หัวใจหลงเงา(จบแล้วค่ะ)
เมื่อสาวน้อยสุดเชยราวกับหลงมาจากยุคโบราณพบจุดเปลี่ยนจนต้องลุกขึ้นมาปรับภาพลักษณ์ใหม่หมด จากยายสุดเฉิ่มเป็นสาวน้อยสวยใสสไตล์วินเทจ

เพียงเธอเริ่มเปลี่ยนลุคใหม่ก็ไปเข้าตานักร้องหนุ่มวงบอยแบนด์แสนเจ้าชู้ ที่ตามจีบเป็นว่าเล่น เรื่องคงไม่ชุลมุนขนาดนี้เพราะแต่ละคนที่มาจีบล้วนมีเบื้องหลังไม่น่าไว้วางใจจนพี่ชายต่างสายเลือดชื่อ 'ต้นสัก' ที่แอบรักเธอมานานต้องคอยตามดูแล กันท่าสารพัด จนเธอรอดเงื้อมมือนักร้องมาได้

แต่เธอหลงรักพี่ชายคนนี้ เข้าอย่างจัง ทั้งที่ความจริงในตอนหลังเปิดเผยว่าเขาเป็นลูกพ่อเดียวกันกับเธอ!

แล้วบัวบูชาต้องทำเช่นไร ในสถานการณ์กระอักกระอ่วนสุดแสนหักมุมเช่นนี้

Tags: อดีตสาวน้อยสุดเชยกับวงบอยแบนด์และพี่ชายสุดที่รัก

ตอน: ตอนที่ 8

บทที่ 8


“แบบนี้มันดูถูกกันชัดๆ นี่หว่า ถึงแกจะเชย แล้วมันหนักหัวใครล่ะ” พิมพ์ชนกพูดสวนขึ้นมาทันทีที่บัวบูชาเล่าเหตุการณ์ในร้านเค้กจบ

“นี่ตกลงแกก็กำลังว่าฉันเชยอีกคนแล้วใช่มั้ย ยายพิม” หญิงสาวถามเจ้าของบ้านที่นั่งอยู่บนโซฟาเดียวกันในห้องนั่งเล่นด้วยน้ำเสียงสูง

“เอ้อ...ก็ไม่เชิงหรอก แต่มันก็มีส่วน ถ้าว่ากันตามจริงแกก็ดูเชยไปนิด แต่ยายนั่นมันใช้คำแรงไป ฉันว่าผู้หญิงที่ชอบแต่งตัวดูเก่าๆ อย่างแกก็น่ารักได้นะ ดัดแปลงนิดนึงก็เป็นแนววินเทจแล้ว แกรู้จักใช่มั้ย แต่งตัวแนววินเทจน่ะ กำลังนิยมออกจะตาย เสื้อผ้ามันก็คล้ายๆ เสื้อผ้าย้อนยุคที่แกใส่เนี่ยแหละ แต่ต้องปรับแต่งนิดนึง อืม เอาเป็นว่าเรื่องแบบนี้ฉันเองก็ไม่ค่อยถนัด สงสัยต้องปรึกษากูรูแล้วละ”

“กูรูไหน” บัวบูชาสวนกลับทันทีด้วยความอยากรู้

“ก็อีอ้น เพื่อนข้างบ้านฉันไง สนิทกับฉันมาตั้งแต่เด็ก เดี๋ยวนี้มันเปลี่ยนชื่อเป็นโอโนโน่แล้ว แกเคยเจอหลายหนอยู่นะ พอจะจำมันได้มั้ย นังนี่มันไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัย จบแค่มอหก แล้วไปทำงาน เอาดีทางเป็นสไตลิสต์ให้นิตยสาร มันเก่งทั้งเรื่องเสื้อผ้า หน้าผม ครบอยู่ในตัวเดียวเลย”

