เหตุร้าย...พรางใจรัก
เพราะน้องชายของเธอ ดันไปพาน้องสาวของผู้ชายใจร้ายหนี เธอเลยต้องมารับกรรมอยู่แบบนี้ ทั้งๆที่เขาก็ร้ายแสนร้าย แต่ทำไมอยู่ๆหัวใจเจ้ากรรมถึงได้เต้นตึกตักเวลาเจอเขาก็ไม่รู้ ...
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทนำ - ตอนที่ 1

ใบหน้าวงรีก้มลงมองการ์ดสีชมพูในมือตนแล้วก็ต้องถอนหายใจยาว ยิ่งมองดูชื่อเจ้าสาวบนการ์ดก็ได้แต่กลุ้มใจ งานแต่งงานจะจัดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่เหตุการณ์ร้ายๆกลับเกิดขึ้นอย่างไม่คิดว่าใครจะกล้าทำเรื่องราวใหญ่โตแบบนี้ขึ้นได้

‘ว่าที่เจ้าสาวหนีงานแต่งไปกับผู้ชายคนอื่น!’ แล้วยิ่งไม่อยากจะเชื่อว่าหนึ่งในตัวต้นเหตุนั้นจะเป็นน้องชายของเธอเอง

เมื่อหลายวันก่อน เธอแทบไม่สังเกตความผิดปกติของศิวาเลยแม้แต่น้อย ทั้งๆที่เขากำลังตระเตรียมการใหญ่อยู่ อาจจะเป็นเพราะเธอเองก็มัวแต่ยุ่งเรื่องงานจนไม่ทันได้ใส่ใจน้องชายมากพอที่จะรู้ อยู่บ้านเดียวกันแท้ๆ ใครจะไปคิดกันล่ะว่านายศิวาที่เคยทำแต่เรื่องถูกต้องมาตลอด ทั้งเรื่องเรียน และการทำงาน เขาก็ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสีย คิดมิชอบในทางทุจริตเลยสักอย่างจะมาพาว่าที่เจ้าสาวหนีงานแต่งงานไปเสียแบบนี้ได้ ศศิมาได้แต่ถอนหายใจ เธอไม่รู้เลยว่าจะตอบคำถามมารดาที่ป่วยเป็นโรคหัวใจอย่างไรดีเมื่อน้องชายเพียงคนเดียวมาตกเป็นผู้ต้องการพาว่าที่เจ้าสาวหนีแบบนี้

‘เราพบจดหมายนี้ในห้องนอนของคุณรติรส’ ในเช้าวันทำงานวันหนึ่ง ผู้ชายในชุดสูท ท่าทางน่ากลัวยื่นกระดาษใบหนึ่งมาตรงหน้า เขามาโรงแรมที่เธอทำงานอยู่ เพื่อบอกให้เธอทราบในสิ่งที่เธอก็เพิ่งจะรู้ในวินาทีนี้ ศศิมามองกระดาษแผ่นนั้นก่อนจะรับมาประคองไว้ในมือตน ก้มอ่านอย่างระมัดระวังในทุกตัวอักษร

" พี่รามคะ น้องขอโทษ ที่น้องแต่งงานกับพี่ธนาไม่ได้จริงๆ น้องมีคนที่น้องรัก และน้องไม่คิดว่าจะสามารถใช้ชีวิตกับใครคนอื่นได้ น้องรักเขา ได้โปรดอย่าตามหาน้องเลยนะคะ ขอให้น้องได้ใช้ชีวิตของน้องเอง หากมีโอกาสสักครั้งที่พี่รามให้อภัยน้อง น้องจะขอกลับมากราบขอโทษพี่ชายที่แสนดีคนนี้สักครั้งก่อนที่น้องจะตาย น้องหวังว่าจะมีวันนั้นค่ะ รักพี่ราม จากรติรส "

ศศิมามือสั่น เธอรู้จักหญิงสาวที่ชื่อ 'รติรส' ดี เพราะน้องชายของเธอก็เคยพาหญิงสาวใบหน้าหวานคนนี้มาที่บ้านหลายครั้ง ศศิมาเองก็ชอบรติรสไม่น้อยเลย รติรสเป็นผู้หญิงที่ดีพร้อมทุกอย่าง ทั้งฐานะ การศึกษา มารยาท เธอยังคิดเลยว่าผู้หญิงที่เพียบพร้อมแบบนี้จะสามารถอยู่เคียงข้างศิวา ผู้ชายที่ธรรมดาในทุกเรื่องได้จริงๆหรือ แม้ว่าศิวาจะเป็นผู้ชายที่ดีคนหนึ่งก็ตาม

