เพราะรักเธอ
ทุกสิ่งเกิดเพราะว่ารัก และจบลงเพราะความรัก รักที่ผิด กับ รักที่ถูกก่อให้เกิดเรื่องราวต่างๆได้มากมาย และเมื่อใช่ความรักในการมอง เราก็จะมีคนรักมากมายในโลกใบนี้
Tags: วันเวลา หัวใจ

ตอน: ตอนที่12 --->>คุณปู่คุณย่า + พ่อกับแม่นายปุน

ตอนนี้มหา'ลัย มีงานแล้ว
ยัยเนวจะได้เจอคุรปู่คุญย่าล่ะ พวกท่านจะใจดีไหมนะ
แล้ว ยัยเนวจะได้อะไรจากพ่อ แม่นายปุนไหมเนี้ย

/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

เนวดี Talk
“เสร็จสักที เนวอีกกี่นาทีเปิดงานล่ะ” นายซูชิถามฉันหลังจากติดป้ายซุ้มเสร็จ
“อีกครึ่งชั่วโมงซูชิ”
“สวยมากเลยพวกเรา” ยัยแควทำหน้าเวอร์อีแล้ว
“แน่นอนครับคุณแควอินไครซะอย่าง” นายอินไครอวดตัว
“ถ้าคุณจะไม่คุยก็ไม่มีใครว่าหรอกครับ” นายพูดถูกใจฉันจริงๆไดโจ
“คุณไดโจคุณตายแน่”

นายสองคนนี่จะคุยกันดีๆได้ไหมนะวิ่งไล่กันเป็นเด็กๆไปได้ อีกแค่วันเดียวภารกิจนี่ก็จะเสร็จแล้ว ตลอดทั้งอาทิตย์พวกเราไม่ได้พักผ่อนกันเลยจัดเตรียมงานกันทุกวันและยังต้องซ้อมดนตรีกันด้วย
ตอนแรกแควไม่ยอมร้องนำให้ฉันเลยใช้ไม้ตายจี้สกัดจุดจนเธอยอม แต่พอเอาเข้าจริงตอนซ้อมครั้งแรกนี่ไปกันคนละเรื่องแต่โชคดีที่ซ้อมไปซ้อมมาก็เข้าขากันได้
“นายสองคนหยุดได้แล้วเราไปที่หอประชุมกันดีกว่า” ฉันเรียกนายสองคนที่วิ่งไล่กันอยู่ให้ไปหอประชุมด้วยกัน
“ครับ/ครับ” ที่แบบนี้ล่ะสามัคคีกันเลย
พวกเราเดินไปที่หอประชุมที่ไกลจากตึกซีไม่มาก พอเดินเข้ามาถึงในงานก็เจอกับเพื่อนปีหนึ่งด้วยกันจากหลายๆคณะมากันเกือบพร้อมหน้า แล้วก็พวกผู้ใหญ่ และผู้ปกครองของนักศึกษา พวกไฮโซ มีนักข่าวด้วย

“คุณซูชิครับคุณท่านเรียนว่าให้มาไหว้แขกผู้ใหญ่ครับ” มีลุงคนหนึ่งเดินมาตามนายซูชิ
“อยู่ทางไหนครับลุงไก่”
“ทางด้านหน้าครับ คุณท่านบอกว่าให้พาคุณเนวไปด้วยครับ”
“เนวด้วยเหรอคะลุง”
“ครับ ผมขอตัวก่อนนะครับ” ลุงเดินไปแล้ว
“ทำไมฉันต้องไปด้วยล่ะซูชิ”
“ฉันก็ไม่รู้ แต่ว่าเรารีบไปกันดีกว่า”
เราสองคนเดินมาทางด้านหน้าเวที ตรงนี้มีแขกผู้ใหญ่เต็มไปหมดมีนักข่าวเยอะด้วยรุมถ่ายรูปคุณลุงคุณน้า แล้วก็คนแก่ๆอีกสองคนคนผู้ชายไม่ค่อยเหมือนคนไทยเลย แต่เหมือนเคยเห็นที่ไหนนะ

“สวัสดีครับคุณปู่คุณย่า” นายซูชิเรียกปู่ ย่า ฉันเองก็ต้องมืออ่อนด้วยสิเดี๋ยวเขาหาว่าไม่มีใครสอน
“สวัสดีคะคุณปู่คุณย่า สวัสดีค่ะคุณลุงคุณน้า”
“จ้า แล้วแม่หนูคนนี้ใครกัน” คนที่เป็นปู่พยักหน้ารับ ส่วนคนที่เป็นคุณย่าถามว่าฉันเป็นใคร
“หลานสาวดิฉันเองค่ะคุณป้า เนวจ๊ะนี่คุณปู่คุณย่า...เออของมากี่” ปู่ ย่าของยัยมากี่นี่เองนึกว่าใครO_O!!! แบบนั้นก็คุณปู่คุณย่าของฉันนะสิ ไม่อยากมองหน้าคนใจร้ายสองคนนี้เลย ชิ!

