เสน่ห์ร้าย นายมาเฟีย
ซานโตรใช้ปลายนิ้วเขี่ยเส้นผมที่ยาวระใบหน้า เส้นผมสีน้ำตาลราวกับเส้นไหมหยักศกน้อย ๆ ใบหน้าคมคายใส่แว่น สวมชุดยาวจนถึงกลางหลัง รองเท้าบูทไขว่ห้างราวกับกำลังนั่งอยู่ภายในห้องพักในบ้านของตัวเอง คิ้วหนารับกับจมูกโด่งเป็นสัน กับเรียวปากได้รูปราวกับรูปสลัก...
Tags: นิยาย,ความรัก,หวานละมุน,มาเฟีย
ตอน: บทที่ 6 รอยจูบ
บทที่ 6
รอยจูบ
เบื้องหน้าโต๊ะวาดภาพสีขาว สี่มุมขึงผ้าไว้จนตึง ลูเซียนากำลังวาดภาพไว้ภายในใจ สิ่งที่เธอจินตนาการไว้มีหลาอย่างอย่างเช่นภาพวิวทิวทัศน์ของเมืองฟรอเรนซ์ และวาดภาพผู้หญิงสาวกำลังทำขนมปังแล้วมีเด็กตัวเล็ก ๆ กำลังวิ่งไล่กันอย่างสนุกสนาน ลูเซียนาลองวาดภาพบนพื้นผ้าใบ วาดตรงขอบจนถึงกลางภาพวาด แต่สุดท้ายเธอก็ไม่รู้ว่าภาพที่เธอวาดหวังมันจะสิ้นสุดอยู่ตรงไหน
ลูเซียนามองเห็นทิวทัศน์ของเมือง เธอมองเห็นสิ่งงดงามที่น่าถ่ายทอดให้คนอื่นรับรู้ แต่ทว่าสิ่งหนึ่งที่เธอไม่อาจรู้ได้นั่นคือภาพเขียนที่บ่งบอกถึงสายตาของใครหลายคน ที่จ้องมองยังภาพทิวทัศน์ที่เธอต้องการให้อยู่ในภาพเขียน หญิงสาวน่ารักเส้นผมยาวสลวย ลองวาดขึ้นมาอีกครั้งแต่สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรเลยนอกจากภาพสีดำจาง ๆ
“ทำไมถึงนึกไม่ออกนะ” เธอบ่นเบา ๆ
หญิงสาวสวมชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าลายขวางกางเกงขาสั้น ราวกับอยู่ในห้องนอน ใจกลางห้องของเธอมีอุปกรณ์วาดภาพและดินสอสี แต่ทว่ากลับไม่ได้ภาพอะไรเลย
“เฮ้อ...แย่จริง ๆ เลย” ลูเซียนารำพึง “จริงสิซานโตรน่าจะมีหัวทางด้านศิลปะนี่นะ”
ลูเซียนาเก็บภาพวาดสีขาว อุ้มลงไปถามนายแพทย์ที่ชั้นล่างเวลานี้เป็นเวลาเกือบสี่ทุ่ม แต่หญิงสาวรู้ว่าเขายังมีงานด่วนต้องทำไม่น่าจะหลับได้ง่าย ๆ
หญิงสาวมองตรงไปยังด้านล่าง...และมองเห็นไฟในห้องเปิดสว่างจนเดินเข้าไปหาทันที
“ซานโตร ฉันมีเรื่องให้ช่วยล่ะ” ลูเซียนาเอ่ยยิ้มแล้วก็ต้องหุบปาก
บนเก้าอี้โซฟาภายในห้องทำงาน ซานโตรกำลังนอนหลับในท่านอนหงาย ใบหน้าคมคายหลับสนิทจมูกโด่งเป็นสันเรียวปากปิดสนิท เส้นผมของเขาสั้นจรดต้นคอไร่เรี่ยกันจนถึงหน้าผากและริมหู มือข้างหนึ่งอยู่เหนือเส้นผมเหมือนคนที่นอนหลับสนิท อีกมือหนึ่งถือแว่นตาจรดอกราว คอเสื้อเปิดเสื้อเชิ้ตรัดรูปสีดำลายตารางเปิดแนวกระดุมสองสามเม็ดเผยให้เห็นแผ่นอกหนา ขาทั้งสองข้างเหยียดยาวอยู่บนโซฟา
เธอเห็นงานวิจัยเกี่ยวกับเส้นเลือดในโรคหัวใจกับวิธีการักษา ลูเซียนาเดินตรงไปแล้วใช้มือขวาหยิบงานวิจัยขึ้นมาอ่านพลางมองหน้าซานโตรพลางยิ้ม
“เป็นห่วงคุณลุง จนนอนหลับไปเลยสิเนี่ย”
ลูเซียนายิ้ม ๆ มองดูซานโตรที่กำลังหลับสนิท ใบหน้าของเขาดูเข้มแข็งแต่อ่อนโยน ถ้าหากว่ามีใครสักคนที่พอไว้ใจได้ผู้ชายคนนี้ก็คงไม่ต้องนอนโซฟาอย่างนี้หรอก เธอเอียงคอมองเขาทีละน้อย สังเกตดูแพขนตาหนารับกับจมูกโด่งและเรียวปากได้รูป เธอตัดสินใจนั่งลงบนหน้าโซฟาตัวยาวเพื่อที่จะมองใบหน้าคมคายนั้นชัด ๆ ลูเซียนาเอามือเอียงคอมองดูซานโตรให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้
“คุณเป็นใครกันแน่นะ...เป็นหมอหรือว่า....” เธอกระซิบแผ่ว เมื่อคิดถึงคฤหาสน์หลังใหญ่ที่มีนายแพทย์ซานโตรเข้าไปได้แค่คนเดียว คุณลุงคนนั้นแม้ว่าจะดูชราภาพลงมากแล้ว แต่ภูมิฐานก็ยังแลดูมีฐานะและทรงอำนาจมาก มีชายฉกรรจ์อยู่กันเต็มไปหมด ราวกับว่า...
คุณลุงคนนั้นเป็นมาเฟีย
“ซานโตร นี่ได้ยินหรือเปล่า” ลูเซียนาใช้ปลายนิ้วเขี่ยแก้มซานโตรเบา ๆ ชายหนุ่มหันหน้าหนีไปทางอื่นอย่างหงุดหงิด เธอหัวเราะคิกอย่างอดขำไม่ได้
“นอนหลับราวกับเด็ก ๆ”
ลูเซียนาไล่ปลายผมของเขาเบา ๆ ก่อนจะลุกขึ้นทำท่าจะห่มเสื้อคลุมให้คนตัวสูง แต่ทว่าช่วงจังหวะที่กำลังวางมือลงเธอก็ต้องอุทานแผ่ว เมื่อจู่ ๆ ซานโตรก็เอื้อมมือมาจับมือเธอเบา ๆ แล้วออกแรงดึงจนเธอถลาเข้าใส่ โชคยังดีที่ยังมีขอบโซฟาอยู่ใกล้ ๆ ลูเซียนาตาโตเมื่อเห็นใบหน้าคมคายกำลังหรี่ตามองเธอพลางขมวดคิ้ว
“ซานโตร” เธออ้าปากค้าง “คุณตื่นอยู่เหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ”
“ตั้งแต่เมื่อไหร่” ลูเซียนาแก้มแดงปลั่ง
“ตั้งแต่ที่คุณเดินเข้ามาแล้วใช้ปลายนิ้วเขี่ยหน้าผมพลางบ่นไปมานั่นแหละ” ซานโตรบ่น
“บ้า นี่ปล่อยนะ” คนตัวเล็กร้องเสียงดัง ทุบมือใส่แผ่นอกเขาราวคนกำลังโมโห
“ไม่ คุณอยากสงสัยเองทำไม ไม่ถามเฉย ๆ แต่ยังเอาปลายนิ้วเขี่ยเส้นผมผมไปมา ถามจริง ๆ เถอะคุณอยากรู้อะไรกันแน่ หรือว่าคอยหาโอกาสทำอย่างนี้นาน ๆ” ซานโตรเอ่ยยิ้ม จ้องมองดวงตากลมโตที่กำลังใบหน้าแดงจัด
“อย่ามาพูดบ้า ๆ นะ ฉันแค่แกล้งแหย่เล่นเฉย ๆ ไม่ได้คิดอะไรเลยเสียหน่อย”
เธอร้องเสียงดังหวังใช้เสียงเข้าขู่
“แล้วคุณอยากรู้อะไรล่ะ”
“อะไรนะ”
“เมื่อกี้ผมได้ยินคุณถามเบา ๆ...อยากรู้รึว่าผมเป็นใคร”
ลูเซียนาถึงกับเงียบไปทันที จะบอกได้อย่างไรกันนะว่าเธอสงสัยในตัวเขา คิดเล่น ๆ ว่าซานโตรอาจเป็นมาเฟีย หญิงสาวมองดูใบหน้าคมคายสายตาคมดุนั่นตรงกันข้ามกับรอยยิ้มบนเรียวปากนิด ๆ หลายครั้งที่เธอแสร้งหลบสายตาแต่สุดท้ายก็แอบมองอยู่ดี
“ฉันก็แค่...” ลูเซียนาหลบสายตาวูบ “สงสัยว่าคุณอาจเกี่ยวข้องกับการเป็น...เอ่อ...”
