หัวใจไกลคานทอง
พราวพุธสาววัยเบญจเพสกำลังเผชิญเคราะห์ซ้ำ กรรมซัด ต้องแก้ชง ด้วยการหาคู่สมพงศ์มาแต่งงานแก้เคล็ด พร้อมทั้งรีบปั๊มทายาทสืบสกุลพรหมพยากรณ์แบบหัวปี ท้ายปี!!


ถึงไม่เชื่อเรื่องกรรมเก่า แต่ก็ไม่อยากปีนไปอยู่บนคานทองจนวันตาย ดังนั้นการหาลูกเขยเข้าบ้านจึงตกเป็นของหญิงสาวอย่างเลี่ยงมิได้


กระนั้นก็ไม่รู้จะโยนมาลัยรักเลือกใคร? เพราะจู่ๆ เกิดมีรถไฟรักวิ่งมาชนกันถึงสามขบวน!!!



เอกลักษณ์ ท่านประธานสุดหล่อผู้เป็นดั่งชายในฝัน

สิงห์นักบิด ธงทิว เทพบุตรแห่งความโชคดี

และพี่ชายข้างบ้าน ดรณ์ เจ้าของร้านขนมหวาน



ในภารกิจที่ต้องใช้ความโสดเป็นเดิมพัน ใครกันหนอที่จะช่วยปลดล็อคหัวใจพราวพุธลงจากคานทอง เฮ้อ...งานนี้คนสวยเลือกได้ปวดตับจริงๆ




ลงก่อนวางแผง ต้น พย.2555 นี้ครับ
Tags: เขมปัณณ์,หัวใจไกลคานทอง,บุพนิมิต

ตอน: บทที่ ๔ ข้างหลังภาพ



บทที่ ๔ ข้างหลังภาพ


ภาพถ่ายที่พราวพุธตกอยู่ในอ้อมกอดเอกลักษณ์ปรากฏอยู่บนจอขนาดใหญ่หลายวินาที หญิงสาวคาดว่าเป็นฝีมือบัวบูชา เพราะเจ้าตัวทิ้งให้หล่อนดูแลเอกลักษณ์ตามลำพัง ท่ามกลางสายตาสอดรู้สอดเห็นของคนในงานโดยเฉพาะจุ๋มจิ๋มซึ่งกำลังต่อโทรศัพท์รายงานใครบางคนอยู่


“รูปน่ารักดีนะ” เอกลักษณ์มองจอภาพ แต่พราวพุธเอาแต่ก้มหน้างุด เปล่า หล่อนไม่ได้อายหรือพยายามหลบหน้าใคร แต่ขวยเขินสายตาคมของชายหนุ่มมากกว่า


“ค่ะ” หล่อนตอบเสียงสั่น เผลอยกมือจับปอยผมยาวอย่างเก้อๆ


เอกลักษณ์ขยับเข้ามาใกล้พราวพุธอีกนิด เขาเห็นร่างทรงเสน่ห์นั่งไม่ติด ก็หัวเราะอย่างเอ็นดู
เขาไม่ได้พบหญิงสาวหลายปีแล้ว กระนั้นก็คุ้นหน้าว่าหล่อนคือเด็กหญิงตัวกลมผิวขาวอมชมพูซึ่งมักจะติดตามหนึ่งตะวันและจันทร์วาดไปทำบุญที่วัดบ่อยๆ


“งานไม่สนุกเหรอ ทำไมดูเงียบๆ” เขาทอดเสียงนุ่ม เหมือนผู้ใหญ่พูดกับเด็ก


“สนุกค่ะ แต่ ‘หนู’ ไม่ชินงานกลางคืนเท่าไหร่ ปกติเลิกงาน รีบดิ่งกลับบ้านเลย” หล่อนอ้อมแอ้มตอบ ในใจนึกตำหนิตัวเอง คิดหัวแทบระเบิดยังไม่รู้ว่าจะชวนเขาคุยเรื่องอะไรดี


เอกลักษณ์มองดวงหน้านวลซึ่งตอนนี้อมสีชมพูระเรื่อ เขาไม่ได้หูฝาดหรอกที่ได้ยินพราวพุธแทนตัวเองว่า ‘หนู’ หล่อนคงติดปากเวลาสนทนากับผู้ใหญ่ ภาพสาวเซ็กซี่เปรี้ยวจี๊ด จึงดูน่ารักและจั๊กกะจี้หัวใจเขาเหลือเกิน