จนกระทั่งศิวามาบอกกับเธอในคืนหนึ่งว่า รติรสจะแต่งงานกับคนที่ทางบ้านหาให้ ทั้งๆที่รติรสเพิ่งจะเรียนจบในปริญญาตรี ศิวาเสียใจจนซูบผอมที่เขาไม่มีอะไรที่เหมาะสมกับรติรสสักอย่าง แม้แต่โอกาสจากการพยายามผลักดันตัวเองจนกลายเป็นพนักงานดีเด่น หากเพราะฐานะ ชาติตระกูลมันไม่ได้เปลี่ยนความเป็นจริงได้ เมื่อรติรสก็ยังคงเป็นหงส์ที่เขาไม่สามารถเอื้อมถึงได้อยู่ดี

เมื่อความรักไม่ใช่สิ่งที่คนรอบข้างรติรสสนใจ

‘ดิฉันไม่ทราบว่า มันเกี่ยวอะไรกับดิฉัน’ ศศิมากลั้นใจยื่นกระดาษกลับไป เธอพยายามไม่คิดว่าน้องชายตนไปมีเอี่ยวอะไรด้วย เธอไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น ศิวาจะต้องไม่ทำเรื่องแบบนี้

‘คุณเป็นพี่สาวของนายศิวา ไม่ใช่หรือครับ’ ชายในชุดสูทถามกลับ เขาเพ่งมองราวกับจะจ้องอาการโกหกของเธอไปด้วย

ศศิมารู้สึกถึงเม็ดเหงื่อข้างๆใบหน้า ทั้งที่เครื่องปรับอากาศตรงล้อบบี้โรงแรมที่เธอทำงานอยู่จะเย็นสบายมากก็ตาม

‘ใช่ค่ะ ดิฉันเป็นพี่สาวของศิวา แล้วอย่างไรหรือคะ คุณคิดว่าการหายตัวไปของน้องรส เอ่อ คุณรติรสจะเกี่ยวข้องกับศิวาหรือคะ’ ศศิมาเชิดคอถามกลับ เธอไม่อยากถูกคนตรงหน้าข่มเอาได้ ถึงเขาจะเป็นคนจากตระกูลพัชระรุจิโรจน์ เจ้าของกิจการโรงแรมใหญ่ คู่แข่งตัวฉกาจก็ตาม แม้โรงแรมที่หญิงสาวทำงานอยู่จะเล็กกว่าจนไม่ควรไปอาจหาญใส่ แต่อย่างน้อยๆเธอก็เป็นถึงผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของที่นี่

‘ใช่ครับ ทางเราคิดแบบนั้นกัน’ อีกฝ่ายไม่อ้อมค้อม ศศิมาจ้องเขม็ง ไม่ยอมรับที่อีกฝ่ายพยายามยัดเยียดข้อกล่าวหาใส่น้องชายของเธอ

‘มีหลักฐานอะไรคะ’ ถามกลับอย่างไม่ยี่หระ

‘เราติดต่อไปที่บริษัทซอฟแวร์ที่นายศิวาทำงานอยู่ เขาไม่ได้ไปทำงานในวันนี้’ คำตอบของอีกฝ่ายทำเอาศศิมารู้สึกเหมือนหัวใจโดนบีบ เธอพยายามปฏิเสธ ไม่ยอมรับว่าน้องชายเธอจะทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้ได้ลง ‘หรือถ้าคุณสามารถติดต่อศิวาได้ ..’

ศศิมาเม้มปากอย่างครุ่นคิด ก่อนที่เธอจะเดินไปที่ฟรอนท์ของโรงแรม ขอต่อสายออกไปยังโทรศัพท์มือถือของน้องชาย และก็ไม่สามารถติดต่อได้จริงๆ เธอลองโทรศัพท์กลับไปที่บ้าน

‘แม่คะ ศิวาอยู่หรือเปล่าคะ’ ศศิมาถามมารดาผ่านโทรศัพท์

‘ไม่อยู่จ้ะ ศิวาไปทำงานไมใช่หรือลูก ศศิ มีอะไรหรือเปล่า’ วิภาดาถามกลับ ศศิมารีบปฏิเสธไป ด้วยกลัวมารดาจะคลางแคลงสงสัยขึ้นมา

