เพราะรักเธอ
ทุกสิ่งเกิดเพราะว่ารัก และจบลงเพราะความรัก รักที่ผิด กับ รักที่ถูกก่อให้เกิดเรื่องราวต่างๆได้มากมาย และเมื่อใช่ความรักในการมอง เราก็จะมีคนรักมากมายในโลกใบนี้
Tags: วันเวลา หัวใจ

ตอน: ตอนที่17-->> หนังโรแมนติกกับการคืนดีของสองเรา

จะคืนดีกันแล้วเหรอคร้าาาา ใครจะง้อใครก่อนนะ

//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////


หน้าโรงภาพยนตร์ ในห้างสัพสินค้า
ข้าวปั้น Talk
ผมล่ะอยากจะตัดขาดความเป็นเพื่อนหับไอ้ภูซะจริงๆ มันชวนผมมาดูหนังเป็นเพื่อน แต่ต้องกลับมาเป็นคนรอมันแล้วทำไมต้องไปรอในโรงหนังก่อนด้วยก็ไม่รู้
มีแต่คู่รักมาดูทั้งนั้นเลย แล้วเขาจะคิดว่าผมเป็นคู่รักกับไอ้ภูไหมเนี่ย
เก้าอี้คู่ด้วย เอาละซิถ้ามาดูกับสาวๆต้องมีต่อแน่ๆ ที่นั่งผมมีสาวมานั่งก่อนด้วย มองจากข้างหลังมันคุ้นตาเหลือเกินไอ้ภูมันเล่นอะไรกับผมแน่ๆ

“เนว”
“พี่ข้าวปั้น”
ผมว่าแล้ว นี่มันเป็นแผนไอ้ภูแน่ๆ ฉันควรจะขอบใจแกดีไหม
เนวนิ่งไปเหมือนกำลังคิดอะไร แล้วก็ลุกขึ้น ไม่ผมไม่อยากให้เธอไปตอนนี้ขอแค่สองชั่วโมงที่เราจะอยู่ใกล้ๆกันแบบนี้ก็ยังดี
“นึกว่าจะแน่”
“อะไร” เธอหันกลับมามองหน้าผม “เมื่อกี่คุณพูดอะไร”
“ฉันบอกว่ากับแค่การดูหนังเธอยังไม่กล้าจะไปอดทนอะไรได้”
“ทำไมฉันจะไม่กล้าก็จริงอย่างที่คุณพูดกับการดูหนังกับคนที่เคยรู้จักทำไมฉันจะอดทนไม่ได้”
“อืม ก็ดี”

เราสองคนนั่งประจำที่พอดีกับหนังฉาย
เพลงประกอบหนังเพราะเหมือนกันนะ ภาพสวยมากเลย
ไอ้ภูมันเลิกหนังได้ดีจริงๆ พระเอกกอดนางเอกท่ามกลางทะเลหมอก โรแมนติกได้ใจ แต่ผมว่านางเอกดูขี้โรคยังไงก็ไม่รู้

บนจอหนังเขียนว่าย้อนไปเมื่อสามเดือนก่อน
‘อะไรนะครับคุณหมอ’ พระเอกทำตาโต
‘อย่างที่บอกนะครับเรารู้ช้าไป อาการของเธอมันรุนแรงจนไม่สามารถแก้ไขได้ เธอจะลืมทุกสิ่งทุกอย่างในที่สุด และสุดท้ายเธอจะหมดเวลาชีวิต’
พระเอกหน้าซีดน้ำตาคลอ ผู้ชายก็ร้องไห้เป็นผมบอกแล้วว่า
‘เหลือเวลาอีกนานเท่าไรครับ’
‘สามเดือนครับ’

พระเอกพยักหน้ารับรู้แล้วลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูออกจากห้อง พระเอกเดินอยู่ทางไปห้องนางเอกหน้าดูเหม่อลอยเหมือนคนไร้วิญญาณ
หูผมได้ยินเสียงสะอื้นจะคนข้างๆผมหันไปมองแล้วก็เป็นดังคาดที่แก้มของเนวมีน้ำที่สะทอนกับแสงจากจอหนัง ผู้หญิงชอบอินกับผู้ชายแบบนี้
ถ้าผมขอเธอคืนดีตอนนี้มันจะได้ผลไหม

