รังรัก (จบแล้วค่ะ)
เมื่อวันนึงต้องตื่นมาพบว่า
ไม่มีอะไรเป็นของเรา แม้กระทั่งตัวของเราเอง
คุณจะทำอย่างไร เมื่อรู้ว่า
ทุกอย่างยังคงอยู่ที่เดิม อยู่ตรงหน้า
แต่ไม่สามารถเอื้อมคว้าหรือสัมผัสได้...


Tags: ดราม่า อากิโกะ เหยี่ยว ฑยาวีย์ นายรัก

ตอน: บทที่ 40 ฝนครั้งสุดท้าย




บทที่40 ฝนครั้งสุดท้าย


หนึ่งปีผ่านไป

ฑยาวีย์ก็ได้กลายมาเป็นดารานักร้องขวัญใจสาวๆกันอีกครั้ง
มีงานเข้ามาตลอดจนส่งให้เขาดังไปทั่วเอเชีย

และได้หันกลับมาใช้ชีวิตเป็นหนุ่มเพลย์บอย ควงสาวไม่ซ้ำหน้า
เปิดคอนโดหรูให้กลายเป็นรังรักสำหรับสาวๆสวยๆที่พร้อมใจกันเข้ามาเพื่อดามใจ
แม้จะรู้ว่่าสุดท้ายก็เป็นได้แค่คู่นอนก็ตาม
แต่สาวๆเหล่่านั้นก็ยอมพลีกายพลีใจเพียงเพื่อแลกกับค่ำคืนอันเร่าร้อน
ในอ้อมกอดของเทพบุตรที่แสนเพอร์เฟคคนนี้


“อ่า…อื้อ…พี่รักขา…โอ้ว…”เสียงครวญครางด้วยแรงพิศวาสดังไปทั่วห้อง
เมื่อร่างสองร่างกำลังนัวเนียกอดก่ายกันอยู่บนเตียงนุ่ม
โดยที่หญิงสาวแสนสวย หน้าตาน่ารักกำลังร้องครวญครางออกมาด้วยความรัญจวน
แววตาเป็นประกายด้วยความสุข เพราะเธอรอคอยเวลานี้มาเนิ่นนาน
เวลาที่จะได้อยู่ในอ้อมกอดนี้ วันนี้เธอเป็นวันที่เธอมีความสุขเหลือเกิน
สำหรับเธอแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

หญิงสาวกอดชายหนุ่มที่เธอหลงรักมาตลอดไว้แน่น
ก่อนที่เขาจะพาเธอโบยบินไปยังสวนสวรรค์ที่ผู้หญิงทั้งหลายใฝ่ฝันอยากจะไปด้วยกันกับเขา
ก่อนจะครางออกมาด้วยความสุขสม

แต่ต้องตกใจกับคำพูดที่ชายหนุ่มเปล่งออกมาเมื่อถึงฝั่ง

“อากิ…”ชายหนุ่มเรียกชื่อนั้นด้วยน้ำเสียงแหบพร่าก่อนจะพลิกตัวลงนอนข้างๆหญิงสาว
เอามือข่ายหน้าผากมองเพดานห้องนิ่งนาน

กี่ครั้งๆเขาก็ไม่เคยลืมชื่อนี้ได้เลย ทำไม ในเมื่อมันก็ผ่านมานานแล้ว
ไม่ได้เจอกับเธอก็นานแล้ว แต่ทำไมทุกครั้งที่เขามีอะไรกับใคร
ถึงได้เผลอเรียกชื่อนี้ออกไปทุกที จะมีไหมที่เขาจะลืมค่ำคืนนั้นของเขาและเธอ

แม้มันจะเป็นค่ำคืนที่แสนจะป่าเถื่อน แต่เขากลับจดจำได้ทุกรายละเอียดไม่เคยลืม
แม้จะพยายามหาสาวๆสวยๆมาปรนเปรอสักเท่าไหร่ แต่มันกลับไม่สามารถเติมเต็มได้สักที
เขาสามารถให้ความสุขกับสาวๆเหล่่านั้นได้ แต่กับตัวเอง เขากลับทำไม่ได้…
เขาหาความสุขให้กับตัวเองไม่ได้เลยสักครั้งเดียว…

ที่ทำได้ก็แค่การปลดปล่อยเท่านั้น…ปลดปล่อยแต่ไม่หลุดพ้น…

“พีครักพี่นะคะ รักมานานแล้ว…”

