เรื่องสั้น : แม่ครับ ผมขอโทษ
กว่าเราจะรู้สึกถึงความรัก ความห่วงใย ของใครสักคนหนึ่ง
เราอาจจะพบว่า มันสายไปเสียแล้ว....
Tags: เรื่องสั้น, ความกตัญญู, ความรัก, ลูก, ครอบครัว

ตอน:

1.

“ตกลงจะให้ผมเรียนหมอใช่ไหม ได้สิ ผมทำอะไรตามใจตัวเองไม่ได้อยู่แล้วนี่”



เสียงค่อนแคะของหนุ่มน้อยวัยสิบเจ็ด ทำเอาหัวใจของผู้เป็นพ่อห่อเ*่ยวลงทันที แต่ไหนเลยจะเท่า เสียงฝีเท้าสองเท้ากระทบพื้นไม้ ที่เมื่อครั้งก่อนนี้สองเท้าน้อยๆ นี้ ผู้เป็นพ่อและแม่เคยจูบ เคยหอม ทะนุถนอมแค่ไหน แต่มาบัดนี้ เสียงที่กระทบระหว่างเนื้อของเจ้ากับไม้กระดาน มันดังกระทบไปถึงใจของบุพการีเหลือเกิน



“พ่อ.. แม่ว่า อย่าเพิ่งบังคับลูกเลยนะจ๊ะ” ผู้เป็นแม่อดไม่ได้ จะเข้าข้างลูกชายวัยรุนแรง ที่เวลานี้ อะไรก็ไม่เคยอยู่ในสายตาของเขาเท่ากับเพื่อนฝูง หรือแฟนเท่านั้น



“แต่แม่.. พ่อกลับมีความเห็นว่าลูกน่าจะคิดได้บ้างนะ ว่าตอนนี้เขาควรทำอะไรมากไปกว่า การขี่มอเตอร์ไซด์ตะลอนเหนือ ตะลอนใต้แบบนี้ ครั้นเราก็ไม่ได้หนุ่มลงทุกวันนี่” ผู้เป็นพ่อ ยังยืนกรานในการวางอนาคตของลูก เพื่อว่าวันหนึ่ง เมื่อพวกเขาไม่อยู่แล้ว ลูกจะได้ไม่ลำบาก



“อืม แม่เข้าใจ แต่ตาหนูคงยังไม่ได้คิด เอาไว้ให้ลูกสบายใจก่อนดีกว่า”

แม่..ผู้ไม่เคยด่าทอ หรือแม้แต่จะใช้ฝ่ามือตัดสินโทษลูก ยังคงแสดงความเห็นใจลูกอยู่อย่างนั้น



เช้าวันต่อมา..

“แม่ ทำไมช้าจัง เพื่อนจะมารับแล้วนะ”

ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ว่าแม่ พลางใส่รองเท้านักเรียนไปพลาง

ขณะที่ฝ่ายแม่ ก็กุลีกุจอ เตรียมกระเป๋าหนังสือมาส่งให้

“แม่แก่แล้ว จะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนมารวดเร็วเหมือนลูกล่ะ อ่ะ นี่ กระเป๋า ตั้งใจเรียนนะ”

ลูกกระชากกระเป๋าจากมือแม่ แทบไม่มอง หรือ สนใจผู้หยิบยื่นกระเป๋าให้ด้วยซ้ำ ด้วยเห็นว่า เพื่อนพร้อมมอเตอร์ไซด์มาจอดรออยู่แล้ว



“เฮ้อ เป็นไงล่ะ เจ้าลูกชายตัวดีของแม่ ....” พ่อพูดค้างไว้แค่นั้น จริงๆแล้วในใจอยากพูดให้มากกว่านี้ แต่ว่าต้องเก็บกลืนคำพูดไว้ในใจต่อไป เพราะไม่อยากกระทบกับความรู้สึกของคนฟัง

“ใช่ นั่นลูกชายของฉัน” แม่พูดเพียงแค่นั้น ก็หันหลังกลับเข้าบ้านไป โดยไม่ส่งยิ้มให้พ่อก่อนไปทำงานเหมือนเคย



2.

