พายุรักซาตานร้าย
Tags: ซาตาน
ตอน: ตอนที่2
ตอนที่ 2
กรุงเทพ ฯลฯ
หญิงสาวร่างบางผิวขาวหยวกใช้ริมฝีปากบางป้อนส้มเขียวหวานกลีบใหญ่ให้กับชายหนุ่มมาดเข้มอย่างอ้อยอิ่ง“หวานไหมคะนานแล้วนะที่คุณรันไม่ได้มาหาส้มแบบนี้เลย”
“หวานสิครับ แต่ส้มที่คุณป้อนผมคงไม่หวานเท่ากับตัวของส้มที่นั่งอยู่บนตักผมในตอนนี้หรอกครับ”
“ปากหวานจังนะคะ คงเป็นเพราะแม่แฟนคนสวยของคุณไม่อยู่ล่ะสิท่า”
“ไปพูดถึงเขาทำไมกันล่ะครับ มาพูดเรื่องของเรากันดีกว่า เอ..หรือว่าไม่ต้องพูดส้มก็เข้าใจแล้วว่าผมต้องการอะไร” รันลูบฝ่ามือไปทั่วหลังขาวนวลเนียนที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันกาย
“เรื่องไหนล่ะคะเรื่องของส้ม หรือเรื่องข่าว” หญิงสาวค้อนใส่อย่างคนมีจริต
“คุณนี่ทั้งสวย ทั้งฉลาดรู้ใจผมไปเสียหมด ”
“ขนาดรู้ใจคุณแบบนี้ ก็ยังไม่เห็นคุณรันยอมเลิกกับแม่แฟนคนสวยของคุณสักทีไม่รู้แม่คนนั้นมีดีอะไร”
ส้มหรือวินตาเป็นช่างแต่งหน้าให้กับดาราดังหลายคน ด้วยความที่มีฝีมือในการแต่งหน้าหาตัวจับยากของเธอทำให้ได้มีโอกาสใกล้ชิดดาราดังหลายๆท่าน บางครั้งทำให้เธอมีข่าววงในเด็ดๆ หรือข่าวลับของเหล่าคนดังมาบอกแก่รันซึ่งการที่รู้ข่าวเร็วและข่าวนั้นมีมูลความจริงทำให้หลายปีมานี้รันก้าวหน้าขึ้นมากในสายงานของเขา เรียกว่าเลื่อนมาจากนักข่าวปลายแถวเป็นนักข่าวสายบันเทิงระดับต้นๆ ก็ว่าได้
“ไม่เอาน่า อย่างอนเลยนะคนดีบอกผมให้ชื่นใจหน่อยสิครับว่าวันนี้มีอะไรใหม่ๆมาเล่าให้ผมฟังบ้าง”
สาวร่างบางลุกขึ้นจากตักของรันในทันที “เห็นไหมคะที่คุณอุตสาห์มาหาส้มถึงคอนโดก็เพราะอยากได้ข่าว ไม่เคยคิดถึงส้มเหมือนปากพูดสักหน่อย นี่แหละนะผู้ชาย”
วินตาทำหน้างอ และยืนกอดอกเพราะรู้ว่าเขาจะต้องง้อเธอ
“คนดีของผมอย่างอนเลยนะครับ ผมคิดถึงส้มมากรู้ไหมเรามาหาความสุขกันดีกว่า” รันดึงแม่สาวร่างบางที่เขาไม่เคยพิศวาสเธออย่างแท้จริงลงไปที่เตียงนอนนุ่ม จากนั้นก็ตามลงไปทาบทับปรนเปรอสวาทให้กับม่ายสาววัยสามสิบหกอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
++++++++++++++++++
ราวหกโมงเย็นเศษรถเก๋งสีดำมันวาวยังคงขับฝ่าสายฝนในขณะที่ฝนยังคงตกลงมาอย่างไม่มีที่ท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ บรรยากาศยามเย็นแต่ด้วยรอบข้างของสองฝากฝั่งถนนเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ และโอบล้อมด้วยภูเขาตลอดแนวยาวจึงยิ่งทำให้มืดครึ้มเหมือนกับว่าเป็นเวลาสักสองทุ่ม
“ฝนก็ตกลงมาไม่หยุด คุณพ่อคุณแม่เราจะทำยังไงกันดีคะพลอยยังหาที่พักไม่ได้เลย”
“เอายังไงดีล่ะ แม่ว่าไม่ต้องเลือกมากนักหรอกเอาเป็นว่าที่ไหนมีห้องพักว่างก็พักไปก่อนเราเดินทางมาอย่างไม่ได้วางแผนมันก็ต้องทนลำบากกันหน่อยล่ะ”
“นี่ก็มืดแล้วด้วยเอาแบบที่แม่เขาว่านั่นแหละพลอย” คนเป็นพ่อกล่าว
“ความผิดของพี่พลอยคนเดียว” สาวน้อยตัวกลมกอดอกนั่งหน้าเชิดอยู่เบาะข้างคนขับ
“ให้มันน้อยๆ หน่อยยัยกระท้อน ก็ใครล่ะร้องไห้บอกว่าสงกรานต์นี้ไม่มีใครพาหนูไปเที่ยวเลย อยากไปเที่ยวจนคุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจมากาญจนบุรีโดยไม่ได้วางแผน”
