แผนร้ายในทางรัก
ยัยฝนตัวร้ายสร้างมายาให้นายมะนาวต้องตามเอาคืน ผลจะเป็นอย่างไร
Tags: แผนร้าย

ตอน: Special 1

แผนร้ายในทางรัก Special 1

สายตาแป๋วแหววเท้าคางจ้องมองแม่ ที่กำลังทำอาหารเย็นอย่างสนใจ บางครั้งก็เพ่งออกแนวกดดัน ทำหน้าสงสัยบ้าง ก่อนจะหันไปมองน้องสาวทารกในเปลเด็กอ่อน แล้วหันกลับมาจ้องแม่อีกครั้ง

กันพิรุณถอนหายใจยาว เมื่อมีลูกชายคอยเป็นผู้คุมแบบนี้ ดีที่วันนี้สามีกลับมาเร็ว เมื่อได้เห็นหน้าเขา เธอก็รีบเรียกทันที “ช่วยพาลูกไปเล่นหน่อยเถอะค่ะ ฝนไม่ไหวแล้ว ถ้าฝนไม่ทำกับข้าวก็ต้องอุ้มตลอด ถ้าไม่อุ้มก็จะร้องงอแงให้อุ้มตลอดเวลา”

“ฉันก็บอกฝนแล้ว ถ้าโอ๋ลูกมากๆ จะลำบากวันหลัง แล้วให้ไปเนิร์สเซอรี่ก็ไม่ยอม ไง อย่านั่งจ้องแม่แบบนี้สิ ไปเล่นกับพ่อดีกว่านะ” เรย์มอนด์วางของแล้วจะอุ้มลูก แต่ซัมเมอร์กอดอกแล้วก้มลงเม้มริมฝีปาก รู้ว่าลูกชายกำลังดื้อ จึงปลอบ “เดี๋ยวนี้ลูกไม่อยากเล่นกับพ่อแล้วเหรอครับ”

ซัมเมอร์ทำหน้างอ แล้วเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นพ่อมองไปทางอื่น ท่าทางกำลังเสียใจ จึงลงมายืนแล้วกอดพ่อเอาไว้ “แต่ถ้าหนูไม่เฝ้าหม่าม้าเอาไว้ หม่าม้าก็จะไม่สนใจหนูนี่นา สนใจแต่น้องเรนน่า”

“ก็น้องเรนน่าอายุไม่กี่เดือนเองนี่ครับ น้องทานได้น้อย หม่าม้าก็ต้องคอยป้อนนมบ่อยๆ นี่นา” เรย์มอนด์ต้องคุยแบบลดวัย ถ้าเป็นที่ โรงแรมเขาคงเป็นเจ้านายที่ดุสุดๆ

“หม่าม้าไม่ค่อยอุ้มหนูด้วย” ซัมเมอร์ได้ทีก็ฟ้องพ่อใหญ่

“ตัวโตขี้ตู่นี่ พอวางน้อง หม่าม้าก็อุ้มหนูตลอด สองพ่อลูกไปคุยกันทางโน้นเถอะ เดี๋ยวหม่าม้าจัดโต๊ะเสร็จจะเรียกนะครับ” กันพิรุณมองลูกชายจอมขี้ตู่ขี้ฟ้องแล้วก็ส่ายหน้า จากนั้นก็เหลือบมอง ลูกสาวที่ กลอกตาไปมาในเปลเด็กอ่อน

ช่วงท้อง พ่อเขาแทบไม่ให้เธออุ้มลูกชาย เพราะกลัวโน้นกลัวนี่ไป หมด ถ้าอยู่กับเขา คอยระมัดระวังจนแทบกระดิกไปไหนไม่ได้ พอเขาไม่ อยู่ เธอก็ค่อยมีเวลาอยู่กับลูกชายที่ตอนนี้เริ่มซนแล้ว ทำให้ไม่ค่อยระวัง และวิ่งเข้าหาเธอเสมอ นั่นคือสาเหตุที่สามีไม่ค่อยอยากให้ลูกชายวิ่งเข้า มากระแทกใส่เธอ

พอคลอดแล้ว เรนน่า กันวารี ริชมอนด์...ลูกสาวก็หิวบ่อย ทำให้ เธอต้องหันไปสนใจมากกว่าลูกชาย ทำให้ซัมเมอร์แอบเหงาอยู่บ้าง เพราะ เคยสำคัญที่สุดในบ้าน แต่แม่ต้องแยกประสาทสองทาง

ช่วงเรียน ก็ไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไร ยกเว้นวันไหนที่กันพิรุณอยากให้ ลูกได้อยู่บ้านบ้างเท่านั้น ซัมเมอร์จะเกาะติดแม่แจไม่ไปไหนทั้งนั้น ทำให้ เรย์มอนด์ต้องคอยเตือนให้เธอพาลูกไปที่เนิร์สเซอรี่

เมื่ออาหารพร้อมลงโต๊ะ กันพิรุณก็พาลูกสาวที่กำลังง่วงไปพักผ่อน ก่อนจะมานั่งลงที่โต๊ะ แล้วอุ้มลูกชายนั่งตัก แล้วเอาใจลูกชายมากขึ้น พอ ส่งลูกๆ เข้านอนแล้ว เธอก็มานั่งถอนหายใจที่เก้าอี้ยาว

“ไม่ต้องมาถอนหายใจเลยนะ เตือนแล้ว ว่าให้พาลูกไปเนิร์สเซอรี่ ช่วงปิดเทอม ไม่เชื่อเลย” เรย์มอนด์พูดแล้วหัวเราะ เมื่อเห็นภรรยาหมด แรงกับลูกสองคน

“เยาะเข้าไป เอ๊ะอะไร” กันพิรุณถูกจับไปกอด

“ไม่อะไรแล้วล่ะ นึกถึงเมื่อก่อน อวบๆ นุ่มๆ แบบนี้” เรย์มอนด์ไม่ พูดเปล่า ทั้งกอดทั้งจูบเลยทีเดียว

“เดี๋ยวสิคะ ขออาบน้ำก่อนได้ไหมคะ” เธอรู้ว่าเขาต้องการอะไร แม้ออกจะแปลกใจเพราะเห็นบ่นว่างานเครียด

“ก็ได้จ๊ะ ขอดูอะไรอีกหน่อยแล้วจะตามไป ห้ามหลับก่อนนะ ไม่งั้น โดนปลุก ห้ามโกรธ” เรย์มอนด์ตบสะโพกเธอเบาๆ ก่อนจะดูข่าวเศรษฐกิจ อีกพักหนึ่ง จากนั้นก็ต้องแปลกใจเมื่อภรรยาเดินลงมาจากข้างบน

“แหม รออยู่บนเตียงก็ได้จ๊ะ ที่รัก”

