ลิขิตรักสัญญาหัวใจ
คำโปรยเรื่อง
“ทำไมคุณถึงเป็นทอม” คำถามนั้นทำให้คนที่กำลังจะหลับเพราะฤทธิ์ของเบียร์กระป๋องเงยหน้าขึ้น ตาสวยดูสะลืมสะลือ เหมือนจะหลับแต่ก็ยังไม่หลับ
“ต้องมีเหตุผลด้วยหรอ”
“ก็ปกติคนเราทำอะไรก็ต้องมีเหตุผล” หนุ่มหล่อตอบกลับไป แต่ตาไม่ได้หันไปมองหญิงสาวที่นั่งข้าง ๆ
“เหตุผลมานง่ายนิดเดียว แต่ขอนึกก่อน....อืม...อ้อ...นักออกแล้วฉานก็แค่เกลียดผู้ชาย ผู้ชายมันเป็นพวกหลอกลวง มีแต่คนหลอกลวงทั้งนั้น หวังแต่จาฟันผู้หญิง ไม่มีดีสักโคน เมื่อไม่มีผู้ชายดี ๆ ฉันก็อยากเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งกว่าไอ้พวกผู้ชาย พิสูจน์ให้พวกมันเห็นว่าฉันดีกว่าพวกมัน และมีคุณค่าที่จะรักผู้หญิงสักคนมากกว่าพวกมันที่ใช้ผู้หญิงกันอย่างสิ้นเปลือง” ลลนาตอบและกระดกเบียร์ขึ้นดื่มอีกอึก
“แต่ผู้ชายดี ๆ ก็ยังมีอยู่ แล้วผู้หญิงดีกว่าผู้ชายตรงไหน ทั้งที่ฉันคิดว่าฉันมีโปรไฟลดี แต่ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงหนีไปคบกับทอม ทอมดีตรงไหน เธอคิดว่าพวกเธอดีตรงไหนกัน” ทั้งที่ปากยังถามอยู่ แต่ดวงตาคมกริบกลับไม่ได้มองคู่สนทนาแต่กลับมองกระป๋องเบียร์คล้ายเหม่อลอย มาดปกติเขาอาจจะดูสุขุม ดูเย็น ๆ ดูปิดกั้น บทบาทพูดจึงดูน้อยในหมู่เพื่อน ถ้าไม่ใช่เรื่องงานก็ไม่มีทางที่จะเห็นเขาง้างปากพูด ยิ่งเวลาเมา เขาจะเงียบ เงียบจนน่ากลัว แต่ตอนนี้เขาก็ไม่รู้ตัวเอง การผิดหวังถึงสามครั้งเกิดข้อสงสัยที่หาคำตอบไม่ได้ขึ้นมา
“ฉานก้อม่ายรู้ ตอบม่ายด้าย ถ้าคูนอยากรู้ก้อปายคบกับทอมสิ จะได้รู้ว่าทอมดียางงาย ง่าย ๆ แค่เนี้ย ปานหามานอยู่ที่ไหนก็ไปตรงน้านแหละ” ลลนาตอบกลับไป ทั้งที่หัวตอนนี้ฟุบลงที่โต๊ะกระจก
“ก็จริง...งั้นเรามาคบกันดูไหม”


........หลังจากเริ่มอัพลงทีละตอน ยังไงก็ช่วยคอมเมนต์ให้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ.......

Tags: ความรัก ความเศร้า การเปลี่ยนแปลง

ตอน: 28 ผู้ต้องสงสัย

28
ผู้ต้องสงสัย

ภายในห้องทำงานของติณภัทรเงียบกริบไม่มีใครพูดอะไรออกมาหลังจากลลนาเดินไปแล้ว คาร์ลอสหน้าเครียดมองกระดาษที่พึ่งถูกแฟ็กซ์ส่งมาจากเบอร์แปลก กระดาษที่ส่งมาเป็นรูปภาพของเพชรโซมาน ทั้งสองชิ้น มิสเตอร์โรเบิร์ตตั้งใจจะเย้ยพวกเขาชัด ๆ เขาส่งคนไปตรวจสอบทันทีว่าแฟ็กซ๋นี่มาจากที่ไหน แต่ก็ช้ากว่ามิสเตอร์โรเบิร์ตหนึ่งก้าวเสมอ ส่วนเจ้าชายราซิดเองก็นั่งเงียบอยู่ในความคิดของตนเอง จนประตูเปิดออก อติงพงษ์เดินเข้ามาด้านใน

“เกิดอะไรขึ้น” คาร์ลอสปัดกระดาษจากโต๊ะปลิวออกไป อติพงษ์คว้ารับไว้ทันและทำหน้าฉงน ไตรภูมิและธนกฤตเดินตามเข้ามาดูและหน้าก็เปลี่ยนสีไปทันที

“นี่มันตั้งใจเย้ยพวกเราชัด ๆ” อติพงษ์เอ่ยและขยำกระดาษแผ่นนั้นแล้วโยนทิ้งลงพื้น

“ฉันพลาดเองที่หละหลวมเกินไป ทั้งที่รู้ว่าเป็นงานสำคัญ ฉันประมาทมากไปที่คิดว่ายังไงพวกมันก็เข้ามาเอาเพชรไปไม่ได้ และมั่นใจว่าถ้ามันมาต้องจับมันได้แน่” คาร์ลอสเอ่ยและมองไปที่ราซิด

“ฉันต่างหากที่พลาดเอง ที่ให้คนเฝ้าที่บ้านฉันน้อยไป มัวแต่ระแวงว่าพวกมันจะรู้ และพลาดที่ปล่อยให้ลลนาอยู่คนเดียว” ติณภัทรพูดขึ้นหลังจากเงียบมานาน ไตรภูมิและธนกฤตหันไปมองติณภัทร คำถามค้างคาใจกหลังจากได้คุยกับลินินเมื่อครู่ทำให้เขาถามโพล่งออกไป