“มาเฟีย” เขาต่อให้
ลูเซียนาตัวแข็งไปทั่วทั้งร่าง เมื่อถูกวงแขนรั้งตัวเข้ามาใกล้ แต่ซานโตรก็เหยียดยิ้มที่มุมปากพลางเอ่ยปากเบา ๆ ว่า
“ผมเป็นหมอ อะไรทำให้คุณคิดว่าผมเป็นมาเฟียล่ะ”
“ไม่รู้เหมือนกัน บางครั้งสายตาของคุณมันก็อาจทำให้เข้าใจผิด”
“เข้าใจผิด”
“เหมือนกำลังปิดบังอะไรบางอย่าง ดูคล้ายกับว่าคุณไม่อยากเป็นมาเฟีย แต่บางครั้งสายเลือดของคุณ...ก็หนีมันไม่พ้นอยู่ดี”
ดวงตาคมกริบสีน้ำตาลก็ทอประกาย บางสิ่งบางอย่างในตัวลูเซียนามันดึงดูดความแปรเปลี่ยนในตัวเขาอย่างบอกไม่ถูก เธอเป็นหญิงสาวน่ารักตัวเล็กผิวขาว ผมสีดำเป็นคลื่นสลวย แต่ทว่ามีบางอย่างในดวงตากลมโตที่คอยจ้องทะลุฉากหน้าที่เขาพยายามซ่อนปิด ดวงตาคู่นั้นบริสุทธิ์ราวกับออกมาตัวเธอ
“นั่นสินะ ถ้างั้น...ผมขอถามอะไรจากคุณบางอย่าง”
“อะไร”
“คุณเคยเป็นหญิงสาวที่เกี่ยวข้องกับมาเฟียหรือเปล่า” น้ำเสียงเรียบสนิท
ลูเซียนาถึงกับตัวแข็งไปชั่วขณะ เพราะไม่คิดว่าเธอจะถูกถามเอาอย่างไม่มีเหตุผล หญิงสาวอึ้งไปสีหน้าท่าทางของเธอดูแล้วผู้ชายอย่างซานโตรดูไม่มีพลาด
“ว่ายังไง ตอบผมได้หรือเปล่า”
“เอ่อ....เรื่องนั้น”
“ถ้าคุณไม่ตอบ ก็อย่ามาถามเกี่ยวข้องกับเรื่องของผมเลย” ซานโตรยิ้มบาง ๆ “ผู้ชายที่ชื่อคาเมโอนั่นเกี่ยวข้องยังไงกับคุณ เขาเป็นคนที่บังคับให้คุณคิดสั้นใช่ไหม”
ลูเซียนาหน้าซีดเผือดไปชั่วขณะ ก่อนจะเม้มเรียวปากเข้าหากัน
“เขาเป็นใครก็ไม่เห็นจะเกี่ยวกับคุณ”
“แต่เขาเกี่ยวข้องกับคุณ....บังคับจูบหรือว่าปล้ำ”
“เกินไปแล้วนะ”
ลูเซียนาหน้าแดง เหวี่ยงมือขึ้นไปเตรียมฟาดหน้าเขาเต็มที่ แต่ซานโตรไวกว่าเขาคว้าจับข้อมือบางเอาไว้ได้ทัน รวมทั้งโอบกอดรอบเอวเข้าหาตัวแล้วจัดตัวเธอกดลงบนเก้าอี้โซฟาเคลื่อนตัวไปอยู่ข้างบน หญิงสาวผมลอนเป็นคลื่นกัดริมฝีปากแนบแน่น ราวกับว่ายังไม่หายโกรธเขา
“ปล่อยนะ”
“ไม่ปล่อย คุณเองต่างหากอยากหาเรื่องก่อนทำไม บอกมาว่าคาเมโอนั่นเกี่ยวข้องยังไงกับคุณ”
“มันไม่เกี่ยวกับคุณซะหน่อย คุณเป็นหมอนะหน้าที่ในการรักษาคนไข้ไม่ได้หมายความรวมถึงการซักประวัติครอบครัว หน้าที่การงานของเขาด้วยซะหน่อย”
“เป็นคนในครอบครัว มิน่าล่ะถึงได้ปกป้องกันจัง” ซานโตรเหยียดยิ้ม ทำเอาลูเซียนาหน้าแดงจัดเมื่อตกลงไปในหลุมของหมอเป็นครั้งที่สาม
“คนบ้า นี่แกล้งกันเหรอ”
“ผมเปล่า แค่ขุดหลุมดักเฉย ๆ”
“นี่ ปล่อยนะ ปล่อย ๆ”
เมื่อไม่ได้ผล ลูเซียนาจึงข่วนแรง ๆ ที่ต้นแขน ทำเอาซานโตรนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ ชายหนุ่มดึงมือบางที่ไว้เล็บเข้าหากันก่อนรวบไว้เหนือเส้นผม ทำเอาหญิงสาวดิ้นจนสุดแรง
“เจ็บนะ” เธอร้องเสียงดัง
“เจ็บสิดี มาข่วนกันอยู่ได้” ซานโตรพ่นลมหายใจแรง ๆ “เอาล่ะ มาคุยกันเสียที นายคาเมโอนี่เป็นคนในครอบครัวแล้วเขาลงมือทำอะไรผิด”
“ไม่รู้” ลูเซียนาหันไปทางอื่น “ฉันไม่รู้จักเขา”
ซานโตรเลิกคิ้วสูง...
“นั่นสินะ”
ใบหน้าคมคายโน้มต่ำลงมาใกล้ จนปลายจมูกหรือริมฝีปากโน้มลงต่ำมาหา ลูเซียนาหันหน้าหนีไปทางอื่นเพื่อหนี แต่ริมฝีปากรุ่มร้อนก็ตามติดทุกที่ลำคอไปถึงเรียวปากที่ปิดสนิท มือซ้ายเลื่อนออกไปแนบแก้มให้หันมาหาลูเซียนาลืมตาเมื่อริมฝีปากแนบแน่น รอยจูบครั้งนี้รุ่มร้อนและแนบชิดริมฝีปากแนบสนิท สัมผัสอบอุ่นจากลิ้นนุ่มชำแรกหาความหวานจนลูเซียนาพยายามดึงมือที่แนบไว้เหนือศีรษะออก แต่ซานโตรกดไว้แน่นเบี่ยงใบหน้าชำแรกความหวานจนลูเซียนากระดิกตัวไม่ได้
“อืม...”
ลูเซียนาพยายามหันหน้าหนี แต่ริมฝีปากถูกประกบแนบแน่น สัมผัสอ่อนโยนผสมความดุดันมันทำให้หญิงสาวดิ้นจนกระทั่งมือหลุดออก หญิงสาวพยายามดันแผ่นอกหนาออก แต่ถูกซานโตรใช้ฝ่ามือสัมผัสแนบแน่น เขาใช้ปลายนิ้วสอดประสานกับมือบางแล้วแนบชิด ลูเซียนามองอะไรไม่เห็นนอกจากหมอกสีขาวโพลนเหนือศีรษะ และสัมผัสอบอุ่นและอ่อนโยน เธอไม่เคยถูกสัมผัสนานขนาดนี้ อ่อนหวานและนุ่มนวล กว่าที่ซานโตรจะถอนริมฝีปากแล้วมองตาเธอ ลูเซียนาก็แทบหน้าแดงจัดไปถึงใบหู
“นี่คุณ...”
“ถามดี ๆ แล้วแต่คุณกลับไม่ตอบ” ซานโตรซ่อนยิ้ม มือยังสอดประสานกับมือบางไม่ยอมปล่อย
“ปล่อยนะ นี่อย่ามาทำบ้า ๆ นะ”
“คุณผิดเองที่มายั่วยวนผมถึงที่ก่อน”
คำตอบของซานโตรกับสายตาของเขาที่ซ่อนลึก ทำเอาลูเซียนาถึงกับหน้าร้อนผ่าวใจเต้นระรัวขึ้นมาทันที ความหมายของเขาคือเธอไม่ควรมาใกล้ผู้ชายอย่างเขา ทั้งที่ความจริงทีเพียงลูเซียนากับซานโตรอยู่ในบ้านกันสองต่อสอง หญิงสาวสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากมือของเขา แต่นั่นกลับไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย
“คุณกำลังเข้าใจผิดนะคะ ฉันแค่มาหาเพื่อขอความช่วยเหลือต่างหาก”
“เรื่องอะไร”
“ตอนแรกฉันว่าจะบอกคุณ แต่พอหลังจากนี้ฉันทำคนเดียวดีกว่า” เธอประชด
“ถ้างั้นทำไมไม่กลับ แต่มานั่งมองหน้าผมพร้อมกับบ่นเบา ๆ แล้วอย่างนี้จะให้ผมเข้าใจว่าอะไร” ซานโตรเหยียดยิ้ม เวลานี้ลูเซียนาแก้มร้อนผ่าวเมื่อเขาจงใจขยับตัวเบา ๆ ส่งผลให้หญิงสาวเข้าใจว่าตัวเองตกอยู่เป็นรองแค่ไหน เสื้อเชิ๊ตแขนยาวกับกางเกงขาสั้นแทบจะไม่ปิดบังอะไรเลยยามเมื่ออยู่ใต้ร่างหนาของเขา
“ขอโทษค่ะ...ฉันผิดเอง คราวนี้ก็ช่วยลุกออกไปห่าง ๆ ได้ไหม”
“แน่ใจหรือ”
“ซานโตร” เธอร้อง
“เหตุผลก็ใช้ไม่ได้กับใครบางคน โดยเฉพาะเวลาหญิงสาวที่กำลังตื่นกลัว...เอาล่ะ” ซานโตรสูดลมหายใจลึก “ผมจะปล่อยคุณไป แล้ววันหลังก็อย่าทำอะไรแบบนี้อีก”
ขาดคำซานโตรก็เลื่อนมือออกจากมือบาง ไออุ่นกับสัมผัสนุ่มละมุนหายไปทันที ลูเซียนาเม้มปากแน่นก่อนโมโหผลักอกหนาออก ก่อนขึ้นบันไดไปล็อกกลอนประตูดังสนั่น หญิงสาวใจเต้นระรัวราวกับไม่เคยถูกใครจูบมาก่อน ทั้งที่ความจริงแล้วเธอถูกซานโตรจูบมาแล้วตั้งสามครั้ง ลูเซียนายกมือขึ้นปิดปาก...
สัมผัสวาบหวาม อุ่นละมุน....
มันทำให้หัวใจเธอเต้นระรัวราวกับจะหยุดลง
“ไม่นะ” ลูเซียนาหลับตาลง “บ้าจริง ๆ เลยลูเซียนา”
ถ้อยคำสั้น ๆ ที่ลูเซียนาบอกกับตัวเอง มันช่วยย้ำเตือนให้เธออยู่ห่างจากซานโตร เขาเป็นหมอมีหน้าที่คอยรักษาเธอ ถ้อยคำที่เขาถามล้วนแต่เป็นเหตุทำให้นึกถึงคนที่ไม่อยากนึกถึง รอยยิ้มและดวงตาสีน้ำตาลของซานโตร มันทำให้เธอหวั่นไหวอยู่หลายครั้ง รอยยิ้มของเขามันชวนให้ต้องหันหน้าหนีอยู่ตลอดเวลา บางทีสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคงไม่ใช่เพราะซานโตรเข้ามาใกล้ ๆ แต่เป็นเพราะหัวใจของเธอเองต่างหาก….
