หทัยรักจ้าวทะเลทราย
ไม่มีเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ ไม่มีผู้หญิงธรรมดา ณ ดินแดนผืนทรายสีทองแห่งนี้ จะมีเพียงรัก และมีเพียงแค่เรา “หัวใจรักสองดวง” จะผูกพันไว้ด้วยกัน จากนี้ จวบจนตลอดกาล
Tags: เจ้าชาย , ทะเลทราย , รัก , ซึ้ง , โรแมนติก

ตอน: 8 หลุมพรางกับดักบ่วงเสน่หาของราชสีห์ผู้ทรงสง่า


หทัยรักจ้าวทะเลทราย 8 หลุมพรางกับดักบ่วงเสน่หาของราชสีห์ผู้ทรงสง่า


วันนี้พลอยลงมือทำอาหารไทย เพื่อเป็นการขอบคุณและตอบแทนมาซาห์ที่ให้อยู่อาศัยที่บ้านหลังนี้มาร่วมอาทิตย์ และเขาก็เอ่ยบอกว่าต้องการอยากจะลองชิมอาหารไทยดูบ้าง

โดยมีลูกมือตัวป่วน คือหนูนา ที่คอยหยิบจับทำนู่นทำนี่ไม่ได้หยุด แม้จะวุ่นวายไปบ้าง แต่ก็เต็มไปด้วยความสนุกสนาน

อาหารที่เธอเลือกทำในวันนี้ก็มีต้มยำกุ้ง แกงเขียวหวานไก่ ผัดไทย กระเพราปลาหมึก และปูหลน ซึ่งเธอพยายามทำอาหารทุกจานให้รสชาดออกมากลางๆ ไม่ให้เผ็ดจัดจ้าน หรือจืดชืดจนเกินไป

“หิวอะ อยากกิน”

หนูนาก้มลงไปสูดกลิ่นที่หอมฉุยจากหม้อต้มยำกุ้ง และหันมาทำตาปริบๆ ให้กับเธอ

“อดทนหน่อยสิ เดี๋ยวพี่มาซาห์ก็กลับแล้ว ใช่มั๊ยมีราห์ ?”

ปลายประโยคเธอหันไปถามมีราห์ เพื่อให้ยืนยัน

“จ๊ะ รออีกแป๊ปนึงนะหนูนา พี่มาซาห์กำลังมา”

“ก็ได้ๆ งั้นเราออกไปรอข้างนอกนะ กลัวอดใจไม่ไหว”

เธอหันไปส่งยิ้มหวานให้กับมีราห์อย่างขำขัน เมื่อหนูนารีบเดินออกไปด้านนอก ราวกับกำลังจะอดใจรอไม่ไหวจริงๆ

พลอยตักอาหารจัดใส่จานจนครบทุกอย่างเป็นการเสร็จเรียบร้อย พอดีกับที่หนูนาเดินกลับเข้ามาในครัวอีกครั้ง

“มากันแล้ว ยกออกไปเลย !”

หนูนาเอ่ยบอกอย่างตื่นเต้น และฉีกยิ้มกว้างอย่างสดใส ท่ามกลางความแปลกใจของเธอ ที่ไม่เข้าใจว่าแค่มาซาห์กลับมา ทำไมหนูนาจะต้องดีใจอะไรมากมายขนาดนี้ด้วย

“มีราห์ออกไปหาพี่มาซาห์เถอะ เดี๋ยวพลอยยกไปเองจ๊ะ”

“อืมๆ ออกไปสิ เราช่วยพลอยยกเอง”

หนูนารับอาสาอย่างแข็งขัน รีบไปหยิบถาดมา นำถ้วยอาหารต่างๆ ใส่ลงไป และยกออกไปอย่างคล่องแคล่ว

แพรพลอยเดินตามหลังหนูนามาติด ๆ และก็ได้เห็นว่ามีแขกคนสำคัญมาเยือนในวันนี้อีกแล้ว

เธอปรับสีหน้าให้เรียบนิ่งเป็นปกติ และเดินไปถอนสายบัว เพื่อเป็นการทำความเคารพเจ้าชายรามเรซ ที่ประทับนั่งอยู่บนโซฟาสีน้ำตาลเรียบหรูตรงกลางห้องรับแขก

เจ้าชายพยักพระพักตร์เบาๆ อย่างรับรู้ ดวงเนตรคู่คมทอดพระเนตรใบหน้าหวานเพียงครู่ ก่อนจะหันไปสนทนากับมาซาห์และฮิกซัสต่อ

