เสน่ห์ร้าย นายมาเฟีย
ซานโตรใช้ปลายนิ้วเขี่ยเส้นผมที่ยาวระใบหน้า เส้นผมสีน้ำตาลราวกับเส้นไหมหยักศกน้อย ๆ ใบหน้าคมคายใส่แว่น สวมชุดยาวจนถึงกลางหลัง รองเท้าบูทไขว่ห้างราวกับกำลังนั่งอยู่ภายในห้องพักในบ้านของตัวเอง คิ้วหนารับกับจมูกโด่งเป็นสัน กับเรียวปากได้รูปราวกับรูปสลัก...
Tags: นิยาย,ความรัก,หวานละมุน,มาเฟีย

ตอน: ตอนที่ 2 นายแพทย์หนุ่มดีกรีความร้อนแรง

บทที่ 2
นายแพทย์หนุ่มดีกรีความร้อนแรง


...เธอจะหนีไปไหน

ลูเซียนาวิ่งหนีไปในทางที่มีแสงสว่างสลัวตรงหน้า ด้านหลังของเธอมีแต่กลุ่มหมอกหนากับเสียงฝีเท้าของผู้คนที่ไม่อาจมองเห็นได้ว่ามีใครวิ่งตามมาบ้าง แต่เสียงฝีเท้าที่ตามมาก็ทำให้เธอหวาดกลัวจนไม่กล้าหันไปมอง เธอวิ่งหนีเร็วขึ้น เร็วขึ้นทุกจังหวะ แต่ก็ไม่อาจหนีพ้นเสียงฝีเท้าและเสียงหัวเราะที่ดังกึกก้องมาได้เลย พริบตาที่เธอกำลังจะเอื้อมมือออกไปตรงแสงสว่างข้างหน้าก็เหมือนมีมือหนาหยาบ ๆ มาคว้าจับเธอไว้

‘ปล่อยนะ’ ลูเซียนาร้องตะโกน

‘มานี่เสียดี ๆ ไม่มีใครช่วยเธอได้อีกแล้ว’

‘ไม่’

“ไม่นะ ปล่อย” ลูเซียนาหมุนศีรษะไปมา

เกือบครึ่งคืนแล้วที่เธอนอนหลับสนิท เธอหมุนศีรษะไปมาเนื่องจากกำลังฝันร้าย เธอนอนหลับแล้วฝันซ้ำไปซ้ำมาอย่างนี้ทุกคืนไม่มีคืนไหนเลยที่เธอนอนหลับได้อย่างที่ใจต้องการ เสียงกรีดร้องดังไปทั่วศีรษะจนกระทั่งทำให้เธอตื่นขึ้นจากการนอนหลับฝัน ภาพแรกที่เธอจ้องมองคือภาพของเพดานสีขาวขุ่นมัวและผ้าม่าน ลูเซียนากระพริบตาถี่ ๆ บ้านของเธอไม่มีเพดานสีขาวและผ้าม่านแบบนี้

“นี่มันที่ไหนกัน...” เธอกระซิบแผ่ว

แรงขยับใต้ศีรษะทำให้เธอต้องเอียงคอหันไปมองคนที่อยู่ด้านข้าง แต่นั่นก็เกือบทำให้เธอช็อกเพราะใบหน้าคมคายกำลังนอนหลับสบายอยู่ คิ้วเข้มประสานกันที่เหนือขนตาหนา จมูกโด่งและสันและริมฝีปากได้รูปเหนือผิวขาว ๆ นั่น ใบหน้าหล่อเหลาได้รูปมีเส้นผมสีน้ำตาลกับรอยหนวดจาง ๆ บนเรียวปาก ทำให้ลูเซียนาใบหน้าซีดเผือดเมื่อไล่สายตาลงต่ำไปสู่ต้นคอและอ้อมแขนที่มีแต่กล้ามเนื้อแต่ไร้อาภรณ์ปกปิด

ซึ่งเธอเองก็โป๊เหมือนกัน

“กรี้ด”

เสียงหวีดร้องกับแรงดึงผ้าห่มขึ้นไปคลุมตัว ทำเอาซานโตรขมวดคิ้วด้วยความง่วงงุน ลูเซียนาขยับตัวหนีไปทางมุมอื่นหน้าตาซีดเผือดด้วยความกลัว เธอไม่ได้สวมใส่อะไรเลยแถมเขาก็ยังมีสภาพไม่ต่างอะไรไปจากเธออีกด้วย ชายเจ้าของดวงตาสีน้ำตาลขยับตัวลุกขึ้นนั่งพลางหยิบเอานาฬิกาข้อมือจากหัวเตียงมาดู ตอนนี้เป็นเวลาเกือบตีห้าแล้วอีกไม่นานก็จะสว่าง ชายหนุ่มขมวดคิ้วมองดูลูเซียนาก็นั่งหน้าซีดอยู่ที่มุมเตียง พลางกวาดตามองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอีกครั้ง

“ฟื้นแล้วหรือ เล่นตื่นแต่เช้าแบบนี้ทำเอาผมหูชาไปเลย”

“คุณเป็นใคร เข้ามาอยู่ในนี้ได้ยังไง” ลูเซียนาไม่เปิดโอกาสให้เขาได้ตั้งตัว รีบยิงคำถามเข้าใส่ทันที

“บนเตียงของผม” เขายิ้มกริ่ม

“ไม่ใช่ ฉันหมายถึงที่นี่เป็นบ้านหรือว่าบนโรงแรมกันแน่” ลูเซียนาแก้มเปลี่ยนเป็นสีแดงจัด

“จะต่างอะไรกันล่ะ ในเมื่อคุณอยู่เตียงเดียวกับผม จะให้ผมบอกว่าเป็นที่บ้านหรือบนโรงแรมมันก็ไม่มีค่าไม่ต่างกัน”

คำตอบของเขาทำเอาลูเซียนาหน้าซีดเผือด

“นี่คุณ...” เธอจำได้ว่าเคยเห็นเขาก่อนหมดสติ “คุณเป็นคนช่วยฉันเอาไว้นี่”

“อืม”