“คน ไม่ใช่ ตัว” คนฟังยังอุตส่าห์แย้งขึ้นมาเบาๆ แต่พิมพ์ชนกก็ไม่สนใจ ยังคงเล่าต่อ
“แล้วตอนนี้มันดังใหญ่แล้ว บังเอิญผลงานแรกๆ ไปเข้าตานิตยสารผู้หญิงอันดับหนึ่งของเมืองไทย เค้าก็เลยดึงตัวไปทำที่นั่น รุ่งเลยล่ะแก แต่มันยังพักอยู่กับแม่ของมัน บ้านติดกับบ้านฉันเหมือนเดิม ช่วงนี้ยังพอจะหาโอกาสไปเจอมันได้ แต่ถ้ามันดังเก็บตังค์ได้มากกว่านี้ฉันว่ามันต้องย้ายไปอยู่คอนโดฯ หรูๆ แหงเลย เราเดินไปหามันตอนนี้เลยดีมั้ย” พิมพ์ชนกชักชวนพร้อมฉุดแขนเพื่อนให้ลุกขึ้นจากโซฟาด้วยความใจร้อน

“แกรู้ได้ไงว่าอ้นอยู่บ้านตอนนี้น่ะ” บัวบูชายังถนัดเรียกชื่อเดิมของชายใจหญิงมากกว่า

“นั่นไง รถเก๋งสีเขียวปี๋ ป้ายแดงของมันจอดในโรงรถ รับรองมันอยู่แน่ เดี๋ยวนี้มันไม่นั่งรถเมล์แล้ว ไปกันเลยนะบัว อ้อ! แล้วขอย้ำนะยะ ถ้าแกอยากให้นังโอโนโน่ช่วยแก อย่าเรียกมันว่าอ้นเป็นอันขาด มันไม่ปลื้ม รู้มั้ย”

“เออๆ ฉันจะลืมชื่อเก่านั่นไปเลย”

พิมพ์ชนกคว้าข้อมือเพื่อน เดินออกไปจากบ้านตัวเองแล้วตรงไปกดออดหน้าบ้านติดกัน พักเดียวร่างผอมบางในชุดกางเกงยีนขาสั้นโชว์เรียวขากับเสื้อกล้ามรัดรูปสีเขียวสะท้อนแสงก็เดินออกมาเปิดประตูรั้วต้อนรับ

“อ๊าย! เข้ามาเลยย่ะ ฉันกำลังเหงาอยู่พอดี แม่ฉันกับหม่าม้าของพิมพากันไปเข้าวัด กำลังนึกจะเดินไปหาแกพอดี ต๊าย! นี่บัวมาได้ไง แล้วคุณนมเป็ดไม่ตามมาเหรอวันนี้”

บัวบูชาฟังคำทักทายยาวๆ นั่นแทบไม่รู้เรื่อง เพราะมัวแต่อ้าปากค้างกับรูปลักษณ์ใหม่ของโอโนโน่ ใบหน้าของสาวประเภทสองคนนี้เปลี่ยนไปจากครั้งสุดท้ายที่เห็นมาก จมูกดูโด่งขึ้น ปลายคางมีเนื้อมากขึ้น แล้ว...หน้าอกก็ใหญ่ขึ้นด้วย

“ไงยะ ถามไม่ตอบนะ ตกตะลึงในความงามของฉันละซี้ ขอบอกนะ ว่านี่คือโอโนโน่นิวลุคแล้วย่ะ ฉันทำงาน มีเงินก็ค่อยๆ เสริมแต่งไป ในยามนี้รับรองว่าไม่แพ้ชะนีหน้าไหนทั้งสิ้น พวกหล่อนมีอะไรฉันก็มีหมดย่ะ” คนพูดก้มมองเนินอกล้นหลามของตัวเอง ต่อด้วยการเชิดหน้าโชว์สันจมูกโด่งเป็นแท่ง

“นั่นสิ โอโนโน่ เธอสวยขึ้นจนฉันพูดไม่ออกเลย จะบอกว่านมเป็ดไม่ตามฉันไปทุกที่เหมือนแต่ก่อนแล้ว” บัวบูชาได้สติ รีบชวนคุย

“ตอนนี้ยายบัวเป็นอิสระแล้วล่ะโอโนโน่ ตั้งแต่คุณพ่อคุณแม่เสีย ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป และที่ฉันพาบัวมาวันนี้ก็เพราะมีเรื่องอยากให้แกช่วย” พิมพ์ชนกตัดเข้าเรื่องทันที

“ฉันเนี่ยนะ ต้องไปช่วยสาวไฮโซอย่างคุณหนูบัว ฉันจะช่วยอะไรได้ยะนังพิม” โอโนโน่กรีดนิ้วชี้ที่ไว้เล็บยาวสวยขึ้นมาชี้หน้าตัวเอง