เธอเดินไปทางห้องรับประทานอาหาร และช่วยมีราห์กับหนูนาจัดอาหารขึ้นเสริฟวางบนโต๊ะ

“เจ้าจงรีบประกาศรับสมัครออกไปโดยด่วน เราอยากให้น้องหญิงได้เรียน จะได้ไม่เหงา”

ร่างบางเดินไปยืนหลบอยู่ตรงมุมห้อง เมื่อเจ้าชายและราชองครักษ์ทั้งสองเข้ามา

“พะเจ้าค่ะ หม่อมฉันจะจัดการทันที แต่เราอาจจะต้องรอหน่อยนะพะเจ้าค่ะ เพราะพระองค์ไม่ได้ต้องการเพียงคุณครูธรรมดาเท่านั้น”

ฮิกซัสตอบ และเลื่อนเก้าอี้ออก เพื่อให้เจ้าชายรัชทายาทประทับนั่งลงตรงหัวโต๊ะ

จากนั้นทุกคนก็นั่งลงตรงตำแหน่งเดิมอย่างไม่มีเปลี่ยนแปลง

“เรารู้ เราเข้าใจ จะมีใครบ้างล่ะที่อยากจะมาเป็นคุณครูให้กับน้องสาวของเรา”

เจ้าชายรามเรซมีสีพระพักตร์เศร้าสร้อยและหม่นหมองลง เมื่อตรัสถึงเรื่องนี้

“พลอยไงคะ พลอยเป็นคุณครูค่ะ ให้พลอยไปสอนสิคะ”

หนูนาพูดโพล่งขึ้นมา หลังจากจับใจความสำคัญในเรื่องที่ได้ยิน และสามารถเข้าใจได้ว่าเจ้าชายกำลังต้องการคุณครู เพื่อให้ไปสอนพระขนิษฐาของพระองค์

ทุกสายตาภายในโต๊ะอาหาร หันมามองทางหนูนาเป็นตาเดียวกัน โดยเฉพาะแพรพลอยที่ตกใจที่สุด

“เจ้าว่าอย่างไรนะ ?”

เจ้าชายตรัสถามสุรเสียงเรียบ พระพักตร์หล่อเหลานิ่งเฉยสนิท

“หม่อมฉันบอกว่าถ้าเจ้าชายต้องการคุณครู หม่อมฉันขอเสนอแพรพลอยค่ะ และขอรับประกันว่าเพื่อนของหม่อมฉันเป็นคุณครูที่ดีสุดๆ ไปเลยค่ะ”

พลอยเอื้อมมือที่กำลังเย็นเฉียบไปบีบมือหนูนา เพื่อให้หยุดพูด แต่เพื่อนตัวดีกลับหันมาฉีกยิ้มกว้างให้กับเธอ และโปรยไปให้กับทุกคนในโต๊ะอย่างทั่วถึง

“อย่างงั้นรึ ?”

เจ้าชายทอดพระเนตรใบหน้าสวยที่เริ่มซีดเซียว และราวกับตรัสถามย้ำเพื่อความแน่หทัย

“เอ่อ คือ”

“ว่าอย่างไร เจ้ายินดีที่จะเป็นคุณครูให้กับน้องหญิงของเราหรือไม่ ?”

เธอมองสบดวงเนตรคู่คมที่จับจ้องมาอย่างรอคำตอบ ก่อนจะมองไปทางคนอื่นๆ เพื่อขอตัวช่วย แต่ทุกสายตาต่างพากันมองเธอด้วยใจจดจ่อและคาดหวัง

“ค่ะ หม่อมฉัน .. ยินดีค่ะ”

เสียงตอบรับเบาหวิวหลุดออกมาจากริมฝีปากชมพูระเรื่อ พร้อมกับหัวใจที่รู้สึกวูบโหวงและสั่นไหวอย่างไรชอบกล

โดยที่เธอไม่มีโอกาสได้รู้ตัวเลยว่า ลูกแกะตัวน้อยๆ อย่างเธอ กำลังก้าวเดินเข้าไปติดหลุมพรางกับดักบ่วงเสน่หาของราชสีห์ผู้ทรงสง่าซะแล้ว


ภายในโต๊ะรับประทานอาหารเต็มไปด้วยบรรยากาศสบายๆ ซึ่งวันนี้เจ้าชายรามเรซดูท่าทางจะอารมณ์ดีที่สุด และเจริญอาหารมากเป็นพิเศษ ถึงขนาดเติมข้าว 3 จานเลยทีเดียว

หลังจากรับประทานกันจนอิ่มเรียบร้อย เจ้าชายก็ตรัสถามราวกับเพียงเปรยๆ

“ใครเป็นคนทำอาหารไทยมื้อนี้รึ ?”

