เจ้าสาวแสนแสบ
เมื่อสายลับสาวแสบ ต้องจับพลัดจับผลูไปเป็นเมียเจ้าพ่อหนุ่มเข้าให้


มาลุ้นกันว่า...เธอจะทำภารกิจลับที่ได้รับมอบหมายสำเร็จ


หรือจะ...เสร็จ...มาเฟียตัวร้ายก่อนกัน!!


และถ้าต้องเลือก...เธอจะเลือกอย่างไหน...



หน้าที่...หรือ...หัวใจ


Tags: รัตนรัตน์,เจ้าสาวแสนแสบ,romantic comedy

ตอน: บทที่ 24 : วิวาห์เพลิง


บทที่ 24 : วิวาห์เพลิง




ด้านภิตะวันที่ปีนเข้าห้องของตัวเองนั้น ก็รีบสวมรอยเป็นพี่สาวในทันที ทว่าด้วยเพราะเสื้อผ้าที่ไม่เหมือนกัน เธอก็แอบหวั่นไม่ได้จะโดนจับได้เอา แต่ทั้งนี้เจ้าตัวก็เชื่อว่า ถ้าเธอยืนกระต่ายขาเดียวแล้วล่ะก็ คนพวกนั้นจะเถียงสู้เธอได้ยังไง เมื่อคิดได้ดังนั้นร่างบางจึงรีบเดินไปสมทบกับกลุ่มช่างแต่งหน้าที่เดินหาตัวเจ้าสาวกันอย่างจ้าละหวั่น


ทั้งนี้หญิงสาวตั้งใจไว้ว่าจะแสร้งปลอมเป็นพี่สาวให้ใครต่อใครตายใจก่อน หลังจากนั้นค่อยหาทางแวบไปจัดการตามแผนที่วางไว้อีกที ซึ่งฝีมือระดับเธอแล้ว...เรื่องแค่นี้หมูๆ


ว่าแล้วก็คว้าเสื้อคลุมมาสวม และพรมน้ำจนทั่วไปหน้า ทำทีว่าไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตามา ถึงได้หายตัวไป


“หาฟ้าอยู่หรือคะ? ” เสียงใสเอ่ยขึ้น พร้อมกับหาวยาวๆ อีกที


“คุณฟ้าไปไหนมาคะ พวกเราตามหากันให้ควั่ก!” หนึ่งในทีมช่างแต่งหน้าทำผมเอ่ยถาม พร้อมกับมองกราดตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าของว่าที่เจ้าสาว


“ตายแล้ว! แล้วนี่คุณฟ้าไปทำอะไรมาคะ ทำไมหน้าถึงได้เปียกโชกแบบนี้!"


“เอ่อ...พอดีว่าฟ้าง่วงน่ะค่ะ ก็เลยไปล้างหน้าแก้ง่วง” หญิงสาวตอบแก้ตัวน้ำขุ่นคลั่ก ก็แหม ถ้าไม่ตอบแบบนี้แล้วจะให้เธอตอบว่าอะไรได้ล่ะ ในเมื่อหน้าเธอไม่ได้แต่ง ส่วนหน้าพีสาวน่ะแต่งเรียบร้อยแล้วนี่นา


หนึ่งในบรรดาช่างแต่งหน้าทำท่าราวกับหงุดหงิดที่ต้องแต่งหน้าให้เจ้าสาวใหม่ หากแต่ช่างทำผมที่มีอายุมากสุดกับรั้งไว้


“ถ้าอย่างนั้นคงต้องแต่งหน้าทำผมกันใหม่ทั้งหมดแล้วล่ะค่ะ”


“ดีเลยค่ะ ถือซะว่ารอบเมื่อกี้ซ้อมมือก็แล้วกันนะคะ” เอ่ยจบก็ตีหน้าซื่อ ก่อนจะเดินกลับห้องของพี่สาว เพื่อนั่งให้บรรดาช่างทั้งหลายแต่งหน้าแต่งตาให้ หญิงสาวมองเวลาที่นาฬิกาข้อมืออีกครั้ง จากนั้นจึงถอนหายใจยาวเพื่อผ่อนคลาย


