พระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว # จุฬามณี (ลิขสิทธิ์ สนพ.มายดรีม)
เรื่องย่อ พระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว

เป็นเรื่องราว ของ มาลี สาวน้อยวัย 20 ปี ลูกกำพร้าพ่อซึ่งเสียชีวิตเพราะโรคมะเร็ง มาลี กับแม่และน้องชาย มารุต อาศัอยู่กับญาติห่าง ๆ ข้างพ่อ ซึ่งทำรีสอร์ตและการท่องเที่ยงท้องถิ่นอยู่ที่อุ้มผาง..

วันหนึ่ง กลยุทธและคณะไปเที่ยวล่องแก่งน้ำตกทีลอซู แล้ว เขาชอบมาลีจึงสานความสัมพันธ์ ส่วนมาลีนั้น เจอลูกทัวร์จีบจนชาชิน แต่กลยุทธก็ทำให้มาลีหวั่นใจอยู่ไม่น้อย..

หลังจากคณะของกลยุทธกลับไป..ทางป้า ก็บีบบังคับให้มาลีไปเรียนต่อกรุงเทพฯ พักอยู่กับนันทาลูกสาว เพราะว่าต้องการให้อนันต์ลูกชายของตัวเองแต่งงานกับคนที่รวยกว่า..

มาลีมาอยู่กรุงเทพฯ โดยที่ชัชชัย เพื่อนของนันทา ซึ่งเคยไปหาข้อมูลเขียนหนังสือมารับที่แม่สอด(ชัชชัยอ้างว่ามาธุระแถวนั้นพอดี)..มาลีกับชัชชัยนั้นเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมา เพราะตอนที่ชัชชัยมาอยู่อุ้มผางเพื่อหาข้อมูลเขียนสารคดี ตามคำแนะนำของ นันทา (ชัชชัยเป็นเพื่อนกับนันทา) มาลีแกล้งชัชชัยเพราะว่าไม่ชอบผู้ชายไว้ผมยาวกับปากไม่ค่อยดี..

ที่บ้านทาวเฮ้าส์ของนันทานั้นอยู่หมู่บ้านเดียวกับกลยุทธที่มีน้องสาวชื่อกุลกัญญา และช่วงที่ยังไม่ได้เข้าเรียน ต่อที่รามคำแหงมาลีก็ได้คำแนะนำจากศรีวรรณเพื่อนข้างบ้านของนันทาให้ให้ไปทำงานฆ่าเวลาเป็นแม่บ้านบนตึกสูงกลางเมือง มาลีที่อยู่กับนันทาแบบคนใช้ (นันทากดไว้เพราะมาลีมาด้วยทุนของแม่) ที่คิดเบื่อบ้านจึงไปทำงานตามคำแนะนำของศรีวรรณ

และบนตึกสูงนั้น มาลีก็ได้รู้ว่าเธอทำงานในตำแหน่งแม่บ้านซึ่งมีกลยุทธทำงานที่นั่นด้วย และมาลีก็ได้รู้จักสังคมรอบ ๆ ตัวของกลยุทธมากขึ้น มาลีรู้ว่ากลยุทธเป็นที่หมายปรองของรมมณีย์ลูกสาวของเจ้าของประธาน
บริษัทฯ

กลยุทธนั้นอึดอัดกับความรักที่รมณีย์มีให้ เพราะเขาทนกับปากของเพื่อนร่วมงานไม่ได้ เขาสานความสัมพันธ์กับมาลีมากขึ้น จนกระทั่งรมณีย์ที่เป็นเพื่อนกับชัชชัย ต้องดึงชัชชัยมาช่วยทำให้มาลีกับกลยุทธเข้าใจผิดกัน...

ชัชชัยนั้นชอบมาลีเป็นอย่างมาก เขาพยายามเอาอกเอาใจมาลีสารพัด แต่มาลีคิดว่า ชัชชัยนั้นเป็นคู่รักของนันทา ทำให้มาลีไม่เปิดใจให้ชัยชัย..

