หวนกลิ่นคัดเค้า
เพราะแรงแค้นจากบุพเพผลักดันให้เธอรู้สึกเกลียดคน ๆ หนึ่งอยู่ตลอดเวลา

กลิ่นดอกคัดเค้าที่อบอวลทำให้รู้ว่าผลแห่งการกระทำยังไม่ไปไหน กรรมยังคงตามวนเวียนรอให้ทุกคนได้ชดใช้

กรรมดี กรรมชั่ว ส่งผลถึงในภพชาตินี้ ทุกคนจะต้องกลับมาเจอกันอีกครั้ง เหมือนกลิ่นคัดเค้าที่หวนคืนมา
Tags: อดีต คัดเค้า บุพเพ

ตอน: บทนำ

ฝาก หวนกลิ่นคัดเค้า ด้วยนะคะ ทุกตัวอักษรทำด้วยใจรัก อย่าใช้คำว่าติชมกันเลยเนอะ แต่อยากบอกว่ามีอะไรก็ชี้แนะให้คำปรึกษาด้วยนะคะ ^^

_____________________________________________________________,

หวนกลิ่นคัดเค้า

บทนำ

"พิม เอากระเป๋าของฉันไปเก็บไว้ที่ห้องที" เสียงใสแต่ทว่าทรงพลังกล่าวกับเด็กรับใช้คนสนิท แล้วร่างแน่งน้อยเจ้าของคำสั่งนั้นก็ทรุดตัวลงนั่งกับเบาะโซฟานุ่มในห้องนั่งเล่น

ที่ปรากฏแก่สายตาของพิมคือลูกสาวคนโตของราวินทร์ วงศ์ราวิน อดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ซึ่งบัดนี้เกษียณอายุราชการแล้ว รุ่งวนิช วงศ์ราวิน หรือที่เธอเรียกว่า คุณรุ่ง หญิงสาววัย 26 ปี ราวินทร์บิดาของรุ่งวนิชนั้นมีภรรยาทั้งหมดสามคนโดยที่ปัจจุบันได้อาศัยอยู่กับอรฉัตร ภรรยาคนสุดท้ายที่อายุต่างกันถึงสิบปี

"พิม มัวแต่เหม่ออะไรอยู่" เสียงเตือนนั้นทำให้พิมสะดุ้งแล้วรีบทำตามคำสั่งของนายสาวทันที รุ่งวนิชถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า งานวันนี้ของเธอนั้นหนักเป็นพิเศษเพราะต้องรองรับนักท่องเที่ยวกิตติมศักดิ์คือเลขานุการของเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เธอที่ดำรงตำแหน่งผู้จัดการจึงต้องออกไปรับรองด้วยตนเอง รุ่งวนิชทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายทั่วไปของภัตตาคารอาหารไทย 'กนกรส' ภัตตาคารระดับห้าดาวที่มีชื่อเสียงโด่งดังในทุกด้าน อาทิ รสชาติอาหารที่ถูกปากใคร ๆ มานักต่อนัก การบริการแสนเป็นเลิศของพนักงานร้านที่ถูกคัดสรรค์และฝึกฝนมาอย่างดี หรือแม้แต่ความงดงามของสถานที่ ภัตตาคารเลื่องชื่อนี้จะมีสาขาย่อยเฉพาะในโรงแรมหรูเท่านั้น หนึ่งในบอร์ดผู้บริหารของภัตตาคาร 'กนกรส' ปรากฏชื่อ ชานนท์ เสกพิสุทธิ์ ลูกชายของ ชาญ เสกพิสุทธิ์ ประธานกรรมการของภัตตาคาร ซึ่งเป็นคนรักของรุ่งวนิช ชานนท์กับรุ่งวนิชได้พบรักกันในงานแต่งงานเพื่อนของทั้งคู่ และได้ติดต่อคบหากันจนครอบครัวทั้งสองฝ่ายรับรู้ แต่ด้วยวัยที่ต่างกันมากถึง 9 ปีนั้นทำให้ความรักมีอุปสรรคอยู่ไม่น้อย ไม่กี่เดือนมานี้ชานนท์เกิดความคิดเรื่องการแต่งงานขึ้นมา แต่รุ่งวนิชนั้นไม่ยอมโดยให้เหตุผลว่าเธอยังสนุกอยู่กับการทำงานซึ่งชานนท์ไม่อาจโต้แย้งอะไรได้พอคิดถึงเรื่องนี้แล้วรุ่งวนิชก็เป็นอันได้ถอนหายใจด้วยความหนักใจทุกครั้ง หญิงสาวเบือนหน้ามองออกไปยังภายนอกตัวบ้านด้วยหวังว่าความเขียวชะอุ่มของต้นไม้จะช่วยให้เธอบรรเทาความเครียดสะสมจากเรื่องราวต่าง ๆ ไปได้บ้าง แต่แล้วรุ่งวนิชก็ต้องชะงักและรู้สึกว่าตนเองนั้นคิดผิดถนัดที่คิดว่าการมองออกไปนอกตัวบ้านจะช่วยให้ผ่อนคลาย หญิงสาวกลับรู้สึกว่าอุณหภูมิภายในร่างกายมันรุ่มร้อนจนทำให้นั่งต่อไปไม่ไหว

