ใจสั่งรัก
ถึงจะจบปริญญา แต่เธอก็ถูกคุณป้าส่งมาเป็น 'แม่บ้าน' ให้หลานผู้มีพระคุณ แลกกับข้อตกลงที่จะทำให้เธอได้ดำเนินการตามฝันของตัวเอง

ป้าบอกให้มาเป็นแม่บ้าน แต่ป้าไม่ได้สั่งมาสักหน่อยว่าเธอจะต้องเป็น 'แม่คุณ' ให้ใครด้วย

เพราะงั้น ฝันไปเหอะ ไอ้คนลามกเอ๊ย !!!
Tags: แม่บ้าน ตลก ล้อเลียน เกย์

ตอน: บทที่ 1 จุดเริ่มต้น

“นี่คือสถาน แห่งบ้านทรายทอง ที่ฉันปองมาสู่ ฉันยังไม่รู้ เขาจะต้อนรับ ขับสู้เพียงไหน ...”

นิธิดาคิดอย่างขำๆตอนเยื้องเท้าเข้าคฤหาสน์ของตระกูลเลิศพัธชัชวาล ถึงแม้เธอจะไม่ผูกเปียสองข้างหรือหิ้วชะลอมอย่างพจมาน สว่างวงศ์ แต่ความรู้สึกยามประตูรั้วเปิดและเห็นบ้านหลังใหญ่ อาณาบริเวณกว้างขวางอยู่ในสายตา เธอว่า มันน่าจะเป็นความรู้สึกที่ไม่ต่างกัน

หญิงสาวจับกระเป๋าเสื้อผ้าในมือไว้มั่น ตามองผู้หญิงวัยกลางคนในชุดแบบฟอร์มเฉกเช่นที่คนใช้ในละครชอบใส่เดินตรงเข้ามาหา ดูท่า เธอก็คงจะต้องมีเครื่องแต่งกายไม่ต่างจากนี้แหละ

“เด็กของคุณเอื้องใช่มั้ย” ผู้หญิงที่ตอนนี้หยุดยืนอยู่ตรงหน้าเธอถามขึ้น เสียงดูทรงอำนาจ หางตาที่มองมาน้อยๆนั่นอีก เอ๊ะ หรือนี่จะเป็นแบบฟอร์มของคุณผู้หญิงของบ้านแทน ดูจากท่าทางการมองแล้ว นิธิดาชักสงสัย แต่ความสงสัยก็ต้องเลือนหายไปเมื่อแววตานั้นมองมาอย่างดุๆ เธอจึงต้องเอ่ยตอบไปเสียงเบา ด้วยเกรงกลัวบารมีของคนที่ ... เธอก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นใคร

“ใช่ค่ะ”

“ดี ตามฉันมา เดินดีๆนะยะหล่อน อย่าไปเหยียบต้นไม้ใบหญ้าของคุณท่านเข้าล่ะ”

เสียงผู้ทรงอำนาจสั่ง ทำเอาคนฟังต้องสงสัยอีกรอบ ไม่ให้เหยียบต้นไม้ใบหญ้า แล้วเธอจะเดินลัดสนามไปได้อย่างไร เห็นทีต้องจดบันทึกไว้ว่า กฎของบ้านนี้ ข้อที่หนึ่ง อย่าเหยียบต้นไม้ของเจ้านายนะ เดี๋ยวมันจะทนแรงกดทับไม่ได้ สิ้นชีพกลายเป็นสีเหลืองไป

น่าเสียดายที่ความคิดอย่างขำๆของเธอดันหลุดเสียงหัวเราะออกมา คนที่เดินนำหน้า จึงหันมาทำสายตาดุอีกครั้ง

“ฉันชื่อ ปิ่น เป็นหัวหน้าแม่บ้านของที่นี่ เธอเรียกฉันป้าปิ่นก็ได้ แม่เธอคงอายุน้อยกว่าฉัน”

“ค่ะ ป้าปิ่น หนูชื่อนิด”