และมาลีจะเลือกใครระหว่างกลยุทธกับชัชชัย..

Tags: รักสามเส้า เราสามคน

ตอน: 43.1“ทำไมคุณไม่ตัดใจจากผมไป”

43.

แสงสุดท้ายของวันกำลังจะลาลับไปทางด้านหลังเตียงผ้าใบริมทะเล กลยุทธเงยหน้าจากกระดาษเอสี่ซึ่งมีเนื้อหาของ นวนิยายเรื่องพระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาวที่กุลกัญญาแต่งทิ้งไว้ หากเขาต้องแต่งต่อไปจนจบ เรื่องมันจะลงเอยอย่างไร เมื่อชีวิตจริงมันยังไม่ลงเอยกับใคร เขาก็คงเขียนมันต่อไปไม่ได้

คำปฏิเสธจากมาลี ความเจ็บแปลบที่แล่นเข้ามา บางทีมันก็ทำให้เขาได้สติ

สายตาของคุณวรรณาที่มีให้เขาตลอดมา สายตาของสมศักดิ์ที่มองคุณวรรณา รวมถึงสายตาของสุชินในช่วงหลังที่มอบให้กับคุณอรชุมาคือความอาวรณ์อ้อนขอความเห็นใจ เขาเองกำลังตกที่นั่งเช่นนั้น เช่นเดียวกับคุณรมณีย์ที่เขาพยายามสลัด ทั้งที่ความสัมพันธ์นั้นเลยเถิดถึงขั้นเรียกว่าเป็นผัวเมียกันแล้วก็ไม่ผิดนัก

คุณรมณีย์คงเจ็บช้ำกว่าคุณวรรณาที่แอบรักเขาข้างเดียวร้อยเท่าพันเท่า เมื่อนึกถึงเจ้าหล่อน ความสงสารและเห็นใจก็แล่นกลับเข้ามาหา เขาเป็นคนลังเลอย่างนั้นหรือ เมื่อมาลีปฏิเสธแล้วเขาถึงได้นึกถึงคุณรมณีย์อย่างนั้นหรือ

กลยุทธวางกระดาษสีขาวทั้งปึกไว้บนผ้าใบ ถอดเสื้อกล้ามสีขาวเผยให้เห็นแผงหน้าอกก่อนจะวิ่งตะโกนกระโดดลงทะเล หากต่อไปเขาจะต้องอยู่คนเดียว เขาก็จะต้องหาความสุขให้ได้ กลยุทธดำผุดดำว่ายจนกระทั่งพระอาทิตย์ลาแสง
เขานอนหายใจระรินมองท้องฟ้าที่เริ่มมืดครึ้ม

...ปลายฟ้าแค่หลับตาลงคงพบกัน...
...คิดถึงเพียงเธอ ดวงใจฉันคิดถึงเพียงเธอ...

เขาคลอเพลงที่อยู่ในใจเบาๆ แล้วหลับตา

เพลง ‘ทำไมต้องเธอ’ของพี่เบิร์ด แล่นเข้ามาในความรู้สึก มันตอกย้ำความเหงาความอ้างว้างอีกรอบ

...แต่พอได้เจอะเธอ ก็ดูชีวิตมันผิดเพี้ยนไป ฉันกลายเป็นคนอ่อนแอไม่ชอบเลย เมื่อไหร่ที่อยู่ใกล้เธอ ฉันรู้สึกราวกับเคลิ้มไป ไม่เป็นตัวเองไม่เหมือนเคย แต่พอเธอห่างหายไปคิดจะลืม ลืมไม่ได้เลย ทำไมต้องเธอไม่เข้าใจ...

ทำไมต้องเธอไม่เข้าใจ...

กลยุทธคลอเพลงนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งรู้สึกว่า ไม่ได้มีเขาเพียงคนเดียวที่นอนเล่นอยู่บนชายหาดคลองวาฬ

ชายหนุ่มจึงหยัดกายขึ้น มองไปทางขวา แล้วภาพที่ผู้หญิงในชุดกระโปรงบานลายลูกไม้เผยไหล่ระหง มีผมหยิกยาวสยายให้ลมพัดพลิ้วซึ่งเดินหันหลังให้นั้น ตรึงสายตาเขาไว้เหมือนต้องการกลั่นแกล้งให้เขาบ้าคลั่ง

“คุณรมณีย์”

กลยุทธอุทานเบาๆ แน่นอนว่าเธอไม่ได้ยินเสียงนั้น ร่างระหงนั้นเล็กลีบลงแต่ถึงกระนั้นกลยุทธก็ยังเห็นว่าในมือของเธอนั้นมีขวด ซึ่งท่ายกกระดกเรื่อยๆ แบบนั้นไม่ใช่ยาชูกำลังแน่ กลยุทธยิ้มนิดๆ ที่มุมปาก มันคงเป็นชั้นเชิงของเจ้าหล่อนเหมือนกัน

“คุณรมณีย์ครับ”

เขาร้องเรียกเมื่อเดินก้าวเท้ายาวๆ ไปจนถึงตัวของเจ้าหล่อน รมณีย์หยุดยืนนิ่ง กลยุทธขยับเข้าไปหาจนกระทั่งยืนอยู่เคียงกัน แล้วมือซ้ายของเขาก็ดึงขวดยินโทนิคมายกกระดกลงคอไปอึกใหญ่ รมณีย์เบี่ยงกายเดินลงไปนั่งชันเข่าให้คลื่นซัดน้ำทะเลมาถูกหลังเท้า กลยุทธเดินตามมานั่งลงเคียงกัน ก่อนจะดึงมือของรมณีย์มาโอบเอวของเขาไว้ แต่รมณีย์ขัดขืน

“คุณต้องการผมไม่ใช่เหรอ”

เมื่อได้ยินดังนั้น รมณีย์จ้องหน้าเขาด้วยความรู้สึกผิดหวัง

“ทำไมคุณไม่เดินเข้าไปหาผม ทำไมคุณต้องเดินหันหลังให้ ทำไมคุณต้องมาที่นี่ ทำไมคุณไม่ลืมผม”

พูดจบแล้วกลยุทธก็ยกขวดเทน้ำเมาเข้าปากอีกอึกใหญ่ เมื่อเขาดื่มเพื่อทำให้ใจกล้าหน้าหนาขึ้นมา เธอก็สามารถทำได้ รมณีย์แย่งขวดกลับมาแล้วยกดื่มบ้าง สีหน้านั้นกล้ำกลืนฝืนทนกลืน กลยุทธรีบดึงไว้ รมณีย์จะแย่งคืน แต่เขาก็กระดกมันเข้าปากอีกจนเกือบหมด

“บ้า บ้าจริงๆ บ้าทั้งคุณและฉันนั่นแหละ”

กลยุทธหัวเราะ ก่อนจะดึงมือรมณีย์มาโอบที่เอวเขาอีกรอบ แต่คราวนี้รมณีย์เปลี่ยนเป็นมาทุบที่หน้าอกเขายกใหญ่

“คนใจร้าย คนบ้า คนผีทะเล รู้ไหมทำไมฉันไม่กล้าเดินเข้าไปหาคุณเมื่อกี้นี้ รู้ไหมว่าฉันตามคุณมาทำไม รู้ไหมว่าทำไมฉันต้องเดินหันหลังให้ ทั้งที่ฉันไม่มีวันลืมคุณได้เลย” น้ำเสียงของรมณีย์จริงจัง