“เปล่าค่ะ แต่อยากให้ไปที่ห้องหน่อยค่ะ” เธอเข้ามาลากแขนเขา

“ใจเย็นๆ สิ ที่รัก ยังไงวันนี้ก็มีแรงอยู่แล้วล่ะ” เรย์มอนด์ไม่พูดเปล่า เขาจูบเธอร้อนแรงก่อนตวัดมืออุ้มเธอแล้วพาขึ้นชั้นบน ไม่ลืมปิดไฟชั้นล่าง

“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ คือต้องไปดูเองค่ะ ไม่อยากให้คุณผิดหวัง” กันพิรุณหัวเราะนิดๆ

เรย์มอนด์ออกจะแปลกใจที่เธอพูดชวนหัว และเมื่อถึงหน้าห้อง เขา ก็ต้องแปลกใจ เพราะกลางเตียงนอนมีอะไรบางอย่างอยู่ใต้ผ้าห่ม “เอา อะไรมาวางขวางอีกล่ะ คืนนี้ไม่สำเร็จหรอกนะ”

“วางฝนลงก่อนค่ะ แล้วไปดูเอง” กันพิรุณบอกเขา ก่อนปล่อยมือ ออกจากคอเขา เมื่อเขาปล่อยลง

เรย์มอนด์เดาได้รางๆ ว่าอะไรอยู่ใต้ผ้าห่ม ก่อนจะเดินไปเปิดออก ดู เห็นลูกชายนอนขดตัวอยู่กลางผ้าห่ม เขาพ่นลมหายใจแล้วอยากจะ หัวเราะ ก่อนช้อนอุ้มลูกชายกลับห้อง แต่เจ้าตัวเล็กสะดุ้งตื่นก่อน ก็ขัดขืน เป็นการใหญ่

“ขอหนูนอนกับพ่อ กับหม่าม้าไม่ได้เหรอฮับ” ซัมเมอร์ขัดขืนแต่ก็ พยายามกอดคอพ่อเอาไว้ไม่ให้ตก แม้จะยังไม่เข้าใจว่าพ่อเรย์เป็นพ่อแท้ๆ แต่เขาก็รักพ่อคนนี้ได้อย่างไร้ข้อกังขา

“พ่อกับแม่อยากให้หนูได้นอนหลับสบายๆ พ่อจะได้ไม่กลิ้งไปนอน ทับหนูไง” เรย์มอนด์พยายามอธิบายอย่างใจเย็นเหมือนทุกคืน

“พ่อไม่ทับหนูหรอก หนูรู้ ขอคืนนี้คืนเดียวนะฮับ” ซัมเมอร์พยายาม อ้อนวอน

“เอาอย่างนี้ดีกว่า พ่อแม่จะไปอยู่ข้างเตียงหนู จนกว่าหนูจะนอน หลับดีไหมครับ” เรย์มอนด์พยายามกล่อม จนลูกชายที่ยังคงทำหน้าขัด ใจต้องยอมจำนนซุกหน้าที่อกพ่อ เรย์มอนด์พยักหน้ากับภรรยา ก่อนจะ เดินตามกันไปที่ห้อง

เขากอดลูกชายอยู่บนเตียง แล้วมีภรรยาอีกด้านของเตียง ต่างก็ โอบกอดลูกชายเอาไว้คนละข้าง ขณะที่ซัมเมอร์นั้นง่วงเป็นทุนเดิม เมื่อ ได้ซุกอกแม่ อยู่ในอ้อมแขนพ่อ ก็ค่อยๆ หลับไปอย่างสงบ

เรย์มอนด์พยักหน้ากับภรรยา ก่อนจะค่อยๆ ดึงแขนกลับมาแล้ว ปล่อยให้ภรรยาวางลูกลงอย่างระมัดระวัง กันพิรุณถอนหายใจ ก่อนพากัน เดินออกจากห้อง หลังจากห่มผ้าแล้วก็เอาหมอนข้างมาให้ลูกชายกอดแทน

ทั้งสองปิดประตูห้องลูกชายแล้วถอนหายใจอีกครั้ง แล้วพากันกลับ ห้อง เรย์มอนด์จึงพูดขึ้น “ซัมเมอร์ดูจะขี้เหงาขึ้นเรื่อยๆ นะเนี่ย วันนี้ถึง ขั้นแอบขึ้นเตียงกันเลย” เขาพูดขณะกำลังถอดเสื้อออก

“นั่นสิคะ แหมก็นะ ลูกนอนเตียงเดียวกับฝนมาตั้งแต่แบเบาะ นะคะ เพิ่งจะปีเดียวเอง อีกอย่างคงจะอยากให้ฝนอยู่ใกล้ๆ ด้วยแหละค่ะ” กันพิรุณจัดที่จัดทางบนที่นอน และเตรียมนอนหลับพักผ่อน หากต้อง ตกใจ เพราะเขารวบไปกอด “อะไรกันคะ ยังมีอารมณ์อีกเหรอ”

“มีสิ แต่ขออาบน้ำก่อน ห้ามหลับเป็นอันขาด” เรย์มอนด์ใช้น้ำเสียง กึ่งออกคำสั่ง

“ค่ะ ห้ามอาบนานนะคะ ถ้าหลับก็ปลุกแล้วกัน” กันพิรุณต้องยอม อย่างเสียไม่ได้ เพราะเห็นใจเขาอยู่เช่นกัน และรู้อยู่ว่ากิจกรรมคลาย เครียดของเขาคืออะไร

เรย์มอนด์จูบเธอซ้ำๆ อีกหลายครั้ง ก่อนเข้าห้องน้ำ อาบน้ำจน เสร็จแล้วค่อยออกมา เมื่อออกมาก็เห็นเธออ่านหนังสือนิยายรออยู่ก็ได้ยิ้ม

หลังแต่งงานเธอก็ปรนนิบัติเขาดีไม่ต่างจากเดิม คอยดูแลรายละเอียด เล็กน้อยในชีวิต ราวกับเลขาฯ ส่วนตัวของเขาด้วย ทั้งยังคอยเตือนเขาอยู่ เสมอ ถ้าเขาหลงลืมอะไรไป

เขาทิ้งน้ำหนักบนเตียงก่อนจะกอดยึดเธอเอาไว้ หยิบหนังสือไปให้ พ้นจากมือเธอ แล้วเริ่มบรรเลงเพลงรักของเขา เพียงแต่เขาไม่ต้องบังคับ ฝืนใจเธอ เพราะเธอก็ทำหน้าที่ภรรยาและคนรักได้เป็นอย่างดี

ต่างก็เต็มใจทำหน้าที่ของกันและกัน...ด้วยความรักและเข้าใจ

**********************************


เสียงถอนหายใจของเด็กน้อยดังเรื่อยๆ เพราะถูกจับมานั่งเรียนกับ เด็กอนุบาลเป็นโขยง เขาเบื่อเพราะต้องพูดภาษาอื่นตลอดเวลา และไม่มี ใครเข้าใจภาษาไทยสักนิด

