อุ่นไอ ไร่รัก
เรื่องราวความรักของไอรักเจ้าของร้านหนังสือและปรางฤดีเจ้าของไร่ส้ม เมื่อทั้งสองได้เจอกัน ความสัมพันธ์ที่เรียกว่ารักจึงบังเกิด พร้อมกับสิ่งดีๆ ที่ตามมา
Tags: ไอรัก อุ่นไอไร่รัก ซาคุ
ตอน: ตอนที่ 1 : ไร่ส้มไร่รัก
3 เดือนผ่านไป...
ท่ามกลางแสงแดดอันร้อนแรงบนพื้นที่กว่า 15 ไร่ มีหญิงสาวผมยาวสลวยยืนอยู่โดยไม่กลัวความร้อนเหล่านั้น บนหัวของเธอถูกสวมด้วยหมวกผ้าสีฟ้าเข้ากับชุดทำสวนสีดำ ใบหน้าของเธอนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มเมื่อมือเรียวสวยของเธอนั้นได้สัมผัสกับผลผลิตอันสมบูรณ์ที่เธอนั่นได้ดั่งที่ใจต้องการ
“ปีนี้ไร่ของเราต้องรับรางวัลอีกปีแน่ๆ เลยใช่ไหมค่ะป้านวล”
เสียงของหญิงสาวพูดขึ้นกับคนสวยที่อยู่ไม่ไกลนัก โดยที่สายตาของเธอนั้นยังคงจับจ้องผลส้มอย่างชื่นชม
“ค่ะ เพราะคุณปรางค์ลงมาดูแลแบบนี้ยังไงค่ะ ถ้าไม่ได้รับรางวัลป้าเองก็คงคิดว่ากรรมการคงรำเอียงแล้วล่ะค่ะ” ป้านวลตอบกลับมาพร้อมกับตะกร้าที่บรรจุส้มลูกใหญ่สีสดใสเต็มตะกร้า
“ว่าแต่คุณปรางจะให้ป้าเก็บส้มพวกนี้เอาไปให้ใครเหรอค่ะ เยอะเชียว”
ป้านวลทำหน้าแปลกใจ แต่เมื่อเห็นผู้เป็นนายอย่างคุณปรางค์อมยิ้มก็พอจะทำให้ตัวเธอเองรู้แล้วว่าคนที่จะได้รับส้มเหล่านี้คงเป็นใครไม่ได้ นอกจากเพื่อนชายคนหนึ่งที่คุณปรางค์มักจะพูดเสมอว่าเป็นเพื่อนสนิท แต่ป้านวลกลับมองหญิงสาวออกว่าคนๆ นั้นจะต้องเป็นคนสำคัญของเจ้านายตัวเองอย่างแน่นอน
“ป้านวลก็รู้หนิค่ะว่าปรางค์จะเอาไปให้ใคร”
“คุณณัฐเหรอค่ะ” ป้านวลแกล้งถามอีกครั้ง แม้ตัวเองจะรู้ว่าคำพูดนั่นคือคำตอบที่เขารู้อยู่แล้ว
“ค่ะ” หญิงสาวตอบเสียงใส
“ว่าแต่พักนี้คุณณัฐเขาหายไปไหนเหรอค่ะไม่เห็นมาเที่ยวสวนเราเลย”
ป้านวลยังคงถามต่อ สองมือของป้านวลในตอนนี้เปลี่ยนเป็นตะกร้าที่ว่างเปล่าแล้วเริ่มเก็บส้มที่ต้นถัดไป
“ช่วงนี้เขางานยุ่งนะคะคุณป้า เห็นเขาบ่นๆ อยู่ว่าเจ้านายของเขาจู่จี่มากเลยช่วงนี้ก็เลยแวะมาหาเราที่สวนไม่ได้”
“อ๋อ แบบนี้เองเหรอค่ะ” ป้านวลตอบมาด้วยน้ำเสียงที่พอจะทำให้ผู้เป็นนายของตัวเองรู้ว่าเขาเข้าใจ “แล้วส้มที่เก็บพวกนี้คุณปรางค์จะเอาไปให้เขาเหรอค่ะ”
“ค่ะป้า ปรางค์โทรบอกเขาแล้วค่ะ”
