เรื่องสั้น : เพราะใจเราใกล้กัน
เรามักมองสิ่งที่ไกลตัวเสมอ จนมองข้าม หัวใจ ที่อยู่เคียงข้างเรามาตลอด
Tags: เรื่องสั้น, ความรัก

ตอน:

เสียงกระดิ่งที่แขวนอยู่ตรงประตูดังขึ้น ทำให้เจ้าของร่างสูงที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์เงยหน้าขึ้น พร้อมกับเอ่ยประโยคที่ชินปาก
“สวัสดีครับ ร้าน...” ชายหนุ่มพูดไม่ทันจบ เมื่อเห็นหน้าลูกค้าชัดเจนแล้วร้านเค้กร้านนี้ เป็นร้านที่ลูกค้าสาวคุ้นเคยเป็นอย่างดี
เพราะทั้งเขาและเธอช่วยกันดูแลตั้งแต่แรกเริ่มนี่นา ทั้งผนังร้าน ของตกแต่งร้าน โต้ะ เก้าอี้ ผ้าปูโต๊ะ
หลายๆอย่างที่ประกอบขึ้นเป็นร้านเค้กร้านนี้ ทั้งสองมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน
“ไงจ๊ะ สนุกมั้ย” น้ำเสียงออกงอนเล็กๆ ฟังดูน่ารัก แต่ไม่จริงจังอะไร
“สนุกสิ แต่ไม่มากนะ เพราะขาดใครบางคนแถวนี้” หญิงสาวหยอดคำหวานใส่ ทำให้ชายหนุ่มแอบชำเลืองดูเล็กน้อย พร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก
“นี่ ซื้อมาฝาก อันนี้น่ะ เป็นอันสุดท้ายที่เราเห็นเลยนะ” หญิงสาวชูของที่อยู่ในมือ
“และพอเธอออกจากร้าน แม่ค้าก็เอามาใส่ตะกร้าอีก อย่างนั้นใช่มั้ย” ชายหนุ่มเริ่มรู้ทัน เพราะคุ้นเคยกับหญิงสาวเป็นอย่างดี
“เหอะน่า เอา รับไป เร็ว ช้าเปลี่ยนใจนะ” หญิงสาวยื่นกำไลข้อมือส่งให้ ชายหนุ่มไม่ลังเลสักนิดที่จะรีบฉวยมา ทั้งทีมันควรจะเป็นของผู้หญิงมากกว่า
“ขอบคุณมากคราบบบ ที่กรุณาซื้อมาฝากผม” ชายหนุ่มโค้งศีรษะอย่างล้อเลียน สายตามองกำไลข้อมือที่ประดิษฐ์จากหินสีขาว ที่ยังไงๆก็ของผู้หญิงอยู่ดี
“อืม ไม่เป็นไร เล็กน้อย”

หญิงสาวพูดพลางมองซ้าย มองขวา สำรวจร้านเค้ก ดูว่ามีอะไรเปลี่ยนไปไหม
หลังจากกลับจากการท่องเที่ยวที่เธอตั้งชื่อให้ว่าทัวร์มั่วนิ่ม อยากแวะพักตรงไหนก็ได้ ปล่อยความคิดไปเรื่อยเปื่อย
เพื่ออาศัยความเพลิดเพลินริมทางให้ลืมเรื่องบางเรื่องที่รบกวนจิตใจตัวเอง อีกทั้งตารางเวลางานที่อัดแน่นจนกระดิกตัวไปไหนไม่ได้
นึกแล้วเธอก็อดอิจฉาชายหนุ่มตรงหน้าไม่ได้ ที่ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ ไม่ต้องมีใครมาบังคับ จัดการชีวิตให้
และที่สำคัญไม่มีเรื่องของหัวใจมารุมเร้าอย่างหล่อน

“นี่ ว่าไง จะไม่เล่าหน่อยเหรอ ไปไหนมาบ้างอ่ะ รอฟังอยู่นะ” ชายหนุ่มรบเร้า
“เดี๋ยวสิ ขอสูดลมหายใจรับอากาศหอมๆ แบบนี้อีกนิด” ทำท่าสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด
“อะไรกัน ไปเที่ยวมา ยังสูดอากาศไม่พออีกเหรอ”
“หึ บอกแล้วไง ขาดเธอฉันก็เหงามากกกก” หญิงสาวลากเสียงคำว่าเหงามากเสียยาวจนชายหนุ่มนึกหมั่นไส้
เขาหายเข้าไปในครัว และกลับออกมาพร้อมทั้งเค้กชอคโกแลตหน้าตาน่ารักน่ากิน วางลงตรงหน้าเพื่อนสาวจอมเจ้าเล่ห์
“หนีไปไม่ชวน ไม่บอก แล้วยังจะมาบอกว่าขาดเราก็เหงาอีกนะ” เสียงตัดพ้อต่อว่าของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวนึกขัน
“ทำไมอ่ะ เหงาจริงๆนี่นา” เห็นทีต้องงัดลูกอ้อน และมันก็ได้ผลเสียด้วย
“กินเค้กมั้ย เราทำพิเศษเลย ทำไว้เผื่อใครบางคนผ่านมาจะได้เอาให้ชิม” เขาไม่อยากต่อปากต่อคำ
ไม่อย่างนั้น หัวใจที่มันอ่อนแอ บอบบางอยู่แล้ว จะยิ่งหวั่นไหวมากขึ้น