เสียงหวานใสดังขึ้นพร้อมกับมือนุ่มนิ่มที่ลูบไล้ไปทั่วแผ่นอกกว้างนั้น
ก่อนจะส่งสายตาหวานซึ้งไปยังชายหนุ่ม แต่ชายหนุ่มกลับไม่ยินดียินร้ายกับคำพูดนั้นเลย

เพราะสำหรับเขา เขาชินชากับคำพูดนี้ซะแล้ว ทุกครั้งหลังมีอะไรกัน
เขาก็มักได้ยินคำคำนี้ดังออกมาจากปากคู่นอนทุกคน จนไม่รู้สึกอะไร
หรือเห็นว่ามันมีค่ามีความหมายอะไรกับชีวิต…

มันก็แค่คำพูดง่ายๆ จากผู้หญิงใจง่ายก็เท่านั้น
ที่อยากจะพูดก็พูด พอจะไปก็ไป…เอาแน่เอานอนไม่ได้…

หญิงสาวเห็นท่าทางนั้นก็ให้ฉุนเฉียว แค่เขาครางชื่อของผู้หญิงอีกคน
ก็ทำเธออารมณ์เสียไปทีนึงแล้ว
นี่เขาจะยังทำหน้านิ่งเฉยราวกับไม่แยแสเลยอย่างนั้นเธอทนไม่ได้

“ทำไมคะพี่รัก แค่ผู้หญิงคนเดียว ทำพี่รักเป็นขนาดนี้เลยเหรอคะ
รึว่ามันไม่ใช่แค่คนเดียว แต่ยังมีอีกคนที่อยู่ในใจพี่รักใช่มั้ย
ขนาดนอนกับพีค พี่ยังเอ่ยชื่อเธอ นอกจากคู่หมั้นที่จากพี่ไปแล้ว
พี่ยังมีใจให้คุณอากิโกะใช่มั้ยคะ ใช่มั้ย”หญิงสาวตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงน้อยใจ
แต่ทำเอาอารมณ์ของคนฟังเริ่มเดือดเมื่อได้ยินชื่อนั้น

“หยุดพูดถึงชื่อนี้นะพีค ถ้าเธอยังพูดมากอีกล่ะก็ ก็เชิญกลับไปเลย
เพราะพี่ไม่ชอบคนพูดมาก มันน่ารำคาญ”ชายหนุ่มพูดเสียงเข้ม
จ้องสาวน้อยตรงหน้าด้วยแววตาคมกรบ แต่สาวน้อยตรงหน้ากลับไม่ยอม
พร้อมกับลุกขึ้นนั่งแล้วเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ

“พี่รักรักคุณอากิโกะใช่มั้ย คืนนั้นพี่กับเธอมีอะไรกันใช่มั้ย บอกพีคมานะ”

หญิงสาวโวยวายลั่น ถามในสิ่งที่ติดค้างใจของเธอมานาน
พร้อมกับรัวกำปั้นน้อยๆทุบลงบนอกกว้างของชายหนุ่มพัลวัล
จนชายหนุ่มต้องจับมือนั้นไว้แล้วจ้องสาวน้อยตรงหน้าตาไม่กะพริบ

“นี่เธอพูดเรื่องอะไรพีค เธอเอาอะไรมาพูด”

ชายหนุ่มจับแขนนั่นก่อนจะคาดคั้นเสียงเข้ม

“ก็ยาแรงออกขนาดนั้น ถ้าคุณอากิโกะรอดไปได้ เธอก็เก่งเกินหญิงแล้วล่ะค่ะ
รึพี่รักจะบอกว่าเมื่อกี้ที่พี่รักตะโกนเรียกชื่อเธอ
เพราะพี่รักแค่ละเมออย่างนั้นน่ะเหรอคะ”

หญิงสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

เธอรึอุตส่าห์ทุ่มเทให้ทุกอย่าง ทำสารพัดเพื่อจะให้เขาหันมาสนใจ แต่เปล่าเลย

แต่คำพูดนั้นกลับทำเอาชายหนุ่มตัวแข็งทื่อ ก่อนจะถามออกไปด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

“เธอรู้ได้ไงว่าพี่โดนวางยาฮ่ะพีค”หญิงสาวตัวชาเมื่อรู้ตัวว่าได้
หลุดคำพูดที่ไม่ควรพูดออกไป แล้วเธอจะทำยังไงดี

“เอ่อ…พีค…เอ่อ”หญิงสาวได้แต่อ้ำอึ้ง ทำให้ชายหนุ่มเข้าใจได้ทันที

“อย่าบอกนะ ว่าคนที่วางยาพี่คืนนั้นคือเธอ”
ชายหนุ่มบีบแขนเล็กนั้นแน่น จนสาวน้อยหนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ

“พี่รักปล่อยพีคนะ พีคเจ็บ”

“งั้นเธอก็บอกพี่มาสิว่าคนที่วางยาพี่คืนนั้นคือเธอใช่มั้ย”

หญิงสาวนิ่งงัน เพราะไม่รู้ว่าจะแก้ตัวยังไง ในเมื่อเธอเป็นคนหลุดปากพูดออกไปเอง

คิดแล้วมันก็น่าโมโหตัวเองนัก ไม่น่าให้ความโกรธอยู่เหนือสติเลย
ชายหนุ่มกัดฟันกรอด ก่อนจะเอ่ยครางเสียงเข้มในลำคอ

“ออกไปให้พ้น แล้วอย่ากลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีก”

หญิงสาวได้ยินดังนั้นก็ตัวสั่น เพราะไม่เคยเห็นแววตาที่น่ากลัวจากคนตรงหน้ามาก่อน

เธอจึงรีบลนลานลงจากเตียงก่อนจะจัดการใส่เสื้อผ้าแล้วรีบวิ่งออกมาจากห้อง
ก่อนที่เธอจะไม่มีชีวิตกลับไป

แม้จะนึกเสียดาย แต่คงโทษใครไม่ได้ เพราะเธอทำตัวเอง…


ชายหนุ่มนั่งกุมขมับนิ่งหลังจากที่สาวน้อยออกไปแล้ว

นี่ที่ผ่านมาเขาเข้าใจผิดมาทั้งหมดเลยใช่มั้ย

แล้วทำไมเธอถึงยอมให้เขากระทำโดยไม่ขัดขืน
ทั้งที่เธอก็น่าจะหยุดยานรกนั้นได้เพียงแค่ทำให้เขาสลบ
ซึ่งเขารู้ว่ามันไม่ง่ายนักในสถานการณ์แบบนั้นแต่ทำไมเธอต้องทนให้เขาย่ำยีขนาดนั้นด้วย

รึว่าจริงๆแล้วเธอรักเขา…เธอรักฉันใช่มั้ยอากิ…

ทำไมเขาถึงได้รู้สึกเหมือนตัวเองโดนกักขังราวกับเป็นนักโทษที่ทำผิดทำบาป
ผิดซ้ำซาก ครั้งแล้วครั้งเล่าอย่่างนี้…

ก่อนจะก้มมองแหวนหมั้นที่เขาใช้หมั้นคนรัก แหวนที่อากิโกะคืนให้เขาในวันนั้น
วันสุดท้ายที่เขามีโอกาสได้คุยได้มีเธอในอ้อมกอด

แหวนที่เขาตั้งใจจะนำไปคืนให้กับเจ้าของอีกครั้ง
แต่เจ้าของแหวนก็กลับมาจากเขาไปอย่างไม่มีวันกลับ
จากไปทั้งที่ยังไม่ได้ปรับความเข้าใจกันด้วยซ้ำ
เขาอยากได้ยินแค่คำว่าลาจากเธอสักคำ แต่ฟ้าเหมือนจะลงทัณฑ์
ให้ผู้หญิงสองคนที่เขาเคยทำร้ายต้องจากเขาไปทั้งๆที่ยังไม่ได้เอ่ยลา
ไม่ว่าจะจากเป็นหรือจากตาย จนวันนี้เขาไม่เหลือใคร ไม่เหลือใครอีกเลย…




ค่ำคืนที่เงียบเหงา อากิโกะหรือเหยี่ยว ทสิกา กำลังยืนมองหยาดฝน
ที่กำลังโปรยปรายหลั่งไหลลงมาจากฟากฟ้า ราวกับเป็นสัญญาณบอกว่า ฤดูฝนกำลังจะจากไป…
แล้วหน้าหนาวกำลังจะมาเยือน…

ใบไม้ที่ค่อยๆเปลี่ยนจากสีเขียวกลายเป็นสีสันสวยงามน่ามอง กำลังจะได้เวลาลาต้นร่วงลงสู่พื้นดิน…

ถ้าหากนี่เป็นฝนครั้งสุดท้าย…เธอก็จะขอเก็บมันเอาไว้
เอาไว้หล่อเลี้ยงหัวใจในคืนวันที่เหน็บหนาว อ้างว้าง ที่รอเธออยู่ข้างหน้า

สำหรับเธอ…เรื่องราวที่ผ่านมา ทุกความทรงจำที่มีเขา
แม้มันจะเจ็บปวดทรมานแค่ไหน แต่มันกลับเป็นความทรงจำที่ดีสำหรับเธอเสมอ…
และเธอจะขอเก็บมันเอาไว้อย่างนี้ตลอดไป…
เก็บมันเอาไว้ในกล่องความทรงจำพิเศษ…




ชายหนุ่มนั่งมองสร้อยคอทองคำขาวที่มีจี้รูปกุญแจที่สลักคำว่า "วิมานรัก"ห้อยอยู่
ในขณะที่นั่งอยู่บนผืนทรายสีขาวละเอียด

เขากลับมาที่นี่อีกครั้งหลังจากที่ไม่คิดจะกลับมา
เพราะมันมีแต่ภาพความทรงจำต่างๆที่มีทั้งภาพของคู่หมั้นและภาพของเธอ
...นางเงือกน้อยของเขา...