“หน้าตาน่ารักตัวเล็กน่าเอ็นดูเชียว หน้าเหมือนตาโอรุไม่มีผิดเลยคุณ” คุณพูดไปยิ้มไป
“เหลวไหลนะ คนไม่ใช่ญาติกันจะเหมือนกันได้ไง” คุณปู่ดุไม่เบาเลย
“คุณก็ ลูกเต้าใครล่ะแม่ออน” เอาล่ะสิคุณน้าจะตอบแบบไหนล่ะ
“ลูกเพื่อนดิฉันค่ะ”
“เพื่อนที่เป็นคนญี่ปุ่นรึเปล่าเด็กคนนี้ไม่ค่อยเหมือนคนไทย” คุณย่าใครฉลาดจริงๆ
“ประมาณนั้นคะคุณป้า”
“ผมว่าเชิญคุณอาทั้งสองนั่งก่อนดีกว่าครับ” ขอบคุณคุณลุงมากค่ะ

“ก็ดีเหมือนกันอาเองก็เมื่อยแล้ว” ขอบคุณค่ะคุณปู่ที่ว่าง่าย
เป็นอันว่าพวกเราทั้งหกร่างย้ายสรีระมาที่เก้าอี้แถวหน้าสุด ส่วนฉันกับนายซูชิมานั่งแถวสอง พี่โมจิ พี่บูม พี่ข้าวปั้น พี่ภู และยัยแควเดินมาทางนี้แล้วค่อยดีหน่อยที่มีเพื่อนนั่งด้วย

ทุกคนที่เดินมายกมือไหว้คุณปู่ คุณย่า คุณลุงและคุณน้า พวกท่านก็ยกมือรับไหว้อย่างผู้ใหญ่ที่ดี แล้วพวกท่านก็หันไปสนททนากันต่อ
“เนวตากับยายสองคนนั้นใครเหรอหน้าคล้ายๆเธอเลย” ยัยแควที่มานั่งทางด้ายซ้ายฉันกระซิบที่ข้างหูถาม
“ปู่กับย่าฉันเอง ฉันก็เพิ่งเจอท่านจังๆก็วันนี้แหละ” ฉันกระซิบกลับ
“คุยแต่กับเพื่อนคุยกับพี่บ้างสิ” พี่ข้าวปั้นที่มานั่งทางขวากระซิบและทำหน้าอ้อน

“จะให้คุยอะไรล่ะคะ”
“ทั้งอาทิตย์นี้เราไม่ได้คุยกันเลยนะ”
“ก็เนวต้องทำงานนี่คะ”
“เนวพี่มีอะไรจะบอก” อะไรของเขา
“ก็บอกมาสิคะ”
“เรามีการแข่งขันด้วยนะว่าคณะไหนได้คะแนนจากแขกที่มาในงานมากที่สุดจะได้ไปดินเนอร์สุดหรูกับกลุ่มเทพ” กลุ่มเทพ?
“กลุ่มเทพอะไรคะ”

“ถามเพื่อนเธอดูสิ พี่ต้องไปเป็นพิธีกรก่อน”
“อ้าว มาคุยกันก่อนสิคะ” ดูสิมาทำให้อยากแล้วก็จากไป (อยากรู้นะค่ะ)
“มีอะไรเหรอเนวทำหน้าเหมือนอยากจะกินคนอย่างนั้น”
“ก็พี่ข้าวปั้นนะสิแคว เขาบอกว่างานนี้มีรางวัลคณะได้คะแนนจากแขกที่มางานมากที่สุดจะได้ไปดินเนอร์สุดหรูกับกลุ่มเทพ”
“ตายแล้ว”
“ทำไมเหรอ” สงสัยเข้าไปใหญ่