เมื่อคิดได้ดังนั้นขาจึงก้าวเดินออกมาจากข้างในตัวบ้านทันที รุ่งวนิชเดินออกมาที่บริเวณสวนนอกบ้านเห็นร่างเล็กกำลังก้ม ๆ เงย ๆ กับการใส่ปุ๋ยให้ต้นไม้อยู่ ความคิดร้ายในจิตใจผลักดันให้หญิงสาวผู้มาทีหลังก้มลงหยิบสายยางขึ้นมาฉีดใส่ตัวของอีกฝ่ายทันที

"ว้าย คุณรุ่ง! อย่าค่ะ" แสงพิไลที่ไม่ได้สติในตอนแรกอุทานออกมาอย่างตกใจเมื่อเห็นพี่สาวต่างมารดาแกล้งเธอโดยเจตนา รุ่งวนิชแสดงสีหน้าสะใจกับผลงานของตนเองมาก แสงพิไลเปียกชุ่มไปทั้งตัว และเธอยิ่งพอใจเมื่อเห็นว่าน้องสาวที่เธอไม่เคยนับญาติด้วยนั้นขอบตาแดงก่ำเหมือนน้ำตาจะหยดลงมาในเวลาอีกไม่ช้า จะไม่ให้เธอพอใจได้อย่างไรในเมื่อน้ำตาแห่งความเสียใจของอีกฝ่ายคือความสุขส่วนตัวของเธอที่เธอสามารถหาได้วันละเล็กละน้อย แต่เธอคงจะเป็นคนที่โลภพอตัวเพราะดูอย่างไรแล้วความต้องการในจิตใจนั้นมันก็ยังไม่ถึงขีดสุดที่ควรจะเป็น

