แก้วขวัญวันรัก
เรื่องราวของสี่สาวพี่น้องที่ต้องตามล่าหาแฟนให้ได้ภายในสามเดือน ก่อนที่จะถูกจับคลุมถุงชนกับเจ้าบ่าวที่ไม่เคยเห็นหน้า ดังนั้นภารกิจ และปฏิบัติการลับของการตามหาแฟนจึงเริ่มข้น
แต่ติดปัญหาที่แก้ไม่ตกนั่นคือ

คนหนึ่ง ขี้เหวี่ยงขี้วีน คบกับผู้ชายได้ไม่เกินหนึ่งวัน ผู้ชายคนนั้นต้องหนีเปิง เจ้าของฉายา
“สวยเหวี่ยงวีน”

คนหนึ่ง ซุ่มซ่ามจอมโก๊ะ เจ้าของฉายา “สาวโก๊ะมหาวิบัติ”

คนหนึ่ง ด้านชาต่อความรัก ไร้ความรู้สึกกลับความรัก เจ้าของฉายา “ดอกไม้น้ำแข็งไร้อารมณ์”

และอีกคนหนึ่ง สาวสวยหมดเท่ แต่ใจเธอคือหญิงแท้ แต่กลัวการมีความรัก เจ้าของฉายา
“เจ้าสาวกลัวฝน”

Tags: สี่สาว รักแท้ ความรัก การตามหา

ตอน: บทนำ

บทนำ

งานวันเกิดของคุณเหมยฟ้าภรรยาเจ้าของตลาดสิทธิทรัพย์ ตลาดที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดระยอง ถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่ ทั้งแม่ค้าในตลาด รวมถึงบรรดาญาติทางฝ่ายคุณเหมยฟ้า เพื่อนพ้องน้องพี่พากันมาร่วมงานอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง รวมถึงบรรดาหลานสาวทั้งสี่ที่กลับมาจากกรุงเทพเพื่อมางานของคุณยายที่เคารพรัก หลานคนแรกของคุณเหมยฟ้าชื่อแก้วกัลยา เป็นลูกสาวของบุตรสาวคนโตที่เสียชีวิตไปได้แปดปีแล้ว หลานสาวคนที่สองคือขวัญชีวัน เป็นหลานสาวที่เกิดจากบุตรสาวคนที่สอง หลานสาวคนที่สามคือวันวิวาห์ เป็นหลานสาวที่เกิดจากบุตรสาวคนที่สาม และหลานสาวคนสุดท้ายคือรักจิรา หลานสาวที่เกิดจากลูกสาวคนที่สี่ หลานสาวทั้งสี่เป็นหลานสาวที่คุณเหมยฟ้ารักมากไม่แพ้ที่ผู้เป็นตารัก ทั้งสี่สาวมีอายุไร่เรียงกัน โดยแก้วกัลยาเกิดก่อนพี่น้องคนอื่น ตามมาด้วยขวัญชีกับวันวิวาห์ที่เกิดปีเดียวกัน และสุดท้ายก็เป็นรักจิราก็เกิดในอีกสองปีถัดมา ปัจจุบันสี่สาวทำงานอยู่ที่กรุงเทพทุกวันสำคัญทั้งสี่จะแวะกลับมาที่ระยองเพื่อมาเยี่ยมอากงอาม่า

“พวกอั๊วไม่แต่งนะอากง นี่มันเรื่องใหญ่ระดับชาติเลยนะ อยู่ ๆ อากงจะมาตัดสินแทนพวกอั๊วได้ยังไง ให้ฟ้าถล่มดินทลายพวกอั๊วก็ไม่แต่งแน่ ๆ” สาวสวยใบหน้าเรียวรูปไข่เอ่ยขึ้น เสียงหวีดแหลมของเธอทำให้ผู้เป็นตาถึงกับต้องเอามืออุดหู แก้วกัลยาหน้าบึ่งสุด ๆ เธอคิดไว้แล้วเชียวอยู่ ๆ ก็เรียกให้มาคุยตอนหลังงานวันเกิดอาม่า

“แต่อั๊วคุยกับเสี่ยกรแล้ว หลานชายสี่คนของเขาก็ยังไม่ได้แต่งงานเหมือนกัน หน้าที่การงานก็ดี หน้าตาก็ใช้ได้ แต่งกัน พวกลื้อจะกลัวอะไร แต่งตัวพวกกับพี่อีนะลื้อสบายไปทั้งชาตินะอาแก้ว” แก้วกัลยาหลานสาวคนโตสุดแสบถึงกับหน้างอหงิกขึ้นมาทันที

