ทางเดินหัวใจ
เรื่องหนึ่งเรื่องเริ่มมาจากความฝัน อีกหลายเรื่องคืความผูกพันธ์
มีการพัฒนาอย่างเงียบๆ รอเพียงเวลาที่เหมาที่ควรเท่านั้น
แล้วความรกจะดำเนินต่อไป

Tags: ฝัน และ จริง

ตอน: หนทางที่สี่ ---->>ในวันที่เราต้องไกลห่าง (หัวใจหวั่นไหวและเคว้งควาง)

ในที่สุดนรีก็ต้องมานั่งเซ็งอยู่ที่ชายหาดหน้าบ้านของกัตพงศ์ เธอมาถึงที่นี่เมื่อวานนี้ ไม่ใช่ว่าที่นี่ไม่น่าสนุกหรอกแต่เป็นเพราะว่าตั้งหลายวันแล้วที่เธอไม่ได้ฝันเห็นแดนไทยเลย
ข่าวในโทรทัศน์ก็ไม่มี ‘ตกลงพี่ดิวหายไปไหนกันนะ’
“น้ำค้างไม่สนุกเหรอ”
กัตพงศ์เดินมาถามนรีที่นั่งหน้ามุ่ยบอกบุญเธอคงไม่คิดจะรับแน่อารมณ์นี้
“เปล่าหรอกันเราแค่คิดถึงใครบางคน”
“ใครเหรอ แม่ดวงใจรึเปล่า”
“คือ...อืม”
นรีตอบส่งๆไป จะให้บอกว่าคิดถึงแดนไทยนะเหรอมีหวังกัตพงศ์คงจะมองว่าเธอเพ้อเจ้อแน่ๆ
“ไปปั่นจักรยานเล่นกันไหม เลยไปทางเหนือสักสองกิโลสวยมากเลยนะ”
นรีมองหน้ากัตพงศ์แล้วคิดหนัก เธอคิดว่าช่วงหลังๆมานี้ทำไมกัตพงศ์ชอบตามมาห่วงใยเธอจนน่าอึดอัดแต่มันก็แอบทำให้เธอหวั่นไหวอยู่เหมือนกัน แต่ตอนนี่อยู่นิ่งๆก็เซ็งเปล่าๆไปปั่นจักรยานเล่นกันเผื่อเธอจะหายคิดถึงแดนไทยบ้างก็ได้
“ก็ได้จ๊ะ”
นรียิ้มให้กัตพงศ์ ‘น่ารักชะมัดเลย’ กัตพงศ์แอบคิดในใจ ถึงเวลาแล้วสิที่เขาจะจีบนรีได้เต็มกำลังสักที
เขาลุกขึ้นแล้วส่งมือไปให้นรีจับยืนลุกตาม นรีมองมือและก็ยิ้มให้ชายหนุ่มจับมือเขาแล้วลุกขึ้น
กัตพงศ์เป็นคนปั่นจักยานให้นรีซ้อน ทั้งคู่พูดคุยหยอกล้อกันเหมือนแฟนมากจนกัตพงศ์แอบดีใจและคิดว่านรีคงจะมีใจให้เขาบ้าง

