ต้นทางของความรัก...ปลายทางของสองเรา
เมื่อความรักครั้งแรกถูกมองว่าเร็วเกินไป
เพชรกล้า เลยไม่คิดจะมีมันอีกแล้วล่ะความรัก
จนได้มาเจอเขา ภวัคร คนที่เคยคุ้น แต่กลับเพิ่ง คุ้นเคย
ความรัก ที่ไม่อยากมี จึงกลับมา
Tags: รักร่วมเพศ

ตอน: ตอที่1 พี่ชายคนเก่า

สวัสดีค่ะ ก็ลองเอานิยายมาฝากไว้นะคะ
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ที่ห้องเรียนหนึ่ง ในมหาวิทยาลัยชื่อดังมีเสียงเกมจากโทรศัพท์มือถือดังแทรกมากับเสียงคุยจอแจของเพื่อนในห้อง แต่แล้วเจ้าของเสียงเกมก็ต้องวางมือถือลงเมื่อเห็นเงาของใครบางคนเดินเข้ามาดูท่าทางแล้วจะไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่

“เป็นอะไรของนายวะเฟย์ หาสาว ๆ รองรับอารมณ์ไม่ได้เหรอครับ”เพชรกล้าแกล้งหันไปถามเพราะพอจะรู้ต้นเหตุของความหงุดหงิดของเพื่อนดีว่าคงไม่พ้นเรื่องฝึกงานก่อนจะจบการศึกษาปีสุดท้ายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

“พูดดีไปนะครับคุณชายรอง เราแม่งไม่เข้าใจเลยว่ะ มอเราทำไมเขาไม่ให้ฝึกงานกับที่บ้านวะ ทั้ง ๆ ที่บ้านเราก็มีกิจการใหญ่โตรองรับ รอลูกชายคนโตอย่างเราไปสืบทอดอยู่แท้ ๆ”อัคนีกลับพูดที่เล่นที่จริงทั้งที่ยังหัวเสีย

เพชรกล้านึกขำอยู่ในใจ คุณชาย รองเขาคงเป็นได้แค่นั้นจริง ๆ อัคนีเพื่อนรักยังรู้ว่าเรียนไปเพื่ออะไรแต่เขานี่สิ จะเรียนบริหารธุรกิจไปเพื่ออะไร ทั้ง ๆ ที่ที่บ้านก็มี พชร พี่ชายคนโตสืบทอดกิจการของที่บ้านอยู่แล้ว พี่ชายที่ทั้งเก่งทั้งแสนดี

“เฮ้ย! ไอ้เจนายอย่าเพิ่งเซ็งสิวะ เราก็แค่พูดเล่น พี่เอเขาก็รอนายไปช่วยงานเขาอยู่นะ ว่าแต่นายได้ที่ฝึกงานรึยังวะ ดูนายจะสบายอารมณ์มากเลยนะ”คนปากเสียรีบปลอบใจวนกลับมาเรื่องจริงจัง

“ก็นะ พี่เอเขาจัดการให้แล้ว บริษัทSSRSRV”

“เจ๋งว่ะ เราก็ยื่นเรื่องไปนะเว้ย แต่เขาปฏิเสธ ตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการฝึกหัดปีหนึ่งเขารับแค่คนเดียว ซึ่งคุณหวานลูกคุณหญิงป้าศรีชิงตัดหน้าเราไปก่อน”พูดแล้วก็หันไปหาคุณหวานที่ว่า ผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้หวานสมชื่อจริง ๆ จนเขาเองก็อยากจะลองชิมสักครั้งว่าเนื้อกายจะหวานด้วยรึเปล่า แต่ความคิดเขาก็สะดุด ในเมื่อคุณหวานเอาตำแหน่งที่ว่านั้นไปได้ แล้วเพื่อนเขาจะไปฝึกงานอะไร ก็ในเมื่อพวกเขาเรียนมาในคณะเดียวกัน “แล้วนายไปฝึกตำแหน่งอะไรวะ ก็คุณหวานเธอก็ได้ฝึกงานไปแล้ว”