“นี่ ทำให้เราก็บอกสิ ไม่เห็นต้องบอกว่าใครบางคนเลย” พูดพลางตักเค้กใส่ปาก
“เป็นไง อร่อยมั้ย” หญิงสาวส่ายหน้า ทำเอาคนถามหุบยิ้มแทบไม่ทัน
“อ่ะ ล้อเล่น ฝีมือระดับนี้แล้ว เอ๊ะ ว่าแต่ทำไม วันนี้ลูกค้าไม่มีอ่ะ”
“ก็วันนี้วันหยุดนี่ ลืมเหรอ ไปแค่อาทิตย์เดียวเนี่ยนะ” เขาจิ้มนิ้วชี้ไปที่หน้าผากของคนช่างสงสัยบวกขี้ลืม ปกติ ร้านนี้จะหยุดทุกวันพุธ
เหตุผลน่ะเหรอ ก็เพราะคนที่นั่งกินเค้กตรงหน้าน่ะสิ หล่อนก็มีวันหยุดวันเดียวกัน หลายครั้งที่ถาม เขามักให้เหตุผลที่ฟังยังไงก็น่าจะคนละเรื่องเดียวกับร้านเค้ก
ที่หยุดวันพุธเพราะร้านตัดผมส่วนใหญ่ก็หยุดวันนี้

“เออ ใช่ โทษทีนะ” หล่อนยังคงให้ความสนใจกับเค้กตรงหน้าอย่างต่อเนื่อง “เป็นไงบ้าง สบายใจหรือยัง” ชายหนุ่มถามขึ้นหลังจากปล่อยให้ความเงียบเป็นบทสนทนาของทั้งสอง

คน“อืม ดีขึ้นแล้ว แต่ก็ยังมึนๆ” คำตอบแบบขอไปทีของเธอ ยิ่งทำให้เขาเป็นห่วงไม่น้อย เพราะความรักครั้งนี้ เธอจริงจังมากกว่าครั้งที่คบกับพี่ต้น เพื่อนรุ่นพี่ของเขาตอนเรียน

มหาวิทยาลัยเสียอีก ทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะ ผู้ชายคนนั้นเป็นเพื่อนของเขาเอง เขาแนะนำให้สองคนรู้จักกัน ดูเหมือนว่าเขาต้องมีส่วนรับผิดชอบในเรื่องนี้ด้วย แต่ในเมื่อหญิงสาวเป็นคน

ตัดสินใจแล้ว เขาก็ไม่อยากจะเข้าไปยุ่งอีก หญิงสาวทำท่าอิ่ม แล้วลุกเดินไปหาน้ำมาดื่ม แต่ต้องชะงักเขา โอบหล่อนจากข้างหลัง พร้อมกับคำพูดที่คิดว่าน่าจะพูดมานานแล้ว
“พอเถอะนะ เลิกทำแบบนี้เถอะ อกหักทีไร เป็นแบบนี้ทุกที หายไปทุกที รู้มั้ยเราเป็นห่วง เป็นห่วงมากๆนะ”

แน่นอนคำว่าเป็นห่วงของเขานั้นมันมีความหมายมากมาย แต่เขาไม่เคยพูด ไม่เคยเอ่ยมันออกมา แต่เธอก็รับรู้เสมอว่าเขาเป็นห่วง
“..” หญิงสาวยืนนิ่ง หลายอย่างวนเวียนเข้ามาให้ขบคิดมากมาย
“...” ชายหนุ่มก็ไม่ตอบ เขายังปล่อยให้เสียงจังหวะการเต้นของหัวใจทำหน้าที่ปลอบโยนหญิงสาวและทั้งเพิ่มพลังความกล้าให้ตัวเอง
“อือ จ้า สัญญาจ้าเพื่อนรัก ฉันจะไม่ไปไหนไกลๆอีก คนเราคงจะไม่อกหักบ่อยๆหรอกนะ”