“แกคิดว่าไอ้นินมันจะช่วยไอ้โรเบิร์ตจริง ๆ หรอวะไอ้ติณห์” ธนกฤตมองเพื่อนด้วยสายตาไม่พอใจ

“ฉันไม่รู้” ติณภัทรเอ่ยปัดไม่ตอบ แต่สีหน้าที่สับสนทำให้ไตรภูมิกับธนกฤตที่เข้าข้างลลนาอยู่แล้วเริ่มโกรธกับคำพูดที่ปัดคำตอบ และไม่มีท่าทีเข้าข้างลลนา

“ฉันรู้จักไอ้นินดี มันไม่มีทางทำแน่ แกเองก็เชื่อใจมันไม่ใช่หรอ ตอนแกเห็นภาพจากกล้องวงจรปิดครั้งแรก แกยังยืนยันว่าลลนาไม่มีวันทำอยู่เลย แต่มาวันนี้แกไม่เชื่อไอ้นินมันหรอ”

“แกไม่เห็นภาพนั่นหรือไง” ติณภัทรเอ่ย

“แกมันบ้าไปแล้วไอ้ติณห์ แกเองก็น่าจะรู้จักไอ้นินดี ที่ผ่านมามันไม่ได้ทำให้แกรู้จักไอ้นินมากขึ้นเลยหรือไง และพวกฉันไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่าไอ้นินจะเป็นคนทำ ที่ผ่านมาไอ้โรเบิร์ตมันก็เล่นงานไอ้นินตลอด แล้วไอ้นินมันจะไปทำงานให้พวกไอ้โรเบิร์ตได้ยังไง มันก็พึ่งรู้เรื่องเมื่อไม่นานมานี้เอง”

“อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้นไม่ใช่หรอ ดูอย่างไอ้เจ้าชาย มันเองก็ยังไม่เคยคิดว่าคนที่จะก่อกบฏเป็นหนึ่งในวงศาคณาญาติของมันเอง แล้วพวกนายคิดว่าไอ้โรเบิร์ตมันจะซื้อตัวคุณลินินไม่ได้หรือไง”

พลั่ก!!!

“ไอ้คาร์ลอสแกหุปปากเน่า ๆ ไปเลยนะ แกจะไปรู้อะไร แกเองไม่เคยรู้จักไอ้นินมันดีพอ ๆ กับพวกฉัน แกไม่มีสิทธิ์พูดบ้า ๆ แบบนั้น” ธนกฤตที่สนิทกับลลนามากไม่แพ้ธิติยาน้องของเขาเริ่มเป็นเดือดเป็นร้อนแทน และทนไม่ไหวกับการปรักปรำของคาร์ลอส แต่อติพงษ์กับไตรภูมิที่ยืนอยู่ใกล้ถลามายึดตัวธนกฤตไว้ก่อนที่ธนกฤตจะทำอะไรไปมากกว่านี้ คาร์ลอสไม่ได้มีท่าทีต่อสู้ทำพียงเช็ดเลือดที่มุมปาก

“ถ้าคุณลินินเธอไม่ได้ทำ เธอต้องพิสูจน์สิ ฉันไม่เคยปรักปรำใคร ถ้าไม่มีหลักฐาน แต่นี่ฉันมีหลักฐานมากพอ ถ้าคุณลินินของพวกแกบริสุทธิ์ใจ ไม่มีความผิดพรุ่งนี้เขาจะมีคำอธิบายมายืนยันฉันอีกครั้ง มันก็จบ คุณลินินก็จะพ้นข้อกล่าวหาทุกอย่าง พวกแกหัดทำตัวให้เป็นกลางบ้าง ฉันเป็นตำรวจฉันก็ทำไปตามหน้าที่ของฉัน แกคิดดูนะว่าคนที่รู้ว่าเราทำเพชรไว้สองชุดมีแค่ไอ้ติณห์ กับไอ้ไตรที่รู้อยู่ก่อนแล้ว และไอ้ติณห์ก็พึ่งบอกฉันเมื่อวานตอนเย็น และมันกับฉันก็ตัดสินใจว่าจะลองใจอะไรบางอย่างเลยเลือกที่จะบอกคุณลินินเมื่อเช้าเรื่องแผน เรื่องนี้มีแค่สี่คนที่รู้ แม้แต่พวกแก หรือไอ้เจ้าชายยังไม่รู้เลยว่ามีแผนนี้อยู่ แกคิดว่าไอ้โรเบิร์ตมันจะรู้ได้ยังไง”

“ไม่จริง ไอ้นินมันไม่ได้ทำ”

“ฉันก็ยังไม่ได้บอกว่าคุณลินินทำ แต่ฉันกำลังสันนิษฐานบางอย่างอยู่ และคุณลินินยังหายไปจังหวะต่าง ๆ ได้เหมาะสมเหลือเกิน แกจำได้ไหมตอนที่คุณลินินวิ่งลงบันไดหนีไฟ ทำไมคุณลินินถึงวิ่งออกไป มันไม่มีเหตุผลพอเลย”

“ก็ไอ้นินมันเห็น...”