“นายตูนนายไม่มีทางอื่นให้เดินรึไง”
มยุรากำลังทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเดินหนี ‘ก้าวหน้า’ที่ตลอดสามวันมานี้เขาคอยตามเธอทุกฝีก้าว
‘ก้าวหน้า’เป็นเพื่อนร่วมห้องเรียนของมยุรากับนรีและก็เป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของกัตพงศ์ ก้าวหน้าสูงพอๆกับกัตพงศ์ แต่ขาวกว่ากัตพงศ์เยอะส่วนหน้าตาก็ถือว่าหล่อพอใช้ได้แต่ไม่ใช่สเป็กของมยุรา
“ก็เราอยากเดินกับลูกโป่ง”
เมื่อได้ยินก้าวหน้าพูดอ้อนๆ ทำให้สาวข้างๆหมันไส้ ‘รู้แบบนี้เอายัยปลายักษ์มาด้วยดีกว่า’
‘ปลายักษ์’ คือเพื่อนร่วมห้องเรียนของมยุราอีกคน ความจริงเธอชื่อ ‘ปลา’ แต่เพราะเธอเป็นผู้หญิงร่างอ้วนแต่หน้าตาก็ถือว่าดีถ้าเธอผอมสักหน่อย แต่เสียที่เธอเตี้ยทำให้เวลาเดินเหมือนโอ่งมังกรราชบุรีก็ไม่ปาน และที่สำคัญเธอชอบก้าวหน้าเอามากๆ
“ลูกโป่งไม่อยากบอกหรอกนะว่า...ลูกโป่งรำคาญ”
มยุราตะโกนออกมาอย่างสุดจะทน จนก้าวหน้า หน้าเสียยิ้มหน้าแหย แต่คนที่แอบมานอนเล่นที่เปลข้างบ้านต้องยิ้มจนเกือบจะหลุดขำแต่เก็บอาการไว้ทัน ‘สะใจจริงๆ’
“แฮะแฮ่ม รบกวนคนนอนนี่มันบาปกรรมนะ”
“พี่น้ำตก”
มยุราตกใจที่นายมาอยู่ตรงนี้ แถมยังมาอยู่ตอนที่เธอวีนแตกด้วย ‘ตายแล้วเสียภาพพจน์ที่สุด’
“มาทำอะไรกันแถวนี้ ที่อื่นไม่มีให้ไปเหรอ คนจะหลับจะนอน”นายพูดเสียงเข้มทำเป็นโกรธ แต่ในใจแอบขำ แต่สองคนที่โดนอำหน้าเสีย “เฮ้ย ล้อเล่น ทำเป็นเครียด มาเดินเล่นกันเหรอ”
“ครับ/ค่ะ”สองคนตอบหน้าแหย “พี่น้ำตกนอนต่อเถอะครับ ผมจะพาลูกโป่งไปเดินเล่นที่อื่น”
ก้ามหน้าคิดจะฉวยโอกาสนี้มัดมือชกมยุรา แต่ไม่เป็นดังความคิดของเขาสิ
“ใครจะไปกันนายยะ”
มยุรีตอบหน้าบึ่งด้วยความรำคาญ ‘ฉันต้องรักษาภาพพจน์ต่อหน้าพี่น้ำตกเอาไว้’
นายแอบยิ้มในใจ ‘เราต้องทำอะไรสักอย่างแล้วไอ้น้ำตก’
“พี่นอนไม่หลับแล้ว ลูกโป่งไปเดินตลาดกับพี่ไหม”
“ไปค่ะไป”
นายเดินนำมยุราออกไป มยุรายิ้มเดินตามนายออกไปเธอดีใจที่สุดที่จะได้มีเวลาอยู่กับนายจนลืมไปว่าเธอทิ้งให้ก้าวหน้ายืนงงอยู่คนเดียวและเขาก็กำลังน้อยใจด้วย นายดูดีแบบนี้ แล้วเขาจะสู้อะไรได้ล่ะ


นายกับมยุราดินกันมาเลื่อยๆ นายทำใจกล้าเอื้อมมือไปจับมือมยุราแต่ก็ไม่กล้ามองหน้าสาวคนข้างๆเลยไม่รู้คนที่เขาทำใจกล้าไปจับมือหน้าแดงมากจนไม่รู้จะเก็บซ่อนอาการอายนั้นไว้ยังไงแล้ว ‘ทำแบบนี้พี่น้ำตกคิดอะไรกับเราแน่ๆเลย ขอให้คิดจริงเถอะ สาธุ’

มาอีกฝั่งหนึ่งของโลก แดนไทยถูกลูกเจ้าของงานที่จ้างเขามาที่นี่ลากมาเที่ยวสถานที่ที่เมื่อก่อนเข้าชอบมาก เพราะเขาจะได้กินดื่มอย่างสบายใจ แต่อารมณ์นี้ที่เขาไม่ได้ฝันเห็นสาวน้อยที่เขาคิดว่าเขาคงชอบเธออย่างถอนไม่ได้มันช่างน่าเบื่อที่สุด
แถมยัยคนที่ลากเขามานั่งที่นี่ยังไปเต้นแร้งเต้นกาไม่มีท่าทีว่าจะสนใจเขาเลย ‘คิรีริน’ เธอเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ เป็นลูกคนเดียว พ่อแม่เลยตามใจจนเสียเด็ก ชอบแต่งตัวหวับๆแหวมๆทั้งๆอายุก็แต่สิบเจ็ด หน้าสวยๆแบบสาวไทยก็ทำให้ดิวชอบมองหน้าเธออยู่เหมือนกัน
“พี่ดิวขาไปเต้นกับทีทีเถอะคะ”
คิรีรินเดินมาลากแดนไทยไปที่ฟอร์เต้นรำ แดนไทยเดินตามไปอย่างเกรงๆ คิรีรินเต้นยั่วยวนลูบไร้แดนไทย ‘ยัยเด็กนี่แรงได้ใจจริงๆ’ แดนไทยยิ้มกริ่ม ในที่สุดเขาก็ใจอ่อนยอมเต้นไปกับเธอ