“ไม่รู้สิ พี่เอเขาจัดการ แล้ววันนี้เราก็ต้องไปพบคุณภวัครกับพี่เอ โคตรเสียเวลาเล่นเกมเลย”

“เฮ้ย! กล้าพูดนะ นายรู้ไหมว่านักธุรกิจชั้นนำของประเทศเรา แล้วแถมอาเซียน ต้องการเจรจาธุรกิจกับคุณภวัครแต่เขากับปฏิเสธไปเกือบทั้งหมด เข้าถึงตัวยากมาก นายโชคดีแค่ไหนที่ได้พบ พี่เอนี่สุดยอดจริง ๆ”

ต่อเพชรกล้าก็นั่งฟังคำสรรเสริญพี่ชายจากปากเพื่อนรัก และเพื่อนร่วมห้องที่มาเข้าร่วมวงสนทนาตอนไหนก็ไม่รู้ แล้วก็ฟังคำว่าอิจฉาจากเพื่อน ๆ ที่เขาจะได้พบกับภวัครแบบส่วนตัว

‘คุณชายใหญ่คนนี้ชอบความเป็นส่วนตัวมาก’



เวลาเกือบจะ19.00 น. เพชรกล้าเดินตามพี่ชายของเขามายังห้องอาหารของโรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพฯ ที่เป็นโรงแรมและสำนักงานใหญ่ของบริษัทSSRSRV ที่ที่เพชรกล้าจะเข้ามาฝึกงานในวันพรุ่งนี้ แล้วทำไมคุณเจ้าของถึงเปิดโอกาสเสียสละเวลาอันเลอค่ามาให้เขาพบตัวด้วยล่ะ

“สวัสดีโดม”

“โดม”

หลังจากเสียงของพชรจบเพชรกล้าก็อุทานชื่อนั้นตามพร้อมกับมองตามไปยังเจ้าของชื่อนั้น เกือบจะสิบปีแล้วใช่ไหมที่ไม่ได้ยินพี่ชายเรียกชื่อนี้ โดม เขาคือ ภวัคร สุขสำราญศิริวงศ์คนที่เข้ามารับหน้าที่ประทานกรรมการคนใหม่ของSSRSRV Group แห่งประเทศไทย

ภวัครเงยหน้าจากจอมือถือแล้วมองไปยังเพื่อนเก่า ทั้งเพื่อนรักที่พบเจอกันอยู่บ้างและเพื่อนรุ่นน้อง เพื่อนน้องชาย น้องเพื่อน หรือ...

“เจจำโดมได้ใช่ไหม พี่รู้ว่าแกจำได้ คุยกันไปนะ แล้วแกก็หาแท็กซี่กลับเอา โดมฉันขอตัวก่อนกลับบ้านมีนัดกับลูกสาว”พชรพูดถึงลูกสาวแล้วยิ้ม ซึ่งผิดกับเพชรการเมื่อได้ยินสิ่งที่พี่ชายพูดรอยยิ้มบนใบหน้าก็เริ่มหายไป

“ได้ ไว้เจอกันใหม่”เมื่อเพื่อนรักรีบใช้วิชาหายตัวไปหลังจากทิ้งน้องชายไว้ให้ เขาก็หันกับมายังชายหนุ่มอีกคนที่ใส่ชุดนักศึกษาไม่สมบรูณ์และยืนมองพี่ชายที่ลับตามไปด้วยสายตาไม่สุขใจนัก น้องชายคนนี้กลัวการพบเจอเขารึอย่างไร

“เจ โตขึ้นเยอะเลยนะ”

ภวัครมองอดีตเด็กชายร่างท่วมที่ตอนนี้เปลี่ยนหนุ่มหล่อรูปร่างดี สูง ขาว หน้าตาหล่อเหลา ไม่แปลกที่เขาได้ยินข่าวมาว่าเพชรกล้าเป็นคนเจ้าชู้ มีสาวสวยระดับนางเอง นางแบบก็คงจะเป็นความจริง