“ซัมเมอร์ ซัมเมอร์” เด็กชายผิวดำเรียกเพื่อนร่วมชั้นที่นั่งจิ้มนิ้วลง บนกล่องดินสอสีอยู่ตลอดเวลา

ซัมเมอร์มองไปแล้วก็ถอนหายใจอีกระลอกใหญ่ “มีอะไร แดริล”

“วาดปลาวาฬกันเถอะ” แดริลชวนเพื่อนวาดสัตว์ตัวใหญ่

“ไม่อยากวาด” ซัมเมอร์ปฏิเสธเพื่อน แล้วคิดถึงพี่ชายใจดีที่เมือง ไทยมากกว่า

“เราสอนวาด” แดริลคิดว่าซัมเมอร์วาดไม่เป็นจึงจะสอนวาด

“โนๆ” ซัมเมอร์รีบห้ามแล้วก็ต้องดึงกระดาษหนี ทีนี้แดริลก็ยืด เอาไว้ด้วยความหวังดี ภาพวาดครอบครัวของซัมเมอร์จึงขาดออกจากกัน เขาจึงร้องไห้อย่างเสียงใจ

“เกิดอะไรขึ้น” ครูพาร์คเกอร์เข้ามาดูเหตุการณ์ เพราะซัมเมอร์ไม่ ร้องไห้ธรรมดา ยังเอามือทุบเพื่อนด้วย พร้อมพูดเป็นภาษาไทยที่ไม่มีใคร ฟังเข้าใจ

“ฉีกรูปเค้าทำไม” ซัมเมอร์ไม่หยุดอาละวาด ทำให้ครูต้องรีบอุ้มเขา แยกออกมา เพราะกำลังทำร้ายเพื่อน

“หยุดนะ! ริชมอนด์”ครูพาร์คเกอร์พยายามห้าม

เมื่อซัมเมอร์ได้สติก็หยุด และพอครูปล่อยเขาก็วิ่งออกไปจากห้องเรียน เข้าไปในห้องน้ำแล้วล็อกประตูห้อง จากนั้นก็ร้องไห้

“ริชมอนด์ออกมาเถอะ ครูไม่ว่าอะไรแล้ว” ครูพาร์คเกอร์ได้แต่ ถอนหายใจ เพราะเด็กชายในห้องน้ำไม่ยอมออกมาดีๆ และรู้จากแจ็คกี้ ว่าแดริลทำภาพของซัมเมอร์ขาด ซัมเมอร์ถึงได้อาละวาดแบบนั้น และ ภาพนั้นก็เป็นภาพครอบครัวใหญ่ของซัมเมอร์ด้วย

สุดท้ายกันพิรุณก็ต้องมาพร้อมเรนน่าในเปลเด็กอ่อน ก่อนจะฝาก ครู แล้วเข้าไปหาลูกชายแทน

“ซัมเมอร์ฮับ หม่าม้าเองลูก” เธอต้องพูดภาษาไทย เพราะพักหลัง ลูกชายไม่ค่อยชอบพูดภาษาสากล

ซัมเมอร์เปิดประตูออกทันทีที่ได้ยินภาษาไทย เข้าไปกอดแม่เมื่อเห็น หน้า ก่อนตะโกนฟ้องแม่เสียงดังลั่น “แดริลฉีกรูปหนูฮะ หม่าม้า หนูโกรธ”

“จ๊ะ หม่าม้ารู้ ลูก” กันพิรุณถอนหายใจยาว เพราะตอนนี้ดูเหมือน ซัมเมอร์จะดื้อมากพอที่จะไม่พูดภาษาสากลอย่างเคย ไม่ใช่พูดไม่เป็น แต่ ท่าทางจะคิดถึงเมืองไทยมาก จึงหันไปบอกครู “ขอโทษนะคะ ที่สร้าง ความวุ่นวาย ปกติแกไม่เป็นแบบนี้ค่ะ”

ครูพาร์คเกอร์ก็รู้ เพราะสอนมาหลายเดือน ซัมเมอร์เป็นนักเรียน ที่ไม่วุ่นวาย เพิ่งจะมีอาการแปลกๆ ช่วงหลังนี่เอง “พอเข้าใจค่ะ งั้นวันนี้ ให้กลับก่อนดีกว่านะคะ ท่าทางเขาจะไม่ค่อยมีอารมณ์เท่าไร”

กันพิรุณอุ้มลูกชายแล้วก็หิ้วเปลลูกสาว ก่อนจะพาทั้งหมดไปที่รถ เธอพาลูกสาวไปล็อกกับรถก่อน แล้วก็จะพาลูกชายไปนั่งแล้วก็คาดเข็มขัด เธอหยุดคุยกับลูกชายเล็กน้อย

“คิดถึงเมืองไทยหรือเปล่าลูก” กันพิรุณถามตรงๆ เพราะหลายวัน มานี้ดูเหมือนลูกชายจะเก็บเนื้อเก็บตัว หยิบเอาภาพที่เมืองไทยมาดูอยู่ ตลอดเวลา

ซัมเมอร์ถึงกับน้ำตาซึมแล้วก็พยักหน้าช้าๆ “หนูคิดถึงตากับยาย ลุงหนาว ป้ารี พี่วินเทอร์ น้องเมเปิ้ลฮับ” น้ำตาไหลออกมานิดๆ ทำให้ กันพิรุณต้องกอดลูกชายอีกรอบ

“หม่าม้าจะถามพ่อเรย์ให้นะ เราจะพากันกลับเมืองไทย แต่หนูต้อง ตั้งใจเรียนก่อน ตกลงไหมฮับ เดี๋ยวเราดูเวลาเมืองไทยก่อน แล้วหม่าม้า จะออนไลน์ให้คุยกับตายายดีไหมฮับ” กันพิรุณมองลูกชายพยักหน้าหงึกๆ รับคำเบาๆ แต่ลูกชายกลับไม่ยอมปล่อยมือ

เธอปลอบอีกพักกว่าลูกชายจะยอมปล่อย จากนั้นก็กลับไปที่นั่ง คนขับแล้วขับกลับบ้าน มองกระจกมองหลังเป็นระยะ เห็นลูกชายมอง ออกไปนอกรถอีกด้าน ก็เข้าใจความอึดอัดของลูกชาย

**********************************


เรย์มอนด์ก็ต้องปวดหัว เพราะลูกชายเริ่มไม่สนุกกับการอยู่เมืองนอกแล้ว เขามองลูกชายวาดภาพที่เกี่ยวกับเมืองไทยอย่างอ่อนใจ

“ถึงขั้นอาละวาดที่โรงเรียนเลยเหรอเนี่ย” เขาถอนหายใจอีกครั้ง เมื่อนึกถึงเรื่องนี้

“ค่ะ ฝนไม่รู้จะทำยังไง ก็เลยพากลับบ้าน เดี๋ยวถ้าที่เมืองไทยเป็น ช่วงเช้าก็ว่าจะโทรไปหาพี่หนาว ให้ช่วยตามตายายมาคุยกับหลานชาย ด้วย นี่ครูบอกว่าไม่ยอมพูดภาษาอังกฤษเลยนะคะ” เธอบ่นอย่างหนักใจ

