ไร้หัวใจ
ภคพร หญิงสาวผู้มีหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยการแก้แค้น เมื่อนวพรรษน้องสาวของเธอถูกกันย์หนุ่มรูปหล่อเลือดเย็นทำให้ท้องแล้วไม่รับผิดชอบ ภคพรจึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้กันย์ได้รับความทุกข์ทรมาน และหนทางเดียวที่จะทำร้ายกันย์ได้ก็คือการแต่งงานกับประพนธ์คู่หมั้นหนุ่มรูปหล่อของเกตุแก้ว น้องสาวสุดที่รักของกันย์ แม้ว่าการแต่งงานครั้งนี้จะเต็มไปด้วยไฟแค้น และการดูถูกและทำร้ายต่างๆนานาจากประพนธ์ แต่เพื่อน้องสาวอันเป็นดั่งดวงใจ ภคพรยอมที่จะต้องกลายเป็นผู้หญิงร้ายกาจและเลือดเย็นอย่างไร้หัวใจ บทสรุปของโศกนาฏกรรมความรักครั้งนี้จะเป็นเช่นไร ภคพรจะยอมปล่อยวางความแค้นที่มีแต่ทำร้ายให้ทุกคนต้องเจ็บปวดในครั้งนี้ได้อย่างไร....ติดตามอ่านได้ใน ไร้หัวใจ...
Tags: ตบจูบ
ตอน: ไร้หัวใจ ตอนที่ 32
.............ภคพรตื่นนอนตอนเช้าด้วยอาการที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก หญิงสาวรู้สึกปวดหัวเหมือนกับมีใครเอาอะไรมาบีบรัด
ศีรษะของเธออยู่ตลอดเวลา
“โอ๊ยยย ปวดหัวจะแตก”
ภคพรลุกขึ้นนั่งกุมขมับ สำรวจตัวเองที่ยังอยู่ในชุดราตรีสวยหรู ด้วยอาการมึนงง
“..........”
หญิงสาวมองไปรอบๆห้องของเธอ งงงัน ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเริ่มได้สติว่าห้องนี้
ไม่ใช่ห้องหอของเธอ
“ทำไมฉันมาอยู่ที่นี่ล่ะ”
ภคพรมองซ้ายมองขวา รีบร้อนลงจากเตียงและตรงดิ่งไปหาทุกคนที่ห้องอาหารหน้าตาตื่นตระหนก
“พี่เนย์!!”
นวพรรษร้องทักเป็นคนแรก มองหน้าพี่สาวเธอในสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิง หน้าตามึนงง
“หนูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ”
ภคพรโพล่งพรวดออกไปเสียงดัง ทุกคนในครอบครัวหันมามองเธอกันเป็นตาเดียว
“ไม่มีใครรู้ใช่มั้ยคะ ว่าหนูมาที่นี่ได้ยังไง”
ภคพรเสียงดัง
“ใจเย็นๆก่อนสิลูก แม่ว่าน่าจะเป็นสามีหนูนั่นแหละที่พาหนูมาที่นี่ ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงมาทานข้าวด้วยกันมา”
เพียงพรจับแขนลูกสาวเบาๆเพื่อให้เธอสงบใจลง
“ไม่ค่ะ หนูลานะคะ หนูทนอยู่แบบอึดอัดใจแบบนี้ไม่ได้แน่ หนูต้องไปคุยกับผู้ชายคนนั้นให้รู้เรื่องก่อน”
ภคพรรีบร้อนจะเดินออกจากบ้าน แต่นวภคร้องเรียกลูกสาวเสียงดัง
“ยายเนย์ นายเนย์”
นวภคขึ้นเสียง นวพรรษต้องยอมหยุดนิ่งด้วยความร้อนรน
“ขึ้นไปบนห้อง ไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงมาทานข้าว ทำอะไรด้วยอารมณ์มันมีแต่ทำให้ชีวิตเราพังกับพัง
พ่อไม่เห็นด้วยที่หนูเอาแต่เกรี้ยวกราดคนอื่นไปทั่วแบบนี้ พ่อทนดูลูกเที่ยวเกะกะระรานคนอื่นมานานเกินไปแล้ว
ถ้าหนูสงบจิตสงบใจตัวเองไม่ได้ พ่อจะเป็นคนทำให้ลูกสงบลงเอง”
นวภคดุลูกสาวเสียงเข้ม มองจ้องเธอหน้าตาจริงจัง
“คุณพ่อไม่เคยดุหนู ทำไมคุณพ่อต้องดุหนูด้วย”
ภคพรยืนน้ำตาเอ่อไหล งอแงเหมือนเด็กที่ไม่รู้จักโต นวภคเดินเข้ามาหาลูกสาว วางมือลงบนบ่า
และกระชับอ้อมกอดเบาๆด้วยความรัก
“ที่พ่อทำก็เพราะว่าพ่อรักหนู มันอาจจะช้าเกินไปด้วยซ้ำที่พ่อเพิ่งจะเอามาพูดตอนนี้ ก่อนหน้านี้หนูมีจิตใจ
ที่แข็งกระด้างและเต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชัง พ่อกับแม่พูดอะไรไป หนูก็ไม่เคยยอมรับฟัง
แต่ตอนนี้พ่อรู้สึกได้ว่าลูกสาวของพ่อเปลี่ยนไปแล้ว พ่อถึงได้ลองพูดขอร้องหนูให้ลองฟังพ่ออีกซักครั้ง....”
นวภคบีบไหล่ลูกสาวเบาๆด้วยรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยน
“ถ้าหนูอยากจะเอาชนะใจพี่เค้า หนูต้องใจเย็นกว่านี้ เป็นคนดีให้มากกว่านี้ ลืมเรื่องแก้แค้น
แล้วทำให้พี่ประพนธ์เค้ารักหนูให้ได้”
นวภคแนะนำลูกสาวอันเป็นที่รัก ภคพรได้แต่ยืนนิ่ง มองเขาตาแป๋วทั้งน้ำตา
“ใช่ค่ะ พี่เนย์ พี่เนย์ต้องไม่เกรี้ยวกราดใส่คุณประพนธ์ พี่เนย์ต้องทำดี คิดดีกับเขาในทุกๆเรื่องและที่สำคัญ
พี่เนย์ต้องปล่อยวางเรื่องการแก้แค้นทิ้งไปให้หมด แล้วคนพวกนั้นก็จะพ่ายแพ้เราไปเอง เชื่อเมย์เถอะค่ะ”
นวพรรษเดินเข้ามาจับมือพี่สาวเธอเบาๆอีกคนเพื่อให้กำลังใจ
“การปล่อยวางจะทำให้พ่อแม่แล้วก็น้องสาวของลูก ได้ลูกสาวที่แสนดีและพี่สาวที่ที่น่ารักกลับ
คืนมา ปล่อยวางความแค้นในใจลูกซะเถอะนะ แม่ขอร้อง”
เพียงพรเดินเข้ามาลูบหัวลูกสาวของเธออีกคน ในช่วงเวลาที่จิตใจของภคพรเต็มไปด้วยความรัก
และความอ่อนแอแบบนี้ นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่ทุกคนจะช่วยกันเกลี้ยกล่อมเธอ
“หนูขอทานข้าวอย่างเดียวได้มั้ยค่ะ ส่วนเรื่องอาบน้ำหนูขอกลับไปอาบที่บ้านโน้นนะคะ”
ภคพรยิ้มออกมาทั้งน้ำตา รู้สึกอบอุ่นหัวใจและรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะหลุดพ้นจากพันธนาการ
ความแค้นต่างๆที่มันเกาะกินหัวใจเธอจนให้หัวใจมีแต่ความมืดบอด ทำแต่เรื่องอะไรๆที่มันร้ายๆ
****************************************************************
............. เกตุแก้วยืนดูกันย์คุยกับผู้ชายแปลกหน้าอยู่ในห้องทำงานของเขาด้วยความประหลาดใจ หน้าตาท่าทาง
ของผู้ชายคนนั้นดูมีเล่ห์เหลี่ยมและไม่น่าไว้ใจ
“สวัสดีครับ”
กันย์พูดกับผู้ชายคนนั้น ก่อนจะส่งเข้าออกจากบ้านไปอย่างให้เกียรติ
“พี่กันย์ผู้ชายคนเมื่อกี้เป็นใคร ทำไมหน้าตาเขาดูคุ้นๆจังเลย”
เกตุแก้วถามด้วยความสงสัย
“นี่ไม่ใช่เรื่องของเด็กนะ พี่จัดการเรื่องนี้เองคนเดียว เกตุเข้านอนเถอะ”
กันย์ตัดบทด้วยท่าทางมึนตึง
“.........”