“ที่บ้านดุขนาดนั้นเชียว...คุณหนึ่ง กับคุณจันทร์ ออกจะธรรมะธรรมโม ไม่ใช่หรือ” เขาแกล้งแหย่ คิดถึงเรือนหลังใหญ่ และตำหนักพรหมพยากรณ์ ซึ่งมารดาเคยพาไปไหว้ผู้ใหญ่ ด้านในนั้นบรรยากาศสงบร่มรื่น สองสาวดูเป็นมิตร พูดจาอ่อนหวาน


“ปละ เปล่าค่ะ หนูไม่ชอบเที่ยว เป็นคนติดบ้าน ห่วงพี่สาวกับน้องชายน่ะค่ะ คู่นี้ชอบเล่นอะไรให้แผลงๆ”


พราวพุธหมายถึงพบพรกับทองเอก สองคนนี้เรียกได้ว่าเป็นตัวป่วนประจำบ้าน คนหนึ่งเก็บตัวก็จริง แต่มักหาเรื่องให้กลุ้มใจ ส่วนอีกคนอยู่ไม่ค่อยติดบ้าน แต่สร้างความวุ่นวายได้ไม่หยุดหย่อน


เอกลักษณ์ตั้งใจฟังหล่อน หัวคิ้วหนาย่นน้อยๆ นึกสนุกกับภาพครอบครัวหญิงสาว เขาเคยได้ยินมารดาเล่าให้ฟัง คนบ้านนี้นิสัยแปลกอยู่สักหน่อย ศรัทธาในโหราศาสตร์ นิยมการทำนายทายทักเกินพอดี จนป่านนี้คู่แฝดยังครองความโสดไว้เหนียวแน่น เพราะมีความหวังว่าสักวันจะตามหาคู่แท้ของตัวเองเจอ

พราวพุธเงยหน้ามองเขา พอตาสบตา ดวงหน้าก็ผ่าวร้อน สายตาคมคู่นั้นหลอมใจสาวโสดเป็นขี้ผึ้งเจอไฟลน


“...จำได้ว่าหลายปีก่อนเห็นวิ่งตามคุณพี่ฝาแฝดที่วัด คุณแม่ยังชมว่า เป็นเด็กน่ารักช่างพูด ไม่น่าเชื่อเจอกันอีกที มาทำงานที่บริษัทผมแล้ว” เขาทำให้หล่อนยิ้มแก้มปริ ดวงตากลมโตจ้องชายหนุ่ม เต็มตา เต็มใจ


“คุณเอกยังจำได้หรือค่ะ เมื่อก่อนหนูถูกปลุกให้ไปวัดร้องไห้งอแงเป็นประจำ เช้าวันอาทิตย์แบบนั้น กว่าจะลุกได้ถูกหยิกจนตัวเขียวเลย” พราวพุธหัวเราะเสียงใส ภาพ ‘พี่เอก’ ในวันวานซ้อนทับ ‘ท่านประธาน’ ตรงหน้า เขาดูดีกว่าเมื่อก่อน คมเข้มขึ้น และราศีนั้นจับไปทั้งตัว


เอกลักษณ์ยิ้มน้อยๆ แล้วถามว่า “ตอนนี้พราวทำตำแหน่งอะไร งานหนักหรือเปล่า”


“หนูเป็นผู้ช่วยบัว และทำประสานงานขายด้วย งานสนุก ไม่หนักค่ะ” หล่อนตอบอย่างภูมิใจ


“ดีแล้ว ช่วยกันทำงาน บริษัทจะได้มั่นคง” เขายิ้มให้กำลังใจหล่อน แค่นั้นหัวใจสาวโสดก็สุขล้น
คุณกันอีกสองสามประโยค มือถือเอกลักษณ์ มีสายต่อเข้ามา จึงขอตัวออกไปคุยธุระ


พราวพุธมองตามร่างสมาร์ตไม่ทันไร อารมณ์หล่อนก็พลุ่งพล่าน เมื่อสาวสวยนางคนหนึ่งเดินเข้าไปสวมกอดเอกลักษณ์ด้วยความสนิทสนม


“พราว...พราวเป็นอะไรน่ะ” บัวบูชาแตะไหล่เพื่อน แต่อีกฝ่ายสะบัดตัวหนี ดวงหน้าพราวพุธแดงก่ำ มือสองข้างกำหมัดแน่น “พราว!” บัวบูชาหน้าเสีย บทพราวพุธจะโกรธ หล่อนหัวฟัดหัวเหวี่ยงแบบไม่มีปี่ มีขลุ่ย


