เสน่ห์ร้าย นายมาเฟีย
ซานโตรใช้ปลายนิ้วเขี่ยเส้นผมที่ยาวระใบหน้า เส้นผมสีน้ำตาลราวกับเส้นไหมหยักศกน้อย ๆ ใบหน้าคมคายใส่แว่น สวมชุดยาวจนถึงกลางหลัง รองเท้าบูทไขว่ห้างราวกับกำลังนั่งอยู่ภายในห้องพักในบ้านของตัวเอง คิ้วหนารับกับจมูกโด่งเป็นสัน กับเรียวปากได้รูปราวกับรูปสลัก...
Tags: นิยาย,ความรัก,หวานละมุน,มาเฟีย

ตอน: บทที่ 7 ชีวิตบนเส้นขนาน


บทที่ 7
ชีวิตบนเส้นขนาน

ผัวะ !?

“ไอ้บัดซบ” คาเมโอชกหน้าลูกน้องคว่ำไปชนกับเก้าอี้แตกกระจายเกลื่อน

ลูกน้องหน้าซีดเผือดเอามือปิดเลือดที่ไหลโทรมจมูกและปาก

“ตะ..แต่ผมมองไม่เห็นใครเลย มีแต่ไอ้บ้านั่นกับผู้หญิงของมันสองคน” มันระล่ำระลัก

“แกเคยเห็นใบหน้าของผู้หญิงเรอะ”

“เอ่อ...” ชายผิวขาวจำไม่ได้ว่าขอดูหญิงสาวในอ้อมกอด “ผมมองไม่เห็น”

“นั่นมันลูเซียนา ไอ้หน้าโง่”

ขาดคำคาเมโอก็ถีบเข้าที่อกซ้ายของลูกน้องทำเอาลุกไม่ขึ้น ใบหน้าของคาเมโอบัดนี้วาวโรจน์ราวกับจะแผดเผาให้เป็นจุณ ริมฝีปากของเขาขบกรามแน่นเมื่อลูกน้องบอกว่าหมอนั่นกำลังโน้มหน้าเข้าไปชิดราวกับกำลังจูบกัน เพียงเท่านี้แผ่นอกของเขาก็แน่นแทบจะระเบิด

“แกแน่ใจนะ ว่ามันไม่ได้ทำอะไรลูเซียนา” คาเมโอหันหลังไปถามชายตัวสูงก็หน้าซีดเผือด

“คือ...”

“แกแน่ใจนะว่ามันไม่ได้จูบเธอ” เขาตะโกนดังลั่น แม้จะไม่ได้คำตอบที่ต้องการแต่ชายคนดังกล่าวก็เตรียมหันข้างให้หมัดรุ่น ๆ เหวี่ยงเข้าใส่ทันที “บัดซบที่สุด”

คาเมโอระบายความแค้นด้วยการปัดกวาดบนโต๊ะแตกกระจายเกลื่อน ไม่เว้นแม้แต่แก้วเหล้าและตู้กระจก ใบหน้าขาว ๆ ของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ

“ซานโตรรึ” เขากระซิบแผ่ว “อีกไม่นานแกจะต้องเสียใจ”

*****************

....ที่ด้านในประตูคลินิก

ซานโตรหมุนปากกาในมือไปมาอยู่บนโต๊ะ เอนหลังอยู่บนเก้าอี้ด้านหน้าราวกับกำลังครุ่นคิดบางอย่าง รอยตบบนแก้มซ้ายยังเจ็บแปลบไม่หาย แต่พอมาถึงลูเซียนาก็ขึ้นไปบนห้องปิดประตูลงกลอนเสียงดังสนั่น ราวกับไม่ต้องการให้ซานโตรถามอะไรทั้งนั้น ซึ่งชายหนุ่มเองก็ไม่ปริปากบ่นได้แต่มานั่งหมุนปากกาอยู่ในมือนั่งคิดทบทวนไปมาตลอดทั้งวัน ดวงตาสีน้ำตาลมองขึ้นไปยังบันไดชั้นสอง

...ดูท่าแล้ววันนี้ลูเซียนาคงไม่ยอมลงมาคุยด้วยซะแล้ว

“วันนี้ฉันอยู่คนเดียว ใครมายืนอยู่ที่ด้านหลังหน้าต่าง จะไม่เข้ามาหน่อยรึ”

ชายผิวเข้มที่ยืนอยู่ตรงหน้าต่างซ่อนปลายมีด ขมวดคิ้วราวกับไม่เชื่อหู ก่อนพุ่งตัวเข้ามายังด้านในของประตูพร้อมทั้งอาวุธในมือขึ้นหวังเสียบตรงหัวใจ

“แกตาย”

“ใครกันแน่” ซานโตรออกแรงถีบกำแพงเพื่อให้เก้าอี้ถอยห่างออกมา ก่อนจะคว้ามือข้างที่คว้ามีดเข้ามาก่อนตีเข่าเข้าใส่ที่กลางลำตัว ชายผิวคล้ำถึงกับชะงักด้วยความจุกก่อนจะเปลี่ยนมือเป็นพุ่งใส่ใบหน้าแทน

“ตายซะเถอะ”

ซานโตรยกหลังมือขึ้นปัดปลายมีด ชายผิวคล้ำสบถเสียงดัง ก่อนเหวี่ยงตัวไปด้านหลังพร้อมปลายเท้าขึ้นเตะซานโตรเต็มแรง ชายหนุ่มยกมือขึ้นกันทันทีแต่นั่นก็ทำให้มือที่จับกดอยู่ปล่อยออกโดยแรง ชายผิวเข้มเป็นผู้ใช้ปลายเท้าได้ไวกว่า เขาอาศัยช่วงที่ซานโตรเผลอตวัดปลายเท้าเข้าเตะที่กลางลำตัวชายหนุ่มจนล้มก้นกระแทกเก้าอี้

“ไม่เข้าท่าแฮะ” ชายหนุ่มนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ

“ย๊าก”

ขาดคำชายผิวคล้ำก็เหวี่ยงข้อเท้าลงมาตรงซานโตรนั่งอยู่เต็มแรง โชคดีที่ชายหนุ่มกระโดดไปด้านข้าง ยังผลให้ข้าวของหล่นแตกกระจายเกลื่อน ชายคนดังกล่าวก็ตามมาด้วยการเหวี่ยงข้อเท้าเตะเข้าที่กลางลำตัวของซานโตรเต็มแรง แต่ครั้งนี้ชายหนุ่มคอยระวังอยู่จึงเบี่ยงตัวหลบได้อย่างฉิวเฉียด