กลยุทธเพ่งมองปากอิ่มได้รูปนั่น รมณีย์หันมาจ้องหน้าเขา แล้วทั้งคู่ก็โน้มกายเข้าหากัน บางครั้งภาษากายมันก็มากกว่าหมื่นคำบรรยาย เมื่อถอนริมฝีปากออกมาแล้ว รมณีย์ก็เชิดหน้าขึ้น

“ฉันได้เห็นว่าคุณอยู่ดีมีความสุขฉันก็ดีใจ ฉันได้เห็นคุณแค่นี้ ก็ดีกว่าที่คุณจะวิ่งหนีเพราะฉันตามมาวอแว บางทีฉันก็ยังพอใจที่จะรักคุณต่อไป ทั้งที่คุณไม่คิดรักฉันตอบ”

“ขอเวลาให้ผมบ้างได้ไหม” กลยุทธหายใจติดๆ ขัดๆ ปั่นป่วนในเวิ้งหัวใจเป็นอย่างมาก

“เวลาอะไรคะ เวลาทำใจเรื่องอะไร คุณยังรักมาลีอยู่อย่างนั้นหรือ”

ความน้อยเนื้อต่ำใจแล่นเข้ามา เมื่อรู้ว่าที่เขายังเย็นชากับเธออย่างนี้เป็นเพราะใคร

“ผมกำลังทำใจให้ลืมเขาให้ได้ ผมไม่อยากหลอกคุณ ผมไม่อยากอยู่กับคุณเพราะผลประโยชน์”

เมื่อได้พูดออกไปแล้วเหมือนกับยกภูเขาออกจากอก และนับเป็นครั้งแรกที่เขาได้เพ่งมองดอกฟ้าดอกนี้จนเต็มตา

ภาพต่างๆ ที่คุณรมณีย์ปฏิบัติต่อเขาแล่นเข้ามา เคยมีสักครั้งไหมที่เธอทำให้เขารู้สึกว่า ระหว่างเขากับเธอมีระยะห่างที่มากเกินกว่าเขาจะเอื้อมถึง ที่ผ่านมาเป็นเพราะเขาคิดเองเออเองอยู่เพียงฝ่ายเดียว และยิ่งรมณีย์หลุดประโยคนี้ออกมา เขายิ่งมั่นใจว่า ตลอดเวลานั้น เขาปิดตามองคนที่รักและทุ่มเทให้กับเขาอย่างสุดตัวสุดหัวใจทีเดียว

“ถ้าฉันลาออกจากตำแหน่งผู้บริหาร แล้วไปหาสมัครทำงานกินเงินเดือนคุณจะรักฉันไหม”

“คุณรมณีย์”

“คุณกลัวฉันที่เรื่องฐานะไม่ใช่หรือ ถ้าฉันเป็นคนธรรมดาอย่างมาลีคุณจะรักฉันไหม”

ว่าแล้วน้ำตาของรมณีย์ก็ไหลออกมา กลยุทธไม่ตอบคำถามนั้น เขาลุกขึ้นยืนพลางส่งมือฉุดรมณีย์ให้ลุกขึ้นตาม เมื่อยืนเคียงกัน กลยุทธก็กระดกขวดเหล้าเข้าปากจนหมด

“คุณอยู่คนเดียวได้หรือ”

“ตอนแรกผมคิดว่าผมอยู่คนเดียวได้ แต่เมื่อผมอยู่คนเดียวจริงๆ ผมกลับคิดถึงใครบางคนขึ้นมา บางทีผมก็คิดว่าเธอคนนั้นคือมาลี แต่บางทีมันก็เป็นใบหน้าของคุณ”

รมณีย์หันมาหาใบหน้าได้รูปที่มีหนวดครึ้ม แล้วยิ้มขึ้นมาด้วยประกายตาของคนมีความหวัง อย่างไรเสียความรักที่มอบให้เขาไปมันไม่เปล่าประโยชน์ เขารู้จักและเห็นหน้าเธอมาตั้งหลายปี มันน่าจะมีอิทธิพลต่อหัวใจเขาไม่น้อยไปกว่าคนที่เห็นหน้ากันเพียงสองสามเดือนอย่างมาลีนั่น