“ช่วยได้สิ แกถนัดด้วยล่ะ ช่วยแปลงโฉมให้ยายบัวทีสิ ไม่ถึงขั้นต้องเปลี่ยนลุคก็ได้ ก็แค่ให้ดูดีขึ้นหน่อย ในสไตล์เดิมๆ ของเจ้าหล่อนน่ะ” พิมพ์ชนกออกปากไปตามตรง ขณะเดินตามโอโนโน่เข้ามานั่งในห้องนั่งเล่นซึ่งมีโซฟาตัวยาวตั้งอยู่ตัวเดียว ตรงข้ามเป็นจอทีวีที่ตอนนี้ปิดอยู่

“นึกยังไงถึงอยากแปลงโฉม บอกมาก่อน ฉันจะได้รู้จุดประสงค์” โอโนโน่ซัก น้ำเสียงจริงจัง

“บอกไปเลยบัว ไม่ต้องปิดบัง” พิมพ์ชนกเชียร์เพื่อนที่กำลังนั่งอ้ำอึ้งอยู่

“คือว่า...ฉันไปแอบได้ยินแฟนของคนที่พ่อแม่หมายมั่นจะให้ฉันแต่งงานด้วย นินทาฉันแบบไม่มีชิ้นดีเลย ว่าฉันเชย เฉิ่ม เอ๊าต์ และอีกสารพัด ฉันรับไม่ได้แล้ว อยากเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น ไม่ต้องถึงกับเปรี้ยวก็ได้ ขอให้ยังเป็นตัวฉัน แต่ต้องดีขึ้น” หญิงสาวย้ำคำ

“ยังเป็นตัวแกเหรอ ไหนลุกยืนซิยะ”

โอโนโน่สั่ง ก่อนจะจับร่างบางของบัวบูชาให้ลุกขึ้น แล้วหมุนเธอไปรอบๆ ราวกับจะพินิจพิจารณาทุกส่วนของร่างกาย

“แกเป็นคนสวยมากนะยายบัว จริงๆ แล้วแกสวยกว่าดาราบางคนอีก แต่แกปิดบังความงามสรรพสิ่งด้วยเสื้อผ้าที่โคตรเชย อย่าโกรธนะ ฉันพูดตรงๆ เอาเถอะ ถ้าแกคิดว่ายังอยากเกาะลุคเก่าไว้ ก็ได้ แค่ปรับปรุงเพิ่ม แกก็เริ่ดแล้ว คำเดียวที่วิ่งเข้าหัวฉันตอนนี้คือคำว่า ‘วินเทจ’ ว่ะ อย่างแก มันต้องวินเทจเท่านั้น ก่อนอื่นนะ แกต้องพาฉันไปที่บ้าน ไปดูเสื้อผ้าในตู้ทั้งหมดที่มีก่อน เพื่อเอามาปรับใช้ จะได้ไม่ต้องสิ้นเปลืองไง แล้วนมเป็ดของแกก็พูดไม่ออกด้วย เพราะเสื้อผ้าก็เอาเดิมๆ มาดัดแปลง ก็แค่แกจะสวยขึ้นจนคุณนมของแกยังต้องตะลึง แล้วไอ้ อีที่เคยดูถูกแกไว้ก็ต้องตาค้างด้วย คอยดูสิ!”

สองสาวแท้กับหนึ่งสาวเทียมต่างก็สบตากัน บัวบูชาเห็นความมั่นใจในแววตาของโอโนโน่แล้วก็เกิดความมุ่งมั่นมากขึ้นไปอีก หากได้รับความช่วยเหลือจากคนที่รอบรู้เรื่องการแต่งกาย คงทำให้เธอหลุดพ้นไปจากคำว่า ‘เฉิ่มเชย’ ที่ได้ยินบ่อยๆ เสียที

บัวบูชาพร้อมแล้ว กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่จะเข้ามาในชีวิต ไม่ใช่เพื่อตอกหน้าใครบางคนเท่านั้น แต่เพื่อการก้าวไปข้างหน้ากับสิ่งแปลกใหม่น่าตื่นเต้นในชีวิตอีกด้วย