“แกท่าจะเป็นพวกฝีเท้าดีนะ” ชายหนุ่มเหยียดยิ้มอย่างไม่เข้าท่า

“เพิ่งรู้หรือ ฉันนี่แหละใช้เท้าในการฆ่าคนมามากมาย”

ชายผิวคล้ำแสยะยิ้มนัยน์ตาเป็นประกาย ซานโตรมองดูฝีเท้าของมันก็ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามา ช่วงจังหวะที่มันเหวี่ยงปลายเท้าเข้าที่ปลายคาง เขาก็หงายศีรษะหลบแล้วหันไปคว้ามีดสั้นหันมีดสั้น แล้วปัดเข้าใส่ที่กลางหลังของชายผิวคล้ำทันที

ผัวะ

ซานโตรรีบคว้าต้นคอของชายที่กระอักที่กลางหลัง ก่อนคว้าจับข้อมือที่พุ่งปลายมีดเข้าใส่ไขว้ไปไว้ด้านหลังเต็มแรง ก่อนกระแทกปลายเท้าเข้าที่ข้อเท้าของมันจนชายผิวคล้ำล้มลงไปนอนกองกับพื้น มันพยายามดิ้นรนสุดชีวิตแต่ถูกคนเป็นหมอออกแรงส่งให้กดอยู่กับที่

“ไอ้บัดซบ !? ปล่อยสิวะ” มันตะโกนอย่างเดือดดาล

“ที่นี่เป็นคลินิกไม่ใช่สถานที่ต่อยมวย”

“แกเป็นใครกันแน่ ฝืมืออย่างนี้เป็นหมอแน่รึ”

“ไม่ต้องถาม แกเข้ามาที่นี่ต้องการอะไร” ซานโตรจับกดศีรษะลงกับเก้าอี้ ชายผิวคล้ำเจ็บแค้นแต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้

“แก...”

“ใครเป็นคนส่งพวกแกเข้ามา” ซานโตรถามต่อ “หรือจะให้ฉันเดา คาเมโอใช่ไหม”

ชายผิวคล้ำเบิกตาโต ก่อนจะหรี่ลงด้วยความโกรธ

“ไม่รู้ ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น”

“งั้นหรือ”

ซานโตรเหยียดยิ้ม กระตุกที่ชายเสื้อของชายผิวคล้ำฉีกกระชากจนมันขาดเผยให้เห็นสัญลักษณ์บางอย่าง นายแพทย์หนุ่มกระซิบแผ่ว

“แก็งค์วาลโลโซงั้นหรือ”

“แก !? ทำไมถึงรู้จักชื่อนั้น”

“ชื่อเสียงของพวกแก โด่งดังพอสมควรใครไม่รู้จักก็แปลกแล้ว” ซานโตรเหยียดยิ้ม “เสียใจด้วยที่ผู้หญิงที่พวกแกตามหาเขาพักอยู่ชั้นสอง แต่ก่อนจะขึ้นไปต้องข้ามศพฉันไปก่อน”

“อั่ก”

“ลูเซียนาเป็นใคร ทำไมแกถึงต้องมาตามตัวเธอ” เขาถามเสียงเข้ม ก่อนคว้าคอเสื้อชายผิวคล้ำขึ้นมากระชากถาม

“หึ...เป็นใครรึ ถ้าแกรู้ความจริงแกยังจะปกป้องมันอยู่อีกหรือเปล่า” มันเค้นเสียงถามด้วยความแค้น

ใบหน้าคมคายหรี่ตามองชายผิวคล้ำ มาจนป่านนี้แล้วเขายังมีอะไรที่ไม่ต้องเสียได้มากเท่ากับที่เป็นอยู่อีกแล้ว มือที่กระชากคอเสื้ออยู่ตวัดเข้าหากันโดนแรงเป็นเชิงย้ำประโยค

“ลองบอกมาสิ จะได้รู้ว่ามีค่าหรือไม่มี”

“ต่อให้ตายฉันก็ไม่ยอมบอกหรอก”

“น่าเสียดายนะ ที่ฉันไม่ว่างพอที่จะเล่นด้วย”

ขาดคำซานโตรก็ฟาดสันมีดผ่าตัดเข้าใส่หลังต้นคอของชายผิวคล้ำจนร่วงลงไปกองอยู่กับพื้น ชายหนุ่มถอนหายใจยาวขยับปลายนิ้วขึ้นขยับเน็คไท เขาหลับตาลงพร้อมทั้งคิดว่าจะเก็บกวาดเศษขวดยากับร่องรอยเลอะเทอะยังไงดี ก่อนที่สายตาคมกริบจะชำเลืองมองไปทางด้านหลังก่อนจะเห็นแสงจันทร์สะท้อนเอาเงาบางอย่างที่ยืนกอดอกยืนนิ่งสนิทอยู่ที่ด้านหลังหน้าต่าง

“นายไม่คิดที่จะช่วยฉันหน่อยหรือ” ซานโตรเอ่ยเสียงเข้ม จะว่าไปแล้วจีโอมักจะอยู่ห่างจากเขาเงียบ ๆ แต่ไม่เคยโผล่ออกมาตอนที่ควรช่วยเหลือเลยสักครั้ง

“เท่าที่เห็น ไม่จำเป็นนี่ครับ” จีโอยิ้มบาง ๆ

“เฮ้อ...จริง ๆ เลย”

“แล้วจะให้ผมทำยังไงกับหมอนี่ดีครับ” ชายดวงตาสีดำชำเลืองมองไปทางชายผิวคล้ำก็กำลังสลบเหมือดอยู่บนพื้นไม่ได้สติ

“นั่นสินะ ช่วยเอาไปไกล ๆ เลยก่อนที่ลูเซียนาจะตื่น” ชายหนุ่มยกปลายนิ้วขึ้นแตะขอบแว่นตา

“แว่นตานั่น ไม่คิดที่จะถอดออกเหรอครับ” จีโอลอบมองไปยังแว่นตาที่เจ้าตัวเพิ่งจะถอดออกมาสวมใส่ หลังจากที่เพิ่งจัดการกับศัตรูหมด

จะว่าไปแล้ว...เขาไม่เห็นว่ามันจะเข้ากันสักเท่าไหร่

“ช่างเถอะ” เขาสรุปเบา ๆ “ว่าแต่นายเถอะ อุตส่าห์มาหาฉันถึงที่นี่มีธุระอะไรก็ว่ามา”

