วิมานสายหมอก
เมื่อพินัยกรรมของคุณย่าระบุให้เขาต้องแต่งงานกับหลานสาวบ้านนรกานต์
อคิน..มีทางเลือกอยู่สองทางเท่านั้น
หนึ่ง..ปฏิเสธการแต่งงานซึ่งหมายถึงปฏิเสธการรับมรดกของคุณย่า
หรือสอง..ยอมรับการแต่งงานตามพินัยกรรม..ได้ทั้งมรดก..ได้ทั้งภรรยาตามกฎหมาย..!
ปัญหามันไม่ได้จบอยู่แค่นั้น..?
เพราะในพินัยกรรม..คุณย่าไม่ได้ระบุว่าเขาต้องแต่งงานกับสาวคนไหน
แล้วสามใบเถาแห่งบ้านนรกานต์ก็เลื่องชื่อในเรื่องความงามที่ไม่ได้น้อยหน้ากัน
แล้วภมรหนุ่มอย่างเขาควรจะเลือกเชยชมดอกไม้งาม..ดอกไหนดีเล่า..?
อคิน..มีทางเลือกอยู่สองทางเท่านั้น
หนึ่ง..ปฏิเสธการแต่งงานซึ่งหมายถึงปฏิเสธการรับมรดกของคุณย่า
หรือสอง..ยอมรับการแต่งงานตามพินัยกรรม..ได้ทั้งมรดก..ได้ทั้งภรรยาตามกฎหมาย..!
ปัญหามันไม่ได้จบอยู่แค่นั้น..?
เพราะในพินัยกรรม..คุณย่าไม่ได้ระบุว่าเขาต้องแต่งงานกับสาวคนไหน
แล้วสามใบเถาแห่งบ้านนรกานต์ก็เลื่องชื่อในเรื่องความงามที่ไม่ได้น้อยหน้ากัน
แล้วภมรหนุ่มอย่างเขาควรจะเลือกเชยชมดอกไม้งาม..ดอกไหนดีเล่า..?
Tags: อคิน, จันทร์กระพ้อ , ช่ออินทนิล ,กลิ่นสุคนธ์ , ไร่อ้อย ,กาญจนบุรี
ตอน: ตอนที่ 1. เปิดพินัยกรรม
พินัยกรรมถูกเปิด..
ทุกคนที่รวมตัวกันอยู่ในห้องนั้นต่างเงียบกริบ..
ทรัพย์สินทุกรายการของคุณย่าตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ชายคนนั้น
นายอคิน วีระโชติ..?
“ ใครกันคะคุณพ่อ..นายอคิน อะไรนี่..วิวไม่เคยได้ยินชื่อ..?”
จันทร์กระพ้อเปิดปากถามเป็นคนแรกเมื่อทุกคนเข้ามารวมตัวกันอยู่ภายในห้องนั่งเล่นของบ้าน
“ เขาเป็น..หลานชายคนเดียวของคุณย่า ”
นายดนูตอบคำถามของธิดาคนโตด้วยสีหน้าราบเรียบ แววตาภายใต้แว่นสายตาสีชานั้นฉายแววเหน็ดเหนื่อยอย่างเห็นได้ชัด
“ หลานชายคนเดียว..คุณย่ามีหลานชายตั้งแต่เมื่อไหร่คะ..ทำไมพวกเราไม่เคยรู้..?”
ช่ออินทนิลถามขึ้นบ้าง..ยังเต็มไปด้วยอาการงงไม่หายกับพินัยกรรมฉบับนั้น นายดนูถอนหายใจเบาๆเพ่งมองดวงหน้าใสๆของธิดาคนรองก่อนจะอธิบายช้าๆ
“ พ่อเคยเล่าให้พวกเราฟังแล้วไม่ใช่หรือว่าพ่อมีน้องชายอยู่คน..”
“ คุณพ่อหมายถึง..คุณอาอลงกต..คนที่เสียไปแล้วนั่นน่ะหรือคะ..?”
จันทร์กระพ้อถามต่อ ขณะพยายามระลึกถึงสิ่งที่บิดาเคยบอกเล่าในอดีต
“ แปลกจัง..คุณอาท่านเสียไปตั้งเป็นสิบๆปีแล้ว..ไม่เห็นนายคนนี้โผล่หน้ามาให้ญาติพี่น้องเห็นเลย..แล้วนี่มันอะไรกัน..จู่ๆก็มีชื่อโผล่มาเป็นเจ้าของสมบัติของคุณย่าทุกรายการ..วิวว่ามันแปลกๆ..”
“ ใช่ๆ..วาวก็ว่าแปลก..แล้วยังจะเงื่อนไขบ้าๆของคุณย่านั่นอีก..ให้ลูกสาวของคุณพ่อคนใดคนหนึ่งแต่งงานกับนายคนนั้น..คุณย่าเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ..จะแต่งกันเข้าไปได้ยังไง..ญาติกันแท้ๆ..สายเลือดเดียวกันเลยก็แทบจะว่าได้..ขืนแต่งเข้าไป..ลูกออกมา..ปัญญาอ่อนกันพอดี..”
กลิ่นสุคนธ์ ธิดาคนเล็กรีบกระเถิบเข้ามาใกล้บิดาพร้อมทั้งแสดงความคิดเห็นด้วยสีหน้าหมิ่นๆ
“ ก็ทำไมจะแต่งไม่ได้ล่ะ..ใช่สายเลือดเดียวกันซะที่ไหน..”
คุณสร้อยสนที่นั่งเงียบฟังสามีและบุตรสาวทั้งสามพูดคุยกันมากว่าครู่เริ่มออกปาก น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความหงุดหงิดไม่แพ้สีหน้าสีตาที่แสดงออกอยู่ในเวลานี้เลย
“ คุณสร้อย..”
นายดนูออกเสียงปรามผู้เป็นภรรยาทันที สีหน้าของชายสูงวัยเต็มไปด้วยริ้วรอยเจ็บปวดอัดอั้นตันใจ
“ คุณจะเก็บเป็นความลับต่อไปอีกทำไม..ในเมื่อคุณแม่ท่านก็เสียไปแล้ว..เป็นยังไงล่ะ..ทำดีแทบตาย..เป็นคนดีมาทั้งชีวิต..แล้วคุณแม่เคยเห็นค่าอะไรในตัวคุณบ้างมั้ย..สุดท้าย..ท่านก็เลือกที่จะยกทุกอย่างให้กับสายเลือดแท้ๆของท่าน..ลูกที่ท่านเก็บมาเลี้ยงอย่างคุณไม่เคยมีค่าในสายตาของท่านเลย..คุณเห็นรึยัง..!”
