จ้างรัก (ฉบับ E-book)
จ้างรัก
เป็นชื่อใหม่ของ "เล่ห์รักลวง" ที่เคยตีพิมพ์เป็นรูปเล่มกับสำนักพิมพ์เขียนฝัน แต่ตอนนี้นิยายได้หมดสัญญาแล้วทางนักเขียนจึงนำมารีไรท์และเปลี่ยนปกใหม่แล้วนำมาลง E-book ให้ได้โหลดกัน

เรื่องนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหา คนที่มีรูปเล่มอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องโหลดใหม่นะคะ

***อัพให้อ่าน 70% นะคะ***


อนามิกา หญิงสาวที่ถูกเลิกจ้างงานต้องการแค่ไปเที่ยวพักผ่อนที่ลาสเวกัสตามคำชักชวนของเพื่อนรักไม่นานก็จะกลับ แต่ก็ดันเกิดเรื่องไม่คาดฝันทำให้เธอจำเป็นต้องทำงานที่นั่นต่อ แล้วจะทำอย่างไรเมื่อเธออยากอยู่และทำงานที่ลาสเวกัสแบบถูกกฏหมาย

กรีนการ์ดคือสิ่งที่เธอต้องการ และวิธีที่จะได้มันมาเธอกับเพื่อนคิดไม่ออกนอกจากการจ้างใครสักคนมาจดทะเบียนสมรส

และผู้ชายที่ อนามิกา หาได้คือผู้ชายมอซอ หิวโซ ไม่มีกระทั่งเงินซื้อขนมปังกินเพราะเสียพนันจนหมดตัว
แต่...ใครจะรู้ละว่าผู้ชายมอซอ หิวโซคนนั้นคือ เคเลอร์ วิล ดาเวนพอร์ต เจ้าของคาสิโนชื่อดังในลาสเวกัส

Tags: เล่ห์รักลวง,สามีรับจ้าง,มาเฟีย,นิยายรัก,ต่างแดน,การพนัน,ลาสเวกัส

ตอน: ตอนที่ 1 มืดแปดด้าน 30%

ตอนที่ 1

มืดแปดด้าน


ภายในคอนโดมิเนียมระดับกลางในลาสเวกัส ร่างบางบอบของอนามิกา อักษรจัญจ์หรือน้องนาง นั่งเอามือปาดน้ำตาที่รื้นขึ้นไม่ให้ไหล เธอเพิ่งวางสายจากป้าซึ่งเป็นญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ได้พักใหญ่แล้ว คำสารภาพแบบหมดเปลือกของนางยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาทว่า โฉนดที่ดินทั้งหมดซึ่งก็หมายถึงทรัพย์สินทั้งหมดของครอบครัว ถูกเอาไปจำนองไว้กับเสี่ยปล่อยเงินกู้นอกระบบคนหนึ่ง รวมยอดทั้งหมดแล้วเป็นจำนวนเงินสูงถึงสองล้านบาท เงินทุกบาททุกสตางค์ถ้าเอาไปทำอะไรสักอย่างที่มันจำเป็นหรือมีประโยชน์สักนิดเธอจะไม่เสียใจเลย แต่นี่ป้าของเธอเอามันมาผลาญหมดไปกับพนันบอลที่เธอไม่เคยรู้เลยว่า คนเป็นป้าเล่นมานานเท่าไรแล้ว

ป้าของเธอเล่นพนันไม่เคยได้จึงไม่ได้จ่ายต้นจ่ายดอกมาสองเดือนแล้ว ในที่สุดก็อับจนหมดหนทางจึงจำต้องโทร.มาสารภาพพร้อมกับขอความช่วยเหลือ ตอนนี้ภาระอันหนักอึ้งจึงตกมาที่เธออย่างเลี่ยงไม่ได้ แล้วเมื่อตอนนี้เจ้าหนี้ก็เร่งรัดให้ใช้หนี้ เธอจะทำอย่างไรต่อไปดี ถามว่ามีเงินไหมก็มี แต่ก็มีแค่หลักแสน ไม่เพียงพอที่จะใช้หนี้อย่างแน่นอน

อนามิกามาที่ลาสเวกัสก็เพื่อเที่ยวพักผ่อนสมองหลังจากโดนจ้างออกจากงานที่ทำมาหลายปีดีดักด้วยจำนวนเงินก็เยอะพอตัว ตอนแรกคิดว่าจะหางานทำทันที แต่คิดไปคิดมาตั้งแต่เรียนจบเธอก็ทำงานตลอดไม่เคยได้หยุดเที่ยวพักผ่อนที่ไหนยาวๆ เลยสักครั้ง บวกกับอรณีเพื่อนสนิทที่ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ลาสเวกัสถาวรกับสามีชาวต่างชาติได้ชวนมาเที่ยว แถมยังใจดีออกค่าตั๋วเครื่องบินให้ครึ่งหนึ่ง เธอจึงไม่คิดจะปฏิเสธ จัดการเดินเรื่องไปเที่ยวตามคำเรียกร้องของเพื่อนรักทันที