เมื่อเพชรกล้าได้ยินเสียงเพื่อนพี่ชาย เขาก็หันมาหาเจ้าของเสียง ชายในชุดสูทสีขาว ผิวสีเข็มแต่ดูดี ดวงตาเรียวนัยน์ตาดำสนิทส่องประกายวาว จมูกคมเป็นสันเด่นจนวางตาไม่ลง ริมฝีปากเรียวยกขึ้นสร้างความเป็นมิตร น้ำเสียงอ่อนโยนแต่กลับแฝงไปด้วยพลังอำนาจ

เพชรกล้าหยุดพิจารณาเพื่อนพี่ชายและหันมองไปรอบห้องพบว่าในห้องอาหารตอนนี้มีคนอยู่เพียงสามคนเท่านั้น มีเขา ภวัคร และผู้ชายท่าทางอีกคนที่นั่งอยู่ไม่ไกล เขาดูดีไม่ต่างจากภวัครนัก ผิวออกเหลือง จมูกได้รูปแต่ไม่ได้เป็นจุดเด่นของไปหน้าเท่ากับลักยิ้มที่ปรากฏตอนที่ยิ้มเมือเพชรกล้าหันไปมอง ให้เดาก็คงจะเป็นคนสนิทของภวัคร คำพูดของอัคนีที่ว่า ‘คุณชายใหญ่คนนี้ชอบความเป็นส่วนตัวมาก’ ดูจะถูก

“ครับพี่โดม เอ้ย! คุณภวัคร”พอเห็นความภูมิฐานที่มีของภวัครทำให้เพชรกล้ารีบเปลี่ยนสรรพนามที่เคยใช้

“เรียกพี่เหมือนเดิมก็ได้นะ รึลืมพี่ไปแล้ว”

“ห๋า!”เพชรกล้าที่กำลังจะนั่งเก้าอี้เกือบจะหงายหลังเมื่อได้ยินสิ่งที่พี่ชายคนเก่า ทำไมถึงทำให้เขาขนลุกอย่างบอกไม่ถูก “ยังครับยัง พี่โดมก็ดูเปลี่ยนไปเยอะนะครับ เป็นผู้ใหญ่ที่น่า...นับถือเชียว”

“อ๋อ...”

คำพูดของทั้งคู่หายไปเมื่อบริกรนำอาหารมาเสิร์ฟ มีอยู่สองที่ของภวัครเป็นสเต็กปลา อีกที่เป็นผลไม้สดหันพร้อมทานที่จะเป็นของใครไม่ได้นอกจากเพื่อนร่วมโต๊ะอีกคน

“พี่จำได้ว่าเจไม่ทานมื้อเย็น ไม่รู้ว่ายังเป็นเหมือนเดิมไหน”

“ก็ครับ”

แล้วก็เกิดความเงียบขึ้นอีกครั้งเมื่อภวัครลงมือทานอาหาร เพชรกล้าเองก็ไม่กล้าพูดอะไร ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนนั้นพวกเขาสี่คนสนิทสนมกันมาก ด้วยความที่พชรและภวัครเป็นเพื่อนที่เรียนห้องเดียวกัน ส่วนตัวเพชรกล้าก็เป็นเพื่อนที่เรียนห้องเดียวกับภัทรวัตรน้องชายภวัคร

วันทั้งวันมีเรื่องให้ได้สนุกตลอด วันเสาร์เขากับพี่ชายก็จะไปอยู่บ้านภวัคร วันอาทิตย์ภวัครกับภัทรวัตรก็จะมาอยู่บ้านเพชรกล้า แต่พอพชรและภวัครจบเกรด12 ภวัครถูกส่งตัวไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา ส่วนเขาก็ย้ายไปอยู่กับตายายที่ต่างจังหวัดตอนที่เกิดเรื่องแย่ซ้ำซ้อน อีกปีต่อมาภัทรวัตรจบเกรด9 ก็ตามไป ก็คงมีแต่พชรที่ติดต่อกลับเพชรกล้าอยู่บ้าง และย้ายกลับมาตอนที่จบมอ6
“นานแล้วที่พี่ไม่ได้กินข้าวกับใคร”น้ำเสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นแทรกความเงียบ มันดูเหงาอย่างบอกไม่ถูก จนคนพูดต้องรีบปรับให้มันปกติในประโยคต่อมา“นายดั้มตอนที่ย้ายไปก็ดูเงียบ ๆ ไป เอาแต่เรียน อยู่กับพี่ได้อาทิตย์เดียวก็ย้ายไปอยู่หอ พอกลับมาคุณพ่อพี่ก็ให้พี่ทำงานจนแทบไม่มีเวลานั่งกินข้าว เจล่ะเป็นไงบ้าง”