หญิงสาวยังคงอมยิ้มให้กับส้มตรงหน้าโดยไม่รู้เลยว่าป้านวลคอยสังเกตสีหน้าของตัวเธอมาตลอด และป้านวลเองก็ดีใจที่เห็นเจ้านายของตัวเองมีความสุขแบบนี้
หลังจากได้ส้มที่ต้องการ คุณปรางค์ หรือ ปรางฤดี ก็กลับเข้าห้องแล้วเริ่มชำระร่างกายทันที ความเย็นของน้ำที่ต้องกายหญิงสาวทำให้ปรางฤดีรู้สึกสบายเนื้อสบายตัวมากยิ่งขึ้น
“สดชื่นจัง”
ปรางฤดีเอ่ยขึ้นหลังจากที่ตัวเธอเองออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับเสื้อผ้าสบายตัว หญิงสาวมองไปรอบบ้านเพื่อหาคนที่ตัวเองรัก แต่แล้วสายตาของเธอก็ต้องไปสะดุดกับร่างของหญิงชราคนหนึ่งที่นอนงีบอยู่ไม่ไกลจากเธอนัก
ปรางฤดีเฝ้ามองคุณย่าของตัวเองอยู่ห่างๆ เพราะสำหรับชีวิตของเธอนั้นคุณย่าถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับชีวิตและเธอเองก็ไม่ที่จะสูญเสียคนที่รักไปอีกเหมือนกับพ่อแม่ของเธอ ปรางฤดียังคงจำได้ดีถึงเมื่อ 3 ปีก่อนที่เธอต้องสูญเสียพ่อและแม่ของตัวเองจากอุบัติเหตุรถยนต์ ทั้งสองจากเขาไปทันทีโดยไม่มีคำพูดเอ่ยลาสักคำ และมันก็ทำให้เธอรู้สึกว่าคนที่เธอรักและรักเธอได้จากไปแล้ว และต่อจากนี้คนที่จะมาเติมเต็มความรักของพ่อแม่ที่ขาดไปนั้นคงมีเพียงแต่คุณย่าของเธอเองเท่านั้น
ปรางค์ฤดีเฝ้ามองย่าของตัวเองอย่างนิ่งเงียบก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองต้องหาผ้ามาห่มให้ผู้เป็นย่า หญิงสาวเดินหายเข้าไปในห้องของตัวเองก่อนจะออกมาพร้อมกับผ้าห่มผืนเล็ก ปรางค์ฤดีค่อยๆ ห่มผ้านั้นอย่างถะนุถนอมราวกับกลัวว่าคนที่อยู่ใต้ผ้าผืนนั้นจะตื่น
“หลับฝันดีค่ะ”
ปรางค์ฤดีบอกย่าตัวเองแล้วลุกขึ้นตรงออกไปด้านนอก
เวลาตอนนี้เป็นช่วงเย็น อากาศเริ่มเย็นสบายเมื่อพระอาทิตย์ค่อยๆ ลับหายขอบฟ้า สายลมน้อยใหญ่ต่างพัดผ่านไปอย่างต่อเนื่องจนทำให้ผมตรงสลวยของปรางค์ฤดีต้องพลิ้วไหวไปมาตามแรงลมเหล่านั้น
“มาทำอะไรตรงนี้ค่ะคุณปรางค์” เสียงของป้านวลดังขึ้นมาจากอีกด้าน
“อ้าวคุณป้า”
ปรางฤดีหันไปยิ้ม
“ออกมารับลมเล่นนะค่ะ ปกติตอนเย็นแบบนี้ลมจะผ่านมาบ่อยมาก มันทำให้ปรางค์ผ่อนคลายและคิดอะไรดีๆ ได้หลายอย่างค่ะ” ปรางฤดีหันไปมองพื้นที่ต้องตรงหน้าอีกครั้ง ตรงหน้าของปรางฤดีนั้นคือสวนส้มที่เธอลงแรงทำเองกับมือ และมันก็เป็นวิวที่เธอชอบมันมากที่สุด