‘เปล่าค่ะแม่ พอดีศศิลืมไปว่าวันนี้ศิวาไปทำงานน่ะค่ะแม่ งั้นแค่นี้นะคะ’ ศศิมาวางหูลง ใจกลัดกลุ้ม เสียงของชายในชุดสูทดังขึ้นเบื้องหลัง

‘อย่าปฏิเสธเลยครับ เราต่างรู้ดีในความสัมพันธ์ระหว่างคุณหนูกับนายศิวาเป็นอย่างไร คุณก็รู้ใช่ไหมครับ ขอร้องเถอะครับ คุณรู้ไหมว่า มีที่ไหนที่นายศิวาจะไปบ้าง เราจำเป็นต้องรีบพาตัวคุณหนูรติรสกลับมาให้ไวก่อนวันอาทิตย์นี้ ก่อนที่ ...’

มานพ ชายในชุดสูทเงียบลงไป เขาเองก็ร้อนใจไม่แพ้หญิงสาวหรอก เขาไม่อยากให้นายผู้ชายทั้งสองรู้ว่ารติรสหายตัวไปแบบนี้ ในระหว่างที่นายผู้ชายทั้งสองต้องบินไปทำงานต่างประเทศ อาทิตย์นี้ก็จะเดินทางกลับมาเพื่อจัดการงานแต่งงานของรติรส ผู้เป็นแก้วตาดวงใจของนายผู้ชายทั้งสองคน มานพเลขาฯของ คุณจิตรี ผู้เป็นอาสาวของรติรสสั่งให้เขารีบตามหาตัวว่าที่เจ้าสาวให้พบ เพราะแม้แต่เธอเองยังไม่กล้าจะเล่าเรื่องนี้ให้พี่ชายและหลานชายฟังเลย เขารู้ดีว่าหากสองคนนั้นรู้ เรื่องราวจะต้องเลวร้ายลงกว่าเก่าแน่นอน ทางว่าที่เจ้าบ่าวยังพอปิดบังได้ เพราะรายนั้นก็เอาแต่ทำงานจนไม่ได้มาสังเกตหรอกว่ารติรสจะไปไหนหรือทำอะไรในแต่ละวันบ้าง

บางทีมานพและจิตรีก็คิดสงสารรติรสไม่น้อย เพราะธนาเอง นอกจากเรื่องรวยแล้ว ก็ไม่เห็นว่าธนาจะสนใจรติรสอย่างจริงจังสักเรื่อง

‘ดิฉันไม่ทราบจริงๆค่ะ เพราะดิฉันเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าศิวาจะทำเรื่องแบบนี้ได้ลง’ ศศิมาปฏิเสธอีกฝ่ายไม่ลงจริงๆ ในเมื่อเด็กสองคนรักกันขนาดนั้น ถ้ารติรสหนี ไม่มีทางที่จะเป็นคนอื่นพาไปได้ เธอยอมรับด้วยหัวใจกลัดกลุ้ม

เมื่อตอบไปเช่นนั้น ผู้ชายในชุดสูทก็ยอมล่าถอยไป ศศิมาแทบไม่มีสมาธิในการทำงานเลยวันนั้น

จนกระทั่งผ่านมาถึงวันอาทิตย์แล้ว ทั้งบิดาและพี่ชายของรติรสก็เดินทางกลับมาแล้ว งานแต่งงานถูกเลื่อนออกไปด้วยเหตุผลว่ารติรสป่วยหนัก การ์ดในมือของเธอก็ไร้ความหมายไปเรียบร้อยแล้ว แต่ ... ศิวาก็ยังไม่ยอมติดต่อกลับมา ศศิมาได้แต่เก็บทุกอย่างไว้เพียงลำพัง และบอกมารดาไปว่าศิวาไปทำงานต่างจังหวัดสักพัก นายมานพนั่นก็โทรศัพท์มาถามเธอทุกวัน แต่ศศิมาก็ไม่มีคำตอบใดๆให้เขาได้เลย


ตอนที่ 1


ไอซีตี้ แกรนด์ ริเวอร์ไซส์ โฮเทล แทบแตก และไม่เป็นอันทำงาน เมื่ออยู่ๆชายหนุ่มร่างสูงที่ใครๆก็ไม่คาดคิดว่าจะมาเยือนได้ปรากฏกาย ยืนอยู่กลางล้อบบี้