‘ฉันกำลังจะตาย’
ผมหันไปมองจอหนังอีกครั้งเห็นนางเอกกึ่งนอนกึ่งนั่งอยู่บนเตียงคนไข้ น้ำตาไหลเอื่อแก้ม
'ไม่เห็นเป็นไรเลยวันนี้คุณยังอยู่’ พระเอกทำเสียงร่าเริงเดินไปนั่งเก้าอี้ข้างเตียงมือข้างหนึ่งจับมือหญิงสาว ส่วนอีกข้างไปปาดน้ำตาบนหน้าเธอ
‘ออกไปฉันอยากอยู่คนเดี๋ยว’
‘ง่วงแล้วเหรอมาเดี๋ยวปรับเตียงให้’
‘ฉันบอกให้ออกไป ฉันกำลังจะตายเธอจะมาทนอยู่กับฉันทำไม’ นางเอกพูดไปโยนหมอนแจกัน ผ้าห่ม ใส่พระเอก พระเอกน้ำตาคลอเบ้ายืนนิ่งเป็นเป้าให้นางเอก มันบ้ารึเปล่าวะ

“ฮือๆ พรืดๆ” เสียงสาวข้างๆสะอื้นพร้อมสูดน้ำมูก
ที่หน้าพระเอกมีเลือดออกด้วย สงสัยเศษแจกันจะบาท พระเอกเอมมือมาแตะเลือด ตามองอยู่ที่นางเอก

‘ผมจะกลับไปก่อนแต่พรุ่งนี้ผมจะพาคุณไปจดทะเบียน’
นางเอกมองตามพระเอกที่เดินออกไปจากห้อง เธอร้องไห้หนักขึ้น พอๆกับสาวข้างๆของผม แล้วภาพก็ตัดไปที่โบสถ์ ไหนบอกว่าจดทะเบียนมาอยู่ที่โบสถ์ได้ไง

‘คุณจะยอมรับผผู้หญิงคนนี้เป็นภรรยาจะรัก ดูแล และซื่อสัตย์กับเธอหรือไม่’ บาทหลวงถามพระเอก
‘ครับ’ พระเอกตอบรับคำถามบาทหลวง แล้วหันไปมองหน้านางเอก เธอดูหน้าซีดมาก
ผมว่าไอ้พระเอกนี่มันหล่อไม่เบาเลยแต่ผมว่าผมหล่อกว่านะ
‘คุณจะยอมรับผู้ชายคนนี้เป็นสามี จะรัก ดูแล และซื่อสัตย์ต่อเขาหรือไม่’ บาทหลวงหันไปถามนางเอก เธอมองหน้าพระเอกเขายิ้มให้เธอ แล้วเธอก็หันไปมองบาทหลวง
‘ค่ะ’

กำลังซึ้งเลย ผมเอื่อมมือไปจับมือเนว เธอเอนหัวมาซบไหลผม น้ำตาเธอไหลลงมาเปียกต้นแขนผม
ภาพบนจอเปลี่ยนมาเป็นปัจจุบัน

“เวลาผ่านไปเร็วจริงๆนะคะ ฉันแทบจะจำอะไรไม่ได้เลย” นางเอกที่อยู่ในอ้อมกอดของพระเอกพูดทั้งน้ำตา
“แต่อย่างน้อยคุณก็ยังจำผมได้” พระเอกก้มไปหอมแก้มนางเอก
“อาจจะเป็นเพราะว่าฉันรู้จักคุณมานาน”
“นั้นสิครับเรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็กเรามีวันเวลาดีๆมากมายที่ทำร่วมกัน คุณจำเรื่องตอนที่เราเจอกันครั้งแรกได้อยู่รึเปล่า”

“ได้ค่ะ เรื่องนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ฉันไปอยากลืม ตอนนั้นเราทะเลาะกันจะเป็นจะตาย”

ผมอึ้งกับเรื่องของพระเอกนางเอก มันเหมือนเรื่องของผมกับนาจิ ที่ทะเลาะกันตอนเจอกันครั้งแรก