“คิดอะไรดีๆ อย่างงั้นเหรอค่ะ แล้วคุณปรางค์คิดอะไรได้บ้างค่ะ” ป้านวลเดินมาหยุดใกล้ๆ เธอแล้วมองตรงไปยังสวนส้มที่เดียวกับที่ปรางฤดีกำลังมองอยู่
“ปรางค์คิดว่าปีหน้า ปรางค์จะหาวิธีอื่นที่จะทำให้เราได้ผลผลิตมากขึ้นนะค่ะ”
ปรางฤดีหันไปยิ้มให้กับป้านวลอีกครั้ง แต่รอยยิ้มครั้งนี้มีความตั้งใจปะปนอยู่ในนั้น
“และปรางค์เองก็อยากเอาส้มพวกนั้นไปทำสินค้าแปรรูปที่สามารถสร้างเงินให้กับไร่ของเรานะค่ะ”
“ก็ดีนะ ป้าเองก็เห็นด้วยกับคุณปรางค์เหมือนกัน”
“ขอบคุณค่ะ” อยู่ดีๆ ปรางค์ฤดีก็เอ่ยคำขอบคุณขึ้นมาจนทำให้ป้านวลมองหน้าอย่างสงสัย
“ขอบคุณป้าเรื่องอะไรเหรอค่ะ”
“ขอบคุณที่ป้านวลอยู่ข้างปรางค์มาตลอดมา” ปรางฤดีเผยยิ้มก่อนจะโผเข้ากอดป้านวลทันที “แม้ป้าจะไม่ใช่ป้าแท้ๆ ของปรางค์แต่ปรางค์ก็รักป้านวลมากเลยนะค่ะ ถ้าเป็นไปได้อยากให้ป้านวลเป็นคุณแม่เบอร์สองเลย”
“แม่เบอร์สองเลยเหรอ”
ป้านวลถามขึ้นอย่างแปลกใจ แม้ป้านวลเองจะเป็นแค่เพียงคนดูแลคนในครอบตัวนี้ แต่ป้านวลเองก็รักปรางฤดีไม่ต่างไปจากลูกตัวเอง
“ถ้ารักป้าจริงป้าว่าคุณปรางค์ไปรอที่โต๊ะอาหารได้แล้วล่ะ เพราะตอนนี้คุณย่าท่านนั่งคอยทานอาหารอยู่แล้วล่ะ” ป้านวลคลายกอดแล้วจูงมือหญิงสาวเข้าไปด้านในทันที
บนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยกับข้าวที่ป้านวลตั้งใจทำอย่างสุดฝีมือ และมันก็ทำให้หญิงสาวอย่างปรางฤดีติดใจรสชาติอาหารเหล่านั้นมาก ตรงหัวโต๊ะมีหญิงชรานั่งอยู่เพื่อคอยปรางฤดีทานข้าว
“คุณย่าตื่นแล้วเหรอค่ะ” ปรางฤดีถาม
“ย่าตื่นตั้งแต่เราเอาผ้ามาห่มให้ย่าแล้วล่ะ แต่ย่าแกล้งหลับต่อ” คุณย่าตอบพร้อมกับยิ้มให้หลานสาวตัวเอง
“เหรอค่ะ”
ปรางฤดีนั่งลงที่เก้าอี้ใกล้ๆ กัน
“ปรางค์ทำให้คุณย่าตื่นเหรอค่ะ ปรางค์ขอโทษนะค่ะ”
ปรางฤดีทำสีหน้ารู้สึกผิดทันที แต่เมื่อเห็นหน้าของคุณย่า ปรางฤดีก็ต้องงงไปทันทีเพราะเธอไม่เข้าใจว่าคุณย่าของเธอนั้นยิ้มเพราะอะไร
“หลานไม่ได้ทำให้ย่าตื่นหรอก เพียงแต่ย่าไม่อยากให้น้ำใจของปรางค์ต้องเสียไป ย่าก็เลยแกล้งหลับแล้วนอนต่อสักพัก” คุณย่าอธิบายให้ฟัง ทำเอาหญิงสาวรู้สึกผิดน้อยลงไปบ้าง
“คราวหน้าปรางค์จะระวังนะค่ะ” ปรางฤดียิ้มแก้เก้อ