______________________________________________________________


คฤหาสน์อัครบดีศักดิ์สีขาวที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าคงทำให้โอโนโน่ตกใจไม่น้อย บัวบูชาต้องอมยิ้มเมื่อเห็นว่าเจ้าหล่อนโผไปเกาะแขนพิมพ์ชนกแน่น เดินตามเข้ามาในบ้านอย่างหวาดๆ

“ฉันก็วาดภาพไว้อยู่นะ ว่าบ้านบัวต้องใหญ่โตมาก แต่ฉันไม่ได้วาดไว้ว่ามันจะใหญ่ขนาดนี้ นี่มันวังชัดๆ เกร็งจนก้าวขาไม่ออกแล้วเนี่ย” โอโนโน่บ่นออดๆ

“ไม่ต้องมาฟอร์มเลยนังโอโนโน่ อย่างแกเนี่ยนะ เกร็งเป็นด้วยเหรอ” พิมพ์ชนกต่อคำทันทีขณะเดินเข้ามาถึงห้องรับแขก

“ก็แกเคยมาที่นี่แล้ว แต่ฉันไม่เคยนี่ยะยายพิม คือ...แกต้องเข้าใจนะ ว่าบ้านมันใหญ่ อลังฯ มาก แล้วอีกเดี๋ยวฉันก็ต้องเจอหน้านมเป็ดที่เคยได้ยินแต่ชื่อมานานด้วย จะดุเฮี้ยบแค่ไหนก็ไม่รู้ ฉันป๊อดว่ะ รู้งี้ให้บัวขนเสื้อผ้าไปให้ฉันดูที่บ้านจะสะดวกกว่า”

“โน่นแน่ะ นมเป็ดมาพอดี สวัสดีค่ะ คุณนม” พิมพ์ชนกยกมือไหว้นอบน้อมอย่างคนคุ้นเคย รู้หมดแล้วว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ในขณะที่โอโนโน่กลับเงอะๆ งะๆ ทำอะไรแทบไม่ถูก

“สวัสดีจ้ะหนูพิม อ้าว! แล้วนั่นใครล่ะ นมไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย” นมเป็ดชะโงกหน้าไปมองโอโนโน่ที่ยืนหลบอยู่หลังพิมพ์ชนก

“อ๋อ นี่อ้น...เอ้อ...โอโนโน่ เพื่อนข้างบ้านพิมเองค่ะคุณนม” พิมพ์ชนกแนะนำพร้อมลากแขนโอโนโน่ให้มายืนข้างๆ กัน

“บัวชวนสองคนนี่มาเที่ยวบ้าน อยากให้โอโนโน่มาช่วยสอนแต่งตัวให้ดูดีขึ้นน่ะค่ะนมเป็ด” บัวบูชาเอ่ยแทรกขึ้นมา เธอตรงเข้าไปเกาะแขนคุณนมอย่างประจบ

“คุณหนูบัวก็ดูดีอยู่แล้วนะคะ ทำไมต้องให้ใครๆ มาสอนแต่งตัวด้วย” คิ้วที่ถูกกันจนเรียวของนมเป็ดขมวดเข้าหากัน

“โอโนโน่ไม่ใช่แค่ ‘ใครๆ’ นะคะนม เธอเป็นสไตลิสต์ประจำนิตยสารชื่อดังอันดับหนึ่งของเมืองไทย เป็นเพื่อนสนิทของพิม เธออยากช่วยบัว ไม่ให้ต้องโดนแฟนพี่ภูดูถูกน่ะค่ะ”

“ต๊าย! คุณหนูบัวพูดใหม่อีกทีซิคะ ใครบังอาจดูถูกคุณหนูบัวของนม” นมเป็ดตะโกนถามลั่นบ้าน ไม่นึกไม่ฝันว่าหญิงสาวผู้เพียบพร้อมที่นางเลี้ยงมากับมือจะโดนใครดูถูก
“บัวไปเจอพี่ภูควงสาวสวยเปรี้ยวที่ร้านเค้ก ที่สำคัญ สองคนช่วยกันนินทาบัวลับหลัง ว่าบัวแต่งตัวเชย เฉิ่ม ไร้รสนิยม บัวโมโหจนทนไม่ไหว ไปคุยกับยายพิม ยายพิมแนะนำให้ปรึกษาโอโนโน่ เธอช่วยบัวได้แน่ และบัวก็เชื่อว่าต้องเป็นไปได้ บัวจะไม่ยอมให้ใครมาดูถูกกันอีกแล้วนะคะนมเป็ด” น้ำเสียงของบัวบูชามาดมั่น เฉียบขาดจนนมเป็ดต้องรีบพยักหน้ารับ