จนตอนนี้เขายังคงสับสน ไม่แน่ใจหัวใจตัวเอง ไม่รู้ว่าความรู้สึกที่แท้จริงของเขามันเป็นยังไง…
รู้แค่เพียงว่าวันเวลาที่ผ่านไปมันว่างเปล่า ไร้ความหมาย ไร้ความสุข
ไม่มีรอยยิ้ม ไม่มีอะไรเลย เลื่อนลอย เคว้งคว้าง
จนจับความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองไม่ได้ ว่าทำไมถึงรู้สึกอย่างนี้…

หลายครั้งที่เฝ้าถามตัวเอง แต่กลับไม่ได้คำตอบ

ชายหนุ่มมองสร้อยที่คู่หมั้นของเขาหวงนักหวงหนา ไม่ยอมถอด ไม่ยอมเปลี่ยน
จนวันนี้เขาได้ขอมันมาเก็บเอาไว้เป็นตัวแทนของเธอ
เพราะเธอเป็นคนที่ทำให้เขาเลิกเจ้าชู้หันมารู้จักคำว่ารักอย่่างจริงจัง
แม้มันจะไม่ใช่รักแรกพบแต่มันก็เป็นรักที่มั่นคงและบริสุทธิ์

แต่จวบจนวันนี้ทำไมเขากลับรู้สึกว่าสิ่งที่หายไปมันไม่ใช่แค่คำหวานเหล่านั้นเท่านั้น
แต่มันเหมือนใจทั้งใจที่หายไป หายไปที่ใดเขาเองก็ยังไม่รู้ เพราะมันรู้สึกได้ถึงความว่่างเปล่า

“ว่าไงเจ้าดื้อ เมื่อไหร่แกจะเลิกประชดชีวิตด้วยวิธีบ้าๆที่แกทำสักที
ฉันไม่เห็นว่ามันจะทำให้อะไรๆดีขึ้นมาเลย”

รังสิมันต์ซึ่งเป็นพี่ชายนั่งลงข้างๆน้องชาย หลังจากที่เขาทนมองสภาพน้องชายของตัวเองไม่ไหว
มาร่วมปี วันนี้ขอเขาได้ทำอะไรบ้างเถอะ ก่อนที่อะไรๆมันจะสายเกินเยียวยา

“ผมก็ไม่เห็นว่าการใช้ชีวิตของผมมันจะไปสร้างความเดือดร้อนอะไรให้พี่นี่
เพราะดูพี่ก็ยังมีความสุขดีไม่ใช่เหรอ”

คนเป็นน้องประชดเข้าให้ เพราะเขากับพี่ชายดูจะห่างเหินกันไปตั้งแต่เกิดเรื่องเกิดราวในครั้งนั้นแล้ว

“ใช่ ฉันน่ะสุขดี แต่แกล่ะ แกมีความสุขแล้วเหรอที่ทำอย่างนี้
ควงคนโน้นคนนี้จนเป็นข่าวคาวไปทั่วบ้านทั่วเมือง แกเคยคิดถึงหัวใจของคนอื่นบ้างมั้ยไอ้รัก
ว่าเขาจะรู้สึกยังไง”

“คนอื่นที่พี่ว่าน่ะ พี่หมายถึงใคร”คนเป็นน้องเหยียดยิ้มออกมา

“จะใครก็ช่าง แต่ที่ฉันมาวันนี้ก็แค่จะมาถามแกว่า แกรักเธอมั้ย”

“พี่หมายถึงใครล่ะ”คนเป็นน้องถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
โดยที่มือยังคงคลึงสร้อยคอเส้นนั่นอยู่

“ฉันคงไม่ถามถึงคนที่เขาจากไปแล้วหรอกนะ เพราะนั่นมันคืออดีต
แต่ที่ฉันถาม ฉันหมายถึงคนที่เขายังอยู่ แกเคยรักเขาบ้างมั้ย”