“บ้านหลังนี้ก็มีคนอยู่ไม่กี่คน คุณเอื้องน่าจะบอกมาแล้วนะ ใช่มั้ย” ถามพลางปรายตามองมายังหญิงสาวที่เดินตามหลังต้อยๆ

นิธิดารับคำอีกครั้ง จำได้สิ ทำไมเธอจะจำไม่ได้ คุณเอื้องที่ยัยป้าปิ่นเรียกนี่มันคุณป้าของเธอเอง จริงๆแล้วบ้านหลังนี้ต้องการเด็กรับใช้มาคอยช่วยงานเจ้านาย ความที่ป้าของเธอก็เคยทำงานให้คุณปู่คุณย่า หรือคุณตาคุณยายของเจ้าของบ้านนี้ก็ไม่รู้ล่ะ เมื่อทางฝ่ายนั้นมาเปรยๆว่าอยากได้คนมาดูแลบ้านให้หลาน คุณป้าเธอก็เลยยุส่งให้เธอมาอยู่บ้านหลังนี้เลย ด้วยความที่จบมายังไม่มีงานทำสักที มีแต่นั่งกินนอนกินรอให้พ่อแม่เลี้ยงอยู่ได้ ป้าเธอเลยใช้สิทธิขาดความเป็นพี่ใหญ่ในตระกูล ส่งหลานในไส้แท้ๆมาทำงานเป็นลูกจ้างเขาซะเลย

‘ให้มันรู้รสความลำบากบ้าง’ ป้าเธอประกาศก้อง ในขณะที่แม่ของเธอร้องไห้กระซิกๆ ปฏิเสธไม่ได้ในฐานะน้องสะใภ้ ส่วนพ่อของเธอน่ะเหรอ

‘ผมไม่เห็นว่าจะมีความจำเป็นอะไรเลยพี่ ยัยนิดอยู่นี่ก็ใช่ว่ามันจะไม่ช่วยงานเรา’

‘ช่วยล้างช่วยผลาญล่ะสิไม่ว่า เอางี้ ฉันให้แกเลือกยัยนิด ไปทำงานที่บ้านเขา สักปีนึง ถ้าแกทำได้ ไอ้ที่แกตะแง้วๆขอไปเรียนต่อเมืองนอกน่ะ ฉันจะกัดฟันส่งเสียเอง แต่ถ้าแกกลับมาก่อนปีนึงล่ะก็ เงินแกไม่ต้องเอาไปสักบาท เมืองนอกก็ไม่ต้องไป แต่ฉันจะจับแกแต่งงานแทน’

ประโยคสุดท้ายเรียกเสียงร้องไห้จากแม่ให้ดังขึ้นอีก นิธิดาถึงกับอ้าปากค้าง ป้าเอาตรรกะไหนมาคิดเนี่ย

‘พี่เอื้อง’ พ่อหลุดเสียงออกมา พ่อก็แพ้ทางป้าเอื้องอยู่ตลอดล่ะ ฟังจากเสียงก็รู้ หมดความแข็งแกร่งแล้ว กำแพงเมืองที่ป้าเอื้องตั้งไว้นั้น แน่นหนากว่าที่คิด

‘ป้า ! ดูละครมากไปหรือเปล่า’ นิธิดาถามเสียงลั่นบ้าน ในฐานะหลานสาวคนเดียวของป้าเอื้อง เธอรู้ รู้ว่าป้ามีแต่ความรักความปรารถนาดีให้เธอเรื่อยมา แต่ไอ้การส่งเธอไปเป็นคนใช้ให้บ้านคนอื่นเนี่ยนะ เธอจบปริญญาตรีมานะ

‘ถ้าไม่ไป แกก็ต้องไปหางานทำ แล้วก็อยู่ให้ได้ปีนึงเหมือนที่ฉันว่า เลือกเอายัยนิด จะเอาทางไหน’

‘งั้นนิดไปหางานทำในกรุงเทพ’ หญิงสาวเลือกตัวเลือกที่สอง อย่างน้อยใบปริญญาของเธอก็ยังได้ใช้ประโยชน์บ้าง

