โซ่ตรวนสวาท

Tags: โรมานซ์,อีโรติก,นิยายรัก

ตอน: ตอนที่ 1

อ่านสักนิด เดี๋ยวจะหาว่าไม่บอกก่อนเนาะ
1. นิยายเรื่องนี้จะลงให้อ่านแค่ 50% เท่านั้นนะจ๊ะสาวๆ
2. นิยายเรื่องนี้เป็นแนวอีโรติก เรท 25+ แต่ที่เวบนี้จะตัดเรทพวกนี้ทิ้งหมดนะจ๊ะ (เพื่อไม่ให้ขัดกับกฏของเวบ)
3. แล้วจะอ่านที่มีเรทจัดเต็มได้ที่ไหน แจ้งตรงนี้เลยว่ามี 3 เวบคือ ห้องสมุด ธัญวลัย และbigger ไม่ลงลิ้งนะจ๊ะ
4. นิยายเรื่องนี้มีแบบ E-book อย่างเดียวเท่านั้นนะจ๊ะ โหลดได้ 3 เวบ เช่นกันคือ ที่ Meb hytexts (EPUB) และที่ebooks นะจ๊ะใครสะดวกเวบไหนตามโหลดเลย ราคาเบาๆ สบายกระเป๋า 99 บาทเท่านั้น
5. ถามว่าจะมีแบบรูปเล่มไหม (ใครถามอันนี้ถามเองเผื่อมีคนอยากรู้ อิอิอิ) ขอดูกระแสนิดหนึ่ง ถ้ามีคนต้องการพอสมควร ก็อาจจะทำเป็นรูปเล่ม อันนี้ไม่ขอรับปากนะจ๊ะ ใครอยากได้แบบรูปเล่ม ลงชื่อได้ที่ kesmani1@hotmail.com นะคะ ขอดูก่อนถ้าทำจะเปิดจองและแจ้งคนที่ลงชื่อไว้ทางอีเมลนะจ๊ะ ^^

ตอนที่ 1

ทันทีที่ร่างสูงก้าวลงจากรถแท็กซี่ดวงตาสีน้ำตาลเข้มก็กวาดสายตามองบ้านสีขาวผ่านรั้วอัลลอยย์ตรงหน้า

บ้านหลังนี้เดิมทีเป็นของครอบครัวเขา แต่เมื่อหลายปีก่อนไมกาห์คนที่เป็นทั้งเพื่อนและเจ้านายขอซื้อเพื่อใช้เป็นเรือนหอ เพราะเป็นสถานที่ที่ทั้งสองผูกพันกัน แต่ตอนนี้ทั้งคู่ได้ย้ายไปอยู่ที่อังกฤษอย่างถาวรแล้ว บ้านหลังนี้จึงเก็บไว้เป็นที่พักเมื่อมาเมืองไทย

และตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ที่นี่ไม่เปลี่ยนแปลงเลยแม้เขาไม่ได้กลับมาหลายปี แต่ก็อย่างว่าจ้างคนดูแลให้นี่นะและอีกอย่าง เขาไม่ได้มาหลายปี แต่ไมกาห์กับครอบครัวก็มาทุกปีอยู่แล้วนี่ ชายหนุ่มคิดพลางกระชับกระเป๋าเดินทางใบโตบนไหล่ ก่อนจะเบนสายตาไปยังบ้านที่อยู่ถัดออกไปอีกสองหลังแล้วถอนหายใจ

มันเป็นอดีตไปแล้ว...