เกตุแก้วยังคงยืนนิ่งและพยายามคิดว่าผู้ชายหน้าคุ้นๆคนเมื่อกี้คือใคร
“เกตุนึกออกแล้ว นั่นมันผู้จัดการใหญ่ของบริษัทพรพรรษไม่ใช่หรอคะ”
เกตุแก้วเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“อย่าพูดเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด ถ้าเธอไม่อยากเห็นพี่ต้องตายไปต่อหน้าเธอ”
กันย์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ไม่นะพี่กันย์ ถ้าพี่ทำแบบนั้นจริงๆ เกตุจะมีหน้าไปมองใครที่ไหนได้อีก”
เกตุแก้วเกาะแขนพี่ชายเธอแน่น กลัวในสิ่งที่กันย์กำลังคิดที่จะทำ
“พี่ตัดสินใจไปแล้ว จะเดินกลับหลังไม่ได้อีก เธอจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ทั้งหมดพี่เป็นคนทำเองคนเดียว
ขอแค่เธออย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร แม้กระทั่งนายประพนธ์เองก็ตาม”
กันย์ยื่นคำขาด
“พี่กันย์ พี่กลายเป็นคนใจร้ายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ พี่ลืมไปแล้วหรอ ว่าคุณนวพรรษลูกสาวของประธานบริษัทพรพรรษ
เธออุ้มท้องลูกของพี่อยู่นะ....อย่าทำแบบนี้เลยนะคะ เกตุขอร้อง”
เกตุแก้วพูดเสียงสั่น น้ำตาเอ่อไหล กลัวจริงๆว่ากันย์จะทำให้บริษัทพรพรรษต้องพังพินาศย่อยยับ
“พี่บอกแล้วไง ว่าพี่ตัดสินใจไปแล้ว”
กันย์ยังคงดื้อดึง เกตุแก้วสะบัดมือเขาออก ยืนมองจ้องเขาทั้งน้ำตา
“พี่กันย์ใจร้าย พี่กันย์ใจดำ คนไม่มีหัวใจ พี่ทำร้ายทุกคนอย่างเลือดเย็นขนาดนี้ได้ยังไง นอกจากตัวเองแล้ว
พี่เคยรักคนอื่นบ้างมั้ยทำไมพี่เป็นคนแบบนี้ ทำไมทำแบบนี้”
เกตุแก้วตะโกนใส่พี่ชายเธอทั้งน้ำตา เสียใจในสิ่งที่เขาเป็น กันย์ยืนกำหมัดแน่น พูดอะไรไม่ออก หยดน้ำตา
ที่ไม่เคยคิดว่าจะไหลก็รินไหลออกมาด้วยความทุกข์ทรมานกับความรักที่ไม่มีวันพูดบอกออกไปได้
“ถ้าเรื่องนี้ทำให้พนธ์ไม่มองหน้าเกตุอีก เกตุจะไม่ให้อภัยพี่กันย์เลยตลอดชีวิต ถ้าพี่กันย์แตะต้องบริษัทของประพนธ์
แม้แต่ปลายก้อยเกตุก็จะไม่ให้อภัยพี่อีกเลยเหมือนกัน คนใจร้าย!!!”
เกตุแก้วหุนหันออกจากห้องไปด้วยอารมณ์ที่เกรี้ยวกราด
“..............”
กันย์ยืนแน่นิ่ง น้ำตาเอ่อไหล ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำก็เพื่อเธอคนเดียวที่กำลังยืนด่าเขาทั้งน้ำตาคนที่เพิ่งเดินจากเขาไป
“ถ้าบนโลกใบนี้ไม่มีเธอ พี่ก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม....ถ้าบนโลกใบนี้มีคนที่ทำให้เธอต้องเสียใจ
พี่ก็ไม่รู้จะทนดูอยู่เฉยๆได้ยังไงเหมือนกัน”
กันย์กล่าวเสียงแผ่วเบาทั้งน้ำตา รู้สึกเหมือนโดนมีดกรีดลงตรงกลางหัวใจ
****************************************************************
.............ภคพรเดินหน้าตาบึ้งตึงลงจากรถทันทีที่ขับมาจอดสนิทลงที่หน้าบ้านของประพนธ์
การเคลียร์ปัญหากับเขาจะทำให้เธอไม่รู้สึกอึดอัดและทุกข์ทรมานขนาดนี้
“อ้าว!! หนูภคพร มายังไงล่ะลูก ไหนตาพนธ์บอกว่าหนูจะกลับไปช่วยงานพ่อกับแม่ที่บ้านซักพัก”
ประไพรถามขึ้นด้วยความสงสัย
“เข้าใจผิดกันนิดหน่อยน่ะค่ะ เขาอยู่บ้านไหมคะวันนี้”
ภคพรถามขึ้นหน้าตาเคร่งเครียด
“ตาพนธ์ไปบริษัทกับพ่อตั้งแต่เช้าแล้ว มีอะไรกันหรือเปล่าลูก ทำไมหน้าตาเคร่งเครียดแบบนี้ล่ะ”
ประไพรจับแขนลูกสะใภ้เบาๆ
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ หนูขอตัวไปหาเขาก่อนนะคะ พอดีมีธุระ”
ภคพรรีบร้อนหันหลัง แต่ก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อได้กลิ่นดอกมะลิหอมโชยเข้ามาเตะจมูก
“เป็นอะไรลูก”
ประไพรเดินเข้ามาหา ภคพรยืนผะอืดผะอมทำท่าเหมือนจะอาเจียน
“อ้วกๆๆๆ”
ภคพรวิ่งถลาไปที่โคนต้นไม้และอ้วกอาหารเช้าที่เพิ่งกินเข้าไปจนหมดไส้หมดพุง
“.........”
ประไพรลูบหลังให้ลูกสะใภ้ มองดูอาการของเธออย่างพิจารณา
“หนูท้องหรือเปล่าเนี่ย”ประไพรถามขึ้นเสียงดังอย่างไม่อ้อมค้อม
“หนูเปล่านะคะ หนูแค่ดื่มหนักไปหน่อย”
ภคพรรีบร้อนปฏิเสธทันควัน
“อ้อ จร้าๆๆ”
ประไพรยังคงสงสัย
“หนูไปก่อนนะคะ หนูมีเรื่องจะคุยกับลูกชายของคุณ”
ภคพรรีบลุกขึ้นและรีบร้อนออกไป
****************************************************************
.............ตั้งแต่แต่งงานกันมาหกเดือน ภคพรไม่เคยย่างกายมาที่บริษัทของประพนธ์เลย การมาของเธอในวันนี้จึงทำให้
พนักงานในบริษัทของประพนธ์แตกตื่นกันยกใหญ่ รูปร่างหน้าตาของเธอนั้นสวยงามและดูดีราวกับภาพวาด
ท่วงท่าในการเดินก็ดูมั่นใจประหนึ่งนางพญาหงส์ ไม่ว่าเธอจะเดินผ่านไปที่ไหน ทุกสายตาก็จับจ้องมองมาที่เธอเป็นตาเดียว
“พลั๊ว!!”
ภคพรพรวดพราดเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของประพนธ์โดยไม่ฟังคำทัดทานใดๆจากเลขาสาวสวยหน้าห้อง
“.........”
ภคพรยืนอึ้ง พูดอะไรไม่ออก ภาพตรงหน้ามันทำให้เธอปี๊ดขึ้นไปจนถึงหัวสมอง ภคพรยืนกำลูกบิดประตูแน่นอยู่อย่างนั้น
รู้สึกชาไปหมดทั้งหัวใจ กันย์ เกตุแก้ว พิภพและประพนธ์จดจ้องมาที่เธอเป็นสายตาเดียว
“ปั้ง!!!”
ภคพรปิดประตูลงอย่างรวดเร็ว รีบร้อนเดินออกจากห้องด้วยความรู้สึกที่ไม่ต่างอะไรจากการถูกทรยศหักหลัง
“คุณมาทำอะไรที่นี่”
ประพนธ์เดินตามออกมา หน้าตาของเขาดูเศร้าสร้อยกว่าทุกวัน
“แล้วพวกคุณล่ะ มารวมหัวทำอะไรกันอยู่ที่นี่”
ภคพรเปิดศึกด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด
“เอกสารหย่าของเราผมกำลังให้ทนายทำอยู่ ไม่เกินสองสามวันผมจะรีบให้ทนายเอาไปให้คุณเซ็นที่บ้าน”
ประพนธ์พูดโพล่งออกมาเพื่อจบปัญหาทุกอย่าง
“เพี๊ยะ!!”
ภคพรตบชายหนุ่มหน้าหัน มองจ้องเขาเขม็ง น้ำตาค่อยๆรินไหล เอ่อทะลักออกมาเพราะคำพูดบาดหัวใจของประพนธ์
“ฉันไม่หย่า ฉันจะอยู่กับคุณไปจนกว่าเราจะตายจากกันไปเลย อย่าหวังว่าคุณจะได้ไปเสวยสุขกับผู้หญิงคนนั้น”
ภคพรเกรี้ยวกราด พนักงานในบริษัทหลายสิบชีวิตที่ทำงานอยู่บริเวณนั้น ต่างเดินมาดูด้วยความตกใจ
“มานี่คุณ...”
ประพนธ์รากภคพรเข้ามาในห้องประชุมใกล้ๆห้องทำงานของเขา
“ปล่อย!!”
ภคพรสะบัดแขน ยืนจ้องหน้าประพนธ์ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“เลิกดื้อซักทีสิคุณ ครอบครัวคุณกำลังจะพังพินาศย่อยยับเพราะคุณยังไม่รู้ตัวอีก!!”
