ชะตารัก พิศวาสหัวใจเถื่อน (ร้าย เถื่อน ดุ) NC+
พิมพ์นารากอดเข่าตัวสั่น เธอร้องไห้จนเเทบหมดเเรง 'ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เธอยังจะช่วย'ผู้ชาย'คนนี้อยู่รึเปล่า' ถ้ารู้ว่าเขาจะย่ำยีหัวใจและร่างกายเธอเเบบนี้ ก็จะไม่ขอพบเจอเขาเลยดีกว่า
อัลลัยล์ ทำไมเธอจะต้องทำท่ารังเกียจเขาขนาดนั้นด้วย ทุกสิ่งที่เกิดจากเธอ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำ เสียงพูด ล้วนเเต่ทำให้เขาสนใจในตัวเธอ คอยดูเถอะ ถ้าหากเขาทำให้เธอยอมสยบนอนครวญครางใต้ร่างได้ เธอยังจะทำท่ารังเกียจเขาอีกไหม!
อัลลัยล์ ทำไมเธอจะต้องทำท่ารังเกียจเขาขนาดนั้นด้วย ทุกสิ่งที่เกิดจากเธอ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำ เสียงพูด ล้วนเเต่ทำให้เขาสนใจในตัวเธอ คอยดูเถอะ ถ้าหากเขาทำให้เธอยอมสยบนอนครวญครางใต้ร่างได้ เธอยังจะทำท่ารังเกียจเขาอีกไหม!
Tags: ทะเลทราย ร้าย เถื่อน NC
ตอน: บทที่สิบหก วาบหวาน 100%
ต่อจากตอนที่แล้ว
วิคตอเรียหัวเราะคิกคักกับตนเองเมื่อเทียบตัวเลขที่ติดอยู่บนประตูไม้กับคีย์การ์ดในมือแล้วมันตรงกัน เธอจัดแจงเสื้อผ้าหน้าผมให้เข้าที่ แต่ก่อนที่จะได้รูดการ์ดเข้าไปสำรวจในห้องแล้วร่างบางก็หยุดชะงักการกระทำไปดื้อๆ
“เกิดสาวๆในห้องรุมตบฉันละ”เธอบ่นงึมงำพร้อมกับดวงตาสีฟ้าที่เบิกกว้าง
“ตาคู่หมั้นสุดที่รักคงช่วยแน่ๆเลย”หญิงสาวปรือตาหวีดร้องเบาๆ
“ช่วยพวกนั้นตบฉันสิไม่ว่า”
ร่างบางเดินวนไปวนมาพร้อมกับครุ่นคิดอะไรบางอย่าง โดยปกติแล้วทุกคนย่อมต้องการความเป็นส่วนตัว แล้วนี่เขาอยู่ในห้อง…ก็ย่อมต้องการความเป็นส่วนตัวแน่ๆ ถึงแม้เธอจะเป็นคู่หมั้นก็เถอะนะ
เสียงหวานหัวเราะขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะรูดคีย์การ์ดในมือ
‘I don’t care’
ดวงตาสีฟ้ากระพริบตาเพื่อให้ชินกับความมืดตรงหน้า แสงจากภายนอกพอให้เธอเห็นทางเดินเข้าไปสู่ใจกลางห้องอยู่ลางๆ เธอรีบจดจำมันไว้ในหัวก่อนจะค่อยๆปิดประตูอย่างเบามือที่สุด
สมองของเธอรันภาพยิ่งกว่าคอมพิวเตอร์เสียอีก เธอใช้มือคลำไปตามกำแพงจนสุดท้ายก็หยุดอยู่ที่สิ่งของที่ต้องการ
แกร่ก!
มือบางกดที่สวิซท์โคมไฟตั้งพื้น แสงสว่างสีส้มอ่อนๆกระจายไปทั่งห้อง หญิงสาวยกมือทาบอกพร้อมกับถอนหายใจ ยังดีที่คนในห้องยังไม่รู้ตัวว่ามีแขกมาเยี่ยมเยียน
ใจกลางเป็นห้องรับแขก มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันรวมถึงโต๊ะอาหารด้วย และห้องอีกห้องห้องก็แบ่งออกไปเป็นสัดส่วนได้แก่ห้องนอนและห้องน้ำ
หญิงสาวยิ้มกว้างเมื่อห้องของชายหนุ่มจัดเหมือนห้องของเธอเป๊ะ แถมยังอยู่ฝั่งเดียวกันอีก ไม่ต้องรอให้เสียเวลาร่างบางก็เดินดิ่งตรงไปยังประตูไม้ที่ปิดไว้ทันที
‘ทายซิใครเอ่ย…’เธอนึกถึงคำพูดนี้ในใจพร้อมกับเปิดประตูอย่างเบามือ
หมับ!