“โอ๊ย” นางเอกปวดหัวสลบคาอกพระเอก
ภาพตัดมาที่ห้องนอนนางเอกนอนอยู่บนเตียง

“ตื่นแล้วเหรอ”
พระเอกที่เพิ่งเปิดประตูห้องเข้ามายิ้มให้กับนางเอกที่เพิ่งตื่นในมือเขามีถาดข้าวต้ม นางเอกมองหน้าพระเอกแปลกๆ เอาแล้ว

“คุณเป็นใคร” ผมว่าแล้วว่านางเอกลืมพระเอกแล้วแน่ๆ พระเอกดูมึนๆไปนะ

“เอ่อ...” พระเอกยิ้มแล้วเดินไปวางถาดข้าวต้มไว้บนโต๊ะหัวเตียง แล้วนั่งลงที่เก้าอี้เอื้อมมือไปลูบแก้มนางเอก นางเอกเขยิบตัวหนี “ผมคือคนที่รักคุณที่สุดไงครับ มาทานข้าวต้มนะผมเพิ่งทำเสร็จ”

พระเอกยกชามข้าวต้มมาถือแล้วเอาช้อนตักข้าวต้มในชามเตรียมป้อนให้นางเอก นางเอกปัดชามข้าวต้มตกข้าวต้มที่ยังร้อนราดตัวพระเอก พระเอกลุกข้นเก็บชามใส่ถาดแล้วเดินออกจากห้อง

พอปิดประตูพระเอกทรุดตัวลงนั่งอย่างคนอ่อนแรงน้ำตาไหล

“พรืดๆๆ” เนวสูดน้ำมูกอีกครั้ง ที่แขนเสื้อผมเปียกจนรูสึกได้ ไม่รู้ว่าน้ำตาหรือน้ำมูก อะไรจะซึ่งขนาดนั้น

พระเอกกลับเข้ามาที่ห้องอีกครั้งพร้อมถาดข้าวต้ม นางเอกนอนอยู่บนเตียงเหมือนเดิมแต่มือของเธอตกอยู่ข้างเตียง พระเอกมีสีหน้าตกใจ ถาดในมือหล่นตกพื้น ขาสองข้างเดินช้าๆไปที่เตียง

“ที่รัก ที่รักคุณตื่นสิครับ” พระเอกช้อนตัวนางเอกมาไว้ในอกเขย่าตัวเธอมือสองข้างของเธอตกไปข้างตัว

พระเอกร้องไห้เหมือนคนไร้สติกอดร่างไร้วิญญาณนางเอกโยกไปโยกมา

ผมรู้สึกว่าวิสัยทัดในการมองเห็นของผมเริ่มลดลง ผมกำลังร้องไห้อยู่เหรอ
ไม่ ผมจะไม่ยอมให้คนที่ผมรักจากไปเป็นครั้งที่สองอีกแล้ว
“พี่ข้าวปั้น”
ผมหันไปมองหน้าเนว ตัดสินใจคุกเข่าลงข้างหน้าเนว ผมจะสร้างโอกาสให้เกิดขึ้นด้วยตัวผมเอง

“เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม เรื่องวันนั้นพี่ขอโทษ พี่ขอโทษจริงๆ พี่ทั้งโมโห น้อยใจปนเปกันไปหมด”
“พี่ข้าวปั้น”
ผมหยิบแหวนออกมาจากสร้อยคอ มันเป็นแหวนที่แม่ให้ผมมาเมื่อเดือนก่อน แม่บอกผมว่าให้ติดตัวไว้เพื่อได้ใช้ และวันนี้คงถึงเวลาที่ต้องใช้มันแล้ว
“พี่ขอจองเนวด้วยแหวนวงนี้ มันจะแสดงว่าต่อไปนี้พี่จะฟังเนวมากขึ้น เราหมั้นกันนะครับ”

