสายลงพลางถอนหายใจโล่งอก
“ดีไม่เข้าใจ นี่เวลาพักนะคะ เจ้านายคุณมีสิทธิ์โทรมาสั่งนู่นนี่ได้ยังไง” สาวสวยที่ใบหน้างามบ่งบอกถึงความเป็นลูกครึ่ง ทำสีหน้าไม่สบอารมณ์ แต่ถึงแม้หล่อนจะอารมณ์เสียอย่างไร ก็ยังดูสะดุดตาและถูกใจดนัยอยู่นั่นเอง
“แหม ดี ก็จะไม่ให้เขามีสิทธิ์ได้อย่างไรล่ะจ๊ะ ก็คุณพ่อพี่เขาฝากพี่มาทำงานนี่นา ใช้เส้นใช้สายอย่างนี้ก็ต้องเอาใจเจ้านายกันหน่อย” หนุ่มหล่อพูดแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว เขาชินกับการใช้เส้นสายมาแต่ไหนแต่ไร และไม่เคยคิดว่ามันเป็นเรื่องแปลกหรือไร้ศักดิ์ศรีแม้แต่น้อย สมัยประถมเขาไม่สามารถสอบเข้าโรงเรียนประถมที่ดีที่สุดได้ คุณพ่อของเขาก็เพียงแต่เข้าไปพบผู้อำนวยการแล้วโยนซองสีน้ำตาลหนาๆให้เขาก็ได้เรียนทันที พอขึ้นมัธยมปลายเขาไม่ได้ไปสอบโรงเรียนเตรียมทหารสักที แต่คุณพ่อก็ใช้มุก ‘ซองน้ำตาลหนาๆ’ จนเขาได้เข้าเรียนแบบงงๆ นี่เขายังเคยแอบแซวพ่อตัวเองเลยว่า ทำไมไม่ใช้แส้นยัดให้เขาเข้าไปเรียนที่โรงเรียนนายร้อยแซนด์เฮิร์สบ้าง
“ไอ้นี่ ได้คืบจะเอาศอก แซนด์เฮิร์สไม่เหมาะกับคนเหยาะแหยะอย่างเอ็งหรอกเว้ย”
แล้วกับไอ้แค่เข้าทำงานรับราชการทหาร นายพลอัศวิน คุณพ่อของเขา ร่ำรวยและมีอำนาจในกรมทหารเสียอย่างนั้น เขาจะทำงานที่ไหน ตำแหน่งอะไรก็ย่อมได้
สาวสวยที่ชื่อ ดี หรือ ดีว่า ได้ฟังดังนั้นก็ยิ้มหัวเราะชอบใจ “นั่นสิคะ คุณพ่อของพี่ออกจะมีอำนาจใหญ่โต แต่แหม หัวหน้าพี่เขาก็ไม่น่าเบียดเบียนเวลาพักเที่ยงเลยนะคะ” พูดไม่พูดเปล่า หล่อนเข้ามากระแซะชายหนุ่ม พลางควงแขนอีกต่างหาก ก่อนจะกระซิบข้างหูดนัยเบาๆ
“แล้วเย็นนี้…ว่างไหมล่ะคะ ไปทานข้าวกับดีนะ”
ดนัยใจเต้นไม่เป็นส่ำ เขาหน้าแดงจัด พลางมองร่างบางที่แนบชิดอยู่ข้างๆ เขารู้จักกับดีว่าเพราะหล่อนเป็นเพื่อนนางแบบของซาร่า เริ่มคบกันไม่ถึงสามเดือน แต่ดนัยกลับติดใจหล่อนเป็นบ้า ก็หล่อนขี้อ้อนและช่างเอาใจเขาเสียอย่างนี้
เขากระซิบแผ่วเบาบนหน้าผากกลมมนของหล่อน “ว่างสิจ๊ะ เดี๋ยวพี่ไปรับที่คอนโดนะ”