คาร์ลอสบอกตัวเองก่อนจะหันมากดกริ่งหน้าบ้านแล้วยืนเอาไหล่พิงขอบรั้ว ก้มมองปลายร้องเท้าหนังคู่เก่งที่เขี่ยเศษใบไม้ครู่หนึ่ง ก่อนจะชะเง้อคอมองผ่านรั้วเข้าไปภายในบ้าน เมื่อยังไรเงาคนที่จะมาเปิดประตูให้เขาก็กดมันซ้ำอีกครั้งคราวนี้เขากดค้างไว้จนกระทั่งเห็นร่างของชายสูงอายุคนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบมาและท่าทางหัวเสียเล็กน้อยกับเสียงกริ่งที่ดังไม่ยอมหยุด

เมื่อเห็นคนที่มาก่อกวนกดกริ่งชนิดไม่เกรงใจทำให้ชายสูงวัยขมวดคิ้วมองชักสีหน้าไม่พอใจหนักกว่าเดิมจากตอนแรกนึกว่าเด็กเล่นซน แต่ที่ไหนได้ผู้ใหญ่ไร้มารยาทที่ไหนก็ไม่รู้

“มาหาใครครับ” คาร์ลอสกระตุกยิ้มเมื่อเห็นผู้สูงวัยกว่าถามเสียงเข้มพลางชักสีหน้าไม่พอใจกับการกระทำของเขาอย่างรู้สึกสนุกมากกว่าเกรงกลัว

“ไม่ได้มาหาใครครับ แต่จะมาขออาศัยบ้านหลังนี้สักเดือนสองเดือน” คำตอบที่ได้รับทำให้ชายสูงวัยตวัดสายตามองชายหนุ่มร่างสูงในชุดเสื้อยืดสีดำกางเกงยีนรองเท้าหนังผมยาวประบ่าใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเคราแถมสวมแว่นกันแดดสีดำนั่นยิ่งทำให้ใบหน้ารกๆ นั้นดูน่ากลัวจนเขาเองไม่กล้าเข้าใกล้ เว้นระยะห่างจากรั้วบ้านพอสมควร ก่อนจะมองเลยไปที่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่บนหลัง แล้วถอนหายใจ นักท่องเที่ยวหาที่พักอย่างนั้นหรือ แล้วหลงมาที่นี่ได้ยังไง

“ไม่ได้หรอกคุณ นี่มันบ้านส่วนบุคคลไม่ใช่บ้านเช่า ไปหาเอาที่อื่นเถอะ” ว่าพลางโบกไม้โบกมือไล่แล้วหมุนตัวจะเดินกลับเข้าบ้านไปทำงานของตัวเองต่อ

“นี่ลุงจำผมไม่ได้จริงๆ เหรอครับ” หน้าตาก็ฝรั้งฝรั่งถึงจะพูดไทยปร๋อก็เถอะ แต่ไม่คิดว่าจะเล่นมุกคนรู้จัก ลุงพงษ์คิดพลางหันไปยิ้มแยกเขี้ยวใส่นักท่องเที่ยวจอมตื้อ

“ผมไม่เคยรู้จักมักจี่กับฝรั่ง”

“แม้แต่เจ้าของบ้านหลังนี้อย่างนั้นหรือครับ” ยังไม่ทันที่ลุงพงษ์จะได้ตอบเสียงตะโกนถามจากใครบางคนก็ดังมาจากรถหรูที่วิ่งมาชะลอหน้าบ้าน

“มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าคะลุง” การถูกขัดจังหวะการสนทนา ทำให้คาร์ลอสเอี้ยวตัวไปมอง แล้วชะงักใจกระตุกวูบเมื่อเห็นหน้าตาของหญิงสาวที่นั่งคู่คนขับชัดๆ

เขาจำเธอได้ดีไม่เคยลืม แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะลืมเขาไปแล้ว

“ไม่หรอกครับแค่นักท่องเที่ยวหลงทาง” ลุงพงษ์บอกพลางปรายตามองร่างสูงของนักท่องเที่ยวที่ตัวเองคิดว่าน่าจะหลงทางเล็กน้อย และฝ่ายนั้นทำเพียงยักไหล่ไม่ได้คัดค้านอะไร

“อย่างนั้นเหรอคะ งั้นแก้วไปนะคะ” กิ่งแก้วบอกพลางขมวดคิ้วเพ่งมองนักท่องเที่ยวหลงทางร่างใหญ่ที่คลับคล้ายคลับคลาคุ้นตาเหมือนเคยเห็นที่ไหนจนกระทั่งสายตาถูกกั้นด้วยกระจก