“พี่ข้าวปั้น”
เนวร้องไห้ออกมาอีกครั้ง แต่ผมไม่รู้ว่าตอนนี้เธอยังโกรธผมอยู่ไหม แต่สิ่งผมอยากรู้ตอนนี้คือเธอจะยอมรับหมั้นผมไหม
“น้องคะยื่นมือให้แฟนสิคะ” พี่ผู้หญิงที่นั่ง่ใกล้ผมช่วยผมพูด
เนวยื่นมือมาให้ผม ผมสวมแหวนให้ทันที คนในโรงหนังตบมือให้เราสองคน ผมลุกขึ้นโค้งตัวไปรอบๆ ผมรู้สึกอายแล้วสิ
“เราไปกันเถอะ”
ผมพาเนวออกมาจากโรงหนัง เสียงตบมือยังไม่หยุดเลย ผมหันไปมองทุกคนแล้วโค้งอีกครั้ง ผมเห็นหน้าของแฟนแดงด้วยคงอายสินะผมยังอายเลย

“พี่ข้าวปั้นมัดมือชกเนวเอาแหวนคืนไปเลย”
พอออกจากโรงหนังเนวก็โวยวายใส่ผม ทำท่าจะถอดแหวนออก
“ไม่ต้องถอดเลยพี่ถือว่าทุกอย่างคือสิ่งที่เราสองคนเต็มใจ หรือว่าไม่จริง”
“บ้า-///-”


ตึก A มหาวิทยาลัย
เช้าวันนี้ผมไปรับเนวมามหา’ลัยด้วยกันเหมือเมื่อก่อน ทำให้ผมมีกำลังใจทำงานเพื่อมหา’ลัยมากขึ้นเยอะอย่างเช่นวันนี้มีเอกสารที่ไอ้น้องชายผมมันมาวางทิ้งไว้บนโต๊ะเกี่ยวกับค่ายอาสาผมอ่านรวดเดียวจบอนุมัติไปเรียบร้อย
ส่วนตอนนี้ก็นั่งตรวจงานที่ค้างมาตั้งแต่หลายอาทิตย์ที่แล้วที่ผมอกหักจนไม่เป็นอันกินอันนอน
“ดีกันแล้วเหรอ ^^”
พี่โมจิเปิดประตูห้องผมเข้ามาพร้อมรอยยิ้มร่าเริง
“ครับ ^///^”
“นายดูมีความสุขมากเลยรู้ตัวไหม”
“ครับ ^///^”
“พี่เองก็ดีใจนะ เนวเขาเป็นเด็กดีเธอรักนายมากเลยนะพี่ว่า”
“...” อยู่ๆพี่โมจิก็ตีหน้าเครียด
“สิ่งที่สำคัญคือความเชื่อใจ เรื่องบางเรื่องถึงเวลานายก็รู้เอง”
“พี่โมจิรู้เรื่องอะไรพี่บอกผมไม่ได้เหรอ”
“ขอแค่เชื่อใจกันต่อให้ไม่รู้เรื่องพี่รับรองนะว่าไม่มีอะไรในโลกนี้ที่จะทำให้นายกับเนวเลิกกันจำไว้ พี่ไปดีกว่าเที่ยงแล้วบูมรออยู่ ^^” อารมณ์เปลี่ยนได้ตลอดเวลา

พี่โมจิเดินออกไปแล้วทิ้งความสงสัยไว้ให้ผม
ทำไมพี่โมจิกับซูชิ ชอบพูดอะไรให้สงสัยตลอดเลย ‘ถึงเวลาเดี๋ยวก็รู้’ เนวเธอปิดปังอะไรผมไว้กันแน่ แล้วก็บอกให้เชื่อใจๆ ใครจะเชื่อได้สนิทใจกันเหล่า แต่ยังไงก็ตามผมไม่ยอมเลิกกับเนวอีกเด็ดขาด
แต่ตอนนี้ไปรับแฟนสุดที่รักไปทานข้าวก่อนดีกว่า แค่คิดถึงเนวผมก็มีความสุขแล้ว ^^