เช้าวันต่อมาที่ประเทศอังกฤษ แดนไทยนั่งเหม่ออยู่ที่หน้าต่างห้อง จะว่าไปอากาศที่นี่ก็ดีนะถ้ามีสาวมานั่งให้เขากอดก็คงจะดี
“เฮ้อ”
เช้านี้เขาก็ถอนหายใจเป็นรอบที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้เพราะใครจะมานั่งนับให้เขาล่ะ และที่เขาเป็นแบบนี้เพราะคิดไม่ตกเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เรื่องที่เขาโดนคิรีรินโน้มคอมาจูบและที่หนักกว่านั้นเขาเผลอจูบตอบเธอด้วย นี่เขาชอบเธอรึเปล่า เธอก็น่ารักแล้วก็ร่าเริงดี ถึงแม้เธอจะดูแรงและซ่ากล้าเกินอายุไปหน่อยก็เถอะ
“เธอเป็นอะไรมากไหมดิว เจ้เห็นเธอถอนหายใจไม่รู้กี่รอบแล้วนะ”
การดาถามด้วยความรำคาญไม่ได้มีความห่วงใยแต่อย่างใด เพราะการถอนหายใจของแดนไทยรบกวนการดูซีรีเกาหลีที่อุตส่าห์ขนมาจากประเทศไทย
“เจ้ระหว่างผู้หญิงในฝันที่เราคิดว่าใช่แน่ๆกับคนที่อยู่ในความเป็นจริงเราก็ชอบนะแต่เราคิดว่าคนในฝันใช่กว่าเจ้จะเลือกใคร”
จู่ๆแดนไทยก็ถามอะไรแปลกทำเอาการดาแปลกใจแต่ก็พอจะรู้ใจความ นี่เด็กในสังกัดเธอมีความรักแล้วเหรอ แล้วเธอควรจะตอบยังไง เธอจะเลือกใช้ความจริงใจหรือเธอจะเลือกผลประโยชน์ดี

“เจ้ก็ไม่รู้สิ ถ้าเธอเลือกคนในความจริงเธอจะทำยังไง”
“ผมคงจะอยู่ที่นี่ต่อมั่งผมจะได้รู้ว่าเธอคือคนที่ใช่ที่สุดหรือเปล่า”
แดนไทยตอบหน้าตายรู้แก่ใจว่าบงการคนนี้คงจะเลือกตอบที่เธอจะได้ผลประโยชน์ที่สุดอยู่แล้ว
ผู้บงการส่วนตัวของเขาใจตุ้มๆต่อมๆ เธอคิดไว้แล้ว่าแดนไทยคงต้องหมายถึงคิรีรินแน่ แต่ก็ไม่คิดจะได้คำตอบแบบนี้

“เธอเอาจริงเหรอ”
“ก็นะ...ว่าแต่เจ้จะให้ผมเลือกคนในความจริงเหรอ”
“ไม่...ไม่เจ้ว่าเธอน่าจะเลือกคนที่ใช่มากกว่าถึงเธอคนนั้นจะอยู่ในความฝันก็ตาม”
“เจ้ดูจริงใจดีเนอะ”