“แต่ตอนนี้หนูหิว แล้วก็ง่วงด้วยพี่พลอยรีบหาที่พักเข้าสิคะ” สาวน้อยขาวีนเริ่มโวยวาย
“อะไรยัยกระท้อนเธอยังหิวได้อีกเหรอ ตอนเข้าไปในโรงถ่ายละครพระนเรศวร เห็นเธอแวะซื้อขนมแทบทุกร้านในตลาดน้ำโบราณ”
“มันย่อยหมดแล้วค่ะ แค่หนูขึ้นไปบนเรืออาหารก็ย่อยหมดแล้ว” สาวน้อยหมายถึงเรือของพระยาจีนจันตุในเรื่องพระนเรศวรภาคสามที่จัดแสดงอยู่ในโซนเดียวกับตลาดน้ำโบราณซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของโรงละครจุดหนึ่ง
“หมดไปเกือบห้าสิบเบี้ยลูกคนหรือลูกหมูกินเข้าไปได้ยังไง”
ตอนเข้าไปเที่ยวชมโรงละครมีส่วนของตลาดน้ำที่จัดเอาไว้ มีขนมไทยโบราณอาหารว่างหลากหลายชนิด โดยการให้นำเงินไปแลกเป็นหอยเบี้ยเพื่อจับจ่ายซื้อสินค้า โดยหนึ่งเบี้ยมีค่าเท่ากับสิบบาท ที่แน่ๆพลอยญาวีแน่ใจว่ากระท้อนใช้เงินซื้อขนมและของกินในตลาดน้ำโบราณนั้นไปไม่ต่ำกว่าห้าสิบเบี้ย
“หนูยังอยากกลับไปที่นั่นอีก ขากลับเราแวะไปอีกนะพี่พลอย นะนะ” กระท้อนทำตาปริบๆใส่พี่สาว เป็นวิธีการออดอ้อนของเธอ
“ไปแล้วจะไปอีกทำไมล่ะ ติดใจอะไรบอกพี่พลอยมาสิถ้าเหตุผลดีพี่อาจจะแวะให้ขากลับก็ได้”
“กระท้อนติดใจสาคูใส้ปู อร้อยอร่อยที่อื่นไม่มีขาย ขนมปังหน้าหมูก็ชอบค่ะ แล้วก็ไอศกรีมโบราณ ลูกชุบ ขนมสอดไส้ ชอบหมดเลย”
“พอๆ แล้วยัยกระท้อนอีกหน่อยเราคงตัวกลมเป็นกระท้อนสมชื่อ” คนเป็นพ่อแซว
“นั่นนะสิคะ คุณพ่อคุณแม่ยัยกระท้อนกินคนเดียวเท่ากับผู้ใหญ่ห้าคนกินเลย อีกหน่อยคงต้องกลิ้งไป”
“อย่ามาว่าหนูนะ เดี๋ยวโตขึ้นหนูจะสวยหนูจะผอมให้พี่พลอยดู”
“แล้วพี่จะคอยดูเรา”
ครอบครัวสุขสันต์ภายในรถเก๋งแอร์เย็นฉ่ำกำลังคุยกันอย่างสนุกสนานแม้ว่ายังหาที่พักไม่ได้ก็ตาม พลอยญาวีเบรครถอย่างกระทันหัน
“เป็นอะไรไปล่ะพลอยเบรครถทำไมลูก”
พลอยญาวีถอยรถไปประมาณสองร้อยเมตร หน้าปากทางเข้ามีป้ายขนาดใหญ่ชื่อ โรงแรมนาคียา
“พลอยนึกอะไรออกแล้วค่ะ” พลอยญาวีหยิบกระเป๋าถือใบเก๋ขึ้นมาจากนั้นก็หยิบนามบัตรใบหนึ่ง
“คุณพ่อคุณแม่คะเราลองเข้าไปติดต่อที่โรงแรมนี้กันดีกว่าค่ะ มีคนเขาแนะนำพลอยมา”
“แต่ดูท่าทางเหมือนไม่ค่อยมีรถผ่านเข้าไปเลยนะลูก” คุณยุวดีแย้งเพราะดูสองข้างทางของเต็มไปด้วยหญ้าขึ้นรกชัฏ
“ถ้าโรงแรมสภาพไม่ดีเราก็ถอยรถกลับออกมาก็ได้นี่คะ”
“จริงของลูกนะ ลองเข้าไปดูก็ไม่เสียหายอะไรนี่” คุณสุเทพกล่าวเสริม
“โรงแรมผีสิงรึเปล่านะ” กระท้อนเสริมบ้างกลัวจะไม่มีส่วนร่วม
“ปากดีไปเถอะยัยกระท้อน เธอจะโดนผีหลอกคนแรกเลย”
“นี่หยุดทั้งพี่ทั้งน้องเลย มืดค่ำแบบนี้ใครเขาให้พูดเรื่องผีสางกัน”
เมื่อขับรถเข้าซอยมาเกือบสิบกิโล แม้มีป้ายบอกทางมาตลอดแต่กลับไม่มีรถวิ่งสวนเข้าออกเหมือนกับว่าไม่ค่อยมีใครเข้ามาพัก
“พลอยแม่ว่ามันยังไงไม่รู้นะบรรยากาศแปลกๆ โรงแรมอะไรกันไม่มีรถขับเข้าขับออกบ้างเลย”
“จริงด้วยค่ะแม่” พลอยญาวีกำลังถอดใจไม่อยากจะขับรถเข้าไปต่อกลัวจะเสียน้ำมันฟรี
“เดี๋ยวลูก พ่อเห็นแสงไฟข้างหน้าใช่โรงแรมรึเปล่า”
“จริงด้วยค่ะพ่อ ถ้าอย่างนั้นเข้าไปดูสักหน่อยก็แล้วกันนะคะ” พลอยญาวีขับรถต่อเข้าไปอีกกิโลเมตรเศษก็พบโรงแรมกลางป่าในสภาพใหม่มากเหมือนกับว่ายังไม่เคยเปิดให้บริการด้วยซ้ำไป ด้านหน้าโรงแรมมีรถจอดอยู่เพียงสามคันเท่านั้น