**********************
ยามเช้าที่มาถึง ซานโตรเดินออกไปเปิดประตูหน้าบ้านให้แสงแดดสาดส่อง ข้างนอกเต็มไปด้วยผู้คนนั่งจิบกาแฟและยังเช้าเกินกว่าที่จะมีคนไข้เดินเข้ามาหา ใบหน้าคมคายหันหลังเดินเข้าไปหลังร้านและหากาแฟดื่ม แต่แล้วก็ต้องเลิกคิ้วสูงเมื่อเห็นลูเซียนาเดินลงมาจากบันได ในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงรัดรูปสีฟ้าอ่อน ในอ้อมแขนถือภาพกระดาษขาวใบใหญ่และมีถุงหิ้วสีระบายราวกับจะออกไปวาดภาพข้างนอก
“คุณจะไปไหนน่ะ” เขาถามเสียงเรียบ
“เดินเล่น”
ลูเซียนาตอบสั้น ๆ ก่อนเบี่ยงกายหลบซานโตห่างกันเป็นคืบ ซานโตรมองตามกิริยาของหญิงสาวพร้อมกับซ่อนรอยยิ้มออกมาชัดเจน
“จะไปวาดภาพมีเพื่อนแล้วหรือ”
“ไปวาดภาพไม่ได้เอาเพื่อนไปเสียหน่อย”
“ถ้างั้น ถ้าผมอาสาพาไปส่งล่ะคุณจะว่าไง แถวนี้มีภาพทิวทัศน์งดงามหลายภาพถ้าคุณอยากจะได้มุมดี ๆ ให้ผมพาไปส่งก็ได้” ชายหนุ่มยกปลายนิ้วขึ้นแตะขอบแว่น
“ขอบคุณค่ะ แต่ฉันว่าไปคนเดียวยังจะดีซะกว่า”
ซานโตรเหยียดยิ้มเอามือล้วงกระเป๋าเสื้อ
“จะดีหรือ”
“ค่ะ”
ขาดคำลูเซียนาก็หมุนตัวออกไปข้างนอกพร้อมกับผ้าผืนใหญ่ เหลือเพียงซานโตรที่เริ่มจะถอนหายใจยาวเนื่องจากดูแล้วเขาน่าจะทำเกินไปหน่อย ดวงตาสีน้ำตาลคมจัดจ้องมองลูเซียนาไปจนลับตา ก่อนที่เสียงหัวเราะเบา ๆ จะดังมาจากคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง ทำเอาซานโตขมวดคิ้วมุ่น
“มีอะไรน่าหัวเราะ”
“ดูท่าว่าเธอคงจะโกรธนาย ดูระยะห่างนั่นแล้วนายคงไม่น่าไว้ใจน่าดู” จีโอหัวเราะแผ่วเบา ดวงตาสีดำภายใต้เส้นผมดำสนิทชุดสูทสีน้ำตาลเข้มขณะเจ้าตัวยืนพิงขอบกำแพงห่าง ๆ แลดูดำสนิทกลืนกับกำแพง
“ดูท่าจะทำเกินไปหน่อย”
“อะไรครับ”
“ไม่มีอะไร ว่าแต่นายเถอะดูท่าวันนั้นจะทำเกินเลยไปหน่อย” เจ้าของดวงตาคมกริบชำเลืองมองไปข้างหลัง จีโอยิ้มเยือกเย็น
“เรื่องที่ผมเข้าไปคุยกับคุณลูเซียนาเหรอครับ”
“อืม”
“ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกครับ ผมเองก็อยากจะรู้จักกับผู้ช่วยคนใหม่ของนายแพทย์ซานโตร เธอเองทั้งสวยแล้วก็น่ารักอีกด้วย”
ซานโตรยกมือขึ้นปรามเบา ๆ
“พอเถอะ ทำอย่างกับว่าฉันไม่เคยรู้นิสัยนายอย่างนั้นแหละ แองเจโลพูดว่าอะไร นายถึงกล้าเดินไปหาลูเซียนาต้องการสืบหาความจริงจากเธองั้นหรือ”
จีโอยิ้มบาง ๆ ดวงตาเป็นประกายวูบไหว
“รู้ด้วยหรือครับ”
“พอ ๆ กับที่นายรู้ว่าฉันเป็นใครนั่นแหละ”
“ท่านก็พูดว่าให้ผมไปสืบมา ว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณซานโตรกับคุณลูเซียนามีแววที่จะไปได้ดีไหม แล้วจะได้มีโอกาสแต่งงานกันหรือเปล่า”
“ว่าแล้ว” ซานโตรยกมือขึ้นกุมหน้าผาก
“ท่านเป็นห่วงคุณมากนะครับ”
“เป็นห่วงกลัวว่าจะเป็นโสดน่ะหรือ ให้ตายเถอะฉันเพิ่งอายุได้ยี่สิบเจ็ดเท่านั้นนะ” ซานโตรถอนหายใจยาว
“ผมก็ทำตามหน้าที่...” จีโอหลุบตาลงต่ำ
“เชื่อเขาเลย” ซานโตรเอ่ยเสียงเครียด
“ยังมีอีกเรื่องที่ผมยังไม่ได้บอกคุณ”
ซานโตรชำเลืองมองไปยังจีโอ
“อะไร”
“คุณลูเซียนา ดูออกว่าผมเป็นใคร”
ลูเซียนาเลือกที่จะวาดภาพด้วยดินสอโดยเลือกยืนที่สวนสาธารณะหันหน้าออกไปยังเมืองทิวทัศน์และเรือที่จอดเรียงรายอยู่ตามชายฝั่ง ดินสอของหญิงสาวไล่โค้งมนจากด้านบนไล่ลงมายังด้านล่างราวกับรูปสลัก รูปสลักของแสงอาทิตย์เป็นสีทองจรดขอบฟ้า จรดชายทะเลทอดยาวจากเรือที่จอดไร่เลียงกันมาเป็นคลื่น ๆ ดวงตาของหญิงสาวมองไปยังภาพที่ตัวเองกำลังจะวาด หากแต่ในใจหนึ่งกลับมีภาพของชานหนุ่มที่ทำให้ใจไหวเอนขึ้นมาทันที
มือกำลังจะวาดภาพตึกโค้งเส้นลง ทำให้หญิงสาวสูดลมหายใจลึก
“แบบนี้ก็ไม่ได้วาดเลยน่ะสิ”
ลูเซียนาฉีกผ้าออกก่อนจะถอนหายใจยาว หญิงสาววาดภาพวิวทิวทัศน์กับแสงแดดจรดขอบฟ้า แต่สุดท้ายภาพวาดนั่นก็เป็นริ้วรอยจากดินสอสีที่ลากเส้นเบา ๆ ท้ายที่สุดก็วางดินสอลง
“มันขาดอะไรนะ”
“ความงามไงล่ะ”
เสียงทุ้มลึกจากทางด้านหลัง ทำเอาหญิงสาวสะดุ้งหันไปมองทันที ดวงตากลมโตเบิกกว้างหน้าตาซีดเผือดเมื่อมองเห็นชายหนุ่มผมสีดำเข้มดวงตาสีฟ้าอ่อน ยิ้มให้เธอราวกับต้องการสื่อให้เห็นถึงความเป็นห่วงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดวงตาเป็นประกาย กับรอยลึกระหว่างคิ้วเจ็บแปลบทุกเมื่อเมื่อเห็นเธอ ชายหนุ่มตัวสูงสวมชุดสูทสีน้ำตาลเข้มรองเท้าหนัง ค่อย ๆ เดินเข้ามาหาลูเซียนาที่กำลังถอยไปชิดต้นไม้ด้านหลัง
“คาเมโอ” เธอกระซิบแผ่ว
“ความงามเป็นสิ่งเดียวที่เธอมี แต่ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาตัวเอง”
“อย่าเข้ามานะ” ลูเซียนาทำท่าหวาดกลัวจะหันหลังกลับ แต่คาเมโอไวกว่ารีบคว้าจับเอาแขนเสื้อของเธอแล้วจับกดเอาไว้ที่ด้านหลังต้นไม้
“อย่ากลัวไปเลย ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก”
ลูเซียนาเมินหน้าไปทางอื่น ทุก ๆ ครั้งที่มองเห็นสายตาของเขามันทำให้เธอรู้สึกกลัวเหลือเกิน
“อย่าค่ะ...ฉัน”
“กลัวรึ” คาเมโอกระซิบแผ่ว “รู้สึกว่าเธอจะกลัวฉัน จนเกือบทำให้เราต้องแยกจากกันที่ท่าเรือ”
ดวงหน้างดงามซีดเผือด พยายามดึงมือออกแต่ก็ไร้ผล ลูเซียนาพยายามหลบตาเธอรู้ว่าคาเมโอต้องการอะไร แต่ความต้องการอันนั้นเป็นสิ่งที่เธอเลือกไม่ได้
“ตายเสียยังดีกว่าต้องอยู่กับคาเมโอ” เธอกระซิบแผ่ว
“งั้นหรือ เสียใจด้วยนะที่ฉันไม่ให้เธอไป”
“ไม่”
ลูเซียนาพยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดออกไปจากการเกาะกุม แต่คาเมโอก็กอดเธอเอาไว้แนบอก หญิงสาวพยายามเบี่ยงกายหนีเพื่อให้ตัวเองเป็นอิสระจนกระทั่งฝากรอยเล็บไว้ที่ฝ่ามือของคาเมโอ ลูเซียนาหายใจหอบถอยหลังไปชนต้นไม้ด้านหลัง คาเมโอก้มลงมองดูเลือดไหลซิบ ๆ จากฝ่ามือ ก่อนจะแลบลิ้นเลียแผ่วเบา ทำเอาหญิงสาวหน้าแดงจัด
“ไม่เลวนี่” เสียงของเขาดูสุภาพหากแต่แฝงความอำมหิตในคราเดียวกัน
“เราสองคนเป็นเป็นพี่น้องกัน ห้ามคิดเกินเลยนะ”
“พี่น้องนอกกฎหมายไม่มีข้อห้ามอันไหนบอกว่าไม่ได้” คาเมโอเหยียดยิ้มพลางเอื้อมมือไปหาลูเซียนา แต่หญิงสาวสะบัดแขนออกทันที
“ฉันเกลียดพี่ ได้ยินไหม” ลูเซียนาตะโกน “พี่ฆ่าแม่ของฉัน จนป่านนี้ฉันยังไม่ลืมแม้แต่วินาทีเดียว”
คาเมโอหรี่ตาคมกริบมองดูเธอ
“คาลินาน่ะหรือ”
“ทำอย่างนั้นทำไม”
“แม่ของเธออยากห้ามไม่ให้ฉันพบเธอ ก็เลยต้องมีสภาพแบบนั้น”
“อะไรนะ” ลูเซียนาหน้าซีดเผือด
“เธอรู้ว่าฉันพยายามปกป้องเธอเลยเข้ามาห้าม...แต่สุดท้ายก็ต้องตาย” คาเมโอค่อย ๆ กระซิบแผ่ว “หรือเธอคิดว่าฉันจะเชื่อฟังและปฏิบัติตามล่ะ”
“คาเมโอพี่มันเลวที่สุด อ๊ะ”
ลูเซียนาร้องเสียงดัง เมื่อถูกคาเมโอลากคอให้หงายขึ้น ดวงตาสีน้ำทะเลจ้องมองดวงหน้าหวาน เส้นผมระต้นคอยาวสลวย ดวงตาคู่นั้นช่างเหมือนพ่อไม่มีผิด ริมฝีปากเคลือบสีหวานก็แลดูเป็นธรรมชาติ ผิวขาว ๆ ราวกับไข่มุกแห่งท้องทะเล ดวงตาสีน้ำทะเลเปล่งประกายวาววับ
“รู้ตัวไหม เวลาที่ถูกเธอจ้องมองอย่างนี้...มันทำให้ฉันหลงใหลไปกับภาพลวงตา” คาเมโอกระซิบแผ่ว
ลูเซียนาจ้องมองดวงตาสีน้ำทะเลไม่ยอมหลบ
“แต่ฉันเกลียดคาเมโอ…และก็ไม่มีวันให้อภัยด้วย”
“หึหึ..ฉันรู้”
“ไม่”