“ทานข้าวเถอะ ปรางค์จะได้เอาส้มไปให้ตาณัฐเขาไงลูก”
คุณย่าเร่งให้หญิงสาวรีบทานข้าวเพราะเธอรู้ดีว่าหลานสาวที่รักนั้นมีนัดกับณัฐพลเพื่อนคนสนิทคนสำคัญที่ร้านกาแฟใกล้ๆ ตลาด แถมปรางฤดียังบอกกับเธออีกว่าคืนนี้จะกลับดึก
“ค่ะคุณย่า”
ป้านวลเติมข้าวให้กับเจ้านายทั้งสองพอประมาณแล้วเดินเลี่ยงเข้าไปในห้องครัวทันที
“ว้าว แกงส้มวันนี้อร่อยจัง” ปรางฤดีพูดขึ้นทันทีเมื่อเธอตักแกงส้มเข้าไปในปาก ความอร่อยของมันทำให้ปรางฤดีต้องตักมันขึ้นมาทานอีกอย่างไม่อาจหยุดได้
“ค่อยๆ ทานสิลูกเดี๋ยวก็สำลักหรอก”
และก็เป็นไปตามคำพูดของผู้เป็นย่า ใบหน้าของปรางฤดีเริ่มแดงขึ้นพร้อมกับไอออกมาหลายครั้ง มือขวารีบยกน้ำขึ้นมาดื่มเพื่อให้อาการนั้นหายไป
“อ่า เกือบตายซะแล้ว” ปรางฤดีดื่มน้ำจนอาการสำลักนั้นหายไป หญิงสาวมองไปหาย่าของตัวเอง แต่ก็ได้เพียงสายตาดุๆ กลับมา “ก็มันอร่อยหนิค่ะ”
“ย่ารู้ว่ามันอร่อย แต่หลานก็ไม่ควรรีบทานนะ ไปทานที่อื่นแบบนี้ใครเขาจะว่าเอาแล้วจะทำให้ย่าเสียชื่อหมด เขาจะหาว่าย่าไม่อบรมหลานตัวเองเรื่องมารยาทบนโต๊ะอาหาร” คุณย่าพูดไล่ยาวเล่นเอาปรางฤดีเหวอไปทันทีเมื่อโดนบทสวดเล็กๆ ของย่าตัวเอง
“เข้าใจแล้วค่า”
ปรางฤดีขานรับคำก่อนจะค่อยๆ ซดน้ำแกงส้มต่อ แต่ไม่เร็วเหมือนครั้งก่อน และเมื่อได้ความอร่อยของแกงส้มฝีมือป้านวลแล้วก็ยิ่งทำให้ปรางฤดีเจริญอาหารมากขึ้น ข้าวที่เคยมีอยู่ในจานค่อยๆ พล่องหายไปอย่างรวดเร็ว
“เติมข้าวไหมลูก เดี๋ยวย่าเติมให้” คุณย่าที่กำลังทานอยู่หันไปเห็นข้าวในจานหลานสาวตัวเองเกลี้ยงจาน
“ไม่ดีกว่า ปรางค์แบ่งท้องไปทานต่อกับณัฐดีกว่าค่ะ เห็นเขาจะพาปรางค์ไปเลี้ยงด้วยนะค่ะ”
“ทานเก่งนะเรา”
“ไม่หรอกค่ะ ปรางค์เองก็กลัวอ้วนเหมือนกันนะค่ะ ดูสิ หลังจากเรียนจบมาไม่กี่เดือนพอกลับมาอยู่ที่นี่น้ำหนักปรางค์เพิ่มขึ้นเกือบ 5 กิโล แถมแก้มก็ออกจนหน้าจะกลมแล้วด้วย”
ปรางฤดีพูดไปพลางเอามือเรียวสวยของตัวเองขึ้นมาจับแก้มที่เริ่มออกจนเหมือนคนอ้วนที่มีเนื้อตรงแก้มเยอะ
“ปรางค์ยังไม่อ้วนหรอกลูก เพราถ้าผอมกว่านี้ย่าว่าหลานคงได้ปลิ้วไปกับลมแน่ๆ”
ย่าพูดแซวหลานสาวตัวเองเล่น แล้วทั้งสองคนก็หัวเราะให้กับมุขเรียบง่ายของผู้เป็นย่า
“ถ้างั้นปรางค์ขอตัวไปเตรียมตัวก่อนนะค่ะ ไม่รู้ว่าตอนนี้ป้านวลจัดส้มเสร็จหรือยัง”