“ไหนว่าคุณเอกไม่มีแฟน...แล้วผู้หญิงคนนั้น ใครยะ” พราวพุธกัดฟันกรอด หล่อนเค้นเอาคำตอบจากเพื่อน พออีกฝ่ายจับต้นชนปลายได้จึงหัวเราะออกมาพรืดใหญ่ บัวบูชาเดาออกว่าลมเพชรหึงเล่นงานหญิงสาวเข้าแล้ว


“คุณปารีสนางแบบที่กำลังฮอตตอนนี้ไง...คุณเอกกำลังจะเปิดร้านขายวัสดุก่อสร้างกับโชว์รูมเฟอร์นิเจอร์ อ่อ...บัวยังได้ยินมาว่า เขาเรียกค่าตัวแพงลิบเลยนะ แต่พอเจอคุณเองกล่อม จู่ๆ ยอมลดค่าตัว และหายเรื่องมากไปซะงั้น” คำพูดบัวบูชาเหมือนราดน้ำใส่กองไฟ


“อ๋อ...‘ยายปลาร้าหน้าเตารีด’ ที่ชอบถ่ายแบบโป๊ๆ ใช่ไหม ฮึ คิดว่าสวยหรือไง ถึงพยายามแย่งซีนคนอื่น”


ความกราดเกรี้ยว เปรี้ยวซ่า ของพราวพุธ ดูน่ารัก น่าหยิก มากกว่าน่าชัง ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มชิด ตากลมพองโต เหมือนเด็กเล็กที่ถูกแย่งของรักไป


“จ๊ะ คุณนายพราวสวยที่สุด ยายปารีสนั่นไม่ได้ครึ่ง พราวร้อก...” บัวบูชาเอ่ยล้อเลียน


“พูดความจริงหรือประชดยะ” พราวพุธหน้าง้ำ


“เอ๊ะ...พอชมก็ไม่พอใจ จะเอายังไงคะคุณพราวพุธ” บัวบูชาเสียงแหลมใส่บ้าง


“...ไม่เอายังไงหรอก ตอนนี้องค์กำลังลง ต้องหาเรื่องเสียเหงื่อสักหน่อย ปะไปดิ๊น ดิ้นกันเถอะบัว อย่ามาวีนใส่กันอยู่เลย” พราวพุธกึ่งลากกึ่งจูงบัวบูชาไปยังฟลอร์เต้นรำ อาการขึ้นๆ ลงๆ เมื่อครู่หายแวบเพราะเสียงเพลงโปรดดังขึ้น


“เต้นกันเฉพาะสาวๆ จะสนุกอะไร้” บัวบูชาพยักพเยิดไปยังหนุ่มๆ ซึ่งส่งสายตาเจ้าชูมาให้พราวพุธ


“ถ้าให้เต้นกับคนอื่นที่ไม่ใช่คุณเอก ขอบายจ้ะ ส่วนบัวจะเต้นกับเฮียชัยตามใจนะ ไม่ต้องห่วงพราวหรอก” พราวพุธเสียงเศร้า ทำตาละห้อย


“งั้นขอเรียกคู่เต้นรำของบัวก่อนนะ” บัวบูชาส่งสัญญาณให้ชัยชนะซึ่งยืนคุยกับเพื่อนอยู่ด้านนอก เพียงอึดใจเขาก็เดินยิ้มเข้ามา


ชัยชนะหอมแก้วบัวบูชาฟอดใหญ่ เขาจงใจให้พราวพุธตาร้อน “อุ๊ย อายพราวบ้างสิเฮีย...” บัวบูชาเขินจัด


“แหมๆ หยุดหวานใส่กันสักแป๊บเถอะคะ พราวอยากเชิญเฮียชัยกับบัวเป็นเกียรติเปิดฟลอร์เต้นรำสักเพลง ตอนนี้วัยรุ่นอยากดิ้นเต็มแก่แล้ว” พราวพุธทำสายตาวิบวับให้คู่รัก


“ได้สิจ๊ะ เอ...แล้วคู่น้องพราวละ ไหน...ใครคือผู้ชายที่โชคดีคนนั้น” ชัยชนะเหลียวมองรอบๆ ตัวแต่ไม่พบคู่ควงหญิงสาว


“หนุ่มอื่นเค้าไม่สนหรอก ผู้ชายที่คุณนายพราวอยากจะเต้นรำด้วย ต้องคนนู้นเท่านั้น”บัวบูชากระซิบข้างหูชัยชนะ แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะขึ้นพร้อมกัน