“เธอรู้ไหมกลุ่มเทพมีใครบ้าง”
“ไม่รู้”
“มีสี่คนพี่บูม พี่ข้าวปั้น พี่ภูแล้วก็นายซูชิ”
“นิทาอะไรฉัน” นายซูชิเกิดได้ยินชื่อตัวเองขึ้นมา

~สวัสดีแขกผู้มีเกียรติทุกท่านครับ ผมในฐานะประทานนักศึกษาขอกราบเรียนเชิญคุณปวรภัท ขจรกิจเรืองไกล ท่านผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยเมืองหลวง บางกอก ซิตตี้ ไทยแลนด์ มากล่าวเปิดงาน~
พี่ข้าวปั้นรับหน้าที่พิธีกรกล่าวเรียนเชิญคุณลุงไปกล่าวเปิดงาน เสียงตบมือดังขึ้นรอบหอประชุม
คุณลุงจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยและขึ้นแท่นกล่าวเปิดการประชุม

~ผมดีใจที่ได้เห็นเด็กรุ่นใหม่ๆมีความคิดสร้างสรรค์ในการจัดกิจกรรม ผมเชื่อว่าผู้ปกครองทุกท่านจะภูมิใจที่เห็นบุตรหลานของตัวเองสามารถสร้างสรรค์งานวันนี้ออกมาได้ดี ดังนั้นผมในฐานะผู้อำนวยการของมหาวิทยาลัยขอเปิดงานนักศึกษารุ่นใหม่ ความคิกก้าวไกล มุ่งสู่อนาคตที่สดใสครับ~ เสียงตบมือดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเสียงพรุที่ดังหลายลูก

~ กราบขอบพระคุณท่านผู้อำนวยการมากครับ ต่อไปจะเป็นหน้าที่ผมที่จะกล่าวกำหนดการต่างๆให้ทุกคนทราบ เวลา09.30 น.ถึงเวลา17.30น. จะเป็นการเปิดซุ้มตามตึงเรียนของคณะต่างๆตามแผนที่ที่ได้แจกให้กับผู้มีเกียรติทุกท่าน ท่านจะเห็นว่ามีสติกเกอร์อยู่สองชิ้น นั้นคือคะแนนที่เราจะใช่ในการนับคะแนนที่จะได้รับรางวัล ถ้าท่านผู้มีเกียรติชอบกิจกรรมของซุ้มไหนท่านก็นำสติกเกอร์สีเขียวแบะบนบอร์ดที่อยู่ที่ซุ้มนั้น ต่อไปเวลา18.00น. ถึงเวลา22.30น. เชิญทุกท่านกลับมาที่หอประชุมนี้อีกครั้งเพื่อมารับชมการแสดงของแต่ละคณะ และนำสติกเกอร์สีแดงมาแบะให้กับการแสดงของคณะที่ท่านผู้มีเกียรติชื่นชอบเราจะนำมานับรวมกับคะแนนที่ซุ้ม คณะไหนได้คณะแนนมากที่สุดจะได้รับเงินรางวัลห้าล้านบาท~

ฮู้ เสียงฮือฮาจากทุกคนในงานเมื่อได้ฟังเงินรางวัล

~-ขอความเงียบด้วยครับ ยังไม่แค่นั้นคณะที่มีคะแนนมากที่สุดยังจะได้เลือกดินเนอร์สุดหรูกับกลุ่มเทพ หรือกลุ่มธิดาเทพ~

กรี๊ด เฮ

“กลุ่มธิดาเทพด้วยเหรอ” ยัยแควหน้าเสีย กลุ่มธิดาเทพอะไรอีก
“แควอะไรคือกลุ่มธิดาเทพ”
“ยัยเตี้ยเคยอ่านบอร์ดข่าวบ้างรึเปล่า”
“มันมีบอร์ดที่ว่านั้นด้ายเหรอ” ทำไมฉันถึงไม่รู้
“กลุ่มธิดาเทพคือ พี่โมจิ มากี่ ฉัน และเธอ”
“อะ!!! ทำไมมีฉันด้วย”
“ก็มันเป็นผลจากคะแนนเสียงของคนทั้งมหา’ลัยนะสิ” แสดงว่าฉันสวย
“แต่ที่จริงพี่น่าจะบอกกันก่อนนะ” นายซูชิเหมือนจะไม่รู้เรื่องบ้านี่ด้วย

~เชิญนักศึกษาปีหนึ่งทุกคณะไปเตรียมงานได้แล้วครับ และขอเชิญแขกผู้มีเกียร์ติทุกท่านเที่ยวชมงานได้ตามสบายครับ~ เสียงแฟนตัวดีของฉันประกาศอีกครั้ง