คนฟังนิ่งงันกับคำพูดนั้นก่อนจะกระตุกยิ้มราวกับเย้ยหยัน

“ฮึ…ที่พี่มาถามเพื่อต้องการคำยืนยันให้แน่ใจ เพื่อพี่เองจะได้สบายใจในการจะคบหากับเธอล่ะสิ”

คนเป็นพี่ได้ฟังก็ฉุนจัดก่อนจะดึงคอเสื้อของน้องชายแล้วพูดเสียงเข้ม

“แกนี่มันโง่สิ้นดี เวลาที่เสียไป มันไร้ค่าขนาดนี้เลยเหรอ”

“ฉันจะบอกแกให้เอาบุญเลยนะ ว่าถ้าเธอรักฉันสักนิด
ฉันจะไม่มีวันปล่อยให้เธอเดินจากฉันไปไกลแสนไกลขนาดนั้นหรอก”

คนฟังหันมาจ้องหน้าพี่ชายนิ่ง แล้วคนเป็นพี่ก็ผลักน้องชายออกห่าง
ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ฉันขอถามแกครั้งสุดท้ายว่าแกรักเธอบ้างรึเปล่า”คนฟังนิ่งงันอยู่พักใหญ่
ก่อนจะถอนใจพร้อมเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“ผมรักเธอไม่ได้”คนเป็นพี่ได้ฟังก็กระตุกยิ้ม

“ฮึ…รักไม่ได้…หรือไม่ได้รักกันแน่”คนฟังได้แต่นิ่ง

“ผมจะรักหรือไม่รักมันจะสำคัญตรงไหน ในเมื่อยังไงๆเธอก็ไม่ได้รักผมเลย”
ชายหนุ่มเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นพร่า
แต่คนฟังกลับหัวเราะออกมา

“แกเลิกกินฟางได้แล้ว มันไม่อร่อยเท่าข้าวหรอกนะ…
หรือต้องให้ฉันสอนวิธีกินข้าวให้แก”

พูดเสร็จคนเป็นพี่ก็ลุกขึ้น ก่อนจะเอ่ยถ้อยคำที่ทำเอาหัวใจของคนฟังหายวูบ

“แกจะรักไม่รักฉันไม่อยากรู้ ฉันเองก็ให้เวลาแกถามใจตัวเองมานานเป็นปี แต่มันกลับไร้ค่า
แกไม่จำเป็นต้องตอบฉันหรือตัวแกหรอก
แต่คนที่แกควรตอบเขานอนรอความตายอยู่ที่โรงพยาบาล
ถ้าแกยังเห็นว่ามันไร้ค่า แกก็ไม่จำเป็นต้องบอกเธอก็ได้
เพราะฉันคิดว่าเธอเองก็คงเจ็บปวดกับคนอย่างแกมามากพอแล้ว
แค่แกไม่ไปหามันก็คงไม่ทำให้เธอเจ็บเพิ่มขึ้นหรอกมั้ง”

พูดเสร็จคนเป็นพี่ก็เดินจากไป แต่คนเป็นน้องกลับเรียกเอาไว้หลังจากได้สติกลับมา

“เดี๋ยวพี่รัง ที่พี่พูดมาเมื่อกี้ พี่หมายความว่ายังไง”เสียงนั้นสั่นไหว
จนคนฟังจับได้ถึงความรู้สึกนั้น เขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง

“เธอเป็นโรคร้าย เป็นมานานแล้ว และเธอก็รู้ตัวเองมาตลอด
เพียงแต่ไม่คิดจะบอกใคร จนตอนนี้มันเกินเยียวยารักษา
ถ้าแกยังเห็นใจเธอในฐานะคนรู้จัก แกก็ควรไปหาเธอสักครั้ง
ไปบอกความจริงกับเธอ ให้เธอได้รู้ว่าแกรู้สึกยังไง อย่าปล่อยให้เธอ
ต้องจากไปทั้งๆอย่างนี้นะไอ้รัก”

คนฟังแทบเข่าทรุดกับสิ่งที่ได้ยิน ราวกับโลกกำลังถล่มลงมาตรงหน้า
พายุใหญ่กำลังพัดโถมเข้าใส่ ทำไมมันถึงรู้สึกหัวใจสลายแค่ได้ยิน ทำไม

“เพราะเธอไม่ได้รักฉัน แต่เธอรักแก” คำพูดนั้นของพี่ชายราวกับย้ำ

ตอนนี้เขารู้แน่แก่ใจแล้วว่า แท้จริงเขารู้สึกยังไงกับเธอ
และเขาต้องบอกเธอให้ได้ แต่มันจะสายไปไหม สายไปไหมที่เขาจะบอก…