ประพนธ์ตะวาดใส่ภคพรอย่างหมดความอดทน
“ไม่มีใครทำอะไรฉันได้ คุณเข้าใจมั้ยว่าไม่มีใครทำอะไรฉันได้”
ภคพรตะวาดกลับอย่างไม่กลัวเกรง
“ไม่มีใครทำอะไรคุณได้หรอ!! หลอกตัวเองชัดๆ ถ้าไม่มีใครทำอะไรคุณได้ ทำไมพี่กันย์
เค้าถึงได้สิทธิ์การถือครองบริษัทของพ่อคุณอย่างถูกต้องตามกฎหมายมาล่ะ”
ประพนธ์ตะคอกใส่ภคพร โกรธโมโหที่เธอไม่ยอมเข้าใจสถานการณ์ของตัวเองซักที
“ไม่จริง คุณโกหก”
ภคพรเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ยังอยากที่จะเชื่อว่าจะไม่มีใครทำอะไรเธอได้
“ผมไมได้โกหก ถ้าคุณไม่ยอมเซ็นใบหย่ากับผม คุณแล้วก็ทุกคนในครอบครัวของคุณจะไม่เหลืออะไรเลย
หย่ากับผมซะ เพื่อแลกกับบริษัทของพ่อคุณ ผมไม่ได้ล้อคุณเล่น พี่กันย์เขาต้องการทำแบบนั้นจริงๆ”
ประพนธ์จับบ่าทั้งสองข้างของภคพร ที่ตอนนี้ยืนนิ่ง อึ้งไป ด้วยความสับสน
“คุณเอาอะไรมาพูด พ่อฉันไม่มีทางหลวมตัวกับคนอื่นง่ายๆแบบนี้แน่”
ภคพรยังคงตะแบง
“พ่อคุณยอมเซ็นยกทุกอย่างให้พี่กันย์มาหมดแล้ว ทันทีที่ผมกับเกตุแก้วได้แต่งงานกันสัญญา
ฉบับนี้ก็จะถูกยกเลิก แต่ถ้าผมไม่แต่ง ก็จะกลายเป็นบริษัทของคุณกับผมที่จะต้องพังพินาศย่อยยับไปกับตา”
ประพนธ์มองจ้องหน้าภคพรไม่วางสายตา
“ฉันจะกลับไปหาพ่อ”
ภคพรรีบร้อนหันหลังเดินหนี แต่ถูกประพนธ์ฉุดแขนเอาไว้
“หย่ากับผมเถอะนะครับ แล้วเราทุกคนก็จะไม่มีใครเสียอะไรไป”
ประพนธ์กัดฟันพูดในสิ่งที่เลวร้ายออกไปเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับทุกคน
“พลั่ก”
ภคพรสะบัดมือหนี ก่อนจะหันมาฟาดฝ่ามือลงไปเต็มแรงบนใบหน้าของประพนธ์
“ไม่ต้องมาขอร้องให้ฉันทำอะไร ฉันมีสมอง คิดเองได้ว่าต้องทำยังไง”
ภคพรกัดฟันพูดทั้งน้ำตา ท้ายที่สุดแล้วประพนธ์ก็เลือกที่จะทิ้งเธอ
****************************************************************
............. ภคพรกลับมาเคลียร์งานที่บริษัทเพื่อตรวจสอบปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น แต่ไม่ว่าเธอกับนวพรรษ
จะพยายามอย่างหนักขนาดไหนเธอก็ไม่สามารถหาช่องโหว่ที่กันย์จะเล่นงานเธอได้เลย
“พี่เมย์ เย็นนี้คุณพ่อกับคุณแม่ให้เราสองคนไปงานเลี้ยงต้อนรับลูกค้าที่โรงแรมด้วยกันค่ะ พี่เนย์ว่างหรือเปล่า
พอดีพวกท่านต้องไปงานแต่งของลูกสาวเพื่อนที่ต่างจังหวัดนะค่ะ”
นวพรรษถามขึ้นด้วยรอยยิ้มบางๆ
“ว่างสิ ไปด้วยกันนะ”
ภคพรเอ่ยปากชวนน้องสาว
“ไม่ไหวหรอกค่ะ เดินแค่นิดเดียวเมย์ก็เหนื่อยแล้ว เดินก็ชักช้าอืดอาด อายคนอื่นเขา”
นวพรรษอมยิ้ม ปฏิเสธ
“แต่จะมีคนพาพี่เนย์ไปนะคะ คุณปกรณ์ แฟนเก่าพี่เนย์ไง พอดีงานนี้มันเกี่ยวข้องกับธุรกิจค้ารถโดยตรง
คุณปกรณ์เหมาะที่สุดแล้ว ที่จะพาพี่ไป”
เมย์หัวเราะเบาๆอย่างชอบใจ
“ไอ้หน้าหนวดอีกแล้วหรอ แค่มองหน้าพี่ก็อยากจะอ้วกแล้ว ทำไมต้องเป็นเค้าด้วย”
ภคพรอารมณ์เสียขึ้นมาในทันทีเมื่อนึกถึงวีรกรรมต่างๆที่ปกรณ์เคยทำกับเธอเอาไว้
“เอาเถอะน่าพี่ เพื่องานของเรา”
นวพรรษตบบ่าพี่สาวเบาๆเพื่อให้กำลังใจ
****************************************************************
............. หลังจากที่ทุกคนออกจากบ้านไปหมดแล้ว นวพรรษก็รีบร้อนออกจากบ้านไปในชุดดำสนิทเช่นกัน
ท่าทางรีบร้อนของเธอทำให้เด็กรับใช้ในบ้านต่างพากันมองด้วยความแปลกใจ นวพรรษขับรถมาจอดที่หน้าบ้านกันย์และ
แอบเข้าไปในบ้านเขาโดยมีชนินทร์ลูกน้องคนสนิทของบิดาเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือ
“รอเมย์อยู่ข้างนอกนะคะ เมย์จะรีบออกมาค่ะ”
นวพรรษบอกผู้ช่วยของเธอ เธอจะต้องพยายามหาหลักฐานสำคัญที่กันย์จะนำมาใช้เล่นงานคนในครอบครัวของเธอให้ได้
“แอ๊ด..”
นวพรรษย่องเข้ามาจนถึงในห้องทำงานของกันย์ และค้นหาทุกอย่างที่เธอสามารถค้นได้อย่างใจจดใจจ่อ
แต่ไม่ว่าจะพยายามขนาดไหนก็ไม่มีวี่แววความผิดปกติให้เธอจับผิดได้เลย
“หลักฐานสำคัญขนาดนั้น ผมไม่เอามาเก็บไว้ในที่ที่หาเจอได้ง่ายๆหลอกคุณ”
กันย์เดินเข้ามาในความมืด เปิดไฟขึ้นสว่างวาบ นวพรรษสะดุ้งเฮือก เบิกตากว้างด้วยความตกใจ
ก่อนจะยืนขึ้นและหันมาเผชิญหน้ากับกันย์อย่างไม่มีทางเลือก
“คืนนี้ฉันอาจจะทำไม่สำเร็จ แต่รับรองว่าจะมีครั้งต่อๆไปแน่ ฉันจะทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องครอบครัวของฉันเอาไว้”
นวพรรษมองจ้องหน้ากันย์ไม่วางสายตา
“คุณไม่มีวันเอาชนะผมได้หรอก คนที่จะเอาชนะผมได้ คนคนนั้นต้องเป็นคนที่เลวร้ายมากกว่าผมหลายสิบเท่า
ซึ่งไม่ใช่คนอย่างคุณแน่”
กันย์มองจ้องนวพรรษกลับอย่างเลือดเย็นเช่นกัน
“คุณมันใจร้าย ใจดำ คนเลือดเย็น คนนิสัยไม่ดี”
นวพรรษเขยิบเข้าไปใกล้กันย์ ทุบตีแผ่นอกกว้างของเขาอย่างเกลียดชัง เจ็บใจตัวเองที่ไม่สามารถเลวร้ายกับกันย์ได้
เหมือนกับที่เขาทำกับเธอ
“พอเถอะคุณ มันอันตราย”
กันย์จับแขนนวพรรษเอาไว้เพื่อไม่ให้เธอต้องขยับเขยื้อนตัวมาก
“..........”
นวพรรษยืนมองหน้าเขาน้ำตาเอ่อไหลอีกครั้งอย่างอัดอั้น ไม่ว่าจะยังไงกันย์ก็ไม่เคยหยุดที่จะทำร้ายเธอ
“อย่ากลับมาที่นี่อีก เพราะว่าคุณจะไม่ได้อะไรกลับไปนอกจากความว่างเปล่า อย่าเอาตัวเองมายุ่ง
กับเรื่องวุ่นๆพวกนี้อีกเลย เพราะว่าคุณจะต้องเหนื่อยเปล่า เอาเวลาของคุณไปดูแลตัวเอง ดูแลลูกของคุณให้ดีดีกว่า”
กันย์ปล่อยมือหญิงสาวและพูดกับเธอยืดยาวแบบที่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
“วันไหนที่คุณทำให้เราไม่เหลืออะไรเลย วันนั้นแหละจะเป็นวันที่คุณเองก็จะไม่เหลืออะไรในชีวิตเลย
นอกจากความเจ็บปวดทุกข์ทรมาน”
นวพรรษมองจ้องกันย์ตาเขม็งทั้งน้ำตา
“ผมไม่กลัว”
กันย์พูดขึ้นสั้นๆอย่างตัดสินใจ นวพรรษยืนกลั้นน้ำตาสะอึกสะอื้น ยังไงๆกันย์ก็ไม่เคยเลือกเธอ
“...โอ๊ะๆๆ..”