ประโยคบอกเล่ายืดยาวของมารดาช่วยเฉลยทุกสิ่งทุกอย่างให้กระจ่างแจ้ง..จันทร์กระพ้อ..ช่ออินทนิล..กลิ่นสุคนธ์..สามสาวพี่น้องในวัยไล่เลี่ยกันถึงกับตื่นตะลึงกับเรื่องราวที่ได้รับรู้เป็นครั้งแรก
+++++++++++++++++++++++++
“ สงสารคุณพ่อจัง..คุณพ่อทุ่มเททำงานให้คุณย่า..เป็นลูกที่ดีของคุณย่ามาทั้งชีวิตอย่างที่คุณแม่บอก..แต่ทำไมคุณย่ากลับยกสมบัติทุกอย่างให้นายคนนั้น..วาวอยากเห็นหน้าหมอนั่นจริงๆเลย..คนอะไรไม่รู้..จู่ๆก็มาชุบมือเปิบ..”
กลิ่นสุคนธ์กระแทกตัวลงนั่งบนเตียงนุ่มของพี่สาวคนโตก่อนจะยกมือขึ้นกอดอก..หน้าสวยๆของเจ้าหล่อนงอง้ำ จันทร์กระพ้อผู้เป็นเจ้าของห้องเดินตามมาทรุดตัวลงนั่งข้างน้องสาวคนเล็กพร้อมทั้งเปรยเบาๆ
“ ก็มันสมบัติของคุณย่า..ท่านจะยกให้ใครมันก็เป็นสิทธิ์ของท่านนี่นา..”
“ ก็ใช่อยู่หรอก..แต่ก็ไม่ควรจะทั้งหมดนี่คะ..ธุรกิจการงานของคุณย่าที่อยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ก็มาจากน้ำพักน้ำแรงของคุณพ่อทั้งนั้น..วามว่าคุณพ่อควรได้อะไรจากคุณย่าบ้าง..ไม่ใช่จะมายกให้นายคนนั้นทั้งหมดเพียงเพราะว่าเขาเป็นสายเลือดที่แท้จริงของคุณย่าเท่านั้น..ไม่แค่สมบัติ..คุณย่ายังยกเรา..ใครคนใดคนหนึ่งให้นายคนนั้นอีก..เฮ้อ..อันนี้ยิ่งน่ากลุ้มกว่าอีก..”
ช่ออินทนิลกล่าวก่อนจะเดินเลี่ยงไปนั่งบนสตูตัวเตี้ยหน้าโต๊ะเครื่องแป้งไม่ไกลกันนั้น
“ นั่นสิ...ใครที่ไหนจะบ้าไปแต่งด้วย..หน้าตายังไม่เคยเห็น..นิสัยใจคอเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้..?”
จันทร์กระพ้อ..เปรยกับน้องสาวทั้งสอง
“ ใครจะแต่งก็แต่งเหอะ..วาวไม่เอาด้วยคนล่ะ..วาวกำลังวางแผนจะไปเรียนต่อเมืองนอก..”
กลิ่นสุคนธ์..น้องสาวคนเล็กกล่าวอย่างมุ่งมั่น
“ วามก็ไม่ยอมแต่งแน่..อีกสองเดือน..วามก็จะหมั้นกับพี่เจตน์แล้ว..”
ช่ออินทนิล..น้องสาวคนรอง..ย้ำหนักแน่น..
“ สรุปว่าไม่มีใครยอมแต่ง..งั้นก็ชวดสมบัติของคุณย่าไปตามระเบียบสินะ..?”
ทั้งสามสาวพี่น้องหันไปมองมารดาที่เพิ่งจะก้าวพ้นเข้ามาภายในห้องเป็นตาเดียว
“ ในพินัยกรรมระบุเอาไว้อย่างชัดเจน..หากฝ่ายไหนไม่ยินยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขของคุณย่า..ให้ยกสมบัติทั้งหมดให้อีกฝ่าย..ถ้าทางเราปฏิเสธการแต่งงาน..สมบัติก็จะตกเป็นของนายคนนั้นทันที..”
“ เราก็ทำให้นายคนนั้นเป็นฝ่ายปฏิเสธการแต่งงานเสียก็สิ้นเรื่อง..”
กลิ่นสุคนธ์เสนอความคิดเห็นพร้อมรอยยิ้มสดใสตาวาวเป็นประกาย มารดาส่ายหน้าระอาทันที
“ ก็มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะปฏิเสธ..สมบัติก็ได้..เมียก็ได้..ไม่รักก็แต่งทิ้งๆเอาไว้แบบนั้นก็ยังไหว..ถึงยังไงเขาก็ได้เปรียบเราเห็นๆ..แม่ไม่คิดว่านายอคินอะไรนั่นจะปฏิเสธการแต่งงานครั้งนี้หรอก..ถ้าพวกเราอยากได้สมบัติของคุณย่าคืนมา..ใครสักคนก็ต้องยอมเสียสละตัวเองแต่งงานกับนายคนนั้น..”
มารดาพยายามจะหว่านล้อมอีกครั้ง แต่สีหน้าของบุตรสาวทั้งสามยังแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่มีใครเห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของมารดา
“ ที่จริง..คุณย่าก็ให้อะไรเรามาบ้าง..พวกเครื่องเพชรกับเงินสดในธนาคาร..รวมๆแล้วเราก็มีเงินเกือบๆสิบล้าน..เราไปหาซื้อบ้านจัดสรรสักหลังอยู่กันตามประสาพ่อแม่ลูก..แบบนั้นไม่ดีกว่าหรือคะแม่..สมบัติพวกนั้น..ที่จริงมันก็เป็นของๆคุณย่า..ถ้าคุณย่าอยากยกสมบัติทั้งหมดให้ทายาทที่แท้จริงของท่าน..เราก็ยกให้เขาไปเถอะคะ..ของนอกกาย..ไม่ตายก็หาเอาใหม่..เพราะถ้าหากจะให้ใครสักคนยอมแต่งงานกับนายคนนั้นเพื่อหวังจะเอาสมบัติ..วิวว่า..มันก็เหมือนกับเราส่งคนๆนั้นให้ตกไปอยู่ในสภาพตายทั้งเป็น..แต่งงานกับคนที่ไม่รัก..มันจะมีความสุขอะไรกันละคะ..หรือแม่ว่ามันไม่จริง..?”