แดนไทยเซ็งกับคำตอบที่เห็นแก่ตัวของการดา เธอจะรู้ความหมายของเขาได้ไง แต่มันก็จริงเขาควรจะเลือกคนที่ใช่ เพราะเขาคิดว่านรีจะต้องมีตัวตนจริงๆแน่ๆ
“ไม่ต้องมาประชดเจ้เลย...ว่าแต่เธอจะเลือกใคร”
“ผมก็คิดว่าผมจะเลือกคนในความฝันมากกว่า”แดนไทยพูดยิ้มๆ “ถึงผมจะไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหนแต่ผมจะทำทุกอย่างเพื่อที่จะหาเธอคนนั้นให้เจอ”
การดางงกับคำตอบแต่ก็โล่งออกที่แดนไทยไม่เลือกที่จะอยู่ที่นี่ เธอรู้ดีว่าถ้าแดนไทยตั้งใจจะทำอะไรแล้วเขาจะทำให้ถึงที่สุด ว่าแต่ผู้หญิงในฝันของแดนไทยเป็นใครทำไมเด็กในสังกัดเธอถึงได้เพ้อถึงเธอขนาดนี้


นรีนั่งเซ็งอยู่ที่เก้าอี้ตัวประจำในสวนสาธารณะ เธอกลับมาบ้านเมื่อวานนี้ แล้วก็สนุกกับการเที่ยวครั้งนี้มาก แต่ที่ต้องมานั่งเครียดแบบนี้เพราะก่อนวันกลับจากบ้านของกัตพงศ์ นรีถูกกัตพงศ์สารภาพรัก
ใจหนึ่งก็แอบหวั่นไหวกับหลายๆอย่างที่กัตพงศ์ทำให้เธอ แต่อีกใจเธอก็รักแดนไทย รักมากถึงโอกาสของเธอจะอยู่แค่ในฝันก็เถอะและโอกาสในฝันช่วงนี้ของเธอก็ดูจะไม่มีแล้วก็ตามแต่เธอก็ยังตัดใจจากแดนไทยไม่ได้
นี่ล่ะยิ่งทำให้นรีตัดสินใจไม่ถูก
แต่ก็โชคดีที่กัตพงศ์ให้โอกาสเธอตัดสินใจจนถึงเปิดเรียน ซึ่งก็เหลืออีกวันเดียว
“น้ำค้าง”
นายพี่ชายสุดที่รักของนรีที่เดินตามหานรีมาเป็นชั่วโมงเรียกนรีมาจากด้านหลัง
“ตัว”นรีเรียกเสียงอ่อยทำหน้าเศร้า นาทีนี้เธอคงต้องหาตัวช่วยแล้วล่ะ“เขาจะทำยังไงดี”
“อะไรเขามาถึงก็อ้อนเลย”นายลูบหัวนรีอย่างเอ็นดู น้องสาวคนนี้ของเขาไม่เคยเป็นเวลามีอะไรที่คิดไม่ออกก็จะอ้อนให้เขาช่วยแบบนี้ทุกที เป็นแบบนี้แล้วเรื่องที่เขาจะมาขอความช่วยเหลือจากน้องสาวก็คงต้องพับเก็บไป “ว่าไงมีอะไรก็บอกมาเลย”
“ตัวว่ากันย์เป็นคนยังไง”
นายอึ่งไปนิดหน่อยที่น้องสาวพูดถึงผู้ชาย และก็สงสัยว่าทำไมน้องสาวถึงถามว่าเขาคิดว่าเพื่อนเธอที่ชื่อ ‘กันย์’เป็นคนยังไง หรือว่า เธอจะชอบคนที่ชื่อ ‘กันย์’ คิดได้แบบนั้นก็หลุดยิ้มออกมา ‘ถึงเวลาที่เธอเองก็มีความรักแล้วเหรอ’
“ก็ดูเป็นคนดีนะ ที่บ้านเขาก็ดูชอบตัวไม่ใช่เหรอ เพื่อนตัวก็ดูจะแคร์ตัวดีนี่ ตอนไปเที่ยวบ้านเขาก็ดูเขาจะดูแลตัวดี ตัวชอบเขาเหรอ”
“เปล่า แต่กันย์ขอเขาเป็นแฟน”
“ห๋า!!!”
นายดูตกใจในสิ่งที่ได้ยินแต่คนที่พูดกับทำหน้าเฉยชาออกไปทางเซ็ง ‘ไม่น่าเชื่อว่าน้องเราจะมีคนสนใจ’ แต่ตอนนี้หน้าเฉยชาของสาวน้อยเปลี่ยนเป็นคิ้วผูกโบฉุนพี่ชาย แล้วตาจ้องไปที่พี่ชาย
“นี่ตัวกำลังคิดว่าเขาโม้เหรอ”
“เปล่าๆ แล้วตัวตอบเพื่อนตัวไปว่ายังไง”