“โรงแรมเขาก็ใหม่ดีนะลูก ถ้ายังไงลองไปถามดูน่าจะมีห้องว่างอยู่บ้าง”
“จะดีหรือคะคุณ ทำไมคนมาพักน้อยจังดูจากรถที่จอดแล้วน่าจะมีคนอยู่แค่สองสามห้อง โรงแรมออกจะใหญ่โต”
“ว่าแต่ใครแนะนำลูกมาพักที่นี่เหรอพลอย”
“เอ่อเพื่อนทีทำงานค่ะคุณพ่อ” พลอยไม่รู้จะตอบว่าอย่างไรดีเมื่อนึกถึงวาโยผู้ชายที่พบที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว
“เอาอย่างนี้ดีกว่าเราลองเข้าไปดูภายในโรงแรมถ้าไม่น่าพักยังไงเราก็กลับออกมาดีไหมคะ”
พลอยเสนอไม่ใช่เธออยากจะพักที่นี่แต่ทว่าจะให้ออกไปตระเวรหาที่พักอีกก็ไม่รู้จะมีหรือเปล่า
โรงแรมสวยสไตล์โรมันกลางป่าพลอยญาวีและครอบครัวค่อยๆเดินเข้าไปและพบว่าภายในของโรงแรมไม่ว่าจะเป็นลอบบี้หรือตัวอาคารด้านในดูสวยงามโอ่โถงไม่ต่างจากโรงแรมระดับห้าดาว ผนังประดับด้วยโคมไฟแชนเดอเลียร์ดูหรูหราไม่เบา
“สวัสดีค่ะ”พนักงานสาวในชุดของพนักงานโรงแรมยืนส่งยิ้มต้อนรับอยู่ที่หน้าลอบบี้พร้อมกับพนมมือไหว้อย่างสวยงาม
“สวัสดีค่ะ ดิฉันและครอบครัวต้องการห้องพักไม่ทราบว่ามีห้องว่างบ้างรึเปล่าคะ พอดีเราไม่ได้จองเอาไว้ล่วงหน้าค่ะ”
“เรายังมีห้องว่างอยู่ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณต้องการกี่ห้องคะ”
“สองห้องค่ะขอแบบห้องแสตนดาร์ดทั้งสองห้อง เป็นห้องเตียงเดี่ยวหนึ่งห้องและเตียงคู่หนึ่งห้อง” พลอยญาวีเลือกห้องแบบธรรมดาเป็นเตียงเดี่ยวสำหรับพ่อและแม่ ส่วนห้องของเธอกับน้องสาวเป็นเตียงคู่เพราะสาวน้อยกระท้อนนอนดิ้นมาก
“ได้ค่ะ” พนักงานสาวรับคำและรีบเดินไปบันทึกบางอย่างในคอมพิวเตอร์ก่อนจะนำคีย์การ์ดมาส่งให้พลอยญาวี
“ขอบคุณค่ะ”
“เดี๋ยวสัมภาระของคุณเราจะให้พนักงานช่วยมายกขึ้นไปให้ค่ะ” พนักงานต้อนรับสาวกดโทรศัพท์เรียกพนักงานยกกระเป๋าให้มาพาแขกไปที่ห้องพัก
ไม่นานนักพนักงานยกกระเป๋าในชุดเสื้อสูทสีเขียวเข้มกับกางเกงสแลคสีดำแต่งตัวเรียบร้อยก็เดินเข้ามาก่อนจะช่วยยกกระเป๋าเดินทางทั้งหมดของลูกค้าและนำลูกค้าไปที่ห้องพัก
“โรงแรมเงียบจัง ทำไมเทศกาลแบบนี้ถึงมีคนมาพักน้อยนักล่ะคะ” พลอยญาวีนึกสงสัยจึงถามออกไป
“โรงแรมของเราเพิ่งเปิดใหม่ลูกค้าจึงยังไม่ทราบก็เลยมีคนมาพักน้อยครับ”
“อย่างนั้นเอง”
“แต่คุณไม่ต้องห่วงนะครับโรงแรมของเราสะดวกสบายมีบริการทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นห้องฟิตเนส ซาวน์น่า สระว่ายน้ำ หรืออินเตอร์เน็ตความเร็วสูง”
“ดีจังเลยค่ะ ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อยที่เห็นว่าไม่มีคนเข้ามาพักก็เป็นเพราะเพิ่งเปิดใหม่นั่นเอง”
“เป็นไงหายกลัวแล้วใช่ไหมแม่”คุณสุเทพหันไปแซวภรรยา
แต่คุณยุวดีมองรอบๆระหว่างทางที่เดินขึ้นมาชั้นสองดูเหมือนที่นี่ยังไม่เคยเปิดให้บริการมากกว่าด้วยซ้ำไปเธอรู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างไม่ชอบมาพากล
“ถึงแล้วครับห้องของพวกคุณ ถ้ามีอะไรก็กดเก้าโทรลงไปแจ้งนะคะ”
“ขอบคุณมากนะคะ” พลอยญาวีส่งธนบัตรใบละหนึ่งร้อยบาทให้กับพนักงานยกกระเป๋าตามธรรมเนียม
“ไม่เป็นไรครับโรงแรมของเรามีกฎว่าห้ามรับทริปจากแขก” จากนั้นเขาก็รีบขอตัวกลับลงไป