“ลุงรู้จักด้วยหรือครับ” คาร์ลอสทำเสียงหึขึ้นจมูกพร้อมกับหมุนตัวมองตามรถหรูแล้วยิ้มเหยียด

“รู้จักสิ ก็คุณแก้วเธอเป็นเพื่อนกับเจ้าของบ้านนี่ครับ คุณเองก็รีบไปหาที่พักเถอะลุงช่วยอะไรไม่ได้หรอก ตื้อไปก็เปล่าประโยชน์ มะรืนนี้เจ้าของบ้านเขาก็จะกลับมาแล้ว” บอกเชิงไล่และจะหมุนตัวกลับเข้าบ้านอีกครั้งอย่างไม่สนใจหรอกว่านักท่องเที่ยวหลงทางคนนี้จะไปหาบ้านพักที่ไหนต่อ

“แสดงว่ามาก่อนเข้าบ้านไม่ได้ใช่ไหมครับลุง” ชายหนุ่มถามกลั้วหัวเราะพลางถอดแว่นกันแดดออกมาถือเอาไว้ นั่นทำให้ลุงพงษ์หยุดชะงักหันกลับมามองหน้านักท่องเที่ยวจอมตื้อแบบชัดๆ

ชายสูงวัยหรี่ตามองพร้อมกับเดินมาจนชิดประตูรั้ว พิจารณาเจ้าของร่างสูงที่ยืนยิ้มกริ่มยักคิ้วให้ตนอย่างคนขี้เล่น “คุณคาร์ล!” ลุงพงษ์อุทานเสียงหลงและมันมาพร้อมความรู้สึกประหลาดใจ ไม่คิดว่านักท่องเที่ยวหลงทางจะเป็นคาร์ลอส นี่ถ้าไม่ถอดแว่นจ้างให้เขาก็ไม่มีทางรู้ ก็ดูสิผมเผ้าหนวดยาวรุงรังบดบังความหล่อเหล่าที่ตนเคยเห็นจนหมด

“บราโว้...ผมมีที่ซุกหัวนอนแล้ว” ชายหนุ่มบอกอย่างอารมณ์ดี ผิดกับผู้สูงวัยที่ยิ้มแหยๆ แล้วรีบกุลีกุจอเปิดประตูต้อนรับชายหนุ่มอย่างรู้สึกผิด

“ขอโทษนะครับ ไม่คิดว่าคุณคาร์ลจะมาก่อนกำหนด แถมไว้หนวดเคราซะลุงจำไม่ได้”

“ผมแกล้งลุงไปอย่างนั้นเองแหละ” บอกพลางเดินเข้าบ้าน ที่สภาพไม่ต่างกับเมื่อหลายปีก่อนเลย ทั้งนี้เพราะไมการ์คนที่เป็นทั้งเจ้านายและเพื่อนได้ว่าจ้างคนมาดูแล และหนึ่งในนั้นคือลุงพงษ์ที่พักประจำอยู่ที่นี่ ส่วนอีกคนคือแม่บ้านที่ไปกลับคอยมาดูแลทำความสะอาดภายในบ้าน เตรียมพร้อมให้เจ้าของบ้านมาพักได้ทุกเมื่อ

“ลุงสบายดีนะครับ” คาร์ลอสหันมาถามสารทุกข์สุขดิบของคนสวนอย่างไม่ถือตัว

“สบายดีครับ ทำงานกับต้นไม้ดอกไม้ไม่มีปากมีเสียง สบายยิ่งกว่าสบายอีกครับ” ชายสูงวัยบอกเสียงกลั้วหัวเราะ นั่นทำให้คาร์ลอสหัวเราะตามพร้อมกับเอ่ยปากล้อ “มิน่าลุงถึงอยู่เป็นโสดมาจนทุกวันนี้” เขาซึ่งเป็นคนจัดหาและว่าจ้างลุงพงษ์เองจึงรู้ประวัติแกดี

ผู้สูงวัยไม่ว่าอย่างไรได้แต่หัวเราะชอบใจ ก่อนแกจะขอตัวไปทำงานต่อเมื่อเดินมาถึงบริเวณที่แกยังทำงานค้างเอาไว้ “มีอะไรเรียกใช้ผมได้ตลอดนะครับ”