นวพรรษเซถลาทำท่าเหมือนจะล้มลงแต่กันย์เข้ามาประคองร่างของเธอเอาไว้
“ผมบอกคุณแล้ว ว่าให้คุณกลับบ้าน”
กันย์พูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ไม่ต้องมายุ่ง”
นวพรรษสะบัดแขน แต่กลับแสดงความเจ็บปวดออกมาทางสีหน้าอย่างชัดเจน
“ผมจะพาคุณไปส่งที่รถ”
กันย์ประคองหญิงสาว แต่ถูกนวพรรษสะบัดเต็มแรงจนเซถลาไปชนเข้ากับกล่องบางอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้ๆ
“ปั้ง!!”
รูปภาพที่อยู่ในกล่องนั้นตกลงมากระจายปลิวไปทั่วห้อง
“อาชาติชาย...”
นวพรรษนิ่งอึ้ง พูดอะไรไม่ออก รับรู้ได้ทันทีว่าผู้ที่คอยช่วยเหลือกันย์ทุกอย่างก็คืออาแท้ๆของเธอ
“อย่าเข้ามานะ!!”
นวพรรษตะโกนใส่กันย์ ก่อนจะหยิบไม้เบสบอลที่วางอยู่ใกล้ๆมือมาถือเอาไว้แน่นหนา ชี้ตรงไปที่ร่างของชายหนุ่ม
ที่กำลังพยายามจะเข้ามาหาเธอ
“คุณซื้อตัวอาชาติชาย คุณทำกับครอบครัวฉันได้จริงๆ”
นวพรรษร้องไห้โฮ แต่สายตายังคงมองจ้องอยู่ที่ประพนธ์อย่างระวังตัว
“ผมไม่มีทางเลือก”
กันย์ยังคงแสดงด้านมืดในใจของเขาออกมาอย่างไม่จบไม่สิ้น
“พอกันทีสำหรับชาตินี้ อย่าได้พบได้เจอกันอีกเลย ฉันจะให้พ่อรากคุณกับอาชาติชายเข้าคุกให้ได้”
นวพรรษตะโกนสุดเสียง ก่อนจะฟาดไม้เบสบอลลงไปเต็มแรงบนศีรษะกันย์ในจังหวะที่เขาไม่ทันระวังตัว
เพราะไม่คิดว่านวพรรษจะกล้าทำ
“ตุ้บ”
ร่างของกันย์ร่วงลงพร้อมกับไม้เบสบอลในมือนวพรรษ ชายหนุ่มนอนแน่นิ่งเลือดไหลอาบศีรษะ
****************************************************************
.............นวพรรษรีบร้อนเดินออกมาจากบ้านและให้ผู้ช่วยเธอขับรถออกจากบ้านอย่างรีบร้อน
“พาเมย์กลับบ้านด่วนเลยค่ะ เมย์มีเรื่องด่วนต้องเรียนให้คุณพ่อทราบ”
นวพรรษหน้าตาตื่นตระหนก
“ใครทรยศคุณท่านหรอครับ”
ผู้ช่วยมือหนึ่งของนวภคถามด้วยความห่วงใย ยังไม่ทันที่นวพรรษจะพูดอะไร กันย์ก็ขับรถตามเธอมา
พร้อมกับบีบแตรไล่หลังเสียงดัง
“ขับหนีเร็วค่ะ ไม่ว่ายังไงเราต้องกลับไปที่บ้านก่อนค่ะ”
นวพรรษสั่งการ นั่งหันซ้ายหันขวามองดูความป่าเถื่อนของกันย์อย่างเจ็บช้ำหัวใจ
“ปั้งๆๆ”
กันย์พยายามขับรถเบียดกระแทกรถของนวพรรษจนเกิดเสียงดังสนั่น ทั้งคนขับและคนนั่งนั่งตัวกระเด้งไปกระเด้งมา
ตามแรงประทะ
“โทรศัพท์ เมย์ต้องโทรหาคุณพ่อ ตอนนี้เลยค่ะ”
นวพรรษอุทานขึ้นเสียงดัง ควานหากระเป๋าอย่างรีบร้อนเพื่อหยิบโทรศัพท์
แต่ก็สายเกินไปซะแล้ว เมื่อผู้ช่วยคนเก่งอย่างชนินทร์เร่งความเร็วเพื่อหนีกันย์ ก็กลายเป็นเขาและภคพรเอง
ที่ประสานงานอย่างจังเข้ากับรถสิบล้อ
“โครม!!!!”
รถของนวพรรษชนกับรถสิบล้อเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
“เอี๊ยดดดดดดดดดดดด”
กันย์เบรกรถล้อฟรีรากยาวจนเกิดประกายไฟอยู่บนถนน
“............”
กันย์เบิกตากว้างด้วยความตกใจ หัวใจเต้นรัวไม่เป็นส่ำ นั่งนิ่งงันอย่างหมดเรี่ยวแรง ไม่มีแม้แต่กำลังที่จะพาตัวเอง
ออกมาจากรถเพื่อช่วยเหลือใคร
“ผมไม่ได้อยากจะทำร้ายคุณ”
กันย์พูดกับตัวเองเบาๆ น้ำตาเอ่อไหล สมองยังคงหยุดนิ่งเพราะภาพความวุ่นวายตรงหน้า รถทั่วทั้งท้องถนนจอดสนิท
และลงมาดูอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอย่างอกสั่นขวัญแขวน ไทยมุงหลายสิบชีวิตยืนมองดูและพากันวิจารณ์ไปต่างๆนานา
เสียงดังไปทั่วบริเวณ
“อย่าเป็นอะไรนะคุณ”
กันย์พูดกับตัวเองอย่างไร้สติ ประคองร่างตัวเองลงมาจากรถ และเดินฝ่าฝูงชนที่เอาแต่ยืนมุงดู ไม่มีใครเข้าไปช่วย
หรือเข้าไปหานวพรรษ ทั้งมือและขาของเขาสั่นไปหมดด้วยความกลัว
“คุณ คุณ คุณ”
กันย์ยืนรนรานอยู่ข้างๆประตูรถ มองดูร่างของชนินทร์และนวพรรษที่นอนโชกเลือดอยู่ในรถด้วยความกังวลใจ
“คุณ คุณ คุณ”
กันย์ทุบกระจกรถ มองดูร่างของนวพรรษที่นอนแน่นิ่งไม่ไหวติงด้วยความเป็นห่วงอย่างสุดหัวใจ
“เปิดสิว่ะ เปิดสิวะ เปิดสิวะๆๆ”
กันย์พยายามเปิดประตูรถแต่ก็ไม่เป็นผล เขาทั้งถีบทั้งทุบทั้งดึงทั้งรั้งประตูรถเพื่อให้เปิดออก
ไม่ต่างอะไรจากคนที่กำลังจะเป็นบ้า
“ใครก็ได้ช่วยหน่อย ช่วยด้วยครับ ช่วยด้วย ช่วยผู้หญิงคนนี้ออกมาจากรถที ช่วยเธอด้วยครับ ช่วยด้วยๆ”
กันย์ร้องขอความช่วยเหลือ แต่ตัวเองก็ยังคงพยายามทุบประตูรถต่อไป ไม่นานก็มีพลเมืองดีเข้ามาช่วยกัน
ใช้กุญแจผีไขประตูรถ ทันทีที่ประตูรถถูกเปิดออก กันย์ก็ถลาเข้าไปหาร่างของนวพรรษทันที
“อย่าตายนะคุณ อย่าตายนะ อยู่กับผมก่อนคุณ อย่าตายนะ อย่าตายนะครับ”
กันย์รากร่างบางของนวพรรษลงมาจากรถ แต่ก็อ่อนแรงเกินกว่าจะอุ้มเธอออกไป เขาทำได้แค่นั่งกอดร่างบางของเธอ
เอาไว้ในอ้อมแขน ด้วยความรู้สึกทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส
“ลุกขึ้นมาคุยกับผมก่อนสิคุณ คุณ ลุกขึ้นมาคุยกับผมนะครับ ลุกขึ้นมาๆ ฮือๆๆๆๆๆๆๆ”
กันย์ร้องไห้โฮออกมาอย่างกับคนเสียสติ กอดรัดร่างของนวพรรษเอาไว้ในอ้อมแขนร้องไห้สะอึกสะอื้นปานใจจะขาด
“ผมไม่ได้อยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ ผมไม่ได้อยากทำให้คุณต้องมามีจุดจบแบบนี้ ลุกขึ้นมาคุยกับผม คุยกับผม ฮือๆๆๆ”
กันย์เขย่าร่างบางของหญิงสาว จนกว่าจะได้รู้ว่านวพรรษมีอิทธิพลในชีวิตของเขา เขาก็กำลังจะเสียเธอไปแล้ว
“ผมจะพาคุณไปหาหมอ หมอ หมออยู่ไหน หมอครับ ช่วยผู้หญิงคนนี้ด้วย ช่วยเธอด้วยครับ ช่วยเธอด้วย
ฮือๆๆๆๆๆ ช่วยเธอด้วยครับ”
กันย์อุ้มร่างบางของนวพรรษเอาไว้ในอ้อมแขน ร้องขอความช่วยเหลืออย่างน่าเวทนา เวรกรรมที่เขาเคยทำเอาไว้
คงถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องชดใช้กรรม
****************************************************************
** ที่หายไปนานเพราะคอมพังจร้า กว่าจะได้คอมคืนมา โทษทีที่ทำให้รอนะคะ
ศีรษะของเธออยู่ตลอดเวลา
“โอ๊ยยย ปวดหัวจะแตก”
ภคพรลุกขึ้นนั่งกุมขมับ สำรวจตัวเองที่ยังอยู่ในชุดราตรีสวยหรู ด้วยอาการมึนงง
“..........”