เนวดี Talk
ลัน ลัน ลา ลัน ลัน ลา
“หน้าชื่นตาบานเลยนะ”
นี่คือเสียงยัยเพื่อนรักของฉันแซวด้วยประโยคนี้มาไม่รู้กี่รอบ แต่คนถูกแซวอย่างฉันไม่ปริปากพูดกับมันซักคำ ถึงสิ่งที่เธอทำมันจะเป็นผลดีแต่เธอก็หลอกฉัน ไม่หายโกรธง่ายๆหรอก
“เนวเธอยังไม่หายโกรธฉันอีกเหรอฉันหวังดีนะ”
ฉันเดินแบบเร็วๆโดยไม่หันไปมองยัยแคว ต้องให้รู้สึกซะมั่งว่าโนหลอกมันรู้สึกยังไง ก็ความจริงแล้วฉันไม่ได้โกรธมันสักหน่อย
“ยิ้มแล้ว เธอยิ้มแล้วหายโกรธฉันแล้วใช่ปะ”
“ย่ะ แต่ถ้าวันหลังเธอหลอกฉันอีกนะ”
“ไม่แล้วๆ ต่อไปนี้ฉันจะไม่หลอกเธออีกแล้วสัญญาๆ” แควพูดน้ำเสียงอ้อนๆพร้อมชูนิ้วก้อยให้ฉัน
“อืม” ฉันส่งนิ้วก้อยไปเกี้ยวตอบ
“สาวๆทำอะไรกันครับ”
ฉันหันไปตามเสียงเป็นพี่ภูนั้นเอง ส่วนคนที่ตามหลังมาคือสุดที่รักของฉัน หน้าหล่อๆพร้อมรอยยิ้มของเขา ทำฉันหน้าร้อนๆอดยิ้มไม่ได้ ก็เป็นแบบนี้แล้วจะให้ฉันหนีรอดได้ยังไง

“เหนื่อยไหมครับที่รัก”
ฉันส่ายหน้า ยิ้มพร้อมมองหน้าพี่ข้าวปั้น
“หวานไปไหมไอ้ปั้นตอนโกรธกันก็เอาเป็นเอาตายกันไปข้างจะช่วยทำให้พอดีๆไม่ได้เหรอว่ะ”
“ไม่ได้โว้ยคนรักกันก็ต้องแสดงออกให้เยอะๆว่ารักกันสิ”พี่ข้าวปั้นพูดด้วยรอยยิ้มหวานๆเอื้อมมือมาจับมือฉัน
“เออจริง” พี่ภูไม่น้อยหน้าจับมือยัยแควไว้แน่น
“พี่ข้าวปั้นคะ วันศุกร์นี้เราจะไปค่ายอาสาแล้วเหรอคะเนวเห็นป้ายประกาศที่บอร์ด”

“ใช่พรุ่งนี้ก็ประชุมแล้วก็แจกตารางงานให้กรรมการ อาทิตย์หนึ่งก็น่าจะพอไปเช้าวันศุกร์กลับเช้าวันศุกร์ของอีกสัปดาห์หนึ่ง”
“มัวแต่พูดเรื่องงานกันอยู่นั้นแหละไปหาอะไรกินกันดีกว่า”พี่ภูคงทนหิวออกปากชวน
“ใช่คะแควหิวมากๆเลยเสียแรงง้อยัยเนวตั้งนาน”
“ฮา ฮา ฮา”
ทุกคนหัวเราะยัยแควที่ทำหน้างอนๆใส่ฉัน
มีความสุขที่เป็นแบบนี้จังมีแต่เสียงหัวเราะ ไม่ต้องมานั่งร้องไห้เหมือนตอนที่เลิกกับพี่ข้าวปั้น รักๆกันไว้น่ะดีแล้ว
///////////////////////////////////////////////////////////
คืนดีกันสักที ดีใจด้วยนะ

ง่วงแล้ว พรุ่งนี้จะมาโพสถึงตอนจบเลย

อย่าลืมติดตามอ่านกันนะ

ฝันดีทุกคนค่ะ



เพียงใจกล้า
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 ธ.ค. 2555, 23:03:29 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 ธ.ค. 2555, 23:03:29 น.

จำนวนการเข้าชม : 1072





<< ตอนที่16 -->>เรื่องปลกๆที่ห้องคุณลุง   ตอนที่18 -->> เจอคุณพ่อครั้งแรกในรอบสิบสามปี >>
เพียงใจกล้า 12 ธ.ค. 2555, 23:06:38 น.


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account