“แต่คนของฉันเจอไอ้มิสเตอร์โรเบิร์ตข้างล่าง แล้วภาพในกล้องวงจรปิดในลิฟต์ก็ไม่มีภาพของไอ้โรเบิร์ตนั่นอย่างที่คุณลินินเธอบอก ถ้าฉันมีหลักฐานมากพอฉันก็จะเชื่อ แต่นี่หลักฐานทุกอย่างมันชี้มาที่ตัวคุณลลนา แม้แต่ตอนแสดงเพชรเสร็จ อยู่ ๆ เขาก็ทิ้งเพชรแล้ววิ่งหายไป ทั้งที่เขารู้ว่ามันจะอันตรายแค่ไหนถ้าทิ้งเพชรไว้ แต่เขาก็ยังทำ วิ่งออกไปเหมือนจงใจ คำอธิบายของคุณลินินก็ไม่หนักแน่นพอจะสลัดหลักฐานพ้นตัวได้ แกลองคิดดูว่าคนที่รู้ว่าเพชรมีสองชุดมีแค่ไอ้ติณห์ ไอ้ไตรคนที่ออกแบบเพชร คุณลินินที่พึ่งรู้เมื่อเช้า แกคิดว่าจะเป็นใครไปได้อีกที่ทำให้ข่าวรั่ว”

“แล้วช่างที่ทำเพชรล่ะ” ธนกฤตถาม

“เป็นไปไม่ได้เด็ดขาดคนที่ทำเพชรชุดนี้เองก็คือไอ้ไตร” ไตรภูมิพยักหน้า

“สุดท้ายแกก็จะบอกว่าลินินทำอยู่ดีใช่ไหมไอ้คาร์ลอส แกคิดว่าคนอย่างไอ้นินมันจะทำไปเพื่ออะไร มันไม่มีทางเป็นไปได้ด้วยซ้ำ พวกแกเป็นบ้ากันหรือไงถึงเชื่อไอ้เรื่องพักนั้น มันอาจจะเป็นแผนของไอ้โรเบิร์ตนั่นแหละ”

“พวกฉันก็คิดว่าเป็นอย่างนั้น แต่เราไม่สามารถหาเหตุผลมาหักล้างได้ และถ้าพรุ่งนี้ทางโซมานมารับเพชร จะเกิดเรื่องใหญ่แค่ไหนถ้าทางนั้นรู้ว่าเพชรหาย แล้วเราไม่มีอะไรมารองรับกับเรื่องนี้ มันจะเป็นปัญหาระดับชาติได้เลยนะการที่เพชรมาหายในประเทศแบบนี้” ทั้งหมดมองไปที่เจ้าชายราซิดที่มางานครั้งนี้ในฐานะนักธุรกิจอย่างลับ ๆ เขาเองก็กำลังหนักใจกับเรื่องนี้

“แกก็เลยจะจับแพะงั้นสิ ไอ้ระยำเอ้ย!!!” ธนกฤตสลัดอติพงษ์หลุดออกและวิ่งเข้าไปจะซัดเพื่อนอีกครั้ง แต่ครั้งนี้คาร์ลอสไม่ได้ยืนเฉย ๆ อีกแล้ว เขาสวนหมัดธนกฤตให้รู้สึกตัวเสียที

“ฉันไม่ได้จับแพะ แต่ฉันกำลังทำอะไรบางอย่างที่คนหน้ามืดอย่างแกไม่รู้เรื่อง ขอบอกเลยแกอย่ามาพูดเหมือนฉันเป็นตำรวจเลว ๆ ไร้ความรับผิดชอบเด็ดขาด” แพทริกและณัฐพลเข้ามาดึงตัวคาร์ลอสไว้กลัวว่าคาร์ลอสจะลงไปซ้ำ ใคร ๆ ก็รู้ว่าคาร์ลอสเกลียดการดูถูกที่สุด และการมาบอกว่าคาร์ลอสจับคนร้ายมั่ว ๆ แบบนี้ เหมือนดูถูกอาชีพตำรวจของคาร์ลอส ธนกฤตมองคาร์ลอสตาขวางและหันไปมองเพื่อนอีกคนที่ไม่ยอมแย้งหรือพูดอะไร

“พอกันได้แล้ว ไอ้คาร์ลอสนายไปจัดการงานของนายไม่ดีกว่าหรือไง มาทะเลาะกันทำไมนี่ก็เพื่อนกันทั้งนั้น ไอ้หนึ่งมันไม่ได้ตั้งใจจะพูดหรอก ส่วนไอ้หนึ่งแกก็กลับไปสงบสติอารมณ์ที่บ้าน ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่พวกเราจะมาทะเลาะกัน และถ้าแกอยากจะช่วยลินินจริง ๆ แกต้องกลับบ้านไปซะ ที่นี่ให้ตำรวจจัดการจะดีกว่า” อติพงษ์ที่ทนไม่ไหวอีกแล้วก็เอ่ยเสียงดัง และหันไปลากคาร์ลอสเดินออกไปทันที

“ฉันจะกลับไปจัดการเรื่องการเดินทาง เรื่องเพชรฉันจะคุยกับทางโซมานให้ ระหว่างนี้พวกนายต้องรีบจัดการอะไรสักอย่าง ฉันก็คิดว่าคุณลินินเธอไม่น่าจะเป็นคนอย่างนั้น นายเองก็รักคุณลินินเธอมาก ควรจะเชื่อใจคุณลินินเธอไว้นะ” เจ้าชายราซิดเดินออกไป โดยมีแพทริกเดินตามออกไปด้วย ในห้องเหลือเพียงสี่หนุ่ม ติณภัทร ไตรภูมิ ธนกฤตและ ณัฐพล

“แกเชื่อที่ไอ้คาร์ลอสพูดหรอไอ้ติณห์ แกคิดว่านินจะทำหรอ” ธนกฤตถาม เมื่อไม่มีคาร์ลอสอยู่แล้ว

“ฉันเชื่อในหลักฐาน” คำตอบของติณภัทรทำให้ธนกฤตอารมณ์ขึ้นอีกครั้ง

“แกพูดอย่างนี้ หมายความว่ายังไง แกเชื่อไอ้คาร์ลอสใช่ไหม” ติณภัทรเงียบไม่ตอบคำถามของธนกฤต ธนกฤตเดินมาหยุดหน้าโต๊ะและตบที่โต๊ะเสียงดัง

