มายารักทะเลทราย (ตอนที่ 1)
ความหมายของชื่อตัวละคร
ลัยลา ราตรี, รัตติกาล สดใส-ร่าเริง,
นะบีล = ผู้เก่งกล้าหาญ,มีเกียรติ
เรื่อง มายารักทะเลทราย
เป็นครั้งแรกที่ลองเขียนนวนิยายแนวนี้ค่ะ นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้นตามจินตนาการของผู้เขียนเท่านั้นไม่ได้มีส่วนใดส่วนหนึ่งมาจากความเป็นจริงในประวัติศาสตร์ หากมีข้อเสนอ แนะนำอะไรผู้เขียนตามสบายเลยนะคะ
ยังไม่รู้เลยว่าจะเขียนจนจบได้หรือไม่มือใหม่หัดเขียนแนวทะเลทรายจริงๆค่ะ แต่เป็นเพราะคนเขียนไม่ชอบเขียนอะไรซ้ำแนวเดิมๆ ก็เลยอยากจะเขียนในเรื่องที่ยังไม่เคยลองบ้างเท่านั้น
ลัยลา ราตรี, รัตติกาล สดใส-ร่าเริง,
นะบีล = ผู้เก่งกล้าหาญ,มีเกียรติ
เรื่อง มายารักทะเลทราย
เป็นครั้งแรกที่ลองเขียนนวนิยายแนวนี้ค่ะ นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้นตามจินตนาการของผู้เขียนเท่านั้นไม่ได้มีส่วนใดส่วนหนึ่งมาจากความเป็นจริงในประวัติศาสตร์ หากมีข้อเสนอ แนะนำอะไรผู้เขียนตามสบายเลยนะคะ
ยังไม่รู้เลยว่าจะเขียนจนจบได้หรือไม่มือใหม่หัดเขียนแนวทะเลทรายจริงๆค่ะ แต่เป็นเพราะคนเขียนไม่ชอบเขียนอะไรซ้ำแนวเดิมๆ ก็เลยอยากจะเขียนในเรื่องที่ยังไม่เคยลองบ้างเท่านั้น
Tags: มายารักทะเลทราย ลัยลา ทะเลทราย รอชิด
ตอน: ตอนที่ 2
ตอนที่ 2
“คุณจะลางานกี่วันและไปไหนคะ ช่วยบอกฉันชัดๆ อีกสักครั้งสิคุณลัยลา” สาวใหญ่รูปร่างสูงโปร่งมองรอดแว่นมาที่ลัยลา เธอเหยียดยิ้มแม้ว่าลัยลาจะไม่มีประวัติการลางานบ่อยครั้งอย่างไม่มีสาเหตุก็ตามแต่การลางานนานขนาดนี้เห็นทีเธอคงจะอนุมัติยาก ที่สำคัญเธอได้ยินมาว่าเด็กนี่ส่งอะไรไปชิงโชคสักอย่างและดวงดีได้รับรางวัลแพคเกตทัวร์เที่ยวฟรี ตุรกี 8 วัน 7 คืนทั้งชีวิตเธอเองยังไม่เคยก้าวเท้าออกนอกประเทศเลยเรื่องอะไรจะปล่อยให้คนได้ไปฟรีๆมีโอกาสไปง่ายๆ
“ไปเอ่อ....ไปตุรกีค่ะคุณวาสนา ” ลัยลาส่งยิ้มหวาน แต่ก็ต้องยิ้มค้างและหุบลงอย่างรวดเร็วเมื่อผู้จัดการฝ่ายบุคคลฉีกใบลางานของเธอทิ้งต่อหน้าต่อตา
“รวยนะ จะไปเที่ยวเมืองนอกตั้งเจ็ดแปดวัน” น้ำเสียงประชดประชัน
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะคุณวาสนา แต่ลัยลาได้ไปฟรีต่างหากค่ะ”
“ถ้าจะลางานยาวขนาดนี้เพื่อที่จะไปเที่ยวฟรี ฉันขอแนะนำให้เธอลาออกไปเลยจะดีกว่า” จากนั้นคุณวาสนาก็ต่อว่าลัยลาหาว่าลางานไปทำเรื่องไร้สาระที่ไม่มีประโยชน์ต่อบริษัทเธอไม่อนุมัติ เจ้าหน้าที่หลายคนในห้องฝ่ายบุคคลมองมาที่ลัยลาอย่างเห็นใจใครก็รู้ว่าคุณวาสนาเป็นอย่างไร ที่ยังอยู่ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายบุคคลมาได้จนกระทั่งถึงป่านนี้ก็เพราะเป็นคนเก่าคนแก่ที่คุณหญิงมณีมาลา เจ้าของบริษัทไว้ใจ
ลัยลาจึงต้องเดินคอตกกลับแผนกการตลาดของเธอไปทั้งที่ครั้งแรกไม่อยากจะไปนัก แต่พอมีเคล้าว่าจะไม่ได้ไปจริงๆกับนึกเสียดาย “ถ้าไปเที่ยวแล้วต้องตกงานใครจะไปล่ะ งานมันหาง่ายๆกันซะที่ไหน ตุรกี จ๋าลัยลาคงหมดโอกาสไปเยือนแล้วสินะ”
คนผิวขาวตัวสูงในชุดสูทสากลลดหนังสือพิมพ์ฉบับภาษาอังกฤษลง ใบหน้าคมเข้มเรียบเฉยนั้นมองตามร่างบางไปอย่างสนใจ และรู้สึกคุ้นตา
“ว้าย!” พิมมาดา ผู้จัดการบริษัทส่งออกเครื่องเทศรายใหญ่อันดับต้นของประเทศไทยยกมือทาบอกอย่างตกตะลึง
“คุณชีค มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะเนี่ย ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ล่ะคะ ต้องขอโทษจริงๆนะคะทางเราไม่รู้ว่าคุณจะเดินทางมาอย่างกระทันหันเลยไม่ได้เตรียมการต้อนรับ”
เขายกมือปรามไม่ให้เธอพูดอะไรต่ออีก ใบหน้าหล่อคมราวกับเจ้าชายอาหรับแต่แสนจะเฉยชานี้ทำให้ผู้จัดการสาวหยุดพูดลงทันที จากนั้นเขาก็เดินตัวตรงไปที่ห้องของประธานบริษัท ขณะที่พิมมาดาเมื่อตั้งสติได้ก็
เรียกให้แม่บ้านรีบยกน้ำดื่ม ของว่างไปรับรองลูกเลี้ยงของท่านประธาน