หญิงสาวเบี่ยงกายหนีทันที เมื่อคาเมโอเข้าไปกอดเธอไว้ในอกแน่น ลูเซียนาหันหน้าหนีจมูกและริมฝีปากที่โลมไล้อยู่ตามใบหน้าและลำคอ แต่เมื่อทันทีที่เรียวปากจะทาบทับอยู่บนริมฝีปากของเธอ ลูเซียนาก็เบี่ยงกายหลบด้วยการผลักไสอกหนาออกเต็มแรง คาเมโอหรี่ตามองพร้อมกับคว้ามือบางเอาไว้แน่น
“คนที่เธอไปอาศัยอยู่ด้วยใช่ไหม ที่ทำให้เธอเปลี่ยนไป” น้ำเสียงของเขาเข้มขึ้น
ลูเซียนายกหลังมือขึ้นปิดปากทั้งน้ำตา
“ไม่ใช่นะ”
“จริงหรือ” คาเมโอหรี่ตามองเธอ ทั้งที่เมื่อก่อนลูเซียนาแม้ว่าจะกลัวเขาแต่ก็ไม่อาจขัดขืนได้หากว่าคาเมโอต้องการอะไร “อัลโกบอกกับฉันว่า ระหว่างที่เขาพยายามเอาตัวเธอกลับไปให้ฉันได้มีผู้ชายเข้ามาขัดขวาง ฝีมือของมันเล่นเอาคนของฉันน่วมไปเลย”
ลูเซียนาตาโตด้วยความตกใจ
“คน ๆ นั้นเป็นคนของพี่เหรอ” เธอกระซิบ
“ยังจะมีใครอีกล่ะที่รักแล้วก็หวงน้องสาวอย่างนี้”
“แล้วพี่ทำอะไรกับเขา...คงไม่ใชว่า”
“ลองไปงมแถวก้นทะเลดูสิ ป่านนี้คงเหลือแต่กระดูก”
ลูเซียนาหน้าซีดเผือดด้วยความตกใจ การใช้แล้วฆ่าทิ้งเมื่อไม่เห็นว่าคน ๆ นั้นมีประโยชน์นั้น ล้วนแต่เป็นความอำมหิตที่เกินกว่าเธอจะรับได้ ในสังคมมาเฟียที่เธอเติบโตมา การสังหารชีวิตมักจะเป็นสิ่งที่พยายามปิดบังไม่ให้เธอเห็น มีแต่ความอบอุ่นอ่อนโยนจากมาเฟียที่เธอได้รับ นอกจากวันที่พ่อของเธอสิ้นชีวิตลง และหลังจากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอไม่อาจรับรู้ก็ได้ผันแปรเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
“โหดร้ายที่สุด...ลูกเมียของเขาจะทำยังไง” น้ำเสียงของเธอเบาโหวง
“หรือเธอคิดว่าพี่ควรจะเอาลูกเมียเขาไปด้วยล่ะ”
“ใจร้ายที่สุด”
“เรื่องนั้นเอาไว้วันหลังเถอะ ตอนนี้เธอควรกลับไปกับพี่ คฤหาสน์หลังใหม่ที่พี่สร้างไว้ให้เธอสวยงามราวกับแมกไม้บนสรวงสวรรค์” คาเมโอยิ้มรับพลางเอื้อมมือไปหาเธอ “เอาล่ะ ไปกันเถอะ”
ลูเซียนาถอยหลังออกมาช้า ๆ
“ไม่”
“ลูเซียนา”
“ฉันจะไม่ยอมกลับไปหรอก ทั้ง ๆ ที่หนีออกมาได้แล้ว ตอนนี้ฉันเลือกที่จะอยู่ที่นี่เลือกที่จะมีใช้ชีวิตร่วมกับคนที่ช่วยเหลือฉัน เพราะฉะนั้นเลิกยุ่งเกี่ยวกับฉันซะที” เธอปฏิเสธทันควัน
“หึหึ...คิดจริง ๆ หรือ” คาเมโอยิ้มเย็นการโกหกของเธอไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น “คิดหรือว่าไอ้ผู้ชายที่ช่วยเธอ มันรู้หรือเปล่าว่าเธอเป็นใคร ถ้าหากมันรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวมาเฟียล่ะก็คงสนุกดีพิลึก”
ลูเซียนาหน้าซีดเหมือนกระดาษ
“พี่ไม่กล้าหรอก เขาไม่ได้คนแบบนั้น”
“งั้นหรือ”
“ซานโตรไม่ใช่ผู้ชายอย่างที่พี่คิด เขาเป็นหมอไม่ใช่ผู้ชายใจไม้ไส้ระกำ ไม่อย่างนั้นคงไม่ปล่อยให้ฉันอยู่อย่างโดดเดี่ยวไม่มีที่พึ่งพิงหรอก”
ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลหรี่ตาลงมอง
“ดูเธอไว้ใจเขามากกว่าที่ฉันคิด” น้ำเสียงของเขาแปรเปลี่ยนไปจากเดิม “แต่หากเธอไม่ยอมกลับไปกับฉัน ดูท่าว่ามันจะไม่ได้มีชีวิตรอดไปได้”
“คาเมโอ”
“ฉันไม่ชอบให้ใครมายุ่งเกี่ยวกับเธอ ไม่ว่ามันจะเป็นผู้มีพระคุณหรือว่าแค่หมาลอบกัด”
“ไม่นะ”
“ไปกับฉัน”
ลูเซียนาถูกแขนเข้าไปใกล้ตัว จากนั้นก็พาลากเดินไปยังรถที่จอดรออยู่พร้อมด้วยผู้ชายชุดดำหลายคน หญิงสาวดิ้นรนเอาตัวรอด เธอสะบัดแขนจนหลุดออกจากนั้นก็วิ่งหนีไปบริเวณขอบสวนสาธารณะโดยมีเสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามา ลูเซียนากลัวจนตัวสั่น ไม่อยากหวนคิดไปถึงความอำมหิตและความเลือดเย็นของคาเมโอ เธอวิ่ง ๆ พร้อมกับเสียงตะโกนภายในใจ คนที่เธออยากให้มาช่วยที่สุด...
ซานโตร
“ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยฉัน..อุ๊บ”
ลูเซียนาถูกคว้าแขนเข้าไปในมุม แล้วถูกหมุนตัวให้หลังพิงกับต้นไม้ หญิงสาวดิ้นรนสุดชีวิตพยายามผลักไสออกห่างจากตัว คนที่ยืนเอาตัวบังให้เธอจึงต้องเอามือปิดปาก พร้อมกับเอานิ้วจรดริมฝีปากเบา ๆ ลูเซียนาลืมตาโตจ้องหน้าคนที่มาช่วยหน้าซีดเผือด
“ซาน...”
“ชู่ววส์” ซานโตรกระซิบแผ่ว เวลานี้เธออยู่ใกล้เขามาก ประจวบเหมาะกับมุมที่ซานโตรจับเธอไปบังเอาไว้ค่อนข้างมืดและมีใบไม้มืดทึบ เสียงฝีเท้าที่ดังไล่ตามมาทำเอาลูเซียนาหน้าซีดราวกับกระดาษ สองมือจับแขนเสื้อของซานโตรเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ซานโตรจึงดึงหลังศีรษะของเธอโอบเข้าไปไว้แนบอก ลูเซียนาใจเต้นแรงเกรงว่าคาเมโอจะเป็นฝ่ายมองเห็นตัวเธอและเข้าทำร้านซานโตร
“ลูเซียนา เธออยู่ที่ไหนออกมาเสียดี ๆ” เสียงตะโกนของคาเมโอดังกังวานก้อง
ลูเซียนาโอบกอดรอบลำตัวของซานโตรเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
ซานโตรลอบมองชายฉกรรจ์ที่มาใหม่ ดูเหมือนว่าผู้ชายพวกนี้จะเป็นพวกมาเฟีย มีอาวุธในมือพร้อม
“แย่จริง” เขาสูดลมหายใจลึก “เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ ซะด้วย”
“ซานโตร...ฉัน”
ช่วงขณะที่ลูเซียนากำลังจ้องหน้าเขาก็ถูกสองมือประคองหน้าให้แหงนขึ้น พร้อมริมฝีปากแนบชิดลงมาทันที หญิงสาวลืมตาโตก่อนที่ความอบอุ่นบนเรียวปากจะทำให้ลูเซียนาหลับตาลงแผ่วเบา สองมือโอบกอดรอบลำตัวของซานโตรเอาไว้แน่น สัมผัสอ่อนโยนระคนวาบหวาม ที่ผ่านทางริมฝีปากแนบแน่นมันทำให้เธอคิดอ่านอะไรไม่ออก รู้อีกทีหญิงสาวถูกหันไปด้านข้างเพื่อรับสัมผัสนุ่มละมุนเบา ๆ
อ่อนหวาน อบอุ่นระคนเรียกร้อง มันทำให้ลูเซียนากระชับมือข้างที่เกาะแขนแข็งแรงเบา ๆ ยิ่งเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาจนเหมือนจะอยู่ด้านหลังของซานโตร หญิงสาวก็ทำท่าว่าจะเบี่ยงกายออก แต่คนตัวสูงกลับจับด้านหลังศีรษะแนบชิดริมฝีปากแนบสนิท ไม่ยอมปล่อยให้เป็นอิสระ สัมผัสร้อนระอุเรียกร้องมันทำให้ลูเซียนาคิดอะไรไม่ออกหัวหมุนไปหมด จนกระทั่งลูกน้องของคาเมโอเดินผ่านมาทางนั้น
“แกเห็นผู้หญิงเดินผ่านมาแถวนี้หรือเปล่า”
ซานโตใช้ถือวาบทับริมฝีปากแน่น แล้วหันมาเหยียดยิ้ม
“ใครหรือ”
“ผู้หญิงหน้าตาน่ารักสวมกางเกงยีนวิ่งผ่านมาแถวนี้ แกเห็นบ้างหรือเปล่า” ชายฉกรรจ์ทำท่าจะมองไปยังลูเซียนาซานโตรจึงใช้ลำตัวแนบสนิทพร้อมกับวางมือลงบนลำต้นไม้
“เขากำลังจูบอยู่ จะมองเห็นได้ยังไง”
เพื่อนผู้ชายฉกรรจ์หันหลังแล้วพยักหน้า มาเฟียส่งเสียงในลำคอแล้วพากันเดินอ้อมไป ซานโตรเลิกคิ้วถอนหายใจยาว หลังจากปล่อยมือจากริมฝีปาก ก็ต้องหน้าหันเพราะแรงตบฉาดใหญ่
เผียะ
“นี่แน่ะ”
“ไม่เลวนี่ แรงตบยังดีอยู่” ซานโตรยกปลายนิ้วขึ้นแนบแก้มที่ยังไม่หายชา แรงเหวี่ยงเมื่อครู่ทำเอาลูเซียนายังไม่หายโกรธ
“คนบ้า ทำอะไรบ้า ๆ คุณรู้หรือเปล่าว่าถ้าคนพวกนั้นจับได้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
“ผมเป็นหมอไม่ใช่ตำรวจ หรือคุณรู้ล่ะว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างหากว่าพวกมันจับเราได้” ซานโตรยิ้มบาง ๆ ทำเอาลูเซียนาถึงกับคอแข็ง
“ถึงจะว่าอย่างนั้นก็เถอะ แต่มัน..”
“จะหาเรื่องด่าผมก็เอาไว้วันหลัง พวกมันจะกลับมาแล้วเรารีบไปจากที่นี่กันเถอะ”
ขาดคำคนตัวสูงก็ดึงมือบางไว้แน่น พร้อมกับเดินกึ่งวิ่งไปที่ริมทางเดินด้านล่าง ลูเซียนามองตามด้านหลังของซานโตรพร้อมทั้งคิดว่าแผ่นหลังของเขาแข็งแรงและอบอุ่น ชั่ววินาทีหนึ่งเธอต้องตกไปอยู่ในอ้อมกอดของซานโตร พร้อมทั้งคิดว่าถ้าต้องตายภายใต้อ้อมแขนของเขา...