คาร์ลอสพยักหน้ารับน้อยๆ ในขณะที่ลุงพงษ์ผละออกไปเปิดน้ำรดต้นไม้ต่อ ชายหนุ่มยืนเหมือนชั่งใจอยู่ครู่ ก่อนจะเดินต่ออีกสองสามก้าวแล้วหยุดถอนหายใจเฮือกใหญ่หมุนตัวเดินตรงมาหาผู้สูงวัยที่กำลังขะมักเขม้นทำงานคล้ายกับคนข้องใจอะไรบ้างอย่าง

“ลุงครับ” ทันทีที่ได้ยินชายหนุ่มเรียกลุงพงษ์ก็รีบปิดน้ำวิ่งมาหา “ว่าไงครับ อ้อ คงจะเป็นกุญแจห้อง ผมนี่ก็ลืม เดี๋ยวๆ นะครับผมจะไปเอาให้” พูดจบผู้สูงวัยก็จะวิ่งกลับไปที่ห้องพักเพื่อเอากุญแจห้องทุกห้องที่ตนเป็นคนเก็บรักษาเอาไว้มาให้ชายหนุ่ม ทว่าคาร์ลอสกลับร้องห้ามเอาไว้เสียก่อน

“กุญแจห้องผมมีอีกชุดอยู่แล้ว”

“อ้าว หรือครับ” ผู้สูงวัยทำหน้างงๆ “ถ้างั้นคุณคาร์ลมีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ”

คาร์ลอสอ้ำๆ อึ้งๆ อยู่ครู่หนึ่ง ความอยากรู้มีมาก ก่อนจะถามออกไปในที่สุด

“ลุงรู้ไหมครับว่าคนที่แก้วนั่งรถไปด้วยเป็นใครครับ” ถามแล้วก็กลั้นใจรอคำตอบ เมื่อลุงพงษ์ทำท่านึกแล้วพยักหน้ายิ้มๆ “แฟนคุณแก้วครับ”

“แน่ใจนะลุง”

“ล้านเปอร์เซ็นครับ ลุงเห็นไปรับไปส่งกันประจำ”

“แล้วลุงรู้ได้ไงว่าพวกเขาเป็นแฟนกัน” ชายหนุ่มถามอย่างมีความหวังว่าลุงพงษ์อาจจะเข้าใจผิดคิดเองเออเองก็ได้

“ก็พ่อหนุ่มคนนั้นเขาเป็นคนบอกลุงเอง และคุณแก้วก็ไม่ได้ปฏิเสธ แถมยิ้มอายๆ” ลุงพงษ์บอก ก่อนจะเล่าเรื่องราววันนั้นให้เจ้านายหนุ่มฟังว่า วันนั้นกิ่งแก้วกลับมาจากข้างนอกแล้วแวะเอาขนมมาฝากตน และด้วยความสนิทสนมอีกทั้งหญิงสาวก็เป็นคนช่างคุย จึงพูดคุยสารทุกข์สุขดิบคุยเรื่องโน้นนี่นั่นไปเรื่อยเพลินจนลืมคนที่รออยู่บนรถ

และด้วยความเกรงใจกิ่งแก้วอยู่มากทำให้ชเนศที่ตอนนี้ลงจากรถเดินหน้าตึงมาตามแฟนสาวหันไปเล่นงานลุงพงษ์ที่ดูก็รู้ว่าเป็นแค่ลูกจ้าง ว่า ‘นี่ลุงจะคุยกับแฟนผมอีกนานไหม’ ได้ยินอย่างนั้นกิ่งแก้วจึงบอกลาและเดินนำแฟนหนุ่มไปขึ้นรถ

คาร์ลอสถอนหายเฮือกใหญ่ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เขาเพิ่งรู้ ทว่าพอทราบมาก่อนจะมาที่นี่จากภรรยาของไมกาห์ ซึ่งเป็นเพื่อนกับกิ่งแก้วว่าหญิงสาวมีแฟนแล้ว และมีมาได้หลายเดือนแล้วด้วย ที่ถามลุงพงษ์เพื่อจะย้ำว่าสิ่งที่ได้รับรู้ว่ามันคือเรื่องจริง

“ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มพูดเพียงเท่านั้นก็หมุนตัวเดินเข้าบ้านไป ด้วยสีหน้าและท่าทางที่หงอยๆ ลงไปกว่าเดิม

เธอคงลืมเขาแล้วจริงๆ สินะ...