“เล่นของสูงเชียวนะ เอาอย่างนี้ เดียวเฮียชัยช่วยจัดให้ โอเค้…” เขาทำหน้าจริงจัง


“อุ๊ย พราวไม่รบกวนเฮียชัยหรอกค่ะ ของอย่างนี้เดี๋ยวใช้ฝีมือเข้าช่วย รับรองหวานหมู เฮียคอยดูนะ เดี๋ยวอดีตนางรำประจำคณะอย่างพราว จะเซิ้งท่าปลาโลมาเรียกคุณเอกให้มารำป้ออยู่ข้างๆ เชียวละ” คำพูดพราวพุธทำให้บัวบูชาหน้าถอดสี


“พูดเล่นนะพราว คืนนี้ห้ามทำอะไรตามใจตัวเองรู้ไหม คิดถึงหน้าตาบัวกับเฮียชัยบ้าง ห้ามเลยนะ ย้ำว่าห้าม!” บัวบูชากลัวใจเพื่อนรักที่สุด


“ก็เพราะคิดถึงหน้าบัวกับเฮียชัยนี่แหละ พราวเลยอยากทำให้คืนนี้ประทับใจไม่รู้ลืม” พราวพุธยิ้มหวานหยดให้คู่รัก แล้วเดินอย่างมั่นใจตรงไปยังเวทีเตี้ยๆ ซึ่งกำลังเล่นดนตรีสด


บัวบูชามองหน้าชัยชนะอย่างขอความช่วยเหลือ เธอรู้ดีว่าเพื่อนรักพูดแล้วทำจริง แถมชอบจัดแบบเกินร้อย


////////////////////////////////////////



ร่างสูงเพรียวยืนเท้าสะเอวมองเด็กในร้านที่เดินอย่างหมดแรงกลับมาที่รถส่งของ ทั้งที่คิดว่าเตรียมขนมมาเผื่อไว้ มากพอแล้ว แต่ยิ่งดึกคนยิ่งมาก


“ชุดสุดท้ายแล้วคุณดรณ์ สงสัยเด็กรุ่นใหม่ เกิดมาไม่เคยกินขนมไทยหรูเลิศแบบนี้ พอวางปุ๊บพากันกวาดเรียบ บางคนจ้องจะห่อกลับบ้านด้วย ถ้าพี่ดาวไม่ห้ามนะป่านนี้คงไม่พอกิน” แสงดาวเช็ดเหงื่อที่ผุดเต็มหน้าผาก แล้วหันไปสั่งคนงานผู้ชายยกขนมลงมาจากรถ


“เฮ้อ...ถ้ารู้ว่าทำขนมมาบริการพวกขี้เหล้า ผมคงไม่รับงานนี้ตั้งแต่แรก ให้กินฟรี ยังเสียดายของเลย” อามรณ์ของดรณ์ตอนนี้นอกจากความหงุดหงิดใจ เขายังเป็นห่วงสาวอวบข้างบ้านด้วย ตั้งแต่ปะทะคารมกับพราวพุธเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน หล่อนก็หายลับไม่โผล่ออกมาให้เห็นหน้าอีก


ดรณ์บ่นอย่างพาลๆ อีกพักใหญ่ มือถือเขาก็มีสายตาเข้ามา หน้าจอปรากฏชื่อ ‘ทองเอก’ น้องชายคนสุดท้องของตระกูลพรหมพยากรณ์


“ป๋าดรณ์ขา...” ปลายสายบีบเสียงแหลมเล็ก ประหนึ่งเป็นสาวเอ๊าะๆ วัยสิบสี่


“What !?!” ดรณ์ตอบเสียงขุ่น ทุกครั้งที่ทองเอกโทรมาในยามวิกาล มักมีเรื่องให้ช่วยเหลือประจำ และครั้งนี้ก็คงไม่พลาด!


“...ป๋าอยู่ที่งานเลี้ยงของคุณชัยใช่หรือเปล่าจ๊ะ” ทองเอกถามทั้งที่รู้จากบัวบูชาว่าดรณ์มาดูแลการเสิร์ฟขนมหวานในงานเลี้ยง

“อื้อฮึ แล้วมีอะไร ”


“โป๊ะเช๊ะค่า... คืองี้นะ ป๋าตั้งใจฟังให้ดี หนูทองมีเรื่องสำคัญมั่กๆ” ทองเอกเน้นเสียงชวนให้ตื่นเต้น แต่สำหรับดรณ์ติดจะรำคาญมากกว่า


“ทอง! เวลาพูดกับป๋าไม่ต้อง ‘แอ๊บ’ได้มั้ย คันหูพิกล”