“คงต้องพากลับเมืองไทยสักพัก ช่วงปิดเทอมให้อยู่ที่โน่นเลยดีไหม” เรย์มอนด์บอกภรรยาอย่างหนักใจพอสมควร

“ฝนก็ต้องไปอยู่ด้วยน่ะสิคะ คุณจะว่ายังไง” กันพิรุณรู้ว่าถ้าซัมเมอร์ อยู่ เธอกับลูกสาวก็คงต้องอยู่ด้วย

“นั่นสินะ เฮ้อ ปวดหัวจัง” เรย์มอนด์ไม่ปวดหัวเรื่องงาน เท่าเรื่อง ลูกชายที่ตอนแรกดูจะหัวอ่อนว่าง่าย แต่ตอนนี้ดูจะขัดใจไปซะทุกเรื่อง

“ฝนให้ลูกสัญญาจะเป็นเด็กดีจนกว่าจะปิดเทอมค่ะ ก็อีกสักสอง สามเดือน ปิดเทอมก็ว่าจะพาไปเลย ช่วงปิดเทอมคราวที่แล้วก็ไม่ได้พา ไป เพราะเรนน่ายังเด็กมาก” กันพิรุณถอนหายใจตามสามี

“ก็ต้องอย่างนั้นแหละ แต่อยู่ที่นั่นสักเดือนก็คงไม่เป็นปัญหาหรอก กลัวแต่ซัมเมอร์จะไม่ยอมกลับมานี่สิ” เรย์มอนด์ไม่ค่อยอยากบังคับลูก เท่าไรนัก ออกจะเห็นใจ เมื่อลูกชายคุ้นเคยกับที่เมืองไทยมากกว่า

“คงต้องบังคับมาค่ะ จะมาแยกอยู่ได้ยังไง ฝนไม่ยอมหรอกนะคะ หลายครอบครัวล้มเหลวก็เพราะแยกกันอยู่เนี่ยแหละค่ะ” กันพิรุณมีท่าที เด็ดขาดขึ้นมา แม้จะรักลูก แต่ตอนนี้คงต้องฝึกหัดลูกให้รู้จักหน้าที่มาก ขึ้น ไม่อย่างนั้นโตขึ้น อาจเป็นคนไม่รู้จักหน้าที่ไปเลยก็ได้

“ดีเหมือนกัน เพราะฉันก็ไม่อยากให้ฝนกับลูกอยู่ห่างนานๆ ฉันจะพยายามจัดการงานที่ต้องตัดสินใจให้เสร็จ จะได้ไปอยู่เมืองไทยสักเดือน ถือโอกาสพักผ่อนด้วย” เรย์มอนด์ตัดสินใจตาม เขาเรียนรู้ที่จะปล่อย หน้าที่ตัดสินใจของครอบครัวให้เธอแทน เพราะเขามีเรื่องที่ต้องตัดสินใจ นอกบ้านมากพออยู่แล้ว

“ค่ะ ดีเหมือนกัน เพราะฝนเห็นว่าคุณก็เหนื่อยกับงานมากแล้ว” กันพิรุณวางมือบนมือเขาปลอบใจ เพราะรู้ว่าเขาก็มีงานที่ต้องทำมากกว่าปกติ

เรย์มอนด์วางมืออีกข้างบนมือเธอ “ไม่เป็นไรหรอกนะ มันหน้าที่ ของฉันอยู่แล้ว ที่ต้องดูแลความสะดวกสบายของฝนกับลูกๆ แล้วยัง ครอบครัวฝั่งเธอกับฉันอีก รู้สึกแก่ขึ้นอีกจมเลย”

กันพิรุณหัวเราะขำ แล้วส่ายหน้า “ขอให้แก่จริงๆ เถอะค่ะ”

เรย์มอนด์หัวเราะ ก่อนเชยคางเธอมาจูบ “ก่อนกลับ สงสัยต้อง ทำการบ้านหนักเสียแล้ว พอไปอยู่ที่เมืองไทยจะได้ทำหรือเปล่าเถอะ”

กันพิรุณทำท่าทางเข้มงวดขึ้นมาเชียว ทั้งเขินทั้งอายด้วย “พูดทะลึ่ง ตลอดเลย”

“กลับไปอยู่คอนโดรังรักของเราดีกว่านะ จะได้ไม่ต้องอดทำการบ้าน” เรย์มอนด์รีบจับมือเธอที่กำลังจะฟาดที่แขนเขา “ก็พูดจริงนี่”

“ไม่เอาค่ะ ไม่พูดแล้ว ไปเตรียมตั้งโต๊ะดีกว่าค่ะ คุณไปดูลูกเถอะ” กันพิรุณหาทางเลี่ยง หากเขาก็ดึงมือเธอไปจูบ ก่อนปล่อยไป

เรย์มอนด์เดินมามองภาพวาดของลูกชาย กับลูกสาวที่โดนของเล่น หลอกล่อสายตาอยู่ จึงหันมาสนใจภาพวาดแทน เพราะมีภาพคนอยู่เยอะ ไปหมด แล้วก็มีชื่อกำกับด้วย

“คิดถึงบ้านที่เมืองไทยมากเลยเหรอฮับ” เรย์มอนด์ถามขึ้น ก่อน โดนลูกปีนขึ้นตัวแล้วกอดคอพ่อแน่น “อะไรเนี่ยครับ”

“พ่อเรย์ให้หนูกลับไปหาตากับยายนะฮับ” ซัมเมอร์พยายามอ้อนวอนในแบบของเขา

“รอให้ปิดเทอมก่อนนะลูก” เรย์มอนด์ใช้วิธีเดียวกับภรรยาในการรับมือลูกชาย

“ปิดเทอมนี้หนูจะได้กลับไปหาพี่วินเทอร์ใช่ไหมฮับ” ซัมเมอร์ถาม ซ้ำอีกครั้ง

“แน่นอนสิครับ แต่ซัมเมอร์ต้องเป็นเด็กดีแล้วก็ต้องตั้งใจเรียนนะลูก” เรย์มอนด์กอดลูกชายแล้วลูบผมสีอ่อนปลอบโยนอย่างแสนรัก

“ฮับ หนูจะตั้งใจเรียน” ซัมเมอร์พูดภาษาสากล ทำให้พ่อเข้าใจได้ดี

“พ่อรักหนูนะ ซัมเมอร์” เรย์มอนด์จึงพูดภาษาเดียวกับลูกชาย

“หนูก็รักพ่อฮับ” ซัมเมอร์กอดพ่อแน่นเข้าไปอีกอย่างไร้เดียงสา ก่อนจะคลายกอดแล้วถามขึ้น “ทำไมที่นี่ไม่มีวันพ่อวันแม่ล่ะฮับ”