จีโอพุ่งเป้าสายตาไปยังแสงจันทร์ข้างนอก แม้รอบกายยามนี้มันจะมืดแต่ก็มีแสงสว่างพอที่จะมองเห็น

“ยังจำเรื่องคาเมโอได้หรือเปล่าครับ” เขาเอ่ยเสียงเบา

“สามวันงั้นหรือ”

“แค่เพียงครึ่งวันก็เหลือเฟือ” จีโอเหยียดยิ้มดวงตาเป็นประกาย “ผมเอาข่าวมาบอกคุ

ซานโตรถอนหายใจยาว นั่งลงบนเก้าอี้เอามือสวมกระเป๋าเสื้อ

“ทำไมถึงต้องการตัวลูเซียนานัก”

“คุณลูเซียนาเป็นลูกสาวหัวหน้าแก็งค์วาลโลโซคนก่อน” จีโอซ่อนรอยยิ้มให้เงามืด ถึงแม้ว่ามันจะมืดมากแต่ชายหนุ่มก็อยากเห็นสีหน้าของซานโตรในตอนนี้เหลือเกิน “เธอเป็นมาเฟียแล้วคุณจะทำยังไงล่ะ”

ซานโตรหรี่ตาลง ดวงตาเป็นประกาย...

ตอนแรกเขาก็ไม่รู้หรอก ไม่คิดว่าเธอจะเป็นลูกสาวของแก็งค์วาลโลโซและไม่คิดว่าเธอจะมีส่วนเกี่ยวพันกับเรื่องที่เกิดขึ้นแม้แต่นิดเดียว หากแต่พอมาถึงตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น...ล้วนมาจากลูเซียนาคนเดียว ใบหน้าน่ารักของเธอกับดวงตาใสสะอาดมันเป็นเพียงภาพลวงตาสำหรับเขา

“มิน่าล่ะ...” เขากระซิบแผ่วพลาถอนหายใจยาว

“คุณพร้อมที่จะเอาตัวเข้าปกป้องเธอหรือเปล่า” จีโอชำเลืองสายตามองเขา

“เล่ามาให้หมด ฉันเบื่อที่จะฟังหลายที”

จีโอยิ้มบาง ๆ ใบหน้าของเขามองขึ้นไปบนท้องฟ้า

“เธอมีพี่ชายที่ชื่อคาเมโอ เป็นพี่ชายต่างมารดา...เขาทั้งหวงและรักลูเซียนามาก จนแทบจะฉีกคนที่ยุ่งเกี่ยวกับเธอให้เป็นชิ้น ๆ แต่ความรักมันก็มีหลายประเภท ความรักระหว่างพี่น้องมันอาจใช้ไม่ได้สำหรับเขา”

ซานโตรขมวดคิ้วเข้ม

“หมายความว่ายังไง”

“คาเมโอรักลูเซียนา...ไม่ใช่ความรักระหว่างพี่น้องแต่เป็นความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง มันเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครรู้แต่หลังจากนั้นคาเมโอก็ทำทุกอย่างเพื่อลูเซียนาคนเดียว”

ซานโตรนึกถึงใบหน้างามและผมยาวสลวยเป็นคลื่นจรดกลางหลัง จะว่าไปแล้วลูเซียนาน่าจะมีใบหน้าน่ารักและคงจะมีรอยยิ้มที่สดใสมากทีเดียว...

จึงไม่แปลกหรอกที่พี่ชายอย่างคาเมโอจะมอบความรักให้จนหมดใจ

“ก็ไม่แปลกหรอก” เขาประเมินจากสภาพที่เป็นอยู่

“แต่มันไม่ใช่อย่างนั้นนะสิครับ” จีโอกล่าวต่อ “แม่ของคุณลูเซียนาถูกฆ่าตายตั้งแต่เธออายุได้เก้าขวบ และตอนนั้นมีข่าวปิดเงียบว่าคนที่ลงมือสังหารน่าจะเป็นคาเมโอ”

ซานโตรขมวดคิ้วเข้มเมื่อได้ยินชัด ๆ

“อะไรนะ”

“เรื่องนี้เป็นความจริง ส่วนเหตุผลนั้นผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงปิดบังกันนัก” จีโอกล่าว

ซานโตรหวนคิดไปถึงวันที่ลูเซียนาคิดที่จะกระโดดน้ำตาย วันนั้นเป็นวันที่เธอสูญเสียหมดทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นบิดาหรือมารดาที่เธอรัก ส่วนพี่ชายก็ล้วนแต่ทำทุกอย่างเพื่อเธอ เขาพยายามเอาชนะเธอด้วยการกักขังไว้หรืออาจโอบกอดไว้ด้วยความรักระหว่างชายหญิง เพียงแค่คิดซานโตรก็เจ็บแปลบในอกขึ้นมา

“ตอนนี้คาเมโอก็เป็นหัวหน้าใหญ่กลุ่มวาลโลโซแล้วใช่ไหม”

“ครับ ตั้งแต่เสียบิดาไปเขาก็เริ่มออกอำนาจใหญ่ ไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตา”

ซานโตรถอนหายใจยาว จะว่าไปแล้ว...เขาเองก็ไม่ต่างจากหมอนี่นักหรอก

“พอแล้ว ฉันไม่ต้องการฟังเรื่องอื่นอีก” ซานโตรเอ่ย “ขอบใจนายมาก แล้วขากลับอย่าลืมเอาหมอนี่ไปทิ้งไกล ๆ ด้วยล่ะ”

“ครับ” จีโอน้อมรับ “แต่คำตอบเมื่อครู่คุณยังไม่ได้ตอบผมเลยนะครับ”

“อะไร” ซานโตรขมวดคิ้ว

“ก็เรื่องที่คุณลูเซียนาเป็นบุตรสาวของมาเฟีย ส่วนคุณก็เกลียดมาเฟียยิ่งกว่าอะไร เมื่อคุณรู้อย่างนี้คุณยังจะปกป้องเธออยู่อีกหรือเปล่า” จีโอถามตรง ๆ สายตาจ้องมองกับดวงตาสีน้ำตาล

ปกป้องหรือ...