“ผมต้องการพบผู้หญิงที่ชื่อ ศศิมา!” เขาประกาศกร้าวกับพนักงานต้อนรับของโรงแรมสาว

“เรากำลังไปตามให้อยู่นะคะ ใจเย็นๆนะคะ” แม้เธอจะบอกเขาแบบนี้สักกี่ครั้ง ชายหนุ่มที่เหมือนภูเขาไฟกำลังระเบิดก็ยังไม่ยอมสงบลงสักที

“แล้วทำไมยังไม่มา ผมต้องการพบ เดี๋ยวนี้ คุณรู้ไหมว่าน้องสาวผมหายไป” เขาแทบตวาดใส่พนักงานต้อนรับสาวผู้โชคร้าย ที่ต้องมารองรับอาการโมโหจนควบคุมสติไม่ได้ของชายผู้นี้

“ดิฉันทราบว่าน้องสาวคุณหายไป” เสียงเรียบๆหากมีความแข็งกร้าวอยู่ในทีของหญิงสาวดังขึ้นข้างๆ ชายหนุ่มร่างสูงหันใบหน้าอันหล่อเหลาที่เรียกได้ว่า หากได้จ้องมองแล้วหญิงสาวแทบทุกคนจะต้องหลงใหลในดวงตาคมคู่นี้

แม้แต่ศศิมาเองก็เถอะ เธอยังเผลอใจเต้นเมื่อเขาหันมามองจ้องเธอแบบนี้

“คุณ?”

“ดิฉันศศิมาค่ะ ถ้าคุณจะกรุณา เราไปคุยกันที่ด้านในได้ไหมคะ คุณกำลังทำให้แขกของโรงแรมเราตกใจอยู่” ศศิมาพยายามควบคุมใจที่เต้นแรงอยู่ พร้อมๆกับแก้ไขปัญหาสถาณการณ์ตรงหน้า

ชายหนุ่มเหลือบมองไปยังแขกต่างชาติที่หันมองเขาเป็นสายตาเดียวกัน ในฐานะที่เขาเองก็เป็นเจ้าของโรงแรมยักษ์ใหญ่ เขาจึงตอบรับโดยดี

“ได้ นำไปสิ” เสียงห้าวสั่งอย่างมีอารมณ์ครุกรุ่นอยู่ ศศิมาขมวดคิ้ว เธอพยายามใจเย็นแม้จะไม่พอใจในน้ำเสียงอีกฝ่าย หมุนกายเดินนำเขาไปยังห้องประชุมเล็กด้านใน เธอไม่คิดว่าเขาจะมีสิทธิ์ตวาดหรือสั่งใครด้วยน้ำเสียงแบบนี้ แม้เขาจะเป็นคุณ ราม พัชรรุจิโรจน์ ผู้ร่ำรวยและเก่งกาจก็เถอะ!



ภายในห้องประชุมเล็กๆ ศศิมาเชิญให้ชายหนุ่มนั่งลงยังเก้าอี้ตัวหนึ่งของโต๊ะประชุมกลมๆขนาดหกคนนั่ง ก่อนจะหันไปเรียกสั่งให้เด็กไปเตรียมเครื่องดื่มมารองรับเขา ทว่าชายหนุ่มก็ปฏิเสธอย่างรำคาญ
“ไม่ต้อง รีบๆบอกมาซะดีๆว่าน้องสาวผมอยู่ไหน!”

ศศิมามองคนตัวสูงตรงหน้า ด้วยท่าทีนิ่งๆ
“ทางคุณมานพไม่ได้แจ้งคุณหรือคะว่าดิฉันเองก็ตามหานายศิวาอยู่เหมือนกัน” เธอย้อนถามเขากลับ

รามจึกจักในลำคออย่างอารมณ์เสีย เมื่อถูกยอกย้อนแบบนี้
“บอก แต่ผมไม่เชื่อหรอก มีหรือคุณจะไม่รู้ คุณจะเอาเท่าไหร่ กี่ล้าน ผมจะให้ เอาน้องสาวผมคืนมา!”