"ยายรุ่ง หยุดเดี๋ยวนี้นะ" เสียงเฉียบขาดจากอรฉัตรดังมาจากอีกทาง

แสงพิไลเป็นน้องสาวต่างมารดาของรุ่งวนิช กษมา มารดาของรุ่งวนิชนั้นร่างกายไม่แข็งแรงเจ็บออด ๆ แอด ๆ ส่วนมารดาของแสงพิไลคือ แพรว เด็กในบ้านวงศ์ราวินมีศักดิ์ไม่ต่างอะไรกับคนรับใช้เพราะมารดาของราวินทร์อุปถัมภ์มาตั้งแต่ยังเล็ก ๆ แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเมื่อแพรวตั้งครรภ์กับราวินทร์ ทำให้อาการของโรคประจำตัวที่กษมาเป็นอยู่ทรุดหนักลงเมื่อทราบข่าว และเมื่อยิ่งได้รู้ความจริงว่าราวินทร์นั้นได้ข่มขืนแพรวจนตั้งครรภ์ทำให้กษมาหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันจนเสียชีวิต รุ่งวนิชที่ยังเด็กอยู่นั้นได้เสียใจกับการตายของแม่มาก จึงจำฝังใจว่าราวินทร์และแพรวเป็นต้นเหตุทำให้กษมาต้องตาย ต่อมาไม่นานเมื่อแพรวคลอดแสงพิไลแล้วก็เกิดป่วยหนักและสุดท้ายก็เสียชีวิตตามกษมาไปตั้งแต่ที่แสงพิไลยังเล็กมากไม่รู้ความ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ราวินทร์เป็นทุกข์อย่างหนักที่ภรรยาต้องมาจากไป และสายตาของความโกรธแค้นจากลูกสาวคนโตที่ไม่มีทีท่าว่าจะยอมรับแสงพิไลที่เพิ่งจะเกิดมาเลยและสุดท้ายราวินทร์ก็แต่งงานกับอรฉัตร หลานสาวของกษมาที่อายุห่างกันหนึ่งรอบพอดี อรฉัตรนั้นรู้ความเป็นไปทุกอย่างในบ้านวงศ์ราวิน เป็นคนที่เลี้ยงรุ่งวนิชและแสงพิไลมาตั้งแต่ยังเล็ก รู้ถึงความไม่ลงรอยกันของสองพี่น้องวงศ์ราวิน และทุกครั้งที่รุ่งวนิชฟาดงวงฟาดงาเอากับแสงพิไลก็จะเป็นอรฉัตรทุกครั้งที่คอยเป็นตัวกันไม่ให้แสงพิไลบอบช้ำไปมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะแสงพิไลเป็นคนมีกรรม มารดาของราวินทร์ว่าเอาไว้อย่างนั้น เพราะเกิดมาแม่ก็ด่วนจากไป ฐานันดรศักดิ์เองก็ไม่อาจเทียบเท่ากับรุ่งวนิชแม้จะเป็นลูกสาวของราวินทร์เหมือนกัน และยังต้องเจอกับฤทธิ์เดชของรุ่งวนิชอีก ยังดีที่ว่ารุ่งวนิชยังเกรงใจ 'น้าอร' ของเธอบ้างไม่อย่างนั้นแสงพิไลคงไม่อยู่ดีมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะตั้งแต่น้องสาวนอกไส้คนนี้เกิดมารุ่งวนิชก็ไม่ยอมให้แสงพิไลเรียกตนว่า พี่ เหตุนี้ คนทั่วไปจึงได้ยินแสงพิไลเรียกพี่สาวว่า 'คุณรุ่ง' เสมอมา และเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา รุ่งวนิชได้ทำเรื่องขึ้นมาอีกด้วยการจับแสงพิไลกดน้ำในอ่างน้ำวน ทำให้ราวินทร์โกรธมากและสร้างบ้านหลังเล็ก ๆ บริเวณพื้นที่ว่างหลังบ้านให้แสงพิไลแยกตัวออกไปอยู่คนเดียว สร้างความขัดใจให้ลูกสาวคนโตมากเพราะรุ่งวนิชต้องการให้แสงพิไลไปอยู่ที่เรือนแม่บ้านด้วยเหตุผลที่อ้างว่าแสงพิไลจะได้ไม่ลืมกำพืดว่าแม่ของตนมาจากพื้นเพแบบไหน แสงพิไลเองก็ก้มหน้าก้มตารับฟังคำประชดประชันจากพี่สาวอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวไม่มีปริปากโต้แย้งออกมาสักคำเดียว ตั้งแต่เด็กมาแล้วสิ่งที่อรฉัตรเห็นเสมอมาคือเมื่อถูกรุ่งวนิชกลั่นแกล้ง แสงพิไลจะไม่วิ่งมาฟ้องผู้ใหญ่อย่างเด็กคนอื่น แต่จะแอบไปร้องไห้กับรูปของแม่อยู่คนเดียวทำให้อรฉัตรรักแสงพิไลไปไม่น้อยกว่ารุ่งวนิชเลยเพราะรู้ดีอยู่แก่ใจว่าหลานสาวนอกไส้คนนี้เป็นคนดี ปีนี้แสงพิไลอายุครบ 22 ปี เรียนจบมาทางด้านอักษรศาสตร์ จึงใช้บ้านหลังเล็กที่พ่อสร้างให้นั้นเป็นสถานที่ทำงาน โดยแสงพิไลทำงานแปลหนังสือโดยมีรุ่นพี่ที่รู้จักในสายวงการอาชีพเดียวกันรับงานเข้ามาให้ และอรฉัตรเองก็รองรับแสงพิไลเป็นบุตรบุญธรรมของเธอด้วยสร้างความไม่พอใจให้กับรุ่งวนิชเป็นอย่างมากจนทำให้เธอโกรธน้าอรของเธอไปหลายวัน

