เพทายพ่ายตะวัน
เอาตอนที่ 17 มาลงต่อค่ะ หายจากเว็บไปนานมาก หลายปี
ถ้าใครอยากอ่าน 16 ตอนแรก เข้าไปดูที่เว็บเด็กดีก่อนนะคะ
http://my.dek-d.com/ligament/writer/view.php?id=829899
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: เพทายพ่ายตะวัน บทที่ 17/1 แว่วเสียงพิณ

เสียงฉึกฉักของขบวนรถไฟยาวเหยียด ผสมเสียงบดล้อลงกับรางเหล็กดังรบกวนเข้ามาในโบกี้ผู้โดยสารไม่ขาดระยะ เปลวแดดยามบ่ายสาดส่องเข้ามากระทบผิวเนียนละเอียดของหญิงสาวที่นั่งวางแขนบนกรอบหน้าต่าง ลมที่พัดลู่เข้ามาไม่ได้ช่วยให้ไอแดดลดความร้อนแรงลงได้แม้แต่น้อย ทว่าศัลยแพทย์คนสวยกลับแทบไม่รู้สึกรู้สาอะไร เพราะมัวแต่เล่าถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกให้ชายหนุ่มที่นั่งฝั่งตรงข้ามฟัง


“เบื้องหลังความสวยงามทางมรดกโลกของเมืองกาญจน์นี่..ใครจะนึกย้อนหลังบ้างว่าเคยมีอดีตที่น่าเจ็บปวดขนาดไหนนะคะ” เพลงฟ้าระบายลมหายใจยาว ราวกับเรื่องที่พูดถึงช่างส่งผลสะเทือนจิตใจหล่อนมหาศาล ชายหนุ่มสองรายที่นั่งฝั่งตรงข้ามต่างก็มีหน้าตา และเสน่ห์ชวนหลงใหลไปคนละแบบ ทว่าดูเหมือนหล่อนจงใจสาดประกายตาอันโศกซึ้งไปจับอยู่แค่ดวงหน้าคร้ามคมของคนที่นั่งติดหน้าต่างฝั่งเดียวกัน ศิระพยายามส่งยิ้มก็แล้ว ส่งสายตาแสดงความสนอกสนใจในเรื่องที่ศัลยแพทย์สาวเล่า เพื่อพยายามดึงนัยน์ตาหวานๆคู่นั้นกลับมาหาเขาบ้าง แต่หล่อนกลับไม่เหลียวมองเลยมาแม้แต่เสี้ยววินาที

“สงสารคนไทยที่ต้องตกเป็นเชลยในสงครามคราวนั้น..ถูกใช้แรงงานจนถึงขั้นเจ็บป่วย หลายคนต้องตายในระหว่างสร้างรางรถไฟสายนี้ก็เยอะ” เพลงฟ้าขยับหมวกปีกกว้างลงต่ำเล็กน้อย เพื่อหลบแดดแรงๆที่กำลังเผาหน้าผากขาวนวลของหล่อน

“จริงครับ เหตุการณ์บ้านเมืองตอนนั้นวุ่นวายเหลือเกิน ใจนึงก็นึกสงสารเชลยทุกคน ไม่ว่าจะเป็นชาติไหน ยุ่งเหยิงกันทั้งโลก ไม่เว้นฝ่ายอักษะ หรือฝ่ายพันธมิตร..” เมื่อส่งรอยยิ้มและสายตาไม่เป็นผล ศิระเลยลองแสดงความคิดเห็นออกมาบ้าง เหลือบไปมองเพื่อนสนิทที่นั่งด้านข้างก็รู้สึกใจไม่ค่อยดี สภาพใบหน้าอันหล่อเหลาของชัดเจนในยามนี้แลดูยับยู่ คิ้วเข้มขมวดมุ่น ริมฝีปากบางเม้มแน่น อย่างคนที่อารมณ์ขุ่นเคืองยังไม่จางหาย เขาเลยต้องทำหน้าที่เพื่อนแสนดี เบนความสนใจสาวสวยตรงหน้ากลับมาที่ตัวเองให้ได้ ก่อนอะไรๆจะแย่ลงไปกว่านี้