เขาเองก็อยากถามตัวเองอยู่เหมือนกัน ว่ายังจะเอาตัวเข้าไปคุ้มครองเธออย่างนี้ต่อไปเรื่อย ๆ หรือเปล่า

ซานโตรเองก็ยังตอบตัวเองไม่ได้ แต่วันนั้นที่เขาช่วยเธอขึ้นมาจากอาการจมน้ำ ก็ได้แต่คิดว่าการช่วยเหลือเธอให้มีงานทำก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เขาทำได้ แต่พอหลังจากวันนั้น...ดวงตาทอประกายใส ๆ ของเธอ กับรอยยิ้มอบอุ่นของเธอก็ทำให้เขาลังเล แต่พอมาได้ยินอย่างนี้แล้ว...การที่จะปล่อยเธอไปตามทางเห็นทีคงไม่ใช่นิสัยอย่างเขา

“คนเป็นหมอจำเป็นต้องหนีด้วยหรือ” เขาตอบยิ้ม ๆ

“แปลว่าคุณเองก็จะปกป้องคุณลูเซียนา”

“ใช่”

“ถ้าอย่างนั้น...” จีโอยิ้มบาง ๆ “ผมคงจะต้องกลับไปก่อน และเมื่อถึงเวลาเราค่อยร่วมมือกัน”

“เดี๋ยวสิ ร่วมมืออะไร”

ซานโตรลุกขึ้นจากเก้าอี้ ในขณะที่เจ้าตัวโหนเข้ามาและคว้าจับเอาคอเสื้อของชายผิวคล้ำก่อนหายออกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อชายหนุ่มชะโงกออกไปนอกหน้าต่างก็เห็นเพียงแสงไฟกับภาพลวงตาจากแสงจันทร์ราวกับภาพมายาที่มาจากความมืด...

“...ให้ตายสิ” ซานโตรส่ายหน้าเบา ๆ

************

....เสียงเปิดประตูเบา ๆ พร้อมกับเสียงเดินแผ่วเบา

ซานโตรหลับสนิทเขาถอดเสื้อสวมแต่กางเกงแสล็กสีดำนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียง จมูกโด่งและเรียวปากหลับสนิท แสงไฟเล็กน้อยทำเอาคนที่มายื่นมือไปหาเขาเล็กน้อยแล้วก็หดกลับไปเหมือนเดิม น้ำเสียงช่วยปลุกคนที่นอนหลับให้รู้สึกตัว นี่เป็นเวลาเกือบตีสองแล้ว ถ้าจะมีใครมาอีกก็แปลว่าคงไม่ได้มามือเปล่าอย่างแน่นอน ชั่วจังหวะที่มือเรียวยื่นออกมา ซานโตรก็คว้าจับมือบางเอาไว้แล้วจับกดกับที่นอนอย่างรวดเร็ว

“คิดที่จะเล่นงานฉันตอนหลับ มันไม่ง่ายไปหน่อยหรือ”

“ว้าย”

เมื่อได้ยินเสียงเบา ๆ กับรูปร่างใต้ลำตัว ซานโตรก็ถึงกับขมวดคิ้ว

“ลูเซียนา” เขาเอ่ยเสียงดัง “คุณมาทำอะไรที่นี่”

หญิงสาวอยู่ในชุดสีขาวพับแขนกางเกงขาสั้น ใบหน้าขาวแต่งแต้มด้วยแพขนตากลมโตและเรียวปากเอิบอิ่ม ซานโตรรู้สึกได้ในทันทีว่าลูเซียนาเป็นผู้หญิงขนาดไหนเมื่อตกอยู่ภายใต้แผ่นอกหนาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ซานโตรลุกออกทันทีทำท่าว่าจะดึงแขนออกจากมือบาง หากแต่หญิงสาวกับเอามือขวาจับพร้อมกับซบหน้าเข้าใส่ไม่ยอมปล่อย ซานโตรขมวดคิ้วมองดูหญิงสาวในอกเสื้อ

“ลูเซียนา...คุณเป็นอะไร” น้ำเสียงของเขาต่ำลึก

“ซานโตร ฉันนอนไม่หลับ”

“นอนไม่หลับ”

ลูเซียนาพยักหน้าเบา ๆ ซานโตรรู้สึกได้ถึงแรงสั่นน้อย ๆ ที่ส่งผ่านมาจากร่างกายของเธอ ชายหนุ่มค่อย ๆ วางมือลงบนไหล่บางเบา ๆ อาการของเธอดูเหมือนว่าจะตัวสั่นจะด้วยหวาดกลัวหรือมีที่มาจากภายในใจลึก ๆ ชายหนุ่มก็รู้สึกว่าตัวเธอไม่มีอาการเสแสร้ง ซานโตรทำท่าว่าจะลุกไปสวมเสื้อแต่ลูเซียนารีบกอดแขนเขาเอาไว้

“เดี๋ยวก่อนคุณจะไปไหน” น้ำเสียงของเธอหวาดหวั่น

“ผมจะลุกไปเอาเสื้อมาใส่” เขาตอบเบา ๆ

“ขอร้อง อย่าไปเลยนะ” ลูเซียนาทำท่าเหมือนจะร้องไห้

“ลูเซียนาเกิดอะไรขึ้น คุณนอนไม่หลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่”

ลูเซียนาส่ายหน้าเบา ๆ ซานโตรมองไม่เห็นอะไรนอกจากเส้นผมที่ถักทออยู่ตามไหล่บาง

“ตั้งแต่วันนี้ที่พวกมันเข้ามา ฉันก็มองเห็นใบหน้าของคาเมโอตลอดเวลา”

“คาเมโอ”

“ฉันกลัว กลัวว่าเขาจะไม่ยอมปล่อยฉันไป ฉัน...” เธอกระซิบแผ่ว

ซานโตรขมวดคิ้วและยกมือขึ้นลูบเส้นผมของเธอแผ่วเบา อาการนอนไม่หลับของลูเซียนาเกิดจากอาการจิตใจไม่เป็นปกติเกรงว่าคนที่เธอเกลียดจะย้อนกลับมาอีก ชายหนุ่มลูบเส้นผมเป็นคลื่นของเธอเพื่อให้หายจากอาการหวาดกลัวจนกระทั่งมันคลายความกังวล

“ไม่ต้องกลัว ที่นี่ผมจะไม่ยอมให้ใครทำอะไรคุณเด็ดขาด”

ลูเซียนาขยับแขนโอบกอดรอบลำตัวของเขามากยิ่งขึ้น

“ซานโตร”