“ไม่ต้องมีวันพ่อวันแม่ หนูก็บอกรักพ่อแม่ได้นะลูก” เรย์มอนด์ต้อง หัวเราะในความไร้เดียงสาของลูกชาย เพราะวันพ่อวันแม่ที่นี่แตกต่างจาก ของเมืองไทย เขากับภรรยาจึงไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก

ซัมเมอร์พยักหน้ารับทราบ ก่อนกอดพ่ออีกครั้ง แล้วหันไปวาดรูปอีก เรย์มอนด์ได้แต่มองลูกชายแล้วก็ส่งสีต่างๆ ให้ แล้วหัดลูกชายพูดภาษา สากลไปด้วย เขาเข้าใจคงเพราะอยู่ที่เมืองนอกมาปีกว่าแล้ว ซัมเมอร์จึง คิดถึงเมืองไทยมากอย่างนี้

**********************************


“คนนี้ป้ารี คนนี้ลุงหนาว คนนี้ตาสันต์ คนนี้ยายดา จำไว้นะ” ซัมเมอร์บอกน้องสาววัยห้าเดือนอย่างไม่รู้ประสา

กันพิรุณหัวเราะอย่างเอ็นดู ก่อนจะส่ายหน้า “แม้แต่หนู น้องก็ยัง จำไม่ได้หรอกลูก”

“เมื่อไรหนูจะได้วิ่งเล่นกับน้องสักทีล่ะฮับ” ซัมเมอร์ทำสีหน้ามุ่งมั่น จะออกไปวิ่งเล่นกับน้องสาวให้ได้

“ก็เท่ากับน้องเมเปิ้ลนั่นแหละจ๊ะ” กันพิรุณอธิบายให้ลูกชายเข้าใจ ก่อนหันไปมองประตู เห็นสามีทำท่าทางเหนื่อยๆ ก่อนต้องอุ้มลูกชาย ที่กระโดดเข้าหา ยกมือไหว้กลางอกผู้เป็นพ่อ แล้วกอดคออย่างแสนรัก ทำให้เธอได้ยิ้ม

“ตัวหนักขึ้นอีกแล้วนะเนี่ย หม่าม้าเลี้ยงด้วยอะไรฮับ” เรย์มอนด์ พยายามทิ้งความเหน็ดเหนื่อยไป ก่อนหอมแก้มลูกชายขี้อ้อนแรงๆ

“หม่าม้าทำกับข้าวไว้รอพ่อเรย์เยอะแยะเลยฮับ ทำซุปข้นทูน่า ทำ สเต๊กเนื้อ ทำสลัดทูน่า” ซัมเมอร์นั่งงึมงำนับนิ้วอยู่บนตักพ่อ และกำลัง คิดอยู่ว่าแม่ทำอะไรไว้อีกบ้าง ก่อนถูกจับกอดเอาไว้ แล้วหอมแก้มแรงๆ อีกหลายที

“หิวหรือยังคะ” กันพิรุณถามสามีที่กลับมาจากงานเหนื่อยๆ

“ฟังลูกนับเมนูก็หายหิวแล้วจ้ะ ที่รัก วันนี้เรนน่าดื้อไหม งอแงหรือ เปล่า แล้วซัมเมอร์ทะเลาะกับเพื่อนที่โรงเรียนไหมจ๊ะ” เรย์มอนด์ถาม ขณะที่ลูกชายก็ยังคงก้มหน้าก้มตานับนิ้วต่อ ก่อนจะลงจากตักพ่อ ไปหา น้องสาว แล้วเริ่มกิจกรรมเดิมที่ค้างไว้

“ไม่หรอกค่ะ แต่วันเสาร์นี้จะชวนแดริล เพื่อนที่เคยทะเลาะกัน คราวก่อนมาเที่ยวเล่นที่บ้าน เด็กๆ จะได้สนิทกัน เป็นเด็กก็ดีแบบนี้นะคะ โกรธง่ายหายเร็ว แม่ของแดริล จีน่าก็ดูจะแฮปปี้ดีค่ะ แต่เขาทำงานหลายกะ ไม่มีเวลา บอกว่าจะเอามาฝากไว้ตอนเช้า เขาจะไปทำงานต่อ แล้วตอน หลังมื้อค่ำจะมารับกลับ ฝนก็เลยคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร” กันพิรุณ หยิบน้ำเย็นส่งให้สามี ก่อนจะมองลูกชายขมวดคิ้วแล้วหยิบรูป ก่อนจะ เดินไปแนะนำให้น้องสาวรู้จักญาติๆ อีกรอบ

“ซัมเมอร์ทำอะไรน่ะ” เรย์มอนด์มองลูกชายอย่างงงๆ

“แนะนำน้องสาวให้รู้จักญาติๆ ค่ะ ทั้งญาติฝ่ายคุณที่อยู่เมืองไทย แล้วก็ญาติฝ่ายฉัน เห็นบอกว่าเดี๋ยวน้องไม่รู้จักใครแล้วจะเหงา” กันพิรุณ ยิ้มเอ็นดูลูกชาย

เรย์มอนด์หัวเราะอย่างเอ็นดู ก่อนดึงภรรยามานั่งตักแทน “ดูแล สามีดีแบบนี้ ถึงอยากกลับบ้านเร็วทุกวัน ภรรยาจะได้คอยเอาใจ ทำงาน มาเหนื่อยๆ หายเหนื่อยกันเลยทีเดียว”

กันพิรุณหัวเราะอย่างมีจริต ก่อนจะตีแขนเขาเบาๆ แล้วซบพิง “หิวหรือยังคะ จะได้ไปจัดโต๊ะ”

บ้านหลังนี้อยู่กันอย่างเป็นส่วนตัว มีแม่บ้านมาช่วยทำงานบ้าน แบบไปกลับ มีคนสวนมาทำอาทิตย์ละหนึ่งวัน แล้วก็ไม่ได้สร้างบ้านหลัง ใหญ่ที่ดูแลยาก แม้จะเป็นเจ้าของโรงแรมอยู่หลายแห่ง แต่เรย์มอนด์ก็ ไม่ได้พักอยู่ชั้นบนสุดของโรงแรมอย่างคนอื่น เขาชอบความเป็นส่วนตัวที่ บ้านหลังเดิมของตาที่ชิคาโก้มากกว่า

**********************************


แม้ธุรกิจจะวุ่นวาย แต่เขาก็หาเวลาให้ครอบครัวได้เสมอ และขณะ นี้เขาก็นั่งสบายใจอยู่ริมทะเล มองแสงอาทิตย์ยามเย็นลอดแว่นตากันแดด โดยมีภรรยาสาวนั่งอยู่บนเสื่อข้างๆ ส่วนลูกชายวิ่งวุ่นอยู่กับญาติๆ วัยเดียว กันให้สนุกสนาน