“แต่ คุณหนูบัวแน่ใจเหรอคะ ว่าผู้หญิงที่ว่าน่ะ เป็นแฟนคุณภูวดลจริงๆ” หญิงกลางคนถาม สีหน้าไม่สบายใจ

“แน่ยิ่งกว่าแน่ นั่งนัวเนียกันตลอดเวลา แถมนินทาบัวลับหลังแบบนี้บัวไม่ชอบนะคะ”

“เดี๋ยวนมจะโทร. ไปฟ้องคุณพ่อคุณแม่ของคุณภูเอง ผู้ใหญ่อุตส่าห์หมายมั่นกันไว้ตั้งแต่คุณหนูบัวยังเด็ก พอคุณท่านจากไปคุณภูก็มาออกลาย แบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน” นมเป็ดบอกเสียงเข้ม ตั้งท่าจะเดินไปยังแป้นวางโทรศัพท์ที่อยู่ไม่ไกล

“อย่าเลยค่ะนมเป็ด บัวขอร้องล่ะ บัวตั้งใจจะตัดขาดแบบไร้เยื่อใยเลย คอยดูสิ นึกว่าบัวจะหลงเสน่ห์เหมือนสาวๆ คนอื่นรึไง ที่ผ่านมาบัวก็แค่คิดแบบพี่ชาย แต่นี่ไม่ไหวแล้ว ไม่อยากคบ ไม่ว่าจะฐานะอะไรทั้งนั้น นมไม่ต้องไปพูด ไปอะไรนะคะ เงียบๆ กันไปเลย บัวบอกก่อนว่าถ้าเขามาหาก็จะไม่ยอมให้พบ ไม่คุยด้วยแล้ว เป็นตายยังไงบัวก็ไม่แต่งงานกับผู้ชายคนนี้แน่” หญิงสาวสั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด มั่นใจว่านมเป็ดไม่กล้าขัดใจเธอแน่

“ค่ะคุณหนูบัว อย่าคิดมากนะคะ ทูนหัวของนม”

โอโนโน่ทำหน้าปูเลี่ยนกับคำศัพท์แปลกๆ แสนเก่าที่ไม่คิดว่าจะมีคนยุคปัจจุบันนำมาใช้ บัวบูชารีบตัดบท

“งั้นบัวขอพาเพื่อนขึ้นไปดูชุดบนห้องนะคะ”

“เดี๋ยวนมจะให้ป้าสายเอาของว่างไปให้ทานบนห้องนะคะ วันนี้ทำสาคูไส้หมูค่ะ ของโปรดคุณหนูบัว”

“ค่ะ ขอบคุณนะจ๊ะนม พวกเราขึ้นไปบนห้องฉันกันเถอะ”

บัวบูชาเดินนำพิมพ์ชนกและโอโนโน่ขึ้นบันไดวนราวทำจากทองเหลืองที่อยู่กลางบ้าน มุ่งสู่ห้องนอนอันกว้างใหญ่บนชั้นสอง ทันทีที่บานประตูห้องปิดลงโอโนโน่ก็เอ่ยเสียงดังลั่น

“ฉันจะเป็นลม ทำไมไม่มีใครบอกฉันก่อนว่าบ้านคุณหนูบัวใหญ่โตโอ่โถง น้องๆ พระราชวังอย่างนี้ ดูห้องนอนสิ แน่ใจนะว่าห้องนอนของคนๆ เดียว กว้างจะเท่าๆ บ้านฉันทั้งหลังอยู่แล้วเนี่ย โอ๊ย! นี่ถ้าฉันรวยแบบแกนะ ไม่มาขอร้องเพื่อนให้ช่วยกันแต่งตัว เปลี่ยนลุคหรอก สู้ไปจ้างดีไซเนอร์มือหนึ่งมาออกแบบชุด แล้วก็จ้างช่างทำผมแต่งหน้าดีๆ มาช่วยไม่ดีกว่าเหรอ แกว่ามั้ยพิม” โอโนโน่บอกพร้อมเดินสำรวจห้องนอนสีชมพูกลีบกุหลาบของบัวบูชา เบิกตาโตร้องอู้หู อ้าหา ตลอดเวลา