“ถ้ารมมี่จะรอให้คุณเห็นเพียงแต่รมมี่คนเดียวล่ะ”

น้ำเสียงนั้นฟังแล้วพร้อมจะยอมเขาทุกอย่าง ยอมแม้ถ้าเขาจะขอเป็นช้างเท้าหน้า ยอมแม้จะถูกคนอื่นครหาว่าหลงผู้ชาย

“ถ้ามันนาน”

“ถ้ามันมีความหวังก็น่ารอไม่ใช่หรือคะ”

“ทำไมคุณไม่ตัดใจจากผมไป”

“เห็นหน้าคุณแล้วทำให้รมมี่กินข้าวได้” เมื่อได้ยินคำตอบกลยุทธหัวเราะเบาๆ

“รมมี่มันคนขี้เกียจ ชอบแต่งตัว ชอบงานสังคม คิดว่ามีเงินแล้วไม่ต้องทำอะไร แต่เมื่อได้พบพนักงานคนหนึ่งในบริษัทที่มีหน้าตาถูกใจ รมมี่มีอารมณ์ไปที่บริษัททุกวัน ตอนแรกรมมี่ก็ละอายที่ต้องแสดงตัวตนออกไปอย่างนั้น แต่เมื่อหัวใจมันเรียกร้องว่ารัก แล้วทำไมเราจะต้องอายใคร ถ้าอายก็อด แต่ถ้าไม่มียางอายก็ไม่ใช่ผู้หญิง ที่ผ่านมาใช่ว่ารมมี่ไม่มียางอาย คุณก็รู้”

“เป็นเพราะฟ้ามันร้องต่างหากละครับ”

“คุณยอมรับไหมว่าวันนั้น เรามีความสุขด้วยกัน แต่ความพอใจของคุณมันก็ไม่ใช่ความรัก ผู้ชายสามารถนอนกับผู้หญิงได้ทั่วไป แต่ผู้หญิงจะนอนได้เฉพาะกับคนที่ตนรักเท่านั้น คุณไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบใดๆ เพราะคุณมั่นใจว่ารมมี่เป็นคนสมัยใหม่”

“บางทีวันนั้นมันมีเรื่องอื่นให้คิดมากกว่า ผมก็เลยยังไม่ทันได้คิดอะไร”

“เมื่อได้สติแบบนี้แล้วละคะ”

เขาเงียบด้วยรู้สึกละอายใจ เป็นผู้ชายทำผิดแล้วไม่รับผิดชอบมันจะเป็นลูกผู้ชายหรือ

“ที่ผ่านมารมมี่พิสูจน์ใจคุณมาหลายครั้งหลายหน ใช่ว่ารมมี่คนนี้จะใช้เพียงความหลงใหลนำหัวใจ คุณมีดีพอที่รมมี่สามารถสาธยายออกไปให้ใครๆ ฟังได้ว่า ทำไมถึงรักคุณ คุณพ่อของรมมี่เป็นคนรักครอบครัว รักปู่ย่าตายาย พี่น้อง คุณเองก็เหมือนกัน คุณคือผู้ชายอบอุ่นคนหนึ่งที่มีหัวใจยิ่งกว่าทองคำ คุณรักพ่อแม่ รักกุลกัญญามากจนยอมตรากตรำทำงานหนัก รมมี่สงสารเห็นใจ บางทีก็อยากให้คุณมีความสุข มีของใช้ดีๆ มีเงินโอทีในวันหยุด มีเวลาอยู่ด้วยกันเป็นการส่วนตัว รมมี่ไม่ได้ขาดสติใช้เงินเพื่อโปรยซื้อหัวใจใคร”

เขานิ่งฟังพลางมองคลื่นทะเลที่ซัดหาฝั่งโครมๆ

“รมมี่พูดหมดแล้ว ขอตัวก่อนแล้วกัน”