“กรี๊ดดด!!”
ปัง!
“โอ้ย!”
ดวงตาสีฟ้าเบิกโพล่ง เหตุการณ์ทุกอย่างมันกะทันหันเสียใจเรียบเรียงไม่ทัน เธออ้าปากพะงาบก่อนจะใช้สองมือประคองศีรษะตนเองก่อนจะลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล พลันก็มีเงาตะคุ้มร่างใหญ่ใช้มือหนากดเข้าที่ไหล่ของเธอและวินาทีนั้นเธอก็รู้สึกถึงน้ำหนักหลายพันกิโลกรัมเพิ่มขึ้นที่หน้าท้อง
ให้ตายเถอะ…เธอไม่ได้ตาฟาด เธอเห็นสิ่งแวววาวคล้ายเครื่องเงินผ่านหน้าไป
การทายซิใครเอ่ย…มันเปลี่ยนเป็นทายซิอะไรเอ่ยไปเสียแล้ว!
สิ่งของเย็บเฉียบนั่นมาหยุดที่คอเล็กๆของเธอ เธอพยายามขัดขืนด้วยการลุกขึ้นแต่ความแหลมคมของมันไม่ใช่เรื่องตลกเลยซักนิด
โอเคได้คำตอบแล้ว มันคืออะไร
บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบงัน มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่ดังหึ่มๆเท่านั้น
เธอเรียบเรียงเหตุการณ์เมื่อยี่สิบวินาทีที่แล้วพลางใช้สองมือที่สั่นเทากุมศีรษะตัวเองแน่น ความร้อนผ่าวแล่นขึ้นขอบตา
ไอ้เวรนี่…เหวี่ยงหัวเธอกระแทกขอบเตียง
เกิดมาพึ่งเคยโดนเหวี่ยงลงเตียงโดยชายหนุ่มเหมือนในหนังสือครั้งแรก แต่ผลที่ออกมาเธอจะจำไม่มีวันลืมโดยเด็ดขาด
จำไว้อย่าเอามาเทียบกับชีวิตจริง…หัวเกือบแตก
ถ้าก่อนเลือดคลั่งในสมองตายเธอมีแค่สองคำอยากจะบอกกับผู้กระทำการครั้งนี้ว่า…
‘ไอ้โง่!!!’
เธอสูดน้ำมูกเข้าไปหลายทีพร้อมกับลดมือลงมาปาดน้ำตา
ไม่ได้กลัว…แต่เจ็บหัว
ร่างหนาขยับไปมาหลายทีแต่ก็ไม่ได้เอามีดออกจะคอเธอซักนิด ซ้ำเขายังกดมันแรงขึ้นกว่าเดิมอีกต่างหาก เธอจับหัวนอนแน่นิ่งปล่อยให้ชายหนุ่มใช้ปลายมีดลูบไล้คอเธอไปมาอย่างน่าหวาดเสียว
ความจริงแล้วก็กลัว…แต่ตอนเด็กๆเธอชอบหนีพวกพี่เลี้ยงตลอดเลยโดนจับตัวไปเรียกค่าไถ่อยู่หลายครั้งเหมือนกัน เอาเป็นว่ามีด ปืน เชือก เทปกาว มันไม่ใช่สิ่งที่เธอกลัวซักนิด
เอางูเห่ามาจ่อคอสิ แบบนี้ค่อยว่าไปอีกอย่าง
ชายหนุ่มส่งเสียงคำรามในลำคอเมื่ออีกฝ่ายยังคงนิ่งเงียบ เขาไม่ใช่พวกประเภทฆ่าโดยไร้เหตุผล ยิ่งโดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าคนใต้ร่างเป็นผู้หญิงด้วยแล้ว เธอผู้นี้ต้องการอะไร!