“ตามสบายเลยลูก เดี๋ยวย่านั่งทานต่อคนเดียว”
“ปรางค์รักคุณย่านะค่ะ”
ปรางค์ฤดีลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินอ้อมหลังไปหาคุณย่า ริมฝีปากสีชมพูก้มลงสัมผัสใบหน้าเหี่ยวย่นของย่าก่อนจะเดินหายเข้าไปด้านใน
“ลูกสาวแกโตแล้วนะตาปิน ไม่นานแม่ก็คงตามแกไปแล้วสินะ”
แววตาของหญิงชรามองตรงไปยังรูปสีขาวดำที่อยู่ติดบนฝาผนังบ้าน ในรูปคือชายผมสั้นที่กำลังยิ้มอยู่ ดวงตากลมโตไม่ต่างไปจากปรางฤดี ถัดไปคือภาพของหญิงสาวที่มีใบหน้าสะสวย ดวงตาเรียวเล็กที่เขากับริมฝีปากเล็กแต่มีเสน่ห์ ย่าของปรางฤดีมองสองภาพนั้นอย่างคิดถึง พร้อมใช้มือปราดน้ำตาที่ไหลออกมาไม่มากนัก
“แม่จะดูลูกของแกให้ดีนะ”
หญิงชราเดินจากจุดนั้นไปโดยไม่รู้เลยว่าหลานสาวของตัวเองนั้นยืนเฝ้ามองอยู่ไม่ไกลนัก ใบหน้าของหญิงสาวค่อยๆ เปื้อนไปด้วยน้ำตาที่ไหลออกมาไม่ต่างจากย่าของตัวเอง
“ปรางค์จะไม่ทำให้คุณย่าต้องเสียใจอย่างแน่นอนค่ะ”
ปรางค์ให้คำสัญญากับตัวเอง สองมือยกขึ้นปราดน้ำตานั้นให้หายไปแล้วเดินเข้าไปในครัว ตอนนี้ส้มที่ถูกมาเมื่อตอนกลางวันนั้นถูกจัดเรียงในตะกร้าสุดหรู รอบๆ ตะกร้าถูกตกแต่งด้วยริบบิ้นสีชมพูพร้อมโบว์ขนาดเล็กอยู่ติดมุมด้านบน ปรางค์ฤดียกขึ้นดูอย่างดีใจ
“สวยไหมค่ะคุณปรางค์” ป้านวลเดินเข้ามาในครัวแล้วเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นปรางฤดียิ้มเล็กยิ้มน้อยให้กับตะกร้าในมือ
“สวยมากเลยค่ะ”
“คุณณัฐจะต้องชอบมันแน่ๆ เลยนะค่ะ ป้าว่าแบบนั้น”
“ปรางค์ก็คิดอยู่เหมือนกันค่ะ” ปรางฤดีวางตะกร้าลงที่เดิม
“จะให้ป้าจัดอะไรเพิ่มไหมค่ะ” ป้านวลมองไปที่ตะกร้าที่ตัวเองเพิ่งจัดเสร็จก่อนจะหันไปมองหญิงสาวตรงหน้า
“ไม่หรอกค่ะ แค่นี้ก็สวยมากแล้ว”
“แล้วคุณปรางค์จะออกไปเลยไหมป้าจะได้เอาตะกร้าไปใส่ที่รถให้” ป้านวลพูดขึ้น แต่เมื่อหญิงสาวพยักหน้าเธอก็รีบยกตะกร้านั้นแล้วลงไปที่รถที่ตอนนี้จอดคอยอยู่หน้าบ้านแล้ว
เมื่อตะกร้าเข้ารถเรียบร้อยแล้วปรางฤดีก็สตาร์ทรถแล้วเร่งความเร็วเพื่อตรงออกไปจากบ้าน เส้นทางจากบ้านไปยังที่นัดหมายนั่นไม่ไกลนัก เพียงไม่ถึงยี่สิบนาทีปรางฤดีก็มาถึงแล้วลงจากรถพร้อมกับตะกร้าส้มที่ถูกบรรจุจนเต็มอย่างถะนุถนอมและอีกไม่นานต่อจากนี้มันจะถูกนำไปส่งให้อีกคน