“แปลกจริงนะคะคุณพ่อคุณแม่ พนักงานโรงแรมที่ไม่รับทริปพลอยพึ่งจะเคยเห็นครั้งแรก”'
“ช่างเถอะลูกอย่าไปสนใจเลย เขาไม่รับก็ช่างเขาไม่ดีเหรอไม่ต้องเสียเงินเราเองก็ใช่ว่าจะเป็นพวกเศรษฐีพวกชอบทริปเสียที่ไหน”
“จริงด้วยค่ะพ่อเอาเป็นว่าเราเข้าไปดูห้องกันเถอะ”
ภายในห้องใหม่มากเหมือนกับว่ายังไม่เคยเปิดใช้งานมาก่อนการตกแต่งดูคลาสสิกประกอบด้วยเตียงขนาดใหญ่ โซฟาสำหรับนั่งพักผ่อน โต๊ะเครื่องแป้ง ทีวีจอแอลซีดีขนาดสามสิบสองนิ้ว ทุกอย่างภายในห้องถูกจัดอย่างลงตัวห้องอาบน้ำตกแต่งอย่างหรูหรา พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีกระจกกั้นระหว่างห้องอาบน้ำฝักบัวและอ่างอาบน้ำ
“ขนาดห้องธรรมดายังหรูหราขนาดนี้ แต่แปลกนะคะราคากับถูกแสนถูก”
“นั่นนะสิแม่ก็ว่าแปลก”
“พลอยแม่ว่าน้องง่วงแล้วนะดูสิยืนหลับในแล้วนั่น พาน้องไปนอนเถอะ”ซึ่งห้องของพลอยอยู่ฝั่งตรงกันข้าม
“ค่ะ ถ้าอย่างนั้นพลอยพากระท้อนไปนอนก่อนนะคะ”
“ถ้าอาบน้ำแล้วน้องหิวข้าว พลอยช่วยสั่งข้าวขึ้นมาให้น้องทานด้วยนะลูกแต่พอกับแม่ยังอิ่มอยู่อยากอาบน้ำและนอนมากกว่า” คนเป็นพ่อสั่ง
“ได้ค่ะแล้วเจอกันพรุ่งนี้เช้าค่ะ ไปเถอะกระท้อน” พลอยญาวีดึงแขนน้องสาวที่ยืนหลับอยู่ให้ตามไปด้วย
+++++++++++++
ร่างสูงสง่ายืนเอามือไพล่หลังและถอนใจราวกับคิดบางอย่างไม่ตก อยู่ภายในห้องรูมสวีท
“นายครับ พวกนั้นมากันแล้วนายจะทำยังไงต่อครับ”
“ทำตามแผนที่วางไว้ เราลงทุนลงแรงไปมากกว่าเหยื่อจะมาติดกับดักงานนี้จะต้องไม่พลาด
“ครับนาย”
+++++++++++++
กรุงเทพ ฯลฯ
หญิงสาวร่างบางผิวขาวหยวกใช้ริมฝีปากบางป้อนส้มเขียวหวานกลีบใหญ่ให้กับชายหนุ่มมาดเข้มอย่างอ้อยอิ่ง“หวานไหมคะนานแล้วนะที่คุณรันไม่ได้มาหาส้มแบบนี้เลย”
“หวานสิครับ แต่ส้มที่คุณป้อนผมคงไม่หวานเท่ากับตัวของส้มที่นั่งอยู่บนตักผมในตอนนี้หรอกครับ”
“ปากหวานจังนะคะ คงเป็นเพราะแม่แฟนคนสวยของคุณไม่อยู่ล่ะสิท่า”
“ไปพูดถึงเขาทำไมกันล่ะครับ มาพูดเรื่องของเรากันดีกว่า เอ..หรือว่าไม่ต้องพูดส้มก็เข้าใจแล้วว่าผมต้องการอะไร” รันลูบฝ่ามือไปทั่วหลังขาวนวลเนียนที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันกาย
“เรื่องไหนล่ะคะเรื่องของส้ม หรือเรื่องข่าว” หญิงสาวค้อนใส่อย่างคนมีจริต
“คุณนี่ทั้งสวย ทั้งฉลาดรู้ใจผมไปเสียหมด ”
“ขนาดรู้ใจคุณแบบนี้ ก็ยังไม่เห็นคุณรันยอมเลิกกับแม่แฟนคนสวยของคุณสักทีไม่รู้แม่คนนั้นมีดีอะไร”
ส้มหรือวินตาเป็นช่างแต่งหน้าให้กับดาราดังหลายคน ด้วยความที่มีฝีมือในการแต่งหน้าหาตัวจับยากของเธอทำให้ได้มีโอกาสใกล้ชิดดาราดังหลายๆท่าน บางครั้งทำให้เธอมีข่าววงในเด็ดๆ หรือข่าวลับของเหล่าคนดังมาบอกแก่รันซึ่งการที่รู้ข่าวเร็วและข่าวนั้นมีมูลความจริงทำให้หลายปีมานี้รันก้าวหน้าขึ้นมากในสายงานของเขา เรียกว่าเลื่อนมาจากนักข่าวปลายแถวเป็นนักข่าวสายบันเทิงระดับต้นๆ ก็ว่าได้
“ไม่เอาน่า อย่างอนเลยนะคนดีบอกผมให้ชื่นใจหน่อยสิครับว่าวันนี้มีอะไรใหม่ๆมาเล่าให้ผมฟังบ้าง”
สาวร่างบางลุกขึ้นจากตักของรันในทันที “เห็นไหมคะที่คุณอุตสาห์มาหาส้มถึงคอนโดก็เพราะอยากได้ข่าว ไม่เคยคิดถึงส้มเหมือนปากพูดสักหน่อย นี่แหละนะผู้ชาย”