เขาเอามีดออกวางไว้ข้างตัว เสียงถอนหายใจดังออกมาจากคนในร่าง มือหนาจึงตรึงเขาที่ลำคอของอีกฝ่ายทันที
ไม่ใช่ว่าไม่เคยฆ่าผู้หญิง…พวกมือสังหารจำนวนไม่น้อยที่ถูกส่งมาล้วนแต่เป็นหญิงสาวหน้าตาสละสวยรูปร่างผอมบาง แต่เมื่อผู้หญิงเหล่านั้นหมายจะปองร้ายผู้เป็นเจ้านาย เขาก็เอาพวกหล่อนไว้ไม่ได้เช่นกัน
“แค่กๆๆ”มือบางระดมตีแขนแข็งแรงของชายหนุ่มเมื่อรู้สึกถึงแรงกดมากไป
“แกเป็นใคร”เสียงทุ้มเอ่ยดุดัน แม้จะจะไม่เสียงดังเหมือนตะโกนแต่มันก็กังวานไปทั่วห้อง
“พูดภาษาอังกฤษสิโว้ย!”เธอหวีดร้องเป็นภาษาบ้านเกิด โดยที่มือก็ยังไม่หยุดการทุบตีจิกข่วนแขนแข็งแรงตรงหน้า
“พูดเป็นมั้ยอังกฤษน่ะ ฉันรู้แกสามารถพูดได้ฟังออก ดังนั้นขอร้องแกอย่ามากวนประสาทฉัน!”
ชายหนุ่มนิ่งงันไปกับน้ำเสียงของหญิงสาว เหมือนกับว่าเขาเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนอย่างนั้น
มือหนาคลายแรงรัดออกพร้อมกับเอื้อมไปเปิดโคมไฟเล็กบนหัวเตียง
แม้แสงจะมีไม่มากแต่ก็สามารถทำให้เห็นทุกอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น รวมถึงร่างบางของหญิงสาวใต้ร่างที่นอนขมวดคิ้วไม่สบอารมณ์อยู่เช่นกัน
“เห้ย!!!”
ฮาฟิซเบิกตากว้างรีบเด้งตัวออกจากร่างของหญิงสาวราวกับที่เขาสัมผัสอยู่นั้นมันเป็นของร้อน ร่างหนาถลาไปที่สวิซท์ไปหลักในห้องพร้อมกับใช้มือตบเข้าไปอย่างไม่รีรอ
“เห้ย!!”
“เห้ย!!”เสียงทุ้มยังร้องไม่หยุด
วิคตอเรียยันตัวขึ้นมาพร้อมกับกำมือขึ้นเหนือศีรษะ
“กรี๊ด!!!”เธอวีดร้องก่อนจะหยิบหมอนใบโตปาใส่ชายหนุ่ม
“คุณวิคตอเรีย!”เสียงทุ้มตื่นตระหนก
หญิงสาวลืมตาขึ้นมา คำพูดที่เตรียมด่าคู่หมั้นยามเป็นหางว่าวในหัวของเธอ แต่เมื่อดวงตาสีฟ้าได้เห็นชายหนุ่มเปลือยท่อนบทที่ยืนอ้าปากค้าง คำพูดทั้งหมดก็ถูกกลืนหายในลำคอทันที!
“กรี๊ด!!!”เธอวีดร้อง สองมือที่เคยทุบอากาศเปลี่ยนมาแนบแก้มทั้งสองแทน
“คุณวิคตอเรีย!”
ฮาฟิซรู้สึกถึงความเย็นที่กระทบผิวหนังได้ทุกอณูขุมขน มือหนาจึงเอื้อมไปดึงผ้าห่มบนเตียงขึ้นมาปิดท่อนบนของตน ใบหน้าหล่อเหลาขึ้นสีระเรื่อพร้อมกับเสมองไปทางอื่นเมื่อเห็นอีกฝ่ายอยู่ในชุดที่ไม่เหมาะสมเช่นกัน
เสื้อเชิ้ตบางๆของเธอกระดุมหลุดเปิดออกทั้งแทบ เผยให้เห็นผ้าสีแสบตาตัวจิ๋วที่โอบอุ้มทรวงอกเต่งตึงทั้งสองได้ชัดเจน ผิวขาวผ่องเรียบเนียนเสมอกันและหน้าท้องแบนราบนั่น เชื่อเถอะไม่ใช่แค่เขา…แต่มันเรียกลมหายใจขาดห้วงได้จากชายหนุ่มได้ทุกคน
ให้ตายเถอะ ให้ตาย ให้ตาย!!