ภายในร้านอาหารตอนนี้ไม่ค่อยมีผู้คนมากนักเหมือนที่ปรางฤดีคาดเอาไว้ และเมื่อเดินเข้าไปด้านในบริกรก็เดินออกมา
“มากี่ท่านค่ะ” เสียงของบริกรสาวเอ่ยถาม
“สองค่ะ แต่โทรจองโต๊ะไว้แล้วนะค่ะ” ปรางฤดีหันไปตอบบริกรสาว
“จองชื่ออะไรค่ะ”
“ณัฐพลค่ะ” ปรางฤดีตอบไป
บริการสาวหยิบแผ่นกระดาษขนาดเล็กออกมาแล้วเริ่มอ่านรายการบางอย่างที่หญิงสาวไม่เข้าใจ แล้วหันมาพูดต่อ
“เชิญด้านนี้เลยค่ะ”
บริกรสาวผายมือไปทางด้านซ้ายพร้อมเดินนำไป ปรางฤดีเดินตามไปอย่างว่าง่าย และในที่สุดเธอก็มาถึงยังโต๊ะที่ได้จองเอาไว้พร้อมกับที่โต๊ะนั่นมีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลากำลังนั่งคอยอยู่แล้ว สายตาคู่เล็กนั้นหันมามอง ชายหนุ่มลุกขึ้นทันทีเมื่อได้เห็นปรางฤดีมา
“มาถึงนานแล้วเหรอ” ปรางฤดีเอ่ยถามชายหนุ่มเมื่อเห็นเขามาถึงก่อนเธอ
“ไม่หรอก เพิ่งมาถึงเหมือนกันนะ” ณัฐพลตอบ “นั่งก่อนสิ” ชายหนุ่มเลื่อนเก้าอี้ให้พร้อมกับรับตะกร้าผลไม้ที่หญิงสาวตั้งใจเอามาให้
“ส้มน่าทานจังเลยนะ” ณัฐพลหยิบส้มขึ้นมาดู
“นั่นเป็นส้มชุดแรกของปีเลยล่ะ” ปรางฤดีพูดอวด “เอาไปให้คุณแม่นายด้วยนะ”
“ได้ครับ” ณัฐพลรับคำแล้ววางตะกร้าลงบนเก้าอี้ใกล้ๆ ตัว “สั่งอาหารก่อนดีกว่านะ ผมหิวแล้วล่ะ”
“ถ้างั้นก็สั่งเลยแล้วกัน แต่วันนี้ปรางค์คงทานได้ไม่มากนะ” ปรางฤดีรีบบอกทันที เพราะก่อนที่เธอจะออกมานั่นเธอได้ทานข้าวมาแล้ว แต่มันก็ไม่ได้มากถึงขนาดอิ่ม
“ทำไมล่ะ ลดหุ่นเหรอ” ณัฐพลมองอย่างไม่เข้าใจ สายตาของเขายังคงอ่านเมนูตรงหน้าอย่างตั้งใจ
“ปรางค์ทานมาแล้วนะ แต่ไม่เยอะเท่าไหร่ ความจริงปรางค์แบ่งท้องมาทานที่นี่ต่อด้วยนะ”
ฤดียอมสารภาพไป เล่นเอาชายหนุ่มที่กำลังอ่านเมนูอาหารต้องหันมามองหน้าเธอพร้อมหัวเราะเบาๆ ในลำคอ
“เราจะดีใจไหมเนี่ย แอบทานมาก่อนแล้วแถมมีการแบ่งกระเพาะเพื่อมาทานข้าวกับเรา” ณัฐพลพูดไปขำไปเล่นเอาใบหน้าของปรางฤดีเริ่มแดงด้วยความอาย
“ต้องดีใจสิ” ปรางฤดีทำหน้าตาให้เป็นปกติ “รีบสั่งสิ หิวไม่ใช่เหรอ”
เมื่อหญิงสาวเตือนความจำ ณัฐพลก็ก้มไปอ่านเมนูอาหารต่อแล้วหันไปเรียกบริกรเพื่อจดรายการอาหารมากกว่า 4 รายการ