ความผิดพลาดครั้งอดีต ที่แม้จะพยายามลืมเท่าไร แต่ก็ไม่เคยทำได้เลยสักที



จิตใจมนุษย์นั้นประหลาดล้ำ สิ่งใดอยากจำแต่กลับลืม แต่สิ่งที่อยากลืม กลับจำอยู่เสมอๆ



หญิงสาววัยแรกรุ่น ผู้ไม่เคยรู้จักกับคำว่าบุรุษเพศ ได้แหวกว่ายใช้ความสาว ความสวย อีกพร้อมความไร้เดียงสาไปให้ชายชม โดยไม่รู้ว่า สิ่งที่ผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่จะตามมา



เธอใช้เวลาทั้งหมดให้กับความสนุกในถนนสายความรัก ที่เธอทึกทักเอาว่า มันคือทั้งหมดของชีวิต และหากไม่มีความรักฉันท์ชู้สาวแล้ว เธอจะไร้ซึ่งลมหายใจ โดยเธอลืมไปว่า ที่บ้านยังมีอีกสองคน คอยห่วงใย และให้เธอได้แม้กระทั่งชีวิตของพวกเขา



ผ่านไปไม่นาน สิ่งมีชีวิตเล็กๆ ได้ก่อกำเนิดขึ้น โดยเธอเอง ยังสรุปไม่ได้เลยว่า ใครกัน คือผู้ที่ทำให้เด็กชายตัวน้อยน่ารักนี้ได้ออกมาดูโลก โลกที่เธอเห็นว่าสวยงามเสมอ เมื่อมีเขา...



แม่ ตื่นขึ้นกลางดึก สะอื้นไห้ในอก เหตุการณ์เรื่องราวในฝัน มันเหมือนอดีตที่ผ่านมา ราวกับจิตใต้สำนึกย้อนไปก็ไม่ปาน



แม่สะอื้นไห้เบาๆ ใช้สองมือปิดปากไม่ให้เสียงเล็ดลอด ด้วยเกรงคนข้างเคียงจะตื่น พรุ่งนี้เขาต้องทำงานอีก จะรบกวนเขาไม่ได้



ปัง!

เสียงประตูปิดแรงแบบนี้คงเป็นใครไปไม่ได้ แม่รีบกุลีกุจอ แต่เป็นไปอย่างเงียบๆ เช่นเคย

“หนู กลับมาแล้วเหรอ แม่..”

“ง่วง ไว้คุยพรุ่งนี้” เจ้าลูกชายเอ๋ย แม้จะทักทายแม่สักคำยังไม่มี แถมยังปั้นปึ่งใส่แบบนี้ หัวใจแม่จะทนได้อีกนานสักเท่าไรกัน



แม่มองตามหลังลูกชาย พลางนึกย้อนถึงเด็กสาวคนหนึ่ง ที่ยามกลับเข้าบ้านมากลางดึก มักกระทืบเท้าปังๆ เข้าห้องนอน ยามมารดา ถามไถ่เรื่องราวต่างๆ



ภาพมันชัดในทุกอิริยาบถ ทุกเยื้องย่าง ทุกการกระทำ เหมือนถอดมาจากเบ้าหลอมเดียวกัน



เธอทรุดนั่งตรงบันไดทางขึ้นชั้นบน สะอื้นจนตัวโยน อยู่ในความมืดและความเงียบ......



3.

“แม่ พ่อจะไม่ยอมให้แม่ นั่งร้องไห้เพราะตาหนูอีกแล้ว”

พ่อยื่นคำขาดในเช้าวันหนึ่ง แม่ไม่รู้เลยว่า ทุกค่ำคืน ที่แม่ร้องไห้ ยังมีเงาของใครอีกคน คอยนั่งเป็นเพื่อน อยู่เงียบๆ เสมอ

“แม่จัดการเองได้ ลูกชายของแม่ แม่เลี้ยงเขามา แม่รู้วิธีจัดการ”

“วิธีจัดการแบบแม่น่ะเหรอ วิธีที่ให้ลูกบังเกิดเกล้ากระทืบเท้าใส่ ปิดประตูใส่ หันหลังให้แม่ อย่างไม่ใยดี น่ะเหรอ เฮอะ นี่มันมากไปแล้วนะ แล้วก็นานมากพอแล้ว กับสิ่งที่แม่อดทนมาน่ะ” พ่อขึ้นเสียงในที่สุด ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในเส้นทางของทั้งคู่ ไม่มีครั้งไหน ที่ต้องเสียงดังแบบนี้ พ่อรัก และเอาใจใส่ดูแลแม่เป็นอย่างดีมาตลอด ทั้งที่รู้ว่าในอดีตนั้น แม่ผ่านอะไรมาบ้าง แต่ทุกสิ่งในโลกย่อมมีคู่ เมื่อถูกคู่แล้ว ไม่ว่าอุปสรรค หรือ สิ่งใดๆ ก็ไม่อาจต้านทานได้

“แม่ เชื่อพ่อนะ พ่อจะไม่ทำเหมือนครั้งก่อนหรอก”

ครั้งก่อนที่พ่อพูดถึง คือการลงไม้ลงมือกับลูกชาย จนลูกชาย สบถคำหยาบใส่หน้าพ่อ ชนิดที่เรียกว่า มันมาจากขุมนรกไหนกันเจ้าเด็กคนนี้!