วิคตอเรียมองปฏิกิริยาของชายหนุ่มที่ยืนขดตัวอยู่ชิดประตู เขานำผ้าห่มห่อพันร่างกายราวกับคิดว่าตัวเองเป็นมัมมี่ อีกทั้งใบหน้านั่นก็ยังขึ้นสีระเรื่อไม่ยอมสบตา เธออ้าปากกว้างก่อนจะก้มลงมองสภาพตัวเอง
เอ่อ…ที่จริงนั่นมันน่าจะเป็นอาการของเธอไม่ใช่เหรอ
“คุณวิคตอเรียไปใส่กางเกงก่อนได้รึเปล่าครับ ไว้ผมค่อยถามคุณว่าเกิดอะไรขึ้น”น้ำเสียงของเขาสั่นพร่า
“กรี๊ด!!”
ชายหนุ่มหันไปตามเสียงร้องของหญิงสาวก่อนที่จะต้องผงะแล้วร้องออกมาไม่ต่างจากเธอ
“เห้ย!!”
ร่างบางลุกยืนบนเตียงพร้อมกับถลกเสื้อเชิ้ตขึ้นโชว์กางเกงขาสั้นภายในก่อนจะก้มลงหยิบหมอนอีกใบเหวี่ยงไปที่ร่างมัมมี่ข้างประตูสุดแรง
“ใส่อยู่นี่ไง!”
“ท่านอัลลัยล์ไม่อยู่ครับ!”เขาตัดบทก่อนจะเขยิบร่างของตนไปที่ตู้เสื้อผ้าอีกฝั่ง
“ฉันไม่ได้ถาม!”
ร่างบางถลาลงจากเตียงวิ่งไปขวางหน้าชายหนุ่ม เธอใช้สองมือผลักร่างหนาสุดแรงจนเขาเซถอยหลังไปหลายก้าว
“ถอยออกไปเลยนะครับ! มันไม่เหมาะสม”เขาเอ่ยเตือนพร้อมกับเพิ่มระยะห่างของตนเองกับหญิงสาว
วิคตอเรียกอดอกมองคนตรงหน้าอย่างชั่งใจก่อนจะวิ่งเข้าไปใกล้ร่างห่อผ้าห่มอีก
“เห้ยๆๆๆ”เขาร้องเสียงหลงพร้อมกับเปิดประตูวิ่งออกไปด้านนอก
โธ่…พ่อคุณ ทำเหมือนเธอจะไปพรากบริสุทธ์เขาอย่างนั้นแหละ
หญิงสาวหันหลังกลับตรงไปยังตู้เสื้อผ้า เธอเปิดมันออกและหยิบชุดพื้นเมืองที่แขวนเรียงรายออกมาหนึ่งชุดพร้อมกับเดินตามชายหนุ่มออกไปด้านนอก
“ฮาฟิซ! นั่นผ้านวมนะ!”เธอหวีดร้องเมื่อเห็นชายหนุ่มยืนกอดผ้ามองเธออย่างไม่ไว้ใจข้างๆทีวีเครื่องยักษ์
พั่บ!
เธอเหวี่ยงของในมือไว้บนโซฟารับแขกตัวยาวก่อนจะชี้นิ้วให้อีกฝ่ายได้เห็น
“นั่นมันผ้านวม ฮาฟิซคุณหยุดทำอะไรที่มันเว่อร์ไปหน่อยเลย ฉันไม่จับกดคุณข่มขืนหรอก!!”เธอเอ่ยย้ำเมื่อเห็นอีกฝ่ายยังคงยืนนิ่ง
เหมือนจะได้ผล ฮาฟิซปล่อยผ้านวมกองแทบเท้าก่อนจะหยิบเสื้อแขนยาวตัวบางสีขาวบนโซฟาสวมใส่อย่างเร่งรีบ
วิคตอเรียกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น สมควรแล้วที่เขาจะกลัวเรื่องที่จะโดนข่มขืน
เขามีหุ่นที่เพอเฟ็คมากถึงมากที่สุด หน้าท้องแข็งแกร่งไร้ซึ่งไขมัน มีเพียงกล้ามเนื้อที่เรียงกันอย่างเป็นระเบียบ หน้าอกเขามีไรขนหนาเรียงยาวกันเป็นแพ ที่เธอได้รู้อีกอย่างคือตั้งแต่คอลงมามันคนละสีกับมือและใบหน้าของเขา
แหม…ซ่อนรูปซะด้วย
------------------------------------------------------
สวัสดีค่ะรีดเดอร์ทุกท่าน (TTwTT)\\
กี้เเอบเเวปมาหาเเปปนึงง ทนความคิดถึงไม่ไหว (>\\\\\\<)\\