“คุณราม คุณกำลังดูถูกดิฉัน ดิฉันไม่เคยต้องการเงินของใคร การที่ศิวาจะรักน้องรส ก็ไม่ใช่เพราะเงิน กรุณาเข้าใจด้วยนะคะ” แม้ศศิมาจะพยายามควบคุมสติมากแค่ไหน แต่เมื่อถูกอีกฝ่ายพูดใส่แบบนี้ เธอก็ชักจะอารมณ์ขึ้นเหมือนกัน

“แล้วจะเอาอะไร! คนที่ฐานะแบบคุณ มีไม่กี่เหตุผลหรอกที่จะอยากคบกับคนที่ต่างฐานะอย่างน้องสาวผม อย่าปฏิเสธเลย”

“คุณราม!” ศศิมาจ้อมเขาเขม็ง ดวงตาคมที่แม้จะดุราวกับเสือสิงห์แทบจะกลืนกินสรรพสิ่งตรงหน้า หากศศิมาก็ไม่หวาดกลัวเลยแม่แต่น้อย ผู้ชายคนนี้เลวร้าย และร้ายกาจจนเธอรู้แล้วว่าทำไมรติรสถึงได้ตัดสินใจหนี จนยอมทิ้งทุกอย่างที่ใครหลายคนอย่างมี อยากได้ ไปตายเอาดาบหน้าแบบนี้ เพราะคงทนไม่ได้กับผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่ แต่ช่างไร้น้ำใจ ความอารีต่อน้องสาวจนเลวร้าย น่ากลัวขนาดนี้!

“ทำไม มองผมทำไม ถ้าคุณยังไม่บอกให้น้องชายคุณเอาน้องสาวผมมาคืน ผมจะแจ้งความ” รามขู่ แต่คนฟังกลับไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย

“รติรสอายุบรรลุนิติภาวะแล้ว แถมจดหมายก็เป็นการบอกว่าเธอยินยอมที่จะหนีไปกับน้องชายดิฉัน คุณจะเอาผิดเรื่องอะไรคะ อีกอย่างดิฉันก็ไม่เชื่อหรอกว่าคุณจะกล้าไปแจ้งตำรวจ”

“อย่าท้านะ” รามชี้ไปยังคนตัวเล็กกว่าตรงหน้า ซึ่งเวลานี้เขากลับไม่ได้รู้สึกเลยว่าศศิมาจะเป็นเพียงแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างที่เขาเห็นผ่านแววตาเขาจริงๆ อาจจะเพราะท่าทีที่นิ่ง และสุขุม ผมที่เกล้าเป็นมวยเรียบร้อยเป็นทางการ เพราะศศิมาก็ต้องออกพบลูกค้าบ้าง อีกอย่างงานโรงแรมก็ต้องแต่งตัวให้เป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่แล้ว

“ดิฉันไม่เคยท้าใคร แต่เพราะว่าดิฉันรู้จักราม พัชรรุจิโรจน์ดีต่างหากล่ะคะ คุณหวงแหนชื่อเสียงน้องสาวคุณมากขนาดไหน แม้น้องรสจะหนีไป คุณยังสามารถสร้างเรื่องหลอกใครๆได้เลยว่ารติรสป่วยจนต้องเลื่อนงงานแต่งออกไป แล้วการแจ้งตำรวจ มันก็จะทำให้ทุกคนรู้ รู้ว่าน้องสาวคุณหนีตามผู้ชายไป”

“นี่คุณ!” รามมองราวกับจะกลืนกินศศิมาลงคอ เขาไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนกล้าตีฝีปากกับเขาเช่นศศิมาเลย มิหนำซ้ำยังทำเอาเขาพูดอะไรไม่ออก เพราะยัยผู้หญิงคนนี้ทำเหมือนมานั่งอยู่ข้างๆเขาทุกวินาที จนรู้ทุกสิ่งที่อยู่ในหัว รู้ทุกอย่างที่เขาคิดแบบนี้ แล้วอยู่ๆรอยยิ้มเหยียดยาวบนใบหน้าหล่อเหลา ที่ทำให้ศศิมารู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว ... เธอรู้จักเขาดี ว่านอกจากที่เธอพูดไปนั้น รามยังเป็นผู้ชายเจ้าแผนการ จนได้ชื่อว่าเป็นเสือตัวหนึ่งในวงการธุรกิจ!