ป้าเอื้องมองมาทางหลานสาวอย่างครุ่นคิด แวบหนึ่งที่นิธิดาเกือบจะมั่นใจว่า งานนี้มีเลศนัย

‘ก็ดี ถ้าแกไปหางานทำก็ตามใจ ฉันจะไปบอกคุณพิรุณว่า ฉันหาเด็กให้ไม่ได้ แต่ฉันก็มีข้อแม้นะ’ ประโยคหลังทำให้รอยยิ้มดีอกดีใจของนิธิดาจางหายไป พอๆกับที่น้ำตาของแม่เริ่มไหลมาอีกรอบ ‘ถ้าไปทำงานบ้านหลานคุณพิรุณเขา เงินเดือนเขาให้เท่าไร ฉันเพิ่มให้อีกเท่า แต่ถ้าแกไปหางานที่กรุงเทพเอง มีเท่าไร ก็ใช้ไปเท่านั้น ห้ามขอมาทางพ่อกับแม่ แล้วฉันก็ไม่ช่วย แกอย่ามองหน้าฉันอย่างนั้นยัยนิด ฉันมีวิธีก็แล้วกัน ที่จะสกัดกั้นไม่ให้พ่อแม่ส่งเงินให้แกได้’

‘ป้าปิดทางนิดทุกทางแล้วหนิ ยังไงก็จะให้นิดไปเป็นคนใช้เขาใช่มั้ย’

‘แล้วทำไมแกจะเป็นไม่ได้ ในเมื่อฉันก็เคยเป็น หา ยัยนิด บอกมาสิ’

‘มันเหมือนกันที่ไหนเล่า’ นิธิดาเถียงเสียงอ่อน เรื่องเถียงนี่ เธอแพ้ทางป้าตลอด ดูท่า ทั้งครอบครัวเธอจะไม่มีใครสู้ป้าได้เลย ‘อย่างน้อยตอนป้าเป็น เจ้านายป้าเขาก็ใจดีใช่มั้ยล่ะ นี่เจ้านายนิด ป้ารู้เหรอว่าเขาเป็นคนยังไง’

‘หลานคุณพิรุณ ก็ไม่น่าจะเป็นลูกไม้หล่นไกลต้น’

‘นั่นไง เขาเป็นคนยังไงก็ไม่รู้ นิดหลานป้านะ หลานแท้ๆด้วย ป้าจะส่งนิดไปอยู่กับคนที่ป้าก็ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าเลยหรือจ๊ะ’ นิธิดาเริ่มใช้ลูกอ้อน

สายตาของคนเป็นป้าอ่อนลง แต่ก็เพียงแค่วินาทีเดียว ก่อนจะยืนยันหนักแน่นคำเดิม

‘ไม่ใช่ว่าไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้า คุณพิรุณ เขาเคยมีบุญคุณกับฉัน นี่เขาบากหน้ามาหาฉันถึงนี่ ขอให้ฉันหาเด็กไปไว้ในบ้านหลานเขาสักคน ทำไมฉันจะหาให้ไม่ได้ แล้วฉันก็เห็นแกอยู่เฉยๆ ถ้าฉันไม่ใช้วิธีนี้ แกยังจะมีกระจิตกระใจไปหางานทำมั้ย ฉันยังยืนยันคำเดิม ฉันอยากให้แกไปทำงานที่บ้านเขา เขาคงไม่กดขี่ข่มเหงเท่าไรหรอก ระหว่างนี้ฉันก็จะหาคนแถวบ้านเราไปด้วย ปีนึงแกก็ออกมา ฉันก็ส่งคนที่ฉันไว้ใจได้เข้าไปใหม่ ของอย่างนี้มันต้องดูกันนานๆนะแม่นิด ถ้าเกิดฉันส่งคนผิด เขาไปปล้นฆ่าใครในบ้านนั้นแล้วฉันจะทำยังไง’