“ฉันรู้ใจยายบัวดี ไม่มีทางหรอกที่จะยอมวุ่นวายขนาดนั้น บัวมันแค่อยากเปลี่ยนอะไรเล็กๆ น้อยๆ แค่อยากดูดีขึ้น ไม่ได้อยากสวยเริด ฉันคิดถูกใช่ไหมบัว” คนพูดนั่งลงบนโซฟานุ่มที่ตั้งอยู่ปลายเตียง

“ใช่เลยจ้ะ โอโนโน่แค่ช่วยดู ปรับเสื้อผ้าเดิมๆ ให้ดูดีขึ้น ฉันมิกซ์แอนด์แมชไม่ค่อยเก่ง อีกอย่างหนึ่ง ถ้าเป็นไปได้อยากให้เพื่อนๆ ช่วยสอนฉันแต่งหน้าบ้าง เอาแบบอ่อนๆ ธรรมชาติน่ะ ทุกวันนี้ฉันใช้แต่แป้งเด็กกับลิปกรอสเท่านั้นเอง”

พูดไปบัวบูชาก็นึกถึงใบหน้าสวยเฉี่ยวของยายกีวี ผู้หญิงที่เห็นภูวดลควงในร้านเค้ก สาวสวยคนนั้นดูดีอย่างเหลือเชื่อ ทั้งที่ก็เห็นๆ อยู่ว่าเกิดจากการปรุงแต่งล้วนๆ ขนตาปลอมเป็นแผง ดวงตากรีดด้วยอายไลน์เนอร์จนดูเฉี่ยว ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีชมพูอ่อนใส เห็นแล้วบัวบูชาก็อยากแต่งหน้าเป็นบ้าง แค่เพิ่มสีสันบนใบหน้าสักเล็กน้อยก็ยังดี

“ไอ้เรื่องสอนแต่งหน้าเนี่ย ขอให้บอก เดี๋ยวโอโนโน่จัดให้ แต่ตอนนี้ฉันว่าเรามาเริ่มที่เสื้อผ้าก่อนก็แล้วกันนะ ก่อนอื่นแกช่วยขนเสื้อผ้าในตู้ทั้งหมดออกมาเลยบัว เดี๋ยวฉันจะสอนวิธีเลือกใส่ให้ ส่วนตัวไหนที่มันต้องปรับเรื่องความสั้น ยาว คับ หลวม เราค่อยมาดูกัน ฉันรู้จักช่างฝีมือดี ช่วยแก้ไขเสื้อผ้าให้ได้ งานนี้ไม่สวย ไม่ทันสมัยขึ้นอย่ามาเรียกฉันว่าเพื่อน...โอโนโน่จัดเต็มฮ่า”

สามสาวส่งเสียงหัวเราะประสานกัน มั่นใจว่าผลของการร่วมแรงร่วมใจครั้งนี้ต้องออกมาดีเลิศ เปลี่ยนบัวบูชาจากสาวน้อยแสนโบราณมาเป็นสาวสวยที่แต่งกายแนววินเทจเก๋ไก๋ได้แน่นอน

______________________________________________________________


ต้นสักต้องยอมรับว่าตื่นเต้นไม่น้อยกับคอนเสิร์ตที่ซี แซนด์ ซัน จะขึ้นแสดงในวันนี้ แม้จะยังไม่ได้ขึ้นร้องเพลงในนามของวงเดอะบีช แต่วิษณุก็ส่งเขามาสังเกตการณ์นักร้องทั้งสาม เป็นการชิมลาง จะได้คุ้นเคยกับวิธีจัดการด้านหลังเวทีคอนเสิร์ตทั้งก่อนและหลังการแสดง

จะว่าไปต้นสักสนใจคอนเสิร์ตครั้งนี้อยู่แล้ว ตั้งแต่รู้ว่าเป็นการนำเอาเพลงเก่าของสุนทราภรณ์มาร้องใหม่ โดยนักร้องเอ เอส ทั้งสิบสองคน คงได้บรรยากาศและความรู้สึกแปลกใหม่เมื่อเพลงเก่าถูกนักร้องร่วมสมัยนำมาร้องบนเวทีของศาลาเฉลิมกรุง