“อากง ลูกชายของเสี่ยกรแต่ละคนนะ อี๊ คนหนึ่งขี้หลี อีกคนขี้เหร่ อีกคนขี้โอ่ อีกคนขี้งก รวม ๆ เลยนี่มันพี่น้องรวมขี้ชัด ๆ” แก้วกัลยาทำหน้าเหมือนเหยียบก้อนอึ สามสาวที่นั่งเป็นกองเชียร์อยู่ด้านหลังพยักหน้าพร้อมกัน เธอจำได้ว่าว่าเคยเจอลูกของเสี่ยกรแปดปีก่อน แต่ละคนทำเอาพวกเธอรับไม่ได้ แม้หลังจากนั้นจะไม่ได้เจออีกแต่กิตติศัพท์ของทั้งสี่ก็ยังลอยมาให้ได้ยินเสมอ

“ลื้ออย่ามาทำโอเว่อร์น่า อาแก้ว ดูคนอื่นเขายังไม่พูดอะไรเลย นี่ลื้ออายุยี่สิบแปด ยี่สิบเก้ากันแล้วนะ ลื้อจะรอให้อายุสามสิบจนขึ้นคาน ขายไม่ออกก่อนหรือไง อั๊วแก่แล้วนะ อั๊วอยากอุ้มหลาน แล้วลื้อคิดดูนะอั๊วหาแฟนให้ลื้อมันดีแค่ไหนแล้ว พวกลื้ออยู่มาจนป่านนี้อั๊วยังไม่เห็นพวกลื้อคิดจะหาเลย ส่วนลื้อนะอาแก้ว คบกับใครได้เกินวันหนึ่งบ้าง อั๊วเห็นควงวันเดียวผู้ชายพวกนั้นหนีกันเปิงหมด”

“เอ่อ...” แก้วกัลยาถึงกับพูดไม่ออก เมื่อเจอความจริง

“แต่พวกอั๊วไมได้อยากแต่งนะอากง” เสียงของรักจิราหลานสาวคนเล็กเอ่ยขึ้นหลังจากเห็นแก้วกัลยานิ่งไป และกำลังพยายามหาเสียงตัวเองอยู่

“อั๊วว่าลื้อใจเย็น ๆ ก่อนได้ไหม หลาน ๆ คงจะยังไม่พร้อม อยู่ ๆ ลื้อก็ไปคุยไม่บอกหลานก่อน ไหนลื้อเคยบอกอั๊วว่าจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องจับคู่ ลื้อเคยบอกอั๊วว่าเกลียดการคลุมถุงชนและทำไมลื้อถึงมาทำเองล่ะอาสุนทร”

“แต่อั๊วไม่อยากให้หลานสาวเราไปเป็นขี้ปากพวกชาวบ้าน อายุปูนนี้ขายไม่ออก แล้วอั๊วคิดว่าลูกของเสี่ยกรนี่ก็เป็นคนดีขยันขันแข็ง แต่งไปสบาย มันไม่ได้ตรงไหน”

“มันไม่ดีตรงที่พวกเรามีคนที่เราคบอยู่แล้วไงอากง!!!” ทั้งหมดหันไปมองแก้วกัลยาที่อยู่ ๆ ก็เอ่ยปากออกไป เหมยหลิงและสุนทรเองก็ทำสีหน้าตกใจไม่แพ้กัน

“อั๊ว อาขวัญ อาวัน อารัก มีคนที่รักอยู่แล้ว เร็ว ๆ นี้เขาจะมาขอพวกเรากับอากง อาม่าแน่นอน”

“ไม่จริง ลื้อโกหกอั๊ว”

“อั๊วไม่ได้โกหกนะ ไม่เชื่อ วันเกิดอากงอีกสามเดือนข้างหน้าพวกเราจะพาแฟนมาให้อากงดูหน้าเลย” แก้วกัลยาพูด สุนทรถึงกลับนิ่งงัน ใบหน้าบ่งบอกว่าไม่เชื่อที่แก้วกัลยาพูดแม้แต่น้อย และมองไปที่หลานอีกสามคนที่นั่งหน้านิ่งไม่มีใครพูดอะไร สุนทรมองไปที่ขวัญชีวันหลานที่โกหกไม่เป็น ใบหน้ากลมทำสีหน้าไม่ถูก