เอาเถอะ ยังมีเวลาอีกนิดนึง ถ้าโดนจับได้ล่ะเรื่องใหญ่กว่า...คิดได้ดังนั้นเจ้าตัวจึงต้องยอมนั่งเฉยๆ ให้บรรดาช่างแต่งหน้าละเลงเครื่องสำอางลงบนใบหน้าอย่างเสียมิได้


กระทั่งผ่านไปชั่วโมงกว่าๆ นั่นแหละ กว่าที่การแต่งหน้าทรหดจะจบลง ภิตะวันแทบกลั้นใจตายระหว่างทางเสียให้ได้ ด้วยเพราะทุกนาทีที่ผ่านไปสำหรับเธอนั้นล้วนแสนทรมาน


ดังนั้นเมื่อหน้าที่แต่งหน้าทำผมให้เจ้าสาวเสร็จลงแล้วจริงๆ บรรดาช่างแต่งหน้าจึงขอตัวลากลับ หญิงสาวเจ้าของใบหน้างดงามราวรูปแกะสลักของเทพีวีนัสจึงได้มีเวลาของตัวเองอีกครั้ง


“ไม่ได้การแล้ว เวลาเหลือน้อยเต็มที!” ว่าแล้วเจ้าตัวจึงลงไปยังสวนกว้างด้านนอกตัวอาคาร ซึ่งตอนนี้ได้ถูกตกแต่งเสียใหม่อย่างอลังการให้สมเกียรติของตระกูลอัศวอนันต์ ซึ่งเป็นเจ้าของห้างคาซาร์มอลที่มีสาขาไปทั่วประเทศ


ร่างบางค่อยๆ คืบคลาน ซ่อนตัวไปตามหลืบเงามืดของตัวอาคาร จากนั้นจึงยืนหลบมุมต้นไม้อยู่ไม่ไกลจากบริเวณสถานที่จัดงานมากนัก


หญิงสาวล้วงหยิบของสิ่งหนึ่งออกมา...สิ่งนั้นก็คือ...


ไฟแช็ค!


********************

“เจ้านายครับ คุณภิตะวันออกมาแล้ว จะให้ผมสั่งคนของเราจับตัวไว้ไหมครับ” เสียงกระซิบดังขึ้นที่อีกฟากหนึ่งของสนามหญ้าหน้าบ้าน


“ยังก่อน รอดูท่าทีไปก่อน ว่าเธอจะทำอะไร” เสียงขรึมเอ่ยตอบขณะมองหญิงสาวร่างบางที่กระโดดไปมาตามสุมทุมพุ่มไม้อย่างพึงพอใจ ด้วยเพราะมั่นใจว่าอย่างไรเสียหญิงสาวคนดังกล่าวก็ไม่อาจหลุดออกไปจากบ้านหลังนี้ได้แน่ๆ หากไม่ได้ไปพร้อมตน


นั่นเพราะเขาได้สั่งให้ลูกน้องล้อมกำแพงบ้านหลังนี้ไว้แล้วน่ะสิ ดังนั้นแม้แต่มดสักตัวยังออกไปไม่ได้ หากเขาไม่อนุญาต แล้วเธอจะหนีไปได้ยังไง นอกเสียจากว่าเธอจะมีปีกบินหนีไปได้นั่นก็อีกเรื่อง ซึ่งก็ไม่มีทางเป็นไปได้แน่ๆ เพราะลิงที่ไหนจะมีปีก ...หึๆ หึๆ


หากแต่ที่เขายังแปลกใจไม่หายก็คือ เหตุใดน้องชายของเขาถึงได้มาข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย ภาฟ้าถูกส่งตัวให้วายุดูแล มันหมายความว่ายังไงกันนะ


“อ้อ แล้วนี่บอกวายุหรือยังเรื่องที่ฉันจะแต่งงานวันนี้”


“ยังหาโอกาสบอกไม่ได้เลยครับ คุณวายุเข้าถึงตัวค่อนข้างลำบาก”


“ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ได้รู้จักกันเองตอนย้ายมาอยู่บ้านเดียวกันนั่นแหละ แล้วก็อย่าลืมส่งคืนไปคุ้มกันวายุกับภาฟ้าด้วยล่ะ แต่อย่าให้ทั้งสองคนรู้ตัว”


“ได้ครับ” ศักดารับคำ จากนั้นทุกอย่างก็กลับสู่ความเงียบงันอีกครั้ง


กระทั่งเกิดแสงไฟวาวโรจน์ขึ้นกลางสนามนั่นแหละ ศักดาจึงอดหันมาทางเจ้านายด้วยความหวั่นใจไม่ได้ ด้วยนึกไม่ถึงว่าว่าที่นายหญิงคนใหม่ของตนนั้นจะใจกล้าถึงเพียงนี้...จุดไฟเผางานแต่งงานของตัวเอง!