“แล้วอีกใจนึงละคะ..คุณศิระรู้สึกยังไง” สาวหน้าคมเบนสายตากลับมาที่ชายหนุ่มด้านข้างตามความคาดหมาย ถึงแม้หล่อนจะอยากเรียกร้องความสนใจจากชัดเจนแค่ไหน แต่หญิงสาวก็ยังมีมารยาทพอที่จะไม่ปล่อยให้เพื่อนสนิทเขาต้องพูดพร่ำกับดินฟ้าอากาศอยู่เพียงลำพัง


ศิระระเบิดหัวเราะออกมาพรืดใหญ่ ชายหนุ่มไม่ได้รู้สึกตลกอะไรกับคำถามของเพลงฟ้านักหนา ออกแนวโล่งใจมากกว่าที่ความพยายามเริ่มเป็นผล

เปี่ยมรักกวาดสายตามองคนรอบตัวแล้วหล่อนก็ไม่รู้จะทำหน้ายังไง หรือเข้าข้างฝ่ายไหนดี เพทายส่งหล่อนมานั่งประกบคู่กับศัลยแพทย์สาว พยายามทำตัวเป็นเจ๊ดันผ่านน้องรักให้มาจัดแจงที่นั่งอย่างถูกฝาถูกตัว ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร ชัดเจนได้มานั่งประสานสายตากับเพลงฟ้าชนิดห่างกันไม่ถึงหนึ่งช่วงแขน จะดีกว่านี้อีกหน่อย ถ้าหล่อนได้แยกไปนั่งคู่กับศิระกันสองต่อสองในอีกมุมหนึ่ง


ส่วนหัวโจกของงานนี้น่ะเหรอ..หล่อนก็ไปจัดการเอากับสองสาวสุดแสบน่ะสิ

เพทายแกล้งรูดซิบกระเป๋าของตัวเองไปติดกับชายเสื้อบางพลิ้วของเปรมฤดี ขณะสาวเจ้ากับเพื่อนสนิทกำลังจะก้าวขาเรียวงามขึ้นรถไฟสายมรณะจากต้นทางตามหลังชัดเจนไปติดๆ ทว่าพอเกิดเหตุขัดข้องเรื่องซิบกระเป๋า หญิงสาวก็เลยได้โอกาสยืนถ่วงเวลา เจรจาของโทษขอโพยพิธีกรดาวรุ่งอยู่ตรงทางเดินซึ่งคั่นกลางระหว่างเบาะนั่งสองฝั่ง แถมด้วยการแกล้งรูดซิบขึ้นลงให้ชายเสื้อดาราสาวหลุดออกจากกระเป๋าใบนั้นยากกว่าเดิม ปล่อยเวลาผ่านไปจนกระทั่งเห็นชัดเจน เพลงฟ้า เปี่ยมรัก และศิระ เดินห่างไปไกล โดยไม่มีใครนึกเหลียวหลังกลับมามองสามสาวที่เหลือ ความดีความชอบนี้ต้องยกให้น้องรักของหล่อน ที่ช่างหาเรื่องเจรจา เบี่ยงความสนใจสองหนุ่มกับอีกหนึ่งสาวนั่นออกไปได้ตลอดรอดฝั่ง