หลังจากหมดอาทิตย์นี้ไปก็หยุดยาวเเล้วค่ะ
ถ้าไม่ได้ไปเที่ยวไหนรับรองมีเวลาเหลือเฟือ 55555\\
กี้ไปก่อนนะคะ (*o*)\\
รักรีดเดอร์ทุกท่านค่ะ
วิคตอเรียหัวเราะคิกคักกับตนเองเมื่อเทียบตัวเลขที่ติดอยู่บนประตูไม้กับคีย์การ์ดในมือแล้วมันตรงกัน เธอจัดแจงเสื้อผ้าหน้าผมให้เข้าที่ แต่ก่อนที่จะได้รูดการ์ดเข้าไปสำรวจในห้องแล้วร่างบางก็หยุดชะงักการกระทำไปดื้อๆ
“เกิดสาวๆในห้องรุมตบฉันละ”เธอบ่นงึมงำพร้อมกับดวงตาสีฟ้าที่เบิกกว้าง
“ตาคู่หมั้นสุดที่รักคงช่วยแน่ๆเลย”หญิงสาวปรือตาหวีดร้องเบาๆ
“ช่วยพวกนั้นตบฉันสิไม่ว่า”
ร่างบางเดินวนไปวนมาพร้อมกับครุ่นคิดอะไรบางอย่าง โดยปกติแล้วทุกคนย่อมต้องการความเป็นส่วนตัว แล้วนี่เขาอยู่ในห้อง…ก็ย่อมต้องการความเป็นส่วนตัวแน่ๆ ถึงแม้เธอจะเป็นคู่หมั้นก็เถอะนะ
เสียงหวานหัวเราะขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะรูดคีย์การ์ดในมือ
‘I don’t care’
ดวงตาสีฟ้ากระพริบตาเพื่อให้ชินกับความมืดตรงหน้า แสงจากภายนอกพอให้เธอเห็นทางเดินเข้าไปสู่ใจกลางห้องอยู่ลางๆ เธอรีบจดจำมันไว้ในหัวก่อนจะค่อยๆปิดประตูอย่างเบามือที่สุด
สมองของเธอรันภาพยิ่งกว่าคอมพิวเตอร์เสียอีก เธอใช้มือคลำไปตามกำแพงจนสุดท้ายก็หยุดอยู่ที่สิ่งของที่ต้องการ
แกร่ก!
มือบางกดที่สวิซท์โคมไฟตั้งพื้น แสงสว่างสีส้มอ่อนๆกระจายไปทั่งห้อง หญิงสาวยกมือทาบอกพร้อมกับถอนหายใจ ยังดีที่คนในห้องยังไม่รู้ตัวว่ามีแขกมาเยี่ยมเยียน
ใจกลางเป็นห้องรับแขก มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันรวมถึงโต๊ะอาหารด้วย และห้องอีกห้องห้องก็แบ่งออกไปเป็นสัดส่วนได้แก่ห้องนอนและห้องน้ำ
หญิงสาวยิ้มกว้างเมื่อห้องของชายหนุ่มจัดเหมือนห้องของเธอเป๊ะ แถมยังอยู่ฝั่งเดียวกันอีก ไม่ต้องรอให้เสียเวลาร่างบางก็เดินดิ่งตรงไปยังประตูไม้ที่ปิดไว้ทันที
‘ทายซิใครเอ่ย…’เธอนึกถึงคำพูดนี้ในใจพร้อมกับเปิดประตูอย่างเบามือ
หมับ!
“กรี๊ดดด!!”
ปัง!
“โอ้ย!”
ดวงตาสีฟ้าเบิกโพล่ง เหตุการณ์ทุกอย่างมันกะทันหันเสียใจเรียบเรียงไม่ทัน เธออ้าปากพะงาบก่อนจะใช้สองมือประคองศีรษะตนเองก่อนจะลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล พลันก็มีเงาตะคุ้มร่างใหญ่ใช้มือหนากดเข้าที่ไหล่ของเธอและวินาทีนั้นเธอก็รู้สึกถึงน้ำหนักหลายพันกิโลกรัมเพิ่มขึ้นที่หน้าท้อง
ให้ตายเถอะ…เธอไม่ได้ตาฟาด เธอเห็นสิ่งแวววาวคล้ายเครื่องเงินผ่านหน้าไป
การทายซิใครเอ่ย…มันเปลี่ยนเป็นทายซิอะไรเอ่ยไปเสียแล้ว!