เมื่อทานอาหารกลางวันพลางออดอ้อนกันเสร็จ สองคู่ชู้ชื่นก็เดินกอดเอวกันออกมาจากร้านอาหารหรูในห้างชั้นนำใจกลางเมือง ก่อนจะเดินผ่านร้านหนังสือแห่งหนึ่งที่ทำให้ดีว่าต้องหยุดชะงัก ก่อนจะทำตาโตพูดเสียงแหลมปรี๊ดด้วยความดีใจ
“ออกแล้ว!!! แม็กกาซีนที่ดีว่าไปถ่ายแบบลงปกให้น่ะค่ะ ออกแล้วค่ะพี่ดอน ไปค่ะ ไปดูกัน!” แล้วหล่อนก็จูงมือแข็งแรงเข้าไปที่แผงหนังสือ ดนัยรู้สึกตื่นเต้นไปด้วย และอดภูมิใจไม่ได้ที่เขามีแฟนเป็นถึงนางแบบสุดฮ็อต
ดีว่าใช้นิ้วเรียวยาวค่อยๆกรีดกรายเข้าไปหยิบนิตยสารชื่อดังปกมันวับ ก่อนจะหยิบขึ้นมาพลางชี้ไปที่รูปตัวเองกำลังโพสท่าสุดเก๋ไก๋
“ไงคะ ดี สวยใช่ไหมล่ะคะ พี่พลรู้ไหม บ.ก. เขาคัดเลือกนางแบบหลายคนมากเลยนะ แต่ดีว่ากลับชนะพวกนั้นได้หมดเลย” แล้วหล่อนก็เอียงคอมากระซิบเขา “ชนะแม้กระทั่งซาร่าเลยค่ะ”
ดนัยมองหล่อนด้วยความชื่นชมอย่างหมดหัวใจ หล่อนว่าอะไรก็เออออพยักหน้าเห็นดีเห็นชอบไปเสียหมด
“หืม ชุดนี้นี่แพงมากเลยนะคะ เห็นพี่ไก่สไตลิสบอกว่า ดี ใส่ขึ้นเหมือนนางแบบที่ลงปกโว้กเดือนที่แล้วเลยล่ะค่ะ ต๊าย! รูปนี่ดีก็ถ่ายขึ้นมากเลยล่ะค่ะ….”
“ขอโทษนะคะ…” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังแทรกขึ้นเสียงแหลมของดีว่า แต่อาจจะเบาไป เพราะเธอกลับไม่ได้รับความสนใจ
“ไหนๆ ดูซิคะ ว่ารูปที่ดีใส่สร้อยเพชรราคาเฉียดร้อยล้านนั่นอยู่ไหน…”
“เอ่อคุณคะ ขอฉันหยิบ…” แต่คราวนี้เธอคนนั้นยังพูดแทรกไม่จบ ดีว่ากลับหันมาถลึงตาใส่
“อะไรกันคะคุณ!” หล่อนถามเสียงสูงแหลม แล้วมองหน้าหญิงสาวผู้เรียบร้อยตรงหน้า
ดนัยมองตามทันทีและนั่นกลับทำเอาเขาประหลาดใจ
“อ้าว คุณด้วยรัก มาทำอะไรครับ” เขาทักทายหล่อนอย่างเป็นมิตร จนทำเอาดีว่าที่เริ่มจะหัวเสียมองเขาด้วยความโกรธ
ด้วยรักละสายตาจากดีว่า ก่อนจะเห็นว่าดนัยที่เต้นรำด้วยกันเมื่อคืนยิ่มร่าให้เธออยู่
หล่อนยิ้ม “อ้าวคุณดนัย สวัสดีค่ะ ฉันมาซื้อหนังสือเรียนเปียโนให้เด็กเข้าใหม่น่ะค่ะ แล้วก็…” ด้วยรักที่หมดความอดทนกับ ‘ยายขี้วีน’ จึงเอื้อมมือผ่านหน้าหล่อนไปหยิบตำราเรียนเปียโนออกมาแบบไม่ต้องกลัวเสียมารยาท ที่สำคัญด้วยรักไม่แม้แต่จะสบตาดีว่าด้วยซ้ำ พอหยิบเสร็จ ก็ล่ำลาดนัยแล้วเดินออกไป
แต่เรื่องกลับไม่จบแค่นั้น