....

“มึงมายุ่งอะไรกับกู!” เสียงเด็กหนุ่มตะโกนใส่หน้าบิดาเลี้ยง อย่างไม่สำนึกถึงบุญคุณครั้งที่เลี้ยงมาเลย ชายผู้เป็นพ่อ อดทนไม่ไหว ทั้งเหนื่อยจากงาน และการเดินทาง มิหนำซ้ำยังมาเจอเหตุการณ์ที่เจ็บปวดใจ เมื่อมาเห็นว่าลูกชายที่แม้เป็นลูกนอกไส้ แต่เขาก็เลี้ยงด้วยความทะนุถนอม กำลังมีปากเสียงกับแม่ของตัวเอง



เพียะ! เสียงฝ่ามือหนากระทบแก้มใสๆ ทำเอาหัวใจของแม่แทบสลาย เพราะตระหนักดีถึงความเจ็บปวดนั้นเมื่อครั้งยังเยาว์ และดื้อดึงต่อเสียงทัดทานของพ่อแม่



“พ่อ หยุด อย่าทำลูกนะ” แม่เข้ามาขวางพ่อ กอดลูกไว้ในอ้อนแขน ก่อนที่พ่อจะทุบตีลูกด้วยอารมณ์อันรุนแรง แต่เจ้าลูกชายกลับสะบัดแขน ให้หลุดจากเกราะอันแข็งแกร่งจากแม่ แล้วชี้หน้าด่าพ่อ ยังกับผีนรกส่งมาเกิดก็ไม่ปาน!



“มึงจำไว้นะ มึงไม่มีสิทธิ์มาทำกับกูแบบนี้อีก มึงไม่ใช่พ่อกู พ่อกูต้องไม่ทำแบบนี้กับกูแน่ ไอ้เ...ยเอ้ย!”

ว่าแล้วพลางออกจากบ้านไป โดยหลงลืมไปว่า มีใครอีกคนกำลังทรุดฮวบลง ระคนอ่อนล้า กับเหตุการณ์ตรงหน้า น้ำตาแทบเป็นสายเลือดของแม่ ไม่ได้ทำให้ลูกชายตัวน้อยที่แม่เคยอุ้มชูเมื่อครั้งยังเด็ก กลับมาซับน้ำตาให้แม่ เหมือนที่แม่ทำให้เจ้าเลย



มีแต่เพียงอ้อมกอดของชายผู้เป็นสามี ที่ไม่ว่าจะยามทุกข์หรือสุขก็ไม่เคยห่างไปไหนเลย



หลังจากลูกชายกลับมาแล้ว ผู้เป็นพ่อ เข้าไปหาอย่างรีบเร่ง แต่แม่ก็เข้ามากันไว้ก่อน เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบเมื่อตอนหัวค่ำอีก

“ลูก พ่อขอโทษนะ” น้ำตาจากผู้เป็นพ่อไหลอาบแก้ม ชนิดที่แม่ ยังตกใจ เพราะไม่เคยเห็นน้ำตาจากพ่อเลย ตั้งแต่อยู่กินกันมา พ่อคุกเข่าพร้อมกระพุ่มมือกราบลงที่เท้าของลูก ใจของแม่แทบขาด น้ำตาไหลรินอาบแก้มสากๆ ไม่ขาดสาย มีเพียงสายตาเกรี้ยวกราดของบุตรชายเท่านั้น ที่ไร้ซึ่งคราบน้ำตา แต่เต็มเปี่ยมด้วยแรงอาฆาต เขาสะบัดอ้อมกอดของแม่ มิหนำซ้ำเกือบเหยียบศีรษะที่ประดับด้วยเส้นผมสีขาวของชายผู้เลี ้ยงดูเขามาตั้งแต่ยังแบเบาะ



เหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้บ้านที่ปกติแล้วจะเต็มไปด้วยเสียงเอะอะ ทะเลาะกัน กลับเงียบสนิท คล้ายไม่มีคนอยู่อาศัย สงครามเย็นกินเวลาเนิ่นนาน ก่อนจะกลับเข้าสู่เหตุการณ์ปกติอีกครั้ง



4.

