ภรรยาเพียงนาม
ภรรยาเพียงนาม โดย...ธัญปัณณ์
เป็นเรื่องสุดท้ายของหนุ่มๆ ตระกูลเศรษฐินาธรนะคะ
นำแสดงโดย คุณใหญ่ โคแก่มาดขรึม และ ใบบัว สาวน้อยจอมดื้อ!
‘พิชาภพ เศรษฐินาธร’ มหาเศรษฐีหนุ่มหล่อ เจ้าของธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทที่ร่ำรวยอันดับต้นๆ ของประเทศ จำต้องรับ ‘ณัฐชาดา’ สาวน้อยหน้าหวานเข้ามาใช้นามสกุลเดียวกันด้วยบุญคุณที่พ่อของเธอเคยช่วยชีวิตเขาเอาไว้ แรกนั้นจะให้อยู่ในสถานะ ‘ภรรยาเพียงนาม’ แต่ความดื้อดึงปนน่ารักในการเอาตัวรอดของเธอ ทำให้หนุ่มใหญ่นึกอยากเอาชนะ แม่กวางน้อยไร้เดียงสาน่ะหรือ...จะรอดพ้นราชสีห์หนุ่มเจ้าป่าอย่างเขา
และสิ่งที่เขาสังหรณ์ใจแต่แรก จึงจดทะเบียนสมรสกับเธอเสียก็เกิดขึ้นจริง เมื่อหญิงสาวถูกหลอกขาย แต่เขานี่แหละที่จะซื้อเธอด้วยความรักอย่างเต็มใจ!
ตัวอย่างจ้าาาาาา
“คุณใหญ่ปล่อยนะ!”
สาวน้อยร้องลั่นเมื่อเขาตวัดคว้าเอวบางเข้าหาตัวก่อนจะกดเธอลงกับเตียงนอนแล้วโน้มใบหน้าเข้ามาหาเสียใกล้ ท่าทางล่อแหลมมากเหลือเกิน
“เด็กโกหก!”
“คุณใหญ่ไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงที่ไหนก็ต้องกลัวเรื่องแบบนี้ทั้งนั้น”
“เรื่องแบบไหน”
“ก็เรื่องเซ็กซ์”
“ใครบอกเธอว่าฉันจะทำแบบนั้น”
“ก็คนนอนเตียงเดียวกันก็ต้องคิดเรื่องนี้ทั้งนั้นแหละค่ะ”
“คราวหน้าอย่ามาทำอะไรไม่เข้าเรื่องแบบนี้อีก เข้าใจไหม” พิชาภพเลี่ยงที่จะตอบว่าเขาคิดเรื่องพวกนั้นกับเธอหรือเปล่าเพราะยังไม่แน่ใจตัวเองนัก จะว่าคิดก็ใช่ จะว่าไมได้คิดก็ใช่
“ค่ะ” เธอตอบเสียงแผ่ว
“ไม่งั้นจะถูกลงโทษ” ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ นัยน์ตาพราวระยับเมื่อจับจ้องที่ริมฝีปากซึ่งเผยอน้อยๆ ในขณะนี้
“ลงโทษ?”
“ถ้าใบบัวดื้อ ฉันจะจูบ!”
“จะ...จูบ!” สาวน้อยเบิกตาโตเท่าไข่ห่าน
“ใช่! ดังนั้นอย่าดื้อหรือทำให้ฉันไม่พอใจอีก”
“ค่ะ ใบบัวจะไม่ดื้อแล้ว” สาวน้อยรีบรนตอบจนลิ้นแทบพันกัน “คุณใหญ่คะ ครั้งนี้ยกเว้นใช่ไหม”
“ถ้ายกเว้น ใบบัวจะเข็ดหลาบไหม”
“ใบบัวยังไม่แปรงฟันด้วยนะ”
***********
เป็นเรื่องสุดท้ายของหนุ่มๆ ตระกูลเศรษฐินาธรนะคะ
นำแสดงโดย คุณใหญ่ โคแก่มาดขรึม และ ใบบัว สาวน้อยจอมดื้อ!