“นี่หล่อน กลับมาขอโทษฉันเดี๋ยวนี้นะ” ดีว่าพูดจาออกคำสั่งเสียงแหลม ดนัยมองหล่อนด้วยความตกใจ
แต่ด้วยรักกลับหยุดชะงัก แล้วหันกลับมามองหล่อนทีหนึ่งด้วยสายตาว่างเปล่า ก่อนจะหันหลังเดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์
ดีว่าหัวเสียมากขึ้น หล่อนคว้านิตยสารที่ตัวเองถ่ายแบบลงปก ก่อนจะเดินดุ่มไปตัดหน้าด้วยรัก วางหนังสือแทรกหล่อนที่หน้าเค้าน์เตอร์จ่ายเงิน ดนัยพยายามห้ามหล่อน แต่กลับไม่ทัน
“เท่าไรคะ” ดีว่าถามพนักงานแต่จิกสายตาไปที่ด้วยรัก
ใบหน้าสวยหวานและทีท่าเรียบร้อยนั้น มองคนแปลกหน้าอย่างสงบ ในใจหล่อนคิดอย่างไร ดีว่ากลับอ่านไม่ออก
ดนัยกำลังจะเข้าไปเกลี้ยกล่อมแฟนของเขา แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไร ตัวเขาเองกลับตกตะลึงในสิ่งที่เห็นแทน
ด้วยรัก หยิบหนังสือของตัวเองที่ถูกดีว่าวางทับออก ก่อนจะกระแทกวางบนหนังสือแม็กกาซีนที่มีรูปหน้าของสาวสวยที่ยิ้มอย่างยั่วยวนโดยแรง หล่อนจ้องดีว่าไม่วางตา ขณะทื่ยื่นธนบัตรที่มีราคาเกินกว่าหนังสือเรียนเปียโนของเด็กๆหลายเท่านัก
“ไม่ต้องทอนค่ะ” ประโยคสุดท้ายหล่อนหันไปยิ้มหวานให้พนักงานแคชเชียร์ที่ยิ้มตอบกลับหล่อนด้วยความพอใจเช่นกัน
ดีว่าตกตะลึงนิ่งงันมองสาวเรียบร้อยตรงหน้า และหลังจากที่ด้วยรักจุดไฟเกรี้ยวกราดของดีว่าให้ลุกโชน ขึ้นแล้วหล่อนก็ทิ้งระเบิดลูกใหญ่ลงซ้ำอีกครั้ง
“คุณดนัย ฉันไปก่อนนะคะ อ้อ งานเต้นรำเมื่อคืนสนุกมาก ขอบคุณนะคะ” แล้วหล่อนก็เดินท่าทีสง่าจากหนุ่มหล่อและสาวสวยคู่นี้ไป
ปล่อยให้ดนัยเผชิญชะตากรรมอยู่เพียงลำพัง
สมเด็จพระราชินีทรงดื่มพระสุธารสชายามบ่ายร่วมกับเจ้าหญิงอรรัมภาที่สวนหย่อมหลังวังอย่างสบายพระทัย วันนี้อากาศยามบ่ายค่อนข้างปลอดโปร่งจึงนับว่าเป็นเวลาอันดีที่ทั้งสองพระองค์จะได้สนทนากันถึงเรื่องราวของงานเลี้ยงเมื่อคืน
“อิศเรศร์นี่ไม่ไหวเลยเพคะสมเด็จแม่ ลูกสังเกตว่าน้องนั้นหว่านเสน่ห์ให้ทุกคน เจ้าชู้ชะมัด”
สมเด็จพระราชินีทรงนึกภาพงานเต้นรำและสาวสวยทั้งสี่เมื่อคืนอย่างพิจารณา
“หรือจะเป็นน้องสาวคนเล็ก” พระราชินีทรงตรัสขึ้นลอยๆ