“จะให้ผมส่งคนไปดับไฟไหมครับ?”


“รอก่อน” เสียงเข้มเอ่ยอย่างมั่นใจ ขณะยืนกอดอกมองรอยยิ้มของว่าที่เจ้าสาวที่ทำท่าลิงโลดอย่างอารมณ์ดี


“แต่ว่า เอ่อ จะดีหรือครับ? ศักดาเอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจนัก เพราะเปลวเพลิงทำท่าจะลุกลามใหญ่โต


ข้างภิตะวันเมื่อเห็นไฟลุกและขยายวงกว้างอย่างรวดเร็วเจ้าตัวก็กระหยิ่มยิ้มย่อง ด้วยคิดว่าแผนการของตนนั้นกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี


“ไหม้ไปเลย ไหม้ให้หมดเลย กว่าจะเตรียมงานแต่งใหม่ พี่ฟ้าก็หนีไปไกลแล้วล่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ภิตะวันหัวเร่าะร่า เพราะตั้งใจที่จะวางเพลิงเพื่อถ่วงเวลาให้พาพี่สาวหนีไปอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้เธอจึงแนะนำให้จัดงานแต่งที่สนามหน้าบ้านนั่นเอง เพราะความเสียหายที่เกิดคงไม่มากมายนัก


ทว่าไม่นานเสียงเอะอะมะเทิ่งของคนในบ้านก็ดังขึ้น ดูเหมือนว่าใครต่อใครจะเริ่มรู้แล้วว่าเกิดไฟไหม้ขึ้นที่บริเวณที่จัดงาน


เอาล่ะ เธอต้องเริ่มดำเนินตามแผนสองแล้ว ยังไงก็ต้องกันเอาไว้ก่อน ฝันไปเถอะว่าเธอจะยอมอย่างในละครน้ำเน่าที่ยอมสลับตัวแต่งงานแทนพี่สาวที่หายตัวไปน่ะ ไม่มีวันเสียหรอก!


ดังนั้นทันทีที่แผนการวางเพลิงทำลายสถานที่จัดงานแต่งของพี่สาวสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ภิตะวันจึงรีบซ่อนตัวในหลืบเงามืด ด้วยหมายพาตัวเองหนีหายไปจากสถานที่แห่งนี้ ทว่ายังวิ่งไปไม่ถึงยังกำแพงบ้าน ร่างสูงใหญ่ของใครบางคนจู่ๆ ก็มากั้นขวางทางไว้เสียก่อน


“จะไปไหนหรือครับน้องฟ้า” เสียงทุ้มคุ้นหูของผู้ชายชอบวางอำนาจดังขึ้น และนั่นก็ทำให้ดวงตากลมโตของภิตะวันเบิกกว้างราวกับเห็นผีอยู่ตรงหน้า


“เฮ้ย! มาได้ยังไงเนี่ย!!!”


พายุพาร่างสูงใหญ่ของตัวเองมายืนปิดทางหนีของภิตะวัน ใบหน้าขรึมมองสบตาหญิงสาวตรงหน้าราวกับรู้ทันทุกการกระทำของเธอ


บ้าจริง โผล่มายังกับผี เกิดฉันหัวใจวายตายจะทำยังไง... ภิตะวันมองตอบด้วยแววตาขุ่น


“ถอยไปนะ คุณทักคนผิดแล้ว ดิฉันชื่อภิตะวัน เป็นน้องสาวฝาแฝดของพี่ฟ้า” ด้วยยึดคติ ‘เอาตัวรอดเป็นยอดดี’ หญิงสาวตัวแสบจึงจำต้องพูดจริง ด้วยเพราะหากเธอยังปลอมตัวเป็นภาฟ้าต่อไปไม่แคล้วต้องโดนจับแต่งงานแทนพี่สาวแน่ๆ