วินตาทำหน้างอ และยืนกอดอกเพราะรู้ว่าเขาจะต้องง้อเธอ
“คนดีของผมอย่างอนเลยนะครับ ผมคิดถึงส้มมากรู้ไหมเรามาหาความสุขกันดีกว่า” รันดึงแม่สาวร่างบางที่เขาไม่เคยพิศวาสเธออย่างแท้จริงลงไปที่เตียงนอนนุ่ม จากนั้นก็ตามลงไปทาบทับปรนเปรอสวาทให้กับม่ายสาววัยสามสิบหกอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
++++++++++++++++++
ราวหกโมงเย็นเศษรถเก๋งสีดำมันวาวยังคงขับฝ่าสายฝนในขณะที่ฝนยังคงตกลงมาอย่างไม่มีที่ท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ บรรยากาศยามเย็นแต่ด้วยรอบข้างของสองฝากฝั่งถนนเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ และโอบล้อมด้วยภูเขาตลอดแนวยาวจึงยิ่งทำให้มืดครึ้มเหมือนกับว่าเป็นเวลาสักสองทุ่ม
“ฝนก็ตกลงมาไม่หยุด คุณพ่อคุณแม่เราจะทำยังไงกันดีคะพลอยยังหาที่พักไม่ได้เลย”
“เอายังไงดีล่ะ แม่ว่าไม่ต้องเลือกมากนักหรอกเอาเป็นว่าที่ไหนมีห้องพักว่างก็พักไปก่อนเราเดินทางมาอย่างไม่ได้วางแผนมันก็ต้องทนลำบากกันหน่อยล่ะ”
“นี่ก็มืดแล้วด้วยเอาแบบที่แม่เขาว่านั่นแหละพลอย” คนเป็นพ่อกล่าว
“ความผิดของพี่พลอยคนเดียว” สาวน้อยตัวกลมกอดอกนั่งหน้าเชิดอยู่เบาะข้างคนขับ
“ให้มันน้อยๆ หน่อยยัยกระท้อน ก็ใครล่ะร้องไห้บอกว่าสงกรานต์นี้ไม่มีใครพาหนูไปเที่ยวเลย อยากไปเที่ยวจนคุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจมากาญจนบุรีโดยไม่ได้วางแผน”
“แต่ตอนนี้หนูหิว แล้วก็ง่วงด้วยพี่พลอยรีบหาที่พักเข้าสิคะ” สาวน้อยขาวีนเริ่มโวยวาย
“อะไรยัยกระท้อนเธอยังหิวได้อีกเหรอ ตอนเข้าไปในโรงถ่ายละครพระนเรศวร เห็นเธอแวะซื้อขนมแทบทุกร้านในตลาดน้ำโบราณ”
“มันย่อยหมดแล้วค่ะ แค่หนูขึ้นไปบนเรืออาหารก็ย่อยหมดแล้ว” สาวน้อยหมายถึงเรือของพระยาจีนจันตุในเรื่องพระนเรศวรภาคสามที่จัดแสดงอยู่ในโซนเดียวกับตลาดน้ำโบราณซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของโรงละครจุดหนึ่ง
“หมดไปเกือบห้าสิบเบี้ยลูกคนหรือลูกหมูกินเข้าไปได้ยังไง”
ตอนเข้าไปเที่ยวชมโรงละครมีส่วนของตลาดน้ำที่จัดเอาไว้ มีขนมไทยโบราณอาหารว่างหลากหลายชนิด โดยการให้นำเงินไปแลกเป็นหอยเบี้ยเพื่อจับจ่ายซื้อสินค้า โดยหนึ่งเบี้ยมีค่าเท่ากับสิบบาท ที่แน่ๆพลอยญาวีแน่ใจว่ากระท้อนใช้เงินซื้อขนมและของกินในตลาดน้ำโบราณนั้นไปไม่ต่ำกว่าห้าสิบเบี้ย
“หนูยังอยากกลับไปที่นั่นอีก ขากลับเราแวะไปอีกนะพี่พลอย นะนะ” กระท้อนทำตาปริบๆใส่พี่สาว เป็นวิธีการออดอ้อนของเธอ
“ไปแล้วจะไปอีกทำไมล่ะ ติดใจอะไรบอกพี่พลอยมาสิถ้าเหตุผลดีพี่อาจจะแวะให้ขากลับก็ได้”
“กระท้อนติดใจสาคูใส้ปู อร้อยอร่อยที่อื่นไม่มีขาย ขนมปังหน้าหมูก็ชอบค่ะ แล้วก็ไอศกรีมโบราณ ลูกชุบ ขนมสอดไส้ ชอบหมดเลย”
“พอๆ แล้วยัยกระท้อนอีกหน่อยเราคงตัวกลมเป็นกระท้อนสมชื่อ” คนเป็นพ่อแซว
“นั่นนะสิคะ คุณพ่อคุณแม่ยัยกระท้อนกินคนเดียวเท่ากับผู้ใหญ่ห้าคนกินเลย อีกหน่อยคงต้องกลิ้งไป”
“อย่ามาว่าหนูนะ เดี๋ยวโตขึ้นหนูจะสวยหนูจะผอมให้พี่พลอยดู”
“แล้วพี่จะคอยดูเรา”
ครอบครัวสุขสันต์ภายในรถเก๋งแอร์เย็นฉ่ำกำลังคุยกันอย่างสนุกสนานแม้ว่ายังหาที่พักไม่ได้ก็ตาม พลอยญาวีเบรครถอย่างกระทันหัน