ลูเซียนาจำได้ว่าเขาเป็นคนช่วยเธอเอาไว้ มือของเขามันให้ความรู้สึกที่อบอุ่นมั่นคง แต่เวลานี้เธอไม่อยากเชื่ออีกแล้วว่ามันคือเรื่องจริงไม่ใช่ความฝัน เพราะว่าเขาแทนที่จะช่วยเธอออกมาวางไว้ที่ปลอดภัย แต่กลับพาเธอมาที่บ้านเพื่อหลอกล่อและข่มขืน แบบนี้จะไม่ให้เรียกว่าเลวสุด ๆ แล้วจะให้เรียกว่าอะไร

“คนช่วยฉันมาแล้วทำอย่างนี้เหรอ ใจคุณมันทำด้วยอะไร”

ซานโตรเลิกคิ้วสูง สีหน้าเปลี่ยน

“คุณว่าอะไร”

“คุณมันเลวสุด ๆ เป็นผู้ชายประสาอะไร พอช่วยชีวิตฉันก็คิดจะหาเศษหาเลยด้วยการข่มขืนฉันสินะ” ลูเซียนาน้ำตากลบตาตะโกนลั่น

“ไหน เมื่อกี้คุณว่ายังไงนะ ผมเนี่ยเหรอคิดจะข่มขืนคุณ”

“ก็ใช่น่ะสิ พาฉันมานอนอย่างนี้แล้วจะให้เข้าใจว่ายังไงล่ะ”

ซานโตรยกปลายนิ้วขึ้นแตะหน้าผากเป็นเชิงปวดหัว พลางยกมือซ้ายขึ้นเป็นเชิงห้าม

“เดี๋ยวก่อน ผมว่าคุณน่าจะเข้าใจอะไรผิดนะ” เขาเอ่ยเสียงเคร่งเครียด “ฟังผมพูดก่อนนะคนสวย”

“ยังมีอะไรจะพูดอีก”

“ข้อหนึ่ง...คุณคิดจะฆ่าตัวตายแล้วกระโดดลงไปใต้น้ำ ผมเป็นคนช่วยคุณขึ้นมาอย่างนั้นใช่หรือเปล่า” ซานโตรขมวดคิ้วเข้มชำเลืองมองดูเธอ

ลูเซียนาเม้มปากคิดครู่หนึ่ง

“แค่ช่วยฉันแล้วคิดทวงบุญคุณกันอย่างนี้เหรอ ใจคุณทำด้วยอะไร”

“ผมแค่ถาม ฟังให้จบก่อน” ซานโตรถอนหายใจยาว “ข้อสองผมกระโดดลงไปช่วยคุณในน้ำ กว่าจะอุ้มขึ้นมาวางไว้ข้างบนได้ทั้งตัวผมและตัวคุณก็เปียกปอนทั้งคู่”

หญิงสาวเริ่มกระพริบตาถี่ ๆ

“ข้อสามผมพาคุณกลับมาที่บ้าน แต่พอจะเข้านอนก็ต้องโป๊เปลือยเกือบหมด จะไม่ให้ผมนอนถอดเสื้อได้ยังไง อย่า..อย่าคิดนะว่าผมจะแอบมองเห็นอะไร เพราะตอนถอดเสื้อให้คุณน่ะผมปิดไฟหมดแล้วมองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น

“แล้ว...ทำไมคุณถึง” ลูเซียนาก้มมองลงต่ำดูกล้ามเนื้อไหล่กว้าง

“ผมนอนไม่หลับถ้ายังมีอะไรมาห่มตัว”

ลูเซียนาหน้าร้อนวูบ พยายามทำเป็นมองไม่เห็นกล้ามเนื้อได้รูปนั้น คำพูดของเขาจะฟังดูเกินเลยผิดกับหน้าตากับเส้นผมที่รวบสนิทกับหนวดเคราก็ได้ แต่หญิงสาวไม่มีเวลามาคิดถึงสิ่งที่อาจจะเสียไปแล้ว เพราะเวลานี้เธอต้องทำทุกวิถีทางที่จะอยู่ห่างจากคาเมโอ

“คุณล่ะจะไม่พูดขอบคุณผมหน่อยหรือ” ซานโตรหรี่ตามองใบหน้าหวาน

“ขอบคุณ” เธอเอ่ย “ช่วยเอาเสื้อผ้ามาให้ฉันที ฉันต้องไปแล้ว”

“ไม่ได้”

“คะ”

“มันอยู่ในเครื่องซักผ้าผม ป่านนี้คงจะเหม็นจนใส่แทบไม่ได้แล้วล่ะ”

“แต่ฉันต้องใส่มันถึงเหม็นก็จะใส่ เอามาเดี๋ยวนี้” ลูเซียนาร้องตะโกน ทำเอาซานโตรเหยียดยิ้ม

“ที่นี่ชั้นสอง เครื่องซักผ้าอยู่ด้านล่าง เชิญคุณเถอะ”

“นี่คุณ..” ลูเซียนาขยับผ้าห่มกระชับตัวมากยิ่งขึ้น “หมายความว่าจะให้ฉันลงไปเอาเองเหรอ”

ซานโตรถอนหายใจยาว มองดูเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

“คนจะไป ใครจะไปห้ามได้” ซานโตรสะบัดตัวเดินลงมายืนเต็มความสูง ตอนแรกลูเซียนาแทบไม่กล้าหันมามองแต่พอมองเห็นชัด ๆ ท่อนล่างเขากลับสวมเสื้อผ้ารัดรูปเป็นกางเกงขายาว ดูเหมือนว่าเขาจะมองเห็นสายตาของเธอที่หันมามองที่ด้านล่างจึงแสร้งเหยียดยิ้ม

“โทษทีนะ ที่ไม่ได้ถอดหมด”

ลูเซียนาสะดุ้ง หน้าตาแดงก่ำ

“บ้า บ้าที่สุด”