‘พิชาภพ เศรษฐินาธร’ มหาเศรษฐีหนุ่มหล่อ เจ้าของธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทที่ร่ำรวยอันดับต้นๆ ของประเทศ จำต้องรับ ‘ณัฐชาดา’ สาวน้อยหน้าหวานเข้ามาใช้นามสกุลเดียวกันด้วยบุญคุณที่พ่อของเธอเคยช่วยชีวิตเขาเอาไว้ แรกนั้นจะให้อยู่ในสถานะ ‘ภรรยาเพียงนาม’ แต่ความดื้อดึงปนน่ารักในการเอาตัวรอดของเธอ ทำให้หนุ่มใหญ่นึกอยากเอาชนะ แม่กวางน้อยไร้เดียงสาน่ะหรือ...จะรอดพ้นราชสีห์หนุ่มเจ้าป่าอย่างเขา
และสิ่งที่เขาสังหรณ์ใจแต่แรก จึงจดทะเบียนสมรสกับเธอเสียก็เกิดขึ้นจริง เมื่อหญิงสาวถูกหลอกขาย แต่เขานี่แหละที่จะซื้อเธอด้วยความรักอย่างเต็มใจ!
ตัวอย่างจ้าาาาาา
“คุณใหญ่ปล่อยนะ!”
สาวน้อยร้องลั่นเมื่อเขาตวัดคว้าเอวบางเข้าหาตัวก่อนจะกดเธอลงกับเตียงนอนแล้วโน้มใบหน้าเข้ามาหาเสียใกล้ ท่าทางล่อแหลมมากเหลือเกิน
“เด็กโกหก!”
“คุณใหญ่ไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงที่ไหนก็ต้องกลัวเรื่องแบบนี้ทั้งนั้น”
“เรื่องแบบไหน”
“ก็เรื่องเซ็กซ์”
“ใครบอกเธอว่าฉันจะทำแบบนั้น”
“ก็คนนอนเตียงเดียวกันก็ต้องคิดเรื่องนี้ทั้งนั้นแหละค่ะ”
“คราวหน้าอย่ามาทำอะไรไม่เข้าเรื่องแบบนี้อีก เข้าใจไหม” พิชาภพเลี่ยงที่จะตอบว่าเขาคิดเรื่องพวกนั้นกับเธอหรือเปล่าเพราะยังไม่แน่ใจตัวเองนัก จะว่าคิดก็ใช่ จะว่าไมได้คิดก็ใช่
“ค่ะ” เธอตอบเสียงแผ่ว
“ไม่งั้นจะถูกลงโทษ” ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ นัยน์ตาพราวระยับเมื่อจับจ้องที่ริมฝีปากซึ่งเผยอน้อยๆ ในขณะนี้
“ลงโทษ?”
“ถ้าใบบัวดื้อ ฉันจะจูบ!”
“จะ...จูบ!” สาวน้อยเบิกตาโตเท่าไข่ห่าน
“ใช่! ดังนั้นอย่าดื้อหรือทำให้ฉันไม่พอใจอีก”
“ค่ะ ใบบัวจะไม่ดื้อแล้ว” สาวน้อยรีบรนตอบจนลิ้นแทบพันกัน “คุณใหญ่คะ ครั้งนี้ยกเว้นใช่ไหม”
“ถ้ายกเว้น ใบบัวจะเข็ดหลาบไหม”
“ใบบัวยังไม่แปรงฟันด้วยนะ”
***********
Tags: โคแก่หญ้าอ่อน
ตอน: บทที่ 6 หาทางหนีจาก 3
ร่างบางนั่งขายไปได้สักพักก็มีลูกค้ามาหยุดยืนที่หน้าร้านอีกราย ทว่าเมื่อหญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองก็ต้องโคลงศีรษะอย่างแปลกใจ
“เส้นนี้ขายยังไงครับ”
ณัฐชาดายังงุนงงเมื่อสำรวจชายหนุ่มตรงหน้า ใบหน้าหล่อเหลามีหนวดครึ้มที่แนวคาง เขาสวมเสื้อเชิ้ตยีนสีน้ำเงินเข้มกับกางเกงสีดำสั้นเพียงเข่า ด้านหลังสะพายกล่องกีต้าร์ จนเมื่อชายหนุ่มเผยยิ้มทั้งริมฝีปากและนัยน์ตานั่น หญิงสาวจึงส่งยิ้มให้
“อาร์ม!”