“แกไม่เชื่อไอ้นิน แกรักไอ้นินจริง ๆ ใช่ไหม”

“มันไม่เกี่ยวกันสักนิด” ติณภัทรเงยหน้าขึ้นสบตาธนกฤตเมื่อธนกฤตพูดคำนั้นออกมา ไตรภูมิที่มองเพือ่นรักทั้งสองทะเลาะกันอยู่เริ่มเห็นเค้าลางไม่ดี จึงจะเดินไปห้ามทัพ แต่ธนกฤตปัดมือของไตรภูมิที่กำลังจะลากตัวเข้าออกไป

“มันจะไม่เกี่ยวได้ไง ไอ้นินคือคนที่แกแต่งงานด้วย และไอ้นินก็เป็นเหมือนน้องสาวฉัน ฉันไว้ใจคิดว่าแกจะรัก และดูแลไอ้นินมันอย่างดี ฉันถึงยอมให้เรื่องบ้า ๆ นี่เกิดขึ้น ยอมเรื่องให้สัญญาบ้า ๆ นั่นเกิดขึ้นต่อไป แต่พอเกิดเรื่องแกกลับไม่ช่วยไอ้นินมัน ปล่อยให้ไอ้คาร์ลอสมันพูดพล่ามบ้า ๆ แบบนั้นออกมาได้ยังไง และฉันรู้ว่าแกก็มองออกว่าไอ้นินมันรักแกมากแค่ไหน และแกคิดไหมว่ามันมันจะเสียใจแค่ไหนตอนที่เห็นแกทำหน้าเหมือนไม่เชื่อในตัวมัน ฉันขอบอกไว้เลยนะถ้าไอ้นินต้องกลายเป็นคนผิดทั้งที่ไม่ได้ทำอะไร ฉันจัดการแกแน่ ถ้าไอ้นินต้องเสียใจ ฉันกับแกได้เห็นดีกันแน่”

“ไอ้หนึ่ง!!!” ไตรภูมิจะเข้ามาห้ามทัพ

“แกไม่ต้องมายุ่งไอ้ไตร ฉันต้องพูดกับมันให้รู้เรื่องวันนี้ ฉันไม่ยอมให้ลินินต้องกลายเป้นคนผิดเพราเรื่องบ้า ๆ ถ้ารฉันรู้ว่านินต้องมาเจอเรื่องบ้า ๆ พวกนี้ฉันจะมีมีวันยอมให้มันเกิดขึ้นเด็ดขาด” ธนกฤตหันมาจ้องติณภัทร

เรื่องที่แกว่า เรื่องสัญญาจอมปลมอนั่นหรือเปล่า” ธนกฤตไม่เข้าใจในสิ่งที่ติณภัทรกำลังจะพูด จนติณภัทรหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งส่งให้ธนกฤตดู ธนกฤตมองกระดาษแผ่นนั้นและหันไปมองไตรภูมิ

“แกไปเอามันมาจากไหน” ธนกฤตเปลี่ยนสีหน้าทันทีที่เห็นกระดาษคุ้นตาแผ่นนี้

“ห้องทำงานไอ้ไตร” ติณภัทรตอบธนกฤต และเบนสายตาไปมองอีกหนึ่งตัวบงการที่ยืนทำหน้าไม่ถูก ไตรภูมิเดินมาหยิบกระดาษสัญญาขึ้นมาดู พลางคิดไปว่า คิดแล้วเชียวว่ามันหายไป ไตรภูมิหันไปมองติณภัทร

“แกรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่”

“หลังจากที่พวกแกมากดดันฉันนั่นแหละ ฉันไม่โง่หรอกนะที่จะไม่รู้ว่าเรื่องสัญญาฉบับนั้นพวกแกปลอมมันขึ้นมาอีกที ทั้งที่ฉบับจริงคือฉบับนี้ที่ไม่ได้พูดถึงเรื่องแต่งงาน ก็แค่บอกว่าคบกันไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น และที่สำคัญถึงแม้ฉันจะเมา แต่ฉันก็จำได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ฉันฟุบหลับไปเฉย ๆ ฉันรู้ว่ามีใครบางคนพาฉันขึ้นไปนอนบนเตรียมเดียวกับลลนา ฉันรู้ว่านั่นเป็นละครฉากใหญ่ของพวกแก ฉันรู้มาตลอดว่าพวกแกสร้างเรื่องพวกนี้ขึ้นมาเพื่อจับคู่ให้ฉันกับลลนา”

“แกรู้ แต่แกก็ยังแต่งเนี่ยนะ” ไตรภูมิย้อนถาม

“พวกแกอยากให้มันเกิดขึ้นไม่ใช่หรอ ฉันก็ทำให้มันเกิดขึ้นอย่างที่พวกแกต้องการไง” ติณภัทรตอบกลับ

“ทำไมมายืนตรงนี้ครับ” เสียงอภิรักษ์ที่ดังอยู่หน้าห้องทำให้ทั้งหมดพากันหันไปมอง แน่นอนว่าคำพูดของอภิรักษ์มันเป็นประโชคคำถาม แสดงว่ามีใครอีกคนยืนอยู่กับอภิรักษ์ ติณภัทรลุกขึ้นยืน แต่ณัฐพลที่ยืนอยู่ใกล้ประตูจึงเดินไปเปิดประตูออก มือที่จับประตูเปิดออกค้างอยู่อย่างนั้นเมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่ข้างอภิรักษ์ ณัฐพลถอยหลังหลบออก ติณภัทร ธรกฤตและไตรภูมิพากันเดินมาที่หน้าประตูและทั้งหมดก็ยืนนิ่งทำหน้าไม่ถูก ใบหน้าสวยกำลังแสดงอารมณ์โกรธออกมา แต่ดวงตากลับฉายแววผิดหวัง เสียใจ ประสมปนเปกันไปหมด