หญิงสาวปาหนังสือเล่มหนาเข้าใส่ ตอนที่ซานโตรเดินเข้าห้องน้ำไป ลูเซียนากระชับผ้าคลุมไหล่มนแน่นมากยิ่งขึ้นก่อนหันไปมองหาเสื้อผ้าหรืออะไรสักอย่าง ภายในห้องนี้ดูเหมือนจะเป็นห้องส่วนตัวของชายหนุ่ม ไล่สายตาจากผ้าม่านและเฟอร์นิเจอร์ไม่กี่ชิ้นก็มีเสื้อผ้าอยู่แค่ไม่กี่ชุด

ลูเซียนารีบกระโดดลงจากเตียงทั้ง ๆ ที่มีผ้าคลุมไหล่ อย่างน้อยเวลาที่เธอไม่มีเสื้อผ้าติดกาย อย่างน้อยก็น่าจะหาเสื้อเชิ้ตได้สักชุด หญิงสาวรีบหาเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนมาใส่อย่างรวดเร็วพับแขนซ้ายขวา เวลานี้เป็นตอนมืดค่ำหากจะออกไปจากที่นี่ก็คงต้องรอเจ้าของบ้านไปเปิดให้

...แต่ว่าเธอจะขอร้องเขาอย่างไรดีล่ะ

ลูเซียนากัดริมฝีปากเบา ๆ มองไปทางประตูด้านหน้าห้องน้ำที่มีชายร่างสูงยืนอยู่ ในใจคิดหาวิธีการมากมายแต่ก็ไม่สำเร็จ ก่อนที่สายตาของเธอจะเหลือบไปเห็นมีดปอกผลไม้ที่อยู่บนจาน ร่างบอบบางค่อย ๆ เอื้อมมือไปคว้าจับเอาไว้คมมีดของมันทอประกายระยับ

ซานโตรอาบน้ำเรียบร้อยจึงเดินออกมาจากประตูห้องน้ำ กล้ามเนื้อแขนได้รูปเดินออกมาทั้ง ๆ ที่มือยังกุมผ้าเช็ดหัว พอดีว่าช่วงล่างใส่กางเกงเรียบร้อย วินาทีที่ออกมาเจ้าของดวงตาสีน้ำตาลก็ต้องเลิกคิ้วเมื่อมองไม่เห็นลูเซียนานั่งอยู่บนเตียง ชายหนุ่มเหลียวมองไปทางซ้ายมือกลับพบว่าหญิงสาวเงื้อมีดเข้าใส่

“นี่แน่ะ”

ซานโดรเอี้ยวตัวหลบพอดี เฉี่ยว ๆ แค่ปลายนิ้วมือ

“ให้ตายสิ แบบนี้มันตั้งใจฆ่ากันชัด ๆ” ใบหน้าหล่อเหลาส่ายหน้าพลางยิ้ม ๆ

ลูเซียนาเอี้ยวตัวหันมีดเข้าใส่อีกครั้ง คราวนี้ซานโตรไม่ปล่อยให้เธอทำได้ง่าย ๆ คว้ามือข้างที่จับมีดไขว้ไปล็อกไว้ที่ด้านหลัง หญิงสาวพยายามดิ้นรินให้เป็นอิสระ ซานโตรจึงทำใจแข็งล็อกแขนเธอไว้ไม่ยอมปล่อยพร้อมทั้งดึงตัวเข้าแนบอกเขาแทนจนลูเซียนาร้องโอ้ย

“เจ็บ ปล่อยนะ”

“เจ็บสิดี จะได้ไม่หันมีดเข้าใส่กันก่อน”

“ปล่อยนะ ไม่งั้นฉันจะร้องจริง ๆ ด้วย” ลูเซียนาร้องตะโกน

“งั้นเหรอ เชิญเลย ใครได้ยินเข้าคงหาว่าผมพาหญิงสาวมากลางดึก”

คำพูดสองแง่สองง่ามของซานโตร ทำเอาแก้มใส ๆ ของลูเซียนาเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ ความโกรธและความอับอายทำให้หญิงสาวตะโกนออกไป

“ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที”

ซานโตรดูเหมือนจะรู้ดีว่าหญิงสาวจะอ้าปากร้องให้ช่วย จึงดันหลังของเธอพร้อมทั้งฉุดแขนขึ้นมาด้านหน้า ลูเซียนาตื่นตระหนกเพราะหมุนกลับมาอย่างตกใจ แต่ก็ต้องตกใจกว่าเพราะใบหน้าที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมแนบปิดริมฝีปากเธอทันที หญิงสาวลืมตาด้วยความตกใจ เพราะไม่คิดว่าริมฝีปากของเธอจะถูกครอบครองโดยคนแปลกหน้า รอยจูบและรอยบดเบียดที่ริมฝีปากทำเอาเธอตกใจแทบสิ้นสติ

“อืม..ปล่อย”

ลูเซียนาพยายามหันหน้าหนีเพื่อขอให้ปล่อย วินาทีแค่เธอร้องออกมาริมฝีปากก็ถูกดึงเข้าไปแนบสนิทเรียวปากได้รูปอีกครั้ง หญิงสาวกำมือดันแผ่นอกเขาออกห่าง แต่ก็ไม่อาจเอาตัวออกห่างจากวงแขนแข็งแรงที่โอบรอบลำตัวของเธอ ริมฝีปากที่แนบสนิทและปลายลิ้นอุ่นที่ชำแรกผ่านเข้ามา ทำให้หญิงสาวตัวสั่นด้วยความตกใจ

วินาทีหนึ่ง ลูเซียนาถอยหลังไปจนเรียวขาชิดขอบเตียง และดูเหมือนว่าซานโตรจะรู้ดีจึงหงายหลังเธอจนล้มลงบนเตียงนอนขนาดใหญ่โดยไม่ยึดจับอะไรไว้แม้แต่น้อย

“อ้ะ” ร่างบอบบางหงายหลังลงบนเตียง

ซานโตรระบายลมหายใจออกมาช้า ๆ มือหนึ่งคว้ามีดปอกผลไม้ขึ้นมาหมุน

“คิดจะใช้มีดนี่ทำร้ายผม มันง่ายเกินไปหน่อยแล้ว” ใบหน้าหล่อเหลายิ้ม ๆ

“คุณนี่มัน...”