เจ้าหญิงอรรัมภาทรงหยุดดื่มพระสุธารสชาทันที “คิดเหมือนลูกเลยเพคะ แต่ว่าออกจะสวยน้อยกว่าพี่สาวเสียหน่อย ไม่ใช่แนวที่อิเรศร์ชอบเท่าไร”
พระราชินีสรวลเบาๆ “สี่สาวพี่น้องนั่นมีดีต่างกันไปนะจ๊ะอรรัมภา แม่คนเล็กนั่นน่ะเรียบร้อยแต่กลับแข็งอยู่ในที”
เจ้าหญิงทรงพยักพักตร์เห็นด้วยกับพระมารดา “เสด็จแม่คิดว่าอิศเรศร์จะทราบไหมเพคะว่าพวกเรากำลังจะทำอะไร…..อ้าวนั่นไงพ่อตัวดี กลับจากประชุมสภาแล้ว” เจ้าหญิงยังตรัสไม่ทันเสร็จ พระวรกายสูงสง่าของพระอนุชาก็เสด็จตรงมายังที่ประทับของสองพระองค์ทันที
พระราชินีและเจ้าหญิงทรงหยุดตรัสถึงเรื่องสี่สาวโดยทันที เมื่อเจ้าชายเสด็จเข้ามาใกล้ก่อนจะประทับลงข้างพระเชษฐภคินี
“วุ่นวายมากพะย่ะค่ะ ลูกอยากเสนอแผนปฏิรูปการศึกษาใหม่ แต่พวกหัวเก่ากลับคัดค้านกันเพียบ”
เจ้าชายตรัสอย่างหัวเสีย
“แล้วเสนออะไรเข้าล่ะ ยกเลิกระบบสอบเข้าหรือไง” เจ้าหญิงทรงแขวะพระอนุชา
เจ้าชายอิศเรศร์เสวยคุกกี้หนึ่งคำ ก่อนจะตรัสตอบ “เปล่าพี่หญิง ชายเสนอให้ย้ายครูที่เก่งๆในเมืองหลวง กระจายไปต่างจังหวัด พวกครูจากโรงเรียนดังน่ะอัดแน่นใจกลางเมืองที่มีครบทุกอย่างจนเกินไป”
พระราชินีทรงได้ยินดังนั้นก็รู้สึกพอพระทัยเจ้าชายรัชทายาทเป็นอย่างมาก นับวันเจ้าชายทรงยิ่งขยันทำงานและใส่พระทัยต่อเรื่องปัญหาของบ้านเมืองมากขึ้น อย่างนี้สิถึงเหมาะสมกับตำแหน่งมกุฎราชกุมาร เสียเพียงย่างเดียว เรื่องผู้หญิงนั่นล่ะ
“เป็นเรื่องที่ดีนะอิศเรศร์ แต่ลูกต้องพิสูจน์ตัวเองให้เหล่าสมาชิกรัฐสถามั่นใจในศักยภาพของลูกมากกว่านี้ พวกเขาอาจจะยอมรับลูกมากขึ้นก็เป็นได้”
เจ้าชายหนุ่มทรงนิ่งฟังพระมารดาอย่างมีเหตุผล แต่แล้วกลับทรงรู้สึกเหนื่อยที่จะต้องตรัสเรื่องงานอีก
“เปลี่ยนเรื่องกันดีกว่าพะย่ะค่ะ เสด็จพ่อเสด็จไหนแต่เช้าเชียวพี่หญิง”
เจ้าหญิงตรัสตอบพลางพลิกนิตยสารอ่าน “เสด็จเป็นประธานการประชุมประจำปีของชมรมขี่ม้าน่ะ ผลคัดตัวนักกีฬาทีมชาติปีนี้ออกมาแล้ว” ตรัสเสร็จเจ้าหญิงก็ทอดพระเนตรพระอนุชาอย่างไม่วางสายพระเนตร
“เปี่ยมสุขก็ติดด้วยนะ ตัวเต็งอันดับหนึ่งเชียว ชายจำได้ใช่ไหม ลูกสาวคนที่สองของคุณหลวงสีหนาถน่ะ”