“อาขวัญ ลื้อมีแฟนแล้วจริงไหม” สุนทรจ้องจนขวัญชีวันถึงกับมือไม้สั่น แต่เพราะรักจิราที่นั่งอยู่ข้าง ๆ และจับมือเธอไว้ให้มันนิ่งไม่ให้สุนทรจับผิดได้

“เอ่อ...” ขวัญชีวันมองไปที่แก้วกัลยาที่กำลังจ้องเธอแทบตาถลน

“จะ...จริงคะอากง อั๊วมีแฟนแล้ว” ขวัญชีวันพยายามทำหน้าให้นิ่งสุด ๆ เหมยฟ้ามองหลานและมองสามี แววตาของหลานสาวกำลังอ้อนวอนเธอสุด ๆ

“หลานมีแฟนแล้ว อั๊วว่าลื้อเลิกคิดจะจับคู่ให้หลานเถอะ พรากคนรักกันมันบาปนะอาสุนทร”

“ใช่ ๆ มันบาปนะอากง อากงถือศีลอยู่ไม่ใช่หรอ ถ้าอากงบังคับพวกเราให้แต่งงานเท่ากับทำร้ายคนรักกันเลยนะ” แก้วกัลยาเสริมทัพ รักจิราพยักหน้าหงึก ๆ ตามอย่างเห็นด้วย

“อั๊วไม่เชื่อหรอก พวกลื้อโกหกอั๊วใช่ไหม ถ้ามีทำไมอั๊วถึงไม่รู้”

“เปล๊า!!!” แก้วกัลยาตอบ “พวกอั๊วจะกล้าโกหกอากงได้ยังไง มันบาปพวกเราไม่กล้าหรอก ที่ไม่ได้บอกก็เห็นว่ากะจะคบกันให้แน่ใจก่อน แล้วถ้าแน่ใจมาก ๆ พวกอั๊วจะต้องมาบอกอากงแน่นอน”

“เอาล่ะก็ได้ วันเกิดอั๊วอีกสามเดือนครั้งหน้า พวกลื้อต้องพาแฟนมาพบกับอั๊ว แล้วถ้าพวกลื้อไม่มีแฟนกลับมาพบอั๊ว พวกลื้อต้องแต่งงานกับลูกชายเสี่ยกรอย่างไม่มีข้อแม้ และคราวนี้พวกลื้อห้ามบ่ายเบี่ยงนะ”

“แน่นอนองกง พวกเราตกลง ไม่บ่ายเบี่ยง”

“ถ้าอั๊วจับได้ว่าพวกลื้อโกหก เอาเขยกำมะลอมาให้อั๊ว พวกลื้อได้แต่งกันวันที่ลื้อเอาตัวปลอมมาแน่ ไปนอนได้แล้ว ดึกแล้ว พรุ่งนี้พวกลื้อต้องกลับกรุงเทพอีกไม่ใช่หรอ ไปนอนกันได้แล้ว เดินทางตอนเช้ามันอันตราย” สี่สาวเดินกลับเข้าห้องไปแต่ไม่ใช่ห้องของตัวเอง แต่เป็นห้องของแก้วกัลยา

“พวกเราตายแน่ ตาย ๆ ๆ ตัวพูดบ้าอะไรออกไปตัวรู้ไหม” รักจิราแทบจะพุ่งเข้าไปบีบคอแก้วกัลยา แต่แก้วกัลยานั้นไว้วิ่งไปหลับอยู่ข้างหลังวันวิวาห์เสียก่อน เพราะรู้ดีว่าน้องสาวของตนแม้จะไม่ใช่คนขี้เหวี่ยงขี้วีนแบบตน แต่อารมณ์รุนแรงรักจิราเป็นที่หนึ่ง ทำร้ายคนได้โดยไม่สนใจด้วยว่าอาวุโสกว่า

“ก็ถ้าไม่พูดแบบนี้อากงให้พวกเราแต่งงานกับพวกลูกชายเสี่ยก่อนแน่ ฉันต้องฝันร้ายไปทั้งชีวิตแน่ ๆ ใคร ๆ ก็รู้พวกนั้นน่ะชอบทำตัวหงิม ๆ แต่เจ้าชู้มาก ฉันรับไม่ได้”