ปลายสายอึกอักอยู่ประเดี๋ยวก่อนจะทำเสียงงอนๆ ตอบกลับมา


“ก็หนูทองกำลังจะโตนี่คะ เสียงแตกสาวก็อย่างเนี่ยละ” ทองเอกยังไม่หยุดยียวน


“อย่าล้อเล่น มีอะไรรีบพูดมา …อย่าบอกนะว่า ไปตีหัวลูกชายใครสลบ แล้วกำลังจะลากเข้าบ้าน! เฮ้อ ตระกูลนี้ สงสัยอยากได้ลูกเขย จนตัวสั่น หึๆ” คราวนี้ดรณ์กวนประสาทบ้าง


“บ้า! ไม่ใช่สักหน่อย อย่ามาทำเป็นตลกสิ คนกำลังร้อนอกร้อนใจ หนูทองซีเรียสนะ เรื่องคอขาดบาดตาย ระดับ ๙ ริกเตอร์ ต้องรีบเคลื่อนย้ายด่วน ย้ำต้องเคลื่อนย้ายด่วน! ” ทองเอกเอ่ยเสียงจริงจัง


“เหรอจ๊ะ น่ากลัวมาก แล้วต้องเคลื่อนศพใครละ อย่าบอกนะว่าศพยายอ้วนนั่น” ดรณ์พูดขึ้นลอยๆ


“อุ๊ยตายว๊ายกรี๊ด ป๋ารู้ได้ไง ถูกแล้วค่า”


“พราวเหรอ อ้าว พราวเป็นอะไรทองเอก” เขาตวาดเสียงดัง สองขาก้าวตรงไปยังห้องกระจกอย่างร้อนใจ


“ไม่มากไม่มาย แค่เมา อ้วก แล้วก็เซิ้งท่าปลาโลมา เรียกแขก!” ทองเอกพูดจนดรณ์เห็นภาพสาวซ่าขึ้นมาทันที


“เมาได้ไงไหนว่ารับปากพี่พบจะถือศีลห้า! พราวนี่เหลวไหลจริงๆ” ดรณ์เดินผ่านสระน้ำไป เขาสอดส่องสายตาหาพราวพุธ แต่คนที่อยู่ด้านในมากจนมองไม่เห็น


“อย่าพึ่งพูดมากเลย ป๋ารีบไปลากตัวพี่พราวขึ้นรถเถอะ หนูใกล้จะถึงงาน แล้ว จะรีบไปช่วยอีกแรง”


“ฮึ ทำไมป๋าต้องเข้าไปช่วยยายปลาพะยูน ชอบทำเรื่องขายหน้าดีนัก ปล่อยให้อยู่อย่างนั้น
แหละ” ดรณ์พูดอย่างปากไม่ตรงกับใจ เพราะเขาสาวเท้ายาวๆ ไปหยุดอยู่ตรงหน้าบอดี้การ์ดร่างยักษ์แล้ว


“ขอร้องละป๋า รีบไปลากพี่พราวออกมาเถอะ ก่อนที่จะรั่วมากกว่านี้ ในนั้นดังค่อนเมือง รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น โอ๊ย นี่ถ้าเข้าไปถึงหู คุณหนึ่ง กับคุณจันทร์ ละก็ ถูกโบยหลังลายแน่ กรี๊ด!” ทองเอกโวยวายตามมาอีกหลายประโยค แต่ดรณ์ไม่สนใจ เขากำลังหาวิธีผ่านสองร่างยักษ์เข้าไปให้ถึงตัวพราวพุธโดยด่วน


//////////////////////////////////////


บอดี้การ์ดซึ่งทำหน้าที่เป็นดอร์แมนมองร่างสูงเพรียวอย่างไม่ชอบใจ ชายหนุ่มผมยาวสวมผ้ากันเปื้อนสีขาวสกรีนภาพขนมไทยมีชื่อพร้อมโลโก้ร้านติดอยู่


“ เฮ้ย น้องชาย ครัวด้านหลังโน้น อย่ามายืนเกะกะ แถวนี้ ไป ไป๊” หนึ่งในสองบอดี้การ์ดโบกมือไล่


“ผมมาตามหาเพื่อน ขอเข้าไปข้างในหน่อยสิ” ดรณ์ปรับเสียงให้นิ่ง ข่มใจให้เย็น



“ตามหาเด็กส่งของเหรอ! ไม่มีหรอก ข้างในมีแต่แขกคุณเอก ” บอดี้การ์ดตอบแบบรำคาญเต็มทน อีกคนที่มาดเข้มกว่า เห็นท่าทางดรณ์เหมือนจะบุกเข้าไป จึงผลักอกเขาให้ถอยห่างจากประตู