สิ่งของเย็บเฉียบนั่นมาหยุดที่คอเล็กๆของเธอ เธอพยายามขัดขืนด้วยการลุกขึ้นแต่ความแหลมคมของมันไม่ใช่เรื่องตลกเลยซักนิด
โอเคได้คำตอบแล้ว มันคืออะไร
บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบงัน มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่ดังหึ่มๆเท่านั้น
เธอเรียบเรียงเหตุการณ์เมื่อยี่สิบวินาทีที่แล้วพลางใช้สองมือที่สั่นเทากุมศีรษะตัวเองแน่น ความร้อนผ่าวแล่นขึ้นขอบตา
ไอ้เวรนี่…เหวี่ยงหัวเธอกระแทกขอบเตียง
เกิดมาพึ่งเคยโดนเหวี่ยงลงเตียงโดยชายหนุ่มเหมือนในหนังสือครั้งแรก แต่ผลที่ออกมาเธอจะจำไม่มีวันลืมโดยเด็ดขาด
จำไว้อย่าเอามาเทียบกับชีวิตจริง…หัวเกือบแตก
ถ้าก่อนเลือดคลั่งในสมองตายเธอมีแค่สองคำอยากจะบอกกับผู้กระทำการครั้งนี้ว่า…
‘ไอ้โง่!!!’
เธอสูดน้ำมูกเข้าไปหลายทีพร้อมกับลดมือลงมาปาดน้ำตา
ไม่ได้กลัว…แต่เจ็บหัว
ร่างหนาขยับไปมาหลายทีแต่ก็ไม่ได้เอามีดออกจะคอเธอซักนิด ซ้ำเขายังกดมันแรงขึ้นกว่าเดิมอีกต่างหาก เธอจับหัวนอนแน่นิ่งปล่อยให้ชายหนุ่มใช้ปลายมีดลูบไล้คอเธอไปมาอย่างน่าหวาดเสียว
ความจริงแล้วก็กลัว…แต่ตอนเด็กๆเธอชอบหนีพวกพี่เลี้ยงตลอดเลยโดนจับตัวไปเรียกค่าไถ่อยู่หลายครั้งเหมือนกัน เอาเป็นว่ามีด ปืน เชือก เทปกาว มันไม่ใช่สิ่งที่เธอกลัวซักนิด
เอางูเห่ามาจ่อคอสิ แบบนี้ค่อยว่าไปอีกอย่าง
ชายหนุ่มส่งเสียงคำรามในลำคอเมื่ออีกฝ่ายยังคงนิ่งเงียบ เขาไม่ใช่พวกประเภทฆ่าโดยไร้เหตุผล ยิ่งโดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าคนใต้ร่างเป็นผู้หญิงด้วยแล้ว เธอผู้นี้ต้องการอะไร!
เขาเอามีดออกวางไว้ข้างตัว เสียงถอนหายใจดังออกมาจากคนในร่าง มือหนาจึงตรึงเขาที่ลำคอของอีกฝ่ายทันที
ไม่ใช่ว่าไม่เคยฆ่าผู้หญิง…พวกมือสังหารจำนวนไม่น้อยที่ถูกส่งมาล้วนแต่เป็นหญิงสาวหน้าตาสละสวยรูปร่างผอมบาง แต่เมื่อผู้หญิงเหล่านั้นหมายจะปองร้ายผู้เป็นเจ้านาย เขาก็เอาพวกหล่อนไว้ไม่ได้เช่นกัน
“แค่กๆๆ”มือบางระดมตีแขนแข็งแรงของชายหนุ่มเมื่อรู้สึกถึงแรงกดมากไป
“แกเป็นใคร”เสียงทุ้มเอ่ยดุดัน แม้จะจะไม่เสียงดังเหมือนตะโกนแต่มันก็กังวานไปทั่วห้อง
“พูดภาษาอังกฤษสิโว้ย!”เธอหวีดร้องเป็นภาษาบ้านเกิด โดยที่มือก็ยังไม่หยุดการทุบตีจิกข่วนแขนแข็งแรงตรงหน้า
“พูดเป็นมั้ยอังกฤษน่ะ ฉันรู้แกสามารถพูดได้ฟังออก ดังนั้นขอร้องแกอย่ามากวนประสาทฉัน!”