นักท่องเที่ยวหลงทางเมื่อครู่ทำให้กิ่งแก้วนึกถึงใครบางคนหลังจากนั่งคิดมาตลอดทาง และชั่วขณะเธอถึงกับใจกระตุกวูบก่อนจะสะบัดศีรษะบอกตัวเองว่าเป็นไปไม่ได้ ถ้าผู้ชายคนนั้นคือคาร์ลอสลุงพงษ์ต้องรู้จักสิ

“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” กิ่งแก้วหันมายิ้มน้อยๆ ให้กับคนถามแล้วส่ายหน้า “นี่เราจะไปไหนกันคะ” เธอถามอย่างคนไม่มีแผนในใจ แค่ชายหนุ่มมารับออกไปข้างนอกเธอก็มาดีกว่าอยู่บ้านด้วยความอึดอัดใจ เธอคิดเท่านั้น

“ทานข้าวแล้วไปดูหนังกัน แก้วอยากทานอาหารชาติไหนเป็นพิเศษไหม” กิ่งแก้วปรายตามองแฟนหนุ่มเจ้าสำอางและมีนิสัยไฮโซจ๋า อะไรๆ ก็ต้องเลิศหรูและแพงไว้ก่อนแล้วส่ายหน้า เพราะเชื่อได้เลยว่าอาหารอีสานร้านริมถนนที่เธออยากทานชายหนุ่มไม่มีทางยอมไปแน่

“ดีเลย เพราะพี่ตั้งใจจะพาแก้วไปทานอาหารจีน ร้านนี้พี่กับครอบครัวไปทานมาแล้วอร่อยมาก อาหารระดับฮ่องเต้ทั้งนั้นเชื่อเลยว่าถ้าแก้วได้ทานแล้วจะติดใจ” กิ่งแก้วยิ้มรับน้อยๆ ไม่ได้เอ่ยแย้งอะไร แม้ความจริงจะเป็นคนที่ทานอาหารรสจัดจ้าน ดังนั้นอาหารจีนที่มีรสชาติค่อนข้างจืดจึงไม่ใช่รสนิยมในการทานของเธอเท่าไหร่

“เดือนหน้าเราไปเกาหลีกันไหม” คนที่จู่ๆ ก็ถูกชวนไปเกาหลีแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยทำหน้าเหวอแล้วรีบถามกลับอย่างงงๆ

“ไปทำไมคะ”

“ไปทานอาหารเกาหลีกัน”

“ไปทานอาหาร!” กิ่งแก้วอุทานทำหน้าเบื่อหน่าย แค่ทางอาหารต้องหอบสังขารไปทานถึงเกาหลีเชียวหรือ เธอไม่เข้าใจจริงๆ

ตั้งแต่คบกันมาบ่อยครั้งที่แฟนหนุ่มชวนไปต่างประเทศด้วยเหตุผลที่ไม่เข้าท่า อีกทั้งยังขยันสรรหาที่จะไปเสียเหลือเกิน และแน่นอนแต่ละที่นั้นล้วนอยู่ต่างประเทศ เธอเคยถามทำไมไม่เที่ยวที่เมืองไทย ซึ่งเธอเชื่อว่ามีสถานที่ที่สวยงามเยอะแยะ สวนเรื่องอาหารก็หลากหลายเชื่อชาติและอร่อยไม่แพ้ต้นตำรับก็มีไม่น้อย คำตอบที่ได้รับคือ ‘เมืองไทยจะไปเที่ยวตอนไหนก็ได้’ ได้ยินอย่างนั้นแล้วเธอก็ไม่คิดจะโต้แย้ง เราจะไปห้ามความคิดของเขาก็คงจะไม่ได้ และอีกอย่างเงินที่เขาใช้ซื้อตั๋วและไปเที่ยวก็เงินเขานี่นา แม้ในความคิดมันจะเป็นการใช้จ่ายที่สุรุ่ยสุร่ายไร้ความจำเป็นก็ตาม