“พวกเราต้องทำคะแนนให้ได้ที่หนึ่งนะ เพราะฉันไม่อยากให้ใครได้ทานข้าวกับพี่ภู” หน้าตาจริงจังขึ้นมาทันที
“ถ้าเธอยังมัวพล่ามอยู่แบบนี้คนอื่นก็คงได้แฟนเธอไปแน่ ไปกันเถอะเนวปล่อยเพื่อนเธอบ้าไปคนเดียว” นายซูชิไม่พูดเปล่าแถมลากฉันไปด้วย
“รอฉันด้วย”


“คนเยอะไม่เบาเลยนะ” ฉันกระซิบข้างหูยัยเพื่อนรัก
“ใช่ ดูสิคณะเรามีสติกเกอร์เยอะไม่เบาเลยนะเราต้องชนะแน่ๆ” นั้นสินะ เราต้องชนะแน่เลย^^
“เนวนั้นๆ” อยู่ดีๆนายซูชิก็สะกิดฉันให้ดูใครบางคน
“ใครเหรอซูชิ”
“อะไรกันเหรอ ผู้ชายคนนั้นพ่อของปุนนี่หนา” ยัยแควนั้นเองที่เป็นคนให้คำตอบฉัน
“ใช่ ส่วนผู้หญิงคือพี่ดาว” พี่ดาวแม่ของนายข้าวปุ้น
“นายจะทำยังไง” ฉันกระซิบนายซูชิ
“ฉันจะลองดู เดินมาแล้ว” ลองดูอะไรของเขา
พ่อแม่ของนายปุนเดินมาแล้ว ฉันรอฟังห่างๆอย่างห่วงๆคงจะดีกว่า

“สวัสดีครับ เชิญด้านนี้ครับผม”
นายซูชิเชิญพ่อแม่ของนายปุนมาตรวจกับเขา นายซูชิตรวจสุขภาพอย่างคล่องแคล่วทำเอาท่านทั้งสองยิ้มอย่างพอใจ
“เด็กสมัยนี้เก่งนะคุณ” แม่ของนายปุนพูดกับสามี
“นั้นนะสิ พ่อแม่คงภูมิใจน่าดู ใช่ไหมพ่อหนุ่ม”
“ก็ครับ^^”
“ไม่เหมือนลูกเธอเต้นกินรำกิน”
“คุณน่ะ ว่าแต่พ่อหนุ่มเป็นลูกใครกันล่ะ”

“พ่อผมเป็นผู้อำนวยการที่นี่นะครับ” หน้าของแม่นายปุนซีดไปถนัดตา
“คุณน้าเป็นอะไรไปเหรอครับ”
“เปล่าหรอกจ้ะ คุณเราไปซุ้มอื่นกันเถอะ”
“เดี๋ยวสิผมจะติดคะแนนให้ซุ้มนี้”
“ขอบคุณนะครับ”
พ่อกับแม่ของนายปุนเดินออกไปแล้ว ฉันเดินไปถามหน่อยดีกว่าว่าไปอะไรบ้าง

“เป็นไงได้อะไรรึเปล่า”
“น่าเสียดายที่ยังไม่ได้เรื่อง แต่ก็ยังดีที่ได้รู้จักกันนะคราวหน้าก็ค่อยลองดูใหม่”
“อืม ก็คงจะดีกว่าไม่ได้รู้จักเลยเนอะ”


ข้าวปั้น Talk
กว่าจะจัดการงานทางนั้นเสร็จเล่นเอาเหนื่อยไม่เบา แวะไปหาแฟนสุดสวยหน่อยดีกว่าไม่รู้ว่าที่ซุ้มเธอจะได้คะแนนเยอะรึยังถ้าเธอไม่ชนะแผนดินเนอร์ที่อุตส่าห์วางไว้ก็เสียเปล่า แล้วจะให้ผมไปทานข้าวกับคนอื่นผมก็ไม่เอาด้วยแน่นอนผมต้องมีแผนการสำรองอยู่แล้ว

ถึงซะทีคนเยอะเหมือนกัน ได้สติกเกอร์เยอะด้วยสงสัยจะได้ไปดินเนอร์แน่ๆ ว่าแต่แฟนผมอยู่ไหนนะ เจอแล้ว แล้วทำไมต้องกระซิบกันด้วยใครนะ นายซูชิ ไม่ได้แล้ว