“แล้วตัวพูดไปแบบนั้นพวกเราไม่ตายกันหมดหรอ เราจะเอาแฟนที่ไหนไปให้อากงดู” รักจิราเอ่ย

“รักแกอย่ามาพูดเลยรัก ถ้าแกไม่เห็นด้วยที่ฉันพูดเมื่อกี๋ทำไมไม่ค้านไปล่ะ ตัวเองก็ไม่ได้อยากแต่ง อย่าทำปากดีหน่อยเลย นี่ฉันช่วยยืดชีวิตให้พวกแกอีกสามเดือนเลยนะ”

“แล้วสามเดือนข้างหน้าเราจะหาแฟนมาจากไหน” คำถามนี้ดังออกมาจากปากของวันวิวาห์สาวผู้ดูเงียบและสงบที่สุด ความเงียบของผู้หญิงคนนี้ทำให้ทุกคนลืมไปสนิทว่าเธอยังมีตัวตนอยู่ไม่ใช่ธาตุอากาศแต่สาวสองนางนั่งทะเลาะกันข้ามหัวเธอราวกับว่าเธอเป็นธาตุอากาศ

“ใช่ ขวัญว่าเราไปคุยกับอากงดี ๆ ไหม”

“พวกแกก็รู้ว่าอากงเป็นคนยังไง ถ้าบอกให้ทำก็ต้องทำ วิธีเดียวก็คือพวกเราต้องหาแฟนมาให้อากงดู วิธีเดียวที่จะทำให้พวกเรารอดคือหาแฟนให้ได้ภายในสามเดือน” แก้วกัลยาพูด

“ตัวพูดบ้าอะไรเจ๊แก้ว พวกเราอยู่มาจนป่านนี้ ยังไม่ได้เฉียดผู้ชายเลย คนที่มีภาษีดีหน่อยก็ตัวอ่ะเจ๊แก้ว แต่ภาษีของตัวโดนหักเละคบใครก็ไม่เกินวันเลย แล้วเจ๊ขวัญเข้าใกล้ผู้ชายที่ไหนที่นั่นเกิดหายนะ เล่นเอาผู้ชายคนนั้นเกือบตาย ใครจะกล้าเข้าใกล้ แล้วเจ๊วันถามสิว่าชีเป็นผู้ถือศีลกลับชาติมาเกิดหรือเปล่าทำไมถึงด้านชนกับความรักขนาดนี้ แล้วส่วนเค้าพวกตัวก็รู้เค้าไม่กล้าคบกับใครหรอก แล้วพวกเราจะเอายังไง ทำยังไงดี”

“เอาน่า มันต้องมีสักคนแหละ แกเชื่อสิรัก ว่ารักแท้มันมีอยู่จริง มันต้องอยู่ที่ไหนสักแห่งบางทีอาจจะอยู่รอบ ๆ ตัวเรา เอาน่ากลัวอะไร ฉันแก้วกัลยาจะช่วยพวกแกเอง” ทั้งสามลุกจากเตียงทันที

“ตัวเก็บความหวังดีของตัวไว้เถอะ ตัวหาแฟนของตัวให้ได้เป็นตัวเป็นตนก่อน แล้วค่อยมายุ่งกับชีวิตพวกเค้า ปวดหัว พวกเค้าขอไปนอนก่อน เครียด” แล้วทั้งสี่สาวก็พากันกลับไปที่ห้องของตัวเอง แก้วกัลยานั่งนิ่งมองโทรศัพท์ที่มีเบอร์ผู้ชายเป็นร้อย แต่กลับโทรไม่ได้สักเบอร์ก็พวกนี้เล่นคบกันวันเดียวก็บอกบ๊ายบายเธอทันที แถมยังแบล็คลิสต์เบอร์ของเธออีก เธอได้จบแบบศพไม่สวยแน่ถ้าเธอหาแฟนไม่ได้