หลังจากมาเที่ยวชมเมืองที่ไม่รู้หลับอย่างลาสเวกัสได้ไม่ถึงอาทิตย์ อรณีที่ทำงานเป็นพนักงานร้านอาหารไทยเพื่อฆ่าเวลาจนกว่าจะมีโซ่ทองมาคล้องใจได้ใช้เวลาในช่วงกลางวันและวันหยุดพาเธอเที่ยว ก็มาลองชวนเธอไปทำงานที่ร้านด้วย เพราะคนกำลังขาด เมื่อเธอลองคำนวณรายได้ออกมาเป็นเงินไทยแล้วเยอะกว่าเงินเดือนจากที่ทำงานเก่าบวกกับอยากจะมีประสบการณ์ เธอจึงไปสมัครตามคำชักชวนของเพื่อนรัก และก็ได้ทำงานตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา จวบจนวันนี้ก็เกือบหนึ่งเดือนเข้าไปแล้ว

อีกสองเดือนวีซ่าท่องเที่ยวของเธอก็จะหมดลง แต่ก็ดันมีเรื่องหนี้จำนวนมหาศาลเกิดขึ้น เงินในบัญชีโอนให้คนเป็นป้าก็คงไม่พอ และทางเดียวที่จะมีเงินใช้หนี้จนหมดก็คือเธอต้องทำงานที่นี่ต่อไป แต่มันก็มีปัญหาที่เธอถือวีซ่าท่องเที่ยวซึ่งใกล้จะครบกำหนดกลับในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้แล้ว

“โอ๊ย! กลุ้ม! หัวจะระเบิดอยู่แล้ว”

อนามิกาสบถดังลั่นห้อง ขยี้ผมดำขลับของตัวเองแรงๆ ขณะที่ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงขนาดกลาง พลางกรอกตาไปมาก่อนจะถอนหายใจไล่ความสุขที่มีเพียงน้อยนิดให้มลายหายไปกับอากาศ เธอคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก ทั้งๆ ที่วันนี้เป็นวันหยุดงานแทนที่จะได้พักผ่อนกลับมีเรื่องให้คิดไม่หยุดไม่หย่อน เวรกรรมอะไรของเธอนักหนาเนี่ย

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“น้องนาง” เสียงเคาะประตูหนักๆ พร้อมเสียงเรียกจากอรณีที่เพิ่งกลับมาจากการช็อปปิ้งกับสามีทำให้อนามิกาสะดุ้งหลุดจากภวังค์ความคิด รีบผุดลุกขึ้นเดินไปที่ประตูพลางลูบหน้าตัวเองแรงๆ

“มาแล้วจ้า…กลับมาแล้วหรือ เร็วจัง”

“อื้อ…ไปเร็ว ฉันซื้อเค้กที่แกชอบมาฝาก และที่สำคัญ แกต้องมาช่วยฉันทำอาหารเที่ยงด้วย นี่ฉันอุตส่าห์ซื้อของสดกลับมาทำอาหารไทยที่ห้องเพื่อแกเลยนะ” อรณีเอ่ยก่อนจะเข้าไปลากร่างบางของเพื่อนรักไปที่ห้องครัว ซึ่งสามีผู้เป็นนายแพทย์หน้าตาใจดี บุคลิกอบอุ่นกำลังจัดเค้กช็อกโกแลตมาใส่จาน หลังจากที่เก็บเนื้อและผักสดต่างๆ เข้าตู้เย็นเรียบร้อยแล้ว

“คุณน้องเชิญนั่งครับ ผมกับอรซื้อเค้กที่คุณชอบมาฝาก ร้านนี้อร่อยมาก” คุณหมอแจ๊คหันไปพูดกับเพื่อนภรรยาด้วยรอยยิ้ม ซึ่งอนามิกาก็พยายามฉีกยิ้มให้ดูสดใส

“ขอบคุณค่ะ” เธอนั่งลงตามคำเชิญแล้วตักเค้กใส่ปาก ขณะเคี้ยวก็หันไปยิ้มให้กับเพื่อนรักและสามีอย่างบอกว่ามันอร่อยจริงด้วย จากนั้นอนามิกาไม่รู้ตัวหรอกว่าตักเค้กใส่ปากเพียงแค่คำสองคำก็ตกอยู่ในอาการเหม่อลอย ใช้ส้อมเล็กๆ ในมือจิ้มเค้กในจานจนพรุน ทำให้อรณีกับสามีเริ่มจับสังเกตได้

“ยัยน้อง” อรณีเรียกเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วง แต่ไม่มีการตอบรับใดๆ ทั้งสิ้น อนามิกายังจมอยู่กับความคิดของตัวเอง “ยัยน้องนาง!”