“แพรพลอยเพคะ พลอยเป็นคนทำทุกอย่างด้วยตัวเองทั้งหมดเลยเพคะ”

อามีราห์เอ่ยตอบ และหันมองเพื่อนสาวอย่างชื่นชม

เจ้าชายพยักพระพักตร์เบาๆ อย่างรับรู้

“รสชาดเป็นอย่างไรบ้างพะเจ้าค่ะ ทรงโปรดหรือไม่ ?”

ฮิกซัสทูลถาม และมองวงพักตร์คร้ามคมของเจ้าชายหนุ่มรูปงามอย่างรอคำตอบด้วยท่าทางกรุ้มกริ่ม

เธอเหลือบสายตาขึ้นแวบหนึ่ง ก่อนจะรีบหลุบลงต่ำตามเดิม ตั้งใจรอฟังและลุ้นระทึกอย่างตื่นเต้นเหมือนกัน

“อืม”

คำสั้นๆ ที่ได้ยิน ราวกับตรัสตอบผ่านๆ แบบไม่ใส่หทัย ทำให้หัวใจดวงน้อยแห้งเหี่ยว เหมือนต้นไม้ที่ขาดน้ำและใกล้จะเฉาลงเต็มที

“อยากให้ทำให้กินทุกวัน”

หน้าสวยเงยขึ้นมองพระพักตร์หล่อเหลาอีกครั้ง เมื่อเจ้าชายเริ่มตรัสต่อ

ดวงเนตรสีนิลเปล่งประกายวาววับและฉายชัดถึงความนัยบางอย่างที่ซุกซ่อนอยู่ในนั้น

ก่อนที่สุรเสียงทรงเสน่ห์จะเอ่ยประโยคถัดมาจากริมโอษฐ์นุ่ม ที่ทำให้ใบหน้าหวานร้อนผะผ่าวและแดงก่ำในทันที

“นับต่อจากนี้ .. จนตลอดชีวิต”

Xหทัยรักจ้าวทะเลทรายX


เช้านี้พลอยนั่งรถมาพร้อมกันกับมาซาห์ เพื่อเข้ามาพบกับเจ้าชายในพระราชวัง ดวงตาคู่สวยมองวิวทิวทัศน์ที่ปรากฎอยู่เบื้องหน้าอย่างตื่นตะลึงกับความโออ่า หรูหรา และใหญ่โต

รถสีดำมันปลาบจอดเทียบสนิทลงตรงด้านหน้า ร่างบางก้าวลงจากรถและหันมองไปรอบๆ อย่างตื่นเต้นและประหม่า เมื่อเห็นนายทหารมากมายอยู่บริเวณนี้กันอย่างขวักไขว่

“เข้าไปข้างในกันเถอะครับ”

มาซาห์บอกและเดินนำหน้า เธอรีบเดินตามมาติดๆ

หน้านวลหันมองซ้ายมองขวาอย่างชื่นชมกับความงดงามของด้านในพระราชวัง ที่ดูราวกับปราสาทของเจ้าหญิงและเจ้าชายในเทพนิยาย

ความสวยที่ทำให้รู้สึกดุจดั่งกำลังย่ำเดินอยู่บนดินแดนแห่ง “สรวงสวรรค์”

เธอรู้สึกตัวและหลุดออกจากภวังค์แห่งความคิดเคลิ้มฝันทั้งหมดทั้งมวล เมื่อมายืนอยู่ตรงหน้าประตูไม้บานใหญ่

สุรเสียงตอบรับอนุญาตจากด้านใน ทำให้มาซาห์ผลักบานประตูและเดินเข้าไป

“คุณแพรพลอยมาแล้วพะเจ้าค่ะ”

มาซาห์ทูลบอก และผายมือเชื้อเชิญ

เธอเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าโต๊ะทรงงานตัวใหญ่ที่ถูกแกะสลัก ประดับประดาไปด้วยทองคำแท้และอัญมณีหลากสีสันสวยงามที่ชวนให้ตะลึง

พระพักตร์หล่อเหลาเงยขึ้นจากกองเอกสารมากมายที่วางอยู่บนโต๊ะ และทอดพระเนตรร่างบางที่ยืนนิ่งสนิท

“เชิญนั่งก่อน”