“โอเค! รู้จักผมก็ดีแล้ว เราจะได้คุยกันง่ายๆ ... แต่ว่านะ คุณศศิมา ผมยังมีอะไรที่คุณไม่รู้อีกเยอะ แล้วคุณจะได้เห็น” รามทิ้งท้ายด้วยแววตาที่สาปให้หญิงสาวกลายเป็นหินไปทั้งตัว ก่อนจะเดินออกจากห้องประชุมเล็กไป ศศิมาล้มลงนั่งบนเก้าอี้ เธอรู้สึกสังหรณ์ใจว่าจะต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นตามมาอีกแน่ๆ เธอกยกฝ่ามืออันเย็นเฉียบปิดหน้าอย่างกลุ้มใจ

ศิวาเอ๋ย อะไรทำให้น้องกล้าเล่นกับผู้ชายน่ากลัวแบบนี้กันนะ แล้วป่านนี้น้องจะเป็นอย่างไรบ้าง!

ศศิมาพยุงกายเดินออกมาจากห้องประชุมเล็กอย่างหมดแรง เสียงหนึ่งดังเรียกเธอ

“ศศิ! เป็นอย่างไรบ้าง ผู้ชายคนนั้นเขาคือนายรามนี่ มาทำอะไรที่นี่น่ะ” ดวิษ ชายหนุ่มเพื่อนร่วมงาน และเคยเรียนร่วมสถาบันเดียวกันมาเอ่ยถาม แต่เวลานี้ศศิมาปวดหัวมากจนไม่อาจจะเล่าหรือตอบอะไรได้ไหว

“ขอโทษนะ วิษ เราปวดหัวมากเลย ไว้เราค่อยเล่าให้ฟังนะ” ศศิมาพูดจบก็ขอตัวไปพัก แม้ดวิษจะเป็นห่วงศศิมามาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย



บ้านหลังเล็กๆท่ามกลางต้นไม้น้อยใหญ่ที่แออัดจนครึ้มบ้านไปหมดซึ่งแม้จะมีกันสามคนแม่ลูก ก็เต็มไปด้วยความอบอุ่นเสมอๆ ศศิมาในที่ทำงานอาจจะดูเนี้ยบไปทุกเสียระเบียบนิ้ว แต่เมื่ออยู่บ้าน เธอก็เป็นแค่ผู้หญิงสบายๆคนหนึ่งที่ดูแลแม่และน้องชาย คุณวิภาดาอายุมากแล้ว แถมยังป่วยอีกเพราะทำงานหนักมาทั้งชีวิตหลังจากเลิกรากับชาตรี บิดาของเธอไป ทำให้ศศิมาต้องเป็นหลักเป็นแรงของบ้าน หาเงินมาจุนเจือทุกสิ่งอย่าง นี่ยังดีที่ศิวาทำงานมาสองปี ก็มีเงินมาช่วยเหลือกันเยอะขึ้น ทำให้ฐานะสบายขึ้นหน่อย

ศศิมานั่งเหม่อลอยอยู่ตรงระเบียงบ้าน แม้มารดาจะเดินเข้ามาใกล้เธอก็ยังไม่รู้สึกตัว

“ศศิ ลูกมีอะไรกลุ้มใจหรือเปล่า” วิภาดาเอ่ยถามขึ้น ทำให้ศศิมาสะดุ้ง ก่อนจะหันไปส่งยิ้มให้มารดา

“ไม่มีค่ะ ศศิคิดอะไรเพลินๆนิดหน่อย ... คิดถึงน้องด้วยค่ะ” ศศิมาตอบความจริงในใจ ไม่รู้ป่านนี้ศิวาจะเป็นอย่างไรบ้าง

“ไม่ต้องห่วงน้องหรอก วันนี้ศิวาโทรฯมาหาแม่ บอกว่าสบายดี งานไม่ได้หนักอะไร” สิ่งที่วิภาดาเล่าทำให้ศศิมาตาโต รีบเข้าไปจับขามารดา เอ่ยถามอย่างตกใจ

“จริงหรือคะแม่ ศิวาโทรฯมาหรือคะ แล้วศิวาอยู่ไหนคะแม่!”