“เป็นอะไรไปล่ะพลอยเบรครถทำไมลูก”
พลอยญาวีถอยรถไปประมาณสองร้อยเมตร หน้าปากทางเข้ามีป้ายขนาดใหญ่ชื่อ โรงแรมนาคียา
“พลอยนึกอะไรออกแล้วค่ะ” พลอยญาวีหยิบกระเป๋าถือใบเก๋ขึ้นมาจากนั้นก็หยิบนามบัตรใบหนึ่ง
“คุณพ่อคุณแม่คะเราลองเข้าไปติดต่อที่โรงแรมนี้กันดีกว่าค่ะ มีคนเขาแนะนำพลอยมา”
“แต่ดูท่าทางเหมือนไม่ค่อยมีรถผ่านเข้าไปเลยนะลูก” คุณยุวดีแย้งเพราะดูสองข้างทางของเต็มไปด้วยหญ้าขึ้นรกชัฏ
“ถ้าโรงแรมสภาพไม่ดีเราก็ถอยรถกลับออกมาก็ได้นี่คะ”
“จริงของลูกนะ ลองเข้าไปดูก็ไม่เสียหายอะไรนี่” คุณสุเทพกล่าวเสริม
“โรงแรมผีสิงรึเปล่านะ” กระท้อนเสริมบ้างกลัวจะไม่มีส่วนร่วม
“ปากดีไปเถอะยัยกระท้อน เธอจะโดนผีหลอกคนแรกเลย”
“นี่หยุดทั้งพี่ทั้งน้องเลย มืดค่ำแบบนี้ใครเขาให้พูดเรื่องผีสางกัน”
เมื่อขับรถเข้าซอยมาเกือบสิบกิโล แม้มีป้ายบอกทางมาตลอดแต่กลับไม่มีรถวิ่งสวนเข้าออกเหมือนกับว่าไม่ค่อยมีใครเข้ามาพัก
“พลอยแม่ว่ามันยังไงไม่รู้นะบรรยากาศแปลกๆ โรงแรมอะไรกันไม่มีรถขับเข้าขับออกบ้างเลย”
“จริงด้วยค่ะแม่” พลอยญาวีกำลังถอดใจไม่อยากจะขับรถเข้าไปต่อกลัวจะเสียน้ำมันฟรี
“เดี๋ยวลูก พ่อเห็นแสงไฟข้างหน้าใช่โรงแรมรึเปล่า”
“จริงด้วยค่ะพ่อ ถ้าอย่างนั้นเข้าไปดูสักหน่อยก็แล้วกันนะคะ” พลอยญาวีขับรถต่อเข้าไปอีกกิโลเมตรเศษก็พบโรงแรมกลางป่าในสภาพใหม่มากเหมือนกับว่ายังไม่เคยเปิดให้บริการด้วยซ้ำไป ด้านหน้าโรงแรมมีรถจอดอยู่เพียงสามคันเท่านั้น
“โรงแรมเขาก็ใหม่ดีนะลูก ถ้ายังไงลองไปถามดูน่าจะมีห้องว่างอยู่บ้าง”
“จะดีหรือคะคุณ ทำไมคนมาพักน้อยจังดูจากรถที่จอดแล้วน่าจะมีคนอยู่แค่สองสามห้อง โรงแรมออกจะใหญ่โต”
“ว่าแต่ใครแนะนำลูกมาพักที่นี่เหรอพลอย”
“เอ่อเพื่อนทีทำงานค่ะคุณพ่อ” พลอยไม่รู้จะตอบว่าอย่างไรดีเมื่อนึกถึงวาโยผู้ชายที่พบที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว
“เอาอย่างนี้ดีกว่าเราลองเข้าไปดูภายในโรงแรมถ้าไม่น่าพักยังไงเราก็กลับออกมาดีไหมคะ”
พลอยเสนอไม่ใช่เธออยากจะพักที่นี่แต่ทว่าจะให้ออกไปตระเวรหาที่พักอีกก็ไม่รู้จะมีหรือเปล่า
โรงแรมสวยสไตล์โรมันกลางป่าพลอยญาวีและครอบครัวค่อยๆเดินเข้าไปและพบว่าภายในของโรงแรมไม่ว่าจะเป็นลอบบี้หรือตัวอาคารด้านในดูสวยงามโอ่โถงไม่ต่างจากโรงแรมระดับห้าดาว ผนังประดับด้วยโคมไฟแชนเดอเลียร์ดูหรูหราไม่เบา
“สวัสดีค่ะ”พนักงานสาวในชุดของพนักงานโรงแรมยืนส่งยิ้มต้อนรับอยู่ที่หน้าลอบบี้พร้อมกับพนมมือไหว้อย่างสวยงาม
“สวัสดีค่ะ ดิฉันและครอบครัวต้องการห้องพักไม่ทราบว่ามีห้องว่างบ้างรึเปล่าคะ พอดีเราไม่ได้จองเอาไว้ล่วงหน้าค่ะ”
“เรายังมีห้องว่างอยู่ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณต้องการกี่ห้องคะ”
“สองห้องค่ะขอแบบห้องแสตนดาร์ดทั้งสองห้อง เป็นห้องเตียงเดี่ยวหนึ่งห้องและเตียงคู่หนึ่งห้อง” พลอยญาวีเลือกห้องแบบธรรมดาเป็นเตียงเดี่ยวสำหรับพ่อและแม่ ส่วนห้องของเธอกับน้องสาวเป็นเตียงคู่เพราะสาวน้อยกระท้อนนอนดิ้นมาก
“ได้ค่ะ” พนักงานสาวรับคำและรีบเดินไปบันทึกบางอย่างในคอมพิวเตอร์ก่อนจะนำคีย์การ์ดมาส่งให้พลอยญาวี
“ขอบคุณค่ะ”