เมื่อลูเซียนาจะอ้าปากด่าทอ ซานโตรจึงขัดคอขึ้นก่อน

“ขอบอกไว้ก่อน ตราบใดที่ผมยังเป็นหมออยู่ที่นี่ คุณเป็นคนไข้ของผมและไม่มีสิทธิไปก่อเรื่องอะไรไว้อีกรู้ไว้ซะด้วย”

“ว่ายังไงนะ”

“ที่นี่เป็นคลินิกผม”

“คุณเป็นหมอ” ลูเซียนาไม่อยากเชื่อ “ไม่จริง...”

ซานโตรเหยียดยิ้ม “ถ้าไม่เชื่อ พรุ่งนี้ก็ลองเดินลงไปดูสิ คนไข้มีหลายรายแต่ไอ้ที่สวยแต่เจ็บอย่างคุณผมก็เพิ่งเคยรับเข้ามานี่แหละ”

“ใครใช้ให้รับเข้ามาล่ะ ฉันไม่ต้องการอยู่ที่นี่ ให้ฉันออกไปเถอะ”

“ไม่ได้ ผมไม่อนุญาต”

“ทำไม”

“ข้อแรก...คุณเป็นคนที่ตายไปแล้วแต่ผมช่วยคุณเอาไว้คุณก็ย่อมเป็นของผม ข้อสองคลินิกของที่นี่ก็ยังขาดคนอยู่ได้คุณมาช่วยอีกคนน่าจะใช้ได้อยู่” ซานโตรทำท่าครุ่นคิดโดยใช้มือวางคาง

ลูเซียนาทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ ในโลกใบนี้ยังมีหมอที่มีความคิดแบบนี้อยู่ด้วยเหรอเนี่ย

“นี่คุณ !” เธอร้องเสียงหลง

“ผมชื่อซานโตร เรียกผมว่าซานโตรสิ” ซานโตรเหยียดยิ้ม “แล้วคุณล่ะมีชื่อเรียกว่าอะไร”

“ฉันไม่บอกคุณหรอก ถึงจะมีฉันก็ไม่บอก”

“งั้นก็ดี ผมจะได้เรียกคุณว่าที่รักก็แล้วกัน”

คำพูดกวนประสาทของซานโตรแทบทำเอาลูเซียนาเต้นผางด้วยความโกรธ

“บ้า ฉันไม่ได้ชื่ออย่างนั้นนะ คุณนี่มันกวนประสาทจริง ๆ เลย”

ซานโตรเหยียดยิ้ม ดวงตาเป็นประกาย

“ก็ลองบอกชื่อคุณมาสิ ผมเองก็จะได้เรียกถูก”

ลูเซียนากระพริบตาถี่ ๆ นี่เธอกำลังถูกล่อลวงให้ตกลงไปในหลุมหรือเปล่านะ ซานโตรเลิกคิ้วสูงแทนคำถา

“ว่ายังไง บอกชื่อคุณมาสิ”

“ลูเซียนา” ร่างบอบบางตัดสินใจเอ่ยเบา ๆ

“ลูเซียนา ผมชอบชื่อนี้ เอาล่ะทีนี้เรามาเอ่ยเรื่องงานกัน”

“อะไรนะ”

“ผมอนุญาตให้คุณมาทำงานเป็นผู้ช่วยแพทย์ที่คลินิกนี้ แล้วก็ไม่ต้องมาพูดเรื่องอื่นที่ต้องไปทำหรอกนะ เพราะถ้าเกิดว่าคุณตัดสินใจไปกระโดดน้ำตายล่ะก็ เรื่องอื่นคงไม่ต้องพูดกันล่ะ”

ซานโตรหยิบแว่นตาที่หัวเตียงขึ้นมาสวมใส่ ขยับปลายนิ้วเล็กน้อย

“พรุ่งนี้เริ่มทำงานได้เลย”

“จะทำยังไงดีนะ”

ลูเซียนานั่งอยู่บนฟูกหนา บอกตามตรงว่าเวลานี้เธอรู้สึกสับสนเต็มไปหมด ร่างบอบบางพยายามคิดหาทางออกให้กับทางเลือกที่ซานโตรมอบให้แต่ไม่ว่าจะทำยังไง หัวสมองอันสับสนวุ่นวายก็ตันไปหมด ลูเซียนาคิดหาวิธีการที่จะวิ่งออกไปหลังจากเปิดประตูคลินิก แต่การจะทำอย่างนั้นได้ซานโตรจะต้องไม่ยอมแน่ ๆ

“คลินิกอะไรกันเนี่ย” ใบหน้าน่ารักบ่นเบา ๆ แต่แล้วประตูห้องน้ำก็เปิดออก ก่อนที่ร่างหนาสมส่วนจะก้าวออกมา เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมองก็ต้องเบิกตาโตด้วยความตกใจ

เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลเดินออกมาจากห้องน้ำ ภายใต้เส้นผมที่ตัดสั้นจรดต้นคอของเขาดูเซอร์ ๆ มีดวงตาขาวสะอาด คิ้วเข้มหนาอยู่เหนือดวงตาสีน้ำตาล จมูกโด่งและเรียวปากได้รูป หนวดเคราที่เคยไว้ตัดสั้นเรียบไปตามแนวคางหากมีใครพูดว่านายแพทย์หนุ่มมีสภาพไม่ต่างอะไรไปจากนายแบบหนุ่มตามนิตยสาร ลูเซียนาก็คงจะเชื่อสนิท ดวงตากลมโตไล่ไปตามต้นคอและกล้ามเนื้อไหล่กว้าง มีกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ จรดแนวขอบกางเกง หน้าของเธอก็คงจะแดงจรดใบหู

ซานโตรดูเหมือนจะสังเกตเห็นสีหน้าและดวงตากลมโตของหญิงสาวจึงเหยียดยิ้มออกมาเบา ๆ

“อยู่กันมาทั้งคืนเพิ่งจะมาสนใจผมหรือไง”