“เขา...”นรีลากเสียงยาว “ยังไม่ได้ตอบ เพื่อนเขาบอกว่าจะขอคำตอบวันจันทร์นี้ ตัวเขาจะทำยังไงดี”
นรีเขย่าแขนพี่ชาย แต่เหมือนมีอะไรบางอย่างทำให้นายคิดว่าน้องสาวของเขามีคนที่ชอบอยู่ในใจแล้ว
“แล้วตัวมีคนที่ตัวชอบรึยัง ถ้าตัวยังไม่มีเขาว่าตัวน่าจะให้โอกาสเพื่อนตัวดูนะ”นายหยั่งเชิง แล้วมองน้องสาวอย่างจับผิด “หรือตัวมีคนที่ตัวชอบแล้ว”
“อืม...แต่คนๆนั้นเขาอยู่ไกลเหรอเกิน”
นรีพูดเสียงเศร้า ตามองเหม่อไปบนฟ้า ถ้าเปรียบเธอกับแดนไทยแล้วมันใม่ต่างอะไรกับฟ้าและดิน นายเองที่มองน้องสาวก็ต้องแปลกใจเพราะเขาไม่เคยเห็นว่าเด็กคนนี้จะเคยเศร้าอะไรได้มากมายแบบนี้
“ตัวบอกเขาได้ไหมว่าคนที่ตัวชอบเป็นใคร”
“พี่ดิว”
“อ๋อ...อะไรนะ!!!”
“ตัวจะตะโกนทำไม”นรีตกใจรีบเอามือปิดพี่ชายเพราะเธออายที่คนที่ทำกิจกรรมต่างๆอยู่แถวๆนั้น “ตัวคงคิดว่าเขาเพ้อเจ้อ”
“แล้วตัวจะให้เขาคิดยังไง ไอ้คนที่ตัวชอบมันเป็นดารา ตัวเคยเห็นตัวจริงมันแล้วเหรอ มันนิสัยยังไงตัวก็ไม่รู้แล้วตัวจะไม่ให้เขาคิดแบบที่ตัวพูดได้ไง”
“เขาเคยเห็นตัวจริงของพี่ดิวนะ แล้วก็รู้ว่าตัวจริงของพี่ดิวน่ารักมาก”
“ตัวเคยเห็นมันที่ไหน”นายถามด้วยความสงสัย นรีจะไปเจอไอ้บ้านั้นได้ยังไงวันๆเธอก็ไปโรงเรียนแล้วก็ช่วยแม่ดวงใจทำงานจะเอาเวลาไหนไปเจอ “ว่าไง”
“เอ่อ...” นรีอ้ำอึ่งไม่อยากตอบ เพราะถ้าตอบไปต้องโดนหาว่าบ้าแน่ๆ แต่พอเห็นสายตาโหดของพี่ชายก็ต้องยอมตอบ “ในฝัน”
“บ้า”
แล้วก็เป็นอย่างที่คิดพี่ชายของคิดว่าเธอบ้าจริงๆ แต่ที่นรีบอกนายว่าแดนไทยน่ารักมันก็เป็นความจริงเพราะช่วงหลังๆแดนไทยชอบมาตีสนิทกับเขาเหมือนจะอยากถามอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่เคยถามอะไร และถ้านายไม่มีอคติกับแดนไทยเขาคงจะเป็นสะพานให้นรีแน่ๆ

////////////////////////////////////////////////////////
ขอบคุณคนที่มาอ่านนะคะ ช่วยคอมเม้นกันด้วยน้าาาาาาาา
-/l\- ขอผลบุญที่ทุกคนเขามาอ่าน มาช่วยแนะ ช่วยติ ส่งไปให้ทุกคนรวยๆ เจริญ ยิ่งๆขึ้นไปด้วยเถิด เพี้ยง สาธุ



เพียงใจกล้า
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 ธ.ค. 2555, 11:27:24 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 พ.ค. 2559, 14:56:57 น.

จำนวนการเข้าชม : 749





<< จังหวะที่สาม ---------->>>>>คืนฝันอันแสนสุข   หน่วยที่ 5---->>>>เมื่อพิสูจน์ได้ว่ายังไงก็ต้องเป็นเธอ >>
เพียงใจกล้า 11 ธ.ค. 2555, 18:53:44 น.


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account