“เฮ้...ทำไมต้องรุนแรงด้วย แค่มาตามหาเพื่อน” ดรณ์ปัดมือใหญ่ให้พ้นตัว เขาขบกรามตึง ดวงหน้าขาวแต้มสีแดงจัด สติซึ่งควบคุมไว้ใกล้จะขาดผึง มาดนักเลงที่อยู่ในสายเลือดพลุ่งขึ้น พออีกฝ่ายเห็นว่าหนุ่มร่างเพรียวหน้าสวยท่าทางจะเอาเรื่อง หนึ่งในสองจึงเอ่ยตัดบทว่า


“น้องชายรออยู่ตรงนี้แล้วกัน เดี๋ยวพี่จะช่วยตามให้ ว่าแต่เพื่อนน้องชื่ออะไร”


ดรณ์ไม่ทันตอบ เสียงแหลมสูงก็ดังแทรกขึ้นมา แล้วตามด้วยเสียงตบมือในจังหวะคึกคัก
“หนูอยากโดนอุ้ม หนูอยากโดนอุ้ม…” แวบแรกดรณ์ไม่มั่นใจว่าเป็นเสียงพราวพุธ แต่เมื่อเห็นร่างขาวอมชมพู ยักย้ายส่ายสะโพกเด้งหน้าเด้งหลังอยู่บนเวทีเล็กๆ เขาก็มั่นใจว่า แม่ตัวดีกำลังมันส์ได้ที่แล้ว!


“เฮ้ยพี่ คนตกน้ำ รีบไปช่วยเร้ว…” ดรณ์แสร้งทำหน้าตื่น ชี้ส่งๆ ไปทางสระว่ายน้ำ ไม่ได้หวังให้บอดี้การ์ดเชื่อ แต่สองคนนั้นเกิดความกังวลในใจ เพราะขณะนั้นมีเสียงวี้ดว้ายดังขึ้นพอดี


“อ้าวพี่ ดูสิ คนมุงใหญ่เลย เดี๋ยวมีใครเป็นอะไรขึ้นมา พี่สองคนนั้นแหละจะเดือนร้อน” ดรณ์ทำเสียงขู่ สองร่างยักษ์ทำหน้ายุ่ง แล้วพยักหน้าให้กันอย่างหัวเสีย


“เดี่ยวเถอะ ถ้าไม่มีอะไร แกเจ็บตัวแน่ไอ้หนุ่มผมยาว!”


พอร่างหนาเบี่ยงตัวก้าวออกไป สองขาดรณ์ไวเท่าความคิด เขาแทรกตัวผ่านวิ่งเข้าไปข้างในทันที


ชายหนุ่มก้าวพรวดไปอยู่กลางวงสาวๆ ที่พยายามยื้อแย่งไมค์โครโฟนจากพราวพุธ ร่างอวบซึ่งดื่มไวน์ไปหลายแก้ว ไม่มีทีท่าเหน็ดเหนื่อย ดวงหน้าแดงระเรื่อง ตาหวานเยิ้ม


หล่อนปีนขึ้นไปอยู่บนเวที ส่งเสียงวู้ๆ มันสุดเหวี่ยง ผ้าพันคอผืนสวย ถูกเอามาโบกไปมา ราวกับเป็นมาทาดอร์สาวที่กำลังเรียกหาฝูงกระทิงเปลี่ยว!


“เฮียขา…ช่วยเก็บผ้าเช็ดหน้า ให้หนูที หนูทำหล่น อุ๊ย หนูทำหล่นจ้า…”


มาดยียวนทะเล้นทะลึ่งตามแบบฉบับพราวพุธ ตบท้ายด้วยท่าเซิ้งปลาโลมาให้คนทั้งงานหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง


พราวพุธไม่ได้เต้นยั่วยวนชวนวาบหวามใจ หล่อนสร้างความสุขให้คนทั้งงาน หัวเราะชอบใจจนนึกสนุกลุกขึ้นมาขยับแข้ง ขยับขา เซิ้งท่าพิลึก พิลั่นแข่งกับสาวอวบ


“พราว! กลับบ้าน” ดรณ์ฉุดข้อมือหญิงสาว กึ่งลากกึ่งจูงหล่อนให้เดิมตาม


“ เย้ เย้ เย้….ใครจ๊ะ พอหนุ่ม พลังม้าคนนี้” หล่อนหันมาค้อนประหลับประเหลือก พอเห็นว่าเป็นดรณ์ก็ทำเสียงไล่


“ชิ้วๆ ไป ไป๊ หานม หาขนมที่บ้านให้ลูกกินก่อนนะ พี่จ๋า” หล่อนหัวเราะคิก และ ‘ลูก’ ที่เอ่ยถึงคือเจ้าลีโอสุนัขของดรณ์นั่นเอง