มารดามองหน้าบุตรสาวคนโตที่ดูเหมือนจะปลงได้เร็วกว่าใครเพื่อนด้วยสายตาชนิดหนึ่ง..จะว่าชื่นชมก็ไม่เชิง..มันคล้ายรำคาญการมองโลกในแง่ดีเกินไปของบุตรสาวมากกว่า..
ที่จริงนางสร้อยสนแอบหวังอยู่ลึกๆว่าจะมีบุตรสาวของนางสักคนสมัครใจแต่งงานกับทายาทที่แท้จริงของคุณหญิงรำเพยเพื่อที่สมบัติของตระกูลนรกานต์จะยังคงหลงเหลือมาสู่ครอบครัวของนาง..แม้ไม่ได้ทั้งหมดแต่อย่างน้อยๆก็ควรจะได้มาสักครึ่งหนึ่งก็ยังดี..เรือล่มในหนอง..ทองจะไปไหน..จะเป็นไรไป..แต่งงานเพื่อหวังสมบัติใครๆเขาก็แต่งกันทั้งนั้น..แม้แต่นางเองในอดีตก็ยังแต่งงานกับสามีเพื่อหวังในสิ่งนี้..ก่อนจะมารู้ความจริงในภายหลังว่านายดนูไม่ใช่ทายาทของคุณหญิงรำเพยเป็นแต่เพียงเด็กข้างถนนคนหนึ่งที่คุณหญิงเก็บมาเลี้ยงดูเพราะตอนนั้นท่านยังไม่มีลูกเป็นของตนเองก็เท่านั้น
“ แม่รู้จักนายคนนั้นมั้ยคะ..เคยเห็นหน้ามั้ย..?”
ช่ออินทนิลเอ่ยถามมารดาหน้าซื่อตาใสแจ๋ว มารดาสั่นศรีษะเร็วไว
“ ไม่เคย..แต่คุณพ่อเคยพบเขาหนหนึ่งเมื่อสี่ห้าปีก่อน..รูปร่างหน้าตาเป็นยังไงคุณพ่อก็ไม่ได้บอก..เห็นว่าเป็นหนุ่มใหญ่แล้ว..ทำไร่อ้อยอยู่แถวเมืองกาญจน์”
“ ห๊า..หนุ่มไร่อ้อย..ก็พวกใช้แรงงาน..พวกจับกังดีๆนี่เอง..น่ากลัวออกค่ะคุณแม่..”
กลิ่นสุคนธ์ทำท่าอกสั่นขวัญแขวน พลางเบ้ปากอย่างหมิ่นแคลน
“ คงไม่ถึงกับเป็นพวกกุ้ย..จับกังอะไรหรอกมั้ง..ฟังว่าทางฝ่ายแม่เขาก็มีฐานะอยู่นะ”
“ ยังไงก็เถอะ..หนุ่มไร่อ้อยพรรค์นั้น..ทำงานกลางแดดกลางลม..ตัวท่าจะดำเป็นเหนี่ยง..พี่วิว..พี่วามจะไปแต่งกับตานั่นเอาสมบัติก็เชิญเหอะ..วาวคนละ..ไม่รับทานแน่ๆ..เจ้าบ่าวของวาวต้องหล่อตี๋สไตล์หนุ่มเกาหลีเท่านั้น..พวกดาร์กทอล..หน้าเข้มๆดุๆนี่..ไม่ใช่สเป็ควาว..งานนี้วาวขอบายค่ะ..”
น้องสาวคนเล็กออกตัวแรงสุด..จนผู้เป็นพี่ทั้งสองต้องถอนหายใจออกมาเกือบพร้อมๆกัน
“ วามก็จะหมั้นกับพี่เจตน์อีกเดือนสองเดือนนี้..วามแต่งกับเขาไม่ได้หรอกค่ะ..”
ช่ออินทนิลออกตัวเป็นคนถัดมา ผู้เป็นมารดาจึงหันไปมองหน้าจันทร์กระพ้อเป็นเชิงถาม
“ อย่ามองวิวแบบนั้นสิคะแม่..ต่อให้วิวยังไม่มีใครตอนนี้..วิวก็ไม่แต่งกับตานั่นแน่ๆ..หัวเด็ดตีนขาด..วิวก็ไม่แต่งค่ะ..ขอบอกเอาไว้ตรงนี้เลย..”
ถ้อยคำยืนยันหนักแน่นของบุตรสาวทั้งสามทำเอานางสร้อยสนต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เลยทีเดียว
++++++++++++++++++++++++++++++
“ โชคดีจริง..วันนี้คุณโดดอยู่บ้าน..”
เสียงทักของคุณชำนาญ ทนายความประจำบ้านวีระโชติทำให้ชายหนุ่มหน้าเข้มที่กำลังนอนเอกเขนกอยู่บนโซฟาตัวยาวละสายตาจากทีวีจอใหญ่ตรงหน้า เขาหยิบรีโมตข้างตัวมากดปิดทีวีทันทีก่อนจะขยับตัวนั่งใหม่ ท่าทางเป็นงานเป็นการมากขึ้น
“ แม่บอกว่าลุงชำนาญมีธุระจะคุยด้วย..ผมก็เลยอยู่รอ..มีอะไรว่ามาเลยครับลุง..”
หนุ่มหน้าเข้ม..ท่วงท่าปราดเปรียว..ผู้มีดวงตาคมลึก..ฉลาดเหมือนเหยี่ยว..ทำท่ากระตือรือล้นขึ้นมาทันทีทันใด
“ ก็เรื่องนั้น..เรื่องพินัยกรรมของคุณหญิงรำเพย..คุณย่าของคุณ..”
อคินเลิกคิ้วเล็กน้อย..ยิ้มเรื่อยๆท่าทางกระตือรือล้นเมื่อครู่ดูเนือยลงอย่างเห็นได้ชัด
“ นึกว่าเรื่องอะไร..ทำไมครับ..มีอะไรน่าสนใจงั้นหรือ..ท่าทางลุงชำนาญดูตื่นเต้น..”