ชายหนุ่มวิ่งตามหลังพี่ชายออกไปทันที แม้แทบจะไม่มีเรี่ยวแรง
แต่เขาก็อยากเจอเธอ อยากเห็นหน้าเธอ อยากไปหาเธอตอนนี้และก็เดี๋ยวนี้…

แต่พอมาถึงที่โรงพยาบาลขาเจ้ากรรมดันแข็ง
ไม่กล้าแม้กระทั่งจะเอื้อมมือไปจับประตู แล้วเขาก็ได้เห็นทุกๆสายตาจากพี่ๆน้องๆของเธอ
มองมาอย่างให้กำลังใจ เขาเลยก้าวขาออกไป
เพื่อจะเดินเข้าไปหาเจ้าของหัวใจที่แท้จริงข้างใน


และภาพที่ปรากฎตรงหน้าทำเอาชายหนุ่มแข็งขาสั่น ไร้เรี่ยวแรงที่จะก้าวเดินต่อ
แต่ละก้าวที่เดินไปหาเธอเนิ่นนานในความรู้สึก
ก่อนจะเอื้อมมือสั่นๆไปแตะลงบนใบหน้าซีดที่ศีรษะมีผ้าพันแผลเอาไว้
หน้าที่แทบจะไม่มีสีกลับส่งยิ้มมาให้เขา แค่นี้น้ำตาของลูกผู้ชายก็ไหลลงมา
ก่อนจะกุมมือบางเอาไว้แล้วนั่งลงบนเตียงนั่น
จูบมือบางด้วยความรักและคิดถึง

หญิงสาวค่อยๆลุกขึ้นอย่างยากลำบาก ชายหนุมเลยประคองก่อนจะกอดเธอเอาไว้แน่น เนิ่นนาน
โดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ

หนึ่งปีที่ผ่านมามันทำให้เธอเปลี่ยนไปขนาดนี้เลยเหรอ…
หนึ่งปีที่เขาปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไม่ได้ทำอะไรเลย

เสียดายเวลาที่ล่วงเลยผ่าน เสียดายที่วันเมื่อวานเขาไม่ได้ทำอะไรให้เธอเลย
เขาผิดเองที่ใจประมาท ที่หลงระเริง รังแกเธอทำสิ่งเลวร้ายกับเธอมามากมาย
พอสำนึกได้ มันก็สายไปแล้ว…เขาผิดที่เผลอทิ้งเธอเอาไว้ตั้งนาน
ทั้งที่ผ่านมา เธอดีกับเขา ยอมเขาทุกอย่าง…
พอต้องการ มันก็สายไปแล้ว เมื่อเธอกำลังจะจากไป…

...ทุกอย่างกำลังจะกลายเป็นแค่ความหลังใช่มั้ย

อยากจะสมน้ำหน้าตัวเองนัก สมแล้วที่ต้องเจอเข้าอย่างน้ี…

เธอคงเจ็บเกินทนเลยต้องการจะหนีเขาไปอย่างนี้…
นี่เขากำลังจะรับบาปรับกรรมที่ทำกับเธอเอาไว้ใช่มั้ย…

“อากิ…จะสายไปมั้ย…ถ้าฉันจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่่างที่ทำกับเธอ
จะสายไปมั้ย…ถ้าฉันจะขอร้องให้เธออยู่ อยู่ให้ฉันรัก…
จะสายไปมั้ย…ถ้าฉันจะบอกว่าฉันรักเธอ…”

หญิงสาวมองหน้าชายหนุ่มนิ่ง ยิ้มออกมากับคำพูดตรงท้ายประโยคของเขา…
เขาบอกว่าเขารักเธอใช่มั้ย…เธอไม่ได้หูฝาด ไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย…

“ฉันก็รักคุณ…”ชายหนุ่มดึงหญิงสาวเข้ามากอดอีกครั้ง
ก่อนจะร้องไห้ฟูมฟายออกมาอย่างไม่อาย

“ฉันขอโทษ ฉันมันงี่เง่่าที่ปล่อยให้เธอเดินจากไป…
ไม่อย่างนั้นเราก็คงมีความสุขมากกว่านี้ ฉันคงได้ทำอะไรดีๆให้เธอบ้าง
อย่าจากฉันไปเลยนะอากิ ฉันขอร้อง….”หญิงสาวส่ายหน้า
ก่อนจะจับมือทั้งสองของเขามาแนบแก้มเอาไว้