"น้าอร"รุ่งวนิชเรียกชื่อน้าสาวอย่างไม่มีท่าทีสะทกสะท้านถึงความผิดที่ตนเพิ่งก่อทำให้อรฉัตรส่ายหน้าด้วยความระอา

"เราไม่ใช่เด็กแล้วนะรุ่ง ทำไมแกล้งแสงแบบนี้"ตำหนิมาตั้งแต่เด็กจนโต แต่อรฉัตรรู้ดีอยู่แก่ใจว่ารุ่งวนิชไม่มีทางเชื่อฟังเธอในเรื่องของแสงพิไล ส่วนเจ้าทุกข์นั้นได้แต่กอดอกยืนหนาวสั่น

"ยายแสงขวางทางรุ่ง"หญิงสาวโทษให้เป็นความผิดของแสงพิไลทั้ง ๆ ที่รู้ว่าอย่างไรแล้วอรฉัตรต้องรู้แน่ว่าเธอจงใจแกล้งแสงพิไล

"กลับจากที่ทำงานเหนื่อย ๆ ก็เข้าบ้านไปพักผ่อนเถอะ อย่ามาลงที่ยายแสงเลย "ไม่รอให้ใครไล่ซ้ำรุ่งวนิชก็เดินหน้าเชิดกลับเข้าบ้านไป ส่วนอรฉัตรนั้นหันหน้าเดินเข้าไปลูบหน้าลูบหลังแสงพิไลด้วยความเวทนา

"กลับบ้านเถอะแสง เดี๋ยวน้าพาไป" อรฉัตรพูดเพียงแค่นี้แสงพิไลก็พยักหน้าทั้งน้ำตาพร้อมเดินไปตามทางที่อรฉัตรจูงมือไปเหมือนเด็กน้อยหลงทางต้องหาที่พึ่ง แม้ว่าเธอจะถูกรุ่งวนิชกลั่นแกล้งมาตั้งแต่เด็กจนนับครั้งไม่ถ้วน แต่เธอก็ไม่เคยชาชินกับสิ่งที่พี่สาวทำ คิดแล้วน้อยใจในโชคชะตาของตัวเองน้ำตาก็พานจะไหลลงมาอีกรอบ

บ้านของแสงพิไลเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวหลังเล็ก ๆ ทาสีขาวทั้งหลังและรอบบ้านจะมีกอดอกไม้เล็กๆที่แสงพิไลเป็นคนไปเลือกซื้อและลงมือปลูกเองอยู่โดยรอบบ้านทำให้บ้านสีขาวหลังนี้ดูน่ารักขึ้นมาก ทางด้านเทอเรซหน้าบ้านมีชุดโต๊ะ เก้าอี้ไม้สีฟ้าอ่อนตั้งอยู่เวลาเจ้าของบ้านต้องการคลายเครียดจากการทำงาน แต่ถึงแม้ว่าบ้านหลังนี้จะน่าอยู่แค่ไหนก็ตามแต่มันเป็นสถานที่ที่รุ่งวนิชไม่เคยย่างกรายเข้ามาแม้แต่ก้าวเดียว