“คุยอะไรกัน”
“พี่ข้าวปั้นเอง ผมไม่แย้งแฟนพี่หรอกน่ะ” ไอ้น้องบ้ารู้ทันกันจริง
“ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรแกสักหน่อย แล้วว่าแต่คุยอะไรกัน”
“ไม่มีอะไรหรอกคะเรื่องทั่วๆไป แล้วพี่ข้าวปั้นมีอะไรหรือปล่าคะมาหาเนวถึงที่นี่”
“พี่มาดูว่าเนวเหนื่อยไหม นี่พี่ซื้ออาหารมาฝาก” ผมพูดพร้อมกับยื่นถุงอาหารให้เธอ เนวทำหน้าเหยเก “ไม่ชอบเหรอ”
“คือว่าเนวมีประวัติไม่ดีเกี่ยวกับแซนวิดนิดหน่อยคะ” คงไม่ใช่เคยกินแซนวิดหนอนแก้วหรอกนะไม่อย่างนั้นมันจะเหมือนที่นาจิเคยโดน ยัยนางมารน้อยแกล้ง คงไม่หรอกมั่ง ฮาๆๆ

“ประวัติไม่ดีเหรอ เคยมีคนแกล้งให้กินแซนวิดหนอนรึเปล่า”
“ก็ใช่นะสิคะ”
“ฮะ!”
“ไม่ใช่ค่ะแฮะๆ^^;; เอาเป็นว่าเอาไปให้คนอื่นทานดีกว่าค่ะเนวขอผ่าน”
“จ๊ะ พี่ไปดูความเรียบร้อยที่อื่นก่อนดีกว่าแล้วเจอกันที่งานรอบค่ำนะจ้ะ” เนวไม่พูดอะไรเพียงแต่พยักหน้า
ผมรู้สึกว่าเหมือนตัวชาจนไม่อยากอยู่ตรงนี้ ทำไมผมรู้สึกว่าเนวกับนาจิเหมือนคนๆเดียวกัน ทั้งๆที่ผมทำใจที่ต้องเสียเธอไปได้แล้วเชียว ผมอยากจะร้องไห้จัง หลบไปห้องน้ำหน่อยดีกว่า



~เมื่อไรก็ใช่เธอ ตอบทุกคำถามของใจ ใช่เธอ คนเดียวที่ฉันมั่นใจ เธอคือคนพิเศษไม่ต้องการ~
ใครมาเปิดเพลงแถวนี้ว่ะคนจะหลับจะนอน ไม่ใช่นี่หว่าโทรศัพท์ผมนี่เองใครโทรมา
‘เพื่อนภูวินัย’
“ว่าไงว่ะภู”
‘แกอยู่ไหนว่ะ เสียงแกเหมืนคนที่เพิ่งตื่นนอนเลย’
“เออฉันเพิ่งตื่น ว่าแต่ที่นี่ที่ไหนวะเหม็นชิ!”
‘ไอ้เวรแล้วใครจะไปรู้วะ แต่ที่รู้ๆแกต้องมาที่หอประชุมด่วนไม่อย่างนั้นงานเจ้งแน่ ’

“เฮ้ยเวรแล้ว ถ่วงเวลาไว้ก่อเดี๋ยวไป”
เฮ้ยที่นี่มันห้องส้วมนี่ ผมหลับในห้องส้วมได้ไง ไม่มีเวลามาคิดแล้วรีบไปก่อนดีกว่า
แฮ แฮ เหนื่อยเป็นบ้า วันนี้ผมเพิ่งรู้สึกว่ามหา’ลัยพ่อผมนี่ใหญ่ไปหรือผมไม่ค่อยได้ออกกำลังกายนะ ถึงแล้วนั้นไอ้เพื่อนภูมันโบกมือไหวๆอยู่หน้าประตูหลังเวทีแล้ว
“ไอ้ปั้นแกไปไหนมาวะเขาตามหากันวุ่นวายหมดแล้ว”
“ช่างฉันเถอะมันได้เวลาเปิดงานรอบค่ำแล้วไม่ใช่เหรอ”
“เออ...ไปแต่งตัวได้แล้ว”

ผมเดินมาแต่งตัวชุดพิธีกร และเดินขึ้นเวทีพร้อมทั้งให้สัญญาณเปิดงาน
บึม!!! เสียงระเบิดแสดงถึงการเปิดงานรอบค่ำ แสงไฟสว่างขึ้นอีกครั้งหอประชุมขนาดใหญ่ที่ตอนนี้กลายเป็นห้องจัดเลี้ยงมีโต๊ะไม่ต่ำกว่าร้อย แสดงถึงความใหญ่โตของหอประชุม