ว่าแล้วรมณีย์ก็หมุนจากไปยังห้องพักของรีสอร์ตแห่งเดียวกัน กลยุทธมองตามร่างบอบบางที่เดินโซเซเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์แล้วรู้สึกเห็นใจ ดึงเธอไว้ประมาณไหนถึงจะพอดีกับคำว่า ‘เพื่อน’ เขาสับสนแยกอารมณ์ของตนเองไม่ออก เมื่อจะสูญเสียเธอไปจริงๆ เขาก็ใจหาย แต่ถ้าสมยอมจำนนกับความผิด ก็เหมือนคนเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ เขาเดินตามไป จนกระทั่งทันกัน

“พรุ่งนี้ผมจะไปค้างที่ชุมพร”

“รมมี่คงต้องไปด้วย”

“ไม่ทำงานหรือครับ”

“ให้คนขับรถเอารถกลับไปแล้ว”

กลยุทธจ้องมองดวงตาของหญิงสาว รมณีย์น้ำตาคลอ ลมหายใจขาดหายเป็นช่วงๆ หล่อนกำลังตื่นเต้น แต่อย่างไรเสียมันเป็นไพ่ใบสุดท้ายที่จะวางออกไป มันยิ่งกว่าอวนจับปลาในทะเลลึก เขาไม่มีวันดิ้นหลุดออกไปไหนอย่างแน่นอน

“ฉันมั่นใจว่า อย่างไรคุณก็ไม่มีทางทิ้งลูกและเมียของคุณเด็ดขาด”

“คุณรมณีย์”

กลยุทธอุทานเสียงดัง ใบหน้าของเขาซีดเผือดปากสั่นระริก

“ฉันท้องค่ะ ฉันกำลังจะมีลูกกับคุณ”

ว่าแล้วน้ำตาของรมณีย์ก็ไหลพรากอย่างสุดระงับ ที่เธอสิ้นลายและตามติดเขามาก็เพราะเหตุนี้ หากเขายังผลักไสเธอออกไปอีก เธอก็คงจนปัญญา แต่เมื่อเห็นปัญหาใหญ่ของหญิงสาวตรงหน้า กลยุทธก็เข้าใจทั้งเรื่องทั้งหมดทันที ปัญหานี้หล่อนแก้เพียงลำพังไม่ได้ มันต้องมีเขาร่วมแก้ปัญหาด้วย เขาเต็มใจหรือเปล่านะ แต่เขากำลังจะเป็นพ่อคน เขาจะไม่อ้างว้างเดียวดายในภายหน้า เขามีลูก มีผู้หญิงที่รักเขามาก กลยุทธดึงร่างของรมณีย์มาสวมกอดไว้จนแน่น พร้อมกับเม็ดน้ำตาที่ร่วงพราวลงมาอย่างยากระงับ

“ผมมันชั่วช้าจริงๆ ถ้าผมไม่ยอมรับ คุณจะทำอย่างไร”

เมื่อมีหญิงสาวอยู่ในอ้อมกอด ความรู้สึกอบอุ่นแล่นไปทั่วสรรพางค์กายของกลยุทธ

“มีลูกแล้วพ่อมันไม่สนใจก็ช่างมันปะไร”

“เจ้าเล่ห์”

กลยุทธจูบเบาๆ ที่ปลายจมูกของหญิงสาว ก่อนจะหัวเราะออกมาทั้งที่น้ำตายังอาบแก้ม ทำไมเขาถึงกลายเป็นคนอ่อนแอไปได้หนอ คนอ่อนแอแบบนี้ควรจะเป็นพ่อคนอย่างนั้นหรือ เขาจะกลายเป็นพ่อคนแล้วอย่างนั้นหรือ เขาเงยหน้ามองท้องฟ้า มองหากุลกัญญามองหาพ่อแม่ กลยุทธรู้สึกว่าทุกๆ คนยิ้มรับดีใจกับเขาด้วย

