เรื่องสั้น : รอยยิ้มและสายลมเหงา
ลมหนาวพัดมาแล้ว ทำให้หัวใจเหงาๆ หนาวขึ้นอีกหลายเท่าตัว....
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน:

1.
ลมหนาวพัดมาแล้ว ทำให้หัวใจเหงาๆ หนาวขึ้นอีกหลายเท่าตัว
ทุกชีวิตบนโลกล้วนมีความจำเป็น และเป็นไปตามวิถี
ฉันปิดโปรแกรมสนทนาออนไลน์ พร้อมกับไม่ลืมบอกตัวเองว่า สู้นะ และยิ้มนะ
ระหว่างทางเดินลงจากชั้นสี่ของตึก จะเห็นนักเรียนตัวเล็กๆ วิ่งเล่น หัวเราะ สนุกสนานโดยตลอด
ฉันยิ้มให้กับภาพเหล่านั้น แต่ก็เกิดความเศร้าในจิตใจพร้อมๆ กัน
เพราะฉันไม่แน่ใจว่า เมื่อพวกเขาโตขึ้น พวกเขาจะจำสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ได้ไหม
หรือพวกเขา จะจดจำแต่ความเจ็บช้ำ อย่างเช่นฉันในตอนนี้
ฉันภาวนาในใจว่า ขอให้พวกเขาเติบโตมา และคิดเป็น และทันคน
อย่าได้เจ็บ อย่าได้ปวดใจ อย่างฉันเลย

ก้าวอย่างช้าๆ มาถึงชั้นล่าง
เด็กๆ ในสนามฟุตบอล เตะบอลกันตูมตาม
บ้างก็ปีนรั้ว บ้างก็เดินกินลูกชิ้น
พ่อค้า แม่ค้าขายผัก พูดคุย หัวเราะ
แม่ ลูกหอมแก้มกัน ขณะแม่มารับกลับบ้าน

ฉันยิ้มให้กับภาพเหล่านั้นเพียงลำพัง
ลมหนาวพัดผะแผ่วกระทบผิวกาย แต่หนาวถึงหัวใจ
ฉันยังไม่อยากกลับบ้าน

2.
ฉันเดินวนเวียนอยู่ที่จอดรถ ไม่ใช่เพราะหากุญแจรถไม่เจอ
แต่ครุ่นคิดในใจว่า “ฉันจะไปไหนดี”
ฉันถอนหายใจอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ ฉันตัดสินใจ
ฉันจะยังไม่กลับบ้าน

“ร้านหนังสือ”
เป็นจุดมุ่งหมายที่บังเอิญใจถามหา ใคร่ค้น
ฉันจอดรถหน้าร้านหนังสืออย่างแปลกใจตัวเองว่า
ฉันฝ่าไฟแดงมาหรือเปล่านะ เมื่อกี้
หรือฉันตัดหน้ารถใครหรือเปล่า
ทำไมเพลิน จนลืมไปว่า ฉันสวมหมวกกันน็อคหรือไม่

แต่ใช่สำคัญเท่ากับว่า ฉันหยิบหนังสือจากชั้นวาง แล้ว ยิ้ม
ยิ้มอีกแล้ว ยิ้มที่มุมปาก แต่ใจฉันไม่แย้มแม้แต่น้อย
หนังสือหลายเล่มถูกฉันแตะต้อง และรู้จักเป็นบางหน้า
หรือบางเล่มฉันก็ทำความรู้จักแค่ชื่อ
ฉันสับสนว่า ฉันอยากมาที่นี่เหรอ

“เฮ้ยยย อย่าซน สิ เดี๋ยวถูกตีเลย”
ตกใจเล็กน้อย กับเสียงก้องโสตประสาทนั้น
อืมมม ถ้อยคำที่ไม่ใช่ก่นด่า เพียงแค่เสียงดังแค่นั้นเอง
ฉันยิ้มให้กับเสียงทีเล่นทีจริงนั้น แล้วส่ายหน้าเล็กน้อย
“เด็กน้อยก็คงเล่นซนตามประสา” ฉันคุยกับตัวเองเงียบๆ

3.
“อุทกภัยในดวงตา”
นึกถึงใครคนหนึ่งที่ขึ้นข้อความในโปรแกรมเอมเอสเอนเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา
ฉันหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาดม พบว่า กลิ่นไม่เก่า
ฉันเป็นโรคประหลาดหรือเปล่า ก่อนซื้อหนังสือ จะดมกลิ่นของหนังสือ
ฉันเปิดอ่านคำนำ และ ปกท้าย พบว่า ฉันวางลงดีกว่า
เพราะฉันคงไม่มีสมาธิอ่านแน่ๆ ยามนี้
แล้วสายตา อีกทั้งวงนิ้วอ้วนกลม ก็เลื่อนไปปะทะ หนังสือธรรมะ
นี่สิ ที่ฉันต้องการ
เพราะเพียงแค่ เปิดอ่านคำตอบของพระผู้เขียน ฉันก็รู้สึกดีขึ้นมาชั่ววูบ
แต่อนิจจัง กระเป๋าตังฉัน ไม่ได้เป็นใจจะให้จับจองได้

ฉันวางมันลงที่เดิมอย่างเบามือ
แล้วเดินสำรวจหนังสือจากชั้นวางอีกหนึ่งรอบ
17.30 น. แล้ว อืมม เดี๋ยวคงค่ำ และได้เวลานอน
หากฉันกลับบ้านตอนนี้ก็คงพอดีกัน
แล้วสองขาก็พาร่างตุ้ยนุ้ยของฉันมาหยุดตรง “อุทกภัยในดวงตา” อีกครั้ง

อยากไปนอนเล่นที่บ้านฉันสักวันสองวันสินะ
ได้สิ ไปก็ไป แต่อย่ามางอแงล่ะ
เพราะฉันคงไม่มีเวลาดูแลเธอนะตอนนี้
ฉันขอเวลาดูแลใจตัวฉันเองก่อน

สายลมเหงาพัดวูบ
ฉันยิ้มให้กับ “อุทกภัยในดวงตา”

****************************

ขอบคุณ ผู้เกี่ยวข้องทุกท่านในเรื่องนี้
อุทกภัยในดวงตา : ปราบดา หยุ่น เขียน



rubino
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 พ.ค. 2554, 19:31:55 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 พ.ค. 2554, 19:42:10 น.

จำนวนการเข้าชม : 1764





เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account