ต่างจากเขา..อคินแทบไม่ได้สนใจหญิงชราผู้มีศักดิ์เป็นคุณย่าคนนั้นเลย..เป็นเพราะเขาเติบโตมากับญาติพี่น้องทางฝ่ายแม่..ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งถึงทุกวันนี้..เขาเคยพบคุณย่าแค่ครั้งเดียวเท่านั้น..นั่นมันก็เมื่อห้าปีผ่านมาแล้ว..คุณย่ามาพร้อมกับคุณลุงนอกสายเลือดของเขา..ท่านว่า..ท่านตั้งใจมาเยี่ยมเขากับแม่
มาอะไรจนป่านนี้..อคินอดคิดไม่ได้
อคินและแม่ไม่เคยรู้สึกถึงสายสัมพันธ์หรือตัวตนใดๆของคุณย่ามานานแล้ว..แม้แต่วันที่พ่อตาย..เขาก็จำได้ดีว่าไม่มีญาติพี่น้องทางฝ่ายพ่อมางานศพเลยแม้แต่คนเดียว..ตอนที่พ่อเสียชีวิตเพราะถูกลอบยิงจากคนมีอิทธิพลแถบนี้..เขาเรียนอยู่มัธยมปลาย..ชีวิตอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ..แม่กับญาติทางฝ่ายแม่ทั้งนั้นที่ประคับประคองชีวิตของเขาสืบมาจนเขาเติบใหญ่มั่นคงอย่างทุกวันนี้
“ บอกแล้วคุณจะไม่เชื่อ..คุณย่ามอบสมบัติทุกอย่างให้คุณคนเดียว..”
อคินเลิกคิ้วอีกครั้ง..หัวเราะด้วยน้ำเสียงแปลกๆ..ท่าทางของชายหนุ่มดูจะไม่แยแสกับข่าวดีที่ทนายสูงวัยบอกกล่าวเลยสักนิด
“ เออนะ..ผมควรจะดีใจมั้ยนี่..?”
“ อ้าว..ทำไมคุณโดดพูดแบบนั้นละครับ..ได้มรดกจากคุณย่าคุณควรดีใจน่ะถูกแล้ว..ทั้งบริษัทผลิตอุปกรณ์กีฬานั่น..ทั้งคฤหาสน์หลังงามแถวสีลม..มูลค่ามันไม่น้อยนะครับ..”
“ ผมจะเอามาทำไมบริษัทที่ขาดทุนติดต่อกันมานานหลายปีจะเจ๊งมิเจ๊งแหล่พรรค์นั้น..คฤหาสน์ปุโรทั่งหลังโทรมๆนั่นอีก..ต้องใช้เงินตบแต่งใหม่อีกหลายล้านเชียวล่ะกว่าจะสวยขึ้นมาได้..มีดีหน่อยก็ตรงไอ้คฤหาสน์นั่นมันตั้งอยู่บนที่ดินที่ถือว่าราคาแพงที่สุดของกรุงเทพฯก็เท่านั้น..”
“ หมายความว่า..คุณโดดจะไม่รับมรดกของคุณย่า..?”
“ ก็แล้วมันมีอะไรให้น่ารับมั้ยละครับ..?”
ทนายความสูงวัยยิ้มแห้งๆยอมรับว่าสิ่งที่ชายหนุ่มพูดออกมาล้วนแล้วแต่เป็นความจริงแทบทั้งสิ้น บริษัทผลิตอุปกรณ์กีฬาที่มีนายดนูรับช่วงดูแลกิจการต่อจากคุณหญิงรำเพยมานานหลายสิบปีบัดนี้กิจการกลับง่อนแง่นประสบภาวะขาดทุนติดต่อกันมาหลายปีจนต้องไปกู้เงินธนาคารมาเป็นทุนหมุนเวียนและทำท่าว่าจะไปไม่รอด..คฤหาสน์นรกานต์ที่เคยสวยสง่าในยุคที่สามีของคุณหญิงรำเพยเคยดำรงตำแหน่งเป็นนายพลนั่นก็อีก..บัดนี้มันทรุดโทรมหม่นหมองจนดูเป็นตึกเก่าๆหมดสง่าราศรีไปตามกาลเวลา
“ อีกเรื่อง..คุณย่าท่านมีเงื่อนไขเพิ่มเติมท้ายพินัยกรรม..ท่านมีความประสงค์จะให้คุณโดดแต่งงานกับหลานสาวของท่านคนใดคนหนึ่ง..ก็ลูกสาวทั้งสามคนของคุณดนู..ภายในสามสิบวันนับจากวันเปิดพินัยกรรม..”
“ เอ..ชักน่าสนขึ้นมาหน่อยละ..ได้ยินมาว่า..สามใบเถาบ้านนั้น..สวยเช้งทุกคนเลยไม่ใช่หรือ..คุณย่าอยากให้ผมแต่งกับคนไหนละ..ระบุมาในพินัยกรรมด้วยรึเปล่า..?”
“ ไม่ได้ระบุครับ..ให้ตัดสินใจกันเอง..ทั้งฝ่ายคุณ..ทั้งฝ่ายนั้น..ฝ่ายไหนปฏิเสธการแต่งงาน..มรดกก็จะตกเป็นของอีกฝ่ายโดยทันที..”
“ แล้ว..ฝ่ายนั้นว่าไง..?”
“ พูดไม่ออก..อึ้งกันไปทั้งบ้าน..คงทำใจลำบาก..ก็อย่างว่า..สมบัติที่ควรจะได้ก็ไม่ได้..แล้วลูกสาวบ้านนั้นก็หัวสูงไม่ใช่เล่น..เขาคิดว่าคุณโดดเป็นหนุ่มบ้านนอก..เป็นตาสีตาสาไปโน้น..”
“ งั้นเหรอ..?”
ริมฝีปากได้รูปของอคินเหยียดหยันขึ้นนิดๆหากแต่ไม่มีเสียงแสดงความคิดเห็นใดๆเล็ดลอดออกมาจากปากของชายหนุ่ม คุณชำนาญจึงเลียบๆเคียงๆหาคำตอบต่อไป
“ แล้ว..คุณโดดตัดสินใจยังไงครับ..จะตอบรับหรือปฏิเสธ..?”
อคินไหวไหล่ก่อนจะนิ่วหน้านิดๆดวงตาคมกริบเปล่งประกายครุ่นคิดตรึกตรอง
“ ยังมีเวลาเหลืออีกตั้งสามสิบวันไม่ใช่หรือครับ..ผมขอไปนอนคิดสักหลายๆคืนก่อนว่าการมีเมียเป็นสาวชาวกรุงมันจะดีกับชีวิตของผมยังไงบ้าง..เอาไว้ตัดสินใจได้เมื่อไหร่..ผมจะบอกลุงชำนาญอีกทีก็แล้วกัน..”