สามวันแล้วที่ร้านเค้กไร้เงาของชายหนุ่มเจ้าของ หญิงสาววนเวียนมาดูที่ร้าน แต่ก็ยังไม่พบเขา เขาหายไปไหนนะ ไม่บอกด้วย
“ไปไหนของเขานะ” เธอยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมา กดดูชื่อ แล้วกดโทรออก “ขอโทษค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ขณะนี้....”
หล่อนกดทิ้ง นึกฉุนเฉียวเจ้าเพื่อนตัวโตคนนี้จัง นึกเป็นห่วงขึ้นมา จริงสิ หรือเขาจะรู้สึกเหมือนกัน เหมือนตอนที่เธอหายตัวไป
แต่เขาน่าจะชินแล้วนี่นา หล่อนน่ะหายตัวไปบ่อยๆ แต่หล่อนกลับไม่ชิน ที่เขาหายไป
เพราะตั้งแต่มัธยม จนกระทั่งมหาวิทยาลัย เขาไม่เคยหายหน้าไปไหนนานเกินหนึ่งวัน ยกเว้นมีธุระจริงๆ แต่จะบอกทุกครั้ง
และทั้งสองก็สาบานจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันตลอดไป อันที่จริงเธอต่างหากที่เป็นคนเอ่ยปากเรื่องนี้ก่อน เขาอยู่ในภาวะนั้นก็ต้องยอมรับเงื่อนไข
แม้จะรู้ว่า เขาไม่ได้อยากเป็นเพื่อนกับหล่อนเลย

“นี่ นายกับเราเนี่ยมาสัญญากันดีมั้ย ว่าเราจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันตลอดไปนะ”
“อือ เอาสิ” ชายหนุ่มตอบเพียงแค่นั้น เพราะไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้วนี่
“อ้าวพี่ต้นมาแล้ว พี่ต้น เราไปก่อนนะ บายจ๊ะ” หล่อนมีคนที่ไม่ใช่เพื่อนดูแลแล้ว เขาจึงต้องยอมรับคำว่าเพื่อนตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว

ข้อความในมือถือดังขึ้น
“ตอนนี้เหงาจัง รอใครบางคนผ่านมาพักที่เดียวกัน”
“ที่เดียวกัน” หล่อนนึกถึงสถานที่ที่เคยไปเที่ยวด้วยกัน ร้านกาแฟสีขาว พร้อมขนมเค้กที่แสนอร่อยริมทะเล ที่ที่ทั้งสองสัญญาต่อกันว่าจะดูแลกันจนแก่เฒ่า
“นี่ เรามาสัญญากันนะ ว่าเราจะดูแลกันและกันจนแก่จนเฒ่า” แน่นอนหญิงสาวอีกตามเคยที่มีความคิดเช่นนี้
“พูดยังกะคนแต่งงานกัน” เขาเพียงแต่ยิ้มในสิ่งที่หล่อนพูด อย่างน้อยคำสัญญานี้ก็ฟังดูดีกว่าอันเก่าเยอะล่ะ
“แล้วนายจะสัญญามั้ยล่ะ”
“ไม่สัญญาได้ไงล่ะ”

ลมทะเลที่นี่พัดเย็นสบายจัง สบายกว่าที่เคยเป็น ความสบายที่ใช้ใจสัมผัส ความรู้สึกทั้งหมดที่หล่อนมี ตอนนี้หล่อนเข้าใจความรู้สึกของชายหนุ่มมากขึ้น
หล่อนเดินผ่านหน้าร้านกาแฟ ยิ้มทักทายเจ้าของร้าน แล้วเดินผ่านไป

“อ่ะ อ้าว มานานแล้วเหรอ ทำไมไม่ปลุก” เขารู้สึกตัว ตื่นหลังจากงีบหลับพักใหญ่
“ไม่อ่ะ อยากนั่งมองหน้าใครบางคนให้หายคิดถึง” เธอยังชอบพูดเล่น และคงไม่รู้สึกสินะว่าคนฟังน่ะ คิดไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
“ดูพูดเข้า นี่ ถ้าเกิดเราเอาเก็บไปคิดล่ะ” ชายหนุ่มจัดท่านั่งให้ตัวเองใหม่
“ก็ไม่เป็นไรนี่” พูดโดยไม่มองหน้าผู้พูด เสมองทะเลซะงั้น
“..” ชายหนุ่มยิ้มเล็กน้อยแล้วมองตามไปในทะเลสีฟ้า
“ทำไมหนีมาล่ะ หรือว่านายอกหัก” เอาล่ะสิ โดนคำถามที่ไม่อยากตอบขึ้นมา เลยต้องเล่นบทนิ่ง เขายังนั่งอมยิ้ม แต่คราวนี้สายตาไม่ได้อยู่ที่ทะเล
แต่จับจ้องอยู่ที่ใบหน้าและริมฝีปากช่างเจรจานั้น