“ทำหน้าเย็นชาเหมือนภูเขาน้ำแข็งอลาสก้าแบบนี้สงสัยว่าจะไม่พอใจอะไรแน่เลย แล้วมาได้ยังไงไม่เห็นมีใครแจ้งล่วงหน้าเลย”
++++++++++++++++++++
ณ ห้องทำงานของประธานใหญ่ ชายร่างสูงแต่ดูสมส่วนบุคลิกของเขาดูมีพลังให้คนที่อยู่รอบข้างต้องรู้สึกว่าตนเองตัวเล็กลงไปถนัด ผู้จัดการบริษัทยักษ์ใหญ่เดินสีหน้ายิ้มแย้มเข้ามารายงานผลประกอบการในช่วงนี้กับทายาทคนเดียวของท่านประธานซึ่งมีท่าทีว่ากำลังจะลงจากตำแหน่งและผู้ชายหน้าหล่อแต่ดูเย็นชาคนนี้ก็คือท่านประธานใหญ่ในอนาคตชนิดว่าไม่ต้องทายกันให้เสียเวลาเลย
ดังนั้นเพื่ออนาคตที่ก้าวหน้าเธอจึงเลือกที่จะเอาใจลูกชายท่านประธานเอาไว้เสียแต่ตอนนี้ ดูจากหน้าตาท่าทางของเขาแทบจะไม่มีส่วนคล้ายคนไทยเลยถ้าให้เธอเดาเขาน่าจะมีเชื้อสายของชาวตะวันตกประเทศไหนสักประเทศบวกกับเชื้อสายอาหรับเขาถึงได้หล่อคมเหมือนฝรั่งผสมแขกซึ่งล้วนแต่เลือกสิ่งดีๆมาจนรวมเป็นเครื่องหน้าของตน
เธอรัวภาษาอังกฤษทักทายและนำนำตัวกลับเขาเพราะคิดว่าเขาคงฟังภาษาไทยไม่ค่อยเข้าใจ แต่ผิดคลาดเขากลับยิ้มกว้างและภายมือเชิญชวนให้เธอนั่งสีหน้าเป็นกันเอง
“สวัสดีครับคุณพิมมาดาไม่ต้องมีพิธีรีตองหรอกครับ ผมต้องขอโทษที่รบกวนเวลาทำงานของคุณ”
“รบกวนอะไรกันคะ พิมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คุณชีคเรียกพบพิม”
“ถ้าอย่างนั้นมาเข้าเรื่องเลย” เธอคิดว่าเขาจะสอบถามเรื่องยอดขายหรือผลกำไรแต่เปล่าเลย
“ผู้หญิงที่เดินเข้าไปในห้องการตลาดก่อนที่คุณจะเข้ามาทักผมเธอเป็นใคร ผมอยากได้ประวัติเธอ” พิมมาดาทำสีหน้าแปลกใจ แต่เมื่อเจ้านายสั่งมีหรือเธอจะคัดค้าน
“รอสักครู่ค่ะคุณชีค ดิฉันจะนำประวัติของเธอมาให้คุณภายใน 5 นาที”
“ดีมาก”
พิมมาดายิ้มปลื้มในคำชมเธอต้องเอาใจเขาเอาไว้ได้ข่าวว่าอีกไม่นานคุณชีคจะเข้ามาสืบทอดตำแหน่งจากประธานใหญ่ไม่เกินสิ้นปีหน้า
+++++++++++++++++
ฝ่ายการตลาด
“เป็นอะไรไปลัยลา ทำไมนั่งหน้ามุ่ยแบบนี้ล่ะแล้วนี้ไม่ไปกินข้าวด้วยกันเหรอ ” รุ่นพี่ในฝ่ายการตลาดเอ่ยถาม
“ไม่ไปค่ะพี่ศรีไปเถอ”
“อย่าบอกนะว่าจะเก็บเงินไปช้อปปิ้งที่ตุรกี แล้วตกลงเดินทางเมื่อไหร่ล่ะ ลัยลานี่โชคดีจริงๆนะมากับดวงจริงๆ”
“ดวงดีแต่ก็ไม่ได้ไปอยู่ดีค่ะ” หญิงสาวตอบเซ็งๆแอบเสียดายรางวัลที่เธอจะต้องปล่อยไป
“ทำไมล่ะ”
“ก็คุณวาสนาผู้จัดการฝ่ายบุคคลไม่อนุมัติบอกว่าเหตุผลในการลาไม่เพียงพอ”
“อะไรมีแบบนี้ด้วยเหรอ ก็ลัยลาใช้พักร้อนนี่อีกอย่างหัวหน้าของแผนกเราก็เซ็นไปแล้ว”
“ก็นั่นแหละค่ะ แต่สุดท้ายคุณวาสนาก็ไม่ยอมอยู่ดี บอกว่าจะให้ลากรณีเดียวคือลาออก”
“อะไรนะยัยคุณป้าค้างคาน นั่นพูดขนาดนี้เชียวคงอิจฉาล่ะสิท่า ถ้าไม่ได้ไปจริงๆต้องน่าเสียดายมากๆแน่ๆ ไม่ใช่ว่าจะได้ไปกันง่ายๆยิ่งได้ไปฟรีๆแบบนี้ด้วย”
“ช่างเถอะค่ะ ลัยลาทำใจได้แล้ว ไม่ได้ไปเที่ยวก็ยังดีกว่าไม่มีงานทำ”
“ทำใจได้ก็ดีแล้ว แต่หมั่นไส้ยัยแก่ค้างคาน คนนี้จริงๆชีร้ายมากเห็นคนอื่นมีความสุขกว่าตนเองไม่ได้”
ลัยลายิ้มแต่ไม่ตอบอะไร ลัยลานั่งอ่านข้อมูลออนไลน์จากอินเตอร์เน็ตในช่วงพักเที่ยงเปิดดูสพานที่ท่องเที่ยวและแหล่งช้อปปิ้ง ของตุรกีไปก็แอบเสียดาไปเพราะจากการหา จนกระทั่งยามบ่ายเธอจึงลงมือทำงานต่อลงมือทำงานไปได้เพียงห้านาทีสัญญาณโทรศัพท์ดึงขึ้น
“คุณลัยลาขึ้นมาพบฉันด่วน”
“ได้ค่ะคุณวิมล” หญิงสาววางสาย “อะไรกันอีกนะ” ลัยลาคิดว่าคุณวิมลคงเรียกไปในเรื่องที่ไม่ดีแน่ คนในบริษัทนี้ใครถูกคุณวิมลเรียกต้องหนาวๆร้อนๆกันทุกคน
++++++++++++++++++++++++++
“เชิญนั่งสิคุณลัยลา” น้ำเสียงแข็ง
“ขอบคุณค่ะคุณวิมล” ลัยลานั่งลงอย่างเรียบร้อยตัวตรงมองหน้าคุณวิมล “ไม่ทราบว่าคุณวิมลเรียกลัยลามาพบด้วยเรื่องอะไรคะ” หญิงสาวรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ตรงหน้าคุณครูฝ่ายปกครองที่ดุที่สุด
“ก็มีอยู่เรื่องเดียวที่ฉันเรียกเธอมา ใครว่าฉันอยากจะเรียกเธอมานั่งคุยเล่นด้วยแบบไม่มีสาระล่ะ”
