ซานเทียนที่ชิงหนาน
ณ เมืองชิงหนานแห่งนี้ วรุณต้องทำให้วีร์ยกเลิกการจับคู่ระหว่างหล่อนและเขาของผู้ใหญ่ให้ได้

แต่หล่อนก็ได้พบกับพบบุญ ชายหนุ่มผู้มีอดีตกับอดีตคนรักของวีร์เช่นกัน ชายหนุ่มแสนดีในสายตาของหล่อน แต่เป็นผู้ร้ายในสายตาของวีร์

....

ชิตา ทำ อีบุ๊ค ในนามสำนักพิมพ์ต้นสักค่ะ
http://www.ebooks.in.th/tonsak
Tags: ชิตา ซานเทียนที่ชิงหนาน รักโรแมนติค

ตอน: ๑

ถ้าไม่เป็นเพราะว่าแม่บังคับล่ะก็ วรุณไม่มีทางตามนายวีร์มาเมืองชิงหนาน ให้ชาวบ้านเขาซุบซิบบอกปากต่อปากว่า นั่นไง แม่เขาจับใส่พานถวายถึงปากแล้ว แต่พ่อเลี้ยงวีร์ก็ไม่เอาอยู่ดี

พ่อเลี้ยงวีร์ที่ว่า เป็นชายหนุ่มผิวขาว ตัวสูงเพรียว ใบหน้ารูปสี่เหลี่ยมดูสงบตลอดเวลาอย่างคนใจดีใจเย็น แต่ตอนนี้เดินจ้ำอ้าว ไม่มองหญิงสาวอ้อนแอ้นบอบบางคนที่กำลังวิ่งตามหลังเลย

ภายในสนามบินเมืองชิงหนาน อากาศหนาวเยือกเข้ากระดูก ไม่รู้ว่าพอออกข้างนอก จะเย็นจนตัวแข็งหรือเปล่า

“พี่วีคะ รอฝนด้วย” จำใจต้องใช้ไม้อ่อน เสียงหวาน เพราะนี่ไม่ใช่บ้านเมืองเรา และอีกอย่างต้องทำตัวน่าเบื่อหน่าย ให้เขาเบื่อตามแผน

ชายหนุ่มหยุดกึก ถอนหายใจ (เพราะเห็นไอออกจากปาก) หันหลังกลับมามองหญิงสาวร่างอวบนิดๆ สูงหน่อยๆ ที่แม่เขาพยายามยัดเยียดให้ตามมา ด้วยประสงค์จะให้การเดินทางครั้งนี้ ทำให้สองหนุ่มสาว ตกลงปลงใจกันเสียที แต่คงเป็นรู้เช่นเห็นชาติ จนเลิกพบกันเลยมากกว่า

ดูเอาเถิด แค่ลากกระเป๋าแค่นี้ หล่อนก็ชักช้า แล้วจะไปทำอะไรกิน เมื่อก่อนตอนเริ่มลองศึกษาดูใจกันหล่อนไม่ได้เป็นแบบนี้นี่นา สาวน้อยตาหวาน ใบหน้าเนียนสวยรูปหัวใจ ผมยาวสลวยสีดำสนิท ทำให้เตะตาต้องใจ นิสัยใจคอก็แสนดีจนไม่ได้ปฏิเสธผู้ใหญ่จริงจัง แต่พักหลังๆ ไม่รู้เพราะอะไร วรุณทำตัวน่ารำคาญมากขึ้นเรื่อยๆ

เขาเลยต้องยืนรอ แต่อย่าหวังว่าจะช่วย พอวรุณเห็นสีหน้าพ่อเลี้ยงก็แอบยิ้มเล็กน้อยอย่างสมใจ อยากให้ผู้ใหญ่เลิกจับคู่เรา นายก็ต้องไปบอกผู้ใหญ่เองนะ ฉันไม่ทำหรอกจะบอกให้

“เร็ว มีคนมารับแล้ว”

“แต่ว่าฝนเหนื่อยนี่คะ หนาวด้วย”

“อดทนหน่อย” จำต้องดุเหมือนพูดกับเด็ก

ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองมาได้ก็พบคนมารับ เป็นคนไทย แต่ว่ามาทำงานให้ญาติที่นี่