“ไม่ว่าที่ผ่านมาจะเป็นยังไง แต่มันจะเป็นความทรงจำดีๆของฉันตลอดไป…”
น้ำตาร่วงลงสู่มือหนาจนชายหนุ่มอดสะเทือนใจไม่ได้
เขาจึงดึงเธอเข้ามากอดปลอบจูบซับน้ำตานั้นให้

เขาไม่อยากเห็นเธอร้องไห้เลย มันเจ็บปวดไปทั้งใจ
วันนี้เขาอยากเห็นเธอยิ้มได้ ยิ้มอย่างมีความสุขหลังจากที่ต้องทนทุกข์เพราะคนอย่างเขามานาน

“อย่าร้องไห้เลยนะ ฉันอยากเห็นรอยยิ้มสดใสของเธอสักครั้งจะได้มั้ย…นางเงือกน้อยของฉัน…”

ชื่อที่เขาเรียกมันทำให้เธอยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ดีใจที่เขาไม่เคยลืมเรื่องราวในครั้งนั้น
เขาไม่ได้ลืมเธอไปพร้อมกับกาลเวลา…เขายังจำมันได้…

“โปรดปล่อยให้ฉันรักเธออย่างนี้ต่อไปได้มั้ย อย่าจากฉันไปได้มั้ย
ฉันรักเธอและเธอก็รักฉัน เราจะมาสร้างรังรักด้วยกันนะ
ฉันสัญญาว่าฉันจะสร้างรังรักของเราให้อบอุ่นที่สุด
เราจะมีลูกๆที่น่ารักด้วยกัน ไปไหนเราก็จะไปด้วยกัน ไม่จากกันอีกแล้ว
นะอากิ ฉันขอร้อง…อย่าจากฉันไปเลยนะ…”หญิงสาวยิ้มกว้าง
ก่อนจะส่ายหน้าแล้วแนบใบหน้าลงตรงอกกว้างนั่น

“ไม่ว่าเราจะจากกันด้วยเหตุผลใด แต่ขอให้คุณรู้เอาไว้ว่าฉันรักคุณ…
ชีวิตฉันสมบูรณ์แบบได้ก็เพราะคุณ…แค่นี้มันก็เพียงพอแล้วสำหรับฉัน…”

“แค่ได้พบได้รักคุณ มันก็คุ้มแล้วที่เกิดมา…
ฉันอาจจะเสียอะไรมากมายในชีวิตไป แต่ฉันไม่เคยเสียใจ…ที่ได้รักคุณ…”

ชายหนุ่มกระชับอ้อมกอดนั้นแน่น
เขาอยากจะกอดเธอไปอย่างนี้ร้อยปีพันปี แต่เขาก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้…

“คุณร้องเพลงให้ฉันฟังหน่อยได้มั้ย เพลงที่แทนรักเคยร้องให้ฮิมาวาริฟัง
ตอนที่เขาสองคนกำลังบอกรักกันด้วยท่าเต้นรำไงคะ…คุณยังจำมันได้มั้ย”

“จำได้สิ…ฉันจะลืมละครเวทีเรื่องแรกที่เล่นกับเธอได้ยังไง”

ชายหนุ่มพูดเสร็จก็โยกหญิงสาวไปตามทำนองเพลงรักของเขา
เพลงภาษากายที่เขาแต่งเองร้องเองในตอนเล่นละครเวทีด้วยกันกับเธอ
เพลงรักที่มีเธออยู่ในอ้อมกอด…

หญิงสาวซบตรงอกกว้างฟังเสียงทุ้มนุ่มเพื่อเก็บความรู้สึกดีๆทั้งหมดที่มีเอาไว้ในความทรงจำพิเศษ

ชายหนุ่มนั่งร้องเพลงไปก็ร้องไห้ไป…เพราะเขารู้ว่าเวลาของเขากับเธอมันเหลือน้อยเต็มที…


เธอไม่ใช่แค่สายฝนที่พัดมาและก็ผ่านไปในชีวิตเขา…
แต่เธอกลับเป็นสายฝนที่ชุ่มฉ่ำ…และเขาก็ยินดีที่จะตากฝนอยู่อย่างนี้ตลอดไป…
ขอแค่สายฝนจะไม่จากไปไหน… จะยังอยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างนี้ตลอดไป…

แม้จะรู้ว่าครั้งนี้อาจจะเป็น...ฝนครั้งสุดท้าย...ในชีวิตของเขาแล้วก็ตาม…

“ขอบคุณนะคะที่รักฉัน…ฉันรักคุณ”

สิ้นเสียงนั้นชายหนุ่มก็ร้องไห้ออกมาเมื่อกราฟชีวิตของเธอเป็นเส้นตรง
พร้อมเสียงที่เขาไม่อยากได้ยินดังขึ้น