“ลินิน / ลลนา” ลลนาส่ายหน้าไปมา

“สนุกกันไหมที่หลอกฉันได้ สนุกกันใช่ไหมที่เห็นฉันเป็นคนโง่ ตลกกันมากไหมล่ะ” ลลนาเบนสายตาไปมองติณภัทรที่กำลังมองเธออยู่

“ทั้งที่คุณก็รู้ แต่คุณก็ยังหลอกฉัน เมื่อสัญญาของเรามันไม่มีอยู่จริง เรื่องของเรามันก็ควรจะจบลงสักที ฉันจะหย่ากับคุณให้เร็วที่สุด ทันทีที่จบเรื่องเพชรโซมาน ฉันกับคุณก้อย่าพบอย่าเจอกันอีกเลย” และลลนาก็ไม่หยุดรอฟังอะไรอีกวิ่งออกนอกห้องไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกของธนกฤตและไตรภูมิ

“เป็นเรื่องแล้วไงไอ้ติณห์” ทั้งหมดพากันวิ่งตามลงไป

/////////////////////////////////////
“แกรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“หลังจากที่พวกแกมากดดันฉันนั่นแหละ ฉันไม่โง่หรอกนะที่จะไม่รู้ว่าเรื่องสัญญาฉบับนั้นพวกแกปลอมมันขึ้นมาอีกที ทั้งที่ฉบับจริงคือฉบับนี้ที่ไม่ได้พูดถึงเรื่องแต่งงาน ก็แค่บอกว่าคบกันไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น และที่สำคัญถึงแม้ฉันจะเมา แต่ฉันก็จำได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ฉันฟุบหลับไปเฉย ๆ ฉันรู้ว่ามีใครบางคนพาฉันขึ้นไปนอนบนเตรียมเดียวกับลลนา ฉันรู้ว่านั่นเป็นละครฉากใหญ่ของพวกแก ฉันรู้มาตลอดว่าพวกแกสร้างเรื่องพวกนี้ขึ้นมาเพื่อจับคู่ให้ฉันกับลลนา”
“แกรู้ แต่แกก็ยังแต่งเนี่ยนะ”
“พวกแกอยากให้มันเกิดขึ้นไม่ใช่หรอ ฉันก็ทำให้มันเกิดขึ้นอย่างที่พวกแกต้องการไง”
////////////////////////////////

ลลนาวิ่งลงมาคำพูดของติณภัทรยังก้องหู เธอรู้ว่าการแต่งงานของเธอกับติณภัทรเกิดจากความไม่ตั้งใจเกิดจากสัญญา ถ้าเป็นก่อนหน้าที่เธอจะรักเขา เธอคงจะแค่โกรธที่รู้ว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องราวที่สร้างขึ้นเพื่อหลอกเธอ การที่เธอเป็นไอ้โง่คนเดียว แต่เวลานี้เธอรักเขา รักอย่างแท้จริง แต่กลับมารู้ว่าที่ผ่านมาเขารู้มาตลอดว่านี่เป็นแผนของธนกฤตแต่เขากลับปิดปากเงียบไม่เคยบอกเธอ แล้วเธอจะยังเชื่อคำพูดเขาได้อีกไหม

“ไอ้นินแกจะไปไหน” เสียงของธิติยาดังขึ้นเมือเห็นเพื่อนสาวยังใส่ชุดเดินแบบและกำลังจะวิ่งผ่านหน้าเธอไป ลลนาหยุดและกันกลับไปมองธิติยาด้วยสายตาที่ทั้งโกรธและผิดหวัง ด้านหลังคือเพชรนารี เธอกำลังมองสีหน้าที่แปลกไปของเพื่อนอยู่ และเดาว่าต้องมีเรื่องแน่

“ไปจากที่นี่” ลลนาตะโกนกลับไป เวลานี้เธอไม่พร้อมใจสนทนากับใครทั้งนั้น

“แต่ฉันรู้จากพี่ติเมื่อกี๋ว่ามีเรื่อง แกจะไปแบบนี้ได้ยังไง ฉันว่าเดี๋ยวฉันไปส่งที่บ้านดีกว่า แกไปไหนมาไหนคนเดียวมันไม่ดีต่อตัวแกเลยนะนิน”

“แกไม่ต้องมาเป็นห่วงฉันหรอก แล้วก็ขอบคุณที่พยายามหาสามีให้ฉัน ทีหลังไม่ต้องมายุ่งกับชีวิตฉัน แล้วแกดูชีวิตฉันตอนนี้มันป่นปี้แค่ไหน ชีวิตฉันต้องมาเจอเรื่องร้าย ๆ ซ้ำ ๆ ก็เพราะความหวังดีอยากให้ฉันมีสามีของพวกแก” ธิติยาเหมือนกำลังจะจับเรื่องได้ แต่เพชรนารีหน้าเสียไปแล้ว

“ลินิน”

“พวกแกยังเป็นเพื่อนฉันอยู่ไหม” ลลนาตะโกนถาม แววตาเจ็บปวดทำให้เพื่อนทั้งสองทำสีหน้าไม่ถูก

“กะ...แกพูดอะไรนิน”

“พวกแกเลิกหลอกฉันได้แล้วไอ้สอง เลิกเป็นไม่รู้เรื่อง ทั้งที่แกก็รู้อยู่เต็มอก ฉันรู้ความจริงหมดแล้วว่าพวกแกหลอกฉัน กุเรื่องขึ้นมาหลอกให้ฉันแต่งงานกับคุณติณห์ พวกแกหลอกฉันเรื่องสัญญาบ้า ๆ นั่น ทั้งที่จริง ๆ มันไม่มีอะไรอยู่เลย พวกแกรวมหัวกับพี่หนึ่งหลอกฉัน”