“ดีใจนะที่ใบบัวจำเราได้” ชายหนุ่มยิ้มกว้างจนเห็นฟันเรียงเป็นระเบียบ นัยน์ตาคมลอบสำรวจเรือนร่างเล็กบางและใบหน้าเรียวเล็กอมชมพูอย่างสนใจ
“อาร์มเปลี่ยนไปจนเราจำแทบไม่ได้เลย”
“ใบบัวก็เหมือนกัน น่ารักขึ้นมากเลยนะ” อาชาถือโอกาสชมเพื่อนเก่า
หญิงสาวยิ้มเขินก่อนว่า “อาร์ม...ตั้งใจมาหาเราหรือ”
“ใบบัวรู้ทันเราเสมอเลยนะ” ชายหนุ่มยกมือขึ้นเกากกหู มองหญิงสาวอย่างมีความหมาย
ณัฐชาดาเชื้อเชิญให้เพื่อนมานั่งคุยกัน พอดีกับที่ลูกค้าเริ่มเบาบางลงในช่วงบ่ายคล้อย ทั้งสองคนจึงสามารถคุยกันได้อย่างสะดวก
“นีบอกเราว่าใบบัวมาขายของที่นี่ เราเลยมาหา”อาชาสารภาพตามตรงว่าเขาตั้งใจมาหาหญิงสาว หลังจากเรียนจบมัธยมปลายก็แยกย้ายกันไปเรียนต่อ เขาไม่เคยรู้เลยว่าณัฐชาดาเรียนอยู่ที่ไหน มีเพียงนีรนาที่ยังติดต่อและเจอกันบ้าง จนวันนี้ผลจากการที่เขาพยายามติดต่อกับนีรนาก็ประสบความสำเร็จเพราะวันนี้มันได้เชื่อมโยงให้เขาได้พบกับณัฐชาดาอีกครั้ง
“อย่างนี้นี่เอง ใบบัวดีใจนะที่ได้เจออาร์มอีกครั้ง”
“แล้วทำไม...” อาชาอ้ำอึ้งด้วยไม่กล้าถามเท่าไร ณัฐชาดาดูร่ำรวย เธอไม่น่าต้องมานั่งขายของที่ได้เงินเพียงน้อยนิดเช่นนี้
“เราอยากลองทำตามความฝันน่ะ ยังไม่อยากทำงานประจำเลยกะว่าจะขายของสักระยะ” หญิงสาวตัดสินใจโกหก กระดากปากหากจะบอกว่าเธอมีสามีแล้ว
“เราก็ว่าใบบัวมาขายของทำไม” ชายหนุ่มพยักหน้าเมื่อได้ความกระจ่างและไม่ติดใจสงสัยอะไรเพราะณัฐชาดาชอบประดิษฐ์ของแฮนด์เมดมาตั้งแต่สมัยเรียน ไม่แปลกที่จะทำตามความฝัน
“ว่าแต่อาร์มทำอะไรอยู่เหรอ” เธอเอ่ยถามหลังเสไปมองกล่องกีต้าร์ที่เจ้าตัวสะพายไม่ยอมวาง
“เราเป็นนักดนตรี ทำตามความฝันเหมือนกัน โดนเนรเทศออกจากบ้านด้วยโทษฐานที่ไม่ยอมเป็นวิศวกรเหมือนที่เรียนมา หึๆ” ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ เชิงขบขัน ทว่านัยน์ตาดูเศร้า
“ไม่น่าทำแบบนี้เลย อย่างนี้อาร์มได้กลับบ้านบ้างหรือเปล่า”
คนถูกถามส่ายหน้า ก่อนเงยขึ้นแค่นยิ้ม
“ไม่เป็นไรหรอก อีกหน่อยเขาต้องเข้าใจว่าการเป็นนักดนตรีไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด ตอนนี้เราก็เลี้ยงตัวเองได้สบายๆ”
“แล้วนี่กำลังจะไปทำงานหรือ”
“ใช่ เรานอนเช้า ทำงานกลางคืน รู้ข่าวจากนีเลยมาหาใบบัวก่อน” ชายหนุ่มละคำว่า ‘คิดถึง’ เอาไว้ ทั้งๆ ที่มันจุกล้นอยู่ในอก
“ขอบใจนะที่ยังคิดถึงกัน”
“แล้วใบบัวจะมาขายที่นี่ทุกวันหรือเปล่า”
“เรามาขายทุกวัน เช่าที่หน้าร้านรูปเป็นรายเดือน”