หญิงสาวมองไปรอบๆห้องของเธอ งงงัน ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเริ่มได้สติว่าห้องนี้
ไม่ใช่ห้องหอของเธอ
“ทำไมฉันมาอยู่ที่นี่ล่ะ”
ภคพรมองซ้ายมองขวา รีบร้อนลงจากเตียงและตรงดิ่งไปหาทุกคนที่ห้องอาหารหน้าตาตื่นตระหนก
“พี่เนย์!!”
นวพรรษร้องทักเป็นคนแรก มองหน้าพี่สาวเธอในสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิง หน้าตามึนงง
“หนูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ”
ภคพรโพล่งพรวดออกไปเสียงดัง ทุกคนในครอบครัวหันมามองเธอกันเป็นตาเดียว
“ไม่มีใครรู้ใช่มั้ยคะ ว่าหนูมาที่นี่ได้ยังไง”
ภคพรเสียงดัง
“ใจเย็นๆก่อนสิลูก แม่ว่าน่าจะเป็นสามีหนูนั่นแหละที่พาหนูมาที่นี่ ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงมาทานข้าวด้วยกันมา”
เพียงพรจับแขนลูกสาวเบาๆเพื่อให้เธอสงบใจลง
“ไม่ค่ะ หนูลานะคะ หนูทนอยู่แบบอึดอัดใจแบบนี้ไม่ได้แน่ หนูต้องไปคุยกับผู้ชายคนนั้นให้รู้เรื่องก่อน”
ภคพรรีบร้อนจะเดินออกจากบ้าน แต่นวภคร้องเรียกลูกสาวเสียงดัง
“ยายเนย์ นายเนย์”
นวภคขึ้นเสียง นวพรรษต้องยอมหยุดนิ่งด้วยความร้อนรน
“ขึ้นไปบนห้อง ไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงมาทานข้าว ทำอะไรด้วยอารมณ์มันมีแต่ทำให้ชีวิตเราพังกับพัง
พ่อไม่เห็นด้วยที่หนูเอาแต่เกรี้ยวกราดคนอื่นไปทั่วแบบนี้ พ่อทนดูลูกเที่ยวเกะกะระรานคนอื่นมานานเกินไปแล้ว
ถ้าหนูสงบจิตสงบใจตัวเองไม่ได้ พ่อจะเป็นคนทำให้ลูกสงบลงเอง”
นวภคดุลูกสาวเสียงเข้ม มองจ้องเธอหน้าตาจริงจัง
“คุณพ่อไม่เคยดุหนู ทำไมคุณพ่อต้องดุหนูด้วย”
ภคพรยืนน้ำตาเอ่อไหล งอแงเหมือนเด็กที่ไม่รู้จักโต นวภคเดินเข้ามาหาลูกสาว วางมือลงบนบ่า
และกระชับอ้อมกอดเบาๆด้วยความรัก
“ที่พ่อทำก็เพราะว่าพ่อรักหนู มันอาจจะช้าเกินไปด้วยซ้ำที่พ่อเพิ่งจะเอามาพูดตอนนี้ ก่อนหน้านี้หนูมีจิตใจ
ที่แข็งกระด้างและเต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชัง พ่อกับแม่พูดอะไรไป หนูก็ไม่เคยยอมรับฟัง
แต่ตอนนี้พ่อรู้สึกได้ว่าลูกสาวของพ่อเปลี่ยนไปแล้ว พ่อถึงได้ลองพูดขอร้องหนูให้ลองฟังพ่ออีกซักครั้ง....”
นวภคบีบไหล่ลูกสาวเบาๆด้วยรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยน
“ถ้าหนูอยากจะเอาชนะใจพี่เค้า หนูต้องใจเย็นกว่านี้ เป็นคนดีให้มากกว่านี้ ลืมเรื่องแก้แค้น
แล้วทำให้พี่ประพนธ์เค้ารักหนูให้ได้”
นวภคแนะนำลูกสาวอันเป็นที่รัก ภคพรได้แต่ยืนนิ่ง มองเขาตาแป๋วทั้งน้ำตา
“ใช่ค่ะ พี่เนย์ พี่เนย์ต้องไม่เกรี้ยวกราดใส่คุณประพนธ์ พี่เนย์ต้องทำดี คิดดีกับเขาในทุกๆเรื่องและที่สำคัญ
พี่เนย์ต้องปล่อยวางเรื่องการแก้แค้นทิ้งไปให้หมด แล้วคนพวกนั้นก็จะพ่ายแพ้เราไปเอง เชื่อเมย์เถอะค่ะ”
นวพรรษเดินเข้ามาจับมือพี่สาวเธอเบาๆอีกคนเพื่อให้กำลังใจ
“การปล่อยวางจะทำให้พ่อแม่แล้วก็น้องสาวของลูก ได้ลูกสาวที่แสนดีและพี่สาวที่ที่น่ารักกลับ
คืนมา ปล่อยวางความแค้นในใจลูกซะเถอะนะ แม่ขอร้อง”
เพียงพรเดินเข้ามาลูบหัวลูกสาวของเธออีกคน ในช่วงเวลาที่จิตใจของภคพรเต็มไปด้วยความรัก
และความอ่อนแอแบบนี้ นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่ทุกคนจะช่วยกันเกลี้ยกล่อมเธอ
“หนูขอทานข้าวอย่างเดียวได้มั้ยค่ะ ส่วนเรื่องอาบน้ำหนูขอกลับไปอาบที่บ้านโน้นนะคะ”
ภคพรยิ้มออกมาทั้งน้ำตา รู้สึกอบอุ่นหัวใจและรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะหลุดพ้นจากพันธนาการ
ความแค้นต่างๆที่มันเกาะกินหัวใจเธอจนให้หัวใจมีแต่ความมืดบอด ทำแต่เรื่องอะไรๆที่มันร้ายๆ
****************************************************************
............. เกตุแก้วยืนดูกันย์คุยกับผู้ชายแปลกหน้าอยู่ในห้องทำงานของเขาด้วยความประหลาดใจ หน้าตาท่าทาง
ของผู้ชายคนนั้นดูมีเล่ห์เหลี่ยมและไม่น่าไว้ใจ
“สวัสดีครับ”
กันย์พูดกับผู้ชายคนนั้น ก่อนจะส่งเข้าออกจากบ้านไปอย่างให้เกียรติ
“พี่กันย์ผู้ชายคนเมื่อกี้เป็นใคร ทำไมหน้าตาเขาดูคุ้นๆจังเลย”
เกตุแก้วถามด้วยความสงสัย
“นี่ไม่ใช่เรื่องของเด็กนะ พี่จัดการเรื่องนี้เองคนเดียว เกตุเข้านอนเถอะ”
กันย์ตัดบทด้วยท่าทางมึนตึง
“.........”