ลัยลากลืนน้ำลายฝืดลงลำคอ ท่าทางคุณวิมลเหมือนจะออกอาการเหวี่ยงๆ นี่เธอทำอะไรผิดกันนะ ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยได้มาสายนี่
“เอ้านี้” กระดาษสีขาวถูกเลื่อนมาตรงหน้าลัยลา
หญิงสาวหยิบขึ้นมาดูและก็พบว่า
“ฉันอนุมัติให้เธอลาพักร้อนได้เป็นเวลา 7 วัน คงพอใจแล้วสินะ” ท่าทีคุณวิมลยังเหมือนไม่เต็มใจจะอนุมัติการลาของเธอ แต่ลัยลาก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเธอถึงยอมเซ็น
ลัยลาเก็บอาการดีใจแทบไม่อยู่ “ขอบคุณมากนะคะคุณวิมล เดี๋ยวกลับมาลัยลาจะซื้อของฝาก มาฝากคุณวิมล”
“ของฝากอย่างนั้นเหรอ” มุมปากของเธอยิ้มเล็กน้อยก่อนจะขยับแว่นตา “ฉันไม่เคยเห็นแก่ของฝาก แต่ถ้าอยากซื้อมาก็ตามใจ” ตั้งแต่คุยกันมาคุณวิมลเพิ่งจะมีรอยยิ้มแรกให้กับลัยลาก็ตอนได้ยินว่าลัยลาจะซื้อของมาฝาก
“เอาเป็นว่าขอให้เธอเที่ยวให้สนุกนะลัยลา แล้วก็อย่าลืมด้วยล่ะที่พูดเอาไว้น่ะ”
“คะ”ลัยลากำลังคิดว่าพูดอะไรไว้ แล้วก็ต้องอมยิ้ม “ได้ค่ะคุณวิมล ลัยลาไม่ลืมของฝากคุณวิมลแน่ๆ” เมื่อเดินออกมาจากฝ่ายบุคคลลัยลาอยากจะกรีดร้องแสดงความดีใจแต่มันคงไม่เหมาะ
“อะไรกันนะที่เปลี่ยนใจคุณวิมล เอ๊ะหรือว่าแกเปลี่ยนใจเพราะอยากได้ของฝาก” หญิงสาวครุ่นคิดและกำลังเดินผ่านไปที่ห้องการตลาดแต่ต้องหยุดทันทีเมื่อรู้สึกว่ามีใครรอบมองเธอแต่เมื่อลัยลากวาดตามองไปรอบๆแล้วก็ต้องประหลาดใจไม่มีอะไรเลยนอกจากมู่ลี่ที่ขยับ
+++++++++++++++++++++++++++++
ผ่านไปสองสัปดาห์
หญิงสาวรูปร่างได้สัดส่วนบวกกับใบหน้าสวยใสและดวงตาหวานซึ่งก็มายืนอยู่หน้าสนามบิน แม้ภายนอกจะดูเหมือนกับว่าเธอเป็นนักท่องเที่ยวกำลังเดินทางไปต่างประเทศแต่ทว่าภายในหัวใจกำลังเต้นตึกตักกับการขึ้นเครื่องบินครั้งแรกในชีวิต ตาคู่สวยมองหาป้ายผู้โดยสารขาออกเมื่อเห็นแล้วจึงลากกระเป๋าโดยสารที่เพิ่งถอยมาใหม่เมื่อสองวันก่อนไปตามทางเดินนั้น โชคยังดีที่เธอหาข้อมูลจากในอินเตอร์เน็ตมาพอสมควรทำให้การขึ้นเครื่องในครั้งแรกในชีวิตไม่มีปัญหาอะไรใช้เวลาสักพักกว่าจะผ่านด่านตรวจจนมาพบกับ Duty Free ซึ่งเป็นธรรมดาของสาวๆย่อมอยากซื้อหาสินค้าปลอดภาษี แต่ลัยลาอดใจเอาไว้กลัวว่าการช้อปอาจทำให้เธอเผลอจนลืมเวลาและตกเครื่องเอาง่ายๆหญิงสาวยอมตัดใจและเดินไปที่ประตูผ่านเครื่องแสกนตรวจร่างกายและสิ่งของต้องห้าม
จนกระทั่งประมาณเกือบหนึ่งชั่วโมงผ่านไปลัยลาก็มานั่งอยู่บนเครื่องบินระดับชั้นเฟริสคราส เป็นประสบการณ์ที่ลัยลาบันทึกเอาไว้ในสมุดเล่มเล็กๆ แม้ว่ายุคนนี้จะมีไอแพด แต่ทว่าหญิงสาวยังคุ้นเคยกับการจนบันทึกลงในกระดาษมากกกว่า
ทันทีที่นั่งลงไม่นานพนักงานต้อนรับสาวสวยบนเครื่องบินก็จัดหา แชมเปญ น้ำแอปเปิ้ล ไวน์แดง น้ำส้มมบริการให้เธอเลือกตามชอบใจและยังมีถั่วขึ้นชื่ออย่างแมคคาดีเมีย อัลมอนด์ มาให้เธอทานเล่นๆรอคอยอาหารเรียกน้ำย่อยก่อนที่ปลาแซลม่อนรมควันส่งกลิ่นหอมฉุยเตะจมูกจัดมาอย่างสวยหรูจะถูกวางตรงหน้า
“ว้าว ที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาสมันดีแบบนี้นี่เอง เบาะกว้างตั้งสามสิบกว่านิ้ว” เธอพูดขึ้นเบาๆหลังจากเห็นพนักงานต้อนรับไปแล้ว เธอมองอาหารหลักที่ถูกนำมาวางเอาไว้อีกและยังมีพุดดิ้งที่ชิมแล้วแทบละลายในปาก แถมพนักพิงก็เป็นเครื่องนวดแบบบิวอินท์ให้เหมาะสมกับเบาะนั่งของเครื่องบิน
“อร่อยจริงๆ เพิ่งจะรู้ว่ากินอะไรบนท้องฟ้ามันได้บรรยากาศแบบนี้นี่เอง ไม่เสียชาติเกิดแล้วเรา อย่างน้อยเกิดมาก็ได้ขึ้นเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาส ที่สำคัญได้ขึ้นฟรีอีกต่างหาก” แต่หญิงสาวก็ยังนึกกลุ้มใจแม้รางวัลที่ได้มาจะเป็นแพคเกจท่องเที่ยวฟรีแถมพ็อคเก็ตมันนี่ แต่สำหรับการเดินทางมาทัวร์คนเดียวมันก็ทำให้หญิงสาวไม่รู้สึกสนุกเท่าที่ควร เพราะบริษัทมอบรางวัลมาและแจ้งว่าเมื่อเธอถึงที่แล้วจะมีคนของบริษัททัวร์มารับแม้เธอจะพกหนังสือท่องเที่ยวตุรกีมาหลายเล่มแต่ก็อดกังวลไม่ได้