เธอถอนสายบัว ก่อนจะค่อยๆ หย่อนตัวนั่งลงตรงเก้าอี้

“นี่เป็นหนังสือสัญญา”

เจ้าชายรามเรซดันซองเอกสารสีน้ำตาลมาวางตรงหน้าเธอ และตรัสบอกสุรเสียงเรียบ

เธอหยิบกระดาษที่สอดอยู่ทางด้านในออกมาอ่านรายละเอียด คิ้วสวยเริ่มขมวดมุ่น จนในที่สุดก็ยุ่งจนแทบจะเป็นปม

สัญญาที่มีใจความสำคัญเพียงแค่ 5 ข้อ

1. เป็นคุณครูให้กับเจ้าหญิง “ฟาริสา” ตั้งแต่ 09.00 น. ถึง 12.00 น. ในวันจันทร์ – วันศุกร์

2. ต้องมารายงานเกี่ยวกับการเรียนการสอนในทุกวัน ให้เจ้าชายรามเรซได้รับทราบ

3. ต้องย้ายมาพักอาศัยอยู่ภายในพระราชวังของเจ้าหญิง หากต้องการออกนอกเขตพระราชวัง ต้องขออนุญาตจากเจ้าชายรามเรซ

4. ห้ามเดินทางออกนอกประเทศลาเนียญ่า ก่อนได้รับอนุญาตจากเจ้าชายรามเรซ

5. สัญญานี้มีผลบังคับเป็นระยะเวลา 1 ปี

หากมีการละเมิดสัญญา ไม่ว่าข้อใดข้อหนึ่ง จะต้องทำการชดใช้ความเสียหายเป็นเงินจำนวน 10 เท่า จากค่าจ้างทั้งหมด


เธอเงยหน้ามองสบดวงเนตรคู่คมที่ทอดพระเนตรอยู่ก่อนแล้ว และยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยปากถามอะไร เจ้าชายก็ตรัสขึ้นมา

“ค่าจ้าง เดือนละ 1 แสน จ่ายสดเลย 1 ล้าน 2 แสนบาท ทันทีที่ตกลงเซ็นสัญญา”

ดวงตาคู่สวยกระพริบปริบๆ หลังจากได้ยินที่เจ้าชายตรัสบอกจนจบ รู้สึกสงสัยที่งานสบายและเงินดีขนาดนี้ ทำไมถึงไม่มีใครมาสมัครกันนะ

และอดขัดแย้งไม่ได้ก็ตรงสัญญาที่ระบุเอาไว้ ราวกับเธอถูกกักบริเวณ ต้องอยู่ในสายพระเนตร ตกอยู่ภายใต้การปกครองดูแลของเจ้าชายรามเรซตลอดเวลายังไงยังงั้น

“ว่าอย่างไรล่ะ ?”

เจ้าชายตรัสถาม เมื่อร่างบางนั่งเงียบอยู่นานสองนาน

เธอละสายตาจากเนื้อหาในหนังสือสัญญา และมองพระพักตร์หล่อเหลาอย่างนิ่งงัน ก่อนจะรวบรวมความกล้าและพูดออกไป

“หม่อมฉันขอถามอะไรบางอย่างได้มั๊ยคะ ?”

เจ้าชายพยักพระพักตร์เบาๆ และอนุญาต

“ได้สิ”

“หม่อมฉันคิดว่าค่าจ้างมากเกินไปค่ะ หม่อมฉันเคยได้แค่เดือนละ”

“เราพอใจ และเต็มใจที่จะจ่าย”

เจ้าชายตรัสขัดขึ้นมา โดยไม่รอให้เธอพูดจนจบ

“เอ่อ ค่ะ แล้วมีใครเคยผิดสัญญานี้บ้างหรือเปล่าคะ ?”

เจ้าชายส่ายพระเศียรน้อยๆ และตรัสตอบ

“ไม่มี”

“ไม่มีเลยเหรอคะ ?”

“ใช่ ไม่มี”

เจ้าชายรามเรซตรัสอีกครั้งอย่างยืนยัน เพียงแต่พระองค์ตรัสไม่หมด หากจะตรัสตอบให้ถูก คงต้องตอบว่าไม่มีใครเคยทำผิดสัญญา เพราะสัญญาฉบับนี้ จัดทำขึ้นมาเพื่อเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น

“ค่ะ แล้วทำไมหม่อมฉันถึงต้องมาอยู่ในวังของเจ้าหญิงด้วยเหรอคะ ?”