แน่ล่ะสิพระองค์จะจำหญิงสาวที่ถูกพระทัยเพียงแรกเห็นไม่ได้ได้อย่างไร เมื่อคืนพระองค์ได้ใกล้ชิดกับหล่อนมากขึ้นขณะเต้นรำ และได้ทรงทราบอีกด้วยว่า นอกจากจะรู้ทันและถือตัวแล้ว หล่อนยังแสดงทีท่าไม่ชอบพระองค์อย่างเห็นได้ชัด
“จำได้พะย่ะค่ะ ลูกสาวคุณหลวงนี่เหมือนคุณหลวงทุกคน หยิ่งยโส แต่คนโตกับคนที่สามออกจะอ่อนหวานกว่าหน่อย”
พระราชินีทรงสังเกตอากัปกิริยาพระโอรสขณะพูดถึงสี่สาว “ลูกโปรดด้วยรักเหรอจ๊ะพ่อชาย” ตรัสเสร็จอย่างอารมณ์ดีก็ทรงถูกสายพระเนตรพิฆาตของพระธิดาองค์โตทรงปรามไว้ ประมาณว่า เดี๋ยวพ่อชายก็ทรงทราบกันพอดีหรอกเพคะ
เมื่อได้ทรงฟังดังนั้นเจ้าชายก็สรวลเสียงดัง “เสด็จแม่ ชายรู้ทันหรอกพะย่ะค่ะ จะคลุมถุงชนชายล่ะสิ แต่นี่ศตวรรษที่ 21 แล้วนะพะย่ะค่ะ อีกอย่างหลวงสีหนาถคงไม่ยอมยกลูกสาวให้ง่ายๆ”
พระมารดาทรงวางแก้วพระสุธารสชาดังกริ๊งก่อนจะทรงวางมาดขึงขัง “แล้วชายจะหาเองอย่างนั้นหรือ หลวงสีหนาถคงไม่ขัดข้องหรอกหากลูกเลิกคบกับแม่นางแบบอะไรนั่น”
บรรยากาสการสนทนาเริ่มตึงเครียด เจ้าชายทรงเงียบกริบทันทีเมื่อพระมารดาทรงวกกลับเข้าเรื่องส่วนตัวของพระองค์
เจ้าฟ้าหญิงอรรัมภาทอดพะเนตรพระมารดาและพรอนุชาพลางนึกขัน แม่ลูกคู่นี้ทะเลาะกันอีกแล้ว
“แล้วคุณหลวงทราบเรื่องนี้หรือยังเพคะเสด็จแม่”
พระราชินีตรัสเรียบๆ พลางทอดพระเนตรพระโอรสอย่างไม่พอพระทัย “คิดว่ายังจ้ะลูกรัก แม่บอกเพียงว่าอยากขอบคุณเขาเท่านั้นเอง”
“ถ้าอย่างนั้น…ก็ยังเป็นเรื่องดีเพคะ เพราะลูกสาวคุณหลวงทั้งสี่คงไม่พอใจถ้าจะถูกคลุมถุงชน”
เจ้าชายอิศเรศร์ทรงทนฟังเรื่องถุกบังคับแบบนี้ต่อไปอีกไม่ไหว จริงอยู่ที่พระองค์โปรดสาวสวยเหล่านั้น แต่ทุกคนจะหวังให้พระองค์รักใครง่ายๆอย่างนั้นเลยหรือ ที่สำคัญ ตอนนี้ซาร่าก็ช่างน่ารักน่าเอ็นดูเสียจริง
“ชายก็ไม่ชอบพะย่ะค่ะ ผู้หญิงของชาย ชายย่อมเลือกเอง ชายขอตัว” ตรัสเสร็จก็ทรงลุกจากที่ประทับ
พระราชินีทรงกริ้วขึ้นมาทันที “พ่อชายอย่าลืมนะว่าตัวเองเป็นใคร อย่าบอกนะว่าลูกรักแม่นางแบบอะไรนั่น”
น่าแปลกที่เจ้าชายรู้สึกไม่ค่อยดีกับพระดำรัสนั่น พระองค์ทรงนิ่งไป ราวกับทรงคิดอะไรบางอย่าง