“อะไรกันศศิ ทำไมต้องเสียงดังด้วยล่ะ น้องไม่ได้บอกเราเหรอว่าไปไหน” วิภาดามองอย่างไม่เข้าใจ

“เอ่อ ศศิลืมน่ะจ้ะแม่ พอดีคิดถึงน้องอยู่ก็เลยเผลอเสียงดัง ว่าแต่น้องว่าไงบ้างคะแม่” ดวงตากลมมีแววอยากรู้เต็มที่ วิภาดาซึ่งไม่รู้เรื่องราวอะไรได้แต่ดีใจที่ศศิมากับศิวารักใคร่กันมากแบบนี้

“ศิวาบอกว่าสบายดี แต่เขาไม่ได้บอกนะอยู่ที่ไหน เห็นว่าตอนนี้กำลังเดินทางอยู่ แถมยังขอโทษเราด้วย แต่ขอโทษเรื่องอะไรก็ไม่ยอมบอกนะ”

ศศิมาฟังแล้วก็รู้ดีว่าสิ่งที่ศิวาบอกนั้นหมายถึงเรื่องอะไร ศศิมาไม่นึกโกรธน้องหรอก หากความเป็นห่วงมีมากกว่า เธออยากให้ศิวากลับมาและคืนรติรสให้ฝ่ายนั้นไป แต่ว่า ... พอนึกถึงใบหน้าเล็กๆของรติรสที่ต้องอยู่กับผู้ชายใจร้ายคนนั้นแล้ว เธอก็อดที่จะสงสารรติรสไม่ได้เลย หญิงสาวได้แต่กลุ้มใจ ด้วยไม่รู้จะทำอย่างไรดีกับปัญหานี้ แล้วเรื่องสังหรณ์ในใจอีกล่ะ ตั้งแต่เช้ามาจนหัวค่ำนี้ ความรู้สึกร้อนๆหนาวๆในใจยังไม่หายไปสักที



ศศิมามาทำงานในเช้าวันใหม่ แม้จะมีปัญหาหนักอกจนนอนไม่หลับ แต่เธอก็ต้องมีสมาธิกับงาน ทว่าระหว่างที่หญิงสาวกำลังนั่งอ่านเอกสารก่อนเข้าประชุมนั้น ผู้บริหารระดับสูงก็มีคำสั่งเรียกให้เธอเข้าไปพบ
“จริงๆแล้วคุณเป็นคนทำงานดีนะ คุณศศิมา” ชายหนุ่มวัยกลางคน ที่อำนาจในระดับรองจากเจ้าของกิจการโรงแรมแห่งนี้เอ่ยขึ้น

“แต่จากเหตุการณ์วันก่อน โรงแรมของเราได้รับผลกระทบมาก คุณก็รู้ใช่ไหม”

ศศิมาได้ฟังก็ต้องยอมรับ มันมีผลกระทบจริงๆ
“ค่ะ ดิฉันทราบ”

“เฮ้อ ปกติแล้ว มีเรื่องส่วนตัวจนกระทบเสื่อมเสียแบบนี้ เราคงต้องให้พนักงานพักงานสักระยะ แน่นอน เพราะผลงานคุณก็มี เราไม่อยากจะทำให้คุณเสื่อมเสียประวัติเลยนะ แต่คุณเข้าใจใช่ไหมว่าโรงแรมเราเล็กกว่าพัชระกรุ๊ปมากแค่ไหน ถ้าเขาบีบเรามากกว่านี้ พนักงานทั้งหมดคงต้อง ...”

“แต่ว่า ดิฉัน...” ศศิมาไม่คิดเลยว่า เธอจะถูกบังคับให้ ... ลาออกแบบนี้ ทั้งๆที่เธอทำงานดีมาตลอด

“เราทำอะไรไม่ได้จริงๆ คุณศศิมา อีกอย่างทางนู้นเขาก็บีบเราจริงๆ ...”

ผู้บริหารหนุ่มวัยกลางคนยังเอ่ยอะไรอีกมากมาย แต่ศศิมาก็ไม่ได้ยินอะไรต่อจากนั้นแล้ว เธอเห็นเอกสารใบหนึ่งยื่นมาตรงหน้า ข้อความบนหน้ากระดาษมีความหมายว่าเธอมีเจตจำนงขอลาออก ทางผู้บริหารยื่นเงินก้อนหนึ่งซึ่งมากกว่าเงินชดเชยจากการไล่ออกให้เธออีก หากเธอไม่ยอมเซ็น เธอก็จะต้องโดนไล่ออกอยู่ดี ด้วยความผิดที่ศศิมาทำให้โรงแรมเสื่อมเสียชื่อเสียง หรือหากจะมีเหตุผลมากกว่านั้น ศศิมาก็เชื่อว่ามันก็คงถูกสร้างขึ้นมาได้อยู่ดี ศศิมาไม่แปลกใจเลยกับเบอร์โทรศัพท์แปลกๆที่ดังขึ้น พร้อมกับเสียงห้าวที่เย้ยหยันเธอผ่านสัญญาณโทรศัพท์หลังจากเธอยอมเซ็นเอกสารแผ่นนั้นไป