“อีกใจนึงน่ะหรือครับ” ศิระยิ้มเห็นฟันขาว ก่อนตอบน้ำเสียงเปิดเผย “เก๊าะ..รู้สึกตัวเองโชคดีเหลือเกิน ที่เกิดไม่ทันยุคสมัยนั้น รอดตัวจากการเป็นเชลย รอดตัวจากการเป็นหนึ่งในประชาชนที่วันๆเอาแต่วิ่งลงหลุมหลบภัย หนีลูกระเบิด”
“พี่เต้อาจจะเคยเกิดเป็นโกโบริก็ได้นะคะ” เปี่ยมรักนึกสนุกจึงเอ่ยแทรกขึ้นมากลางวง เรียกเสียงหัวเราะใสๆจากเพลงฟ้า แม้แต่ชัดเจนที่ตอนแรกมีสีหน้าตึงเครียด ยังหลุดยิ้มมุมปาก ท่าทางของเขาผ่อนคลายลงมากเมื่อได้ยินเสียงน้องสาวนลัศ
“ถ้าพี่เกิดเป็นโกโบริจริงก็ดีน่ะสิ จะมีสักกี่คนที่ชีวิตรักถูกเอามาเขียนเป็นนิยาย เป็นตำนาน เอามาสร้างหนังสร้างละครไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ” ศัลยแพทย์หนุ่มยิ้มเก๋ ประกายตาวิบวับอย่างคนอารมณ์ดี ทว่าไม่รู้ตัวเลยว่าทำให้คนถูกมองรู้สึกเขินอายขึ้นมาง่ายๆ “แล้วใครจะเป็นอังศุมาลินให้พี่ล่ะ..ฝอยทองรึ?”
คำหยอกทีเล่นทีจริงนั้นเรียกเสียงหัวเราะทุ้มๆจากชายหนุ่มอีกคน แถมด้วยค้อนขวับวงใหญ่จากสาวต้นเรื่อง เปี่ยมรักเสมองออกไปนอกหน้าต่าง..ซ่อนรอยแดงระเรื่อบนสองพวงแก้ม


รถไฟขบวนนั้นเพิ่งเลี้ยวมาถึงโค้งอันตราย ความเร็วในการเคลื่อนไปบนรางจึงถูกชะลอให้ค่อยๆช้าลง นักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศพยายามชะโงกหน้าออกไปนอกหน้าต่าง พร้อมยื่นกล้องถ่ายรูปไปเก็บภาพทางโค้งมรณะ หน้าผา และท้องน้ำเบื้องล่าง

เสียงกึกกักจากการลงส้นเท้าหนักหน่วงดังใกล้เข้ามา เพลงฟ้ากำลังขยับปากจะสาธยายเรื่องราวประวัติศาสตร์ต่อก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อเสียงแหลมๆของใครบางคนดังขัดขึ้นก่อน

“โอ๊ย คุยอะไรกัน ฟังดูเครียดจังนะคะ มาฟังเรื่องสนุกๆของเปรมก่อนดีกว่า” เปรมฤดีพยายามฉีกยิ้มให้ดูอารมณ์ดีสดใสเท่าที่จะทำได้ ทั้งที่ในใจกำลังกรีดร้องเสียงลั่น หล่อนต้องตัดใจขอยืมกรรไกรจากพนักงานบนรถไฟ มาตัดชายเสื้อบางพลิ้วของตัวเองออก เพื่อให้หลุดพ้นพันธนาการซิบของเพทาย หล่อนรู้ดีว่าอีกฝ่ายจงใจแกล้ง แต่ก็ไม่รู้จะด่ายังไง ในเมื่อหญิงสาวร่างเล็กช่างตีหน้าได้แนบเนียน ทำเป็นทองไม่รู้ร้อนได้ขนาดนั้น

“นั่นเสื้อคุณเปรมไปโดนอะไรมาคะ..ทำไมมันขาดกะรุ่งกะริ่ง” เปี่ยมรักตาไวสุด จึงเอ่ยทักเป็นคนแรก ส่งผลให้เปรมฤดียกมือขึ้นกุมหน้าท้องแบนราบของตัวเองแทบจะทันที ก็ตรงบริเวณที่ถูกตัดออกไปดันพอดีกับตำแหน่งสะดือสวยๆขาวๆของหล่อน เรียกสายตาคนดูได้ไม่ยาก