พระสุรเสียงแข็งกร้าวของพระราชินีเริ่มอ่อนลง แต่แฝงไว้ด้วยความท้าทาย “ถ้าลูกรักหล่อนจริงและพิสูจน์ได้ว่าหล่อนเหมาะที่จะเป็นราชินีในอนาคต แม่ก็จะยอมรับ”
เจ้าชายทอดพระเนตรพระมารดาและพระเชษฐภคินีด้วยความรู้สึกประหลาด ก่อนจะทรงผละออกจากบริเวณนั้นเสด็จกลับเข้าไปในวัง
รัก และ พิสูจน์ อย่างนั้นหรือ เสด็จแม่ทรงคิดอะไรกัน พระองค์ไม่เคยคิดอะไรกับซาร่ามากว่ามีความสุขกับหล่อนไปวันๆ
เจ้าชายทรงหายเข้าไปประทับในวังนานแล้ว เจ้าหญิงอรรัมภาแย้มพระสรวลอย่างมีเลศนัย
“ยิ้มอะไรกันลูกหญิง แม่ล่ะกลุ้มใจจะแย่”
“ทรงอย่ากลุ้มเลยเพคะ อิศเรศร์ไม่รักแม่นางแบบหรอก เพียงแต่ตอนนี้กำลังหลงเท่านั้นเอง แต่ลูกกำลังคิดว่าในเมื่อทั้งอิศเรศร์และลุกๆของคุณหลวงต่างไม่ชอบการคลุมถุงชน เราก็พียงแต่ทำให้สองฝ่ายนั้นรักกันเองอย่างเต็มใจสิเพคะ”
พระราชินีทรงเบิกพระเนตรโตอย่างสนพระทัย “ไม่ยากไปหรือ”
เจ้าฟ้าหญิงอรรัมภาแย้มพระโอษฐ์อย่างอารมณ์ดี “ ไม่หรอกเพคะ เพียงแต่เราต้องเร่งมือเท่านั้น”
ก่อนจะทรงหยุดคิดนิดหนึ่ง “ก่อนที่ผู้หญิงของอิศเรศร์จะคิดทำอะไรเสียก่อน”
ลายเส้น
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 พ.ค. 2554, 19:00:23 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 พ.ค. 2554, 22:13:31 น.
จำนวนการเข้าชม : 1384
<< เข้าวัง | สินบน >> |
jink 12 พ.ค. 2554, 19:07:25 น.
เนื่อหามันขาดไปหรือเปล่าคะ รบกวนช่วยตรวจสอบหน่อยค่า
เนื่อหามันขาดไปหรือเปล่าคะ รบกวนช่วยตรวจสอบหน่อยค่า
ลายเส้น 12 พ.ค. 2554, 19:09:27 น.
ใช่ค่ะ งงอย่างแรง โทดทีค่ะ
ใช่ค่ะ งงอย่างแรง โทดทีค่ะ
พิพินทุ์ 15 พ.ค. 2554, 14:35:16 น.
อืม อ่านสองตอนถัดมาแล้วต้องย้อนมาอ่านตอนนี้ ตกลงทรงพลหรือดนัยกันน่คะ ที่ควงดีว่าไปปะฉะดะกับด้วยรัก หรือเราอ่านไม่ดีเอง? แต่จากคาแรคเตอร์ น่าจะเป็นดนัย ใช่มั้ย
อืม อ่านสองตอนถัดมาแล้วต้องย้อนมาอ่านตอนนี้ ตกลงทรงพลหรือดนัยกันน่คะ ที่ควงดีว่าไปปะฉะดะกับด้วยรัก หรือเราอ่านไม่ดีเอง? แต่จากคาแรคเตอร์ น่าจะเป็นดนัย ใช่มั้ย
ลายเส้น 15 พ.ค. 2554, 22:06:40 น.
เอ่อ หรือเราพิมพ์ผิดคะ เราพิมผิดบ่อยเฮ้อ เป็นดนัยค่ะ
เอ่อ หรือเราพิมพ์ผิดคะ เราพิมผิดบ่อยเฮ้อ เป็นดนัยค่ะ