“บ้า อย่ามาพูดบ้า ๆ นะ” หญิงสาวหน้าเปลี่ยนสีทันที

ใบหน้าหล่อเหลาเหยียดยิ้ม วินาทีหนึ่งลูเซียนารู้สึกว่ามันดูดีและมีเสน่ห์

ลูเซียนาลอบมองเส้นผมสีน้ำตาลตัดสั้นของเขา ถึงมันจะไม่เรียบร้อยแต่ก็เข้ากับบุคลิกแนวเซอร์ ๆ ของเขา แนวคางที่เรียบสนิทก็ดูดีเป็นพิเศษมากกว่าที่จะเป็นนายแพทย์หนุ่มที่ดีแต่รูปร่างหน้าตาเท่านั้น หญิงสาวมองเขาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

“เป็นอะไร” ซานโตรขมวดคิ้ว

“คุณตัดผมใหม่...เหรอคะ”

“มันเกะกะน่ะ” ซานโตรเหยียดยิ้ม “ขอแว่นผมที”

ลูเซียนาหันมองไปทางเตียงแล้วมองเห็นแว่นกรอบสีดำขนาดสี่เหลี่ยมจึงหยิบเอามา ชั่วเวลาหนึ่งที่เธอหยิบออกมาภาพที่มองเห็นก็แปลกออกไปดูไม่เหมือนกับแว่นสายตาที่เคยเห็นบ่อย ๆ ส่องแล้วมันชัดเจนเทียบเท่ากับสายตายามปกติ

“แว่นนี่...” เธอก้มลงมอง แต่ซานโตรฉวยเข้าไปใส่ดังเดิม

หญิงสาวมองซานโตรขยับแว่นตาอย่างคลางแคลงใจ

“คุณไม่จำเป็นต้องสวมแว่นตานี่คะ สายตาของคุณไม่มีอะไรผิดปกติ”

“นั่นสินะ” ซานโตรเหยียดยิ้ม

“ทำไม”

“เคยได้ยินคำพูดที่ว่าดวงตาเปรียบเสมือนหน้าต่างของหัวใจไหม บางคนก็ไม่ปิดบังความรู้สึกให้คนอื่นได้รับรู้ แต่บางครั้งก็ไม่ใช่สำหรับทุกคน”

“คุณต้องการปิดบังตัวเองเหรอคะ ขอโทษค่ะฉันเพียงแต่...”

“คงใช่ แต่ไม่สำหรับทุกคน”

ซานโตรยิ้มบาง ๆ เดินผ่านลูเซียนาไปยังตู้เสื้อผ้าด้านหลัง ใบหน้าน่ารักเส้นผมยาวสลวยหันไปมองเพื่อถามให้รู้เรื่อง แต่เมื่อเห็นเขาถอดกางเกงเธอก็ต้องปิดหน้าหันหนีไปทางอื่นด้วยความโกรธและอับอาย ซานโตรถอนหายใจยาวชูปลายนิ้วมือให้เธอเดินออกไปจากห้องฝั่งตรงกันข้าม

“เชิญคุณออกไปอยู่ห้องนู้นได้แล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปห้องอ่านหนังสือจะเป็นของคุณตอนอยู่ที่นี่”

“อะไรนะ แล้วทำไมเพิ่งมาบอก” ลูเซียนาทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ทำไมนะเขาถึงไม่ยอมบอกเธอตั้งแต่เมื่อคืนปล่อยให้เธอมานั่งอยู่แต่ในห้องนอนของเขา

“หรือคุณอยากมานั่งห้องนี้กับผม”

“บ้า ใครอยากจะอยู่ใกล้คุณ”

ลูเซียนารีบวิ่งออกไปที่ประตูฝั่งตรงกันข้ามแล้วปิดประตูเสียงดังปัง ซานโตรส่ายหน้าพลางยกมือขึ้นลูบเส้นผมไปด้านหลังยกมือขึ้นท้าวเอว ดวงตาสีน้ำตาลชำเลืองมองไปทางประตูห้องทีปิดสนิท ถ้าหากว่าเธอคนไข้ของเขารายได้เป็นเพียงคนธรรมดาเขาก็คงยอมปล่อยออกไป แต่เมื่อได้ยินชื่อเรียก ‘คาเมโอ’ ที่เธอกระซิบแผ่วออกมา ชื่อนั้นกลับทำให้ซานโตรรู้สึกสะกิดใจอย่างน่าประหลาด

การที่จะปล่อยลูเซียนาไปแล้ว เธอกลับไม่คิดที่จะเลิ้มเลิกการฆ่าตัวตาย

...สู้ปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปจะดีกว่า

“นี่คุณลูเซียนาจะกลายมาเป็นผู้ช่วยของผมตั้งแต่วันนี้”

ซานโตรอยู่ในชุดขาวผายมือแนะนำตัวสายน้อยน่ารักเส้นผมเป็นคลื่นสลวย วันนี้หญิงสาวอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนเมื่อวาน ลูเซียนาหน้าหงิกงอหลังจากถูกแนะนำให้เป็นผู้ช่วยนายแพทย์ต่อหน้าพยาบาลสาวสวย ดวงตาของเธอเชิดรั้น ผิดกับเอสตาที่กระพริบตาถี่ ๆ อย่างไม่รู้ว่าควรดีใจหรือแปลกใจดี

“สวัสดีค่ะ”

“สวัสดีค่ะ ฉันเอสตาถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกฉันได้นะคะ”

ลูเซียนาชำเลืองมองไปที่ใบหน้าคนข้าง ๆ

“มีค่ะ ถ้าคุณพอจะช่วยอะไรได้บ้าง ก็ช่วยไปบอกคุณหมอให้ช่วยไปไกล ๆ หน้าฉันหน่อย”

เอสตาเหลือบตามองซานโตร

“งั้นเหรอคะ”

“คุณไปเตรียมเอกสารคนไข้วางไว้บนโต๊ะ ส่วนคุณเตรียมใส่ถุงมือมาเราจะไปรักษาคนไข้ด้วยกัน” ซานโตรแสร้งทำเป็นไม่สนใจ ร่างสูงสวมเสื้อโค้ชคลุมภายนอกแล้วเดินหายกลับเข้าไปข้างใน