“ก็เฮฮากับเพื่อนไปเรื่อยครับ แล้วก็...นานแล้วเหมือนกันที่ไม่ได้กินข้าวในที่เงียบ ๆ แบบนี้”

“เที่ยวบ่อยเหรอ”

“ครับ เที่ยวเล่นไปวัน ๆ ล่ะครับ ที่ที่ผมเรียนค่อนข้างสบาย เวลาผมก็เลยมีเยอะ งานพี่เอก็ทำไป ผมก็เล่นไป แอลก็เรียนไป”เสียงที่พูดออกมาดูเรียบเฉย แต่พอภวัครมองรอยยิ้มที่มุมปากนั้นก็ทำให้รู้ว่าเพชรกล้าคงประชดอยู่

“นิสัยเธอดูเด็กลงรึเปล่าเจ ก่อนที่พี่จะไปเรียนต่อเธอเป็นผู้ใหญ่กว่านี้มากนะ”

ฉึก! ทำไมคำพูดนี้มันช่างทิ่มแทงคนฟังอย่าเพชรกล้าเหรอเกิน

‘เจ้าเจมันเป็นเด็กก็ต้องเป็นเด็กอยู่วันยันค่ำ ฉันไม่มีทางที่จะให้เจ้าเจมาตัดสินใจเรื่องใหญ่หรอก เจ้าเอมันโตกว่า เป็นพี่ชายคนโตฉันจะฝึกมันให้มาสืบทอดกิจการของฉัน’

นี่เป็นครั้งแรกที่เพชรกล้าเห็นพ่อกับแม่ทะเลาะกัน หลังจากที่เขาได้ทำความผิดพลาดครั้งใหญ่จนงานของพ่อเกือบพัง ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ตั้งใจ แต่ทำไมพ่อถึงพูดแบบนี้ เขาที่พ่อมักจะสอนทุกอย่างให้ การตลาด ความคิดของนักธุรกิจ เขาที่พ่อบอกว่าหวังจะให้ช่วยพ่อสืบทอดกิจการแทนพี่ชายที่มีแนวโน้มจะชอบศิลปะ

‘แต่ที่ผ่านมาคุณให้ความหวังลูกมาตลอด’

‘แล้วใครกันล่ะที่มันทำผมผิดหวัง ตัวเท่าลูกหมาแต่กลับทำผมขายหน้า ถ้าไม่ได้เจ้าเอช่วยมันจะมาหาทางออกอย่างไร เพราะฉะนั้นต่อให้มันอดตายเจ้าเอก็จะรับผิดชอบชีวิตมันแทนตัวมันเอง’

นี่ละมั่งที่ทำให้คนที่เคยใฝ่เรียนรู้ต้องมาติดเกม ติดสาว ใช่ชีวิตเสเพล กิน ดื่ม เที่ยว จนเกิดเรื่องใหญ่อีกเรื่องตามมาในเวลาไม่นาน และคนที่รับผิดชอบคงจะไม่พ้น พชร พี่ชายที่ผู้เป็นพ่อบอกให้ดูแลชีวิตเขาไปตลอด

“เป็นเพราะเรื่องโจรขโมยเงินลูกค้ารึเปล่า เจโกรธที่ไม่มีใครเชื่อใช่ไหม”

เพชรกล้าเหล่ตามองคนถามนิดหน่อยก่อนจะล่วงมือไปหยิบโทรศัพท์ที่กระเป๋ากางเกงดูข้อความที่แก๊งเพื่อนส่งมาชวนไปเที่ยวราตรีอันงดงาม ความรู้สึกลังเลเกิดขึ้นมาอย่างที่ไม่เคย เขาอยากจะเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อนให้พี่ชายคนนี้ฟังเหลือเกิน แต่พี่ชายที่แสนของเขาคงจะเล่าให้ภวัครฟังไปแล้ว