“อย่าทะลึ่งนะ บอกให้กลับบ้าน” ตอนนี้ดรณ์ตกเป็นเป้าสายตาคนในงาน บอดี้การ์ดสองคนนั้นก็ตั้งท่าจะตะครุบตัวเขาออกไป


“อุ๊ยตาย คุณผู้ชายขา หนูเจ็บ!” พราวพุธแหวใส่ เมื่อดรณ์ฉุดหลุดแขนหล่อนเต็มแรง


“กลับบ้าน!” ดรณ์ตวาดซ้ำ บอดี้การ์ดเห็นท่าไม่ดีเลยปรี่เข้ามาหมายจับตัวเขาโยนออกไปด้านนอก


“เอ๊ะ คุณดรณ์ใช่ไหมคะ โอ๊ย ดีใจจัง” บัวบูชาหันมามาทักทายหนุ่ม พอเขาพยักหน้ารับเธอจึงสั่งบอดี้การ์ดถอยออกไปก่อน


“นี่มันอะไรกัน เป็นเพื่อนกันประสาอะไร ถึงให้กินเหล้าเมาแบบนี้ ทุเรศลูกตาจริง!” ด้วยความเป็นห่วงพราวพุธ ดรณ์เลยพลั้งปากตำหนิบัวบูชาแรงๆ จนอีกฝ่ายหน้าชา


“ก็ซัดไปหลายอย่าง สงสัยจะตีกันยุ่งไปหมด” บัวบูชาตอบเสียงแข็ง


ดรณ์ถอนหายใจหนักๆ แล้วเข้าไปเผด็จศึกพราวพุธอีกครั้ง คราวนี้หล่อนโมโหที่ถูกขัดจังหวะเลยฟ้อนเล็บฝากไว้บนดวงหน้าสวยของชายหนุ่ม


“อีพี่ดรณ์ ปล่อยเค้า” พราวพุธร้องกรี๊ด ยิ่งดิ้นดรณ์ยิ่งกอดแน่นจนอึดอัด


พราวพุธอายสายตาคนอื่น ทั้งกลัวเอกลักษณ์จะเห็นเลยขัดขืนสุดฤทธิ์


“เฮ้ย บ้าอะไรขึ้นมาอยู่นิ่งๆ”


เมื่อถูกรัดไว้แน่น พราวพุธจึงใช้ท่าไม้ตายกัดลงบนท่อนแขนดรณ์ทันที


“โอ๊ย ยายอ้วน!” สิ้นเสียงร้องด้วยความเจ็บของดรณ์ พราวพุธก็แผดเสียงแปดหลอดลั่นห้องกระจก


“อีพี่ดรณ์ ชั้นไม่ได้อ้วนนะ อีบ้าๆ” แรงฮึดจากไหนไม่รู้ ทำให้พราวพุธเกิดพลังช้างสาร หล่อนเหวี่ยงร่างสูงสะโอดสะองของดรณ์กระเด็นห่างไปหลายเมตร จังหวะเดียวกันนั้นเสียง ‘แคว่ก’ ดังตามมาติดๆ


พราวพุธช็อก แทบสิ้นสติ ต้นขาเย็บวาบ ขนลุกซู่ !


วินาทีนั้นหล่อนเดาสถานการณ์ได้ทะลุปรุโปร่ง ยิ่งเห็นสีหน้าของบัวบูชาที่ซีดเผือด อ้าปากค้าง หญิงสาวแทบจะมุดแผ่นดินหนีให้รู้แล้วรู้รอด


“พราว! โป๊หมดแล้ว.....อยู่นิ่งๆก่อนนะ อย่าขยับตัว อย่า!” บัวบูชาพูดไม่ทันจบประโยค กระโปรงสั้นที่มีขนสวยๆ พลันหล่นตุ้บไปกองบนพื้น โชคดีที่พราวพุธสวมกางเกงขาสั้นด้านใน ไม่เช่นนั้นคงดูไม่จืด


ดรณ์ทั้งขำ ทั้งสงสาร กระนั้นก็สาวเท้าไปถึงตัวหล่อนอย่างเร็ว เขาถอดผ้ากันเปื้อนออกแล้วสวมทับร่างอวบ ไม่ทันให้หล่อนตั้งตัว ดรณ์กลั้นลมหายใจลึกแล้วอุ้มสาวอวบขึ้น เขาก้าวยาวๆ ผ่านหน้าฝูงชนหลบออกไปทางประตูด้านหลัง