“งั้นพรุ่งนี้เรามาช่วยขายนะ” อาชารีบหาโอกาสใกล้ชิด เขาจะไม่รั้งรออะไรอีกแล้ว นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ไม่เคยมีใครเพราะใจรักเพียงเพื่อนสาวคนเดียวเท่านั้น
ณัฐชาดาได้ยินดังนั้นก็รีบโบกมือปฏิเสธ ทำหน้าเกรงอกเกรงใจ
“อย่าดีกว่า ตอนกลางคืนอาร์มต้องทำงาน เราขายคนเดียวได้ ลูกค้าไม่เยอะหรอก”
“เราอยากช่วย” อาชานิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหาวิธีให้ณัฐชาดายินยอมรับความช่วยเหลือได้ “เราไม่ถ่างตามาแต่เช้าหรอกน่า คงมาบ่ายๆ แล้วเย็นก็ค่อยไปทำงาน”
“เราเกรงใจ” หญิงสาวทำเสียงอ่อย ทั้งเกรงใจที่เพื่อนจะมาช่วยและเกรงใจที่ต้องปฏิเสธความหวังดี
“ไม่เป็นไร เรายินดี” ชายหนุ่มรีบตอบเสียงเต็มใจ
“ถ้างั้นว่างๆ ค่อยมาช่วยก็ได้ ไม่ต้องมาทุกวันหรอกนะ” ณัฐชาดาเอ่ยอย่างเกรงใจอีกครั้ง เธอรู้ถึงความรู้สึกของอาชาดี และไม่กล้าบอกว่ามีสามีแล้วจึงลำบากใจมาก
ร่างสูงภายใต้ชุดนอนสีเทาเข้มย่างก้าวเข้ามาในห้องนอนแสนเบาด้วยเห็นสาวน้อยกำลังนอนหลับตาพริ้มอย่างสบายอยู่บนเตียง ชายหนุ่มเผยยิ้มมุมปากเมื่อคิดถึงว่าเธอคงไว้ใจเขาแล้วถึงได้นอนหลับสนิทเช่นนี้
“วันนี้ไปเล่นซนอะไรมานะถึงได้เพลียขนาดนี้”
พิชาภพพึมพำเบาๆ ตอนเขากลับมาจากที่ทำงานก็พบณัฐชาดานั่งอุ้มหนูบิ๊กที่โซฟารับแขก ใบหน้าบ่มแดดแดงเรื่อเหมือนเด็กเพิ่งกลับจากเล่นซน เขาซักถามไปก็ได้รับคำตอบว่าวิ่งเล่นกับเจ้าบิ๊กจนเหนื่อย แต่ไม่คิดว่าจะเพลียจนสลบเหมือดตั้งแต่สามทุ่มเช่นนี้
ชายหนุ่มก้าวขึ้นเตียง สอดร่างลงใต้ผ้าห่มผืนหนาอย่างแผ่วเบา ทว่าทันทีที่ล้มตัวนอน ร่างเล็กก็พลิกตัวเข้ามาหาแล้ววาดเรียวแขนอ่อนนุ่มโอบร่างใหญ่เอาไว้ หนุ่มวัยสามสิบห้าปีเบิกตากว้างพร้อมหัวใจที่เต้นระรัว
“ใบบัว!” ความตั้งใจคือจะเอ็ดอึง ทว่าน้ำเสียงกลับสั่น
ไม่เพียงแค่นั้น หญิงสาวยังเขยิบเข้ามาซุกซบศีรษะลงบนอกกว้างอีกด้วย เธอบ่นพึมพำอย่างคนหลับสนิท พิชาภพก้มลงมองกลุ่มผมนุ่มลื่นก็ถอนหายใจยาว
“นี่มันอะไรกันนี่”
ชายหนุ่มกางมือทั้งสองข้างอย่างเก้กังด้วยไม่รู้จะนำไปวางไว้ตรงไหนดี ณัฐชาดากำลังทำให้เขาลำบากก็คราวนี้เอง
กางมืออยู่นานก็ชักจะเมื่อยแฮะ พิชาภพจึงต้อง ‘จำใจ’ วางมือหนาลงบนไหล่มนก่อนเลื่อนโอบแผ่นหลังบอบบางเอาไว้ ช่างนุ่มละมุนเหลือเกิน เขาถอนหายใจแรงเมื่อตบะเริ่มแตก หัวสมองคิดวนเวียนตัดสินใจ เขาเปรียบเหมือนสิงโตเฝ้ามองกวางน้อยโอชะ นึกอยากจะขย้ำเสียให้รู้แล้วรู้รอด มันน่านัก!