เธอเองก็พร้อมที่จะยินดี…
*************************
รอยจูบ
เบื้องหน้าโต๊ะวาดภาพสีขาว สี่มุมขึงผ้าไว้จนตึง ลูเซียนากำลังวาดภาพไว้ภายในใจ สิ่งที่เธอจินตนาการไว้มีหลาอย่างอย่างเช่นภาพวิวทิวทัศน์ของเมืองฟรอเรนซ์ และวาดภาพผู้หญิงสาวกำลังทำขนมปังแล้วมีเด็กตัวเล็ก ๆ กำลังวิ่งไล่กันอย่างสนุกสนาน ลูเซียนาลองวาดภาพบนพื้นผ้าใบ วาดตรงขอบจนถึงกลางภาพวาด แต่สุดท้ายเธอก็ไม่รู้ว่าภาพที่เธอวาดหวังมันจะสิ้นสุดอยู่ตรงไหน
ลูเซียนามองเห็นทิวทัศน์ของเมือง เธอมองเห็นสิ่งงดงามที่น่าถ่ายทอดให้คนอื่นรับรู้ แต่ทว่าสิ่งหนึ่งที่เธอไม่อาจรู้ได้นั่นคือภาพเขียนที่บ่งบอกถึงสายตาของใครหลายคน ที่จ้องมองยังภาพทิวทัศน์ที่เธอต้องการให้อยู่ในภาพเขียน หญิงสาวน่ารักเส้นผมยาวสลวย ลองวาดขึ้นมาอีกครั้งแต่สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรเลยนอกจากภาพสีดำจาง ๆ
“ทำไมถึงนึกไม่ออกนะ” เธอบ่นเบา ๆ
หญิงสาวสวมชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าลายขวางกางเกงขาสั้น ราวกับอยู่ในห้องนอน ใจกลางห้องของเธอมีอุปกรณ์วาดภาพและดินสอสี แต่ทว่ากลับไม่ได้ภาพอะไรเลย
“เฮ้อ...แย่จริง ๆ เลย” ลูเซียนารำพึง “จริงสิซานโตรน่าจะมีหัวทางด้านศิลปะนี่นะ”
ลูเซียนาเก็บภาพวาดสีขาว อุ้มลงไปถามนายแพทย์ที่ชั้นล่างเวลานี้เป็นเวลาเกือบสี่ทุ่ม แต่หญิงสาวรู้ว่าเขายังมีงานด่วนต้องทำไม่น่าจะหลับได้ง่าย ๆ
หญิงสาวมองตรงไปยังด้านล่าง...และมองเห็นไฟในห้องเปิดสว่างจนเดินเข้าไปหาทันที
“ซานโตร ฉันมีเรื่องให้ช่วยล่ะ” ลูเซียนาเอ่ยยิ้มแล้วก็ต้องหุบปาก
บนเก้าอี้โซฟาภายในห้องทำงาน ซานโตรกำลังนอนหลับในท่านอนหงาย ใบหน้าคมคายหลับสนิทจมูกโด่งเป็นสันเรียวปากปิดสนิท เส้นผมของเขาสั้นจรดต้นคอไร่เรี่ยกันจนถึงหน้าผากและริมหู มือข้างหนึ่งอยู่เหนือเส้นผมเหมือนคนที่นอนหลับสนิท อีกมือหนึ่งถือแว่นตาจรดอกราว คอเสื้อเปิดเสื้อเชิ้ตรัดรูปสีดำลายตารางเปิดแนวกระดุมสองสามเม็ดเผยให้เห็นแผ่นอกหนา ขาทั้งสองข้างเหยียดยาวอยู่บนโซฟา
เธอเห็นงานวิจัยเกี่ยวกับเส้นเลือดในโรคหัวใจกับวิธีการักษา ลูเซียนาเดินตรงไปแล้วใช้มือขวาหยิบงานวิจัยขึ้นมาอ่านพลางมองหน้าซานโตรพลางยิ้ม
“เป็นห่วงคุณลุง จนนอนหลับไปเลยสิเนี่ย”
ลูเซียนายิ้ม ๆ มองดูซานโตรที่กำลังหลับสนิท ใบหน้าของเขาดูเข้มแข็งแต่อ่อนโยน ถ้าหากว่ามีใครสักคนที่พอไว้ใจได้ผู้ชายคนนี้ก็คงไม่ต้องนอนโซฟาอย่างนี้หรอก เธอเอียงคอมองเขาทีละน้อย สังเกตดูแพขนตาหนารับกับจมูกโด่งและเรียวปากได้รูป เธอตัดสินใจนั่งลงบนหน้าโซฟาตัวยาวเพื่อที่จะมองใบหน้าคมคายนั้นชัด ๆ ลูเซียนาเอามือเอียงคอมองดูซานโตรให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้
“คุณเป็นใครกันแน่นะ...เป็นหมอหรือว่า....” เธอกระซิบแผ่ว เมื่อคิดถึงคฤหาสน์หลังใหญ่ที่มีนายแพทย์ซานโตรเข้าไปได้แค่คนเดียว คุณลุงคนนั้นแม้ว่าจะดูชราภาพลงมากแล้ว แต่ภูมิฐานก็ยังแลดูมีฐานะและทรงอำนาจมาก มีชายฉกรรจ์อยู่กันเต็มไปหมด ราวกับว่า...
คุณลุงคนนั้นเป็นมาเฟีย
“ซานโตร นี่ได้ยินหรือเปล่า” ลูเซียนาใช้ปลายนิ้วเขี่ยแก้มซานโตรเบา ๆ ชายหนุ่มหันหน้าหนีไปทางอื่นอย่างหงุดหงิด เธอหัวเราะคิกอย่างอดขำไม่ได้
“นอนหลับราวกับเด็ก ๆ”
ลูเซียนาไล่ปลายผมของเขาเบา ๆ ก่อนจะลุกขึ้นทำท่าจะห่มเสื้อคลุมให้คนตัวสูง แต่ทว่าช่วงจังหวะที่กำลังวางมือลงเธอก็ต้องอุทานแผ่ว เมื่อจู่ ๆ ซานโตรก็เอื้อมมือมาจับมือเธอเบา ๆ แล้วออกแรงดึงจนเธอถลาเข้าใส่ โชคยังดีที่ยังมีขอบโซฟาอยู่ใกล้ ๆ ลูเซียนาตาโตเมื่อเห็นใบหน้าคมคายกำลังหรี่ตามองเธอพลางขมวดคิ้ว
“ซานโตร” เธออ้าปากค้าง “คุณตื่นอยู่เหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ”
“ตั้งแต่เมื่อไหร่” ลูเซียนาแก้มแดงปลั่ง
“ตั้งแต่ที่คุณเดินเข้ามาแล้วใช้ปลายนิ้วเขี่ยหน้าผมพลางบ่นไปมานั่นแหละ” ซานโตรบ่น
“บ้า นี่ปล่อยนะ” คนตัวเล็กร้องเสียงดัง ทุบมือใส่แผ่นอกเขาราวคนกำลังโมโห
“ไม่ คุณอยากสงสัยเองทำไม ไม่ถามเฉย ๆ แต่ยังเอาปลายนิ้วเขี่ยเส้นผมผมไปมา ถามจริง ๆ เถอะคุณอยากรู้อะไรกันแน่ หรือว่าคอยหาโอกาสทำอย่างนี้นาน ๆ” ซานโตรเอ่ยยิ้ม จ้องมองดวงตากลมโตที่กำลังใบหน้าแดงจัด
“อย่ามาพูดบ้า ๆ นะ ฉันแค่แกล้งแหย่เล่นเฉย ๆ ไม่ได้คิดอะไรเลยเสียหน่อย”
เธอร้องเสียงดังหวังใช้เสียงเข้าขู่
“แล้วคุณอยากรู้อะไรล่ะ”
“อะไรนะ”
“เมื่อกี้ผมได้ยินคุณถามเบา ๆ...อยากรู้รึว่าผมเป็นใคร”
ลูเซียนาถึงกับเงียบไปทันที จะบอกได้อย่างไรกันนะว่าเธอสงสัยในตัวเขา คิดเล่น ๆ ว่าซานโตรอาจเป็นมาเฟีย หญิงสาวมองดูใบหน้าคมคายสายตาคมดุนั่นตรงกันข้ามกับรอยยิ้มบนเรียวปากนิด ๆ หลายครั้งที่เธอแสร้งหลบสายตาแต่สุดท้ายก็แอบมองอยู่ดี
“ฉันก็แค่...” ลูเซียนาหลบสายตาวูบ “สงสัยว่าคุณอาจเกี่ยวข้องกับการเป็น...เอ่อ...”
“มาเฟีย” เขาต่อให้
ลูเซียนาตัวแข็งไปทั่วทั้งร่าง เมื่อถูกวงแขนรั้งตัวเข้ามาใกล้ แต่ซานโตรก็เหยียดยิ้มที่มุมปากพลางเอ่ยปากเบา ๆ ว่า
“ผมเป็นหมอ อะไรทำให้คุณคิดว่าผมเป็นมาเฟียล่ะ”
“ไม่รู้เหมือนกัน บางครั้งสายตาของคุณมันก็อาจทำให้เข้าใจผิด”
“เข้าใจผิด”
“เหมือนกำลังปิดบังอะไรบางอย่าง ดูคล้ายกับว่าคุณไม่อยากเป็นมาเฟีย แต่บางครั้งสายเลือดของคุณ...ก็หนีมันไม่พ้นอยู่ดี”
ดวงตาคมกริบสีน้ำตาลก็ทอประกาย บางสิ่งบางอย่างในตัวลูเซียนามันดึงดูดความแปรเปลี่ยนในตัวเขาอย่างบอกไม่ถูก เธอเป็นหญิงสาวน่ารักตัวเล็กผิวขาว ผมสีดำเป็นคลื่นสลวย แต่ทว่ามีบางอย่างในดวงตากลมโตที่คอยจ้องทะลุฉากหน้าที่เขาพยายามซ่อนปิด ดวงตาคู่นั้นบริสุทธิ์ราวกับออกมาตัวเธอ
“นั่นสินะ ถ้างั้น...ผมขอถามอะไรจากคุณบางอย่าง”
“อะไร”
“คุณเคยเป็นหญิงสาวที่เกี่ยวข้องกับมาเฟียหรือเปล่า” น้ำเสียงเรียบสนิท
ลูเซียนาถึงกับตัวแข็งไปชั่วขณะ เพราะไม่คิดว่าเธอจะถูกถามเอาอย่างไม่มีเหตุผล หญิงสาวอึ้งไปสีหน้าท่าทางของเธอดูแล้วผู้ชายอย่างซานโตรดูไม่มีพลาด
“ว่ายังไง ตอบผมได้หรือเปล่า”
“เอ่อ....เรื่องนั้น”
“ถ้าคุณไม่ตอบ ก็อย่ามาถามเกี่ยวข้องกับเรื่องของผมเลย” ซานโตรยิ้มบาง ๆ “ผู้ชายที่ชื่อคาเมโอนั่นเกี่ยวข้องยังไงกับคุณ เขาเป็นคนที่บังคับให้คุณคิดสั้นใช่ไหม”
ลูเซียนาหน้าซีดเผือดไปชั่วขณะ ก่อนจะเม้มเรียวปากเข้าหากัน
“เขาเป็นใครก็ไม่เห็นจะเกี่ยวกับคุณ”
“แต่เขาเกี่ยวข้องกับคุณ....บังคับจูบหรือว่าปล้ำ”
“เกินไปแล้วนะ”
ลูเซียนาหน้าแดง เหวี่ยงมือขึ้นไปเตรียมฟาดหน้าเขาเต็มที่ แต่ซานโตรไวกว่าเขาคว้าจับข้อมือบางเอาไว้ได้ทัน รวมทั้งโอบกอดรอบเอวเข้าหาตัวแล้วจัดตัวเธอกดลงบนเก้าอี้โซฟาเคลื่อนตัวไปอยู่ข้างบน หญิงสาวผมลอนเป็นคลื่นกัดริมฝีปากแนบแน่น ราวกับว่ายังไม่หายโกรธเขา
“ปล่อยนะ”
“ไม่ปล่อย คุณเองต่างหากอยากหาเรื่องก่อนทำไม บอกมาว่าคาเมโอนั่นเกี่ยวข้องยังไงกับคุณ”
“มันไม่เกี่ยวกับคุณซะหน่อย คุณเป็นหมอนะหน้าที่ในการรักษาคนไข้ไม่ได้หมายความรวมถึงการซักประวัติครอบครัว หน้าที่การงานของเขาด้วยซะหน่อย”
“เป็นคนในครอบครัว มิน่าล่ะถึงได้ปกป้องกันจัง” ซานโตรเหยียดยิ้ม ทำเอาลูเซียนาหน้าแดงจัดเมื่อตกลงไปในหลุมของหมอเป็นครั้งที่สาม
“คนบ้า นี่แกล้งกันเหรอ”
“ผมเปล่า แค่ขุดหลุมดักเฉย ๆ”
“นี่ ปล่อยนะ ปล่อย ๆ”
เมื่อไม่ได้ผล ลูเซียนาจึงข่วนแรง ๆ ที่ต้นแขน ทำเอาซานโตรนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ ชายหนุ่มดึงมือบางที่ไว้เล็บเข้าหากันก่อนรวบไว้เหนือเส้นผม ทำเอาหญิงสาวดิ้นจนสุดแรง
“เจ็บนะ” เธอร้องเสียงดัง
“เจ็บสิดี มาข่วนกันอยู่ได้” ซานโตรพ่นลมหายใจแรง ๆ “เอาล่ะ มาคุยกันเสียที นายคาเมโอนี่เป็นคนในครอบครัวแล้วเขาลงมือทำอะไรผิด”
“ไม่รู้” ลูเซียนาหันไปทางอื่น “ฉันไม่รู้จักเขา”
ซานโตรเลิกคิ้วสูง...