…สายฝนกำลังจะจากเขาไป…

“ฉันรักเธอนะอากิ ฉันรักเธอ”

แล้วเขาก็ได้เห็นแพทย์และพยาบาลที่เปิดประตูเข้ามาก่อนจะกันเขาออกไป

ชายหนุ่มหมดแรงอยู่ตรงหน้าประตูห้อง มองเข้าไปข้างในอย่างสิ้นหวัง
เมื่อเห็นคุณหมอออกมาด้วยสีหน้าที่เขาก็ดูออกว่ามันสื่อความหมายว่่าอย่างไร


...สายฝนได้จากไปแล้ว…

...ฝนครั้งสุดท้ายในชีวิตของเขาได้จากเขาไปแล้วตลอดกาล…


เขาคงไม่มีวันได้พบเจอกับสายฝนที่คอยพัดเข้ามาในชีวิตอีกแล้วใช่มั้ย…

...สายฝนที่เขาเคยเกลียด…สายฝนที่เขาเคยผลักใส…

แต่มันจะเป็นฝนหยดสุดท้ายในชีวิตที่เขาจะรักและจะเก็บไว้ในใจตลอดไป...




.........จบ..............


เหมือนๆว่าจะมีตอนพิเศษรึเปล่าน้าาาาาาาา...ใครเคยอ่านมาแล้วคงจะยังจำได้เนอะ...
ว่ามันยังไม่จบบริบูรณ์...

เจอกันในตอนพิเศษ...วันพรุ่งนี้ค่ะ...

ปล.นักอ่านท่านใดที่ยังไม่ได้ส่งเสียงมาให้เต่าโยได้ยินให้ชื่นใจ
ตอนนี้ช่วยส่งเสียงดังๆมาให้ได้ยินกันบ้างนะคะ...

กว่าจะได้เจอตัวละครในเรื่องนี้อีกครั้ง...ก็คงจะในเรื่อง "คานน้อย คอยรัก" โน่นแหน่ะค่ะ...
ใครที่เชียร์อากิอยู่...ช่วยส่งเสียงหน่อยนะจ๊ะ...


"เต่าโย"

















yoraya
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 ก.ย. 2555, 23:02:07 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 ก.ย. 2555, 23:02:07 น.

จำนวนการเข้าชม : 3099





<< บทที่ 39 น้ำตาทะเล (นามิ นามิดะ)   บทที่ 41 ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ >>
blackcoffee 17 ก.ย. 2555, 23:37:31 น.
เศร้าจัง


หนอนฮับ 18 ก.ย. 2555, 00:13:50 น.
พี่โยใจร้าย อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก รอตอนพิเศษ อิอิ


konhin 18 ก.ย. 2555, 01:51:35 น.
เป็นหวัดแต่อยากอ่าน ดันทุรังมาอ่านจนได้คับ


MDDC 18 ก.ย. 2555, 02:33:11 น.
โอ้ย เศร้าอ่ะ ฮือ ฮือ ฮือ

พรุ่งนี้คงไม่เศร้านะ


mallow 18 ก.ย. 2555, 05:18:25 น.
เฝ้ารอตอนต่อไปค่ะ


Pat 18 ก.ย. 2555, 06:33:08 น.
เอาคืนเล็กๆน้อยๆ


ตามหาฝัน 18 ก.ย. 2555, 09:18:51 น.
เอาคืนสะนายรักน้ำท่วมโรงพยาบาลเลยนะค่ะ รอคานน้อยอยู่นะค่ะ


บัวขาว 18 ก.ย. 2555, 10:09:04 น.
สมน้ำหน้านายรัก ...


sai 18 ก.ย. 2555, 13:25:23 น.
ตอนนี้แอบไม่เศร้าเท่าไร แต่แอบหมั่นไส้นายรัก อีกแล้วอ่ะ 555

ปล.อยากกอ่านหมอรัง กะ เป็ดวานาโน อ่ะคะ่ไรเตอร์^__^


pookza 18 ก.ย. 2555, 14:06:45 น.
จริงๆเราจำได้นะ ว่าตอนต่อไปเป็นไง อิอิ


goldensun 18 ก.ย. 2555, 17:37:27 น.
สมน้ำหน้านายรักด้วยคน จนเกือบจะย่อหน้าสุดท้าย ต้องรอให้สูญเสียก่อนคิดได้
เสเพลประชดนี่นะ ดีที่หมอรังช่วยให้หายโง่ แต่รู้สึกว่าหมอทำเพื่อเหยี่ยวมาดว่า
รอตอนพิเศษค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account