“น้องฟ้าเล่นอะไรกันแน่ ก็ในเมื่อภิตะวันตัวจริงเพิ่งออกจากบ้านไปนี่นา แล้วฟ้าจะเป็นตะวันได้ยังไง” เอาสิแม่เด็กเลี้ยงแกะ จะแก้ตัวว่าอย่างไรกันล่ะทีนี้...พายุเอ่ยค้านก่อนจะลอบยิ้มมุมปาก ด้วยอยากรู้ว่าหญิงสาวตรงหน้าจะหาทางออกยังไง ก็ในเมื่อเธอหลอกเขามาตลอดว่าเธอชื่อภาฟ้า มีนัดกับเขาคราใดก็ไปแทนพี่สาวทุกครั้ง หนนี้ก็จงแต่งงานแทนพี่สาวเสียเถอะ!


ข้างภิตะวันเห็นดังนั้นก็เริ่มรู้ซึ้งถึงความไม่ปลอดภัยของตัวเองในทันที ยิ่งเห็นสายตาราวกับจะกลืนกินเธอลงท้องของอีกฝ่ายเธอก็ยิ่งหวั่นใจ กับทั้งสังหรณ์ใจบางอย่างบอกเธอว่า...เรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ต้องไม่เป็นผลดีกับเธอแน่ๆ คิดได้ดังนั้นเจ้าตัวจึงต้องหันหลังกลับและวิ่งหนีไปยังเส้นทางที่เพิ่งจากมาอีกครั้ง แม้ว่าเส้นทางเบื้องหน้าจะมีเปลวเพลิงที่กำลังลุกโชติช่วงอยู่ก็ตาม!

ภิตะวันวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต กองเพลิงตรงหน้าหาได้ทำให้เธอหวาดหวั่นแต่อย่างใด ทว่าท้ายที่สุดก็ถูกจับตัวเข้าจนได้


ว้าย!


ร่างสูงที่ไม่รู้ว่ามาจากทิศไหน จู่ๆ ก็เข้ามารวบตัวเธอไว้แน่น ภิตะวันจนตรอกอยู่ในอ้อมแขนแกร่งชนิดที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่กระนั้นหญิงสาวก็หาได้ยอมไม่


เห็นทีคงต้องงัดไม้เด็ดที่แม่เคยสอนมาใช้แล้วล่ะ!


ทันใดนั้นร่างบอบบางก็แส้งสำลักควันไฟที่กระจายอยู่โดยรอบตัวก่อนจะสลบไสลไป ด้วยความสามารถในด้านการแสดงที่เจ้าตัวนั้นมั่นใจว่าทำได้อย่างแนบเนียนสุดๆ ไม่มีทางที่อีกฝ่ายจะจับได้แน่ๆ


ข้างพายุเมื่อเห็นภิตะวันสำลักควันไฟจนหมดสติไป ชายหนุ่มจึงสั่งให้คนของเขาเร่งดับไฟในทันที ซึ่งก็ไม่ได้ลำบากนัก เพราะเขาได้เตรียมการเพื่อรับมือทุกอย่างไว้หมดแล้ว


หญิงสาวที่เขาหมายมาดจะแต่งงงานด้วยนั้นหาใช่ผู้หญิงธรรมดาๆ ก็รู้ๆ กันอยู่ ดังนั้นเขาจึงต้องเตรียมพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์


ไม่นานเปลวเพลิงก็ถูกดับลง ภิตะวันที่แอบเหลือบมองเป็นระยะๆ อดแปลกใจไม่ได้ ว่าทำไมไฟที่โหมแรงเช่นนั้นถึงได้ถูกดับได้ง่ายดายเช่นนี้ ทว่าหญิงสาวก็ไม่มีเวลาในการหาคำตอบมากนัก เพราะเมื่อความวุ่นวายทั้งหลายแหล่จบสิ้นลง ร่างของเธอก็ถูกพาขึ้นไปนั่งยังเบาะหลังของรถยนต์ โดยมีท่อนแขนของใครบางคนโอบกระชับไว้ตลอดเวลา


บ้าเอ้ย! จะโอบจะจับอะไรกันนักกันหนา คนสลบน่ะ เค้าต้องการอากาศบริสุทธิ์หายใจรู้รึเปล่า! หญิงสาวตะคอกอีกฝ่ายในใจ ทว่าเมื่อรถคันที่นั่งอยู่นั้นเคลื่อนที่เหงื่อเม็ดเป้งก็ผุดขึ้นมาตามไรผมของเธอ


ไอ้เจ้าพ่อบ้านี่จะพาเราไปไหน?