ซานโตรหน้าเข้มจัดขึ้นเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะเขาคิดเลยเถิด แต่เพราะลูเซียนาแทบไม่ได้ใส่อะไรเลยอีกทั้งยังโอบกอดรอบลำตัวของเขาจนไร้ช่องว่าง จนชีพจรของทั้งคู่แทบประสานกันเป็นหนึ่งเดียว โชคยังดีที่ซานโตรมักจะใส่กางเกงแสล็คติดตัวไว้เสมอตอนนอน แต่ลูเซียนามักจะลืมตัวเองเสมอว่าร่างบางใส่เพียงเสื้อเชิ้ตกางเกงขาสั้นเปิดเรียวขาขาว ทำให้ร่างบางประสานแนบเนื้อกับอกแกร่งราวกับเป็นเนื้อเดียวกัน

“เอ่อ..ลูเซียนา ผมว่าคุณช่วยออกไปก่อนดีกว่า” ซานโตรพยายามบังคับเสียงให้เป็นปกติ

“ไม่ขอฉันนอนด้วยคนนะ”

“อะไรนะ”

ซานโตรขมวดคิ้วถามออกไป

“ขอร้องล่ะ ฉันนอนคนเดียวไม่ได้ฉันนอนไม่หลับ ถ้าไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย” ลูเซียนาส่งสายตาเว้าวอน จนซานโตรเริ่มปวดหัว

“ไม่ดีกว่า ผมว่าผมควรลงไปหายาข้างล่างแล้วเอามาให้คุณกินเผื่อว่าจะดีขึ้นกว่านี้บ้าง” เขาปฏิเสธเสียงแข็ง พยายามไม่มองไหล่บาง ๆ แล้วต้นขาขาวเนียน

ลูเซียนาส่ายหน้าเบา ๆ

“ขอร้องล่ะ” น้ำเสียงของเธอแผ่วเบาจนเขาใจอ่อน

“เอ่อ”

“ให้ฉันนอนกับคุณได้ไหม”

ซานโตรยกมือขึ้นกุมหน้าผาก พร้อมกับถอนหายใจยาว นี่ใช่ไหมนะที่เขาเรียกกันว่าความยากลำบากของการอยู่ร่วมกันของชายหญิงในบ้านหลังเดียว แต่สำหรับซานโตรมันคงไม่สร้างความลำบากใจให้เท่าไหร่หรอกกับกรณีแรก แต่กับไอ้ห้องเดียวกันนี่สิมันลำบากใจยิ่งกว่าอะไรซะอีก

“เอาล่ะ ก็ได้คุณอยากจะนั่งหรือนอนอะไรก็ได้ตามใจคุณ แต่ขอบอกได้ก่อนนะว่าผมน่ะเป็นคนนอนหลับยากมากถ้าคุณยังอยากอยู่ในห้องนี้ล่ะก็ช่วยนอนนิ่ง ๆ ด้วยก็แล้วกัน” เขาเอ่ยเหมือนปลงตก

“ค่ะ ฉันให้สัญญา”

“ตกลง”

ซานโตรพยายามถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วเอนหลังหลับตาลงโดยไม่ต้องคิดอะไรให้มากความ ลูเซียนาเห็นเขานอนลงเธอจึงเริ่มนอนห่มผ้าผืนเดียวกับเขา แล้วเอนด้านข้างให้กับเขานอนหลับตาพริ้ม สัมผัสอบอุ่นจากแขนขาและลำตัวนุ่มนิ่มอยู่ใกล้ซานโตรเสียจนเขารู้สึกปั่นป่วนไปหมด ใบหน้าคมคายหลับตากล่าวสบถของตัวเองหลายครั้ง ที่ไม่รู้จักทำใจแข็งมากไปกว่านี้

ลูเซียนานอนหลับโดยหันข้างให้กับเขา เสื้อเชิ้ตหลวม ๆ ติดกระดุมแค่สองสามเม็ดเผยให้เห็นไหล่ลาดละมุนและเรียวปากขาว ใบหน้าใส ๆ ของเธอมีเส้นผมยาวเป็นคลื่นจรดกลางหลัง ริมฝีปากเอิบอิ่มแดงระเรื่อ ผิวขาว ๆ ที่อยู่ใกล้ ทำเอาซานโตรหันหน้าไปทางอื่นท่ามกลางความร้อนระอุภายใต้แผ่นอกด้านซ้าย

“ให้ตายเถอะ...” ชายหนุ่มยกมือขึ้นกุมหน้าผากพลางถอนหายใจยาว “รู้อย่างนี้สู้ลงไปนอนอยู่บนพื้นซะยังดีกว่าอีก”

“อย่าหนีไปไหนนะ”

“เปล่า หลับเสียเถอะ”

ซานโตรถอนหายใจเฮือกใหญ่ เวลาผ่านไปนานนับชั่วโมงกว่าที่ซานโตรจะสัมผัสให้ถึงลมหายใจอ่อนโยนจากคนด้านข้าง

ลูเซียนาหลับตาพริ้ม เส้นผมกระจายอยู่ตามเส้นผมและกลางหลัง ซานโตรค่อย ๆ ยกศีรษะเธอออกห่างเพื่อที่เขาจะได้มีสิทธิลุกไปนอนที่อื่น แต่มือบางยังคงกำแน่นอยู่ที่แขนขวาของเขาทำให้ชายหนุ่มถอนหายใจยาวเบา ๆ นี่ถ้าหากว่าคนที่นอนอยู่ตรงนี้เป็นคาเมโอหรือว่าคนอื่นก็ตามที ลูเซียนาคงไม่มีโอกาสได้นอนหลับสบายราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ขนาดนี้แน่

“นอนหลับได้ดีจริง ๆ เลยนะ” ซานโตรเหยียดยิ้ม “คงไม่มีโอกาสรู้เลยสิ ว่ายังมีใครอีกคนที่นอนหลับไม่สนิทเพราะการกระทำของตัวเอง”

ซานโตรกระซิบแผ่วพลางดึงหมอนข้างที่ตัวเองไว้ทำหมอนข้าง พลางดึงแขนออกจากศีรษะของลูเซียนาเบา ๆ เธอดูเหมือนจะหลับง่ายราวกับเด็ก ๆ ซานโตรค่อย ๆ ดึงมือที่กำแน่นอยู่บนแขนเสื้อออกจากลำตัวเบา ๆ วางมันเอาไว้บนหมอนข้างไหล่มนที่หลับสนิท ชายหนุ่มมองดูแพขนตาหนาที่หลับสนิทเส้นผมที่ยาวระหน้าผากและใบหน้ากลมมน ดวงตาสีน้ำตาลไล่ลงบนเรียวปากสีชมพูอิ่มเอิบ ราวกับมองดูเด็กเล็ก ๆ

ซานโตรค่อย ๆ ดึงมือบางขึ้นมาจรดริมฝีปากอบอุ่น...