+++++++++++++++++++++++++++++
พาคุณอคิน วีระโชติ กับสามใบเถาแห่งบ้านนรกานต์..จันทร์กระพ้อ..ช่ออินทนิล..กลิ่นสุคนธ์..มาทักทายนักอ่านค่ะ..เป็นพล็อตนิยายตบจูบนำ้เน่าเงาจันทร์อีกเรื่องหนึ่งที่อยากเขียน..คือมีพล็อตในหัวกว้างๆแล้วก็ลงมือเขียนเลย..คราวนี้เป็นเรื่องราวความรักของหนุ่มไร่อ้อยแห่งจังหวัดกาญจนบุรีบ้างนะคะ
ตอนนี้อนุญาตให้คนอ่านเดาไปพลางๆก่อนว่าสาวคนไหนจะได้รับเลือกจากคุณโดดให้เป็นนายหญิงแห่งไร่อ้อยเมืองกาญจน์
โอชิน
+++++++++++++++++++++++++++++++++
ทุกคนที่รวมตัวกันอยู่ในห้องนั้นต่างเงียบกริบ..
ทรัพย์สินทุกรายการของคุณย่าตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ชายคนนั้น
นายอคิน วีระโชติ..?
“ ใครกันคะคุณพ่อ..นายอคิน อะไรนี่..วิวไม่เคยได้ยินชื่อ..?”
จันทร์กระพ้อเปิดปากถามเป็นคนแรกเมื่อทุกคนเข้ามารวมตัวกันอยู่ภายในห้องนั่งเล่นของบ้าน
“ เขาเป็น..หลานชายคนเดียวของคุณย่า ”
นายดนูตอบคำถามของธิดาคนโตด้วยสีหน้าราบเรียบ แววตาภายใต้แว่นสายตาสีชานั้นฉายแววเหน็ดเหนื่อยอย่างเห็นได้ชัด
“ หลานชายคนเดียว..คุณย่ามีหลานชายตั้งแต่เมื่อไหร่คะ..ทำไมพวกเราไม่เคยรู้..?”
ช่ออินทนิลถามขึ้นบ้าง..ยังเต็มไปด้วยอาการงงไม่หายกับพินัยกรรมฉบับนั้น นายดนูถอนหายใจเบาๆเพ่งมองดวงหน้าใสๆของธิดาคนรองก่อนจะอธิบายช้าๆ
“ พ่อเคยเล่าให้พวกเราฟังแล้วไม่ใช่หรือว่าพ่อมีน้องชายอยู่คน..”
“ คุณพ่อหมายถึง..คุณอาอลงกต..คนที่เสียไปแล้วนั่นน่ะหรือคะ..?”
จันทร์กระพ้อถามต่อ ขณะพยายามระลึกถึงสิ่งที่บิดาเคยบอกเล่าในอดีต
“ แปลกจัง..คุณอาท่านเสียไปตั้งเป็นสิบๆปีแล้ว..ไม่เห็นนายคนนี้โผล่หน้ามาให้ญาติพี่น้องเห็นเลย..แล้วนี่มันอะไรกัน..จู่ๆก็มีชื่อโผล่มาเป็นเจ้าของสมบัติของคุณย่าทุกรายการ..วิวว่ามันแปลกๆ..”
“ ใช่ๆ..วาวก็ว่าแปลก..แล้วยังจะเงื่อนไขบ้าๆของคุณย่านั่นอีก..ให้ลูกสาวของคุณพ่อคนใดคนหนึ่งแต่งงานกับนายคนนั้น..คุณย่าเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ..จะแต่งกันเข้าไปได้ยังไง..ญาติกันแท้ๆ..สายเลือดเดียวกันเลยก็แทบจะว่าได้..ขืนแต่งเข้าไป..ลูกออกมา..ปัญญาอ่อนกันพอดี..”
กลิ่นสุคนธ์ ธิดาคนเล็กรีบกระเถิบเข้ามาใกล้บิดาพร้อมทั้งแสดงความคิดเห็นด้วยสีหน้าหมิ่นๆ
“ ก็ทำไมจะแต่งไม่ได้ล่ะ..ใช่สายเลือดเดียวกันซะที่ไหน..”
คุณสร้อยสนที่นั่งเงียบฟังสามีและบุตรสาวทั้งสามพูดคุยกันมากว่าครู่เริ่มออกปาก น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความหงุดหงิดไม่แพ้สีหน้าสีตาที่แสดงออกอยู่ในเวลานี้เลย
“ คุณสร้อย..”
นายดนูออกเสียงปรามผู้เป็นภรรยาทันที สีหน้าของชายสูงวัยเต็มไปด้วยริ้วรอยเจ็บปวดอัดอั้นตันใจ
“ คุณจะเก็บเป็นความลับต่อไปอีกทำไม..ในเมื่อคุณแม่ท่านก็เสียไปแล้ว..เป็นยังไงล่ะ..ทำดีแทบตาย..เป็นคนดีมาทั้งชีวิต..แล้วคุณแม่เคยเห็นค่าอะไรในตัวคุณบ้างมั้ย..สุดท้าย..ท่านก็เลือกที่จะยกทุกอย่างให้กับสายเลือดแท้ๆของท่าน..ลูกที่ท่านเก็บมาเลี้ยงอย่างคุณไม่เคยมีค่าในสายตาของท่านเลย..คุณเห็นรึยัง..!”
ประโยคบอกเล่ายืดยาวของมารดาช่วยเฉลยทุกสิ่งทุกอย่างให้กระจ่างแจ้ง..จันทร์กระพ้อ..ช่ออินทนิล..กลิ่นสุคนธ์..สามสาวพี่น้องในวัยไล่เลี่ยกันถึงกับตื่นตะลึงกับเรื่องราวที่ได้รับรู้เป็นครั้งแรก
+++++++++++++++++++++++++
“ สงสารคุณพ่อจัง..คุณพ่อทุ่มเททำงานให้คุณย่า..เป็นลูกที่ดีของคุณย่ามาทั้งชีวิตอย่างที่คุณแม่บอก..แต่ทำไมคุณย่ากลับยกสมบัติทุกอย่างให้นายคนนั้น..วาวอยากเห็นหน้าหมอนั่นจริงๆเลย..คนอะไรไม่รู้..จู่ๆก็มาชุบมือเปิบ..”