อรฉัตรจับแสงพิไลที่ยืนตัวสั่นให้นั่งลงบนโซฟาแล้วเธอก็เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวจากราวไม้สองชั้นบริเวณหน้าห้องน้ำมาเช็ดหัวเช็ดหน้าให้กับแสงพิไล

"ขอบคุณค่ะ" เสียงกล่าวขอบคุณราวกับกระซิบที่มาพร้อมกับอาการสะอื้นน้อย ๆ ในอกของลูกสาวบุญธรรมทำให้อรฉัตรถอนหายใจออกมาด้วยความเห็นใจ

"เราต้องอดทนรู้ไหมลูก น้าอยากให้แสงคิดว่าอย่างไรรุ่งก็เป็นพี่สาวเราคนหนึ่ง สายเลือดเดียวกันตัดกันไม่ขาดหรอกนะแสง" ถึงแม้ว่าในใจของแสงพิไลจะร่ำร้องว่าแล้วรุ่งวนิชเล่า เคยเห็นเธอเป็นน้องบ้างหรือไม่ ถึงได้ทำกับเธอเหมือนเธอเป็นที่รองรับอารมณ์แบบนี้

"ค่ะ แสงรักคุณรุ่งค่ะ" แต่สุดท้ายแล้วแสงพิไลก็ไม่สามารถหนีความเป็นจริงได้พ้น เธอรักรุ่งวนิช สายตาที่มองพี่สาวนั้นเต็มไปด้วยความชื่อชม รุ่งวนิชเป็นผู้หญิงที่ทั้งสวยทั้งเก่ง อีกทั้งฐานะความเป็นอยู่ก็ไม่ได้เป็นรองใครเลย

"ถ้าอย่างนั้นก็เช็ดตัวเสียให้แห้ง เดี๋ยวน้าไปหายามาให้ทาน ทานยาไว้ก่อนเดี๋ยวจะไม่สบาย" ว่าแล้วอรฉัตรก็ไปรื้อค้นตู้ยาสามัญ ฯ สักพักตรงหน้าของแสงพิไลก็มีถาดแก้วเล็กใส่ยาแก้ปวดสองเม็ดและแก้วน้ำดื่มมาวางไว้

"ขอบคุณนะคะน้าอร" แสงพิไลมองคนตรงหน้าพร้อมกับซาบซึ้งในความเมตตาที่อรฉัตรมีให้ลูกกาฝากอย่างเธอ

"ถ้าอย่างนั้นก็ทานยาแล้วไปอาบน้ำนะ วันนี้อย่าเพิ่งทำงานหามรุ่งหามค่ำเลยให้นอนพักผ่อนก่อน น้าจะไปดูคุณพ่อก่อนนะ" รอให้แสงพิไลรับคำแล้วยกมือไหว้ขอบคุณให้เสร็จก่อนอรฉัตรจึงเดินออกไปจากบ้านหลังเล็กที่แสนเงียบเหงาของแสงพิไล

ไม่น่าเลยยายแสง ทำกรรมอะไรเอาไว้หนอลูก เกิดมาชีวิตถึงได้อาภัพแบบนี้...ความคิดสะท้อนอยู่ในจิตใจของอรฉัตรก่อนที่เธอจะเดินเข้าตึกใหญ่ไป

จบบทนำ,_________________________________________________________



หรรษา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 เม.ย. 2554, 01:38:54 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 เม.ย. 2554, 01:38:54 น.

จำนวนการเข้าชม : 1642





เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account