“เดี๋ยวสัมภาระของคุณเราจะให้พนักงานช่วยมายกขึ้นไปให้ค่ะ” พนักงานต้อนรับสาวกดโทรศัพท์เรียกพนักงานยกกระเป๋าให้มาพาแขกไปที่ห้องพัก
ไม่นานนักพนักงานยกกระเป๋าในชุดเสื้อสูทสีเขียวเข้มกับกางเกงสแลคสีดำแต่งตัวเรียบร้อยก็เดินเข้ามาก่อนจะช่วยยกกระเป๋าเดินทางทั้งหมดของลูกค้าและนำลูกค้าไปที่ห้องพัก
“โรงแรมเงียบจัง ทำไมเทศกาลแบบนี้ถึงมีคนมาพักน้อยนักล่ะคะ” พลอยญาวีนึกสงสัยจึงถามออกไป
“โรงแรมของเราเพิ่งเปิดใหม่ลูกค้าจึงยังไม่ทราบก็เลยมีคนมาพักน้อยครับ”
“อย่างนั้นเอง”
“แต่คุณไม่ต้องห่วงนะครับโรงแรมของเราสะดวกสบายมีบริการทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นห้องฟิตเนส ซาวน์น่า สระว่ายน้ำ หรืออินเตอร์เน็ตความเร็วสูง”
“ดีจังเลยค่ะ ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อยที่เห็นว่าไม่มีคนเข้ามาพักก็เป็นเพราะเพิ่งเปิดใหม่นั่นเอง”
“เป็นไงหายกลัวแล้วใช่ไหมแม่”คุณสุเทพหันไปแซวภรรยา
แต่คุณยุวดีมองรอบๆระหว่างทางที่เดินขึ้นมาชั้นสองดูเหมือนที่นี่ยังไม่เคยเปิดให้บริการมากกว่าด้วยซ้ำไปเธอรู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างไม่ชอบมาพากล
“ถึงแล้วครับห้องของพวกคุณ ถ้ามีอะไรก็กดเก้าโทรลงไปแจ้งนะคะ”
“ขอบคุณมากนะคะ” พลอยญาวีส่งธนบัตรใบละหนึ่งร้อยบาทให้กับพนักงานยกกระเป๋าตามธรรมเนียม
“ไม่เป็นไรครับโรงแรมของเรามีกฎว่าห้ามรับทริปจากแขก” จากนั้นเขาก็รีบขอตัวกลับลงไป
“แปลกจริงนะคะคุณพ่อคุณแม่ พนักงานโรงแรมที่ไม่รับทริปพลอยพึ่งจะเคยเห็นครั้งแรก”'
“ช่างเถอะลูกอย่าไปสนใจเลย เขาไม่รับก็ช่างเขาไม่ดีเหรอไม่ต้องเสียเงินเราเองก็ใช่ว่าจะเป็นพวกเศรษฐีพวกชอบทริปเสียที่ไหน”
“จริงด้วยค่ะพ่อเอาเป็นว่าเราเข้าไปดูห้องกันเถอะ”
ภายในห้องใหม่มากเหมือนกับว่ายังไม่เคยเปิดใช้งานมาก่อนการตกแต่งดูคลาสสิกประกอบด้วยเตียงขนาดใหญ่ โซฟาสำหรับนั่งพักผ่อน โต๊ะเครื่องแป้ง ทีวีจอแอลซีดีขนาดสามสิบสองนิ้ว ทุกอย่างภายในห้องถูกจัดอย่างลงตัวห้องอาบน้ำตกแต่งอย่างหรูหรา พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีกระจกกั้นระหว่างห้องอาบน้ำฝักบัวและอ่างอาบน้ำ
“ขนาดห้องธรรมดายังหรูหราขนาดนี้ แต่แปลกนะคะราคากับถูกแสนถูก”
“นั่นนะสิแม่ก็ว่าแปลก”
“พลอยแม่ว่าน้องง่วงแล้วนะดูสิยืนหลับในแล้วนั่น พาน้องไปนอนเถอะ”ซึ่งห้องของพลอยอยู่ฝั่งตรงกันข้าม
“ค่ะ ถ้าอย่างนั้นพลอยพากระท้อนไปนอนก่อนนะคะ”
“ถ้าอาบน้ำแล้วน้องหิวข้าว พลอยช่วยสั่งข้าวขึ้นมาให้น้องทานด้วยนะลูกแต่พอกับแม่ยังอิ่มอยู่อยากอาบน้ำและนอนมากกว่า” คนเป็นพ่อสั่ง
“ได้ค่ะแล้วเจอกันพรุ่งนี้เช้าค่ะ ไปเถอะกระท้อน” พลอยญาวีดึงแขนน้องสาวที่ยืนหลับอยู่ให้ตามไปด้วย
+++++++++++++
ร่างสูงสง่ายืนเอามือไพล่หลังและถอนใจราวกับคิดบางอย่างไม่ตก อยู่ภายในห้องรูมสวีท
“นายครับ พวกนั้นมากันแล้วนายจะทำยังไงต่อครับ”
“ทำตามแผนที่วางไว้ เราลงทุนลงแรงไปมากกว่าเหยื่อจะมาติดกับดักงานนี้จะต้องไม่พลาด
“ครับนาย”
+++++++++++++
อัปสรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 พ.ค. 2554, 19:34:20 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 พ.ค. 2554, 19:34:36 น.