“นอนหลับซะเถอะ ผมจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายคุณได้อีกเป็นอันขาด” เขากระซิบแผ่ว

ใบหน้าคมคายมองดูแพขนตาหนา ก่อนโน้มใบหน้าลมไปหาในระยะใกล้ ก่อนจรดเรียวปากลงบนริมฝีปากอบอุ่น สัมผัสอ่อนโยนเกินกว่าจะทำให้เธอตื่น ก่อนจะถอนเรียวปากออกและยิ้มให้อย่างอบอุ่น ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นไปนอนลงพื้นด้านล่างโดยมีผ้าผืนเล็กนอนเหยียดยาวและหมอนอีกใบ ซานโตรถอนหายใจยาวหนุนหมอนที่อยู่บนศีรษะ พลางคิดอะไรทั้งคืนจนกระทั่งหลับไปในที่สุด....

....แสงแดดยามอาทิตย์ส่องมาเยือน

แสงแดดยามเช้าทำให้ซานโตรต้องยกมือขึ้นปิดตาเนื่องจากทนแสงแดดต่อไปไม่ไหว เขาต้องหันหน้าไปทางอื่นแต่เมื่อมองเห็นความว่างเปล่าของเตียงนอน ที่เมื่อคืนยังมีคนตัวเล็กนอนหลับสนิทอยู่ ชายหนุ่มก็ต้องลุกขึ้นหันไปมองด้วยความแปลกใจ และเมื่อเห็นผ้าห่มถูกคลุมอย่างเรียบร้อยก็ทำให้เขาต้องพลอยถอนหายใจยาว เหลือบไปมองนาฬิกาก็เกือบเป็นเวลาโมงครึ่งแล้ว

“พอตื่นแล้วก็หายหน้าไปเลยนะ” ซานโตรบ่นเบา ๆ ชายหนุ่มเข้าห้องน้ำและจัดการสวมเสื้อยืดแขนสั้นโชว์กล้ามเนื้อเปิดประตูออกไปทันที

ใบหน้าคมคายเดินออกไปยังประตูหน้าต่าง เสียงเปิดประตูช้า ๆ ไม่ได้ช่วยให้เกิดเสียงฝีเท้ามากนัก ในห้องโถงใหญ่บริเวณประตูหน้าต่างมีรอยผ้าผืนใหญ่ ที่ด้านหน้ามีรอยวาดเป็นรอยจาง ๆ เส้นโค้งของดินสอสีเป็นแนวรับกับแนวของทะเล ภาพของด้านหลังของหญิงสาวในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวจรดไหล่กางเกงขาสั้นยังคงยืนวาดอยู่ทางด้านหลังและยังคงวาดด้วยสีสันที่ลงพื้น

ซานโตรมองเห็นภาพวิวทิวทัศน์ของท่าเรือริมน้ำ และเดินเข้าไปใกล้ลูเซียนาจากทางด้านหลังเขาใช้มือจับมือบางที่กำลังวาดภาพด้วยสีน้ำตัดกับสีเข้มของท้องฟ้า หญิงสาวกระซิบตาถี่ ๆ ใบหน้าเข้มจรดใบหู ไม่กล้าแม้แต่จะหันมามองที่ด้านหลัง

“ตรงนี้ควรตัดด้วยสีฟ้าอ่อนค่อย ๆ ตัดกับสีเข้มของท้องฟ้า” เสียงของซานโตรกล่าวเรียบ

ลูเซียนามองเห็นมือของตัวเองวาดเป็นเส้นโค้งรอบ ๆ ท้องฟ้ายามอาทิตย์ตกหลังเส้นขอบฟ้า

“ส่วนตรงนี้...หน้าคนกำลังยิ้มและมองไปที่ทิวทัศน์ยามใกล้จะถึงใกล้ค่ำ”

“ไม่เห็นมีรอยยิ้มเลย”

“คนเรายิ้มได้ด้วยดวงตาต่างหาก ไม่ใช่เพราะริมฝีปากหยัดยิ้มเสียหน่อย”

ลูเซียนามองดูภาพที่ตัวเองกับซานโตรเป็นผู้วาด รอยยิ้มของบุคคลในภาพไม่ได้ยิ้มแบบเป็นสุขแต่เป็นรอยยิ้มจากดวงตาที่หาที่ไหนเปรียบไม่ได้ จนลูเซียนาอดลอบยิ้มไม่ได้กับสีหน้าเปี่ยมสุขนั้น นี่เองที่ทำให้เธอหวังพึ่งสายตาของซานโตรที่สามารถมองหาความรู้สึกนึกคิดที่ยากจะเข้าใจ ซานโตรจับมือบางค่อย ๆ ไล้เส้นโค้งตามไปยอดตึกและสะพานจนกระทั่งวางลงช้า ๆ

“รูปนี้ใกล้จะเสร็จแล้ว อีกไม่นานเอาให้ผมดูหน่อยนะ”

“ไม่ค่ะ”

“หือ” ซานโตรเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ

“รูปนี้ยังไม่เสร็จ และฉันก็จะไม่วาดต่อถ้าคุณไม่มาช่วยฉัน”

“งั้นหรือ”

“ใช่ค่ะ..อ๊ะ”

ลูเซียนาอุทานแผ่วแก้มแดงปลั่ง เมื่อจู่ ๆ อ้อมแขนแข็งแรงของซานโตรก็เปลี่ยนจากการช่วยถือพู่กันมาเป็นการโอบกอดรอบเอวบางพร้อมทั้งสวมกอดเข้าหากันแน่น หญิงสาวขยับตัวอย่างอึดอัดพร้อมทั้งขยับตัวออกห่างจากเขา ซานโตรเหยียดยิ้มพร้อมทั้งโน้มศีรษะลงมากระซิบแผ่วที่ริมหูทำเอาลูเซียนาหน้าแดงจัดจรดใบหู

“คุณอยากให้ผมช่วยอะไรบอกมาหน่อยสิ” เขากระซิบเสียงต่ำ

“ฉันแค่อยากให้คุณมาช่วยวาดภาพต่อเท่านั้นเอง ห้ามคิดบ้า ๆ นะ” ลูเซียนาพยายามอย่างหนักที่จะดึงมือเขาออก