“ตาหนู ตาหนูบอกพ่อซิ ว่าอยากทำอะไร หลังจากจบ ม.หก” ผู้เป็นพ่อ สะกดอารมณ์ให้เรียบที่สุด ยิงคำถามออกไป หลังจากพิจารณาดูอารมณ์ของลูกชายแล้วว่า น่าจะคุยดีๆ ด้วยได้

“อืม ยังไม่รู้เลย นี่ก็ติด 0 ไว้หลายตัว ร ก็มีนะ ยังไม่ได้แก้เลย ให้แก้ให้จบก่อน ค่อยมาถามใหม่” พูดเสร็จก็ลุกขึ้นยืน ทำท่าจะออกจากบ้าน

“ตาหนู!” คราวนี้เป็นเสียงของผู้เป็นแม่บ้าง

“จะไปไหนไม่ได้นะ พ่อยังพูดกับเราไม่จบ” สองหนุ่มต่างวัย หันมามองหน้าแม่เป็นตาเดียวกัน ระคนแปลกใจ วันนี้แม่มาแปลก

“นั่งลงเดี๋ยวนี้” แม่สั่งอีกรอบ คราวนี้ลูกชาย ทำหน้าเบื่อหน่าย แต่ก็ยอมกลับมานั่งที่เดิมแต่โดยดี

“เอ้า ว่ามา”

“พ่อว่าลูกน่าจะคิดถึงอนาคตบ้าง เพราะพ่อกับแม่ก็แก่เฒ่าลงทุกวัน ไม่รู้ว่าจะอยู่ดูแลลูกได้อีกนานเท่าไร”

“อะไร จะรีบตายไปไหน แม่ก็ยังแข็งแรง ผมเผ้าก็ไม่หงอก มีแต่พ่อแหละ ที่หัวหงอก ฮ่าๆๆ”

หากเป็นในภาวะที่ไม่เครียด คงได้หัวเราะกันบ้าง แต่นี่ไม่ใช่

“ตาหนู สิ่งที่ลูกเห็นอาจไม่ใช่อย่างที่ลูกเข้าใจนะ” แม่พูดขึ้นบ้าง แล้วเดินหายเข้าไปในครัว

ทิ้งคำพูดปริศนาให้ลูกชายที่ไม่รู้จะมีสมองคิดถึงคำพูดของแม่บ้ างไหม



5.

ควันดำพวยพุ่งจากปากปล่องของเมรุเผาศพ เรียกน้ำตาแรก จากเด็กหนุ่มในผ้ากาสาวพัสตร์อย่างเงียบๆ เณรหนุ่มไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้ ด้วยร่างของมารดาได้จากเขาไปอย่างไม่มีวันกลับ



ณ ตอนนี้ เขาเพิ่งเข้าใจ ถึงคำพูดของแม่ ว่าสิ่งที่เขาเห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เขาคิด



แม่จากเขาไปด้วยโรคมะเร็ง แม่ไม่รักษาเพราะเห็นว่า รักษาหรือไม่ก็ตายเหมือนกัน ทนเก็บเงิน เพื่อให้ลูกได้เรียน ได้ใช้จะดีกว่า ส่วนพ่อนั้น ทำงานหนักทุกวัน และพยายามปลุกปลอบแม่ เพื่อหาทางรักษา แต่พ่อก็ยังเป็นพ่อ ที่รัก และเคารพในการตัดสินใจของแม่เสมอ แต่สภาพจิตใจที่ย่ำแย่ของแม่ ส่งผลให้เชื้อโรคร้ายคุกคามหนักขึ้นทุกวัน จนกระทั่งทนไม่ไหว



จากนี้ไป เขาไม่รู้จะดำเนินชีวิตไปในทิศทางใด เมื่อไร้มือสองข้างที่พร้อมจูงมือเขาเมื่อเขาล้ม

อ้อมแขนอันอบอุ่นที่พร้อมปลอบประโลมและโอบกอดให้คลายเศร้า

เขาไม่รู้จะหาน้ำเสียงที่กังวาน คอยชักชวนให้เขาทำโน่นนี่ได้จากที่ไหนอีก



ความเจ็บร้าวในใจเท่านั้น ที่เขารู้สึกได้ ณ ตอนนี้.




rubino
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 มิ.ย. 2554, 10:53:27 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 มิ.ย. 2554, 10:53:27 น.

จำนวนการเข้าชม : 2039





ปูสีน้ำเงิน 14 มิ.ย. 2554, 14:15:53 น.
นี่แหละน้าเค้าถึงว่า " กว่าจะรู้สึกตัวก็สายเสียแล้ว "


ลูกกวาดสีส้ม 14 มิ.ย. 2554, 19:19:36 น.
เศร้าค่ะ


rubino 15 มิ.ย. 2554, 08:12:03 น.
เรื่องนี้ บางส่วนเป็นข้อมูลจริงค่ะ..


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account