“แฟชั่นใหม่จากรันเวย์ไงค้า...ส่งตรงจากมิลาน” เสียงแหลมกว่าดังแทรกเข้ามาจากเบื้องหลัง ทุกคนในที่นั้นต่างพร้อมใจกันหันไปส่งสายตาคำถามกับต้นเสียง เพทายยืนกอดอกไขว้ขวา เก๊กท่าสวยเกาะจุดเชื่อมโบกี้อยู่ไม่ไกล สีหน้าสีตาดูมีความสุขสมใจชนิดล้นปรี่ มุมปากยกยิ้มพร้อมนัยน์ตาสุกปลั่ง
เปรมฤดีหันไปทำตาเขียวใส่สาวแสบไม่ถึงห้าวินาที ก่อนจะรีบสะบัดหน้ากลับมายิ้มหวาน เสียงใส สองขาสับไวมุ่งตรงไปข้างหน้า ประกายตาพุ่งที่เป้าหมายเดียวคือ..ชัดเจน
“เรื่องอื่นอย่าเพิ่งไปสนใจเลยค่ะ ไร้สาระ..เปรมกำลังจะมาบอกเซอร์ไรส์ โปรแกรมวันนี้”
“โปรแกรมอะไรหรือครับ?” คนอยากรู้กลับเป็นศิระ ชายหนุ่มได้ยิ้มเจื่อนๆแบบฝืดฝืนกลับมาเป็นรางวัลจากสาวสวย หล่อนส่งสายตามองเขาเป็นเชิงจะบอกว่าธุระไม่ใช่ ก่อนจะกลับไปตอบคำถามให้ชายหนุ่มอีกคนฟัง
“เปรมโทรนัดกับทางภูฟ้ารีสอร์ทไว้แล้วล่ะค่ะ ทันทีที่เราไปถึงอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า..เรือแคนนูจะจอดรอเราอยู่ริมแพ”
“ว้าว...น่าสนุกนะครับ ผมไม่ได้พายเรือแคนนูตั้งนาน”
ชายหนุ่มเจ้าเก่ารีบแสดงความตื่นเต้นขึ้นมา
“ใครอยากนั่งกับใครก็เต็มที่เลยนะคะ เปรมจัดไว้เผื่อ 4 ลำ แปลว่ามีคนนึงที่อาจโชคร้าย ได้พายคนเดียว”


หลายคนขยับตัวอย่างอึดอัด ชัดเจนบอกเสียงเรียบ..
“ใครจะเที่ยว จะเล่นอะไรเชิญตามสบายนะครับ แต่ผมขอตัว..อยากพักผ่อน”
เปรมฤดีรีบขัดขึ้นทันที เสียงแหลมปรี๊ดในทีแรก ก่อนจะค่อยๆลดระดับลงมาให้อยู่ในโทนหวานนุ่ม เมื่อตั้งสติได้
“ต๊าย!.....ไม่ด้ายยนะคะ มาเที่ยวทั้งที ก็ต้องสนุกกันเต็มที่ซีคะ แหม..ชัดก็ คุณลืมไปแล้วเหรอว่าเราเคยสนุกกันบนเรือแคนนูขนาดไหน ไม่รู้แหละค่ะ เปรมจะพายเรือลำเดียวกับคุณ ส่วนใครจะไปเรือลำไหนก็ตามแต่สะดวกนะคะ”
มีเสียงกระแอมไอที่แฝงความเลี่ยนเอียนดังแทรกเข้ามา สาวร่างบางลงส้นหนักหน่วงเหมือนจงใจเลียนแบบใครบางคนเมื่อไม่กี่นาทีก่อน
‘ก่อนสนุกบนแคนนู..ไปขี้แตร๊กในส้วมกันก่อนเทอะ คู่นรกเอ๊ย!’
คือความคิดหมายมั่นในใจของเพทาย แต่ที่เอ่ยออกมาจริงๆ กลับเป็นเสียงหวานใสว่า..


“ใจร่มๆ ก่อนค่า คุณเปรมขา นั่งพักให้หายเหนื่อยตรงนี้ก่อนนะคะ คุณอุสาห์ด้วยค่ะ เห็นยืนเมื่อยกันอยู่ตั้งนาน อีกไกลพอสมควรเลยคะ กว่าจะถึงสวรรค์ เอ๊ย! ภูฟ้ารีสอร์ท”
เปี่ยมรัก กับ เพลงฟ้า แอบหันไปมองหน้ากันแล้วหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจในคำพูดเสียดสีของนักวางแผนสาว ส่วนสองหนุ่มที่นั่งข้างกันได้แต่ทำหน้าเหลอหลา รู้สึกฝืดคอขึ้นมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“อุ๊ยตายแล้ว รู้สึกว่าหลายคนดูหน้าตาง่วงหงาวหาวนอนนะคะ ก็แน่ล่ะสิคะ บ่ายแล้ว เพิ่งทานมื้อเที่ยงเสร็จ หนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อนกันเป็นธรรมดา แหม โดยเฉพาะ คุณเปรมขา..ใต้ตาหมองคล้ำเหมือนอดหลับอดนอนนะคะ ไม่ต้องกังวลค่ะ ปัญหานี้ เพมีทางออกให้” เพทายยิงยาวแบบไม่ให้ใครพูดแทรก หล่อนพูดเองเออเอง ตอบเองเสร็จสรรพ
“น้องฝอยทอง พี่จำได้ว่าหนูแพ้กาแฟ ส่วนคุณเพลง เราเพิ่งคุยกันว่าคุณดื่มกาแฟแล้วปวดหัวมาก สำหรับคุณเต้ ถ้าจำไม่ผิด คุณเคยบอกว่าช่วงนี้กำลังงดดื่มกาแฟเพื่อสุขภาพ”