กลิ่นสุคนธ์กระแทกตัวลงนั่งบนเตียงนุ่มของพี่สาวคนโตก่อนจะยกมือขึ้นกอดอก..หน้าสวยๆของเจ้าหล่อนงอง้ำ จันทร์กระพ้อผู้เป็นเจ้าของห้องเดินตามมาทรุดตัวลงนั่งข้างน้องสาวคนเล็กพร้อมทั้งเปรยเบาๆ
“ ก็มันสมบัติของคุณย่า..ท่านจะยกให้ใครมันก็เป็นสิทธิ์ของท่านนี่นา..”
“ ก็ใช่อยู่หรอก..แต่ก็ไม่ควรจะทั้งหมดนี่คะ..ธุรกิจการงานของคุณย่าที่อยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ก็มาจากน้ำพักน้ำแรงของคุณพ่อทั้งนั้น..วามว่าคุณพ่อควรได้อะไรจากคุณย่าบ้าง..ไม่ใช่จะมายกให้นายคนนั้นทั้งหมดเพียงเพราะว่าเขาเป็นสายเลือดที่แท้จริงของคุณย่าเท่านั้น..ไม่แค่สมบัติ..คุณย่ายังยกเรา..ใครคนใดคนหนึ่งให้นายคนนั้นอีก..เฮ้อ..อันนี้ยิ่งน่ากลุ้มกว่าอีก..”
ช่ออินทนิลกล่าวก่อนจะเดินเลี่ยงไปนั่งบนสตูตัวเตี้ยหน้าโต๊ะเครื่องแป้งไม่ไกลกันนั้น
“ นั่นสิ...ใครที่ไหนจะบ้าไปแต่งด้วย..หน้าตายังไม่เคยเห็น..นิสัยใจคอเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้..?”
จันทร์กระพ้อ..เปรยกับน้องสาวทั้งสอง
“ ใครจะแต่งก็แต่งเหอะ..วาวไม่เอาด้วยคนล่ะ..วาวกำลังวางแผนจะไปเรียนต่อเมืองนอก..”
กลิ่นสุคนธ์..น้องสาวคนเล็กกล่าวอย่างมุ่งมั่น
“ วามก็ไม่ยอมแต่งแน่..อีกสองเดือน..วามก็จะหมั้นกับพี่เจตน์แล้ว..”
ช่ออินทนิล..น้องสาวคนรอง..ย้ำหนักแน่น..
“ สรุปว่าไม่มีใครยอมแต่ง..งั้นก็ชวดสมบัติของคุณย่าไปตามระเบียบสินะ..?”
ทั้งสามสาวพี่น้องหันไปมองมารดาที่เพิ่งจะก้าวพ้นเข้ามาภายในห้องเป็นตาเดียว
“ ในพินัยกรรมระบุเอาไว้อย่างชัดเจน..หากฝ่ายไหนไม่ยินยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขของคุณย่า..ให้ยกสมบัติทั้งหมดให้อีกฝ่าย..ถ้าทางเราปฏิเสธการแต่งงาน..สมบัติก็จะตกเป็นของนายคนนั้นทันที..”
“ เราก็ทำให้นายคนนั้นเป็นฝ่ายปฏิเสธการแต่งงานเสียก็สิ้นเรื่อง..”
กลิ่นสุคนธ์เสนอความคิดเห็นพร้อมรอยยิ้มสดใสตาวาวเป็นประกาย มารดาส่ายหน้าระอาทันที
“ ก็มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะปฏิเสธ..สมบัติก็ได้..เมียก็ได้..ไม่รักก็แต่งทิ้งๆเอาไว้แบบนั้นก็ยังไหว..ถึงยังไงเขาก็ได้เปรียบเราเห็นๆ..แม่ไม่คิดว่านายอคินอะไรนั่นจะปฏิเสธการแต่งงานครั้งนี้หรอก..ถ้าพวกเราอยากได้สมบัติของคุณย่าคืนมา..ใครสักคนก็ต้องยอมเสียสละตัวเองแต่งงานกับนายคนนั้น..”
มารดาพยายามจะหว่านล้อมอีกครั้ง แต่สีหน้าของบุตรสาวทั้งสามยังแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่มีใครเห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของมารดา
“ ที่จริง..คุณย่าก็ให้อะไรเรามาบ้าง..พวกเครื่องเพชรกับเงินสดในธนาคาร..รวมๆแล้วเราก็มีเงินเกือบๆสิบล้าน..เราไปหาซื้อบ้านจัดสรรสักหลังอยู่กันตามประสาพ่อแม่ลูก..แบบนั้นไม่ดีกว่าหรือคะแม่..สมบัติพวกนั้น..ที่จริงมันก็เป็นของๆคุณย่า..ถ้าคุณย่าอยากยกสมบัติทั้งหมดให้ทายาทที่แท้จริงของท่าน..เราก็ยกให้เขาไปเถอะคะ..ของนอกกาย..ไม่ตายก็หาเอาใหม่..เพราะถ้าหากจะให้ใครสักคนยอมแต่งงานกับนายคนนั้นเพื่อหวังจะเอาสมบัติ..วิวว่า..มันก็เหมือนกับเราส่งคนๆนั้นให้ตกไปอยู่ในสภาพตายทั้งเป็น..แต่งงานกับคนที่ไม่รัก..มันจะมีความสุขอะไรกันละคะ..หรือแม่ว่ามันไม่จริง..?”
มารดามองหน้าบุตรสาวคนโตที่ดูเหมือนจะปลงได้เร็วกว่าใครเพื่อนด้วยสายตาชนิดหนึ่ง..จะว่าชื่นชมก็ไม่เชิง..มันคล้ายรำคาญการมองโลกในแง่ดีเกินไปของบุตรสาวมากกว่า..
ที่จริงนางสร้อยสนแอบหวังอยู่ลึกๆว่าจะมีบุตรสาวของนางสักคนสมัครใจแต่งงานกับทายาทที่แท้จริงของคุณหญิงรำเพยเพื่อที่สมบัติของตระกูลนรกานต์จะยังคงหลงเหลือมาสู่ครอบครัวของนาง..แม้ไม่ได้ทั้งหมดแต่อย่างน้อยๆก็ควรจะได้มาสักครึ่งหนึ่งก็ยังดี..เรือล่มในหนอง..ทองจะไปไหน..จะเป็นไรไป..แต่งงานเพื่อหวังสมบัติใครๆเขาก็แต่งกันทั้งนั้น..แม้แต่นางเองในอดีตก็ยังแต่งงานกับสามีเพื่อหวังในสิ่งนี้..ก่อนจะมารู้ความจริงในภายหลังว่านายดนูไม่ใช่ทายาทของคุณหญิงรำเพยเป็นแต่เพียงเด็กข้างถนนคนหนึ่งที่คุณหญิงเก็บมาเลี้ยงดูเพราะตอนนั้นท่านยังไม่มีลูกเป็นของตนเองก็เท่านั้น
“ แม่รู้จักนายคนนั้นมั้ยคะ..เคยเห็นหน้ามั้ย..?”