ด้วยเพราะยังไม่เช้าเท่าใดนัก การจราจรจึงยังไม่ติดขัด ดังนั้นไม่นานสิ่งที่เธอสงสัยก็ได้รับคำตอบ เมื่อรถยนต์คันหรูเคลื่อนเข้าไปยังบ้านหลังใหญ่ที่ครั้งนึงเธอเคยมานอนพักรักษาตัวอยู่ที่นี่หนึ่งคืนเต็มๆ


จู่ๆ หางตาขวาภิตะวันก็กระตุกถี่ยิบ…ซึ่งนั่นก็ทำให้เจ้าตัวอดกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอไม่ได้ ว่ากันว่า...ตาขวากระตุกจะโชคร้าย ส่วนตาซ้ายจะโชคดี แล้วนี่ตาขวาเธอกระตุกซะรัวยิ่งกว่าปืนกลแบบนี้ก็หมายความว่า...


ก็หมายความว่า...ซวยหยังเขียดน่ะสิฟะ!!!


ภิตะวันหน้ายุ่งทันที รู้สึกหวั่นๆ กับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น หญิงสาวอดพานไปยังมารดาไม่ได้ ที่สอนให้เธอเอาตัวรอดด้วยการแกล้งสลบ แล้วดูสิ ผลเป็นยังไง เพราะเธอแกล้งสลบ เลยทำให้ถูกพาเข้ามายังถิ่นศัตรูโดยไม่รู้ตัวแบบนี้!


ไม่หรอก บางทีเรื่องราวมันอาจจะไม่ได้แย่อย่างที่เธอหวั่นก็เป็นได้...หญิงสาวพยายามบอกตัวเองให้เชื่อเช่นนั้น ทว่าเมื่อเหลือบมองไปยังด้านหน้าตัวบ้าน เห็นว่ามีคนมายืนรอต้อนรับเธออยู่มากมายก็ให้ตกใจ โดยเฉพาะมารดาและบิดาของเธอที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุด



แม่! พ่อ! มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!

เขตแดนเดินแกมวิ่งเข้ามาหา เมื่อเห็นว่าบุตรสาวเป็นลมไม่ได้สติก็เป็นห่วงจนอดชักสีหน้าใส่เจ้าพ่อพายุไม่ได้


“คุณพายุทำไมไม่ดูแลลูกสาวผมให้ดี ปล่อยให้เป็นลมเป็นแล้งไปแบบนี้ได้ยังไง!”


ภิตะวันใจชื้นที่เห็นว่าบิดาของตนนั้นอยู่ข้างตัวเอง ทว่าดีใจอยู่ได้ไม่นาน...


“เป็นลมไปแบบนี้จะเข้าพิธีแต่งงานได้ยังไงกันล่ะทีนี้!”


เมื่อได้ยินประโยคถัดมาเท่านั้นแหละ เจ้าตัวแทบจะอยากเขาหัวโขกประตูรถเสียให้รู้แล้วรู้รอด...บ้าจริง นี่พ่อของเธอห่วงว่าเธอจะฟื้นคืนสติมาไม่ทันงานแต่งงานงั้นหรือ!


“ขอโทษด้วยครับที่ผมดูแลเธอไม่ดี” พายุขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ ก่อนจะอุ้มร่างของว่าที่เจ้าสาวเข้าสู่ภายในตัวบ้าน


“เอาเถอะค่ะ รีบๆ ปลุกให้ตื่นซะเถอะ นี่ก็ใกล้จะได้ฤกษ์หมั้นตอนเช้าแล้วนะคะ” เป็นภัทราเองที่เดินเข้ามาบอก ด้วยเพราะเกรงว่าจะผิดไปจากฤกษ์ผานาทีที่วางไว้