“สวัสดีแขกผู้มีเกียติทุกท่าน ก่อนอื่นผมขอให้ทุกท่านทานอาหารให้อร่อยนะครับ และผมขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่งานรอบค่ำอย่างเป็นทางการ เพื่อไม่ให้ทุกท่านเสียงเวลาการแสดงความสามารถพิเศษของนักศึกษาปีหนึ่งของเราในชุดแรกได้เลยครับ”
เมื่อสิ้นเสียงผมไฟในห้องประชุมก็ดับอีกครั้ง ผมเดินลงจากเวทีและการแสดงชุดแรกก็เริ่มขึ้น

“ไอ้ปั้นแกหายไปไหนมาวะ” ไม่ทันจะพ้นจากบันไดขั้นสุดท้ายไอ้เพื่อนรักของผมยิ่งคำถามทันที
“ห้องน้ำตึกบี”
“แกไปทำอะไรในห้องน้ำเป็นชาติวะ” มันพูดแล้วหันมามองหน้าผม
“นอน”
“นอน!!” เสียงตะโกนของมันเรียกสายตาคนตรงหลังเวทีได้ดี
“เฮ้ย!! ตะโกนหาอะไรวะ คนอื่นมองกันหมดแล้ว”
“แล้วแกไปนอนในห้องน้ำทำไม มันหอมนักเหรอ”
“ฉันก็แค่เข้าห้องน้ำแล้วก็เผลอหลับ ใครที่ไหนจะอยากไปนอนในห้องน้ำล่ะ”

“เหรอช่างเถอะ ว่าแต่แกรู้รึยังว่าคณะแฟนแกจะแสดงอะไร” นั้นสิผมเองก็ยุ่งๆจนไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย
“ไม่รู้ว่ะแกรู้เหรอ”
“แกนี่มันไม่ได้เรื่องเลย ฉันจะบอกให้ พวกเขาจะแสดงดนตรีแฟนฉันร้องเพลงด้วย ทุกคนให้ความสนใจคณะแฟนฉันมาก รับรองเลยว่ารางวัลต้องเป็นของพวกเขาแน่”
“ก็ขอให้เป็นแบบนั้นละกัน แผนฉันจะได้ไม่ล่ม”
“แกเตรียมหมดตัวได้เลยฮาๆๆๆ” เพื่อนผมบ้าไปแล้ว “หิวแล้วว่ะไปหาอะไรกินกันดีกว่าจะได้ดูการแสดงด้วย”

“เปลี่ยนอารมณ์ไวไปเปล่า”
“คนมันหิวโว้ย”
“เออๆ”
การแสดงชุดแรกละครของคณะนิเทศ จบแล้ว ชุดที่สองขึ้นมาแล้วรำไทย สวยไม่เบาคณะอะไรนะ เอ๊ะ!!ผู้หญิงแถวหลังหน้าคุ้นๆจัง
“มากี่” เสียงเพื่อนรักของผมให้ความกระจ่าง
“ผู้หญิงแถวหลังใช่ไหมวะ” ผมหันไปถามเพื่อนรัก ก็ดำคำตอบด้วยการพยักหน้า

“กินกันไม่รอพวกพี่เลยนะ”
“พี่โมจิ พี่บูมนั่งก่อนครับ” ภูเชิญพี่โมจิกับพี่บูมให้นั่ง
“โมคนนั้นมากี่รึเปล่า” พี่บูมชี้ไปบนเวทีให้พี่โมจิดูมากี่
“นางมารแปลงร่าง” พี่โมจิทำหน้าอึ่งๆ
“ผมว่าสวยดีนะ”
“บูม” เอาแล้วพี่สาวผมของขึ้นแล้ว
“แต่ก็สู่โมของผมไม่ได้หรอกเนอะ^^;;”

“แล้วไป ปั้นน้องสะใภ้พี่แสดงชุดไหน”
“ชุดเก้าครับ”
รำไทยจบแล้ว ชุดสามเดินแบบ ไม่น่าสนใจเลยกินข้าวดีกว่าหิวแล้ว อร่อยดีหรูได้อีกทำไม่ไม่หาแบบกระเพาะปลามาบ้าง
“เดินแบบไม่ได้เรื่องเลย ชุดที่สี่แล้ววะปั้น” เพื่อนสนิทผมบ่นอุบ ชุดสี่มายากล
“ฮาๆๆ มันเล่นมายากลหรือตลกวะฮาว่ะ”
“เบาๆหน่อยไอ้ภู” พี่บูมปรามน้องชาย
“โมก็เห็นด้วยกับภูนะ จบสักทีชุดที่ห้าแล้ว”