ทีมงานของบริษัทพาเขาไปหลังเวทีพร้อมแนะนำให้ซี แซนด์ ซันได้รู้จัก แม้จะตื่นเต้นแค่ไหนที่จะได้ร่วมงานกัน แต่ทุกคนก็ต้องไม่ปริปากความลับเรื่องที่กำลังจะทำวงบอยแบนด์ให้ใครได้รู้ จนกว่าจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ

“นี่พี่ต้นจ้ะ น้องๆ ทั้งสามต้องทำความรู้จักไว้ให้ดีที่สุด ต่อไปเราจะได้ร่วมงานกัน วันนี้พี่ต้นแค่มาร่วมสังเกตการณ์นะคะ”

คุณหนิง เจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องเสื้อผ้าของซี แซนด์ ซัน แนะนำเขาให้นักร้องทั้งสามคนได้รู้จัก สามหนุ่มยกมือไหว้อย่างนอบน้อม สิ่งหนึ่งที่เห็นได้เด่นชัดของเด็กที่ออกมาจากบ้านเอ เอสคือทุกคนมีสัมมาคารวะ เป็นที่น่าเอ็นดูสำหรับผู้ร่วมงานในวงการเดียวกัน

“รายละเอียดเรายังไม่คุยกันตอนนี้นะคะเด็กๆ เอาเป็นว่ารู้จักกันแล้วนะ” คุณหนิงสรุปรวบยอดเมื่อเห็นว่าใกล้เวลาที่ศิลปินจะต้องขึ้นเวทีแล้ว

“พี่ต้นหน้าตาดีมากครับ ผมนึกว่าเป็นนักร้องที่จะมาร่วมแจมบนเวทีซะอีก” แซนด์ สหรัฐออกปากชม ใบหน้าใสของเขาเผยรอยยิ้มที่สาวๆ คลั่งไคล้กันนักหนาว่าน่ารักที่สุด ริมฝีปากบนบางๆ นั้นโค้งขึ้น รับกับริมฝีปากล่างอวบอิ่มสีชมพู บ่งบอกถึงสุขภาพที่ดี

“ปากหวานนะจ๊ะน้องแซนด์ ว่าแต่พร้อมหรือยังวันนี้ เห็นว่าซ้อมหนักมากใช่ไหม” คุณหนิงช่วยจัดชายเสื้อสูทสีขาวกระจ่างที่แซนด์สวมอยู่ให้เข้าที่

“หนักครับพี่หนิง แซนด์ไม่ค่อยถนัดเพลงแนวนี้เลย เพลงที่ต้องร้องก็เพิ่งเคยได้ยินครั้งแรก แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุดครับ” นักร้องหนุ่มหน้าตาราวกับดาราเกาหลีบอกอย่างถ่อมตัว

“แล้วซีล่ะจ๊ะ เป็นไงบ้าง”

คุณหนิงหันไปถามชายหนุ่มใบหน้าคมสันสายเลือดอีสานที่ดูจะเงียบที่สุด เขาส่งยิ้มน้อยๆ ก่อนบอก

“พร้อมครับพี่ ผมได้ร้องเพลงที่คุ้นหูพอดี คิดว่าไม่น่ามีปัญหาครับ” ซี ศิรพลในชุดสูทสีเทาดูงามสง่า ใบหน้าของเขายังคงมีไรหนวดเคราครึ้มอันเป็นลักษณะประจำตัวไปแล้ว

“ดีแล้วจ้ะ อืม แล้วน้องซันล่ะ พร้อมเหมือนกันใช่ไหม” คุณหนิงหันไปถามซัน อาทิตย์ เพื่อไม่ให้น้อยหน้ากัน

“เต็มที่ครับพี่หนิง งานแรกหลังออกจากบ้านเอ เอส ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ” ซันให้คำมั่น ใบหน้าคมไร้แววกังวล แสดงความพร้อมขึ้นเวทีอย่างเต็มที่