พราวพุธหน้าเขียวหน้าแดง กัดฟันกรอดๆ เพราะถูกดรณ์ขู่ด้วยคำพูดเจ็บๆ ว่า


“ยายอ้วน ขืนโวยอีก พี่จะปล่อยให้เต้นจ้ำบ๊ะโชว์คนทั้งงานเลย...อยากระบำหน้าท้องอวดชาวบ้านเขาหรือไง ฮึ”


พราวพุธหลับตากลั้นความเดือดไว้ในใจ ยามที่เนื้อตัวสัมผัสใกล้ชิดกัน แทนที่จะได้กลิ่นตัวหอมๆ หล่อนกลับได้กลิ่นกะทิ กลิ่นใบเตยจากดรณ์ ไม่โรแมนติกสักนิด!!


“ขยุกขยิกอะไร เดี๋ยวจับโยนโครมหรอก”


“ก็อย่าเอามือจับตรงนั้นสิ” หล่อนรู้สึกร้อนวูบวาบจากสัมผัสของเขา บอกไม่ถูกว่าขวยอาย หรือ รังเกียจกันแน่


“แล้วจะให้จับตรงไหนล่ะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียหงุดหงิด เลื่อนมือจากแผ่นหลังเนียนลงมาอีกนิด


“โอ๊ย... ตรงไหนก็ได้ ที่ไม่คิดลามกกับพราว” หล่อนหวีดใส่เต็มหูดรณ์


“งั้นก็เดินโป๊ๆ ไปขึ้นรถอย่างงี้ล่ะกัน ดีมะ” พูดจบก็ปล่อยหล่อนทิ้งลงพื้นทันที ร่างอวบเซแซดๆ ไม่เป็นท่า แต่ดรณ์แข็งใจพอไม่เข้าไปช่วย


“อีพี่ดรณ์หน้าปลาจวด โยนชั้นลงมาได้ไง เดี๋ยวแข้งขาหักไป จะรับผิดชอบไหวไหม” พอทรงตัวได้หล่อนก็แว้ดใส่ชุดใหญ่


“เรื่องอะไรพี่จะต้องไปรับผิดชอบ ปะไปๆ ยืนโชว์ตัวยังงี้ อุดจาดตาคนเปล่าๆ รีบไปที่รถเดี๋ยวพี่จะขับรถไปส่ง” ดรณ์ออกคำสั่ง สีหน้าจริงจัง แถมยังคว้ามือลากหล่อนไปที่รถ


พราวพุธสะบัดมือดรณ์ออก พยายามคุมสติ เกรี้ยวกราดใส่กันคงไม่เกิดผลดี หนำซ้ำสายตาคนอื่นๆ ที่มองอยู่ต่างพุ่งเป้าความในใจมาที่หล่อนกับเขา


“ปล่อยมือพราว พราวเดินเองได้” หล่อนก้าวเท้าฉับๆ ไปที่ ‘เจ้าหวานหวาน’ รถตู้ของดรณ์ซึ่งแต่งเก๋ไก๋กว่าใครทั้งสติ๊กเกอร์ชื่อร้านขนมและสารพัดโมเดลซึ่งอัดแน่นเต็มด้านหน้าและด้านหลังรถ


“แล้วจะเข้าบ้านทั้งที่ตัวเหม็นเหล้าอย่างงี้เหรอ”เขาเอ่ยขึ้นลอยๆ แต่จงใจว่าหล่อนนั่นแหละ
พราวพุธพึ่งนึกได้ สภาพหล่อนตอนนี้แค่เดินเข้ารั้วบ้าน พบพรคงทำตัวเป็นครูฝ่ายปกครองยืนตรวจความเรียบร้อย แล้วกลิ่นแอลกอฮอล์ที่เหมือนจะอาบอยู่บนร่างหล่อน คงเตะจมูกคนในบ้านให้ออกมาเรียงคิวซักไซ้ว่าไปทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ กับใครมา !? หญิงสาวหน้าตีหน้าเศร้า คว้าแขนชายหนุ่มมายึดไว้ แล้วเอ่ยอย่างประจบว่า


“คุณพี่ดรณ์ขา ไม่อยากให้พราวถูกหมกอยู่ในตำหนักใช่ไหม งั้นต้องช่วยพราวนะ พี่ชายที่แสนดี๊ ดี” พราวพุธยิ้มพราย ส่งสายตาอ้อนมาเฟียขนมหวาน!







เขมปัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 ต.ค. 2555, 07:35:56 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 ต.ค. 2555, 07:35:56 น.

จำนวนการเข้าชม : 1379





<< บทที่ ๓ ช่วยเก็บผ้าเช็ดหน้าให้ฉันที    
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account