“นั่นสินะ”
ใบหน้าคมคายโน้มต่ำลงมาใกล้ จนปลายจมูกหรือริมฝีปากโน้มลงต่ำมาหา ลูเซียนาหันหน้าหนีไปทางอื่นเพื่อหนี แต่ริมฝีปากรุ่มร้อนก็ตามติดทุกที่ลำคอไปถึงเรียวปากที่ปิดสนิท มือซ้ายเลื่อนออกไปแนบแก้มให้หันมาหาลูเซียนาลืมตาเมื่อริมฝีปากแนบแน่น รอยจูบครั้งนี้รุ่มร้อนและแนบชิดริมฝีปากแนบสนิท สัมผัสอบอุ่นจากลิ้นนุ่มชำแรกหาความหวานจนลูเซียนาพยายามดึงมือที่แนบไว้เหนือศีรษะออก แต่ซานโตรกดไว้แน่นเบี่ยงใบหน้าชำแรกความหวานจนลูเซียนากระดิกตัวไม่ได้
“อืม...”
ลูเซียนาพยายามหันหน้าหนี แต่ริมฝีปากถูกประกบแนบแน่น สัมผัสอ่อนโยนผสมความดุดันมันทำให้หญิงสาวดิ้นจนกระทั่งมือหลุดออก หญิงสาวพยายามดันแผ่นอกหนาออก แต่ถูกซานโตรใช้ฝ่ามือสัมผัสแนบแน่น เขาใช้ปลายนิ้วสอดประสานกับมือบางแล้วแนบชิด ลูเซียนามองอะไรไม่เห็นนอกจากหมอกสีขาวโพลนเหนือศีรษะ และสัมผัสอบอุ่นและอ่อนโยน เธอไม่เคยถูกสัมผัสนานขนาดนี้ อ่อนหวานและนุ่มนวล กว่าที่ซานโตรจะถอนริมฝีปากแล้วมองตาเธอ ลูเซียนาก็แทบหน้าแดงจัดไปถึงใบหู
“นี่คุณ...”
“ถามดี ๆ แล้วแต่คุณกลับไม่ตอบ” ซานโตรซ่อนยิ้ม มือยังสอดประสานกับมือบางไม่ยอมปล่อย
“ปล่อยนะ นี่อย่ามาทำบ้า ๆ นะ”
“คุณผิดเองที่มายั่วยวนผมถึงที่ก่อน”
คำตอบของซานโตรกับสายตาของเขาที่ซ่อนลึก ทำเอาลูเซียนาถึงกับหน้าร้อนผ่าวใจเต้นระรัวขึ้นมาทันที ความหมายของเขาคือเธอไม่ควรมาใกล้ผู้ชายอย่างเขา ทั้งที่ความจริงทีเพียงลูเซียนากับซานโตรอยู่ในบ้านกันสองต่อสอง หญิงสาวสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากมือของเขา แต่นั่นกลับไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย
“คุณกำลังเข้าใจผิดนะคะ ฉันแค่มาหาเพื่อขอความช่วยเหลือต่างหาก”
“เรื่องอะไร”
“ตอนแรกฉันว่าจะบอกคุณ แต่พอหลังจากนี้ฉันทำคนเดียวดีกว่า” เธอประชด
“ถ้างั้นทำไมไม่กลับ แต่มานั่งมองหน้าผมพร้อมกับบ่นเบา ๆ แล้วอย่างนี้จะให้ผมเข้าใจว่าอะไร” ซานโตรเหยียดยิ้ม เวลานี้ลูเซียนาแก้มร้อนผ่าวเมื่อเขาจงใจขยับตัวเบา ๆ ส่งผลให้หญิงสาวเข้าใจว่าตัวเองตกอยู่เป็นรองแค่ไหน เสื้อเชิ๊ตแขนยาวกับกางเกงขาสั้นแทบจะไม่ปิดบังอะไรเลยยามเมื่ออยู่ใต้ร่างหนาของเขา
“ขอโทษค่ะ...ฉันผิดเอง คราวนี้ก็ช่วยลุกออกไปห่าง ๆ ได้ไหม”
“แน่ใจหรือ”
“ซานโตร” เธอร้อง
“เหตุผลก็ใช้ไม่ได้กับใครบางคน โดยเฉพาะเวลาหญิงสาวที่กำลังตื่นกลัว...เอาล่ะ” ซานโตรสูดลมหายใจลึก “ผมจะปล่อยคุณไป แล้ววันหลังก็อย่าทำอะไรแบบนี้อีก”
ขาดคำซานโตรก็เลื่อนมือออกจากมือบาง ไออุ่นกับสัมผัสนุ่มละมุนหายไปทันที ลูเซียนาเม้มปากแน่นก่อนโมโหผลักอกหนาออก ก่อนขึ้นบันไดไปล็อกกลอนประตูดังสนั่น หญิงสาวใจเต้นระรัวราวกับไม่เคยถูกใครจูบมาก่อน ทั้งที่ความจริงแล้วเธอถูกซานโตรจูบมาแล้วตั้งสามครั้ง ลูเซียนายกมือขึ้นปิดปาก...
สัมผัสวาบหวาม อุ่นละมุน....
มันทำให้หัวใจเธอเต้นระรัวราวกับจะหยุดลง
“ไม่นะ” ลูเซียนาหลับตาลง “บ้าจริง ๆ เลยลูเซียนา”
ถ้อยคำสั้น ๆ ที่ลูเซียนาบอกกับตัวเอง มันช่วยย้ำเตือนให้เธออยู่ห่างจากซานโตร เขาเป็นหมอมีหน้าที่คอยรักษาเธอ ถ้อยคำที่เขาถามล้วนแต่เป็นเหตุทำให้นึกถึงคนที่ไม่อยากนึกถึง รอยยิ้มและดวงตาสีน้ำตาลของซานโตร มันทำให้เธอหวั่นไหวอยู่หลายครั้ง รอยยิ้มของเขามันชวนให้ต้องหันหน้าหนีอยู่ตลอดเวลา บางทีสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคงไม่ใช่เพราะซานโตรเข้ามาใกล้ ๆ แต่เป็นเพราะหัวใจของเธอเองต่างหาก….