หญิงสาวเจ้าของชื่อนั่งหน้าคว่ำ สายตามีรอยครุ่นคิด เธอเกิดมาแม้จะไม่ร่ำรวยล้นฟ้า แต่ก็ไม่ต้องแบมือขอใครกิน (นอกจากป้ากับพ่อแม่นี่แหละ) ที่ป้าพูดมาเธอก็พอเข้าใจบ้าง ป้ารักเจ้านายคนนี้มากแค่ไหนใครๆก็รู้ ส่วนหนึ่งที่ทำให้บ้านเธอมีกินมีใช้อย่างนี้ ก็เป็นเพราะคุณพิรุณอะไรของป้าเอื้องทั้งนั้น

‘ปีเดียวใช่มั้ยป้า ครบปีแล้วป้าส่งนิดไปเมืองนอกจริงๆนะ’ คนอ่อนวัยกว่าถาม เมื่อเห็นฝ่ายตรงข้ามพยักหน้า เธอก็พูดประโยคต่อมา ‘เงินเดือนเท่าไร ป้าให้เท่ากันใช่มั้ย’

คนสูงวัยพยักหน้ารับ ทำไมเธอจะไม่รู้ ว่าหลานเธองกอย่างกับอะไรดี

‘ว่าแต่ เขาให้เท่าไรน่ะป้า’

ป้าเอื้องเอ่ยจำนวนเงินออกมา มันไม่มากหรอก ถ้าไม่คูณสอง ระหว่างนั้น เธอน่าจะรับจ๊อบพิเศษอะไรได้อีก คิดบวกเสร็จสรรพ บ้านก็ไม่ต้องเช่า ข้าวก็ไม่ต้องซื้อ เงินเดือนก็เยอะกว่าคนจบปริญญาตรีบางคน แล้วทนๆแค่ปีเดียว เดี๋ยวก็ได้ไปเมืองนอกตามที่ตั้งใจ แถมจะยังมีเงินเก็บไปใช้จ่ายได้อีก

เอาวะ ทนๆเอาหน่อยแล้วกัน


หลังจากเดินตามป้าปิ่นมายังหลังบ้าน โดยไม่เหยียบต้นหญ้าเจ้าของบ้านตายไปซะก่อน นิธิดาก็ได้เห็นห้องของเธอ ห้องที่เธอต้องซุกนอนตลอดหนึ่งปีนี้

มันเป็นเรือนแถวหลังบ้าน สภาพคล้ายๆบังกะโลริมหาดบางแห่งที่เธอเคยไปนอน ตัวตึกทาสีขาวที่เก่าไปตามกาลเวลา มีรั้วปูนเตี้ยๆกั้นอยู่หน้าระเบียงของแต่ละห้อง เธอนับประตูเพื่อกะจำนวนห้องก็เห็นว่ามีอยู่ห้า แต่ละห้องก็จะมีหน้าต่างข้างๆประตูอีกหนึ่งบาน ใครอยู่ห้องริมก็คงดีหน่อย ที่ลมคงพัดได้สะดวก หญิงสาวมองรอบๆตัวเรือนปูน โชคดีที่ต้นไม้บดบังอยู่โดยรอบ และสภาพที่หลบลึกเข้ามาทางหลังบ้าน มันเลยไม่ทำให้ทัศนียภาพของบ้านทรายทองหลังนี้ด้อยลงไป

“เธอนอนห้องริมด้านนู้นแล้วกัน คนเก่าเพิ่งย้ายออก ทำความสะอาดสักหน่อยก็น่าจะอยู่ได้ ส่วนฉันนอนห้องริมอีกฝั่ง มีอะไรมาเคาะได้ ห้องถัดจากฉันเป็นห้องของตาเนื่อง คนขับรถคุณชัชเขา ส่วนห้องติดเธอน่ะเป็นห้องของยัยอิ่ม ตอนนี้มันทำงานอยู่บนบ้าน เดี๋ยวก็คงจะลงมา”