พายุเขย่าตัวเจ้าสาวเบาๆ แต่ภิตะวันก็ยังแสร้งนอนนิ่ง ทั้งๆ ที่เขารู้ว่าเธอนั้นหาได้สลบไปจริงๆ ไม่


ด้านภิตะวันนั้นปิดตาแน่น ฝันไปเถอะว่าเธอจะยอมตื่นขึ้นและเข้าพิธีวิวาห์แทนพี่สาวน่ะ ไม่มีทางเสียหรอก


“เร็วสิคะคุณพายุ ฤกษ์หมั้นใกล้จะถึงเวลาแล้วนะคะ” ภัทราเอ่ยเร่งอีกครั้ง


“คุณแม่ครับ ถ้าอย่างนั้นผมคงต้องขอล่วงเกินเธอหน่อยนะครับ” เจ้าพ่อหนุ่มหันไปเอ่ยขออนุญาตกับภัทรา


ฮึ! นี่นายกล้าทำร้ายฉันต่อหน้าพ่อกับแม่กับพ่อเลยเหรอ กล้าไปรึเปล่า... หญิงสาวอดค่อนขอดไม่ได้ทว่าเมื่อบางสิ่งบางอย่างร้อนวูบวาบสัมผัสลงบนริมฝีปากของเธอเท่านั้นแหละ ภิตะวันจึงรู้ว่าที่อีกฝ่ายขออนุญาตนั้นคือขออนุญาตทำอะไร...


อ๊าย! ตาบ้า เอาปากมาจูบเราทำไมเนี่ย!!


**********************

ยังไม่จบตอนเลยนะคะ แบบว่า... (คงไม่ต้องให้เอ่ยซ้ำ น่าจะชินแล้ว หุหุ)
มาลงให้หายคิดถึงก่อน แหะๆๆๆๆ = ='

รัตน์ๆ จ้า ^^






รัตนรัตน์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 ก.ค. 2554, 10:54:14 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 ก.ค. 2554, 10:54:14 น.

จำนวนการเข้าชม : 2484





<< บทที่ 23 : วิวาห์เพลิง (II)   บทที่ 24 : วิวาห์เพลิง (จบตอน) >>
xeve 15 ก.ค. 2554, 11:02:25 น.
ค้างงงงงงง อิอิ พายุนี่แผนเหนือแผนมาก


หญิงใหญ่ 15 ก.ค. 2554, 11:17:26 น.
เป็นอย่างนี้ทุกทีเลยน้า....มาต่อด่วนเลยอ่ะ >_<


noojee 15 ก.ค. 2554, 11:19:22 น.
ขำตอนพายุว่า เตรียมพร้อมทุกสถานการณ์ เพราะอยากได้คนนี้เป็นเจ้าสาว
เออวุ้ย สมน้ำสมเนื้อ


หมู้หมู 15 ก.ค. 2554, 12:00:50 น.
เง้อออออออ


ปูสีน้ำเงิน 15 ก.ค. 2554, 12:39:02 น.
เค้าช่วยผายปอดไงยัยตะวัน ฮิฮิ..


รอรัก 15 ก.ค. 2554, 13:27:51 น.
คิดแผนได้ยอดมาก สรุปว่าไม่ได้แต่งที่บ้านเจ้าสาว แต่ที่บ้านมาเฟียใช่ไหมค้า เหอ เหอ เหอ


Pat 15 ก.ค. 2554, 17:49:43 น.
จนได้นะตะวัน


omelate 15 ก.ค. 2554, 18:37:56 น.
ตะวันจะเอาตัวรอดยังไงเนี้ย


praneekpranee 15 ก.ค. 2554, 20:30:36 น.
สนุกแน่ พระเอก นางเอก ทันกันจริง


nunoi 16 ก.ค. 2554, 12:48:47 น.
พายุ เตรียมพร้อมทุกสถานการณ์ จริงๆ


anOO 16 ก.ค. 2554, 14:42:26 น.
แม่เป็นคนสอนนี่เอง มิน่าเอะอะก็สลบตลอด
แล้วก็เป็นเรื่องเหมือนที่แม่เคยเจอตลอดเช่นกัน 555


cherryfirm 22 ก.ค. 2554, 21:06:49 น.
พี่พิมพ์ผิดอ่ะ คำว่า " ส่งคืน " ใช่ " ส่งคน " รึเปล่า..


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account