ช่ออินทนิลเอ่ยถามมารดาหน้าซื่อตาใสแจ๋ว มารดาสั่นศรีษะเร็วไว
“ ไม่เคย..แต่คุณพ่อเคยพบเขาหนหนึ่งเมื่อสี่ห้าปีก่อน..รูปร่างหน้าตาเป็นยังไงคุณพ่อก็ไม่ได้บอก..เห็นว่าเป็นหนุ่มใหญ่แล้ว..ทำไร่อ้อยอยู่แถวเมืองกาญจน์”
“ ห๊า..หนุ่มไร่อ้อย..ก็พวกใช้แรงงาน..พวกจับกังดีๆนี่เอง..น่ากลัวออกค่ะคุณแม่..”
กลิ่นสุคนธ์ทำท่าอกสั่นขวัญแขวน พลางเบ้ปากอย่างหมิ่นแคลน
“ คงไม่ถึงกับเป็นพวกกุ้ย..จับกังอะไรหรอกมั้ง..ฟังว่าทางฝ่ายแม่เขาก็มีฐานะอยู่นะ”
“ ยังไงก็เถอะ..หนุ่มไร่อ้อยพรรค์นั้น..ทำงานกลางแดดกลางลม..ตัวท่าจะดำเป็นเหนี่ยง..พี่วิว..พี่วามจะไปแต่งกับตานั่นเอาสมบัติก็เชิญเหอะ..วาวคนละ..ไม่รับทานแน่ๆ..เจ้าบ่าวของวาวต้องหล่อตี๋สไตล์หนุ่มเกาหลีเท่านั้น..พวกดาร์กทอล..หน้าเข้มๆดุๆนี่..ไม่ใช่สเป็ควาว..งานนี้วาวขอบายค่ะ..”
น้องสาวคนเล็กออกตัวแรงสุด..จนผู้เป็นพี่ทั้งสองต้องถอนหายใจออกมาเกือบพร้อมๆกัน
“ วามก็จะหมั้นกับพี่เจตน์อีกเดือนสองเดือนนี้..วามแต่งกับเขาไม่ได้หรอกค่ะ..”
ช่ออินทนิลออกตัวเป็นคนถัดมา ผู้เป็นมารดาจึงหันไปมองหน้าจันทร์กระพ้อเป็นเชิงถาม
“ อย่ามองวิวแบบนั้นสิคะแม่..ต่อให้วิวยังไม่มีใครตอนนี้..วิวก็ไม่แต่งกับตานั่นแน่ๆ..หัวเด็ดตีนขาด..วิวก็ไม่แต่งค่ะ..ขอบอกเอาไว้ตรงนี้เลย..”
ถ้อยคำยืนยันหนักแน่นของบุตรสาวทั้งสามทำเอานางสร้อยสนต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เลยทีเดียว
++++++++++++++++++++++++++++++
“ โชคดีจริง..วันนี้คุณโดดอยู่บ้าน..”
เสียงทักของคุณชำนาญ ทนายความประจำบ้านวีระโชติทำให้ชายหนุ่มหน้าเข้มที่กำลังนอนเอกเขนกอยู่บนโซฟาตัวยาวละสายตาจากทีวีจอใหญ่ตรงหน้า เขาหยิบรีโมตข้างตัวมากดปิดทีวีทันทีก่อนจะขยับตัวนั่งใหม่ ท่าทางเป็นงานเป็นการมากขึ้น
“ แม่บอกว่าลุงชำนาญมีธุระจะคุยด้วย..ผมก็เลยอยู่รอ..มีอะไรว่ามาเลยครับลุง..”
หนุ่มหน้าเข้ม..ท่วงท่าปราดเปรียว..ผู้มีดวงตาคมลึก..ฉลาดเหมือนเหยี่ยว..ทำท่ากระตือรือล้นขึ้นมาทันทีทันใด
“ ก็เรื่องนั้น..เรื่องพินัยกรรมของคุณหญิงรำเพย..คุณย่าของคุณ..”
อคินเลิกคิ้วเล็กน้อย..ยิ้มเรื่อยๆท่าทางกระตือรือล้นเมื่อครู่ดูเนือยลงอย่างเห็นได้ชัด
“ นึกว่าเรื่องอะไร..ทำไมครับ..มีอะไรน่าสนใจงั้นหรือ..ท่าทางลุงชำนาญดูตื่นเต้น..”
ต่างจากเขา..อคินแทบไม่ได้สนใจหญิงชราผู้มีศักดิ์เป็นคุณย่าคนนั้นเลย..เป็นเพราะเขาเติบโตมากับญาติพี่น้องทางฝ่ายแม่..ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งถึงทุกวันนี้..เขาเคยพบคุณย่าแค่ครั้งเดียวเท่านั้น..นั่นมันก็เมื่อห้าปีผ่านมาแล้ว..คุณย่ามาพร้อมกับคุณลุงนอกสายเลือดของเขา..ท่านว่า..ท่านตั้งใจมาเยี่ยมเขากับแม่
มาอะไรจนป่านนี้..อคินอดคิดไม่ได้
อคินและแม่ไม่เคยรู้สึกถึงสายสัมพันธ์หรือตัวตนใดๆของคุณย่ามานานแล้ว..แม้แต่วันที่พ่อตาย..เขาก็จำได้ดีว่าไม่มีญาติพี่น้องทางฝ่ายพ่อมางานศพเลยแม้แต่คนเดียว..ตอนที่พ่อเสียชีวิตเพราะถูกลอบยิงจากคนมีอิทธิพลแถบนี้..เขาเรียนอยู่มัธยมปลาย..ชีวิตอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ..แม่กับญาติทางฝ่ายแม่ทั้งนั้นที่ประคับประคองชีวิตของเขาสืบมาจนเขาเติบใหญ่มั่นคงอย่างทุกวันนี้
“ บอกแล้วคุณจะไม่เชื่อ..คุณย่ามอบสมบัติทุกอย่างให้คุณคนเดียว..”
อคินเลิกคิ้วอีกครั้ง..หัวเราะด้วยน้ำเสียงแปลกๆ..ท่าทางของชายหนุ่มดูจะไม่แยแสกับข่าวดีที่ทนายสูงวัยบอกกล่าวเลยสักนิด
“ เออนะ..ผมควรจะดีใจมั้ยนี่..?”