“มันไม่ใช่นะนิน”

“ทำไมจะไม่ใช่ แกจะกล้าบอกฉันว่าไม่รู้ไหมล่ะ” เพชรนารีทำหน้าไม่ถูก เธอคิดไว้อยู่แล้วว่าวันนี้ต้องมาถึง ลลนาเกลียดการโดนหลอก เกลียดคำโกหก เกลียดการที่ต้องเป็นตัวตลก

“ฉันยอมรับว่าฉันรู้ มันเป็นแผนของพวกฉันเอง”

“หึ... พวกแกทำแบบนี้กับฉันได้ยังไงไอ้สอง” ลลนาตะโกนเสียงดัง และจ้องหน้าเพื่อน ความเจ็บช้ำจากการถูกคนที่เธอรักหลอกผสานกันการโดนเพื่อนที่รักมากรวมหัวกันโกหกทำให้ความเจ็บปวดยิ่งทบทวีคูณขึ้น

“พวกฉันหวังดี พวกฉันอยากให้แกมีความสุข”

“ด้วยการให้ฉันแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักเนี่ยนะ”

“แต่ตอนนี้แกรักเขาแล้วไม่ใช่หรอ และพี่ติณห์ก็รักแกมากเหมือนกัน แกคิดในแง่ดีบ้างสิว่าพวกเราทำเพื่อแก และแกก็กำลังจะมีความสุข”

“แกมองว่าฉันมีความสุขงั้นหรอ การที่มีคนจ้องมาตายเพราะฉัน บาดเจ็บเพราะฉัน แล้วไอ้เรื่องเครื่องเพชรบ้าบอนั่น แกยังคิดว่าชีวิตฉันจะมีความสุขอีกหรอ” ลลนามองหน้าธิติยา

“ฉันขอโทษ แต่พวกฉันหวังดีกับแกจริง ๆ พวกฉันอยากเห็นลลนาคนเดิม ไม่ใช่คนที่ประชดชีวิตตัวเองด้วยการทำตัวเป้นทอมไปวัน ๆ พวกฉันเกือบจะได้แกคนนั้นกลับมา พวกฉันคิดว่าความรักจะช่วยเยียวยาแกได้ ถ้าความหวังดีของพวกฉันกลายเป็นความหวังร้ายไป พวกฉันขอโทษ ไม่มีใครในที่นี้ไม่หวังดีกับแกเลยนะนิน”

“ใช่ค่ะ พวกเรายอมรับว่าผิด แต่คุณติณห์เธอไม่รู้เรื่อง ลินินอย่าไปโกรธคุณติณห์เขาเลย”

“หึ...ไม่รู้งั้นหรอ เขานั่นแหละตัวดี เขารู้มาตลอด เขารู้ตั้งแต่แรก แต่เขาสนุกที่เห็นฉันกลายเป็นตัวตลกของพวกแกเลยยอมแต่งงานกับฉัน”

“แต่พี่ติณห์เขารักแกจริง ๆ นะนิน” ธิติยาเอ่ย

“ถ้าเป็นก่อนหน้านั้นฉันก็คงเชื่อ แต่ตอนนี้ฉันแน่ใจว่าฉันจะยังเชื่อคำพูดของคนที่โกหกฉันได้อยู่ไหม”

“พวกฉันขอโทษนะนิน แต่ฉันยังยืนยันว่าฉันไม่เคยคิดร้ายกับแกเลยนะนิน” ธิติยาเอ่ย

“พวกแกไม่ต้องขอโทษฉันหรอก แล้วก็ไม่ต้องมาห้ามฉัน อีกไม่นานฉันจะจบทุกเรื่อง แล้วฉันจะกลับเพชรบุรีไม่กลับมากรุงเทพอีก ขอบคุณสำหรับความหวังดี แต่ความหวังดีของพวกแกคือการพาคนที่โกหกฉัน ไม่เคยเชื่อใจฉันเข้ามาในชีวิต มันกำลังจะกลายเป็นความหวังร้ายที่สุดในชีวิตฉัน” ลลนาหันหลังจะเดินหนี

“แกยังไปไม่ได้นะนิน แกจะโกรธพวกเราก็ได้ แต่แกไปไหนไม่ได้”

“ปล่อยไอ้สอง” ลลนามองหน้าเพื่อน ธิติยาจับแขนลลนาไว้และพยักหน้าให้เพชรนารีมาช่วยกันจับ เธอรู้ว่าเพื่อนร่างบางของเธอคนนี้แรงยิ่งกว่าช้างเสียอีก

“ฉันบอกให้ปล่อย ไอ้สอง หนูนา”

“ฉันปล่อยให้แกไปไม่ได้นิน” ธิติยาเอ่ยและจับไว้แน่น และกำลังจะตะโกนเรียกคนมาช่วยกันจับลลนาไว้ แต่

“ถ้าอย่างนั้น แกก็อย่าหาว่าฉันใจร้ายแล้วกัน” ลลนาพลักเพชรนารี เพื่อนสาวที่เปราะบางที่สุดกระเด็นล้มลงไปนั่งกับพื้น ธิติยากันไปมองเพชรนารีด้วยความตกใจ

“หนูนา!!!” ลลนาเห็นว่าได้จังหวะก็ผลักธิติยาล้มลงไปอีกคน ลลนามองเพื่อนทั้งสองที่ล้มลงไปนั่งกับพื้นด้วยสายตารู้สึกผิด โดยเฉพาะเพชรนารีที่ลลนาพลักไปชนกับเหลี่ยมเสาพอดี แต่เธอไม่พร้อมจะพบใครในตอนนี้ ลลนาหันไปพูดประโยคสุดท้ายก่อนจะวิ่งหนีไป