เกตุแก้วยังคงยืนนิ่งและพยายามคิดว่าผู้ชายหน้าคุ้นๆคนเมื่อกี้คือใคร
“เกตุนึกออกแล้ว นั่นมันผู้จัดการใหญ่ของบริษัทพรพรรษไม่ใช่หรอคะ”
เกตุแก้วเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“อย่าพูดเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด ถ้าเธอไม่อยากเห็นพี่ต้องตายไปต่อหน้าเธอ”
กันย์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ไม่นะพี่กันย์ ถ้าพี่ทำแบบนั้นจริงๆ เกตุจะมีหน้าไปมองใครที่ไหนได้อีก”
เกตุแก้วเกาะแขนพี่ชายเธอแน่น กลัวในสิ่งที่กันย์กำลังคิดที่จะทำ
“พี่ตัดสินใจไปแล้ว จะเดินกลับหลังไม่ได้อีก เธอจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ทั้งหมดพี่เป็นคนทำเองคนเดียว
ขอแค่เธออย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร แม้กระทั่งนายประพนธ์เองก็ตาม”
กันย์ยื่นคำขาด
“พี่กันย์ พี่กลายเป็นคนใจร้ายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ พี่ลืมไปแล้วหรอ ว่าคุณนวพรรษลูกสาวของประธานบริษัทพรพรรษ
เธออุ้มท้องลูกของพี่อยู่นะ....อย่าทำแบบนี้เลยนะคะ เกตุขอร้อง”
เกตุแก้วพูดเสียงสั่น น้ำตาเอ่อไหล กลัวจริงๆว่ากันย์จะทำให้บริษัทพรพรรษต้องพังพินาศย่อยยับ
“พี่บอกแล้วไง ว่าพี่ตัดสินใจไปแล้ว”
กันย์ยังคงดื้อดึง เกตุแก้วสะบัดมือเขาออก ยืนมองจ้องเขาทั้งน้ำตา
“พี่กันย์ใจร้าย พี่กันย์ใจดำ คนไม่มีหัวใจ พี่ทำร้ายทุกคนอย่างเลือดเย็นขนาดนี้ได้ยังไง นอกจากตัวเองแล้ว
พี่เคยรักคนอื่นบ้างมั้ยทำไมพี่เป็นคนแบบนี้ ทำไมทำแบบนี้”
เกตุแก้วตะโกนใส่พี่ชายเธอทั้งน้ำตา เสียใจในสิ่งที่เขาเป็น กันย์ยืนกำหมัดแน่น พูดอะไรไม่ออก หยดน้ำตา
ที่ไม่เคยคิดว่าจะไหลก็รินไหลออกมาด้วยความทุกข์ทรมานกับความรักที่ไม่มีวันพูดบอกออกไปได้
“ถ้าเรื่องนี้ทำให้พนธ์ไม่มองหน้าเกตุอีก เกตุจะไม่ให้อภัยพี่กันย์เลยตลอดชีวิต ถ้าพี่กันย์แตะต้องบริษัทของประพนธ์
แม้แต่ปลายก้อยเกตุก็จะไม่ให้อภัยพี่อีกเลยเหมือนกัน คนใจร้าย!!!”
เกตุแก้วหุนหันออกจากห้องไปด้วยอารมณ์ที่เกรี้ยวกราด
“..............”
กันย์ยืนแน่นิ่ง น้ำตาเอ่อไหล ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำก็เพื่อเธอคนเดียวที่กำลังยืนด่าเขาทั้งน้ำตาคนที่เพิ่งเดินจากเขาไป
“ถ้าบนโลกใบนี้ไม่มีเธอ พี่ก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม....ถ้าบนโลกใบนี้มีคนที่ทำให้เธอต้องเสียใจ
พี่ก็ไม่รู้จะทนดูอยู่เฉยๆได้ยังไงเหมือนกัน”
กันย์กล่าวเสียงแผ่วเบาทั้งน้ำตา รู้สึกเหมือนโดนมีดกรีดลงตรงกลางหัวใจ
****************************************************************
.............ภคพรเดินหน้าตาบึ้งตึงลงจากรถทันทีที่ขับมาจอดสนิทลงที่หน้าบ้านของประพนธ์
การเคลียร์ปัญหากับเขาจะทำให้เธอไม่รู้สึกอึดอัดและทุกข์ทรมานขนาดนี้
“อ้าว!! หนูภคพร มายังไงล่ะลูก ไหนตาพนธ์บอกว่าหนูจะกลับไปช่วยงานพ่อกับแม่ที่บ้านซักพัก”
ประไพรถามขึ้นด้วยความสงสัย
“เข้าใจผิดกันนิดหน่อยน่ะค่ะ เขาอยู่บ้านไหมคะวันนี้”
ภคพรถามขึ้นหน้าตาเคร่งเครียด
“ตาพนธ์ไปบริษัทกับพ่อตั้งแต่เช้าแล้ว มีอะไรกันหรือเปล่าลูก ทำไมหน้าตาเคร่งเครียดแบบนี้ล่ะ”
ประไพรจับแขนลูกสะใภ้เบาๆ
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ หนูขอตัวไปหาเขาก่อนนะคะ พอดีมีธุระ”
ภคพรรีบร้อนหันหลัง แต่ก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อได้กลิ่นดอกมะลิหอมโชยเข้ามาเตะจมูก
“เป็นอะไรลูก”
ประไพรเดินเข้ามาหา ภคพรยืนผะอืดผะอมทำท่าเหมือนจะอาเจียน
“อ้วกๆๆๆ”
ภคพรวิ่งถลาไปที่โคนต้นไม้และอ้วกอาหารเช้าที่เพิ่งกินเข้าไปจนหมดไส้หมดพุง
“.........”
ประไพรลูบหลังให้ลูกสะใภ้ มองดูอาการของเธออย่างพิจารณา
“หนูท้องหรือเปล่าเนี่ย”ประไพรถามขึ้นเสียงดังอย่างไม่อ้อมค้อม
“หนูเปล่านะคะ หนูแค่ดื่มหนักไปหน่อย”
ภคพรรีบร้อนปฏิเสธทันควัน
“อ้อ จร้าๆๆ”
ประไพรยังคงสงสัย
“หนูไปก่อนนะคะ หนูมีเรื่องจะคุยกับลูกชายของคุณ”
ภคพรรีบลุกขึ้นและรีบร้อนออกไป
****************************************************************
.............ตั้งแต่แต่งงานกันมาหกเดือน ภคพรไม่เคยย่างกายมาที่บริษัทของประพนธ์เลย การมาของเธอในวันนี้จึงทำให้
พนักงานในบริษัทของประพนธ์แตกตื่นกันยกใหญ่ รูปร่างหน้าตาของเธอนั้นสวยงามและดูดีราวกับภาพวาด
ท่วงท่าในการเดินก็ดูมั่นใจประหนึ่งนางพญาหงส์ ไม่ว่าเธอจะเดินผ่านไปที่ไหน ทุกสายตาก็จับจ้องมองมาที่เธอเป็นตาเดียว
“พลั๊ว!!”
ภคพรพรวดพราดเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของประพนธ์โดยไม่ฟังคำทัดทานใดๆจากเลขาสาวสวยหน้าห้อง
“.........”
ภคพรยืนอึ้ง พูดอะไรไม่ออก ภาพตรงหน้ามันทำให้เธอปี๊ดขึ้นไปจนถึงหัวสมอง ภคพรยืนกำลูกบิดประตูแน่นอยู่อย่างนั้น
รู้สึกชาไปหมดทั้งหัวใจ กันย์ เกตุแก้ว พิภพและประพนธ์จดจ้องมาที่เธอเป็นสายตาเดียว
“ปั้ง!!!”
ภคพรปิดประตูลงอย่างรวดเร็ว รีบร้อนเดินออกจากห้องด้วยความรู้สึกที่ไม่ต่างอะไรจากการถูกทรยศหักหลัง
“คุณมาทำอะไรที่นี่”
ประพนธ์เดินตามออกมา หน้าตาของเขาดูเศร้าสร้อยกว่าทุกวัน
“แล้วพวกคุณล่ะ มารวมหัวทำอะไรกันอยู่ที่นี่”
ภคพรเปิดศึกด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด
“เอกสารหย่าของเราผมกำลังให้ทนายทำอยู่ ไม่เกินสองสามวันผมจะรีบให้ทนายเอาไปให้คุณเซ็นที่บ้าน”
ประพนธ์พูดโพล่งออกมาเพื่อจบปัญหาทุกอย่าง
“เพี๊ยะ!!”
ภคพรตบชายหนุ่มหน้าหัน มองจ้องเขาเขม็ง น้ำตาค่อยๆรินไหล เอ่อทะลักออกมาเพราะคำพูดบาดหัวใจของประพนธ์
“ฉันไม่หย่า ฉันจะอยู่กับคุณไปจนกว่าเราจะตายจากกันไปเลย อย่าหวังว่าคุณจะได้ไปเสวยสุขกับผู้หญิงคนนั้น”
ภคพรเกรี้ยวกราด พนักงานในบริษัทหลายสิบชีวิตที่ทำงานอยู่บริเวณนั้น ต่างเดินมาดูด้วยความตกใจ
“มานี่คุณ...”
ประพนธ์รากภคพรเข้ามาในห้องประชุมใกล้ๆห้องทำงานของเขา
“ปล่อย!!”
ภคพรสะบัดแขน ยืนจ้องหน้าประพนธ์ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“เลิกดื้อซักทีสิคุณ ครอบครัวคุณกำลังจะพังพินาศย่อยยับเพราะคุณยังไม่รู้ตัวอีก!!”