“ อ้าว..ทำไมคุณโดดพูดแบบนั้นละครับ..ได้มรดกจากคุณย่าคุณควรดีใจน่ะถูกแล้ว..ทั้งบริษัทผลิตอุปกรณ์กีฬานั่น..ทั้งคฤหาสน์หลังงามแถวสีลม..มูลค่ามันไม่น้อยนะครับ..”
“ ผมจะเอามาทำไมบริษัทที่ขาดทุนติดต่อกันมานานหลายปีจะเจ๊งมิเจ๊งแหล่พรรค์นั้น..คฤหาสน์ปุโรทั่งหลังโทรมๆนั่นอีก..ต้องใช้เงินตบแต่งใหม่อีกหลายล้านเชียวล่ะกว่าจะสวยขึ้นมาได้..มีดีหน่อยก็ตรงไอ้คฤหาสน์นั่นมันตั้งอยู่บนที่ดินที่ถือว่าราคาแพงที่สุดของกรุงเทพฯก็เท่านั้น..”
“ หมายความว่า..คุณโดดจะไม่รับมรดกของคุณย่า..?”
“ ก็แล้วมันมีอะไรให้น่ารับมั้ยละครับ..?”
ทนายความสูงวัยยิ้มแห้งๆยอมรับว่าสิ่งที่ชายหนุ่มพูดออกมาล้วนแล้วแต่เป็นความจริงแทบทั้งสิ้น บริษัทผลิตอุปกรณ์กีฬาที่มีนายดนูรับช่วงดูแลกิจการต่อจากคุณหญิงรำเพยมานานหลายสิบปีบัดนี้กิจการกลับง่อนแง่นประสบภาวะขาดทุนติดต่อกันมาหลายปีจนต้องไปกู้เงินธนาคารมาเป็นทุนหมุนเวียนและทำท่าว่าจะไปไม่รอด..คฤหาสน์นรกานต์ที่เคยสวยสง่าในยุคที่สามีของคุณหญิงรำเพยเคยดำรงตำแหน่งเป็นนายพลนั่นก็อีก..บัดนี้มันทรุดโทรมหม่นหมองจนดูเป็นตึกเก่าๆหมดสง่าราศรีไปตามกาลเวลา
“ อีกเรื่อง..คุณย่าท่านมีเงื่อนไขเพิ่มเติมท้ายพินัยกรรม..ท่านมีความประสงค์จะให้คุณโดดแต่งงานกับหลานสาวของท่านคนใดคนหนึ่ง..ก็ลูกสาวทั้งสามคนของคุณดนู..ภายในสามสิบวันนับจากวันเปิดพินัยกรรม..”
“ เอ..ชักน่าสนขึ้นมาหน่อยละ..ได้ยินมาว่า..สามใบเถาบ้านนั้น..สวยเช้งทุกคนเลยไม่ใช่หรือ..คุณย่าอยากให้ผมแต่งกับคนไหนละ..ระบุมาในพินัยกรรมด้วยรึเปล่า..?”
“ ไม่ได้ระบุครับ..ให้ตัดสินใจกันเอง..ทั้งฝ่ายคุณ..ทั้งฝ่ายนั้น..ฝ่ายไหนปฏิเสธการแต่งงาน..มรดกก็จะตกเป็นของอีกฝ่ายโดยทันที..”
“ แล้ว..ฝ่ายนั้นว่าไง..?”
“ พูดไม่ออก..อึ้งกันไปทั้งบ้าน..คงทำใจลำบาก..ก็อย่างว่า..สมบัติที่ควรจะได้ก็ไม่ได้..แล้วลูกสาวบ้านนั้นก็หัวสูงไม่ใช่เล่น..เขาคิดว่าคุณโดดเป็นหนุ่มบ้านนอก..เป็นตาสีตาสาไปโน้น..”
“ งั้นเหรอ..?”
ริมฝีปากได้รูปของอคินเหยียดหยันขึ้นนิดๆหากแต่ไม่มีเสียงแสดงความคิดเห็นใดๆเล็ดลอดออกมาจากปากของชายหนุ่ม คุณชำนาญจึงเลียบๆเคียงๆหาคำตอบต่อไป
“ แล้ว..คุณโดดตัดสินใจยังไงครับ..จะตอบรับหรือปฏิเสธ..?”
อคินไหวไหล่ก่อนจะนิ่วหน้านิดๆดวงตาคมกริบเปล่งประกายครุ่นคิดตรึกตรอง
“ ยังมีเวลาเหลืออีกตั้งสามสิบวันไม่ใช่หรือครับ..ผมขอไปนอนคิดสักหลายๆคืนก่อนว่าการมีเมียเป็นสาวชาวกรุงมันจะดีกับชีวิตของผมยังไงบ้าง..เอาไว้ตัดสินใจได้เมื่อไหร่..ผมจะบอกลุงชำนาญอีกทีก็แล้วกัน..”
+++++++++++++++++++++++++++++
พาคุณอคิน วีระโชติ กับสามใบเถาแห่งบ้านนรกานต์..จันทร์กระพ้อ..ช่ออินทนิล..กลิ่นสุคนธ์..มาทักทายนักอ่านค่ะ..เป็นพล็อตนิยายตบจูบนำ้เน่าเงาจันทร์อีกเรื่องหนึ่งที่อยากเขียน..คือมีพล็อตในหัวกว้างๆแล้วก็ลงมือเขียนเลย..คราวนี้เป็นเรื่องราวความรักของหนุ่มไร่อ้อยแห่งจังหวัดกาญจนบุรีบ้างนะคะ
ตอนนี้อนุญาตให้คนอ่านเดาไปพลางๆก่อนว่าสาวคนไหนจะได้รับเลือกจากคุณโดดให้เป็นนายหญิงแห่งไร่อ้อยเมืองกาญจน์
โอชิน
+++++++++++++++++++++++++++++++++
โอชิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 เม.ย. 2558, 07:34:41 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 มิ.ย. 2562, 21:15:24 น.
จำนวนการเข้าชม : 1684
แว่นใส 10 เม.ย. 2558, 13:09:36 น.
เนื้อเรื่องก็ดูน่าสนุกดีนะ
เนื้อเรื่องก็ดูน่าสนุกดีนะ
RdoubleC 10 เม.ย. 2558, 13:32:53 น.
สนุกดีค่ะ^^
สนุกดีค่ะ^^