**********************
ยามเช้าที่มาถึง ซานโตรเดินออกไปเปิดประตูหน้าบ้านให้แสงแดดสาดส่อง ข้างนอกเต็มไปด้วยผู้คนนั่งจิบกาแฟและยังเช้าเกินกว่าที่จะมีคนไข้เดินเข้ามาหา ใบหน้าคมคายหันหลังเดินเข้าไปหลังร้านและหากาแฟดื่ม แต่แล้วก็ต้องเลิกคิ้วสูงเมื่อเห็นลูเซียนาเดินลงมาจากบันได ในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงรัดรูปสีฟ้าอ่อน ในอ้อมแขนถือภาพกระดาษขาวใบใหญ่และมีถุงหิ้วสีระบายราวกับจะออกไปวาดภาพข้างนอก
“คุณจะไปไหนน่ะ” เขาถามเสียงเรียบ
“เดินเล่น”
ลูเซียนาตอบสั้น ๆ ก่อนเบี่ยงกายหลบซานโตห่างกันเป็นคืบ ซานโตรมองตามกิริยาของหญิงสาวพร้อมกับซ่อนรอยยิ้มออกมาชัดเจน
“จะไปวาดภาพมีเพื่อนแล้วหรือ”
“ไปวาดภาพไม่ได้เอาเพื่อนไปเสียหน่อย”
“ถ้างั้น ถ้าผมอาสาพาไปส่งล่ะคุณจะว่าไง แถวนี้มีภาพทิวทัศน์งดงามหลายภาพถ้าคุณอยากจะได้มุมดี ๆ ให้ผมพาไปส่งก็ได้” ชายหนุ่มยกปลายนิ้วขึ้นแตะขอบแว่น
“ขอบคุณค่ะ แต่ฉันว่าไปคนเดียวยังจะดีซะกว่า”
ซานโตรเหยียดยิ้มเอามือล้วงกระเป๋าเสื้อ
“จะดีหรือ”
“ค่ะ”
ขาดคำลูเซียนาก็หมุนตัวออกไปข้างนอกพร้อมกับผ้าผืนใหญ่ เหลือเพียงซานโตรที่เริ่มจะถอนหายใจยาวเนื่องจากดูแล้วเขาน่าจะทำเกินไปหน่อย ดวงตาสีน้ำตาลคมจัดจ้องมองลูเซียนาไปจนลับตา ก่อนที่เสียงหัวเราะเบา ๆ จะดังมาจากคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง ทำเอาซานโตขมวดคิ้วมุ่น
“มีอะไรน่าหัวเราะ”
“ดูท่าว่าเธอคงจะโกรธนาย ดูระยะห่างนั่นแล้วนายคงไม่น่าไว้ใจน่าดู” จีโอหัวเราะแผ่วเบา ดวงตาสีดำภายใต้เส้นผมดำสนิทชุดสูทสีน้ำตาลเข้มขณะเจ้าตัวยืนพิงขอบกำแพงห่าง ๆ แลดูดำสนิทกลืนกับกำแพง
“ดูท่าจะทำเกินไปหน่อย”
“อะไรครับ”
“ไม่มีอะไร ว่าแต่นายเถอะดูท่าวันนั้นจะทำเกินเลยไปหน่อย” เจ้าของดวงตาคมกริบชำเลืองมองไปข้างหลัง จีโอยิ้มเยือกเย็น
“เรื่องที่ผมเข้าไปคุยกับคุณลูเซียนาเหรอครับ”
“อืม”
“ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกครับ ผมเองก็อยากจะรู้จักกับผู้ช่วยคนใหม่ของนายแพทย์ซานโตร เธอเองทั้งสวยแล้วก็น่ารักอีกด้วย”
ซานโตรยกมือขึ้นปรามเบา ๆ
“พอเถอะ ทำอย่างกับว่าฉันไม่เคยรู้นิสัยนายอย่างนั้นแหละ แองเจโลพูดว่าอะไร นายถึงกล้าเดินไปหาลูเซียนาต้องการสืบหาความจริงจากเธองั้นหรือ”
จีโอยิ้มบาง ๆ ดวงตาเป็นประกายวูบไหว
“รู้ด้วยหรือครับ”
“พอ ๆ กับที่นายรู้ว่าฉันเป็นใครนั่นแหละ”
“ท่านก็พูดว่าให้ผมไปสืบมา ว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณซานโตรกับคุณลูเซียนามีแววที่จะไปได้ดีไหม แล้วจะได้มีโอกาสแต่งงานกันหรือเปล่า”
“ว่าแล้ว” ซานโตรยกมือขึ้นกุมหน้าผาก
“ท่านเป็นห่วงคุณมากนะครับ”
“เป็นห่วงกลัวว่าจะเป็นโสดน่ะหรือ ให้ตายเถอะฉันเพิ่งอายุได้ยี่สิบเจ็ดเท่านั้นนะ” ซานโตรถอนหายใจยาว
“ผมก็ทำตามหน้าที่...” จีโอหลุบตาลงต่ำ
“เชื่อเขาเลย” ซานโตรเอ่ยเสียงเครียด
“ยังมีอีกเรื่องที่ผมยังไม่ได้บอกคุณ”
ซานโตรชำเลืองมองไปยังจีโอ
“อะไร”
“คุณลูเซียนา ดูออกว่าผมเป็นใคร”
ลูเซียนาเลือกที่จะวาดภาพด้วยดินสอโดยเลือกยืนที่สวนสาธารณะหันหน้าออกไปยังเมืองทิวทัศน์และเรือที่จอดเรียงรายอยู่ตามชายฝั่ง ดินสอของหญิงสาวไล่โค้งมนจากด้านบนไล่ลงมายังด้านล่างราวกับรูปสลัก รูปสลักของแสงอาทิตย์เป็นสีทองจรดขอบฟ้า จรดชายทะเลทอดยาวจากเรือที่จอดไร่เลียงกันมาเป็นคลื่น ๆ ดวงตาของหญิงสาวมองไปยังภาพที่ตัวเองกำลังจะวาด หากแต่ในใจหนึ่งกลับมีภาพของชานหนุ่มที่ทำให้ใจไหวเอนขึ้นมาทันที
มือกำลังจะวาดภาพตึกโค้งเส้นลง ทำให้หญิงสาวสูดลมหายใจลึก
“แบบนี้ก็ไม่ได้วาดเลยน่ะสิ”
ลูเซียนาฉีกผ้าออกก่อนจะถอนหายใจยาว หญิงสาววาดภาพวิวทิวทัศน์กับแสงแดดจรดขอบฟ้า แต่สุดท้ายภาพวาดนั่นก็เป็นริ้วรอยจากดินสอสีที่ลากเส้นเบา ๆ ท้ายที่สุดก็วางดินสอลง
“มันขาดอะไรนะ”
“ความงามไงล่ะ”
เสียงทุ้มลึกจากทางด้านหลัง ทำเอาหญิงสาวสะดุ้งหันไปมองทันที ดวงตากลมโตเบิกกว้างหน้าตาซีดเผือดเมื่อมองเห็นชายหนุ่มผมสีดำเข้มดวงตาสีฟ้าอ่อน ยิ้มให้เธอราวกับต้องการสื่อให้เห็นถึงความเป็นห่วงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดวงตาเป็นประกาย กับรอยลึกระหว่างคิ้วเจ็บแปลบทุกเมื่อเมื่อเห็นเธอ ชายหนุ่มตัวสูงสวมชุดสูทสีน้ำตาลเข้มรองเท้าหนัง ค่อย ๆ เดินเข้ามาหาลูเซียนาที่กำลังถอยไปชิดต้นไม้ด้านหลัง
“คาเมโอ” เธอกระซิบแผ่ว
“ความงามเป็นสิ่งเดียวที่เธอมี แต่ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาตัวเอง”
“อย่าเข้ามานะ” ลูเซียนาทำท่าหวาดกลัวจะหันหลังกลับ แต่คาเมโอไวกว่ารีบคว้าจับเอาแขนเสื้อของเธอแล้วจับกดเอาไว้ที่ด้านหลังต้นไม้
“อย่ากลัวไปเลย ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก”
ลูเซียนาเมินหน้าไปทางอื่น ทุก ๆ ครั้งที่มองเห็นสายตาของเขามันทำให้เธอรู้สึกกลัวเหลือเกิน
“อย่าค่ะ...ฉัน”
“กลัวรึ” คาเมโอกระซิบแผ่ว “รู้สึกว่าเธอจะกลัวฉัน จนเกือบทำให้เราต้องแยกจากกันที่ท่าเรือ”
ดวงหน้างดงามซีดเผือด พยายามดึงมือออกแต่ก็ไร้ผล ลูเซียนาพยายามหลบตาเธอรู้ว่าคาเมโอต้องการอะไร แต่ความต้องการอันนั้นเป็นสิ่งที่เธอเลือกไม่ได้
“ตายเสียยังดีกว่าต้องอยู่กับคาเมโอ” เธอกระซิบแผ่ว
“งั้นหรือ เสียใจด้วยนะที่ฉันไม่ให้เธอไป”
“ไม่”
ลูเซียนาพยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดออกไปจากการเกาะกุม แต่คาเมโอก็กอดเธอเอาไว้แนบอก หญิงสาวพยายามเบี่ยงกายหนีเพื่อให้ตัวเองเป็นอิสระจนกระทั่งฝากรอยเล็บไว้ที่ฝ่ามือของคาเมโอ ลูเซียนาหายใจหอบถอยหลังไปชนต้นไม้ด้านหลัง คาเมโอก้มลงมองดูเลือดไหลซิบ ๆ จากฝ่ามือ ก่อนจะแลบลิ้นเลียแผ่วเบา ทำเอาหญิงสาวหน้าแดงจัด
“ไม่เลวนี่” เสียงของเขาดูสุภาพหากแต่แฝงความอำมหิตในคราเดียวกัน
“เราสองคนเป็นเป็นพี่น้องกัน ห้ามคิดเกินเลยนะ”
“พี่น้องนอกกฎหมายไม่มีข้อห้ามอันไหนบอกว่าไม่ได้” คาเมโอเหยียดยิ้มพลางเอื้อมมือไปหาลูเซียนา แต่หญิงสาวสะบัดแขนออกทันที
“ฉันเกลียดพี่ ได้ยินไหม” ลูเซียนาตะโกน “พี่ฆ่าแม่ของฉัน จนป่านนี้ฉันยังไม่ลืมแม้แต่วินาทีเดียว”
คาเมโอหรี่ตาคมกริบมองดูเธอ
“คาลินาน่ะหรือ”
“ทำอย่างนั้นทำไม”
“แม่ของเธออยากห้ามไม่ให้ฉันพบเธอ ก็เลยต้องมีสภาพแบบนั้น”
“อะไรนะ” ลูเซียนาหน้าซีดเผือด
“เธอรู้ว่าฉันพยายามปกป้องเธอเลยเข้ามาห้าม...แต่สุดท้ายก็ต้องตาย” คาเมโอค่อย ๆ กระซิบแผ่ว “หรือเธอคิดว่าฉันจะเชื่อฟังและปฏิบัติตามล่ะ”
“คาเมโอพี่มันเลวที่สุด อ๊ะ”
ลูเซียนาร้องเสียงดัง เมื่อถูกคาเมโอลากคอให้หงายขึ้น ดวงตาสีน้ำทะเลจ้องมองดวงหน้าหวาน เส้นผมระต้นคอยาวสลวย ดวงตาคู่นั้นช่างเหมือนพ่อไม่มีผิด ริมฝีปากเคลือบสีหวานก็แลดูเป็นธรรมชาติ ผิวขาว ๆ ราวกับไข่มุกแห่งท้องทะเล ดวงตาสีน้ำทะเลเปล่งประกายวาววับ
“รู้ตัวไหม เวลาที่ถูกเธอจ้องมองอย่างนี้...มันทำให้ฉันหลงใหลไปกับภาพลวงตา” คาเมโอกระซิบแผ่ว
ลูเซียนาจ้องมองดวงตาสีน้ำทะเลไม่ยอมหลบ
“แต่ฉันเกลียดคาเมโอ…และก็ไม่มีวันให้อภัยด้วย”
“หึหึ..ฉันรู้”
“ไม่”
หญิงสาวเบี่ยงกายหนีทันที เมื่อคาเมโอเข้าไปกอดเธอไว้ในอกแน่น ลูเซียนาหันหน้าหนีจมูกและริมฝีปากที่โลมไล้อยู่ตามใบหน้าและลำคอ แต่เมื่อทันทีที่เรียวปากจะทาบทับอยู่บนริมฝีปากของเธอ ลูเซียนาก็เบี่ยงกายหลบด้วยการผลักไสอกหนาออกเต็มแรง คาเมโอหรี่ตามองพร้อมกับคว้ามือบางเอาไว้แน่น
“คนที่เธอไปอาศัยอยู่ด้วยใช่ไหม ที่ทำให้เธอเปลี่ยนไป” น้ำเสียงของเขาเข้มขึ้น
ลูเซียนายกหลังมือขึ้นปิดปากทั้งน้ำตา
“ไม่ใช่นะ”
“จริงหรือ” คาเมโอหรี่ตามองเธอ ทั้งที่เมื่อก่อนลูเซียนาแม้ว่าจะกลัวเขาแต่ก็ไม่อาจขัดขืนได้หากว่าคาเมโอต้องการอะไร “อัลโกบอกกับฉันว่า ระหว่างที่เขาพยายามเอาตัวเธอกลับไปให้ฉันได้มีผู้ชายเข้ามาขัดขวาง ฝีมือของมันเล่นเอาคนของฉันน่วมไปเลย”