ชายหนุ่มนิ่งงันไปกับน้ำเสียงของหญิงสาว เหมือนกับว่าเขาเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนอย่างนั้น
มือหนาคลายแรงรัดออกพร้อมกับเอื้อมไปเปิดโคมไฟเล็กบนหัวเตียง
แม้แสงจะมีไม่มากแต่ก็สามารถทำให้เห็นทุกอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น รวมถึงร่างบางของหญิงสาวใต้ร่างที่นอนขมวดคิ้วไม่สบอารมณ์อยู่เช่นกัน
“เห้ย!!!”
ฮาฟิซเบิกตากว้างรีบเด้งตัวออกจากร่างของหญิงสาวราวกับที่เขาสัมผัสอยู่นั้นมันเป็นของร้อน ร่างหนาถลาไปที่สวิซท์ไปหลักในห้องพร้อมกับใช้มือตบเข้าไปอย่างไม่รีรอ
“เห้ย!!”
“เห้ย!!”เสียงทุ้มยังร้องไม่หยุด
วิคตอเรียยันตัวขึ้นมาพร้อมกับกำมือขึ้นเหนือศีรษะ
“กรี๊ด!!!”เธอวีดร้องก่อนจะหยิบหมอนใบโตปาใส่ชายหนุ่ม
“คุณวิคตอเรีย!”เสียงทุ้มตื่นตระหนก
หญิงสาวลืมตาขึ้นมา คำพูดที่เตรียมด่าคู่หมั้นยามเป็นหางว่าวในหัวของเธอ แต่เมื่อดวงตาสีฟ้าได้เห็นชายหนุ่มเปลือยท่อนบทที่ยืนอ้าปากค้าง คำพูดทั้งหมดก็ถูกกลืนหายในลำคอทันที!
“กรี๊ด!!!”เธอวีดร้อง สองมือที่เคยทุบอากาศเปลี่ยนมาแนบแก้มทั้งสองแทน
“คุณวิคตอเรีย!”
ฮาฟิซรู้สึกถึงความเย็นที่กระทบผิวหนังได้ทุกอณูขุมขน มือหนาจึงเอื้อมไปดึงผ้าห่มบนเตียงขึ้นมาปิดท่อนบนของตน ใบหน้าหล่อเหลาขึ้นสีระเรื่อพร้อมกับเสมองไปทางอื่นเมื่อเห็นอีกฝ่ายอยู่ในชุดที่ไม่เหมาะสมเช่นกัน
เสื้อเชิ้ตบางๆของเธอกระดุมหลุดเปิดออกทั้งแทบ เผยให้เห็นผ้าสีแสบตาตัวจิ๋วที่โอบอุ้มทรวงอกเต่งตึงทั้งสองได้ชัดเจน ผิวขาวผ่องเรียบเนียนเสมอกันและหน้าท้องแบนราบนั่น เชื่อเถอะไม่ใช่แค่เขา…แต่มันเรียกลมหายใจขาดห้วงได้จากชายหนุ่มได้ทุกคน
ให้ตายเถอะ ให้ตาย ให้ตาย!!
วิคตอเรียมองปฏิกิริยาของชายหนุ่มที่ยืนขดตัวอยู่ชิดประตู เขานำผ้าห่มห่อพันร่างกายราวกับคิดว่าตัวเองเป็นมัมมี่ อีกทั้งใบหน้านั่นก็ยังขึ้นสีระเรื่อไม่ยอมสบตา เธออ้าปากกว้างก่อนจะก้มลงมองสภาพตัวเอง
เอ่อ…ที่จริงนั่นมันน่าจะเป็นอาการของเธอไม่ใช่เหรอ
“คุณวิคตอเรียไปใส่กางเกงก่อนได้รึเปล่าครับ ไว้ผมค่อยถามคุณว่าเกิดอะไรขึ้น”น้ำเสียงของเขาสั่นพร่า
“กรี๊ด!!”
ชายหนุ่มหันไปตามเสียงร้องของหญิงสาวก่อนที่จะต้องผงะแล้วร้องออกมาไม่ต่างจากเธอ
“เห้ย!!”
ร่างบางลุกยืนบนเตียงพร้อมกับถลกเสื้อเชิ้ตขึ้นโชว์กางเกงขาสั้นภายในก่อนจะก้มลงหยิบหมอนอีกใบเหวี่ยงไปที่ร่างมัมมี่ข้างประตูสุดแรง
“ใส่อยู่นี่ไง!”
“ท่านอัลลัยล์ไม่อยู่ครับ!”เขาตัดบทก่อนจะเขยิบร่างของตนไปที่ตู้เสื้อผ้าอีกฝั่ง
“ฉันไม่ได้ถาม!”