ลูเซียนาหน้างอเป็นม้าหมากรุกเตรียมถาดเครื่องมือ

“คุณลูเซียนาเพิ่งมาเหรอคะ” เอสตาหัวเราะคิก

“ค่ะ เพิ่งมาได้ไม่นานนี้เอง” ลูเซียนาประชด

“น่าแปลกนะคะ ก่อนหน้านี้หมอซานโตรไม่เห็นว่าอะไรเลย มีน้องสาวมาอยู่ด้วยก็ไม่เห็นบอก”

ลูเซียนาหันไปมองคนพูดทันที

“น้องสาว”

“ค่ะ เห็นบอกว่าเป็นน้องสาวผมยาวเป็นคลื่นหน้าตาน่ารัก แต่พอเห็นอย่างนี้แล้วน่ารักกว่าที่คิดอีกค่ะ”

พอได้ยินคนพูดอย่างนี้แล้ว หญิงสาวก็แก้มแดงขึ้นมาทันควัน ลูเซียนาเม้มปากชำเลืองมองไปยังประตู หากยังไม่วายคิดว่าต้องอยู่กับเขาสองต่อสองในคลินิก เธอก็อยากจะบอกใครต่อใครไปว่าผู้ชายเซอร์ ๆ อย่างนี้ คงไม่มีวันที่เธอจะยอมอยู่ด้วยแถมเรียกว่าพี่ชายอีกตะหาก

“พี่ชายบ้าอะไรกัน” เธอพึมพำเบา ๆ

“คุณพยาบาลครับ ช่วยทำแผลให้หน่อย”

“ค่ะ ๆ เดี๋ยวนะคะ”

ลูเซียนาหันไปเห็นชายสูงวัยก้าวเข้ามา พร้อมกับรอยแผลบนหัวเข่าที่มีผ้าพันแผล หัวเข่าของเขาดูท่าจะก้าวไม่ค่อยดีในขณะที่เอสตาเดินไปเอาน้ำยาล้างแผล ช่วงจังหวะที่เขาจะนั่งลงบนเก้าอี้ หญิงสาวจึงอดไม่ได้ที่จะเข้าไปช่วยประคอง ชายสูงวัยเงยหน้าเห็นเธอเข้าจึงยิ้มให้แล้วเอ่ยขอบคุณ จังหวะที่เธอได้มองเห็นรอยยิ้มอ่อนโยน หัวใจของเธอก็พลันเบาบางลงทันที

“ขอบใจนะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ หัวเข่าเป็นยังไงบ้างคะ”

“มันก็เจ็บ ๆ อยู่ ดูท่าว่ารอยแผลจะอักเสบ”

“ขอโทษนะคะ ขอดูหน่อย”

ลูเซียนาใส่ถุงมือก่อนเปิดผ้าพันแผลให้เขา รอยแผลอักเสบมากมีรอยแดงรอบ ๆ เอสตาเดินมาพอดีเธอจึงหันไปหยิบผ้าพันแผลมาเช็ดทำความสะอาดให้ก่อนนำไปฉีดยากันบาดทะยักภายในห้อง เธอออกแรงเช็ดรอยแผลเบา ๆ เอสตายิ้มให้เมื่อเห็นว่าผู้ช่วยคนใหม่มีท่าทางสนอกสนใจดี ชายสูงวัยรอจนกระทั่งเสร็จแล้วจึงเหยียดยิ้มเมื่อเห็นว่ารอยแผลเริ่มทุเลาเบาบางลง

“ขอบคุณมากนะ”

“เป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้วค่ะ” เธอตอบเลี่ยง ๆ

“เธอเพิ่งมาเป็นผู้ช่วยคนใหม่สินะ ฉันมาที่นี่หลายครั้งแล้วแต่ไม่เคยเห็นสักที” ชายสูงวัยกล่าวเบา ๆ

“เอ่อ..คือว่า”

“นั่นสิคะ มาทีไรก็มีแต่หมอซานโตรไม่ก็เอสตาทำแผลให้ทุกที” เอสตายิ้ม ๆ ชายสูงวัยหัวเราะร่วน

“นั่นสินะ มาทีไรก็เจอแต่หมอซานโตรทุกที อ้อ...จริงสิวันนี้หมอซานโตรไปไหนเสียล่ะ”

“ผมก็อยู่ที่นี่ตลอดแหละ ว่ายังไงคุณอเล็ก”

“ฮะ ๆ ว่ายังไงละหมอ ไม่ได้เจอกันตั้งอาทิตย์หนึ่งผมละคิดถึงคุณแย่เลย”

ซานโตรชำเลืองมองไปยังลูเซียนาเล็กน้อย ๆ

“ขาของคุณเป็นยังไงบ้าง” ใบหน้าหล่อเหลายิ้ม ๆ

“ตั้งแต่ได้ผู้ช่วยคุณมาทำให้ ดีขึ้นเยอะเลย”

“ผมว่าจะให้เขาช่วยทำแผลให้คุณอยู่พอดี ฝีมือใช้ได้” สายตาคม ๆ มองดูลูเซียนาพลางเอ่ยยิ้ม หญิงสาวแกล้งหันไปมองที่อื่นราวกับไม่สนใจ “เอสตาคุณเข้าไปเตรียมอุปกรณ์ภายในห้องให้เรียบร้อย อีกห้านาทีผมจะเข้าไป”

“ได้ค่ะ” เอสตายิ้มรับ ก่อนหันเข้าไปจัดการตามคำสั่งทันที

“มานี่สิ”

ลูเซียนาทำเป็นไม่ได้ยิน

“ลูเซียนา” ประโยคท้ายดังแจ่มชัดขึ้นกว่าเดิม

หญิงสาวถอนหายใจยาว ค่อย ๆ ก้าวเท้าเข้าไปในห้อง ท่ามกลางการมองดูของสายตาคม ๆ อเล็กหันไปมองแล้วก็ต้องหันกลับมายิ้มกว้างให้กับคุณหมอ ซานโตรที่กำลังหยิบกาแฟจรดปาก หันไปเห็นเข้าจึงเลิกคิ้วถาม

“อะไร”

“น่ารักดีนะครับ”

ซานโตรแทบพ่นกาแฟออกจากปาก สำลักออกจากลำคอ

“สาวน้อยน่ารักย่อมไม่ถูกกับนายแพทย์ ข้อนี้คุณลุงน่าจะรู้ดีไม่ใช่หรือ”