ลูเซียนาตาโตด้วยความตกใจ
“คน ๆ นั้นเป็นคนของพี่เหรอ” เธอกระซิบ
“ยังจะมีใครอีกล่ะที่รักแล้วก็หวงน้องสาวอย่างนี้”
“แล้วพี่ทำอะไรกับเขา...คงไม่ใชว่า”
“ลองไปงมแถวก้นทะเลดูสิ ป่านนี้คงเหลือแต่กระดูก”
ลูเซียนาหน้าซีดเผือดด้วยความตกใจ การใช้แล้วฆ่าทิ้งเมื่อไม่เห็นว่าคน ๆ นั้นมีประโยชน์นั้น ล้วนแต่เป็นความอำมหิตที่เกินกว่าเธอจะรับได้ ในสังคมมาเฟียที่เธอเติบโตมา การสังหารชีวิตมักจะเป็นสิ่งที่พยายามปิดบังไม่ให้เธอเห็น มีแต่ความอบอุ่นอ่อนโยนจากมาเฟียที่เธอได้รับ นอกจากวันที่พ่อของเธอสิ้นชีวิตลง และหลังจากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอไม่อาจรับรู้ก็ได้ผันแปรเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
“โหดร้ายที่สุด...ลูกเมียของเขาจะทำยังไง” น้ำเสียงของเธอเบาโหวง
“หรือเธอคิดว่าพี่ควรจะเอาลูกเมียเขาไปด้วยล่ะ”
“ใจร้ายที่สุด”
“เรื่องนั้นเอาไว้วันหลังเถอะ ตอนนี้เธอควรกลับไปกับพี่ คฤหาสน์หลังใหม่ที่พี่สร้างไว้ให้เธอสวยงามราวกับแมกไม้บนสรวงสวรรค์” คาเมโอยิ้มรับพลางเอื้อมมือไปหาเธอ “เอาล่ะ ไปกันเถอะ”
ลูเซียนาถอยหลังออกมาช้า ๆ
“ไม่”
“ลูเซียนา”
“ฉันจะไม่ยอมกลับไปหรอก ทั้ง ๆ ที่หนีออกมาได้แล้ว ตอนนี้ฉันเลือกที่จะอยู่ที่นี่เลือกที่จะมีใช้ชีวิตร่วมกับคนที่ช่วยเหลือฉัน เพราะฉะนั้นเลิกยุ่งเกี่ยวกับฉันซะที” เธอปฏิเสธทันควัน
“หึหึ...คิดจริง ๆ หรือ” คาเมโอยิ้มเย็นการโกหกของเธอไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น “คิดหรือว่าไอ้ผู้ชายที่ช่วยเธอ มันรู้หรือเปล่าว่าเธอเป็นใคร ถ้าหากมันรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวมาเฟียล่ะก็คงสนุกดีพิลึก”
ลูเซียนาหน้าซีดเหมือนกระดาษ
“พี่ไม่กล้าหรอก เขาไม่ได้คนแบบนั้น”
“งั้นหรือ”
“ซานโตรไม่ใช่ผู้ชายอย่างที่พี่คิด เขาเป็นหมอไม่ใช่ผู้ชายใจไม้ไส้ระกำ ไม่อย่างนั้นคงไม่ปล่อยให้ฉันอยู่อย่างโดดเดี่ยวไม่มีที่พึ่งพิงหรอก”
ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลหรี่ตาลงมอง
“ดูเธอไว้ใจเขามากกว่าที่ฉันคิด” น้ำเสียงของเขาแปรเปลี่ยนไปจากเดิม “แต่หากเธอไม่ยอมกลับไปกับฉัน ดูท่าว่ามันจะไม่ได้มีชีวิตรอดไปได้”
“คาเมโอ”
“ฉันไม่ชอบให้ใครมายุ่งเกี่ยวกับเธอ ไม่ว่ามันจะเป็นผู้มีพระคุณหรือว่าแค่หมาลอบกัด”
“ไม่นะ”
“ไปกับฉัน”
ลูเซียนาถูกแขนเข้าไปใกล้ตัว จากนั้นก็พาลากเดินไปยังรถที่จอดรออยู่พร้อมด้วยผู้ชายชุดดำหลายคน หญิงสาวดิ้นรนเอาตัวรอด เธอสะบัดแขนจนหลุดออกจากนั้นก็วิ่งหนีไปบริเวณขอบสวนสาธารณะโดยมีเสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามา ลูเซียนากลัวจนตัวสั่น ไม่อยากหวนคิดไปถึงความอำมหิตและความเลือดเย็นของคาเมโอ เธอวิ่ง ๆ พร้อมกับเสียงตะโกนภายในใจ คนที่เธออยากให้มาช่วยที่สุด...
ซานโตร
“ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยฉัน..อุ๊บ”
ลูเซียนาถูกคว้าแขนเข้าไปในมุม แล้วถูกหมุนตัวให้หลังพิงกับต้นไม้ หญิงสาวดิ้นรนสุดชีวิตพยายามผลักไสออกห่างจากตัว คนที่ยืนเอาตัวบังให้เธอจึงต้องเอามือปิดปาก พร้อมกับเอานิ้วจรดริมฝีปากเบา ๆ ลูเซียนาลืมตาโตจ้องหน้าคนที่มาช่วยหน้าซีดเผือด
“ซาน...”
“ชู่ววส์” ซานโตรกระซิบแผ่ว เวลานี้เธออยู่ใกล้เขามาก ประจวบเหมาะกับมุมที่ซานโตรจับเธอไปบังเอาไว้ค่อนข้างมืดและมีใบไม้มืดทึบ เสียงฝีเท้าที่ดังไล่ตามมาทำเอาลูเซียนาหน้าซีดราวกับกระดาษ สองมือจับแขนเสื้อของซานโตรเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ซานโตรจึงดึงหลังศีรษะของเธอโอบเข้าไปไว้แนบอก ลูเซียนาใจเต้นแรงเกรงว่าคาเมโอจะเป็นฝ่ายมองเห็นตัวเธอและเข้าทำร้านซานโตร
“ลูเซียนา เธออยู่ที่ไหนออกมาเสียดี ๆ” เสียงตะโกนของคาเมโอดังกังวานก้อง
ลูเซียนาโอบกอดรอบลำตัวของซานโตรเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
ซานโตรลอบมองชายฉกรรจ์ที่มาใหม่ ดูเหมือนว่าผู้ชายพวกนี้จะเป็นพวกมาเฟีย มีอาวุธในมือพร้อม
“แย่จริง” เขาสูดลมหายใจลึก “เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ ซะด้วย”
“ซานโตร...ฉัน”
ช่วงขณะที่ลูเซียนากำลังจ้องหน้าเขาก็ถูกสองมือประคองหน้าให้แหงนขึ้น พร้อมริมฝีปากแนบชิดลงมาทันที หญิงสาวลืมตาโตก่อนที่ความอบอุ่นบนเรียวปากจะทำให้ลูเซียนาหลับตาลงแผ่วเบา สองมือโอบกอดรอบลำตัวของซานโตรเอาไว้แน่น สัมผัสอ่อนโยนระคนวาบหวาม ที่ผ่านทางริมฝีปากแนบแน่นมันทำให้เธอคิดอ่านอะไรไม่ออก รู้อีกทีหญิงสาวถูกหันไปด้านข้างเพื่อรับสัมผัสนุ่มละมุนเบา ๆ
อ่อนหวาน อบอุ่นระคนเรียกร้อง มันทำให้ลูเซียนากระชับมือข้างที่เกาะแขนแข็งแรงเบา ๆ ยิ่งเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาจนเหมือนจะอยู่ด้านหลังของซานโตร หญิงสาวก็ทำท่าว่าจะเบี่ยงกายออก แต่คนตัวสูงกลับจับด้านหลังศีรษะแนบชิดริมฝีปากแนบสนิท ไม่ยอมปล่อยให้เป็นอิสระ สัมผัสร้อนระอุเรียกร้องมันทำให้ลูเซียนาคิดอะไรไม่ออกหัวหมุนไปหมด จนกระทั่งลูกน้องของคาเมโอเดินผ่านมาทางนั้น
“แกเห็นผู้หญิงเดินผ่านมาแถวนี้หรือเปล่า”
ซานโตใช้ถือวาบทับริมฝีปากแน่น แล้วหันมาเหยียดยิ้ม
“ใครหรือ”
“ผู้หญิงหน้าตาน่ารักสวมกางเกงยีนวิ่งผ่านมาแถวนี้ แกเห็นบ้างหรือเปล่า” ชายฉกรรจ์ทำท่าจะมองไปยังลูเซียนาซานโตรจึงใช้ลำตัวแนบสนิทพร้อมกับวางมือลงบนลำต้นไม้
“เขากำลังจูบอยู่ จะมองเห็นได้ยังไง”
เพื่อนผู้ชายฉกรรจ์หันหลังแล้วพยักหน้า มาเฟียส่งเสียงในลำคอแล้วพากันเดินอ้อมไป ซานโตรเลิกคิ้วถอนหายใจยาว หลังจากปล่อยมือจากริมฝีปาก ก็ต้องหน้าหันเพราะแรงตบฉาดใหญ่
เผียะ
“นี่แน่ะ”
“ไม่เลวนี่ แรงตบยังดีอยู่” ซานโตรยกปลายนิ้วขึ้นแนบแก้มที่ยังไม่หายชา แรงเหวี่ยงเมื่อครู่ทำเอาลูเซียนายังไม่หายโกรธ
“คนบ้า ทำอะไรบ้า ๆ คุณรู้หรือเปล่าว่าถ้าคนพวกนั้นจับได้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
“ผมเป็นหมอไม่ใช่ตำรวจ หรือคุณรู้ล่ะว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างหากว่าพวกมันจับเราได้” ซานโตรยิ้มบาง ๆ ทำเอาลูเซียนาถึงกับคอแข็ง
“ถึงจะว่าอย่างนั้นก็เถอะ แต่มัน..”
“จะหาเรื่องด่าผมก็เอาไว้วันหลัง พวกมันจะกลับมาแล้วเรารีบไปจากที่นี่กันเถอะ”
ขาดคำคนตัวสูงก็ดึงมือบางไว้แน่น พร้อมกับเดินกึ่งวิ่งไปที่ริมทางเดินด้านล่าง ลูเซียนามองตามด้านหลังของซานโตรพร้อมทั้งคิดว่าแผ่นหลังของเขาแข็งแรงและอบอุ่น ชั่ววินาทีหนึ่งเธอต้องตกไปอยู่ในอ้อมกอดของซานโตร พร้อมทั้งคิดว่าถ้าต้องตายภายใต้อ้อมแขนของเขา...
เธอเองก็พร้อมที่จะยินดี…
*************************
เบลินญา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 ต.ค. 2555, 13:45:15 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 ต.ค. 2555, 13:45:15 น.
จำนวนการเข้าชม : 2446
<< ตอนที่ 5 มืดที่คมเหมือนมีดโกน | บทที่ 7 ชีวิตบนเส้นขนาน >> |
เบลินญา 24 ต.ค. 2555, 14:09:27 น.
ตอบเม้นท์ค่า
Oikku >>>> เรื่องเก่าน่ะค่ะ รอพิมพ์กับสนพ.เดอะเกรทอยู่
ใบบัวน่ารัก >>> ร้ายจริง ๆ ค่ะ ^^
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์นะคะ
ตอบเม้นท์ค่า
Oikku >>>> เรื่องเก่าน่ะค่ะ รอพิมพ์กับสนพ.เดอะเกรทอยู่
ใบบัวน่ารัก >>> ร้ายจริง ๆ ค่ะ ^^
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์นะคะ
wind 24 ต.ค. 2555, 22:02:56 น.
มีลูกน้องโง่อย่างนี้น่าเห็นใจคาเมโอ
มีลูกน้องโง่อย่างนี้น่าเห็นใจคาเมโอ
Zephyr 25 ต.ค. 2555, 19:59:43 น.
หูย เกือบไปๆ คาเมโอ ไม่รู้จักซานโตรเหรอคะ
หูย เกือบไปๆ คาเมโอ ไม่รู้จักซานโตรเหรอคะ
เบลินญา 26 ต.ค. 2555, 09:39:21 น.
มีลูกน้องโง่ก็อย่างนี้แหละค่ะ
มีลูกน้องโง่ก็อย่างนี้แหละค่ะ
แว่นใส 30 ต.ค. 2555, 14:59:31 น.
หาแค่นี้ก็ไม่เจอเนอะ
หาแค่นี้ก็ไม่เจอเนอะ