“ไม่ได้ยินซัมเมอร์หัวเราะเสียงดังแบบนี้มานานแล้วนะ หัวเราะได้ แบบที่เราไม่ต้องพยายามกันเลยทีเดียว” เรย์มอนด์มองลูกชายอย่างแสน รัก แม้ลูกชายจะยังเข้าใจว่าเป็นลูกเลี้ยง แต่เขาก็ไม่อยากปวดหัวเรื่อง ทำไมพ่อมะนาวสิงพ่อเรย์อีก จึงทิ้งปัญหาไว้ก่อนค่อยแก้กันในภายหลัง

“นั่นสิคะ แกผ่อนคลายได้ก็ดีแล้วค่ะ เห็นบอกว่าขอนอนกับพี่ วินเทอร์ ฝนก็คงต้องปล่อยทิ้งไว้ที่บ้านนี้นะคะ” กันพิรุณมองลูกชาย กระโดดเล่นอย่างสนุกสนาน

“ไม่เป็นไรหรอก แกคงคิดถึงบ้านนี้ล่ะนะ ขนาดบอกให้แวะที่ กรุงเทพฯ ก่อนยังไม่เอาเลย นี่ได้ยินว่าคุณแม่กับคุณพ่อจะพาคุณตากับคุณยายมาที่นี่แทน คิดถึงหลานชายกับหลานสาวล่ะนะ” เรย์มอนด์ต้อง ยอมรับว่าเขาต้องยอมแพ้น้ำตาของลูกชายที่สนามบิน

“ต้องลำบากบ้านคุณเลย ที่ต้องมาถึงพัทยานี่” กันพิรุณพูดอย่าง รู้สึกผิด

“ฝนก็น่าจะรู้ว่าลูกเราน่ะใคร หลานสุดที่รักเลยนะ อยากได้อะไร ปู่ย่ากับทวดก็ประเคนให้หมด นี่ถึงขั้นซื้อห้องชุดไว้ที่นี่ตั้งสองห้อง คงดู แล้วว่าถ้ามาถึงเมืองไทย หลานชายต้องอยากมาที่นี่ก่อนเป็นอันดับแรก แน่นอน” เรย์มอนด์เล่าความอย่างไม่จริงจังนัก

แม้สำหรับบ้านนี้ ซัมเมอร์จะไม่ใช่หลานคนแรก แต่ก็ถือว่าเกิดและ เติบโตมาที่นี่มากกว่ากับที่บ้านเขา เพราะงั้นคงไม่แปลกถ้าซัมเมอร์จะสนิท กับบ้านนี้มากกว่าบ้านเขา ถึงอย่างไรบ้านโน้นก็ใช่ว่าจะน้อยใจประชด ประชัน พอรู้ความก็วางแผนตามมากันหมด ถือโอกาสพักผ่อนไปในตัวด้วย

เสียงเรียกซัมเมอร์ดังลั่น เมื่อคนสี่คนเดินมาถึงริมหาดส่วนตัว เมื่อ ได้ยินเสียงเรียกซัมเมอร์ก็หันไปมอง แล้ววิ่งเข้าหาปู่ย่ากับทวดทั้งสอง อย่างเร็ว แต่ทวดทั้งสองนั่งรถเข็น เพราะต่างก็อายุมากแล้ว โดยมีปู่ย่า เขาเป็นคนเข็นให้

สองมือน้อยๆ พนมไหว้ ก่อนซัมเมอร์ขมวดคิ้วจ้องรถเข็นอย่างสงสัย “ทำไมแกรนด์แกรนด์ต้องนั่งรถเข็นด้วยฮับ”

ผู้ใหญ่ฟังแล้วขมวดคิ้ว ก่อนมองซัมเมอร์ปีนขึ้นไปนั่งบนตักปู่ทวด

“อะไรแกรนด์แกรนด์น่ะ ซัมเมอร์” แซนดี้ถามหลานชายอย่างสงสัย

“ก็พ่อของแม่ของพ่อไงฮับ” ซัมเมอร์ก็อธิบายขณะพยายามจะเลื่อน รถเข็นเห็นเป็นของเล่นไปซะเลย

“อ๋อ เกรทแกรนด์” แซนดี้บอกสามีแล้วต่างก็ทำสีหน้าเอ็นดูหลาน ชาย ขณะที่พ่อของเธอก็กอดหอมเหลนชายที่แสนขี้อ้อน

“ขอหนูเล่นด้วยได้ไหมฮะ” วินเทอร์เห็นน้องชายสนุกก็เข้ามาถาม

“ซัมเมอร์ตัวเบากว่าไปนั่งกับย่าทวดดีกว่านะ วินเทอร์โตกว่า นั่งตัก ปู่ทวดนะ” แซนดี้จัดระเบียบเด็กๆ ก่อนจะมองแม่กอดหอมหลานชาย เธอก็สบายใจมาก

“ทวดซื้อของเล่นมาให้ซัมเมอร์เยอะแยะเลยนะ” ทวดบอกเหลนชาย แล้วมองเหลนชายพนมมือไหว้ได้น่ารัก

“ขอบคุณฮับ” ซัมเมอร์ไม่กลัวย่าทวดแล้ว เพราะเมื่อปิดเทอมก่อน ย่าทวดก็ไปเยี่ยมที่ชิคาโก้

“ย่าซื้อของเล่นมาให้วินเทอร์ด้วยนะ จะได้เอาไว้เล่นกับเมเปิ้ลด้วย” แซนดี้รู้ว่ามาบ้านนี้ จะได้เจอเด็กเล็กหลายคนก็สดชื่นขึ้นมา จึงขนเอา ของเล่นเยอะแยะมาฝากไปด้วย

“ขอบพระคุณครับ” วินเทอร์ยกมือขึ้นไหว้พร้อมเอี้ยวตัว ทั้งยังยิ้ม ให้อย่างน่าเอ็นดู

เด็กบ้านนี้ได้รับการสั่งสอนมาอย่างดี เมื่อผู้ใหญ่ให้ของก็ยกมือไหว้ แม้ยังไม่เห็นของสักชิ้น ก่อนจะมีคนงานมาช่วยพยุงคุณทวดทั้งสองลงไป นั่งที่เก้าอี้ชายหาดนิ่มๆ จะได้สบายตัวกว่าเคย

กันพิรุณอุ้มเรนน่ามาให้ทวดทั้งสองได้เพ่งพิศ เพราะครั้งสุดท้ายที่ เจอเรนน่ายังแบเบาะ เพิ่งคลอดได้ไม่กี่วันเท่านั้น เสียงหัวเราะชื่นชมก็ ดังลั่นเป็นภาษาที่เรนน่าไม่เข้าใจ แต่ก็สะดุ้งตื่นเพราะเสียงผู้ใหญ่ดังๆ