หลังจากรอไม่นาน อาหารสุดหรูก็ถูกนำมาเสิร์ฟ ทำเอาปรางฤดีถึงกำลังตาโตด้วยความตื่นเต้น เพราะอาหารตรงหน้าล้วนแต่เป็นอาหารที่เธอชอบทั้งนั้น แถมรถชาตินั้นคงไม่ต้องพูดถึงเพราะร้านอาหารนี้ได้รับรางวัลจากรายการอาหารมาหลายที่ อีกทั้งยังมีนักข่าวมาขอทำสกุ๊ปข่าวอีกมาก แต่มันก็ไม่เท่ากับการที่เขาและเธอได้มาชิมอาหารในวันนี้
“อร่อยสมชื่อจริงๆ ด้วย”
ณัฐพลเอ่ยชมทันทีที่อาหารคำแรกเข้าไปในปาก และเริ่มตามด้วยอาหารจานอื่นๆ ที่ตามมาติดๆ ทำให้ปรางฤดีที่นั่งมองชายหนุ่มอยู่ต้องเผยยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“ยิ้มอะไรเหรอ”
“มองนายกินไง”
ปรางฤดีตอบไปทั้งๆ ที่ภายในเจอกำลังบอกว่าตอนนี้เธอกำลังจับจ้องชายหนุ่มคนที่เธอแอบรักอยู่ ซึ่งเมื่อปรางฤดีได้เห็นคนที่แอบรักมีความสุขกับการกินอาหารตรงหน้าก็พลอยทำให้เธอมีความสุขตามไปด้วย
“จริงเหรอ”
ณัฐพลทำหน้าไม่แน่ใจในคำพูดของหญิงสาว
“ปรางค์ลองทานดูสิ อร่อยจริงๆ นะ”
ณัฐพลพูดเสร็จก็ตักอาหารใส่ลงในจานหญิงสาว ปรางฤดีมองอาหารนั้นแล้วลงมือทานตามคำชวน เมื่อตักเข้าไปในปากแล้วสัมผัสเข้ากับลิ้น รสชาติความอร่อยของอาหารค่อยๆ แผ่ซานเข้าไปเต็มปาก แล้วรอยยิ้มก็ต้องปรากฎขึ้นบนใบหน้าอีกครั้ง โดยมีณัฐพลค่อยดูอยู่ตลอด
“เป็นไง อร่อยไหม”
ปรางฤดีพยักหน้า
“ถ้างั้นก็ทานเยอะๆ นะ” ณัฐพลเตรียมท่าจะตักอาหารใส่จานในปรางฤดีอีก เธอจึงยกมือขึ้นปรามเอาไว้
“ไม่เป็นไรณัฐ เดี๋ยวปรางค์ตักเองดีกว่านะ ณัฐทานต่อได้เลย”
“เอาอย่างงั้นเหรอ”
“อืม”
“ก็ได้”
ณัฐพลตักอาหารใส่จานตัวเองแล้วทานต่อ โดยที่ปรางฤดีเองนั้นก็ทานไปแล้วแอบมองชายหนุ่มตรงหน้าไปด้วย โดยตลอดเวลาที่ทานอาหารทั้งสองไม่ปริปากพูดกันเลยสักคำ จนกระทั่งอาหารเริ่มหมดไปทีละอย่างจนปรางฤดีต้องเอ่ยขึ้นมา
“สั่งเพิ่มไหม”
“ไม่ดีกว่า เริ่มอิ่มแล้วล่ะ” ณัฐพลพูดเสร็จก็รวบช้อนทันที “ปรางค์จะสั่งเพิ่มไหมล่ะ เราจะได้ทานต่อเป็นเพื่อน”
“ไม่ดีกว่า” ปรางค์รวบช้อนตามทันที
“ถ้างั้นสั่งของหวานมาทานต่อไหม”
ณัฐพลเสนอพร้อมโบกมือเรียกบริกรให้มาหาเพื่อขอเมนู ในเมนูเหล่านั้นมีขนมหวานมากมายหลายชนิดทำเอาปรางฤดีมองไปมาด้วยความอยากลิ้มลอง แต่สุดท้ายเธอสั่งขนมง่ายๆ ไปกับบริกร เช่นเดียวกับณัฐพลที่หันไปสั่งขนม