ช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนี้เลย ความสัมพันธ์ชั่วครั้งคราวก็ผ่านมาเยอะตามประสาหนุ่มโสด ทว่าความรู้สึกต้องการที่กำลังปะทุราวลาวาร้อนอยู่ในอกจนพลุ่งพล่านอย่างนี้ เขาไม่เคยรู้สึกกับใครนอกจาก...ณัฐชาดา ความรู้สึกอันหอมหวานที่เบ่งบานในหัวใจยังผลให้มือหนาเอื้อมโอบร่างแน่งน้อยเข้ามาแนบชิดยิ่งขึ้น ริมฝีปากหยักหนาโค้งยิ้มละมุน ก่อนประทับลงบนขมับแสนแผ่วเบา ด้วยยังรู้สึกเหมือนลักลอบ ทั้งๆ ที่เขามีสิทธิ์ถูกต้องทุกประการ กรุ่นกลิ่นความหอมจรุงใจฟุ้งติดอยู่ที่ปลายจมูก พิชาภพแอบเก็บความประทับใจเอาไว้เงียบๆ ด้วยหัวใจพองโต
“เธอไม่ได้เด็กอย่างที่ฉันคิด” ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ เมื่อสัมผัสได้ถึงความนุ่มหยุ่นที่แนบชิดกับแผงอกกว้าง เขาทอดตามองใบหน้าอมชมพู ก่อนบ่นพึมพำกับตัวเอง “โทษฉันไม่ได้นะ ใบบัวกอดฉันก่อน”
ชายหนุ่มยังมองหญิงสาวตาพราว หอมแก้ม หอมเส้นผมอ่อนนุ่ม หลงใหลคนตัวเล็กที่สุด
“ใบบัวคิดถูกแล้วที่ไม่ไว้ใจฉันเพราะฉันก็ไม่ไว้ใจตัวเองเหมือนกัน”
///////////////////////////////
อร๊ายยยย มาแล้วค่ะ พักนี้เพลียๆ เลยไม่ค่อยได้เปิดคอมเท่าไร วันนี้เป็นห่วงกลัวแฟนๆ คุณใหญ่จะรอนานเลยมาอัพต่อแล้วค่ะ ช่วงนี้จะมาประมาณ 3 วันครั้ง จะพยายามไม่ให้เกินนี้นะคะ ยังไงติดตามกันต่อไปเรื่อยๆ น้าาาาาา
“เส้นนี้ขายยังไงครับ”
ณัฐชาดายังงุนงงเมื่อสำรวจชายหนุ่มตรงหน้า ใบหน้าหล่อเหลามีหนวดครึ้มที่แนวคาง เขาสวมเสื้อเชิ้ตยีนสีน้ำเงินเข้มกับกางเกงสีดำสั้นเพียงเข่า ด้านหลังสะพายกล่องกีต้าร์ จนเมื่อชายหนุ่มเผยยิ้มทั้งริมฝีปากและนัยน์ตานั่น หญิงสาวจึงส่งยิ้มให้
“อาร์ม!”