“...” เขายังนิ่งอย่างต่อเนื่อง
“ที่นายบอกว่าห่วงเราน่ะ มีความหมายมากกว่านั้นใช่มั้ย”
“...” นิ่งแต่คราวนี้อมยิ้ม
“แล้วที่นายหนีมาที่นี่ก็เพราะอกหักจากใครบางคนใช่มั้ย”
“...” เขาชอบฟังเสียงทีเล่นทีจริงของหล่อนมาก เพราะมันเป็นเสียงสูงๆต่ำ เล็กๆ แต่ไม่แหลมจนแสบแก้วหู
“ไม่พูด งั้นฉันถือว่าเป็นคำตอบว่า ใช่ ล่ะนะ” การโมเม เป็นนิสัยส่วนตัวที่แก้ไขยากเสียด้วย
“เราไม่ได้หนีมาเพราะอกหักหรอก” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นบ้าง ทีนี้เขาหันทั้งหน้า ทั้งตัวมองหล่อนอย่างชัดเจนมากขึ้น พร้อมจ้องไปในตาของเธอ เ
หมือนจะสื่อให้เห็นความในใจของเขา

“อ้าว แล้วหนีมาทำไมอ่ะ” หญิงสาวขมวดคิ้ว สงสัย ไม่รู้เลยนะว่าสาเหตุน่ะมาจากใคร
“ก็ หนีมาตั้งหลัก รอดูใจใครบางคนน่ะ” คำพูดที่ไม่ยาวแต่ตรงประเดน สายตาที่ไม่เคยมองหล่อนอย่างเต็มตานั้นเปลี่ยนไป เพราะเขาแน่ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในใจ
ของหล่อนกับเขาเป็นสิ่งเดียวกันชายหนุ่มเลื่อนมือไปเกาะกุมมือหญิงสาวไว้
“อ้าววววไหงงิอ่ะ”
“เราไม่ลืมสัญญานะ ว่าเราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป ใครเป็นคนพูดก่อนเอ่ย”
“และเราก็สัญญากันด้วยว่า เราจะดูแลกันและกันไปจนแก่จนเฒ่าอ่ะ เราทำตามสัญญาทุกข้อเลยเห็นมั้ย”
หลังจากที่พูดเป็นน้ำไหลไฟดับ แต่ขณะนี้ดูทุกอย่างมันอื้ออึง มึนไปหมด
“...”
“ไง เงียบทำไมอ่ะ เราผิดสัญญาข้อไหน ทีนี้ตอบหน่อยได้ไหม ว่าเธอก็จะทำตามสัญญาเหมือนกัน” ชายหนุ่มแหย่เธอคืนบ้าง นึกสนุกขึ้นมา กำลังทำซึ้งแต่...
.“ไปเล่นน้ำกันเถอะ” หญิงสาวลุกขึ้นทันที พร้อมชวนเขาให้เล่นน้ำด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมด้วยความสุข ความสุขที่ไม่ใช่การหลอกตัวเอง ความสุขที่ออกมาจากข้างในใจ
“เดี๋ยว ตกลงว่าไง” เขาตะโกนไล่หลัง พร้อมทั้งวิ่งตามเธอมาหญิงสาวหยุดวิ่งพร้อมชูที่ข้อมือของตัวเองให้ชายหนุ่มดู กำไลข้อมือ
ที่รูปลักษณ์เหมือนที่เขาใส่อยู่ไม่ผิดเพี้ยนและสิ่งนั้นน่าจะเป็นคำตอบของเธอได้เป็นอย่างดี
“ก็..” หญิงสาวพูดได้แค่นั้น แล้ววิ่งลงน้ำทะเลไป
ในบางครั้งสิ่งที่เราวิ่งตามหาไม่ได้อยู่ที่ไหนไกลเลย เพียงแค่เราใช้ใจมอง มองอย่างรอบคอบ มองสิ่งที่ใกล้ตัวที่สุด แล้วเราจะพบเองว่าสิ่งที่เราวิ่งตามหานั้น
อยู่ใกล้แค่เพียงลมหายใจรินรดเท่านั้นเอง..…




rubino
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 มิ.ย. 2554, 17:29:20 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 มิ.ย. 2554, 17:29:20 น.

จำนวนการเข้าชม : 1708





violetflower 6 มิ.ย. 2554, 19:14:48 น.
เคยคิดว่าคนที่มองหาอยู่ใกล้ๆ...แต่สุดท้ายเราไม่ใช่คนที่เขามองหาซะงั้น


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account