เพราะขึ้นเครื่องบินครั้งแรกและพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่ขยันเสริฟท์แม้เครื่องดื่มบางชนิดจะมีน้ำผลไม้เป็นหลักแต่ก็มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่บ้างลัยลาเริ่มรู้สึกกะอักกะะอ่วนไม่แน่ใจว่าตนเองเมาเครื่องบินหรือเปล่า
“หรือว่าเรากินน้อยเกินไป เดินทางไกลต้องใช้พลังงานสูง กองทัพต้องเดินด้วยท้อง”ลัยลามองไปที่อาหารจานหลักเสต็กเนื้อ USA ชิ้นโตจู่ๆเมื่อเครื่องตกหลุมอากาศขณะทีลัยลากำลังหมายมาดจะจิ้มไปที่เสต๊กเนื้อชิ้นโตเขาปาก ตัวเครื่องบินก็สั่นเธอรู้สึกว่าตัวเองลอยขึ้นก่อนจะกระแทกไปกับพนักพิงอย่างแรง
“ว้าย ! อะไรกัน พ่อแก้ว แม่แก้วช่วยลูกด้วย” ช้อนซ่อมในมือหลุดกระเด็นออกจากมือเมื่อเครื่องสั่นติดๆกันและโครงเครงก่อนที่เธอจะมีความรู้สึกว่าเหมือนถูกโยนขึ้นไปบนที่สูงก่อนจะตกลงมาหากเป็นคนที่เดินทางด้วยเครื่องบินอาจจะไม่ตกใจอะไรมากนักเพราะอาจจะได้ผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาบ้างแต่สำหรับคนที่ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกทำให้เธอคิดว่าเครื่องบินกำลังจะตก “
ไม่นะไม่ ฉันยังโสดอยู่ยังไม่เจอเนื้อคู่ ฉันไม่ควรมาตายแบบนี้นะ ถึงจะตายสูงก็ไม่เอา” หญิงสาวปลอบขวัญตัวเองแต่ด้วยสถานการณ์ที่น่ากลัวทำให้หลุดพูดเสียงดัง ชายหนุ่มที่อยู่เบาะด้านหลังเธอยิ้มออกมาเล็กน้อยอย่างนึกขัน
จนกระทั่งเกือบสิบาทีนาทีระทึกของลัยลาผ่านไปแต่เป็นเหตุการณ์ธรรมดาของคนที่ใช้เครื่องบินโดยสารบ่อย
“รอดตายแล้วเหรอเนี่ย” หญิงสาวลูบอกเบาๆสัมผัสได้กับเสียงหัวใจที่ยังเต้นแรงผิดปกติ
“มีอะไรให้ดิฉันช่วยไหมคะ”
นักงานต้อนรับบนเครื่องบินเข้ามาถามพร้อมรอยยิ้ม
ลัยลายิ้มเจื่อน “ถ้าคุณจะกรุณาบอกฉันหน่อยว่าห้องน้ำอยู่ตรงไหนจะดีมากเลย ” '
พนักงานสาวจึงภายมือและบอกทางลัยลา หญิงสาวกล่าวคำขอบคุณก่อนจะปลดเข็มขัดนิรภัยที่ล็อคอยู่ก่อนจะพยุงร่างไปตามทางที่พนักงานสาวบอกแต่แล้วไม่ถึงสามก้าวลัยลาก็พบว่าเธอหน้ามืดและเซถลากำลังจะล้มลงไปหากไม่มีร่างสูงใหญ่มาประคองเธออย่างรวดเร็ว
“ขอโทษค่ะ” เมื่อลัยลาหันไปมองก็พบว่าคนที่เธอชนหรือคนที่มาช่วยพยุงเธออยู่นี้ดูคุ้นหน้าคุ้นตาแต่เธอสาบานได้ว่าตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยพบหน้าเขามาก่อน เอ…..แล้วมันยังไงกันหรือเธอกำลังเมาเครื่องบิน
“เป็นอย่างไรบ้างครับคุณจะไปห้องน้ำใช่ไหมต้องการให้ผมช่วยพาไปไหม ผมจะไปทางนั้นอยู่พอดี” ไม่รู้จักกันอีกอย่างฝ่ายตรงข้ามก็เป็นผู้ชายถึงจะหล่อแค่ไหนลัยลาก็เลือกที่จะสั่นศีรษะ
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเดินไปเองได้”
“แน่ใจเหรอครับ” สีหน้าแสดงความไม่แน่ใจ
“ไม่เชื่อคุณปล่อยฉันก่อนสิคะฉันจะเดินไปห้องน้ำให้คุณดู”
ชายหน้าเข้ม ใบหน้าคมชัดหล่อไปทุกองค์ประกอบที่รวมเป็น ชีค คาลิฟา บินคารีม จามีล
เขาพยักหน้า ก่อนจะปล่อยเธอ เท่านั้นคนสวยก็เซถลาจากอาการเมาเครื่องบิน จนชายหนุ่มหน้าคมชัดหล่อเหมือนพระเอกหนังแขกต้องกระตุกยิ้มให้กับคนอวดดีก่อนจะพยุงเธอให้ลุกขึ้นมา
“บอกแล้วว่าคุณเดินเองไม่ไหวหรอก คุณกำลังเมา”
เหมือนลัยลาจะเริ่มยอมรับเพราะตอนนี้เธอมึนไปหมดไม่อย่างนั้นจะคุยกับผู้ชายหน้าแขกที่พูดภาษาไทย
ได้ชัดเจนได้อย่างไร
“ฉันคงเมาจริงๆ ไม่อย่างนั้นจะคุยกับแขกเป็นภาษาไทยได้อย่างไร”
“มันไม่แปลกที่ผมจะพูดภาษาไทยได้เพราะพ่อกับแม่เลี้ยงผมเป็นคนไทย”
“เอาล่ะผมจะพยุงคุณไปที่ห้องน้ำ ”เขาพูดพร้อมกับลงมือทำ
เธอสังเกตว่าเสื้อตัวในสีขาวใต้สูทเนื้อดีจากแบรนด์ดังของเขาเปรอะ ผู้ชายคนนี้แต่งตัวเรียบเนี้ยบแบบนักธุรกิจ แต่ทำไมกินอะไรเลอะเทอะจังสงสัยซอสจะหกใส่เสื้อลัยลาคิด