ร่างบางถลาลงจากเตียงวิ่งไปขวางหน้าชายหนุ่ม เธอใช้สองมือผลักร่างหนาสุดแรงจนเขาเซถอยหลังไปหลายก้าว
“ถอยออกไปเลยนะครับ! มันไม่เหมาะสม”เขาเอ่ยเตือนพร้อมกับเพิ่มระยะห่างของตนเองกับหญิงสาว
วิคตอเรียกอดอกมองคนตรงหน้าอย่างชั่งใจก่อนจะวิ่งเข้าไปใกล้ร่างห่อผ้าห่มอีก
“เห้ยๆๆๆ”เขาร้องเสียงหลงพร้อมกับเปิดประตูวิ่งออกไปด้านนอก
โธ่…พ่อคุณ ทำเหมือนเธอจะไปพรากบริสุทธ์เขาอย่างนั้นแหละ
หญิงสาวหันหลังกลับตรงไปยังตู้เสื้อผ้า เธอเปิดมันออกและหยิบชุดพื้นเมืองที่แขวนเรียงรายออกมาหนึ่งชุดพร้อมกับเดินตามชายหนุ่มออกไปด้านนอก
“ฮาฟิซ! นั่นผ้านวมนะ!”เธอหวีดร้องเมื่อเห็นชายหนุ่มยืนกอดผ้ามองเธออย่างไม่ไว้ใจข้างๆทีวีเครื่องยักษ์
พั่บ!
เธอเหวี่ยงของในมือไว้บนโซฟารับแขกตัวยาวก่อนจะชี้นิ้วให้อีกฝ่ายได้เห็น
“นั่นมันผ้านวม ฮาฟิซคุณหยุดทำอะไรที่มันเว่อร์ไปหน่อยเลย ฉันไม่จับกดคุณข่มขืนหรอก!!”เธอเอ่ยย้ำเมื่อเห็นอีกฝ่ายยังคงยืนนิ่ง
เหมือนจะได้ผล ฮาฟิซปล่อยผ้านวมกองแทบเท้าก่อนจะหยิบเสื้อแขนยาวตัวบางสีขาวบนโซฟาสวมใส่อย่างเร่งรีบ
วิคตอเรียกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น สมควรแล้วที่เขาจะกลัวเรื่องที่จะโดนข่มขืน
เขามีหุ่นที่เพอเฟ็คมากถึงมากที่สุด หน้าท้องแข็งแกร่งไร้ซึ่งไขมัน มีเพียงกล้ามเนื้อที่เรียงกันอย่างเป็นระเบียบ หน้าอกเขามีไรขนหนาเรียงยาวกันเป็นแพ ที่เธอได้รู้อีกอย่างคือตั้งแต่คอลงมามันคนละสีกับมือและใบหน้าของเขา
แหม…ซ่อนรูปซะด้วย
------------------------------------------------------
สวัสดีค่ะรีดเดอร์ทุกท่าน (TTwTT)\\
กี้เเอบเเวปมาหาเเปปนึงง ทนความคิดถึงไม่ไหว (>\\\\\\<)\\
หลังจากหมดอาทิตย์นี้ไปก็หยุดยาวเเล้วค่ะ
ถ้าไม่ได้ไปเที่ยวไหนรับรองมีเวลาเหลือเฟือ 55555\\
กี้ไปก่อนนะคะ (*o*)\\
รักรีดเดอร์ทุกท่านค่ะ

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 ก.ย. 2555, 19:00:16 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 ก.ย. 2555, 19:00:16 น.
จำนวนการเข้าชม : 10756
<< บทที่สิบหก วาบหวาน 50% | บทที่สิบเจ็ด ผู้ชายตาสีน้ำทะเล 50% >> |

wii 26 ก.ย. 2555, 19:53:40 น.
ยัยวิกตอเเร่ดจอมวีนน่าจะโดนปลํ้าหรือไม่ก็ปลํ้าบอร์ดี้การ์ดของคู่หมั้นซะเลยจะใด้หมดเรื่องหมดราวไป
ยัยวิกตอเเร่ดจอมวีนน่าจะโดนปลํ้าหรือไม่ก็ปลํ้าบอร์ดี้การ์ดของคู่หมั้นซะเลยจะใด้หมดเรื่องหมดราวไป

mhengjhy 26 ก.ย. 2555, 20:39:22 น.
โอ๊ะ พบเนื้อคู่ซะแล้วววว
โอ๊ะ พบเนื้อคู่ซะแล้วววว