ขวัญชีวาได้แต่นั่งเหม่อลอย ตอนนี้เธอกำลังอยู่ในภาวะเครียดจัด ใบหน้ากลม ๆ น่ารักของเธอแทบจะม้วนรวมกันเป็นก้อนเดียวแล้ว แฟนหรอ เธอจำได้ว่าเธอเคยเกือบจะมีแฟนคนแรกตอนเรียนปีหนึ่ง แต่แล้วเธอก็พลาดที่สะดุดเท้าตัวเองและพลักผู้ชายคนนั้นลงไปกลางถนนโดนรถชนนอนอยู่ในห้องซียูเจ็ดวันเจ็ดคืนทีเดียว แล้วก็มีรายต่อ ๆ มาที่ต้องประสบเคราะห์ร้ายจากความโก๊ะของเธอ จากนั้นเธอก็ไม่เคยคิดจะมีแฟนอีก แม้แต่เพื่อนผู้ชายเธอยังไม่มี เพราะเหตุการณ์เดิม ๆ จะเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ไม่ตกบันไดบาดเจ็บ ก็ต้องมีอะไรสักอย่างเกิดขึ้นกับผู้ชายคนนั้น ดังนั้นเธอจึงมีแต่เพื่อนผู้หญิง และพี่น้องอีกต่างหาก

วันวิวาห์สาวหน้านิ่งเดินกลับเข้ามาในห้อง ใบหน้าเธอยังคงไร้ความรู้สึก จะว่าเธอเป็นผู้หญิงใจแข็งก็ไม่ใช่ แต่เธอมันด้านชาเรื่องความรู้สึกที่เรียกว่ารักเลยต่างหาก ผู้ชายที่ตามเทียวไล้เทียวขื่อเธอหลายปียอมแพ้ความความด้านชาของเธอกันไปหมด ไปว่าจะมุกหวานเลี่ยนที่ใช้จีบเธอก็ทำหน้านิ่ง ส่งดอกไม้มาให้พวกพยาบาลพากันวี๊ดว้าย แต่เธอกลับมองดอกไม้นั่นนิ่ง ๆ ไม่ได้รู้สึกปลาบปลื้มอะไร เธอเป็นพวกบกพร่องทางความรู้สึก เพื่อนที่เป็นหมอรุ่นเดียวกันพากันลงความเห็นกันว่าเธอคือ ดอกไม้ไร้อารมณ์ สวยแต่กลับด้านชาเหลือเกิน เธอไม่ได้ด้านชา แต่เธอแค่ไม่เคยรู้สึกว่ารักใคร ในชีวิตเธอมีแค่ตำราเรียน มีแค่แม่ มีบรรดาพี่น้องที่คอยพูดเรียกรอยยิ้มจากเธอ เพียงเท่านั้น แล้วเธอจะหาแฟนได้อย่างไร

รักจิราทำหน้าคิดหนักสุด ๆ รักจิราสาวน้อยมาดทอม แต่ใจเธอเป็นหญิงแท้ แม้จะชอบต่อยมวย แต่เธอก็ยังยืนยันว่าเธอไม่ใช่ทอม แต่ผู้ชายมากมายลงความเห็นว่าเธอเป็นทอม เพราะรอบตัวเธอมีผู้หญิงคอยตามกรี๊ดราวกับเธอคือดาราผู้มีชื่อเสียง ถามว่าเธอยากมีแฟนไหม แน่นอนว่าอยาก แต่เธอกลัว ๆ กันคบกับใครและวันหนึ่งต้องเสียเขาไป เธอกลัวต้องเป็นแบบแม่ของเธอ เธอคือเจ้าสาวที่กลัวฝน ไม่กล้าวางใจไว้กลับใคร เรื่องแฟนหรอ เธอเลิกคิดถึงมันมานานมากแล้วล่ะ แล้วเธอจะทำอย่างไร ยอมแต่งงานหรอ ไม่มีทาง คลุมถุงชนมันหมดยุคแล้ว แล้วเธอจะหาแฟนยังไงล่ะ นั่นแหละปัญหาที่สี่สาวต้องหาทางจัดการ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของสี่สาว แก้วกัลยา ขวัญชีวัน วันวิวาห์ และรักจิรา



พัชรีพร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 พ.ค. 2557, 19:38:47 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 มิ.ย. 2557, 13:15:08 น.

จำนวนการเข้าชม : 1848





   1 รักอยู่หนใด >>
แว่นใส 26 พ.ค. 2557, 19:31:57 น.
ต่อกันเป็นเรื่อง หรือว่ารวมกัน สี่คนคะ


นักอ่านเหนียวหนึบ 25 ก.ค. 2557, 22:53:06 น.
ตามทาอ่าน ตามมาไลค์ค่าา


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account