เหมือนเขาจะรู้ทันความคิดเธอเมื่อเขาเห็นเธอมองรอยเปรอะที่เสื้อเขา ก่อนจะยิ้มเล็กน้อย“ผมก็อยากจะหาตัวคนกินสเต๊กที่ปล่อยให้ช้อนซ่อมลอยมาตกที่เสื้อผม ถ้าเจอตัวผมจะเรียกค่าเสียหายเสียให้เข็ด” เสื้อตัวในของเขาเธอเห็นก็รู้แล้วว่ายี่ห้อนี้เป็นแบรนด์ดังระดับโลกราคาแพงระยับ ขืนต้องจ่ายตังค์ค่าเสื้อของเขาพ็อคเก็ตมันนี่ที่ได้มาคงไม่พอ เอาล่ะเมื่อเธอถึงโต๊ะจะรีบให้พนักงานต้อนรับช่วยเก็บจานเสต๊กของเธอไปด่วนเพื่อทำลายหลักฐาน
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“คุณจะลางานกี่วันและไปไหนคะ ช่วยบอกฉันชัดๆ อีกสักครั้งสิคุณลัยลา” สาวใหญ่รูปร่างสูงโปร่งมองรอดแว่นมาที่ลัยลา เธอเหยียดยิ้มแม้ว่าลัยลาจะไม่มีประวัติการลางานบ่อยครั้งอย่างไม่มีสาเหตุก็ตามแต่การลางานนานขนาดนี้เห็นทีเธอคงจะอนุมัติยาก ที่สำคัญเธอได้ยินมาว่าเด็กนี่ส่งอะไรไปชิงโชคสักอย่างและดวงดีได้รับรางวัลแพคเกตทัวร์เที่ยวฟรี ตุรกี 8 วัน 7 คืนทั้งชีวิตเธอเองยังไม่เคยก้าวเท้าออกนอกประเทศเลยเรื่องอะไรจะปล่อยให้คนได้ไปฟรีๆมีโอกาสไปง่ายๆ
“ไปเอ่อ....ไปตุรกีค่ะคุณวาสนา ” ลัยลาส่งยิ้มหวาน แต่ก็ต้องยิ้มค้างและหุบลงอย่างรวดเร็วเมื่อผู้จัดการฝ่ายบุคคลฉีกใบลางานของเธอทิ้งต่อหน้าต่อตา
“รวยนะ จะไปเที่ยวเมืองนอกตั้งเจ็ดแปดวัน” น้ำเสียงประชดประชัน
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะคุณวาสนา แต่ลัยลาได้ไปฟรีต่างหากค่ะ”
“ถ้าจะลางานยาวขนาดนี้เพื่อที่จะไปเที่ยวฟรี ฉันขอแนะนำให้เธอลาออกไปเลยจะดีกว่า” จากนั้นคุณวาสนาก็ต่อว่าลัยลาหาว่าลางานไปทำเรื่องไร้สาระที่ไม่มีประโยชน์ต่อบริษัทเธอไม่อนุมัติ เจ้าหน้าที่หลายคนในห้องฝ่ายบุคคลมองมาที่ลัยลาอย่างเห็นใจใครก็รู้ว่าคุณวาสนาเป็นอย่างไร ที่ยังอยู่ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายบุคคลมาได้จนกระทั่งถึงป่านนี้ก็เพราะเป็นคนเก่าคนแก่ที่คุณหญิงมณีมาลา เจ้าของบริษัทไว้ใจ
ลัยลาจึงต้องเดินคอตกกลับแผนกการตลาดของเธอไปทั้งที่ครั้งแรกไม่อยากจะไปนัก แต่พอมีเคล้าว่าจะไม่ได้ไปจริงๆกับนึกเสียดาย “ถ้าไปเที่ยวแล้วต้องตกงานใครจะไปล่ะ งานมันหาง่ายๆกันซะที่ไหน ตุรกี จ๋าลัยลาคงหมดโอกาสไปเยือนแล้วสินะ”
คนผิวขาวตัวสูงในชุดสูทสากลลดหนังสือพิมพ์ฉบับภาษาอังกฤษลง ใบหน้าคมเข้มเรียบเฉยนั้นมองตามร่างบางไปอย่างสนใจ และรู้สึกคุ้นตา
“ว้าย!” พิมมาดา ผู้จัดการบริษัทส่งออกเครื่องเทศรายใหญ่อันดับต้นของประเทศไทยยกมือทาบอกอย่างตกตะลึง
“คุณชีค มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะเนี่ย ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ล่ะคะ ต้องขอโทษจริงๆนะคะทางเราไม่รู้ว่าคุณจะเดินทางมาอย่างกระทันหันเลยไม่ได้เตรียมการต้อนรับ”
เขายกมือปรามไม่ให้เธอพูดอะไรต่ออีก ใบหน้าหล่อคมราวกับเจ้าชายอาหรับแต่แสนจะเฉยชานี้ทำให้ผู้จัดการสาวหยุดพูดลงทันที จากนั้นเขาก็เดินตัวตรงไปที่ห้องของประธานบริษัท ขณะที่พิมมาดาเมื่อตั้งสติได้ก็
เรียกให้แม่บ้านรีบยกน้ำดื่ม ของว่างไปรับรองลูกเลี้ยงของท่านประธาน
“ทำหน้าเย็นชาเหมือนภูเขาน้ำแข็งอลาสก้าแบบนี้สงสัยว่าจะไม่พอใจอะไรแน่เลย แล้วมาได้ยังไงไม่เห็นมีใครแจ้งล่วงหน้าเลย”
++++++++++++++++++++
ณ ห้องทำงานของประธานใหญ่ ชายร่างสูงแต่ดูสมส่วนบุคลิกของเขาดูมีพลังให้คนที่อยู่รอบข้างต้องรู้สึกว่าตนเองตัวเล็กลงไปถนัด ผู้จัดการบริษัทยักษ์ใหญ่เดินสีหน้ายิ้มแย้มเข้ามารายงานผลประกอบการในช่วงนี้กับทายาทคนเดียวของท่านประธานซึ่งมีท่าทีว่ากำลังจะลงจากตำแหน่งและผู้ชายหน้าหล่อแต่ดูเย็นชาคนนี้ก็คือท่านประธานใหญ่ในอนาคตชนิดว่าไม่ต้องทายกันให้เสียเวลาเลย
ดังนั้นเพื่ออนาคตที่ก้าวหน้าเธอจึงเลือกที่จะเอาใจลูกชายท่านประธานเอาไว้เสียแต่ตอนนี้ ดูจากหน้าตาท่าทางของเขาแทบจะไม่มีส่วนคล้ายคนไทยเลยถ้าให้เธอเดาเขาน่าจะมีเชื้อสายของชาวตะวันตกประเทศไหนสักประเทศบวกกับเชื้อสายอาหรับเขาถึงได้หล่อคมเหมือนฝรั่งผสมแขกซึ่งล้วนแต่เลือกสิ่งดีๆมาจนรวมเป็นเครื่องหน้าของตน