“ตายจริง ลืมตัวไป เด็กอะไรน่าเกลียดน่าชังจริงๆ นะเนี่ย” แซนดี้ พูดขึ้นแล้วก็หอมแก้มหลานสาวที่กำลังงอแง

“อะไรน่าเกลียด น่ารักจะตาย” สตีฟชมหลานสาวอย่างน่าเอ็นดู

“คนไทยเขาถือค่ะ ไม่ให้ชมว่าน่ารัก ต้องชมว่าน่าเกลียด เด็กจะ สุขภาพแข็งแรง” แซนดี้ก็อธิบาย ขณะอุ้มหลานสาวพยายามปลอบให้สงบ ลง และไม่แปลกใจ ถ้าสามีจะลืมไปแล้วว่าภรรยาเคยอธิบายตอนลูกชาย เกิด ซึ่งก็นานมากแล้ว

แม้น้ำตาจะเต็มตา เธอก็หยุดร้อง ทีนี้ก็เริ่มเหลียวมองผู้ใหญ่แปลก หน้าไปรอบๆ ก่อนจะหันไปเจอแม่ จึงอ้าแขนเข้าหาแม่ทันที แซนดี้จึงส่ง หลานสาวให้ลูกสะใภ้ ก่อนจะนั่งพักเท้าให้หายเหนื่อยจากการเดินทาง

“มางวดนี้จะได้หลานติดท้องกลับไปอีกหรือเปล่าเนี่ย” ปู่ทวดของซัมเมอร์แซวหลานสะใภ้ได้น่ารัก เพราะอายุที่มากขึ้น

“ตายจริง! คุณพ่อ ไปพูดแบบนั้น ฝนเขาก็เขินแย่สิคะ” แซนดี้ หัวเราะเมื่อพ่อถามหลานสะใภ้แบบนั้น

เรย์มอนด์ก็หัวเราะตาม แต่ไม่แก้ต่างอย่างไร หากกันพิรุณคุมเข้ม เขาก็ทำได้แค่รอเวลาเท่านั้น จึงตอบแทนภรรยาที่ค่อยๆ ปล่อยลูกสาว คลานเล่นบนพื้นทราย

“ยังหรอกครับ ซัมเมอร์ยังมีปัญหาเรื่องการปรับตัว แล้วเรนน่าก็ยัง อยู่ในวัยที่ต้องการการดูแล คิดว่าคงไม่เร็วๆ นี่แน่ครับ” เขายิ้มให้ลูกสาว ที่กำลังพยายามยกก้นขึ้นเตรียมตั้งไข่

“แต่ยังไม่ทำหมันนะ” แซนดี้ถามให้แน่ใจ

“ยังครับ ยังอยากมีอีกสักคนสองคน เพราะกิจการเยอะ จะได้ กระจายอำนาจไปครับ” เรย์มอนด์พูดออกแนวขำ แต่กันพิรุณก็ค้อนให้

“ดีๆ ลูกหลานจะได้ไม่เหนื่อยเหมือนพ่อ เดินทางกันสนุกสนาน เลยสิเรา” ภมรีทักขึ้นมา

“ก็เหนื่อยครับ แต่ไม่อยากทิ้งลูกนานๆ จ้างซีอีโอแทน ดูผล ประกอบการ ดูรายละเอียดต่างๆ แทนดีกว่าครับ” เรย์มอนด์ตั้งใจจะ อยู่ทุกช่วงเวลาของลูกสาวและลูกชาย เขาไม่อยากพลาดอะไรไป เพราะ ทุกวันมีแต่เรื่องน่าสนใจอยู่เต็มไปหมด

“หลงลูกมากกว่าที่ฝนคิดเยอะค่ะ ฟ้ายังไม่ทันมืด ก็กลับบ้านแล้ว เคยเห็นโทรด่าลูกน้องว่า ผมจะจ้างคุณมาทำไม ถ้ามันไม่ได้ช่วยให้ชีวิต ผมดีขึ้น แล้วก็เล่นกับลูกต่อค่ะ” กันพิรุณเล่าความแล้วคอยระวังไม่ให้ ลูกสาวคลานไปใกล้ทะเลมากนัก เพราะยังเด็กอยู่มาก แล้วแสงแดดก็เริ่ม หายไปแล้ว

“สวัสดีครับ พาเด็กๆ เข้าบ้านก่อนดีกว่านะครับ เดี๋ยวลูกค้าก็ จะเต็มร้านแล้ว อีกอย่างลมเย็นด้วย เดี๋ยวแม่หนูเรนน่าจะไม่สบายได้” กันเหมันต์ต้อนลูกกับหลานแล้วช่วยน้องสาวเก็บของ

“ลุงหนาวฮะ จินนี่ยังอยู่บ้านเดิมไหมฮะ” ซัมเมอร์ถามลุงแล้วยิ้ม ตาหยี

“อยู่นะ จะให้เขาไปไหนจ๊ะ มีอะไรเหรอ ซัมเมอร์” กันเหมันต์มอง หลานชายขณะอุ้มลูกสาววัยขวบกว่า

“หนูโทรหาจินนี่นะฮับ หม่าม้า” ซัมเมอร์หันไปถามแม่ ก่อนมอง แม่พยักหน้าอนุญาต แล้วต่อสายให้ลูกชาย เมื่อเขารับมาแล้วก็คุยกับ ปลายสาย “จินนี่จำซัมเมอร์ได้ไหม”

“ซัมเมอร์กลับเมืองไทยแล้วเหรอ ที่โรงเรียนไม่มีซัมเมอร์ไม่สนุก เลย” จินนี่ก็เริ่มพูดคุยกับเพื่อนไปเรื่อยๆ

ซัมเมอร์ก็เริ่มเล่าเรื่องที่ชิคาโก้ผลัดกันเล่าเรื่องอยู่พักใหญ่ ก่อนโดน เรียกไปทานมื้อเย็น จากนั้นซัมเมอร์ก็วางสาย แล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะ ซึ่งพร้อม หน้าครอบครัว แม้มีส่วนร้านอาหาร แต่ก็ยังมีเวลาครอบครัวให้กันได้

“โทรไปจีบจินนี่ทันทีที่มีโอกาสเลยนะ” กันเหมันต์แซวหลานชาย

ซัมเมอร์เอียงคอเล็กน้อย คล้ายกำลังพิจารณาสิ่งที่ลุงพูด ก่อนส่าย หน้า “หนูไม่ได้จีบจินนี่สักหน่อย ก่อนไป หนูบอกจินนี่ว่าถ้ากลับมาจะ โทรหาก็โทรหาไงฮับ” เจ้าตัวเล็กทำสีหน้าวุ่นวายใจได้น่ารัก ทำให้โดน ย่าทวดหอมแก้มเอ็นดูอยู่ตลอดเวลา