“ไงล่ะ คุณรู้จักผมมากขึ้นหรือยัง คุณศศิมา”

“คุณ! คุณราม! ทำไมคุณต้องทำกับฉันถึงขนาดนี้ด้วย!” ศศิมาถามไป ดวงตากลมเต็มไปด้วยม่านน้ำใสๆ ที่ค่อยๆล้นออกมาอย่างเจ็บปวด

“คุณจะได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดของผมบ้างไง ว่าผมรู้สึกยังไงที่น้องสาวผมหายไปแบบนี้” รามตอบ

“จริงๆแล้ว คุณควรจะเข้าใจน้องรสมากกว่านะคุณราม ทั้งที่คุณเจ็บปวดจากการถูกพรากของรัก คนรักแบบนี้ คุณยังไม่เข้าใจจิตใจของน้องรสอีกหรือ” ศศิมาถามกลับ
“คุณไม่เคยรู้สึกถึงความเจ็บปวดของคนอื่น นอกจากตัวเอง คุณราม ดิฉันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมน้องรสถึงหนีจากคุณไป เพราะคุณมันร้ายกาย ทำลายคนอื่นแบบนี้!” ศศิมาเอ่ยบอกด้วยน้ำตานองหน้า เธอไม่รู้หรอกว่ารามจะหัวเราะอยู่ หรือโกรธที่ได้ยินเธอต่อว่าเขา มีเพียงเสียงของเขาที่ยังพยายามขู่เข็ญเธอดังผ่านมา

“แต่ถ้าคุณยังไม่ยอมบอกให้น้องชายคุณคืนน้องสาวให้ผม ผมจะทำลายชีวิตคุณมากกว่านี้อีก ศศิมา! อย่าหาว่าผมแค่ท้าคุณอีกก็แล้วกัน แล้วคุณจะรู้ว่าผมทำได้อีก ทำได้มากกว่านี้อีก!”

“เลว!” ศศิมาสบถใส่โทรศัพท์มือถือ ก่อนจะกดตัดสัญญาณทิ้ง เธอยกมือขึ้นปิดดวงตาที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำ นี่มันอะไรกัน ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้ชั่วร้ายขนาดนี้ ... แต่ว่า ... แต่ว่าแค่นี้ เธอไม่ยอมหรอก!

ศศิมาปาดน้ำตาทิ้ง เธอเดินกลับไปที่ห้องทำงาน ก่อนจะกวาดข้าวของทุกอย่างลงกล่องใบหนึ่งท่ามกลางความสงสัยของเพื่อนร่วมงานว่าเกิดอะไรขึ้น เธอหันไปยิ้มลาทุกคน ไม่มีใครกล้าถามนอกจากดวิษที่วิ่งตามเธอมา

“ศศิ เกิดอะไรขึ้น ทำไม”

“วิษ ศศิขอบคุณนะที่วิษเป็นห่วง แต่ศศิไม่เป็นไรหรอก” เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้

“ศศิได้งานใหม่เหรอ” ดวิษไม่รู้อะไรเลย เลยเดาแบบนั้น

ศศิมานิ่งไปนิด ก่อนจะพยักหน้ารับ เธอไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องมากกว่านี้ ก่อนจะเดินห่างออกมา
เธอจะต้องเตรียมใจให้มากกว่านี้ เพราะไม่รู้เลยว่า ราม พัชรรุจิโรจน์ จะทำอะไรเธออีก!

//พบกันใหม่ตอนหน้านะคะ :)



Hamster
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 พ.ค. 2554, 02:28:00 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 พ.ค. 2554, 02:32:16 น.

จำนวนการเข้าชม : 1701





   ตอนที่ 2 >>
HanA 23 พ.ค. 2554, 06:22:01 น.
เนื้อเรื่องหน้าสนใจค่ะ จะอัพจนจบเลยไหม ต่อไวๆนะ จะรอ...


anantalai 23 พ.ค. 2554, 09:27:26 น.
จะรอติดตามทุกตอนค่ะ...


Pat 23 พ.ค. 2554, 22:04:22 น.
^^น่าสนใจ


ปูสีน้ำเงิน 25 พ.ค. 2554, 02:21:29 น.
นายรามร้ายกาจมาก


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account