“เช่นอะไรบ้าง” เขาเหยียดยิ้ม

“ก็อย่างเช่นพวกสีหน้าคนยังไงล่ะ...นี่ปล่อยนะ” ลูเซียนาเบี่ยงหน้าหลบเมื่อซานโตรโน้มศีรษะเข้ามาใกล้ยิ่งกว่าเดิม

“แค่นั้นหรือที่คุณอยากให้ผมช่วย”

“อะไร”

“ก็เรื่องเมื่อคืนคุณยังไม่ได้ขอบใจผมเลย” เขาเหยียดยิ้ม “ทำเอาหลับสบาย ทั้งที่ทำให้ผมนอนไม่หลับทั้งคืนจะให้ผมว่ายังไง”

ลูเซียนาหน้าแดงจรดใบหู

“ก็คุณไม่อยากลงไปนอนที่ข้างล่างเองนี่”

“แล้วใครที่นอนบ่นว่าห้ามออกไปไหนนะ”

“ฉันพูดแบบนั้นเหรอด้วยเหรอคะ”

“นั่นสินะ”

พูดจบซานโตรก็หมุนตัวลูเซียนาหมุนตัวเข้าไปหาเบา ๆ พร้อมทั้งโอบกอดร่างบางในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขนไว้แนบอก ซารโตรมองดูหน้าตาน่ารักผมยาวเป็นคลื่นสวย แพขนตาหนาริมฝีปากอิ่มสวย เขาหลุบตาลงต่ำมองดูเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า พร้อมทั้งแปรเปลี่ยนสีหน้าเป็นเคร่งขรึม

“คุณเป็นมานานแค่ไหนแล้ว” เสียงของเขานิ่งเงียบลง

ลูเซียนาหลบตาไปทางอื่น

“ไม่รู้ค่ะ บางครั้งที่ตื่นขึ้นมากลางดึกและก็ไม่ได้นอนอีกเลย” เธอกระซิบแผ่ว

“เหมือนเมื่อคืนน่ะหรือ”

“ค่ะ นอกจาก....” เธออึกอัก

“จะมีคนนอนเป็นเพื่อนด้วย”

ซานโตรมองลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวย ประกายตาของเธอใสซื่อและบริสุทธิ์เกินกว่าที่ใครต่อใครจะคิดร้ายด้วย แพขนตาหนาและริมฝีปากอิ่มสวยราวกับเชิดรั้งให้ใครต่อใครได้สัมผัส มันจะกลายเป็นอาวุธที่ทำให้ใครหลายคนต้องหมดความอดทนเพราะทนต่อความยั่วยวนไม่ไหว ซานโตรถอนหายใจยาว...คิดแล้วเรื่องที่ทำให้มันเป็นเรื่องยุ่งส่วนใหญ่ก็มาจากตัวเขาเองมากกว่า

“คาเมโอสินะ ที่ทำให้คุณนอนไม่หลับ” น้ำเสียงของเขาทุ้มลึก

“....”

“ถ้าอย่างนั้นผมก็ผิด ที่ให้คุณมาร่วมอยู่ในคลินิกด้วยทั้งที่ไม่รู้ความจริงอะไรเลย” ซานโตรเอ่ยเสียงเรียบ ทำให้ลูเซียนาหน้าซีดเผือด “แต่ตอนนี้...ผมอาจจะยอมรับผิดก็ได้ ถ้าหากว่ายอมให้คุณออกไปเจอคนอื่น”

“ซานโตร”

“ผมยอมถูกคุณนอนด้วย ยังดีกว่ายอมให้คุณไปนอนกับคนอื่น”

น้ำเสียงของซานโตรจางหายไป ทันทีที่เรียวปากสัมผัสกับริมฝีปากนุ่มนิ่มน่าสัมผัส ลูเซียนาหลับตาลงทันทีเมื่อสัมผัสกับความหวานระคนอบอุ่น ซานโตรหลับตาลงข่มอารมณ์ปั่นป่วนภายใน กระชับวงแขนเข้าหากัน ดวงตาสีดำขลับลึกล้ำทอประกายร้อนระอุ ร่างสูงกำยำสวมเชิ้ตเปิดกว้างช่วงไหล่ ร่างน้อยกำลังเบียดชิดเข้าหาอย่างไม่อาจห้ามความรู้สึก

ลูเซียนาถอยหลังไปชิดขอบประตูด้านหลัง เมื่อเรียวปากถูกริมฝีปากอบอุ่นอบอุ่นหนักหน่วง ลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดดูดกลืนความหวานให้กลืนหายลงไปในลำคอพร้อมกัน สองมือประคองดวงหน้างามขึ้นรับจุมพิตเนิ่นนาน บดเบียดจนกระทั่งกลีบปากแดงระเรื่อ ชายหนุ่มถอนเรียวปากขึ้นช้า ๆ ดวงตาสีน้ำตาลจ้องลึกเข้าไปดวงตากลมโตคลอน้ำ ไอร้อนระอุจากร่างหนากำยำ ส่งผ่านและแผดเผาเธอผ่านทางปลายนิ้วและริมฝีปาก ดวงตาร้อนระอุราวกับเป็นมีเพลิงลุกไหม้อยู่ภายใน สีหน้าและแววตาของซานโตรในเวลานี้แตกต่างไปจากที่หญิงสาวเคยรู้จักอย่างสิ้นเชิง

“ซาน...” ลูเซียนาเปิดปากจะพูดแต่ก็ถูกประกับริมฝีปากแนบแน่นทันที สัมผัสร้อนระอุกับความหวานที่ซานโตรมอบให้ทำให้เธอหลงไปกับความอ่อนหวานที่ได้รับ จนกระทั่งเมื่อริมฝีกปากและฝ่ามืออุ่นเคลื่อนไปตามลำคอและไหล่บางที่เปิดหลวม ๆ ซึ่งแม้กระทั่งกระดุมยังเปิดออกเพราะการเคลื่อนไหวช้า ๆ ของปลายนิ้ว

ลูเซียนาอุทานแผ่วสองมือจับเส้นผมสีน้ำตาลที่ปกคลุมเส้นผมและเลื่อนไปตามคอเสื้อและไหลไปตามขอบกระดุมเล็ก ๆ บริเวณอกเสื้อ จนกระทั่งซานโตรเลื่อนขึ้นมาจรดริมฝีปากกับแก้มเนียนเป็นทางยาว ก่อนจะมองดวงตาของเธอด้วยสายตาคมกริบสีน้ำตาล

“ขอโทษ” เขากระซิบแผ่ว “ผมว่าเราสองคนลงไปข้างล่างกันเถอะ”