เธอรัวภาษาอังกฤษทักทายและนำนำตัวกลับเขาเพราะคิดว่าเขาคงฟังภาษาไทยไม่ค่อยเข้าใจ แต่ผิดคลาดเขากลับยิ้มกว้างและภายมือเชิญชวนให้เธอนั่งสีหน้าเป็นกันเอง
“สวัสดีครับคุณพิมมาดาไม่ต้องมีพิธีรีตองหรอกครับ ผมต้องขอโทษที่รบกวนเวลาทำงานของคุณ”
“รบกวนอะไรกันคะ พิมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คุณชีคเรียกพบพิม”
“ถ้าอย่างนั้นมาเข้าเรื่องเลย” เธอคิดว่าเขาจะสอบถามเรื่องยอดขายหรือผลกำไรแต่เปล่าเลย
“ผู้หญิงที่เดินเข้าไปในห้องการตลาดก่อนที่คุณจะเข้ามาทักผมเธอเป็นใคร ผมอยากได้ประวัติเธอ” พิมมาดาทำสีหน้าแปลกใจ แต่เมื่อเจ้านายสั่งมีหรือเธอจะคัดค้าน
“รอสักครู่ค่ะคุณชีค ดิฉันจะนำประวัติของเธอมาให้คุณภายใน 5 นาที”
“ดีมาก”
พิมมาดายิ้มปลื้มในคำชมเธอต้องเอาใจเขาเอาไว้ได้ข่าวว่าอีกไม่นานคุณชีคจะเข้ามาสืบทอดตำแหน่งจากประธานใหญ่ไม่เกินสิ้นปีหน้า
+++++++++++++++++
ฝ่ายการตลาด
“เป็นอะไรไปลัยลา ทำไมนั่งหน้ามุ่ยแบบนี้ล่ะแล้วนี้ไม่ไปกินข้าวด้วยกันเหรอ ” รุ่นพี่ในฝ่ายการตลาดเอ่ยถาม
“ไม่ไปค่ะพี่ศรีไปเถอ”
“อย่าบอกนะว่าจะเก็บเงินไปช้อปปิ้งที่ตุรกี แล้วตกลงเดินทางเมื่อไหร่ล่ะ ลัยลานี่โชคดีจริงๆนะมากับดวงจริงๆ”
“ดวงดีแต่ก็ไม่ได้ไปอยู่ดีค่ะ” หญิงสาวตอบเซ็งๆแอบเสียดายรางวัลที่เธอจะต้องปล่อยไป
“ทำไมล่ะ”
“ก็คุณวาสนาผู้จัดการฝ่ายบุคคลไม่อนุมัติบอกว่าเหตุผลในการลาไม่เพียงพอ”
“อะไรมีแบบนี้ด้วยเหรอ ก็ลัยลาใช้พักร้อนนี่อีกอย่างหัวหน้าของแผนกเราก็เซ็นไปแล้ว”
“ก็นั่นแหละค่ะ แต่สุดท้ายคุณวาสนาก็ไม่ยอมอยู่ดี บอกว่าจะให้ลากรณีเดียวคือลาออก”
“อะไรนะยัยคุณป้าค้างคาน นั่นพูดขนาดนี้เชียวคงอิจฉาล่ะสิท่า ถ้าไม่ได้ไปจริงๆต้องน่าเสียดายมากๆแน่ๆ ไม่ใช่ว่าจะได้ไปกันง่ายๆยิ่งได้ไปฟรีๆแบบนี้ด้วย”
“ช่างเถอะค่ะ ลัยลาทำใจได้แล้ว ไม่ได้ไปเที่ยวก็ยังดีกว่าไม่มีงานทำ”
“ทำใจได้ก็ดีแล้ว แต่หมั่นไส้ยัยแก่ค้างคาน คนนี้จริงๆชีร้ายมากเห็นคนอื่นมีความสุขกว่าตนเองไม่ได้”
ลัยลายิ้มแต่ไม่ตอบอะไร ลัยลานั่งอ่านข้อมูลออนไลน์จากอินเตอร์เน็ตในช่วงพักเที่ยงเปิดดูสพานที่ท่องเที่ยวและแหล่งช้อปปิ้ง ของตุรกีไปก็แอบเสียดาไปเพราะจากการหา จนกระทั่งยามบ่ายเธอจึงลงมือทำงานต่อลงมือทำงานไปได้เพียงห้านาทีสัญญาณโทรศัพท์ดึงขึ้น
“คุณลัยลาขึ้นมาพบฉันด่วน”
“ได้ค่ะคุณวิมล” หญิงสาววางสาย “อะไรกันอีกนะ” ลัยลาคิดว่าคุณวิมลคงเรียกไปในเรื่องที่ไม่ดีแน่ คนในบริษัทนี้ใครถูกคุณวิมลเรียกต้องหนาวๆร้อนๆกันทุกคน
++++++++++++++++++++++++++
“เชิญนั่งสิคุณลัยลา” น้ำเสียงแข็ง
“ขอบคุณค่ะคุณวิมล” ลัยลานั่งลงอย่างเรียบร้อยตัวตรงมองหน้าคุณวิมล “ไม่ทราบว่าคุณวิมลเรียกลัยลามาพบด้วยเรื่องอะไรคะ” หญิงสาวรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ตรงหน้าคุณครูฝ่ายปกครองที่ดุที่สุด
“ก็มีอยู่เรื่องเดียวที่ฉันเรียกเธอมา ใครว่าฉันอยากจะเรียกเธอมานั่งคุยเล่นด้วยแบบไม่มีสาระล่ะ”
ลัยลากลืนน้ำลายฝืดลงลำคอ ท่าทางคุณวิมลเหมือนจะออกอาการเหวี่ยงๆ นี่เธอทำอะไรผิดกันนะ ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยได้มาสายนี่
“เอ้านี้” กระดาษสีขาวถูกเลื่อนมาตรงหน้าลัยลา
หญิงสาวหยิบขึ้นมาดูและก็พบว่า
“ฉันอนุมัติให้เธอลาพักร้อนได้เป็นเวลา 7 วัน คงพอใจแล้วสินะ” ท่าทีคุณวิมลยังเหมือนไม่เต็มใจจะอนุมัติการลาของเธอ แต่ลัยลาก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเธอถึงยอมเซ็น
ลัยลาเก็บอาการดีใจแทบไม่อยู่ “ขอบคุณมากนะคะคุณวิมล เดี๋ยวกลับมาลัยลาจะซื้อของฝาก มาฝากคุณวิมล”
“ของฝากอย่างนั้นเหรอ” มุมปากของเธอยิ้มเล็กน้อยก่อนจะขยับแว่นตา “ฉันไม่เคยเห็นแก่ของฝาก แต่ถ้าอยากซื้อมาก็ตามใจ” ตั้งแต่คุยกันมาคุณวิมลเพิ่งจะมีรอยยิ้มแรกให้กับลัยลาก็ตอนได้ยินว่าลัยลาจะซื้อของมาฝาก
“เอาเป็นว่าขอให้เธอเที่ยวให้สนุกนะลัยลา แล้วก็อย่าลืมด้วยล่ะที่พูดเอาไว้น่ะ”