จำนวนการเข้าชม : 6774
<< ตอนที่1 | ตอนที่ 3 >> |
Auuuu 18 พ.ค. 2554, 19:49:43 น.
เอ... มีเรื่องอะไรกันน้า
เอ... มีเรื่องอะไรกันน้า
อัปสรา 18 พ.ค. 2554, 19:56:43 น.
อยากทราบว่ามีเรื่องอะไรก็ต้องตามอ่านตอนต่อไปนะคะคุณ Auuu
อยากทราบว่ามีเรื่องอะไรก็ต้องตามอ่านตอนต่อไปนะคะคุณ Auuu
ann 18 พ.ค. 2554, 20:02:02 น.
ใครคือพระเอก หรือจะมีสองคู่
ใครคือพระเอก หรือจะมีสองคู่
Gingfara 18 พ.ค. 2554, 20:10:03 น.
อ่าาาาา อยากให้คนนั้นเป็นพระเอก แต่เอ เดาถูกมั้ยนะ
อ่าาาาา อยากให้คนนั้นเป็นพระเอก แต่เอ เดาถูกมั้ยนะ
อัปสรา 18 พ.ค. 2554, 20:19:25 น.
สวัสดีค่ะคุณ ann คุณ Gingarra คนนั้นของเราเป็นคนเดียวกันไหมเอ่ย
อิอิ
สวัสดีค่ะคุณ ann คุณ Gingarra คนนั้นของเราเป็นคนเดียวกันไหมเอ่ย
อิอิ
lovemuay 18 พ.ค. 2554, 20:34:26 น.
น่าสนุกดีนะคะ มาต่อเร็วๆนะค้าา
น่าสนุกดีนะคะ มาต่อเร็วๆนะค้าา
SaiParn 18 พ.ค. 2554, 21:08:13 น.
อ่า..ยังงัยหนอ
อ่า..ยังงัยหนอ
ida 18 พ.ค. 2554, 23:49:11 น.
ยังไงเนี่ย ... ใครมีแผนกับพี่พลอยของกระท้อนเปรี้ยวเฮ้ย......กระท้อนหวานอ่ะ
ยังไงเนี่ย ... ใครมีแผนกับพี่พลอยของกระท้อนเปรี้ยวเฮ้ย......กระท้อนหวานอ่ะ
ปูสีน้ำเงิน 19 พ.ค. 2554, 00:07:49 น.
แหม รู้สึกว่าพระเอกเราจะเจ้าแผนการยังไงก็ไม่รู้
แหม รู้สึกว่าพระเอกเราจะเจ้าแผนการยังไงก็ไม่รู้
kaero 19 พ.ค. 2554, 10:26:58 น.
ดีใจอย่างแรง ได้อ่านนิยายคุณอัปสราอีกแย้ว หายไปนานเลยนะเนี่ย คิดถึงนะคะ
ดีใจอย่างแรง ได้อ่านนิยายคุณอัปสราอีกแย้ว หายไปนานเลยนะเนี่ย คิดถึงนะคะ
ศศิริษา 19 พ.ค. 2554, 11:18:30 น.
ตื่นเต้นจัง
ตื่นเต้นจัง
อัปสรา 19 พ.ค. 2554, 12:26:48 น.
ขอบคุณทุกท่านนะคะที่เข้ามาเม้นต์ ถึงไม่เม้นต์แค่เข้ามาอ่านผู้เขียนก็ดีใจมากๆค่ะ
ขอบคุณทุกท่านนะคะที่เข้ามาเม้นต์ ถึงไม่เม้นต์แค่เข้ามาอ่านผู้เขียนก็ดีใจมากๆค่ะ
pattisa 19 พ.ค. 2554, 20:57:05 น.
i think it should be tip instead of trip naka ;)
i think it should be tip instead of trip naka ;)
พลับพลึงสีชมพู 14 ส.ค. 2554, 17:37:20 น.
ลึกลับแอบกลัวเป็นเรื่องผีอะค่ะ
ลึกลับแอบกลัวเป็นเรื่องผีอะค่ะ