“ใช่ ทานที่ไทยมาหลายร้านแล้ว พี่เลยอยากไปลองทานของต้นตำหรับแท้ๆ ดูบ้าง ไม่ต้องห่วงนะพี่จะพาแก้วไปทานร้านที่ดีและแพงที่สุดในเกาหลีเลย ถือโอกาสไปเที่ยวด้วยยังไงล่ะ”

“ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้มั้งคะ” หญิงสาวบอกอย่างเกรงใจ “และอีกอย่างแก้วก็ต้องทำงานด้วย”

“ลาหยุดไม่ได้เหรอ พี่เห็นแก้วทำงานแทบจะไม่มีวันหยุดเลยนะ ทำงานหนักอย่างนี้สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องหาเวลาไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจบ้าง ทำแต่งานๆๆ เครียดตายเลย” ชายหนุ่มบอกอย่างเป็นห่วง แต่ในขณะเดียวกันกิ่งแก้วก็อยากจะบอกคนข้างๆ เหลือเกินว่าเขาก็สมควรไปทำงานทำการบ้าง ไม่ใช่วันๆ หาแต่ที่จะเที่ยว จำได้ว่าเจอกันครั้งแรกที่งานเลี้ยงเปิดตัวทายาทไฮโซบริษัทจิวเวอรี่ชื่อดัง ซึ่งน้าเขยเธอได้รับเชิญ เธอกับน้าจึงได้มีโอกาสไปร่วมงานเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ด้วย ได้ประกาศว่าชเนศคือทายาทที่จะสืบทอดกิจการทั้งหมด แต่ดูเจ้าตัวตอนนี้สิยังลอยชายไม่เห็นจะสนใจกิจการที่ว่าสักนิด งานนี้ไม่รู้จะรุ่งหรือจะร่วง

“แก้วชอบทำงานค่ะ ตอนนี้ยังมีแรงต้องรีบทำงานเก็บเงินเอาไว้เยอะๆ อนาคตจะได้ไม่ลำบาก” คำพูดนั้นของกิ่งแก้วทำให้ชเนศถึงกับหลุดหัวเราะออกมา “พูดอย่างกับคนแก่แน่ะ”

“แก้วคิดอย่างนั้นจริงๆ นี่คะ อนาคตไม่แน่นอน”

“เรากำหนดอนาคตได้ และอนาคตของแก้วสบายแน่นอน เพราะทันทีที่เราแต่งงานกันแก้วจะต้องลาออกจากงานมาเป็นแม่บ้านดูแลพี่คนเดียว” ชายหนุ่มบอกพลางหันมาส่งสายตาหวานฉ่ำมีความหมายมาให้ ทำเอากิ่งแก้วถึงกับวางหน้าไม่ถูก เพราะถึงจะคบกันมาได้สักระยะแล้ว แต่เรื่องนี้ไม่เคยอยู่ในหัวของเธอเลย แม้ครั้งหนึ่งเธอจะเคยพูดประชดกับเพื่อนว่าถ้าแฟนหนุ่มขอแต่งงาน เธออาจจะตกลงก็เป็นได้ แต่พอเอาเข้าจริงเธอกลับทำไม่ได้

“คือเรื่องนั้นมันยังอีกตั้งไกล”

“ไกลที่ไหน เราคบกันแล้วอีกหน่อยก็แต่งงานกันอยู่ดีจริงไหม”

“เราเลิกคุยเรื่องนี้กันดีกว่านะคะ” กิ่งแก้วบอกและพยายามจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา ทว่าดูเหมือนชายหนุ่มจะยังติดใจ

“ทำไม หรือแก้วมีคนอื่น” คราวนี้น้ำเสียงของชเนศเข้มขุ่นขึ้นกว่าเดิม

กิ่งแก้วถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ไม่เขาใจว่าทำไมไปๆ มาๆ เรื่องมันถึงกลับกลายมาเป็นอย่างนี้ “แก้วไม่มีใครค่ะ”

“แล้วทำไม...”