“ในเมื่อเจ้าจะมาเป็นคุณครูของน้องหญิง ก็ควรจะได้พักในสถานที่ซึ่งสมควรแก่ฐานะ เราไม่ชอบให้คนของเราไปอยู่ปะปนกับผู้อื่น”

เธอพยักหน้าเบาๆ อย่างเข้าใจ ก่อนจะเอ่ยถามในเรื่องสำคัญที่สงสัยที่สุด

“คำถามสุดท้ายค่ะ ทำไมหม่อมฉันต้องขออนุญาตจากเจ้าชาย หากต้องการออกนอกวังหรือนอกประเทศเหรอคะ ?”

วรองค์สูงลุกขึ้นประทับยืนเมื่อได้ยินคำถาม หัตถ์แข็งแรงทั้งสองข้างวางค้ำไว้บนโต๊ะ โน้มพระพักตร์คร้ามคมเข้ามาใกล้ใบหน้าหวาน และตรัสบอกด้วยสุรเสียงจริงจัง

“เมื่อใดที่เจ้าเซนต์สัญญา เราถือว่าเจ้าเป็น .. “ของเรา” เพราะฉะนั้นเราก็ควรจะมีสิทธิ์ในตัวเจ้า มิใช่รึ ?”

ร่างอรชรนั่งนิ่งคิด พยายามทบทวนคำตอบและคำถามของเจ้าชาย ที่ฟังดูเน้นย้ำ วกวน และกำกวมเหลือเกิน

“เซ็นซะเถอะ แพรพลอย และ “เริ่มต้นชีวิตใหม่” ที่ประเทศลาเนียญ่าแห่งนี้”

ดวงตากลมโตมองพระพักตร์หล่อเหลาราวกับถูกสะกดไว้ให้ตราตรึง แค่เพียงประโยคเดียวเท่านั้น ทำให้ความสงสัย ความวิตก ความกังวลใดๆ ที่มีอยู่ก่อนหน้านี้มลายหายไปจนหมดสิ้น

ถ้อยคำตรัสนี้เปรียบเป็นดั่งแสงสว่างที่ส่องลงมา เพื่อชี้นำทางให้กับอนาคตที่กำลังมืดมนของเธอ


ลายมือที่สวยงามและเป็นระเบียบ ถูกบรรจงเขียนลงไปบนหนังสือสัญญาจนเสร็จเรียบร้อย

เจ้าชายใช้ดวงเนตรคู่คมตวัดทอดพระเนตรลายเซ็นที่ปรากฏ ก่อนจะยกยิ้มน้อยๆ ที่มุมโอษฐ์

“ยินดีต้อนรับสู่บ้านของเรา แพรพลอย”


เธอไม่รู้เลยว่าลายเซ็นที่ถูกขีดเขียนลงบนสัญญาฉบับนี้ จะเปรียบเป็นดั่งการที่เธอสลักสัญญา ลงบน “ดวงหฤทัย” ของเจ้าชายรามเรซ

เป็นดังพันธะสัญญา ที่จะพันธนาการหัวใจของเธอกับเจ้าชายให้ร้อยเรียงเอาไว้ด้วยกัน อย่างไม่มีวันหลบหนี หรือทอดถอนได้จนตลอดกาล


ไม่มีทางที่ลูกแกะธรรมดาผู้แสนซื่อและบริสุทธ์ จะสามารถเอาชนะหรือรอดพ้นจากเงื้อมมือของราชสีห์ผู้ที่สุดแสนจะเจ้าเล่ห์ได้อย่างแน่นอน

Xหทัยรักจ้าวทะเลทรายX






ศศิธาราริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 มิ.ย. 2557, 17:57:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 มิ.ย. 2557, 17:57:30 น.

จำนวนการเข้าชม : 1609





<< 7 (ลบ)   9 (ลบ) >>
ร้อยวจี 16 มิ.ย. 2557, 18:32:50 น.
เจ้าชายเจ้าเล่ห์มากๆๆๆๆ ไร้ท์เตอร์มาอาทิตย์ละตอนเองหรือ อยากอ่านอีก มาบ่อยๆน้า


แว่นใส 16 มิ.ย. 2557, 19:50:16 น.
หลงกลเต็ม ๆ


รรวโรจน์ 17 มิ.ย. 2557, 11:04:56 น.
ฟินตรงที่ "อยากให้ทำให้กินทุกวัน นับจากนี้ จนตลอดชีวิต "


Zephyr 17 มิ.ย. 2557, 18:51:21 น.
นั่น ลงหลุมละ
ต้อนง่ายๆเลย ฮ่าๆๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account