อรณีตัดสินใจลุกขึ้นไปเขย่าร่างบางพร้อมกับตะโกนเรียกข้างหู เท่านั้นแหละ คนเหม่อลอยถึงกับสะดุ้งสุดตัว จนเผลอสะบัดส้อมในมือทิ้ง ดีที่อรณีไวพอที่จะหลบทันไม่อย่างนั้นคงโดนทิ่ม

“อะ…อะไรหรือ แกถามอะไรฉันนะยัยอร โทษที ไม่ทันฟัง” บอกพลางยิ้มแหยๆ ก่อนก้มลงไปเก็บส้อมขึ้นมาวางบนโต๊ะ ขนมที่ชอบกินแทบจะไม่อยากกลืนลงท้อง มันตื้อไปหมด อรณีเห็นอาการของเพื่อนรักแล้วต้องถอนหายใจก่อนจะขยับเก้าอี้มานั่งข้างๆ

“แกมีอะไรหรือเปล่า ทำไมใจลอยได้ขนาดนี้”

“ปะ…เปล่านี่ ฉันสบายดี” อนามิกาปฏิเสธเสียงสูง แต่ก็ไม่กล้าสบตาที่หรี่มองอย่างรู้ทันของอรณี

“ฉันไม่เชื่อ ถึงฉันกับแกจะไม่ได้อยู่ด้วยกันมานานหลายปี แต่แกอย่าลืมสิว่า แกกับฉันโตมาด้วยกัน แกเป็นอย่างไรทำไมฉันจะไม่รู้ อาการเหม่อลอย และปากแข็งว่าไม่มีอะไรของแกนี่แหละ มันเหมือนมีกระดาษที่เขียนคำว่าฉันกำลังมีปัญหาแปะอยู่ที่หน้าผาก บอกมา แกมีปัญหาอะไร”

อนามิกากลืนน้ำลายลงคอมองหน้าเพื่อนที่กำลังเลิกคิ้วรอคอยคำตอบอย่างใจจดจ่อ ก่อนจะหันไปมองคุณหมอแจ๊คที่นั่งส่งยิ้มอบอุ่นมาให้พร้อมกับพยักหน้าเล็กน้อยเป็นการบอกว่าให้เธอเล่าปัญหาของตัวเองออกมาเถอะ ในเมื่อคนทั้งสองอยากรู้ เพราะเป็นห่วง เธอก็จะเล่า อย่างน้อยก็อาจจะมีไอเดียดีๆ ในการแก้ปัญหาบ้างก็ได้

“ป้าฉันโทรมาสารภาพว่า ท่านแอบเอาโฉนดที่ดินทั้งหมดไปจำนองกับเสี่ยเกษมเพื่อเอาเงินไปเล่นพนันบอลจนหมด และตอนนี้เขามาทวงหนี้ เพราะป้าฉันไม่ส่งต้นส่งดอกเขามาสองเดือนแล้ว ถ้าไม่ส่งเดือนนี้อีกมีหวังที่ดินหลุดลอยไม่มีแม้ที่ซุกหัวนอนแน่ๆ”

อรณีที่รู้จักครอบครัวของอนามิกาดี ฟังแล้วถึงกับอ้าปากค้างกะพริบตาปริบๆ อย่างตกใจ และไม่อยากจะเชื่อว่าป้าผู้แสนดีของเพื่อนรักจะเล่นพนันบอล

“ฉะ…ฉันช็อคนะแก เล่นเอาพูดไม่ออก ไม่อยากจะเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อ แล้วป้าแกเอาเงินเขามาเท่าไรล่ะ”

อรณีถามพร้อมกับภาวนาว่าอย่าให้เป็นอย่างที่เธอคิดเลย แม้ครอบครัวของอนามิกาจะไม่ได้ร่ำรวยมาก แต่ก็พอมีที่ดินอยู่บ้างสองสามที่ ถ้าเอาโฉนดที่ดินทั้งหมดไปจำนองหมดนั่นมันก็คงได้เงินค่อนข้างเยอะอยู่ แต่ดูเหมือนคำภาวนาของเธอจะไม่ได้ผล เมื่อเห็นอนามิกาเม้มริมฝีปากเอาไว้แน่นพร้อมก้มหน้าบอกยอดเงินเสียงแผ่ว

“สองล้าน”



เกศมณี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 ส.ค. 2558, 12:01:54 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 ส.ค. 2558, 12:01:54 น.

จำนวนการเข้าชม : 1077





   ตอนที่ 1 มืดแปดด้าน 70% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account