“พี่สบายใจแล้ว ทั้งสามคนต้องพยายามดึงแฟนๆ เต็มที่เลยนะจ๊ะ น้องๆ โชคดีมากมีโอกาสดัง อนาคตสดใสกว่าเพื่อนร่วมรุ่น แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวน้องเองด้วย สู้ๆ นะคะ แล้วอย่าลืมว่าเรื่องฟอร์มวง ห้ามบอกใครทั้งสิ้น เป็นความลับสุดยอดนะ” คุณหนิงยังคงย้ำ ทั้งที่รู้ว่ามีข่าวรั่วไหลออกไปมากพอดูในเรื่องการตั้งวงเดอะบีช แต่นั่นกลับเป็นผลดี เพราะวัยรุ่นต่างก็หันมาสนใจ ติดตามข่าวของซี แซนด์ ซัน อย่างต่อเนื่อง

“ครับ” ทั้งสามหนุ่มรับปากพร้อมๆ กัน ก่อนจะถูกเรียกขึ้นเวที เพื่อร้องเพลงธีม พร้อมกับเพื่อนเอ เอสคนอื่นๆ

“เป็นไงคะคุณต้น น้องๆ น่ารักมั้ย” คุณหนิงหันมาถามพร้อมรอยยิ้ม

“น่ารักทั้งสามคนครับ ตัวจริงดูดีมาก หวังว่าคงจะไม่ดื้อ ดูแลไม่ยากนะครับ”

“หนิงก็หวังอย่างนั้นแหละค่ะ กลัวที่สุดก็ไอ้ประเภทได้ดีแล้วลืมตัวน่ะ แต่เท่าที่ดูๆ มาก็ถือว่าโอเคนะคะ เป็นเด็กดีทั้งสามคน เพียงแต่เค้ามาจากสามความต่างจริงๆ ต้องเข้าใจเค้าให้มากๆ ยังไงคุณวิษณุคงเรียกประชุมทีมงานร่วมกันอีกที เจาะลึกเฉพาะคนที่ต้องดูแลน้องๆ ทั้งสามทุกด้าน เราจะได้คุย ถกกันในละเอียดตอนนั้นค่ะ”

“มีอะไรคุณหนิงช่วยแนะนำผมด้วยก็แล้วกันนะครับ” ต้นสักฝากตัว เท่าที่รู้มาคุณหนิงจัดเป็นผู้มีประสบการณ์ในการดูแลดาราและนักร้องประจำค่ายเพลงมามากมาย

“ได้เลยค่ะ เพื่อบรรลุจุดประสงค์ที่ว่าวงเดอะบีชต้องโด่งดัง เราจะร่วมแรงกันเต็มที่เลย หนิงมีเบอร์คุณต้นแล้ว ยังไงก็จะโทร. ไปนะคะ”

ต้นสักเดินตามคุณหนิงมาจนถึงที่นั่งพิเศษด้านหน้าเวที นั่งรอครู่เดียว การแสดงอันแสนตื่นตาตื่นใจก็เริ่มขึ้น


จบบทที่ 8


ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและขอบคุณทุกคอมเมนต์ค่ะ ^^


___________________________________________________________

ตอบคอมเมนต์ค่ะ


คุณหมีสีชมพูคะ... คนแบบนี้ต้องโดนซะมั่ง ><

คุณ Oleang ขา ... ขอบคุณที่เกาะขอบจอค่าาาา ^^

คุณ anOO คะ ...ไม่ปฏิวัติไม่ได้แล้วค่ะ อิอิ

คุณ goldensun คะ ... ขอบคุณที่เชียร์หนูบัวค่าาาาา ^_____^

_____________________________________________________________



ดาริยา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ต.ค. 2555, 07:51:56 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 พ.ย. 2555, 07:07:47 น.

จำนวนการเข้าชม : 1772





<< ตอนที่ 7   ตอนที่ 9 >>
Oleang 3 ต.ค. 2555, 10:33:04 น.
น้องร่วมติดตาม


nunoi 3 ต.ค. 2555, 17:50:05 น.
อยากให้พี่ต้นเห็นหนูบัว เปลี่ยนแปลงเป็นคนแรกจังเลย คงตะลึงน่าดู


goldensun 3 ต.ค. 2555, 19:43:11 น.
ได้มือดีช่วยแล้ว หนูบัว แล้วจะเอามาดใหม่ ไฉไลกว่าเดิมไปดูคอนเสิร์ตนี่เลยใช่มั้ยคะ
พี่ต้นจะได้เห็นเป็นคนแรกแน่ แล้วอยากเห็นว่า ถ้าภูเห็นมาดใหม่บัว จะเป็นยังไง


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account