“ไม่เห็นเป็นไรเลย ดูลุงสิอายุตั้งหกสิบแล้วยังชอบสาว ๆ อยู่เลย” ลุงอเล็กยกกล้ามให้ดูแข็งแรง

ซานโตรเลิกคิ้วพลางถอนหายใจไปมา เสื้อตัวขาวยกขึ้นทาบหัวไหล่ลุงอเล็กพาเข้าไปในห้อง แม้ว่าข้างบนแกจะดูแข็งแรงดี แต่บรรดาขาขวาต้องให้เขาทำแผลให้อยู่ดี

“มาเถอะ เดี๋ยวคนทำแผลให้เขาจะบ่นเอา”

ด้านในของห้องเป็นเตียงขนาดใหญ่ มีอุปกรณ์เครื่องมือทุกชิ้นที่เหมาะทำแผลให้คนไข้ คุณอเล็กนอนอยู่บนเตียงด้านเข่าขวาเปิดเป็นรอยกว้าง ดูจากอาการแล้วดูท่าจะอักเสบเห็นได้ชัดว่าคนไข้ไม่ได้พักผ่อนตามแพทย์สั่ง ซานโตรเลยคุยกับคุณลุงให้นอนพักตามคำสั่งของแพทย์ ไม่อย่างนั้นดูท่าว่าเขาจะต้องตัดทิ้งไม่ให้เนื้อมันอักเสบเพิ่ม อเล็กเบิกตากว้างหน้าซีดเผือด จนลูเซียนาอดยิ้มขำไม่ได้

“ผมพูดจริง ๆ ความจริงแล้ว แผลตรงหัวเข่าคุณน่าจะดีกว่านี้ ถ้าหากว่าคุณคอยพักผ่อนมาก ๆ ไม่ออกไปทำไร่เลี้ยงม้าก็คงไม่เป็นอย่างนี้หรอก”

“แล้วจะทำยังไงดีครับ ขาข้างนี้สำคัญต่อผมมาก ๆ ด้วย แล้วอย่างนี้....จะตัดมันจริง ๆ เลยเหรอ”

“ก็ช่วยไม่ได้นี่ครับ ผมเองก็หมดปัญหาเหมือนกัน” ซานโตรแสร้งทำเป็นยักไหล่

“ช่วยผมด้วยนะครับ จะพักหรือให้นอนยาว ๆ สักสองอาทิตย์ก็ได้ เรื่องม้าน่ะผมจะจ้างเขามาดูเองก็ได้” ชายสูงวัยทำหน้าเหมือนอยากขอให้ช่วย

“เอาอย่างนั้นหรือ” ซานโตรยกมือขั้นจรดริมฝีปาก

“ได้โปรดเถอะครับ”

“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ผมจะทำแผลให้แล้วไปนอนพักสักสอง-สามวัน ถ้าคราวนี้ยังไม่หายอีกเราคงต้องคุยเรื่องตัดขากันล่ะ”

ลูเซียนาอมยิ้มให้มุกฝืด ๆ ของนายแพทย์กับคนไข้ แม้เธอจะดูไม่เป็นว่าขาขวาของอเล็กจำเป็นต้องตัดดีหรือไม่ แต่ถ้าปล่อยให้เขาออกไปไร่ในสภาพอย่างนี้ มีหวังซานโตรคงต้องมีเรื่องคุยกันอีกยาวเลย หญิงสาวอมยิ้มให้กับซานโตรก็ขยับแว่นตาให้เข้าที่ จะว่าไปแล้วเธอยังนึกแปลกใจไม่ได้ที่เห็นเขาใส่มัน

บางครั้ง ก็ไม่จำเป็นสำหรับทุกคน

ลูเซียนาคิดไปถึงคำพูดของเขาเมื่อคืน เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากเปิดเผยตัวตนให้คนอื่นรู้เท่าไหร่ คงจะมีโลกส่วนตัวสูงหรือไม่ก็เป็นพวกโลกคับแคบจนไม่อยากจะคบใครไว้เป็นเพื่อน อย่างนี้จะเรียกได้ว่าเป็น ‘คนที่มีโลกส่วนตัวสูงลิบลิ่ว’ ได้หรือเปล่านะ

ตลอดการทำแผลใส่ยาให้ ลูเซียนาคอยมองตามเวลาที่เขาเรียกหยิบอุปกรณ์กับเอสตา ดูหญิงสาวก็คุ้นงานเป็นอย่างดี พอแรก ๆ ซานโตรคว้ามือจับอุปกรณ์ใกล้ ๆ เธอ ลูเซียนาก็หยิบจับยื่นส่งให้ในมือเขา ซาโตรชำเลืองมองเธอเล็กน้อยและเมื่อสบกับดวงตาคู่สวย เธอแอบเห็นเขาลอบยิ้มเล็กน้อย

“เอาล่ะ เสร็จแล้ว ทีนี้เราก็มานั่งดูว่าอาทิตย์หน้าจะต้องตัดขาหรือเปล่า”

“ผมจะกลับไปนอนพักสักอาทิตย์หนึ่ง” อเล็กทำหน้าเหมือนจะตาย

ซานโตหัวเราะเบา ๆ

“ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้ แค่นอนพักสักสองสามวันก็พอ”

“จริงหรือครับ”

“จริง”

“ค่อยยังชั่วหน่อย” อเล็กถอนหายใจยาว

“เอสตาคุณช่วยเดินไปส่งคุณอเล็กที่หน้าคลินิกหน่อย แล้วอย่าลืมทานยาตามที่แพทย์สั่งด้วยล่ะ” ซานโตรล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสิ้อ เอสตารับคำก่อนจะประคองร่างของอเล็กค่อย ๆ พาเดินไปนั่งรอที่ด้านหน้าประตู ลูเซียนามองตามแล้วก็ต้องลอบยิ้ม จนกระทั่งเมื่อซานโตรเดินเข้ามาใกล้แล้วก้มลงกระซิบแผ่ว