ประพนธ์ตะวาดใส่ภคพรอย่างหมดความอดทน
“ไม่มีใครทำอะไรฉันได้ คุณเข้าใจมั้ยว่าไม่มีใครทำอะไรฉันได้”
ภคพรตะวาดกลับอย่างไม่กลัวเกรง
“ไม่มีใครทำอะไรคุณได้หรอ!! หลอกตัวเองชัดๆ ถ้าไม่มีใครทำอะไรคุณได้ ทำไมพี่กันย์
เค้าถึงได้สิทธิ์การถือครองบริษัทของพ่อคุณอย่างถูกต้องตามกฎหมายมาล่ะ”
ประพนธ์ตะคอกใส่ภคพร โกรธโมโหที่เธอไม่ยอมเข้าใจสถานการณ์ของตัวเองซักที
“ไม่จริง คุณโกหก”
ภคพรเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ยังอยากที่จะเชื่อว่าจะไม่มีใครทำอะไรเธอได้
“ผมไมได้โกหก ถ้าคุณไม่ยอมเซ็นใบหย่ากับผม คุณแล้วก็ทุกคนในครอบครัวของคุณจะไม่เหลืออะไรเลย
หย่ากับผมซะ เพื่อแลกกับบริษัทของพ่อคุณ ผมไม่ได้ล้อคุณเล่น พี่กันย์เขาต้องการทำแบบนั้นจริงๆ”
ประพนธ์จับบ่าทั้งสองข้างของภคพร ที่ตอนนี้ยืนนิ่ง อึ้งไป ด้วยความสับสน
“คุณเอาอะไรมาพูด พ่อฉันไม่มีทางหลวมตัวกับคนอื่นง่ายๆแบบนี้แน่”
ภคพรยังคงตะแบง
“พ่อคุณยอมเซ็นยกทุกอย่างให้พี่กันย์มาหมดแล้ว ทันทีที่ผมกับเกตุแก้วได้แต่งงานกันสัญญา
ฉบับนี้ก็จะถูกยกเลิก แต่ถ้าผมไม่แต่ง ก็จะกลายเป็นบริษัทของคุณกับผมที่จะต้องพังพินาศย่อยยับไปกับตา”
ประพนธ์มองจ้องหน้าภคพรไม่วางสายตา
“ฉันจะกลับไปหาพ่อ”
ภคพรรีบร้อนหันหลังเดินหนี แต่ถูกประพนธ์ฉุดแขนเอาไว้
“หย่ากับผมเถอะนะครับ แล้วเราทุกคนก็จะไม่มีใครเสียอะไรไป”
ประพนธ์กัดฟันพูดในสิ่งที่เลวร้ายออกไปเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับทุกคน
“พลั่ก”
ภคพรสะบัดมือหนี ก่อนจะหันมาฟาดฝ่ามือลงไปเต็มแรงบนใบหน้าของประพนธ์
“ไม่ต้องมาขอร้องให้ฉันทำอะไร ฉันมีสมอง คิดเองได้ว่าต้องทำยังไง”
ภคพรกัดฟันพูดทั้งน้ำตา ท้ายที่สุดแล้วประพนธ์ก็เลือกที่จะทิ้งเธอ
****************************************************************
............. ภคพรกลับมาเคลียร์งานที่บริษัทเพื่อตรวจสอบปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น แต่ไม่ว่าเธอกับนวพรรษ
จะพยายามอย่างหนักขนาดไหนเธอก็ไม่สามารถหาช่องโหว่ที่กันย์จะเล่นงานเธอได้เลย
“พี่เมย์ เย็นนี้คุณพ่อกับคุณแม่ให้เราสองคนไปงานเลี้ยงต้อนรับลูกค้าที่โรงแรมด้วยกันค่ะ พี่เนย์ว่างหรือเปล่า
พอดีพวกท่านต้องไปงานแต่งของลูกสาวเพื่อนที่ต่างจังหวัดนะค่ะ”
นวพรรษถามขึ้นด้วยรอยยิ้มบางๆ
“ว่างสิ ไปด้วยกันนะ”
ภคพรเอ่ยปากชวนน้องสาว
“ไม่ไหวหรอกค่ะ เดินแค่นิดเดียวเมย์ก็เหนื่อยแล้ว เดินก็ชักช้าอืดอาด อายคนอื่นเขา”
นวพรรษอมยิ้ม ปฏิเสธ
“แต่จะมีคนพาพี่เนย์ไปนะคะ คุณปกรณ์ แฟนเก่าพี่เนย์ไง พอดีงานนี้มันเกี่ยวข้องกับธุรกิจค้ารถโดยตรง
คุณปกรณ์เหมาะที่สุดแล้ว ที่จะพาพี่ไป”
เมย์หัวเราะเบาๆอย่างชอบใจ
“ไอ้หน้าหนวดอีกแล้วหรอ แค่มองหน้าพี่ก็อยากจะอ้วกแล้ว ทำไมต้องเป็นเค้าด้วย”
ภคพรอารมณ์เสียขึ้นมาในทันทีเมื่อนึกถึงวีรกรรมต่างๆที่ปกรณ์เคยทำกับเธอเอาไว้
“เอาเถอะน่าพี่ เพื่องานของเรา”
นวพรรษตบบ่าพี่สาวเบาๆเพื่อให้กำลังใจ
****************************************************************
............. หลังจากที่ทุกคนออกจากบ้านไปหมดแล้ว นวพรรษก็รีบร้อนออกจากบ้านไปในชุดดำสนิทเช่นกัน
ท่าทางรีบร้อนของเธอทำให้เด็กรับใช้ในบ้านต่างพากันมองด้วยความแปลกใจ นวพรรษขับรถมาจอดที่หน้าบ้านกันย์และ
แอบเข้าไปในบ้านเขาโดยมีชนินทร์ลูกน้องคนสนิทของบิดาเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือ
“รอเมย์อยู่ข้างนอกนะคะ เมย์จะรีบออกมาค่ะ”
นวพรรษบอกผู้ช่วยของเธอ เธอจะต้องพยายามหาหลักฐานสำคัญที่กันย์จะนำมาใช้เล่นงานคนในครอบครัวของเธอให้ได้
“แอ๊ด..”
นวพรรษย่องเข้ามาจนถึงในห้องทำงานของกันย์ และค้นหาทุกอย่างที่เธอสามารถค้นได้อย่างใจจดใจจ่อ
แต่ไม่ว่าจะพยายามขนาดไหนก็ไม่มีวี่แววความผิดปกติให้เธอจับผิดได้เลย
“หลักฐานสำคัญขนาดนั้น ผมไม่เอามาเก็บไว้ในที่ที่หาเจอได้ง่ายๆหลอกคุณ”
กันย์เดินเข้ามาในความมืด เปิดไฟขึ้นสว่างวาบ นวพรรษสะดุ้งเฮือก เบิกตากว้างด้วยความตกใจ
ก่อนจะยืนขึ้นและหันมาเผชิญหน้ากับกันย์อย่างไม่มีทางเลือก
“คืนนี้ฉันอาจจะทำไม่สำเร็จ แต่รับรองว่าจะมีครั้งต่อๆไปแน่ ฉันจะทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องครอบครัวของฉันเอาไว้”
นวพรรษมองจ้องหน้ากันย์ไม่วางสายตา
“คุณไม่มีวันเอาชนะผมได้หรอก คนที่จะเอาชนะผมได้ คนคนนั้นต้องเป็นคนที่เลวร้ายมากกว่าผมหลายสิบเท่า
ซึ่งไม่ใช่คนอย่างคุณแน่”
กันย์มองจ้องนวพรรษกลับอย่างเลือดเย็นเช่นกัน
“คุณมันใจร้าย ใจดำ คนเลือดเย็น คนนิสัยไม่ดี”
นวพรรษเขยิบเข้าไปใกล้กันย์ ทุบตีแผ่นอกกว้างของเขาอย่างเกลียดชัง เจ็บใจตัวเองที่ไม่สามารถเลวร้ายกับกันย์ได้
เหมือนกับที่เขาทำกับเธอ
“พอเถอะคุณ มันอันตราย”
กันย์จับแขนนวพรรษเอาไว้เพื่อไม่ให้เธอต้องขยับเขยื้อนตัวมาก
“..........”
นวพรรษยืนมองหน้าเขาน้ำตาเอ่อไหลอีกครั้งอย่างอัดอั้น ไม่ว่าจะยังไงกันย์ก็ไม่เคยหยุดที่จะทำร้ายเธอ
“อย่ากลับมาที่นี่อีก เพราะว่าคุณจะไม่ได้อะไรกลับไปนอกจากความว่างเปล่า อย่าเอาตัวเองมายุ่ง
กับเรื่องวุ่นๆพวกนี้อีกเลย เพราะว่าคุณจะต้องเหนื่อยเปล่า เอาเวลาของคุณไปดูแลตัวเอง ดูแลลูกของคุณให้ดีดีกว่า”
กันย์ปล่อยมือหญิงสาวและพูดกับเธอยืดยาวแบบที่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
“วันไหนที่คุณทำให้เราไม่เหลืออะไรเลย วันนั้นแหละจะเป็นวันที่คุณเองก็จะไม่เหลืออะไรในชีวิตเลย
นอกจากความเจ็บปวดทุกข์ทรมาน”
นวพรรษมองจ้องกันย์ตาเขม็งทั้งน้ำตา
“ผมไม่กลัว”
กันย์พูดขึ้นสั้นๆอย่างตัดสินใจ นวพรรษยืนกลั้นน้ำตาสะอึกสะอื้น ยังไงๆกันย์ก็ไม่เคยเลือกเธอ
“...โอ๊ะๆๆ..”
นวพรรษเซถลาทำท่าเหมือนจะล้มลงแต่กันย์เข้ามาประคองร่างของเธอเอาไว้
“ผมบอกคุณแล้ว ว่าให้คุณกลับบ้าน”
กันย์พูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ไม่ต้องมายุ่ง”
นวพรรษสะบัดแขน แต่กลับแสดงความเจ็บปวดออกมาทางสีหน้าอย่างชัดเจน
“ผมจะพาคุณไปส่งที่รถ”
กันย์ประคองหญิงสาว แต่ถูกนวพรรษสะบัดเต็มแรงจนเซถลาไปชนเข้ากับกล่องบางอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้ๆ
“ปั้ง!!”