“ขอโทษนะหนูนา สอง แต่ฉันไม่พร้อมจะพบใคร ขอเวลาฉันจัดการกับตัวเอง แล้วฉันจะกลับมา ฝากบอกคุณติณห์ด้วย ฉันจะกลับมาหย่ากับเขาให้เร็วที่สุด” และลลนาก็วิ่งหนีออกไป ธิติยาดันตัวเองลุกขึ้นและเข้าไปช่วยพยุงเพชรนารีที่โดนพลักไปชนกับเหลี่ยมเสาจนหัวแตก

“สอง!!! หนูนา!!!” ธนกฤตวิ่งลงมาถึงด้านล่างด้วยอาการเหนื่อยหอบ

“เกิดอะไรขึ้น ทำไมหนูนา” ไตรภูมิถามเมื่อเห็นสภาพจองเพชรนารี

“ไอ้นินรู้ความจริงหมดแล้ว” ธิติยาเอ่ยขึ้น

“พวกพี่รู้แล้ว นี่ก็กำลังจะลงมาตาม แล้วเจอไอ้นินไหม” ธนกฤตถามและเดินไปช่วยพยุงเพชรนารี หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเลือดที่ไหลให้

“พวกเราพยายามห้ามแล้ว แต่พวกเราสู้แรงมันไม่ไหว มันวิ่งหนีไปแล้ว” ธิติยาเอ่ย ติณภัทรที่วิ่งตามลงมาได้ยินก็รีบวิ่งออกจากโรงแรมไปหวังจะตามให้ทันลลนา เขาต้องคุยกับลลนาให้รู้เรื่อง

“หนูนาพี่ว่าเราไปหาหมอก่อนดีกว่านะ เกิดหัวกระแทกเลือกคลั่งขึ้นมาจะแน่” เพชรนารีมองไปหน้าโรงแรมด้วยความเป็นห่วงเพื่อน

“ไม่ต้องห่วงเรื่องนินนะหนูนา ไอ้ติณห์ต้องตามไอ้นอนกับมาได้แน่ แต่หนูนาต้องไปหาหมอ ไปทำแผลก่อน เชื่อพี่นะครับ” เพชรนารีมองธนกฤตและพยักหน้าเดินไปพร้อมกับธนกฤต

“เดี๋ยวสองจะไปช่วยตามนินมันอีกแรง” และทั้งหมดก็พากันเดินออกไป โดยไม่รู้ว่าบทสนทนาของพวกเธอถูกใครบางคนแอบฟังอยู่ที่มุมหนึ่งของโรงแรม

“แกเสร็จฉันแน่นังลินิน” ดารณียิ้มอย่างร้ายกาจและเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าและเดินออกไป




ลลนาวิ่งออกจากโรงแรมมาได้สักพัก แต่ด้วยสภาพชุดที่ไม่เอื้ออำนวยทำให้การวิ่งนั้นทุลักทุเล ลลนาถอดส้นสูงออกและโยนทิ้งโดยไม่คิดถึงราคาที่แพงแสนแพงของมัน และเธอก็วิ่งข้ามถนนไปยืนอยู่บนเกะกลางถนน ในเวลาสามทุ่มเกือบสี่ทุ่มรถยังคงเต็มท้องถนน ลลนากำลังรอจังหวะให้รถชะลอ แต่เมืองหันกลับไปมองที่หน้าโรงแรมเห็นติณภัทรกำลังวิ่งออกมา ลลนามองซ้ายขวาหาทางหนี และเมื่อเห็นว่าติณภัทรหันมาเจอเธอแล้ว ลลนาก็ไม่รอช้าอีก วิ่งข้ามถนนไปทันทีโดนไม่ได้ดูรถที่กำลังวิ่งมา
“ลลนา!!!” ติณภัทรตะโกนเสียงดัง เมื่อเห็นลลนาวิ่งข้ามถนนไปโดยไม่ได้ดูรถ รถคันนั้นวิ่งมากำลังจะชนร่างขิงลลนา ลลนาที่ก้าวขาลงสู่ถนนหันไปมองเมื่อเห็นแสงไฟจากหน้ารถ

“กรี๊ด!!!”

เอี๊ยด!!!

เสียงเบรกดังขึ้นพร้อมกับเสียงหวีดร้องของลลนา ความตายกำลังจะมาเยือนเธอแล้วในอีกเสี้ยววินาที ลลนานั่งกุมศีรษะตัวเองไว้ โดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองอะไรอีก จน

“คุณลินิน!!!” ลลนาจำเสียงของคนที่เรียกได้ก็เงยหน้าขึ้นมอง และยิ้มอย่างมีความหวัง

“คุณวิน” ลลนาหันไปมองติณภัทรที่กำลังจะข้ามถนนมา ลลนาตัดสินใจลุกขึ้นวิ่งไปเปิดประตูรถของตริสวินขึ้นมานั่ง รถคันกลังเริ่มบีบแตรไล่ ตรัสวินจึงเดินขึ้นมาบนรถ

“ออกรถเลยค่ะคุณวิน”

“มีอะไร...”