“คุณร้องไห้ทำไม”

เมื่อรู้สึกว่าชายหนุ่มกอดตัวเองจนแน่น รมณีย์ก็อดสงสัยขึ้นมาไม่ได้

“ผมดีใจ ผมดีใจ ผมกำลังจะเป็นพ่อคนจริงๆ หรือครับ”

“บ้าหรือเปล่าคุณ” รมณีย์แกล้งผลักเขาออก

“เราจะแต่งงานกันเมื่อถึงกรุงเทพฯ” กลยุทธพูดเหมือนเพ้อ

“บ้าหรือเปล่าคุณ คนไม่รักกันจะแต่งงานกันได้อย่างไร”

“ผมรักลูกผม”

รมณีย์หน้ามุ่ยลงทันที

“งั้นไม่แต่ง ปล่อยให้ท้องประจานคนทั้งเมืองอยู่อย่างนี้แหละ แถลงข่าวด้วยว่าพ่อมันไม่รับ”

กลยุทธยังนิ่ง รมณีย์จึงทุบที่หน้าอกที่เคยซุกหาไออุ่นเข้าให้

“แล้วมันพูดยากนักหรือไง กับคำว่ารักคำเดียว”

“สำหรับผมมันพูดยาก แต่เพื่อลูกผม เอ๊ย”

รมณีย์หยิกให้อีกทีหนึ่ง เขาร้องโอดครวญก่อนจะคลายมือมาเชยคางของหญิงสาวในอ้อมกอดขึ้นมาสบตา ภาพของมาลียังไม่หายไปจากหัวใจเสียทีเดียว ข้อนี้เขายอมรับกับตัวเองอย่างไม่อาย แต่เขาคงไม่โง่งมปล่อยใจให้มืดมนไปกับดวงตะวันที่ลับฟ้า ในเมื่อเวลานี้เขามีพระอาทิตย์ดวงใหม่สดใสอยู่ตรงหน้า

“สักวันผมจะรักคุณให้เต็มหัวใจของผม ผมสัญญา”

ปลายจมูกของเขาจรดลงไปที่หน้าผากได้รูปนวลเนียนของหญิงสาวที่หัวเราะทั้งน้ำตาแล้วพูดว่า

“คุณยุทธ คนบ้า คนบ้า”



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 พ.ย. 2555, 08:10:03 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 พ.ย. 2555, 08:10:03 น.

จำนวนการเข้าชม : 2158





<< 42.2“รับความปรารถนาดีนี้ไว้นะจักษ์”   43,2 ตอนจบ >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 16 พ.ย. 2555, 08:11:45 น.
http://www.satapornbooks.co.th/Book/BookDetail.aspx?id=2025 // ส่งซื้อพระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาวได้ที่เว็บสถาพรแล้วนะครับ ราคาเล่มละ 350 บาทครับ ขอบคุณสำหรับกำลังใจ พบกันอีกทีวันจันทร์นะครับ ใกล้จะจบแล้ว


saralun 16 พ.ย. 2555, 08:46:16 น.
ดีใจกับคุณรมมี่ด้วยค่ะ ^^


evelover 16 พ.ย. 2555, 11:50:35 น.
ชอบจังเลยค่ะ คนเราไม่ควรโง่งมปล่อยใจให้มืดมนไปกับดวงตะวันที่ลับฟ้า ในเมื่อตอนนี้มีพระอาทิตย์สดใสอยู่ตรงหน้า อาจจะดวงโตไม่เท่ากัน แต่ความสดใสย่อมดีกว่าความมืดมนอยู่แล้ว ความหมายดีมั่ก ๆ


Orathai 16 พ.ย. 2555, 14:08:45 น.
อิ่มอกอิ่มใจ...


อ้อย 16 พ.ย. 2555, 20:07:32 น.
ดีใจกับรมมี่ด้วยค่ะ อิอิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account