=_= ง่วงชะมัดชุดที่แปดจบสักที สตราฟยกเครื่องดนตรีแล้วคณะไหนเนี่ย อ๊ะ!!ผู้หญิงตัวเล็กนั่นแฟนผมรึเปล่า O_O ใช่นี่แฟนผมจะเล่นชิ้นไหนนะ คีย์บอด เหมือนนาจิอีกแล้วผมจำได้ว่านาจิชอบเปียโนที่สุด
“ปั้นเหม่ออะไรจะเริ่มแล้วนะ”

~สวัสดีค่ะทุกท่านพวกเราคณะแพทย์ค่ะ ตอนแรกพวกเราคิดว่าจะผ่าตัดโชว์แต่เสียดายที่ไม่มีใครยอมเป็นหุ่นให้~
ฮาๆๆ แฟนผมนี่ฮๆจริงๆเรียกเสียงหัวเราะได้ทั้งหอประชุมเลย

~ก็เลยมาเล่นดนตรีให้ฟังส่วนเพลงที่เลือกมันคือเพลงแทนใจพวกเราที่อยากบอกกับใครบางคน ช่วยฟังกันหน่อยนะค่ะ สิ่งเดียวที่ฉันขอ~

~แม้ว่าใจอยากบอก แม้ว่าใจอยากอยากบอกความจริงสักเพียงไหน แต่ก็พูดไม่ออก ฉันก็พูดไม่ออกเมื่อเจอเธอทุกครั้งไป พยายามสักเพียงไหน พยายามสักเท่าไรก็ได้แต่เก็บเอาไว้อยู่อย่างนี้ ไม่ได้คิดจะหลอก ไม่คิดจะหลอกจะปิดบังรู้ไหม แต่ก็พูดไม่ออก แต่ว่าพูดไม่ออกอยากให้เธอเขาใจ~

ต้องการบอกใครบางคนบอกใครกัน เนวหันมามองผมด้วยทำไมผมรู้สึกว่าเนวต้องการจะบอกอะไรเลย

~พยายามสักเพียงไหน พยายามสักเท่าไร พยายามสักเท่าไรมันก็ซับก็ซ้อนเกินไปที่จะอธิบายจะพูดออกมา~

“ซูชิร้องด้วยเหรอเพาะนะเนี่ย” พี่โมวิจารเจ้าน้องชาย
“นั้นสิบ้านโมนี่มีเรื่องให้ผมประหลาดใจตลอดเลยนะ” ทำไมพี่บูมพูดเหมือนบ้านผมมีเรื่องแปลกบ่อยอย่างนั้นแหละ
“บ้านผมมีอะไรให้พี่บูมประหลาดใจเหรอครับ”
“เรื่องแฟนนายไงข้าวปั้น”
“แฟนผม เนวนะเหรอครับเรื่องอะไรเหรอครับ”
“ก็...โอ๊ยเจ็บนะผมโม”

“ไม่มีเรื่องอะไรหรอกปั้นอย่าไปฟังพี่บูมเขาเลยนะ” พี่โมทำตัวแปลกๆเหมือนพี่เรื่องลับลมคมในอย่างนั้นแหละ

“เอาอีก เอาอีก เอาอีก” จบแล้วเหรอ ดูสิคนชอบเยอะเลย

~พวกเราก็อยากร้องค่ะแต่ถ้าอยากให้พวกเราร้องอีกเพลงต้องให้พวกเราชนะก่อนนะคะ ขอบคุณค่ะ~
เข้าใจพูดนะแฟนผม สวยเก่งหาที่ไหนไม่ได้แล้ว