“ดีใจนะที่ใบบัวจำเราได้” ชายหนุ่มยิ้มกว้างจนเห็นฟันเรียงเป็นระเบียบ นัยน์ตาคมลอบสำรวจเรือนร่างเล็กบางและใบหน้าเรียวเล็กอมชมพูอย่างสนใจ
“อาร์มเปลี่ยนไปจนเราจำแทบไม่ได้เลย”
“ใบบัวก็เหมือนกัน น่ารักขึ้นมากเลยนะ” อาชาถือโอกาสชมเพื่อนเก่า
หญิงสาวยิ้มเขินก่อนว่า “อาร์ม...ตั้งใจมาหาเราหรือ”
“ใบบัวรู้ทันเราเสมอเลยนะ” ชายหนุ่มยกมือขึ้นเกากกหู มองหญิงสาวอย่างมีความหมาย
ณัฐชาดาเชื้อเชิญให้เพื่อนมานั่งคุยกัน พอดีกับที่ลูกค้าเริ่มเบาบางลงในช่วงบ่ายคล้อย ทั้งสองคนจึงสามารถคุยกันได้อย่างสะดวก
“นีบอกเราว่าใบบัวมาขายของที่นี่ เราเลยมาหา”อาชาสารภาพตามตรงว่าเขาตั้งใจมาหาหญิงสาว หลังจากเรียนจบมัธยมปลายก็แยกย้ายกันไปเรียนต่อ เขาไม่เคยรู้เลยว่าณัฐชาดาเรียนอยู่ที่ไหน มีเพียงนีรนาที่ยังติดต่อและเจอกันบ้าง จนวันนี้ผลจากการที่เขาพยายามติดต่อกับนีรนาก็ประสบความสำเร็จเพราะวันนี้มันได้เชื่อมโยงให้เขาได้พบกับณัฐชาดาอีกครั้ง
“อย่างนี้นี่เอง ใบบัวดีใจนะที่ได้เจออาร์มอีกครั้ง”
“แล้วทำไม...” อาชาอ้ำอึ้งด้วยไม่กล้าถามเท่าไร ณัฐชาดาดูร่ำรวย เธอไม่น่าต้องมานั่งขายของที่ได้เงินเพียงน้อยนิดเช่นนี้
“เราอยากลองทำตามความฝันน่ะ ยังไม่อยากทำงานประจำเลยกะว่าจะขายของสักระยะ” หญิงสาวตัดสินใจโกหก กระดากปากหากจะบอกว่าเธอมีสามีแล้ว
“เราก็ว่าใบบัวมาขายของทำไม” ชายหนุ่มพยักหน้าเมื่อได้ความกระจ่างและไม่ติดใจสงสัยอะไรเพราะณัฐชาดาชอบประดิษฐ์ของแฮนด์เมดมาตั้งแต่สมัยเรียน ไม่แปลกที่จะทำตามความฝัน
“ว่าแต่อาร์มทำอะไรอยู่เหรอ” เธอเอ่ยถามหลังเสไปมองกล่องกีต้าร์ที่เจ้าตัวสะพายไม่ยอมวาง
“เราเป็นนักดนตรี ทำตามความฝันเหมือนกัน โดนเนรเทศออกจากบ้านด้วยโทษฐานที่ไม่ยอมเป็นวิศวกรเหมือนที่เรียนมา หึๆ” ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ เชิงขบขัน ทว่านัยน์ตาดูเศร้า
“ไม่น่าทำแบบนี้เลย อย่างนี้อาร์มได้กลับบ้านบ้างหรือเปล่า”
คนถูกถามส่ายหน้า ก่อนเงยขึ้นแค่นยิ้ม
“ไม่เป็นไรหรอก อีกหน่อยเขาต้องเข้าใจว่าการเป็นนักดนตรีไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด ตอนนี้เราก็เลี้ยงตัวเองได้สบายๆ”
“แล้วนี่กำลังจะไปทำงานหรือ”
“ใช่ เรานอนเช้า ทำงานกลางคืน รู้ข่าวจากนีเลยมาหาใบบัวก่อน” ชายหนุ่มละคำว่า ‘คิดถึง’ เอาไว้ ทั้งๆ ที่มันจุกล้นอยู่ในอก
“ขอบใจนะที่ยังคิดถึงกัน”
“แล้วใบบัวจะมาขายที่นี่ทุกวันหรือเปล่า”
“เรามาขายทุกวัน เช่าที่หน้าร้านรูปเป็นรายเดือน”