ลูเซียนาหน้าแดงจรดใบหู เมื่อได้ยินเขาพูดต่อ

“เพราะผมเองก็ไม่รู้ว่าจะห้ามตัวเองได้ยังไง”

“คนบ้า อย่ามาพูดบ้า ๆ นะ” เธอร้องหน้าแดงพร้อมกับทุบอกเขาเบา ๆ “ถ้าคุณไม่ลงไป อย่าหาว่าฉันใจร้าย”

“นั่นสินะ” ซานโตรหยิบแว่นขึ้นมาสวมใส่ “ผมเองก็ยังคิดอยู่ เอาล่ะลงไปกันดีกว่า”

ลูเซียนาถอนหายใจอย่างโล่งอก พร้อมทั้งมองแว่นตาสี่เหลี่ยมบนดวงตาของเขา น่าแปลกที่เธอกลับมองเห็นสายตาที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังแว่นตาในแบบที่เขาต้องการปกปิด

“มีอะไรหรือ” ซานโตรเหยียดยิ้ม

“เมื่อไหร่คุณถึงจะยอมถอดแว่นตาสักทีคะ” ลูเซียนาถามเบา ๆ

“ทำไมหรือ”

“เปล่าค่ะ แค่กำลังคิดว่าหากคุณไม่ใส่ยังจะดูดีกว่าอีก”

ซานโตรขยับปลายนิ้วขยับแว่นตาที่ให้เข้าที่พลางเหยียดยิ้มออกมาเล็กน้อย

“แต่มันไม่ได้หมายความว่า จะมองดูดีไปหมดทุกคน”

ลูเซียนาขมวดคิ้วทันทีเมื่อได้ยินเขาพูดเป็นทำนองว่าเธอเป็นฝ่ายคิดไปเองที่มันไม่เหมาะสม ซานโตรมองเธอด้วยรอยยิ้มรู้เท่ากันก่อนจะที่ทั้งคู่จะหมุนตัวกลับแล้วเป็นฝ่ายเดินลงไปข้างล่างโดยมีซานโตรเดินตามไปห่าง ๆ สองมือล้วงประเป๋ากางเกงตามลงไปด้วย...

คาเมโอนั่งเอากัดปลายนิ้วที่เก้าอี้โซฟา เวลาที่เขากำลังใช้ความคิดมักจะใช้วิธีกัดปลายนิ้วจนหลังมือเป็นรอยแผลจากรอยกัดทันที ชายหนุ่มเจ้าของธุรกิจมืดใหญ่แทบจะไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองแย่หรือไร้ความคิดจนทำให้น้องสาวผู้บริสุทธิ์ต้องหนีออกไปจากคฤหาสน์หลังนี้ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่...เขาอุตส่าห์คว้าตัวนักฆ่าเข้าไปในคลินิกของนายแพทย์แต่กลับกลายเป็นต้องพ่ายแพ้ไปในทันที

หมอนั่นเป็นใครกันแน่

ทำไมเขาถึงกำจัดได้ยากเย็นนัก มันเพราะอะไรกัน

“บัดซบ...ไอ้หมอนั่นมันเป็นใครกันแน่” เขากระซิบแผ่ว หลังจากที่มีคนไปเจอนักฆ่าจมอยู่ใต้กองขยะใต้สะพานข้ามแม่น้ำ แล้วมาเอารายงานให้คาเมโอรู้เรื่องและสบถเบา ๆ ตั้งแต่เช้า

“ทำไงดีครับ ไอ้หมอนั่นมันจัดการกับนักฆ่าของเราไปสองคนแล้ว” ลูกน้องหน้าตาเรียบสนิทค้อมศีรษะ

“ฉันรู้แล้ว” คาเมโอกัดปลายนิ้วจนเลือดซิบ

“จะให้ผมไปสืบมาหรือเปล่า ว่าหมอนั่นเป็นใครมาจากไหน”

“ไม่ต้อง แค่ไอ้คนที่มายุ่มย่ามกับลูเซียนาแค่คนเดียว แค่นี้ฉันจัดการเองได้”

ลูกน้องหน้าตาเรียบสนิทหรี่ตามอง

“แน่ใจหรือครับ”

“ถามทำไม” คาเมโอตวัดสายตามองมัน ซึ่งลูกน้องค้อมศีรษะรับ

“ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมแค่เป็นห่วงเจ้านายเท่านั้นเอง”

“ฉันจะลงมือวันพรุ่งนี้ ถ้านายคิดจะห่วงฉันล่ะก็เตรียมไปจัดห้องไว้รอลูเซียนาจะดีกว่า เพราะถ้าขืนฉันไปรับมาแล้วเกิดเธอไม่อยากอยู่จะได้ไม่มีช่องว่างให้หนีได้อีก” คาเมโอเอ่ยเสียงเรียบ

“ครับ ผมเตรียมไว้หมดแล้ว”

“หึ...ลูเซียนาคิดจะไปจากฉันหรือ ไม่มีทางซะหรอก เตรียมตัวเอาไว้ได้เลย”

คาเมโอกระซิบแผ่วดวงตาเป็นประกายน่ากลัว...หากว่าลูเซียนาคิดที่จะไปจากเขา คาเมโอก็คงทำทุกอย่างเพื่อให้เธอกักขังแน่นไม่หนีไปจากเขาได้ชั่วชีวิต....

*********************************




เบลินญา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 ต.ค. 2555, 11:39:44 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 ต.ค. 2555, 11:39:44 น.

จำนวนการเข้าชม : 2225





<< บทที่ 6 รอยจูบ   บทที่ 8 จีโอ >>
เบลินญา 26 ต.ค. 2555, 11:43:29 น.
ตอบเม้นท์ค่ะ ^^

คุณwind >>> ใส่แว่นกันแดด ตาก็เลยมองไม่ถนัดน่ะค่ะ
คุณ Zephyr >>> เกือบไปจริง ๆ ค่ะ

ขอบคุณค่ะ


Zephyr 27 ต.ค. 2555, 17:02:53 น.
ช่างเป็นพี่ชายที่น่ากลัวววววว บรื๋อออ
ไปหาซานโตรดีกว่านะ ลูเซียนา


เบลินญา 29 ต.ค. 2555, 09:14:16 น.
^^'' น่ากลัวจริง ๆ ด้วยค่ะ


แว่นใส 30 ต.ค. 2555, 15:00:26 น.
เป็นรักที่น่ากลัวจริง ๆ เลย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account