ผู้เป็นใหญ่แห่งบ้าน ที่ตอนนี้เธอรู้แน่แล้วว่า ดำรงตำแหน่งดูแลบ้านไม่ต่างจากเธอว่า พร้อมกับเดินนำมายังห้องพัก มือคว้ากุญแจที่เหน็บไว้ตรงชายพกผ้าถุงขึ้นมาส่งให้เธอ นิธิดารับรู้โดยได้โดยทันทีว่านี่คงเป็นกุญแจห้อง เธอยกมือไหว้ก่อนจะรับมา และกิริยานั้นก็ทำให้คนสูงวัยกว่าพึงพอใจ

“ทำความสะอาดกับสำรวจห้องซะให้พอ เดี๋ยวสักบ่ายสามบ่ายสี่ ฉันจะเริ่มทำกับข้าว ปกติถ้าคุณชัชจะกลับมากินข้าวบ้านหรือไม่เธอจะโทรมาบอกเสมอ เดี๋ยวเธอมาช่วยฉันแล้วกัน เย็นนี้จะได้แนะนำตัวกับคุณชัชอีกที”

“ค่ะ”

เธอรับคำ ก่อนที่ป้าปิ่นจะเดินพ้นออกไปยังห้องพักของแก หญิงสาวผู้มีใบปริญญาเป็นอาวุธแต่ต้องมาทำงานใช้แรงงานมองเข้าไปในห้อง แม้ขนาดจะไม่ใหญ่ แต่มันก็ไม่ได้เล็กจนเกินไป เตียงนอนสามฟุตครึ่งตั้งชิดอยู่ที่มุมหนึ่ง สุดปลายเตียงมีที่เล็กๆเหลือพอให้วางตู้อะไรได้บ้าง แต่มันก็กลายเป็นที่อยู่ของพัดลมไป ถัดไปนิดหนึ่งเป็นตู้เสื้อผ้าแบบที่เห็นตามร้านเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป และก็มีโต๊ะเล็กๆให้ตัวหนึ่ง แค่นั้น ห้องของเธอตลอดปีนี้มีแค่นั้น เห็นแล้วนิธิดาถึงกับถอนหายใจ เท้าเล็กๆก้าวเข้าห้องพัก พร้อมกับปิดประตู ใส่กลอนอย่างดี โชคดีที่มันมีกลอนล็อกให้ด้วย หน้าต่างทั้งบ้านหน้าและบานข้างก็มีเหล็กดัดมุ้งลวดให้ ดูท่าก็คงจะปลอดภัยได้บ้างแหละ

สภาพห้องที่เห็นไม่ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้ สภาพก็ไม่มีอะไรให้ต้องทำความสะอาดมาก เธอนั่งรื้อกระเป๋า จัดข้าวของใส่ตู้ มองดูไม่เห็นมีชุดเครื่องแบบอย่างที่คุณแม่บ้านคนนั้นใส่ เดี๋ยวคงต้องถามอีกที มีหลายอย่างที่เธอยังไม่รู้ อย่างเช่น ห้องน้ำห้องท่า และกฎระเบียบภายในบ้าน

ป้าของเธอเล่าเพียงแต่ว่า คุณชัชชล เจ้าของบ้านหลังนี้ เป็นหลานชายคนเดียวของคุณพิรุณ อดีตนายจ้างของป้าเอื้อง คุณชัชชลอยู่ในวัยสามสิบกว่า เป็นหนุ่มสังคมเนื้อหอม วันๆทำแต่งานบริษัท บริหารงานจนเจริญใหญ่โต บ้านหลังนี้คุณชัชก็ซื้อต่อจากเศรษฐีหนีเมืองคนหนึ่ง นานๆทีก็จะมีน้องสาวเธอมาค้างด้วย เพราะถึงคุณชัชจะเป็นหลานชายคนเดียว แต่คุณพิรุณก็มีหลานสาวอีกถึงห้าคน