“งั้นพรุ่งนี้เรามาช่วยขายนะ” อาชารีบหาโอกาสใกล้ชิด เขาจะไม่รั้งรออะไรอีกแล้ว นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ไม่เคยมีใครเพราะใจรักเพียงเพื่อนสาวคนเดียวเท่านั้น
ณัฐชาดาได้ยินดังนั้นก็รีบโบกมือปฏิเสธ ทำหน้าเกรงอกเกรงใจ
“อย่าดีกว่า ตอนกลางคืนอาร์มต้องทำงาน เราขายคนเดียวได้ ลูกค้าไม่เยอะหรอก”
“เราอยากช่วย” อาชานิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหาวิธีให้ณัฐชาดายินยอมรับความช่วยเหลือได้ “เราไม่ถ่างตามาแต่เช้าหรอกน่า คงมาบ่ายๆ แล้วเย็นก็ค่อยไปทำงาน”
“เราเกรงใจ” หญิงสาวทำเสียงอ่อย ทั้งเกรงใจที่เพื่อนจะมาช่วยและเกรงใจที่ต้องปฏิเสธความหวังดี
“ไม่เป็นไร เรายินดี” ชายหนุ่มรีบตอบเสียงเต็มใจ
“ถ้างั้นว่างๆ ค่อยมาช่วยก็ได้ ไม่ต้องมาทุกวันหรอกนะ” ณัฐชาดาเอ่ยอย่างเกรงใจอีกครั้ง เธอรู้ถึงความรู้สึกของอาชาดี และไม่กล้าบอกว่ามีสามีแล้วจึงลำบากใจมาก
ร่างสูงภายใต้ชุดนอนสีเทาเข้มย่างก้าวเข้ามาในห้องนอนแสนเบาด้วยเห็นสาวน้อยกำลังนอนหลับตาพริ้มอย่างสบายอยู่บนเตียง ชายหนุ่มเผยยิ้มมุมปากเมื่อคิดถึงว่าเธอคงไว้ใจเขาแล้วถึงได้นอนหลับสนิทเช่นนี้
“วันนี้ไปเล่นซนอะไรมานะถึงได้เพลียขนาดนี้”
พิชาภพพึมพำเบาๆ ตอนเขากลับมาจากที่ทำงานก็พบณัฐชาดานั่งอุ้มหนูบิ๊กที่โซฟารับแขก ใบหน้าบ่มแดดแดงเรื่อเหมือนเด็กเพิ่งกลับจากเล่นซน เขาซักถามไปก็ได้รับคำตอบว่าวิ่งเล่นกับเจ้าบิ๊กจนเหนื่อย แต่ไม่คิดว่าจะเพลียจนสลบเหมือดตั้งแต่สามทุ่มเช่นนี้
ชายหนุ่มก้าวขึ้นเตียง สอดร่างลงใต้ผ้าห่มผืนหนาอย่างแผ่วเบา ทว่าทันทีที่ล้มตัวนอน ร่างเล็กก็พลิกตัวเข้ามาหาแล้ววาดเรียวแขนอ่อนนุ่มโอบร่างใหญ่เอาไว้ หนุ่มวัยสามสิบห้าปีเบิกตากว้างพร้อมหัวใจที่เต้นระรัว
“ใบบัว!” ความตั้งใจคือจะเอ็ดอึง ทว่าน้ำเสียงกลับสั่น
ไม่เพียงแค่นั้น หญิงสาวยังเขยิบเข้ามาซุกซบศีรษะลงบนอกกว้างอีกด้วย เธอบ่นพึมพำอย่างคนหลับสนิท พิชาภพก้มลงมองกลุ่มผมนุ่มลื่นก็ถอนหายใจยาว
“นี่มันอะไรกันนี่”
ชายหนุ่มกางมือทั้งสองข้างอย่างเก้กังด้วยไม่รู้จะนำไปวางไว้ตรงไหนดี ณัฐชาดากำลังทำให้เขาลำบากก็คราวนี้เอง
กางมืออยู่นานก็ชักจะเมื่อยแฮะ พิชาภพจึงต้อง ‘จำใจ’ วางมือหนาลงบนไหล่มนก่อนเลื่อนโอบแผ่นหลังบอบบางเอาไว้ ช่างนุ่มละมุนเหลือเกิน เขาถอนหายใจแรงเมื่อตบะเริ่มแตก หัวสมองคิดวนเวียนตัดสินใจ เขาเปรียบเหมือนสิงโตเฝ้ามองกวางน้อยโอชะ นึกอยากจะขย้ำเสียให้รู้แล้วรู้รอด มันน่านัก!