“เสร็จแล้วปรางค์จะไปไหนต่อหรือเปล่า”
“ไม่ล่ะ คงกลับบ้านเลยกลัวคุณย่าจะเป็นห่วงนะ”
“อ่อ แล้วท่านสบายดีไหมเราไม่ได้ไปเยี่ยมท่านที่ไร่ตั้งนานแล้วนะ”
ณัฐพลนึกถึงตอนที่เขาไปที่ไร่นั้นล่าสุด ตอนนั้นก็หลายเดือนมาแล้วที่เขาไป เขาได้เจอกับย่าของปรางฤดีและได้พูดคุยกันจนทำให้คุณย่าชอบในนิสัยของเขา อีกทั้งยังเอ็นดูไม่ต่างจากลูก
“คุณย่าสบายดี แถมบางวันยังถามหานายอยู่เลยนะว่านายหายไปไหน”
“แล้วปรางค์ได้บอกท่านไปหรือเปล่าว่าเราติดงานนะ”
“บอกแล้ว”
การสนทนาเพียงสั้นๆ ก็จบลงเมื่อพนักงานเสิร์ฟยกขนมหวานที่ทั้งสองคนสั่งไป หน้าตาของมันนั้นทำเอาหญิงสาวอยากที่จะลิ้มลองมัน แต่ก็ไม่ทันชายหนุ่มตรงหน้าที่ตอนนี้กำลังทานอย่างอร่อย
“ไวจริงๆ เลยนะณัฐ”
ปรางฤดีที่มัวแต่มองถ้วยขนมตัวเองจนเพลินเงยหน้าขึ้นไปมองชายหนุ่ม แล้วก็เห็นณัฐพลกำลังตักเอาปากอย่างอร่อย
“ไม่รีบทานล่ะ อร่อยนะ”
“จ้า” ปรางฤดียิ้มนิดๆ แล้วทานตามทันที
เมื่อทุกอย่างเรียกร้อยชายหนุ่มก็เรียกบริกรเข้าเก็บเงิน
“เท่าไหร่ครับ”
“520 บาทค่ะ”
“นี่ครับ”
ณัฐพลล้วงเงินขึ้นมาจ่าย แต่สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นแบงค์ห้าร้อยจากปรางฤดียื่นมาให้เขา
“เงินอะไรเหรอปรางค์” ณัฐพลทำหน้าไม่เข้าใจกับเงินตรงหน้า
“ปรางค์ช่วยจ่ายดีกว่า”
“ไม่เป็นไรหรอก เราเลี้ยงเอง”
“เอาเงินนี่จ่ายไปเถอะ”
“ถ้างั้นหารครึ่งแล้วกัน”
ชายหนุ่มทนลูกตื้อของปรางฤดีไม่ไหวเลยจำต้องรับเงินนั้นแต่เลือกจ่ายคนละครึ่งแล้วส่งให้บริกรไปทันที
“ถ้างั้นเรากลับกันเถอะ”
ณัฐพลลุกขึ้นแล้วตามมาด้วยปรางฤดีที่ลุกขึ้นตาม ทั้งสองเดินออกมาจากร้านโดยมีตะกร้าส้มใบใหญ่ติดมือมาด้วย
“รถปรางค์อยู่ไหนแหรอ”
“ด้านนู้นนะ” ปรางฤดีชี้ตรงไปยังลานจอดรถอีกด้าน
“เดี๋ยวเราไปส่งที่รถแล้วกัน” ณัฐพลเดินไปส่งหญิงสาว แล้วเมื่อเห็นรถยนต์ของปรางฤดีห่างจากจุดที่เคยอยู่แล้วชายหนุ่มก็เดินกลับไปที่รถแล้วเก็บตะกร้าส้มนั้นอย่างบรรจง
“ขอบคุณมากนะ” ณัฐพลยิ้มให้กับตะกร้าส้มตรงหน้า

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 ต.ค. 2555, 22:16:13 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 ต.ค. 2555, 22:16:13 น.
จำนวนการเข้าชม : 1215
<< บทนำ |