สำหรับเปี่ยมรัก และ เพลงฟ้า สองสาวได้แต่ยิ้มเป็นเชิงตอบรับ เพราะสิ่งที่เพทายพูดล้วนเป็นความจริง แต่สำหรับศิระ ทีแรกเขาทำหน้างงๆ แต่พอเห็นเพทายส่งสัญญาณขยิบตามาให้ เข้าเลยนกรู้ ผงกศีรษะรับพร้อมรอยยิ้มไปตามเกม

“พอดีเพมีกาแฟสำเร็จรูปสูตรใหม่ พกติดกระเป๋ามาด้วย รสชาดกลมกล่อม ไม่ขมเกินไป ไม่หวานเกินไป แต่ดื่มแล้ว รับรอง กระปรี้กระเปร่า สดชื่น ตาสว่าง ผิวพรรณผุดผ่องแน่นอนค่ะ”

ศิระหลุดขำออกมา อดไม่ได้ที่จะพูดแทรก
“ดื่มกาแฟไม่ใช่ทำให้ผิวเสียหรือครับคุณเพ?”
เพทายฉีกยิ้ม เอานิ้วชี้ขึ้นมาทำท่าจุ๊ปาก
“สูตรพิเศษจากมิลานไงค้า มีคอลลาเจนด้วย เดี๋ยวรอแป๊บนะคะ เพไปขอแก้วจากคุณพนักงานด้านหลังก่อน เดี๋ยวจะชงมาให้ คุณชัด คุณเปรม คุณอุสาห์ ดื่ม..ไม่ถึงห้านาทีค่ะ”


หลังจากเพทายหมุนตัวลับไปไม่นาน ชัดเจนที่นั่งครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ตลอดเวลา เขาเห็นสีหน้ามีพิรุธ แววตามีเลศนัยของนักวางแผนตัวแสบ อาจด้วยลางสังหรณ์บางอย่าง หรือความที่เคยใกล้ชิด รู้จักพิษสงของเพทายมาพอสมควร ชายหนุ่มจึงตัดสินใจตามเพทายไปห่างๆ
“ผมปวดท้องเข้าห้องน้ำ..ขอตัวก่อนนะครับ”
ศัลยแพทย์หนุ่มเอ่ยขึ้นมา โดยไม่คิดรอคำตอบรับจากใคร



silarin
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 ก.พ. 2558, 11:14:12 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 ก.พ. 2558, 11:14:19 น.

จำนวนการเข้าชม : 1013





sunflower 21 ก.พ. 2558, 22:17:33 น.
หายไปนานมากกกกกค่ะ แทบจำเนื้อเรื่องไม่ได้แน่ะ


silarin 21 ก.พ. 2558, 22:42:30 น.
@sunflower : ต้องขอโทษจริงๆที่หายไปนานนะคะ ขอบคุณมากเลยค่ะที่ยังติดตามกันอยู่ พอดีลืมพาสเวิร์ดเก่า เลยต้องสมัครสมาชิกเว็บใหม่ เดี๋ยวจะค่อยๆทยอยลงเนื้อเรื่องใหม่ตั้งแต่ตอนแรกนะคะ


แล่นแต๊ 22 ก.พ. 2558, 13:19:16 น.
มารอตอนต่อไป


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account