ช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนี้เลย ความสัมพันธ์ชั่วครั้งคราวก็ผ่านมาเยอะตามประสาหนุ่มโสด ทว่าความรู้สึกต้องการที่กำลังปะทุราวลาวาร้อนอยู่ในอกจนพลุ่งพล่านอย่างนี้ เขาไม่เคยรู้สึกกับใครนอกจาก...ณัฐชาดา ความรู้สึกอันหอมหวานที่เบ่งบานในหัวใจยังผลให้มือหนาเอื้อมโอบร่างแน่งน้อยเข้ามาแนบชิดยิ่งขึ้น ริมฝีปากหยักหนาโค้งยิ้มละมุน ก่อนประทับลงบนขมับแสนแผ่วเบา ด้วยยังรู้สึกเหมือนลักลอบ ทั้งๆ ที่เขามีสิทธิ์ถูกต้องทุกประการ กรุ่นกลิ่นความหอมจรุงใจฟุ้งติดอยู่ที่ปลายจมูก พิชาภพแอบเก็บความประทับใจเอาไว้เงียบๆ ด้วยหัวใจพองโต
“เธอไม่ได้เด็กอย่างที่ฉันคิด” ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ เมื่อสัมผัสได้ถึงความนุ่มหยุ่นที่แนบชิดกับแผงอกกว้าง เขาทอดตามองใบหน้าอมชมพู ก่อนบ่นพึมพำกับตัวเอง “โทษฉันไม่ได้นะ ใบบัวกอดฉันก่อน”
ชายหนุ่มยังมองหญิงสาวตาพราว หอมแก้ม หอมเส้นผมอ่อนนุ่ม หลงใหลคนตัวเล็กที่สุด
“ใบบัวคิดถูกแล้วที่ไม่ไว้ใจฉันเพราะฉันก็ไม่ไว้ใจตัวเองเหมือนกัน”
///////////////////////////////
อร๊ายยยย มาแล้วค่ะ พักนี้เพลียๆ เลยไม่ค่อยได้เปิดคอมเท่าไร วันนี้เป็นห่วงกลัวแฟนๆ คุณใหญ่จะรอนานเลยมาอัพต่อแล้วค่ะ ช่วงนี้จะมาประมาณ 3 วันครั้ง จะพยายามไม่ให้เกินนี้นะคะ ยังไงติดตามกันต่อไปเรื่อยๆ น้าาาาาา
จรดปลายรุ้ง
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 ม.ค. 2558, 20:45:44 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 ม.ค. 2558, 20:45:44 น.
จำนวนการเข้าชม : 2395
<< บทที่ 6 หาทางหนีจาก 2 | บทที่ 7 ฟังเพลงรัก 1--ลบแล้วจ้า รอติดตามในรูปเล่มค่ะ >> |
mhengjhy 15 ม.ค. 2558, 08:19:08 น.
ฮี่ ฮี่ ฮี่
ฮี่ ฮี่ ฮี่
แว่นใส 15 ม.ค. 2558, 16:35:44 น.
ระวังคุณใหญ่หึงนะ
ระวังคุณใหญ่หึงนะ
Zephyr 27 ก.พ. 2558, 21:06:55 น.
คุณใหญ่เริ่มคุมไม่ไหวสินะ
คุณใหญ่เริ่มคุมไม่ไหวสินะ