‘ไปอยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ...’ ป้าของเธอสอนสั่ง หากยังไม่ทันพูดจบ หลานสาวตัวดีก็ต่อว่า

‘ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น ตกลงท่านมีลูกแล้วเหรอจ๊ะ’

คนสูงวัยกว่าส่งค้อนมาให้อย่างไม่เกรงว่าอายุน่ะไม่ไหวแล้ว

‘ฉันรู้ย่ะแม่นิด เธอไม่ต้องไปปั้นวัวปั้นควายให้ลูกเขาหรอก เพราะเขายังไม่มีลูก ไม่ต้องไปปั้นให้เขาเล่นด้วย หล่อนน่ะมีหน้าที่ดูแลบ้าน อย่าให้ข้าวของเขาเสียหาย อย่าให้คุณชัชเขาต้องรำคาญ อย่า ...’

‘อย่าให้นิดไปอยู่บ้านนั้นเลยดีกว่าจ้ะ ป้าจะได้ไม่ต้องกังวล กลัวไปซะหมดอย่างนี้’ นิธิดาขัดอีกรอบ คราวนี้ได้เป็นมะเหงกชิ้นใหญ่ใส่กลางกบาล

หลังจากนั้นป้าเธอก็พร่ำสอนสั่งอีกเยอะแยะ จนเธอต้องหาสมุดเล่มเล็กๆมาจดคำสั่งของป้า รวมถึงตอนนี้ ต้องจดด้วยว่าอย่าไปเดินเหยียบต้นไม้ใครเขา

นิธิดาทิ้งตัวลงนอนบนเตียง ฟูกแข็งนิดหน่อย ไม่นิ่มสบายเหมือนอยู่บ้าน อากาศก็ร้อน ไม่มีลมพัดโกรกพร้อมกลิ่นน้ำ กลิ่นดินหอมๆอย่างที่เคยเจอ เหยียบเมืองกรุงพร้อมตำแหน่ง สารพัดแจ๋ว ได้ไม่กี่นาที น้ำตาก็เริ่มจะไหลรินเพราะอาการคิดถึงบ้านซะแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะป้าเอื้องห้ามไว้ แล้วจัดการส่งเธอขึ้นรถโดยสารมาคนเดียวล่ะก็ คงได้มีสถานการณ์น้ำหูน้ำตาไหลอยู่หน้าคฤหาสน์ทรายทองแห่งนี้แน่

“ปีเดียว อดทนเข้าไว้ยัยนิด”

หญิงสาวพร่ำบอกตัวเอง เธอสัญญากับตัวเองว่าจะต้องทำให้ได้ อย่างน้อย ป้าเธอจะได้มั่นใจว่าหลานคนนี้ไม่ใช่คนเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ และต้องอดทน เพื่อสิ่งที่เธอใฝ่ฝันมาตลอด นั่นคือการไปเรียนต่อต่างประเทศ

แค่ปีเดียว ยังไงก็คงไม่ยากเกินความสามารถของเธออยู่แล้ว นิธิดากำมือทั้งสองแน่น ดึงเข้าหาลำตัวพร้อมเปล่งเสียงก้อง เป็นการให้กำลังใจตัวเอง

“สู้โว้ย !”



สะเรนี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 มิ.ย. 2554, 23:45:10 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 มิ.ย. 2554, 23:45:10 น.

จำนวนการเข้าชม : 1802





saralun 14 มิ.ย. 2554, 11:52:13 น.
แล้วมาต่อตอนไปอีกนะคะ กำลังสนุกเลย


ปูสีน้ำเงิน 14 มิ.ย. 2554, 15:52:55 น.
ยัยนิดนี่ถ้าจะเฮี้ยวน่าดูทีเดียวนะเนี่ย


Pat 14 มิ.ย. 2554, 19:16:14 น.
ท่าทางน่าสนุก


หยกสีน้ำผึ้ง 17 มิ.ย. 2554, 23:21:17 น.


Auuuu 2 ต.ค. 2554, 21:28:48 น.
อยากอ่านต่อจัง :)


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account