“เพิ่งรู้นะว่าคุณเองก็เป็นงานนี้ด้วย” เขายิ้มบาง ๆ

ลูเซียนาสะดุ้งโหยง รีบถอยห่างออกมาทันที

“งานอะไรไม่ทราบ”

“ก็งานทำแผลให้คนไข้นะสิ”

ใบหน้าน่ารักผมเป็นลอนยาว จ้องตาซานโตรเหมือนกับจะหาเรื่อง

“งานง่าย ๆ แค่นี้ ใส่ยากับทำแผล ใคร ๆ เขาก็ทำกันทั้งนั้น”

“งั้นหรือ”

“ถ้าคุณไม่พอใจนัก ก็เชิญคุณทำเองสิ”

“เดี๋ยวสิ”

ลูเซียนาทำท่าจะเดินออกไป แต่ซานโตรคว้ามือบางแถมคว้าเอาไว้ไม่ยอมปล่อย หญิงสาวสะดุ้งเฮือกก่อนสะบัดแขนออกจากการเกาะกุม กิริยาของเธอมันทำให้ซานโตรเลิกคิ้วสูง

“เป็นอะไร ผมแค่จับมือคุณเฉย ๆ”

“ขอโทษ คือฉันยังไม่ชิน คือว่า....มันไม่คุ้นเคยอย่างไรก็ไม่รู้”

ซานโตรเหยียดยิ้ม ดูท่าว่าหญิงสาวคนนี้จะมีความทรงจำที่แย่ ๆ มามาก

“ไม่คุ้นหรือว่ายังไม่เคย ดูท่าว่าคุณคงจะความจำเสื่อมสินะ”

ดวงหน้าน่ารักขมวดคิ้วมุ่น

“อะไรนะ”

“หนึ่งผมเป็นคนช่วยชีวิตคุณมา แล้วเราก็เคยจูบกันตั้งสองครั้งแล้วด้วย” เขากล่าวยิ้ม

ทำเอาลูเซียนาหน้าแดงจัด ให้ตายเถอะ คิดไม่ถึงเลยว่าคนอย่างเขาจะจำเรื่องแบบนี้ได้ด้วย

“อย่ามาพูดบ้า ๆ นะ คุณช่วยฉันเอาไว้ก็จริงแต่ไอ้เรื่องปากปะกบปากอะไรนั่น สองครั้งฉันจำไม่ได้ด้วยซ้ำไป” ลูเซียนาพยายามเอ่ยเบา ๆ หลังเกรงว่าคนอื่นจะได้ยิน

“แย่จริง ผมเป็นคนจำได้เสียด้วย ถึงแม้คุณจะจำอะไรไม่ได้ก็เถอะ”

“นี่คุณ”

“เอาเถอะ ถึงคุณจะจำไม่ได้ไม่เป็นไร แต่การที่คุณทำเหมือนผมเหมือนคนไม่น่าไว้วางใจนี่ ดูเหมือนจะเกินเลยไปหน่อยนะ”

“ช่วยไม่ได้นี่คะ ผู้ชายยังไง ๆ ก็เหมือนกันหมด” เธอตอบหน้าตาเฉย

“ดูท่าว่าคุณคงเจออะไรมาเยอะนะ”

น้ำเสียงของเขาฟังดูสบาย ๆ แต่สายตาคมที่จ้องมองลูเซียนาดูมันลุ่มลึกกว่าที่เคย หญิงสาวจ้องมองสายตาของเขาชนิดที่ว่าไม่ยอมถอยหนี

“ในโลกนี้ยังมีอะไรหลายอย่างที่คุณไม่รู้ เป็นนายแพทย์อยู่แบบสบาย ๆ อย่างคุณนะดีแล้วล่ะ”

ซานโตรเหยียดยิ้ม เบื้องหลังเรื่องสบาย ๆ นี่สิน่าขันนัก

“จริงสินะ”

ลูเซียนามองดูแววตาของเขา มันทั้งคมกริบและลุ่มลึกเสียจนเงาเธอสะท้อนอยู่บนดวงตาของซานโตร วินาทีหนึ่งเธอแน่ใจว่ามันดูแตกต่างออกไปจากบุคลิกสบาย ๆ และท่าทีไม่ใส่ใจกับเรื่องอะไรเป็นพิเศษ หากแต่ว่า...มันซ่อนเร้นและกดดันจนเธอรู้สึกได้

หญิงสาวมองเห็นเงาสะท้อนบนดวงตา มองจนซานโตรสัมผัสได้

“มีอะไร”

เธอกระซิบแผ่ว “ดวงตาของคุณมันมีสิ่งพิเศษ...บอกไม่ถูกว่าดีหรือว่าเลวกันแน่”

*******************************
ตอนนี้อากาศบ้านเบลินญา เริ่มมีหมอกยามเช้าแล้วล่ะค่ะ
พอตอนบ่าย ๆ อากาศร้อนอบอ้าวมาก ^_^’’
อากาศวันหนึ่ง ๆ วันสามฤดู กลางคืนฝนตก ตอนเช้ามีหมอกหนา ตอนกลางวันร้อนมากกกกก เลยค่ะ
ระวังเป็นหวัดกันนะคะ



เบลินญา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 ต.ค. 2555, 21:16:22 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 ต.ค. 2555, 21:16:22 น.

จำนวนการเข้าชม : 7303





<< คุณหมอจอมป่วน   ตอนที่ 3 เด็กตัวเล็ก ๆ เธอชื่อดอนนา >>
พิณพลอย 11 ต.ค. 2555, 22:41:07 น.
ชอบมากค่ะ คุณหมอได้ใจมาก


เบลินญา 11 ต.ค. 2555, 23:11:32 น.
ขอบคุณค่า หมอซานโตรของเราปากว่ามือถึงจริง ๆ


ameerahTaec 12 ต.ค. 2555, 10:40:36 น.
กี้สสสสส ชอบคุณหมอจังคะ ดูเป็นเดายากดี


Zephyr 17 ต.ค. 2555, 13:14:08 น.
คุณหมอเหมือนมาเฟียน้อยๆเลย ดูสิ่งภายในกับที่แสดงออกเป็นคนละคนกันเลย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account