“ชิงหนานยินดีต้อนรับ หนาวหน่อยนะครับ หิมะเพิ่งตกเมื่อเช้านี้เอง”

ชายกลางคนนามว่าสุรเกียรติเอ่ยทักทาย

ไม่หน่อยละมัง เสื้อที่เตรียมมามันก็แค่สูทหนาๆ ตัวเดียว ไม่ได้กันลมหนาว ไม่ได้กันความเย็นติดลบที่พากันกรูผ่านเสื้อผ้ากระทบเนื้อของวรุณเลย หล่อนจึงตัวสั่นปุบปับ สองมือซุกกระเป๋าตัวงอด้วยความหนาว กว่าจะจึงที่รถจอด หล่อนต้องกลายเป็นน้ำแข็งให้พ่อเลี้ยงวีร์แบกไปโรงแรมแน่เลย แต่จู่ๆ ก็มีของหนักๆ ทาบหลัง ไออุ่นวาบเข้าร่างทันที วรุณหันขวับไปมอง

“ใส่เสีย”

“แต่ว่าพี่วีล่ะ”

“ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวคุณน้าจะว่าได้ว่าไม่ดูแลน้อง”

วรุณอึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะขอบคุณเบาๆ เขาก็เป็นคนมีน้ำใจ แต่น่าเสียดายเหลือเกินที่น้ำใจรักนั้นไม่เผื่อแผ่มาถึงหล่อนอย่างเต็มร้อย

โรงแรมห้าดาวที่คุณสุรเกียรติเตรียมให้ก็หรูหราไม่แพ้ที่ใด สะอาดสะอ้าน ไม่เหมือนด้านนอก ที่วิวทิวทัศน์อะไรก็ดูดีอยู่หรอก ถ้าจะสะอาดกว่านี้สักนิด บรรยากาศจะดีกว่านี้มากทีเดียว คุณสุรเกียรติ เลือกห้องพักเป็นห้องชุดให้สองห้องนอน แยกกัน พอวีร์ชักสีหน้า วรุณก็ขอเปลี่ยนเองทันควัน แต่คำตอบที่ได้รับคือ

“แม่เลี้ยงสั่งตรงมาจากเชียงใหม่เลยล่ะครับ ผมว่าก็ดี พ่อเลี้ยงจะได้ดูแลคุณฝนได้”

หล่อนย่นจมูก ฮึ คงกัดกันให้ตายไปข้างหนึ่งละมากกว่า

“เอาล่ะขอบคุณมาก” พ่อเลี้ยงวีร์ไล่คุณสุรเกียรติด้วยสายตา ซึ่งเจ้าตัวก็ทราบกล่าวขอตัว พอเขาลับกาย พี่วีของน้องฝนก็หันมาสั่งทันที

“บอกฝนก่อนนะว่าพี่มาทำงาน ไม่มีเวลาพาเที่ยว ถ้าอยากเที่ยวให้คุณสุรเกียรติพาไป แต่ว่าคงไม่มีอะไรน่าดูหรอก แห้งแล้งออกปานนี้ แต่ว่าไม่ไกลนักมีห้าง ให้ช้อปปิ้ง เย็นนี้จะพาไปให้รู้ทาง วันหลังจะได้ไปเองถูก”

พูดแค่นี้และก็หันหลังกลับ

ไม่เข้าใจจริงๆ เลยว่า ทำไมผู้ใหญ่ถึงคิดว่าเรากับเขาจะไปกันรอด ออกจะเป็นใบตองแห้งกับปุยนุ่น ยามสงบก็พออยู่ร่วมโลกกันได้อย่างดี แต่ลมพัดทีก็ไปกันคนละทางสองทาง แต่ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับวรุณหรอก หล่อนจะทำให้พ่อเลี้ยงวีร์ เบื่อและรำคาญหล่อนต่อไป และบอกเลิกศาลาทันทีที่เหยีบแผ่นดินแม่เลยทีเดียว