เนวดีTalk
“ทุกคนแควว่าพวกเราต้องชนะแน่ๆ ดูสิคนชอบพวกเราเยอะเลย” พอลงมาหลังเวทียัยแควก็แสดงอาการดีใจแบบสุดๆออกมา
“จะไม่มั่นใจไปหน่อยเหรอ” เสียงเหมือนยัยลูกครึ่งเลย พอฉันหันไปก็เจอกับพวกนางรำเดินมาเป็นขบวนส่วนคนที่พูดก็คงจะเป็นยัยลูกครึ่งจริงๆ
“ใช่ พวกเธอคงจะลืมไปสินะว่ามากี่กับพวกเราก็แสดงได้ดีกว่าพวกเธอ” เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มยัยลูกครึ่งพูดด้วยน้ำเสียงน่าหมันไส้สุดๆ ยัยคนนี้คนเดียวกับที่มาตามตื้อพี่ภูนี่
“พวกเราจะแสดงได้ดีกว่าพวกเธอรึเปล่าฉันไม่รู้ แต่ที่รู้พี่ภูกับพี่ข้าวปั้นชอบแน่นอน ไปกันเถอะพวกเรา” ยัยแควสุดยอดจริงๆพูดได้จี้ใจดำยัยพวกนั้นสุดๆ

“นังหมวย” ยัยนั้นทำท่าจะเข้ามากระชากยัยแคว
“อย่าเคธี” ยัยลูกครึ่งจับเพื่อนไว้“เราอย่าไปยุ้งกับพวกมันเลย พวกดีแต่ปาก” แรง!! ทนไม่ไหวแล้วพี่สาวคนนี้จะสั่งสอนเธอเอง
“ฉันขอเถอะเนว” ฉันยังไม่ทันได้ถึงตัวยัยลูกครึ่งนายซูชิก็มาดึงฉันไว้ก่อน พร้อมกันพูดขอร้อง
“ซูชิ” ฉันยอมนายก็ได้ ฉันเห็นกันที่นายเป็นเพื่อนของฉันหรอกนะ

~การแสดงทุกชุดก็จบลงไปแล้วนะครับ ต่อไปผมขอประกาศผู้ที่ได้รางวัลเงินสดห้าล้านบบาทและดินเนอร์สุดหรู~

เสียงพี่ข้าวปั้นจะประกาศคนที่ได้คะแนนสูงสุดแล้ว
“เนวฉันตื่นเต้น” ยัยแควไม่พูดเปล่าแถมยังจิกแขนฉันด้วย
“ยัยแควฉันเจ็บนะ”
“ยัยหมวยเธอตื่นเต้นไปก็เสียเปล่ายังไงซะคนที่ได้ที่หนึ่งต้องเป็นพวกฉัน” ยัยคาที่ เย้ยเคธีพูดแทรกมา
“เดี๋ยวพวกเธอก็รู้”ฉันพูดพร้อมจิกตาไปที่ยัยลูกครึ่ง

~คะแนนรวมมาแล้ว โอผมยินดีจริงๆครับที่คณะนี้ได้และผมเชื่อว่าอีกหลายๆคนก็คงจะยินดีด้วย คณะที่ได้คะแนนมากที่สุดและจะได้รับเงินรางวัลห้าล้านบาทพร้อมกับได้ทานดินเนอร์กับกลุ่มเทพและกลุ่มธิดาเทพคือ คณะแพทย์ครับ~

“เฮ!!!” เสียงคนที่เชียร์พวกเราส่งเสียงกันดังลั่น

“เนวพวกเราชนะ” ยัยแควกระโดดตัวลอยด้วยความดีใจ
“ฝากไว้ก่อนเถอะ” ยัยเคธีพูดด้วยน้ำเสียงเอาเรื่องแล้วเดินออกไปพร้อมกับยัยลูกครึ่งและพวก
“พวกเราไปรับรางวัลกันเถอะ” ซูชิพูดพร้อมกับเดินนำออกไป
โชคดีจริงๆที่พวกเราทำได้ แค่ไม่ต้องให้พี่ข้าวปั้นไปกับผู้หญิงอื่นก็พอแล้ว

//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

พวกยัยเนวเก่งนะเนี้ย ชนะการแข็งขันด้วย ว่าแต่ ช่วงแบ่งเงินราลวัลให้เราด้วยสิ



เพียงใจกล้า
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 ธ.ค. 2555, 21:43:22 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 ธ.ค. 2555, 21:52:13 น.

จำนวนการเข้าชม : 856





<< ตอนที่11 -->> แฟนกันวันแรก และ เรื่องอันตรายที่ไม่มีฉันคนเดียวที่รู้   ตอน13 ---->> พี่เวพ VS พี่ข้าวปั้น + ว่าที่พี่เขย VS ว่าที่น้องเขย >>
เพียงใจกล้า 12 ธ.ค. 2555, 21:44:16 น.


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account