รูปภาพที่อยู่ในกล่องนั้นตกลงมากระจายปลิวไปทั่วห้อง
“อาชาติชาย...”
นวพรรษนิ่งอึ้ง พูดอะไรไม่ออก รับรู้ได้ทันทีว่าผู้ที่คอยช่วยเหลือกันย์ทุกอย่างก็คืออาแท้ๆของเธอ
“อย่าเข้ามานะ!!”
นวพรรษตะโกนใส่กันย์ ก่อนจะหยิบไม้เบสบอลที่วางอยู่ใกล้ๆมือมาถือเอาไว้แน่นหนา ชี้ตรงไปที่ร่างของชายหนุ่ม
ที่กำลังพยายามจะเข้ามาหาเธอ
“คุณซื้อตัวอาชาติชาย คุณทำกับครอบครัวฉันได้จริงๆ”
นวพรรษร้องไห้โฮ แต่สายตายังคงมองจ้องอยู่ที่ประพนธ์อย่างระวังตัว
“ผมไม่มีทางเลือก”
กันย์ยังคงแสดงด้านมืดในใจของเขาออกมาอย่างไม่จบไม่สิ้น
“พอกันทีสำหรับชาตินี้ อย่าได้พบได้เจอกันอีกเลย ฉันจะให้พ่อรากคุณกับอาชาติชายเข้าคุกให้ได้”
นวพรรษตะโกนสุดเสียง ก่อนจะฟาดไม้เบสบอลลงไปเต็มแรงบนศีรษะกันย์ในจังหวะที่เขาไม่ทันระวังตัว
เพราะไม่คิดว่านวพรรษจะกล้าทำ
“ตุ้บ”
ร่างของกันย์ร่วงลงพร้อมกับไม้เบสบอลในมือนวพรรษ ชายหนุ่มนอนแน่นิ่งเลือดไหลอาบศีรษะ
****************************************************************
.............นวพรรษรีบร้อนเดินออกมาจากบ้านและให้ผู้ช่วยเธอขับรถออกจากบ้านอย่างรีบร้อน
“พาเมย์กลับบ้านด่วนเลยค่ะ เมย์มีเรื่องด่วนต้องเรียนให้คุณพ่อทราบ”
นวพรรษหน้าตาตื่นตระหนก
“ใครทรยศคุณท่านหรอครับ”
ผู้ช่วยมือหนึ่งของนวภคถามด้วยความห่วงใย ยังไม่ทันที่นวพรรษจะพูดอะไร กันย์ก็ขับรถตามเธอมา
พร้อมกับบีบแตรไล่หลังเสียงดัง
“ขับหนีเร็วค่ะ ไม่ว่ายังไงเราต้องกลับไปที่บ้านก่อนค่ะ”
นวพรรษสั่งการ นั่งหันซ้ายหันขวามองดูความป่าเถื่อนของกันย์อย่างเจ็บช้ำหัวใจ
“ปั้งๆๆ”
กันย์พยายามขับรถเบียดกระแทกรถของนวพรรษจนเกิดเสียงดังสนั่น ทั้งคนขับและคนนั่งนั่งตัวกระเด้งไปกระเด้งมา
ตามแรงประทะ
“โทรศัพท์ เมย์ต้องโทรหาคุณพ่อ ตอนนี้เลยค่ะ”
นวพรรษอุทานขึ้นเสียงดัง ควานหากระเป๋าอย่างรีบร้อนเพื่อหยิบโทรศัพท์
แต่ก็สายเกินไปซะแล้ว เมื่อผู้ช่วยคนเก่งอย่างชนินทร์เร่งความเร็วเพื่อหนีกันย์ ก็กลายเป็นเขาและภคพรเอง
ที่ประสานงานอย่างจังเข้ากับรถสิบล้อ
“โครม!!!!”
รถของนวพรรษชนกับรถสิบล้อเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
“เอี๊ยดดดดดดดดดดดด”
กันย์เบรกรถล้อฟรีรากยาวจนเกิดประกายไฟอยู่บนถนน
“............”
กันย์เบิกตากว้างด้วยความตกใจ หัวใจเต้นรัวไม่เป็นส่ำ นั่งนิ่งงันอย่างหมดเรี่ยวแรง ไม่มีแม้แต่กำลังที่จะพาตัวเอง
ออกมาจากรถเพื่อช่วยเหลือใคร
“ผมไม่ได้อยากจะทำร้ายคุณ”
กันย์พูดกับตัวเองเบาๆ น้ำตาเอ่อไหล สมองยังคงหยุดนิ่งเพราะภาพความวุ่นวายตรงหน้า รถทั่วทั้งท้องถนนจอดสนิท
และลงมาดูอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอย่างอกสั่นขวัญแขวน ไทยมุงหลายสิบชีวิตยืนมองดูและพากันวิจารณ์ไปต่างๆนานา
เสียงดังไปทั่วบริเวณ
“อย่าเป็นอะไรนะคุณ”
กันย์พูดกับตัวเองอย่างไร้สติ ประคองร่างตัวเองลงมาจากรถ และเดินฝ่าฝูงชนที่เอาแต่ยืนมุงดู ไม่มีใครเข้าไปช่วย
หรือเข้าไปหานวพรรษ ทั้งมือและขาของเขาสั่นไปหมดด้วยความกลัว
“คุณ คุณ คุณ”
กันย์ยืนรนรานอยู่ข้างๆประตูรถ มองดูร่างของชนินทร์และนวพรรษที่นอนโชกเลือดอยู่ในรถด้วยความกังวลใจ
“คุณ คุณ คุณ”
กันย์ทุบกระจกรถ มองดูร่างของนวพรรษที่นอนแน่นิ่งไม่ไหวติงด้วยความเป็นห่วงอย่างสุดหัวใจ
“เปิดสิว่ะ เปิดสิวะ เปิดสิวะๆๆ”
กันย์พยายามเปิดประตูรถแต่ก็ไม่เป็นผล เขาทั้งถีบทั้งทุบทั้งดึงทั้งรั้งประตูรถเพื่อให้เปิดออก
ไม่ต่างอะไรจากคนที่กำลังจะเป็นบ้า
“ใครก็ได้ช่วยหน่อย ช่วยด้วยครับ ช่วยด้วย ช่วยผู้หญิงคนนี้ออกมาจากรถที ช่วยเธอด้วยครับ ช่วยด้วยๆ”
กันย์ร้องขอความช่วยเหลือ แต่ตัวเองก็ยังคงพยายามทุบประตูรถต่อไป ไม่นานก็มีพลเมืองดีเข้ามาช่วยกัน
ใช้กุญแจผีไขประตูรถ ทันทีที่ประตูรถถูกเปิดออก กันย์ก็ถลาเข้าไปหาร่างของนวพรรษทันที
“อย่าตายนะคุณ อย่าตายนะ อยู่กับผมก่อนคุณ อย่าตายนะ อย่าตายนะครับ”
กันย์รากร่างบางของนวพรรษลงมาจากรถ แต่ก็อ่อนแรงเกินกว่าจะอุ้มเธอออกไป เขาทำได้แค่นั่งกอดร่างบางของเธอ
เอาไว้ในอ้อมแขน ด้วยความรู้สึกทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส
“ลุกขึ้นมาคุยกับผมก่อนสิคุณ คุณ ลุกขึ้นมาคุยกับผมนะครับ ลุกขึ้นมาๆ ฮือๆๆๆๆๆๆๆ”
กันย์ร้องไห้โฮออกมาอย่างกับคนเสียสติ กอดรัดร่างของนวพรรษเอาไว้ในอ้อมแขนร้องไห้สะอึกสะอื้นปานใจจะขาด
“ผมไม่ได้อยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ ผมไม่ได้อยากทำให้คุณต้องมามีจุดจบแบบนี้ ลุกขึ้นมาคุยกับผม คุยกับผม ฮือๆๆๆ”
กันย์เขย่าร่างบางของหญิงสาว จนกว่าจะได้รู้ว่านวพรรษมีอิทธิพลในชีวิตของเขา เขาก็กำลังจะเสียเธอไปแล้ว
“ผมจะพาคุณไปหาหมอ หมอ หมออยู่ไหน หมอครับ ช่วยผู้หญิงคนนี้ด้วย ช่วยเธอด้วยครับ ช่วยเธอด้วย
ฮือๆๆๆๆๆ ช่วยเธอด้วยครับ”
กันย์อุ้มร่างบางของนวพรรษเอาไว้ในอ้อมแขน ร้องขอความช่วยเหลืออย่างน่าเวทนา เวรกรรมที่เขาเคยทำเอาไว้
คงถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องชดใช้กรรม
****************************************************************
** ที่หายไปนานเพราะคอมพังจร้า กว่าจะได้คอมคืนมา โทษทีที่ทำให้รอนะคะ

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 ก.พ. 2557, 22:01:23 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 ก.พ. 2557, 22:01:23 น.
จำนวนการเข้าชม : 1525
<< ไร้หัวใจ ตอนที่ 31 |