“คะ”ลัยลากำลังคิดว่าพูดอะไรไว้ แล้วก็ต้องอมยิ้ม “ได้ค่ะคุณวิมล ลัยลาไม่ลืมของฝากคุณวิมลแน่ๆ” เมื่อเดินออกมาจากฝ่ายบุคคลลัยลาอยากจะกรีดร้องแสดงความดีใจแต่มันคงไม่เหมาะ
“อะไรกันนะที่เปลี่ยนใจคุณวิมล เอ๊ะหรือว่าแกเปลี่ยนใจเพราะอยากได้ของฝาก” หญิงสาวครุ่นคิดและกำลังเดินผ่านไปที่ห้องการตลาดแต่ต้องหยุดทันทีเมื่อรู้สึกว่ามีใครรอบมองเธอแต่เมื่อลัยลากวาดตามองไปรอบๆแล้วก็ต้องประหลาดใจไม่มีอะไรเลยนอกจากมู่ลี่ที่ขยับ
+++++++++++++++++++++++++++++
ผ่านไปสองสัปดาห์
หญิงสาวรูปร่างได้สัดส่วนบวกกับใบหน้าสวยใสและดวงตาหวานซึ่งก็มายืนอยู่หน้าสนามบิน แม้ภายนอกจะดูเหมือนกับว่าเธอเป็นนักท่องเที่ยวกำลังเดินทางไปต่างประเทศแต่ทว่าภายในหัวใจกำลังเต้นตึกตักกับการขึ้นเครื่องบินครั้งแรกในชีวิต ตาคู่สวยมองหาป้ายผู้โดยสารขาออกเมื่อเห็นแล้วจึงลากกระเป๋าโดยสารที่เพิ่งถอยมาใหม่เมื่อสองวันก่อนไปตามทางเดินนั้น โชคยังดีที่เธอหาข้อมูลจากในอินเตอร์เน็ตมาพอสมควรทำให้การขึ้นเครื่องในครั้งแรกในชีวิตไม่มีปัญหาอะไรใช้เวลาสักพักกว่าจะผ่านด่านตรวจจนมาพบกับ Duty Free ซึ่งเป็นธรรมดาของสาวๆย่อมอยากซื้อหาสินค้าปลอดภาษี แต่ลัยลาอดใจเอาไว้กลัวว่าการช้อปอาจทำให้เธอเผลอจนลืมเวลาและตกเครื่องเอาง่ายๆหญิงสาวยอมตัดใจและเดินไปที่ประตูผ่านเครื่องแสกนตรวจร่างกายและสิ่งของต้องห้าม
จนกระทั่งประมาณเกือบหนึ่งชั่วโมงผ่านไปลัยลาก็มานั่งอยู่บนเครื่องบินระดับชั้นเฟริสคราส เป็นประสบการณ์ที่ลัยลาบันทึกเอาไว้ในสมุดเล่มเล็กๆ แม้ว่ายุคนนี้จะมีไอแพด แต่ทว่าหญิงสาวยังคุ้นเคยกับการจนบันทึกลงในกระดาษมากกกว่า
ทันทีที่นั่งลงไม่นานพนักงานต้อนรับสาวสวยบนเครื่องบินก็จัดหา แชมเปญ น้ำแอปเปิ้ล ไวน์แดง น้ำส้มมบริการให้เธอเลือกตามชอบใจและยังมีถั่วขึ้นชื่ออย่างแมคคาดีเมีย อัลมอนด์ มาให้เธอทานเล่นๆรอคอยอาหารเรียกน้ำย่อยก่อนที่ปลาแซลม่อนรมควันส่งกลิ่นหอมฉุยเตะจมูกจัดมาอย่างสวยหรูจะถูกวางตรงหน้า
“ว้าว ที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาสมันดีแบบนี้นี่เอง เบาะกว้างตั้งสามสิบกว่านิ้ว” เธอพูดขึ้นเบาๆหลังจากเห็นพนักงานต้อนรับไปแล้ว เธอมองอาหารหลักที่ถูกนำมาวางเอาไว้อีกและยังมีพุดดิ้งที่ชิมแล้วแทบละลายในปาก แถมพนักพิงก็เป็นเครื่องนวดแบบบิวอินท์ให้เหมาะสมกับเบาะนั่งของเครื่องบิน
“อร่อยจริงๆ เพิ่งจะรู้ว่ากินอะไรบนท้องฟ้ามันได้บรรยากาศแบบนี้นี่เอง ไม่เสียชาติเกิดแล้วเรา อย่างน้อยเกิดมาก็ได้ขึ้นเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาส ที่สำคัญได้ขึ้นฟรีอีกต่างหาก” แต่หญิงสาวก็ยังนึกกลุ้มใจแม้รางวัลที่ได้มาจะเป็นแพคเกจท่องเที่ยวฟรีแถมพ็อคเก็ตมันนี่ แต่สำหรับการเดินทางมาทัวร์คนเดียวมันก็ทำให้หญิงสาวไม่รู้สึกสนุกเท่าที่ควร เพราะบริษัทมอบรางวัลมาและแจ้งว่าเมื่อเธอถึงที่แล้วจะมีคนของบริษัททัวร์มารับแม้เธอจะพกหนังสือท่องเที่ยวตุรกีมาหลายเล่มแต่ก็อดกังวลไม่ได้
เพราะขึ้นเครื่องบินครั้งแรกและพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่ขยันเสริฟท์แม้เครื่องดื่มบางชนิดจะมีน้ำผลไม้เป็นหลักแต่ก็มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่บ้างลัยลาเริ่มรู้สึกกะอักกะะอ่วนไม่แน่ใจว่าตนเองเมาเครื่องบินหรือเปล่า
“หรือว่าเรากินน้อยเกินไป เดินทางไกลต้องใช้พลังงานสูง กองทัพต้องเดินด้วยท้อง”ลัยลามองไปที่อาหารจานหลักเสต็กเนื้อ USA ชิ้นโตจู่ๆเมื่อเครื่องตกหลุมอากาศขณะทีลัยลากำลังหมายมาดจะจิ้มไปที่เสต๊กเนื้อชิ้นโตเขาปาก ตัวเครื่องบินก็สั่นเธอรู้สึกว่าตัวเองลอยขึ้นก่อนจะกระแทกไปกับพนักพิงอย่างแรง