“เราเพิ่งคบกันได้ไม่นานอย่าเพิ่งคิดไปไกลนักเลยค่ะ อนาคตไม่มีอะไรแน่นอน”

“เรากำหนดอนาคตได้” ชายหนุ่มยังดื้อดึง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น และกิ่งแก้วก็คร้านจะต่อปากต่อคำกับผู้ชายงี่เง่า

บ่อยครั้งได้แต่ถามตัวเองว่าทำไมถึงตกลงปลงใจรับชเนศมาเป็นแฟนทั้งที่ไม่ได้รู้สึกชอบพอ แต่คิดไปคิดมาเธอคงอยากหาใครสักคนมาแทนที่คนคนหนึ่ง

คนที่ซึ่งในอดีตมีความสัมพันธ์ที่คลุมเครือ เธอจำกัดความความสัมพันธ์นั้นเอาเองว่า ทั้งเขาและเธอคงเป็น’มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน’ เขาและเธอไม่เคยเอ่ยถึงความรู้สึกหรือการพัฒนาความสัมพันธ์ในครั้งนั้นว่าจะให้มันเป็นไปในทิศทางไหน แต่จะให้คิดว่าเป็นเพื่อนกันก็คงไม่มีเพื่อนคนไหนจูบกันลึกซึ้งหรอก ถามว่ารอไหม บอกตรงๆ เลยว่ารอทุกลมหายใจลุ้นว่าเมื่อไหร่ชายหนุ่มจะเอ่ยความในใจที่แอบคิดเข้าข้างตัวเองแล้วว่าตรงกัน

จนกระทั่งถึงวันที่เขาต้องกลับอังกฤษพร้อมเจ้านายความหวังก็ถูกดับสนิท คาร์ลอสบอกลาธรรมดาเพียงสั้นๆ ว่า ‘ผมไปนะ’ ไม่มีแม้แต่คำว่า ‘แล้วพบกัน’ นั่นหมายความว่าอะไรถ้าไม่หมายความว่าเขาไม่ต้องการพบเธออีกและที่ผ่านมามันคืออารมณ์พาไปหรืออะไรก็มิอาจทราบได้ แต่สำหรับเธอมันคือความรู้สึกล้วนๆ และจนถึงทุกวันนี้ความรู้สึกนั้นก็ยังคุกรุ่นอยู่ในใจไม่ลืมเลือนและไม่รู้จะหาใครมาลบล้างมันออกไป

เพราะจากวันนั้นจนถึงวันนี้เธอยังหาไม่เจอสักคน...



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ผลงานเล่มใหม่ของผู้เขียนภายใต้นามปากกา “มายา” กับนิยายอีโรติกเรท 25+ ยังไงฝากผู้อ่านที่น่ารักทุกคนพิจารณาด้วยนะคะ จะลงให้อ่านกันเรื่อยๆ แต่ไม่จบนะคะ แค่ 50% เท่านั้น
สำหรับคนที่ไม่อยากรออยากอ่านให้จบไปเลย ตอนนี้ก็มี E-books ให้โหลดกันแล้วนะคะ สะดวกเวบไหนเลือกเอาจากลิ้งด้านล่างนี้ได้เลยนะคะ ราคาเบาๆ สบายกระเป๋า 99 บาทเท่านั้นเองจ้า (ราคาเบาแต่ความร้อนแรงไม่เบานะจ๊ะ อิอิอิ)

meb : http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMTgyNTMyIjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiMjA4NzciO30

hytexts (epub) : http://www.hytexts.com/ebook/book/B003759



เกศมณี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 ม.ค. 2558, 00:06:24 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 ม.ค. 2558, 00:06:24 น.

จำนวนการเข้าชม : 3160





   ตอนที่ 2 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account