“ฉันบอกให้ออกรถไปก่อนแล้วฉันจะเล่าให้คุณฟัง คุณวิน ฉันขอร้อง” ลลนามองหน้าเขาอย่างอ้อนวอน ตรัสวันยอมขับรถออกไปแต่โดยดี ลลนาหันไปมองด้านหลังเห็นติณห์วิ่งมายืนที่เกาะกลางถนนและมองตามรถของตรัสวินมา

“ลลนา!!!” ตรัสวินตะโกนเรียงชื่อลลนาเสียงดัง




“คุณหนีมาแบบนี้ ทุกคนจะยิ่งสงสัยคุณ หลักฐานพวกนั้นจะมัดตัวคุณแน่นขึ้นนะครับ”

“ฉันไม่สน ฉันไม่ได้ทำ ฉันไม่ยอมรับผิดเด็ดขาด”

“ผมว่าคุณควรจะกลับไปนะครับ กลับไปยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง คุณไม่ได้ผิด ผมว่าคุณติณห์ก็คงกำลังหาทางช่วยคุณอยู่ คุณทำแบบนี้จะยิ่งทำให้เรื่องแย่ลงนะ”

“ฉันยังไม่พร้อม พวกเขาโกหกฉัน เขาทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง” ตรัสวินรอบมองเสี้ยวหน้าของลลนาและยิ้มเหนื่อยใจแทนคนหัวดื้อ ลลนาเล่าเรื่องทุกอย่างให้เขาฟังโดยไม่ลังเลสักนิด หลังจากฟังจบเขาเห็นเค้าลางไม่ดีบางอย่าง

“แล้วคุณจะไปอยู่ที่ไหน” ลลนานิ่งไป และเหมือนนึกบางอย่างออกก็หันกลับไปมองหน้าตรัสวินและยิ้มออกมา ตรัสวินชี้หน้าตัวเองเป็นการย้ำ

“ผมเนี่ยนะ”
“ใช่ค่ะ” ลลนาพยักหน้ารับ
“ได้ยังไง ผมว่าคุณกลับบ้านเถอะครับ ป่านนี้ทุกคนห่วงคุณแย่แล้ว แล้วอยู่ ๆ คุณก็วิ่งขึ้นรถผมว่าทุกคนจะยิ่งเป็นห่วงคุณนะครับคุณลินิน”

“คุณวิน คุณช่วยฉันหน่อยไม่ได้หรอ ไหนว่าคุณเป็นแฟนนิยายฉันไง”

“มันไม่เกี่ยวกันนี่ครับ”

“ฉันขอร้อง ฉันกลับบ้านไม่ได้ ฉันไม่มีบ้านที่อื่น นอกจากบ้านคุณติณห์ ร้านขนม แต่ถ้าฉันไปที่นั่นต้องโดนจับได้แน่ ฉันไม่มีเพื่อนคนอื่นที่ไว้ใจได้อีกแล้ว ฉันรุ้จักแค่คุณ” ลลนาพูด

“แล้วคุณไว้ใจผมหร ผมพึ่งรู้จักกับคุณเองนะคุณลลนา”

“ฉันเชื่อว่าฉันดูคนไม่ผิด ฉันก็ไม่รุ้ทำไม แต่ฉันไว้ใจคุณ คุณช่วยฉันนะ พาฉันไปที่ไหนก็ได้ ขอเวลาฉันแค่อาทิตย์เดียว แค่อาทิตย์เดียว แล้วฉันจะยอมกลับไปจัดการทุกอย่าง ขอเวลาให้ฉันได้คิดอะไรสักพักนะ...คุณวิน” ลลนามองเขาด้วยแววตาอ้อนวอน ตรัสวินถอนหายใจ

“ครับ ผมกำลังจะไปหัวหิน ผมมีบ้านพักต่างอากาศอยู่ที่นั่น น้องมิกซ์ก็อยู่ที่นั่น” ลลนายิ้มเมื่อตรัสวินตกลงยอมช่วยเหลือเธอ
“แล้วน้องมิกซ์ไม่ไปเรียนหรอคะ” ลลนาถาม ตรัสวินนิ่งไปและหันกลีบมาตอบ

“ผมจะพาน้องมิกซ์กลับญี่ปุ่น” ลลนามองหน้าเขา

“ทำไมล่ะคะ ไหนคุณว่าตะให้น้องมิกซ์อยู่ที่นี่”

“ผมก็คิดไว้อย่างนั้น แต่งานของผมต้องเดินทางบ่อย ผมไม่อยากทิ้งน้องมิกซ์ไว้ที่ไทย ถ้าอยู่ที่ญี่ปุ่นยังมีคนสามารถดูแลน้องมิกซ์ได้” ลลนาพยักหน้า

“น่าเสียดาย ฉันถูกชะตาน้องมิกซ์จังเลยนะคะ”

“ขอบคุณครับ แต่ผมว่า ผมพาคุณแวะไปเปลี่ยนชุดก่อนดีไหม คุณคงไม่สะดวกถ้ายังใส่ชุดนี้เดินไปไหนมาไหน แถมสภาพคุณตอนนี้มันดูยุ่งเหยิงมากเลยนะครับ” ตรัสวินเอ่ยเมื่อเห็นสภาพของลลนาผมเริ่มรุงรัง ชุดเกาะอกของเธอคงไม่เหมาะที่จะใช้สัญจรไปไหน

“ก็ดีค่ะ ฉันก็คิดว่าฉันอยากเปลี่ยนชุด”





พัชรีพร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 30 มี.ค. 2557, 01:13:42 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 เม.ย. 2557, 19:55:25 น.

จำนวนการเข้าชม : 2262





<< 27 งานแสดงเพชร (จบ) "โจรกรรมเพชร" ...ลบแล้วค่ะ...   29 ความลับที่ซ่อนอยู่ ...ลบแล้วค่ะ... >>
แก้วจินดา 30 มี.ค. 2557, 07:57:24 น.
เป็นเรื่องแล้วไงลินิน


แว่นใส 30 มี.ค. 2557, 13:12:41 น.
นางเอกเรานี่ไม่ได้เรื่องสักอย่าง พลาดเพราะความอยากรู้ตลอดเลย


นักอ่านเหนียวหนึบ 1 เม.ย. 2557, 00:34:28 น.
เงิบบบ
อิรุงตุงนังจิงๆๆ
ตามมาอ่านค้าาา ^^


konhin 1 เม.ย. 2557, 10:17:45 น.
เดาว่าแฟนเก่าและมิตรใหม่


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account