“ว้าย ! อะไรกัน พ่อแก้ว แม่แก้วช่วยลูกด้วย” ช้อนซ่อมในมือหลุดกระเด็นออกจากมือเมื่อเครื่องสั่นติดๆกันและโครงเครงก่อนที่เธอจะมีความรู้สึกว่าเหมือนถูกโยนขึ้นไปบนที่สูงก่อนจะตกลงมาหากเป็นคนที่เดินทางด้วยเครื่องบินอาจจะไม่ตกใจอะไรมากนักเพราะอาจจะได้ผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาบ้างแต่สำหรับคนที่ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกทำให้เธอคิดว่าเครื่องบินกำลังจะตก “
ไม่นะไม่ ฉันยังโสดอยู่ยังไม่เจอเนื้อคู่ ฉันไม่ควรมาตายแบบนี้นะ ถึงจะตายสูงก็ไม่เอา” หญิงสาวปลอบขวัญตัวเองแต่ด้วยสถานการณ์ที่น่ากลัวทำให้หลุดพูดเสียงดัง ชายหนุ่มที่อยู่เบาะด้านหลังเธอยิ้มออกมาเล็กน้อยอย่างนึกขัน
จนกระทั่งเกือบสิบาทีนาทีระทึกของลัยลาผ่านไปแต่เป็นเหตุการณ์ธรรมดาของคนที่ใช้เครื่องบินโดยสารบ่อย
“รอดตายแล้วเหรอเนี่ย” หญิงสาวลูบอกเบาๆสัมผัสได้กับเสียงหัวใจที่ยังเต้นแรงผิดปกติ
“มีอะไรให้ดิฉันช่วยไหมคะ”
นักงานต้อนรับบนเครื่องบินเข้ามาถามพร้อมรอยยิ้ม
ลัยลายิ้มเจื่อน “ถ้าคุณจะกรุณาบอกฉันหน่อยว่าห้องน้ำอยู่ตรงไหนจะดีมากเลย ” '
พนักงานสาวจึงภายมือและบอกทางลัยลา หญิงสาวกล่าวคำขอบคุณก่อนจะปลดเข็มขัดนิรภัยที่ล็อคอยู่ก่อนจะพยุงร่างไปตามทางที่พนักงานสาวบอกแต่แล้วไม่ถึงสามก้าวลัยลาก็พบว่าเธอหน้ามืดและเซถลากำลังจะล้มลงไปหากไม่มีร่างสูงใหญ่มาประคองเธออย่างรวดเร็ว
“ขอโทษค่ะ” เมื่อลัยลาหันไปมองก็พบว่าคนที่เธอชนหรือคนที่มาช่วยพยุงเธออยู่นี้ดูคุ้นหน้าคุ้นตาแต่เธอสาบานได้ว่าตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยพบหน้าเขามาก่อน เอ…..แล้วมันยังไงกันหรือเธอกำลังเมาเครื่องบิน
“เป็นอย่างไรบ้างครับคุณจะไปห้องน้ำใช่ไหมต้องการให้ผมช่วยพาไปไหม ผมจะไปทางนั้นอยู่พอดี” ไม่รู้จักกันอีกอย่างฝ่ายตรงข้ามก็เป็นผู้ชายถึงจะหล่อแค่ไหนลัยลาก็เลือกที่จะสั่นศีรษะ
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเดินไปเองได้”
“แน่ใจเหรอครับ” สีหน้าแสดงความไม่แน่ใจ
“ไม่เชื่อคุณปล่อยฉันก่อนสิคะฉันจะเดินไปห้องน้ำให้คุณดู”
ชายหน้าเข้ม ใบหน้าคมชัดหล่อไปทุกองค์ประกอบที่รวมเป็น ชีค คาลิฟา บินคารีม จามีล
เขาพยักหน้า ก่อนจะปล่อยเธอ เท่านั้นคนสวยก็เซถลาจากอาการเมาเครื่องบิน จนชายหนุ่มหน้าคมชัดหล่อเหมือนพระเอกหนังแขกต้องกระตุกยิ้มให้กับคนอวดดีก่อนจะพยุงเธอให้ลุกขึ้นมา
“บอกแล้วว่าคุณเดินเองไม่ไหวหรอก คุณกำลังเมา”
เหมือนลัยลาจะเริ่มยอมรับเพราะตอนนี้เธอมึนไปหมดไม่อย่างนั้นจะคุยกับผู้ชายหน้าแขกที่พูดภาษาไทย
ได้ชัดเจนได้อย่างไร
“ฉันคงเมาจริงๆ ไม่อย่างนั้นจะคุยกับแขกเป็นภาษาไทยได้อย่างไร”
“มันไม่แปลกที่ผมจะพูดภาษาไทยได้เพราะพ่อกับแม่เลี้ยงผมเป็นคนไทย”
“เอาล่ะผมจะพยุงคุณไปที่ห้องน้ำ ”เขาพูดพร้อมกับลงมือทำ
เธอสังเกตว่าเสื้อตัวในสีขาวใต้สูทเนื้อดีจากแบรนด์ดังของเขาเปรอะ ผู้ชายคนนี้แต่งตัวเรียบเนี้ยบแบบนักธุรกิจ แต่ทำไมกินอะไรเลอะเทอะจังสงสัยซอสจะหกใส่เสื้อลัยลาคิด
เหมือนเขาจะรู้ทันความคิดเธอเมื่อเขาเห็นเธอมองรอยเปรอะที่เสื้อเขา ก่อนจะยิ้มเล็กน้อย“ผมก็อยากจะหาตัวคนกินสเต๊กที่ปล่อยให้ช้อนซ่อมลอยมาตกที่เสื้อผม ถ้าเจอตัวผมจะเรียกค่าเสียหายเสียให้เข็ด” เสื้อตัวในของเขาเธอเห็นก็รู้แล้วว่ายี่ห้อนี้เป็นแบรนด์ดังระดับโลกราคาแพงระยับ ขืนต้องจ่ายตังค์ค่าเสื้อของเขาพ็อคเก็ตมันนี่ที่ได้มาคงไม่พอ เอาล่ะเมื่อเธอถึงโต๊ะจะรีบให้พนักงานต้อนรับช่วยเก็บจานเสต๊กของเธอไปด่วนเพื่อทำลายหลักฐาน
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
![](/images/icons/634.jpg)
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ก.พ. 2556, 00:06:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ก.พ. 2556, 00:07:49 น.
จำนวนการเข้าชม : 4072
<< ตอนที่ 1 |
![](/images/icons/980.jpg)
lovemuay 4 ก.พ. 2556, 14:50:42 น.
ฮาความคิดนางเอกจริงๆ อิอิ
ฮาความคิดนางเอกจริงๆ อิอิ
![](/images/icons/634.jpg)
อัปสรา 4 ก.พ. 2556, 16:43:53 น.
สวัสดีค่ะคุณ lovemuay
สวัสดีค่ะคุณ lovemuay