“เห็นไหม จีบสาวแต่เด็กเลย” กันเหมันต์แซวหลานชายไม่เลิก จนเจ้าตัวเล็กดื้อแพ่งขึ้นมา กอดอกแน่น เม้มริมฝีปาก ก้มหน้าแล้วไม่ ยอมทานอาหารอีกต่อไป

“พี่หนาว!” ฝนรีบห้ามพี่ชาย เห็นชัดว่าลูกชายกำลังแสดงท่าทีดื้อ แพ่งขึ้นมา บอกว่าไม่พอใจลุงเอามากๆ

กันเหมันต์หันไปมองหลานชาย ยิ้มแห้งๆ ก่อนจะก้มลงไปมอง หลานชาย เห็นท่าทางขัดใจแบบนั้นก็ต้องรีบง้อ “โอ๋ๆ ลุงหนาวขอโทษนะ ซัมเมอร์ จุ๊บๆ ลุงหนาวหน่อยนะ”

ซัมเมอร์หันหน้าไปทางอื่น และยังไม่หายขัดใจ

กันเหมันต์จึงงัดไม้เด็ดมาใช้ “ฮือๆ หลานไม่รัก ทำไงดี ไม่เจอ หน้ากันปีเดียวหลานก็ไม่รักแล้ว รีจ๋า หลานไม่รักพี่แล้ว” และได้ผลเมื่อ ซัมเมอร์รีบหันมากอดคอลุงทันที ก่อนโดนลุงอุ้มไว้หอมแก้มแรงๆ สองสาม ที แล้วปล่อยไปนั่งข้างๆ ย่าทวดของหลานกับย่าของหลาน

“แหม ไปอยู่นอกเสียนาน ขี้งอนเหมือนพ่อเลยนะ” กันเหมันต์ หันไปหาความน้องเขยแทน

“กรรม พี่หนาว พูดแบบนี้ได้ยังไง ถึงจะเป็นความจริงก็เถอะ” กันพิรุณรีบโบยให้สามี

“แกนั่นแหละ แหม แกล้งพูดไปทางสามีรีบปัดเลยนะ ขี้งอนเหมือน แกนั่นแหละ นึกว่าจะรับ กลับปัดตบไปทางสามีซะงั้น” กันเหมันต์นั่งลง ข้างภรรยา แล้วฟังผู้ใหญ่หัวเราะสนุกสนาน

วสันต์ก็ต้องแปลกใจ เมื่อหลานชายลุกมาแล้วเดินมาที่เขา ก่อน จะนั่งที่ตักของตา “มีอะไรเจ้าตัวยุ่ง”

“คืนนี้หนูจะนอนที่นี่นะฮับ พ่อเรย์กับหม่าม้ามีน้องเรนน่าเป็น ตัว ประกันแล้ว หนูจะเป็นตัวประกันทางนี้เอง” ซัมเมอร์อ้อนตาแล้วก็ทาน อาหารของตัวเองที่ยกมาด้วย

ผู้ใหญ่ต่างก็หัวเราะในความไร้เดียงสา และอนุญาตตามที่ต้องการ เมื่อเห็นว่าค่ำแล้ว ผู้ใหญ่สูงวัยก็ต้องเดินทางกลับก่อน ขณะที่เรนน่าหลับ อย่างอบอุ่นอยู่ในห้อง รอเวลาที่พี่ชายหลับ พ่อแม่จึงจะพากลับห้องชุดที คอนโดเดิมของพ่อ

แม้จะอยากนอนค้างห้องพี่ชาย แต่ซัมเมอร์ก็ต้องดึงชายเสื้อของ แม่เอาไว้ เพราะเคยชินกับการมีแม่อยู่ข้างๆ ก่อนนอน เมื่อเห็นน้องชาย นอนลงเรียบร้อย วินเทอร์ก็กอดน้องชายเอาไว้ เพราะเคยชินกับการที่ น้องชายมานอนค้างที่ห้องด้วยเป็นครั้งคราวอยู่แล้ว ขณะที่กันพิรุณก็รอ จนลูกชายหลับ ค่อยออกจากห้องหลานชาย และเดินทางกลับห้องชุด พร้อมสามีกับลูกสาว

**********************************
สวัสดีค่ะ
ยังคิดถึงนิยายเรื่องนี้กันบ้างหรือเปล่าคะ อิอิ
จะโพสต์ให้อ่าน 2 ตอนจากในเล่มมี 5 ตอนนะคะ
เพื่ออะไร....ก็เพื่อหาผู้โชคดีได้รับหนังสือฟรีไงคะ
เฉพาะผู้ที่ไม่เคยได้รับหนังสือฟรีเท่านั้นนะคะ
***กติกาง่ายๆ กด like ตอนนี้หรือโพสต์คอมเม้นเอาไว้ค่ะ***
จนกว่าจะถึงวันพุธที่ 30/02/2013 18.00 น.
จะจับแจกเพียง 3 เล่มเท่านั้นนะคะ
เพราะเป็นหนังสือที่ทำเองขายเองค่ะ ไม่ใช่ได้ฟรี
เพราะฉะนั้นก็จะแจกน้อยค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามนิยายค่ะ



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 ม.ค. 2556, 17:10:31 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ม.ค. 2556, 17:10:31 น.

จำนวนการเข้าชม : 1753





<< บทส่งท้าย   
ตุ๊งแช่ 27 ม.ค. 2556, 18:23:47 น.
วัมเมอร์ตอนเด้กผิดกับตอนโตลิบลับเลยย


ใบบัวน่ารัก 27 ม.ค. 2556, 18:51:00 น.
น่ารักจังซัมเมอรืน้อย
ยังจำสัญญาจินนี่ได้น่ารัก><
อยู่เมืองนอกเหงาแย่ ...ไม่ต้องกลัวนะครับ
สู้ๆๆๆ


Auuuu 27 ม.ค. 2556, 20:10:20 น.
ซัมเมอร์ซนนะเนี่ยยยย


konhin 27 ม.ค. 2556, 22:05:08 น.
ฮ่าๆๆ ซัมเมอร์ตอนเด็กๆทำไมน่ารักอย่างนี้เนี่ยยยย (ตอนโตแอบดาร์ค)


sai 28 ม.ค. 2556, 12:50:49 น.
อ๊ายยยย ซัมเมอร์ตอนเด็กขี้อ้อนได้ใจเลยยยยย แต่ตอนโตก้อเจ้าชู้ได้โล่ห์เหมือนกันนน

ปล.เอลเฟดขี้อ้อนเหมือนซัมเมอร์นี่เอง


anOO 28 ม.ค. 2556, 18:38:42 น.
ซัมเมอร์น่าหยิกจังเลย ขี้อ้อนมาก


pattisa 28 ม.ค. 2556, 21:28:21 น.
ซัมเมอร์น่าร้ากกก


sirynth 30 ม.ค. 2556, 13:29:16 น.
Summer & Winter are still so cute, it has been awhile though. Thanks ka.


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account