เริ่มด้วย

พี่วีคะ เปิดฮีทเตอร์ไม่เป็น พี่วีคะ ทำไมมันยังเย็นอยู่ละคะ พี่วีคะ ฝนจะอาบน้ำร้อน แต่ว่ามันร้อนเกินไป พี่วีคะ เสื้อตัวนี้ไม่อุ่นเลย พี่วีให้ฝนยืมต่อได้ไหม พี่วีคะ แล้วเราจะกินอะไรกันดี พี่วีคะ และพี่วีคะ ตลอดบ่ายวันนั้นจน กระทั่งถึงเวลาพาสาวน้อยไปห้างสรรพสินค้า

น่าแปลกที่เขาไม่ระเบิดอารมณ์ออกมาให้รู้ดำรู้แดงกันไป

แต่หล่อนก็เข้าใจเมื่อเขาพามาถึงหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใหญ่พอสมควร และเขาก็บอกว่า ไปหาซื้อเสื้อให้เรียบร้อย เอาที่หนาๆ และกันลมด้วย พี่จะไปพบเพื่อนแถวนี้ หกโมงตรงเจอกันที่นี่ ถ้าไม่เจอกัน ก็ต่างคนต่างกลับโรงแรมก็แล้วกัน

ฮะฮา งั้นก็เข้าทางฉัน นี่คงจะรอให้เราร้องไห้ขี้มูกโป่งอ้อนวอนเขาละสิ

“พี่วีคะ ฝนกลัว”

“ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก แล้วเจอกัน” ว่าเสียงดุ แล้วก็เดินจากไปพลางถอนหายใจและลอบยิ้มอย่างสมใจ ไม่รู้ว่าหญิงสาวด้านหลังก็แอบยิ้มเช่นกัน

พ่อเลี้ยงวีร์มามุขนี้ใช่ไหม

ได้เลย วรุณก็แน่เหมือนกัน

หล่อนดึงหนังสือเล่มเล็กชื่อ ภาษาจีนกลางที่จำเป็นออกมาจากกระเป๋า และเดินอย่างมั่นใจเข้าไปในอาคารเพื่อเดินดูของ เพลินเสียไม่มี เสื้อผ้าหน้าหนาวจะเอาอย่างไหน กระเป๋าเสื้อผ้า รองเท้า ของกินแปลกๆ อาหารทะเลแปรรูป เอ๊ะ อันนี้น่าสนใจ ต้องหาซื้อกลับบ้าน เอ เอาอะไรอีกน้า เดินๆ เพลินไม่ดูทาง จนไปชนกับคนข้างๆ โดยไม่ได้ตั้งใจ และด้วยความเผลอตัว ก็อุทานออกมาเป็นภาษาแม่ชัดถ้อยชัดคำว่า

“ขอโทษค่ะ”

ผู้ชายคนที่หล่อนเดินชนชะงัก ก่อนจะหันมายิ้มน้อยๆ ตอบชัดถ้อยชัดคำเช่นกันว่า

“ไม่เป็นไรครับ”

และแล้ววรุณก็ได้เพื่อนคนไทยในต่างถิ่น

..........................

ซานเทียนที่ชิงหนานนี้ ชิตาเขียนไว้สองปีที่แล้ว แต่ว่าเอากลับมาปรับปรุงในรายละเอียดและแก้คำผิดบางส่วน ส่วนเนื้อหาโครงเรื่องยังเหมือนเดิม
ส่วนฉบับเดิมก็จะแจ้งลบค่ะ

ยินดีรับคำติชมจากทุกท่านค่ะ


ชิตา
chita_a@hotmail.com

โดย : ชิตา วันที่ : [ 25 พ.ย. 2553 ] 21:18:15 น.

>> ความคิดเห็นที่ 1

หายไปนานจนเกือบลืมไปแล้วค่ะ รอติดตามตอนต่อไปะคะ
โดย : แตง [ 26 พ.ย. 2553 ] 06:45:16 น.

>> ความคิดเห็นที่ 2

รออ่านอยู่เหมือนกันค่ะ
โดย : MiKi [ 26 พ.ย. 2553 ] 14:38:49 น.

>> ความคิดเห็นที่ 3

น่าติดตามค่ะ ยังไม่เคนอ่านเลย
โดย : ปูเปรี้ยว [ 28 พ.ย. 2553 ] 12:15:50 น.





ชิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 เม.ย. 2554, 20:34:35 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 พ.ค. 2555, 12:17:22 น.

จำนวนการเข้าชม : 1804





เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account