“โกรธน่ะ ไม่มีแล้ว ผมไม่ชอบจำ ผมเลิกจำไปนานแล้ว”

“อย่างนั้นเหรอ เอาเป็นว่าเรามาเข้าเรื่องที่พี่ให้เจมาหา พอดีบริษัทพี่ไม่ค่อยรับนักศึกษาฝึกงานเท่าไหร่ ตำแหน่งที่รับก็มีคนมาทำเรื่องก่อนหน้าเจแล้ว พี่ก็เลยให้เจมาเป็นผู้ช่วยของเลขาพี่ คุณชิตวรผมรบกวนทางนี้หน่อย”ภวัครส่งเสียงดังขึ้นมาหน่อยเพื่อเรียกคนที่นั่งห่างออกไป

“ครับคุณภวัคร”

“นี่คือคุณเพชรกล้านะ คนที่ผมฝากให้คุณช่วยดูแล สอนงาน”

“ครับ สวัสดีครับคุณเพชรกล้า”น้ำเสียงสุภาพเอ่ยทักทายจนเพชรกล้าแอบตกใจ เพราะไม่ค่อยเจอใครสุภาพถึงขั้นนี้

“สวัสดีครับ...คุณ...คุณ”

“ชิตวรครับ”ชิตวรแนะนำตัวอีกครั้ง

“หน้าที่ของเจคุณชิตวรจะเป็นคนแนะนำในวันพรุ่งนี้นะ ส่วนเสื้อผ้าผมรบกวนคุณจัดส่งไปที่บ้านของคุณเพชรกล้าด้วย”ประโยคหลับหันไปสั่งเลขาส่วนตัว

“พี่โดมเดี๋ยวนะครับ พรุ่งนี้อะไร เสื้อผ้าอะไร ผมไม่เข้าใจ”

“เจคงจะหมายความว่าโปรแกรมฝึกงานมันต้นเดือนหน้าใช่ไหม แต่พี่ว่าหน้าที่เลขามันค่อนข้างเยอะ ต้นเดือนหน้าพี่มีประชุมนักธุรกิจที่อเมริกา ถ้าไปตอนนั้นเลยเจคงจะแย่ ฝึกมันเนิน ๆ แบบนี้แหล่ะ หรือเจไม่สะดวก”

เพชรกล้าแอบขอเวลาอึ้งสักห้าวินาที ทำงานเร็วแบบนี้เขาที่เอาแต่เล่นมาหลายปีจะปรับตัวทันได้อย่างไร แต่ถ้าปฏิเสธไปเกิดภวัครเปลี่ยนใจไม่ให้เขาฝึกงานด้วยล่ะ จะไปหาที่อื่นฝึกเวลาก็อีกแค่สามอาทิตย์จะต้องไปรบกวนพี่ชายที่แสนดีอีกนะเหรอ ไม่ล่ะ แค่นี้ก็เกรงใจพระคุณจนไม่รู้จะไปตอบแทนแบบไหนแล้ว

“สะดวกครับ”

“ดีแล้ว ส่วนเรื่องเสื้อผ้า บริษัทพี่มีชุดฟอร์มให้ พนักงานทุกคนจำเป็นต้องใส่ ผู้ชายก็จะเป็นแบบคุณชิตวร”

เพชรกล้าหันไปดูชุดสูทสีชมพูอ่อน มันจะไม่หวานไปเหรอ เป็นสีอื่นก็ไม่ได้สีชมพูมันเป็นสีที่เขาเกลียดที่สุด เพราะมันเป็นชื่อของคนที่เขาเคยรัก แต่กลับไปสร้างครอบครับที่แสนอบอุ่นกับพี่ชายที่แสนดี เหตุผลเพียงว่าเขาเป็นเด็ก ที่ทำให้เขาเสียทุกอย่างไป คนรักและ...

///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
พูดคุยกันได้นะคะ



เพียงใจกล้า
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 พ.ย. 2557, 13:55:15 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 พ.ย. 2557, 13:59:09 น.

จำนวนการเข้าชม : 774





เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account