H.O.P.E.
จาก 'บทละคร' สู่ 'งานเขียน'
ผลงานละครเวทีเรื่องแรกของไมย่าร่วมกับเพื่อนนักเขียนอีก 7 ชีวิต
จะถ่ายทอดออกมาผ่านตัวอักษร
ที่จะยังคงภาพจินตนาการ ไม่ต่างจาก การนั่งดูละครเวทีสักนิด
H.O.P.E.
มนุษย์ หัวใจ ชีวิตและความหวัง
เราจะพาท่านเดินทางข้ามเวลาไปยังศตวรรษที่ 25
หลังสงครามโลกครั้งที่3 ในยุคแห่งความเสื่อมโทรม
ผู้คนบนโลกต่างมีชีวิตอย่างอย่างหวาดกลัว
ทุกคนล้วนแก่งแย่งชิงดี ไร้ซึ่งความรัก ไร้ซึ่งศีลธรรมในใจ
'จะมีใครบ้างไหม มาเปลี่ยนแปลง'
Tags: ramadrama รามาดราม่า hope ออกัส มีอา
ตอน: H.O.P.E.1 วันที่ความเลวร้ายมาครอบงำ
H.O.P.E.1
วันที่ความเลวร้ายมาครอบงำ
ตึกสูงระฟ้าตั้งตระหง่านอวดโฉมฝีมือการออกแบบของสถาปนิก ตึกรูปทรงหลากหลายทำให้โลกตอนนี้ช่างดูแตกต่างจากโลกเมื่อหลายศตวรรษก่อนสิ้นเชิง สีขาวของตึกสะท้อนกับแสงอาทิตย์เป็นภาพที่น่ามองยิ่งนัก แต่หากสังเกตดีๆ แทบจะไม่มีสีเขียวของต้นไม้ปรากฏให้เห็นแม้แต่น้อย รถราไม่ได้วิ่งกันขวักไขว่เหมือนในปัจจุบัน พาหนะรูปทรงประหลาดวิ่งไปมาน้อยคันดูคล้ายกับสัตว์ประหลาดหายากที่วิ่งลดเลี้ยวไปตามถนน
พาหนะรูปทรงกลมคันหนึ่งวิ่งตามถนนที่เต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย เบื้องหน้าคือสะพานข้ามแม่น้ำสีขาวสะอาดที่ถูกออกแบบเป็นอย่างดี มันหมุนข้ามสะพานไปเรื่อยๆจนเกือบถึงตีนสะพานอีกฝั่ง แต่แล้วจู่ๆมันก็หยุดชะงักลงก่อนจะหมุนกลับไปทางเดิม
เพียงข้ามแม่น้ำมาอีกฝั่ง ทุกอย่างก็ดูหม่นหมองลงไปทันที บ้านเรือนรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าไร้ซึ่งการออกแบบให้วิจิตรพิสดารใดๆ เรียงติดกันหนาแน่น เขม่าที่ปกคลุมไปทั่วทำให้สิ่งก่อสร้างต่างๆรวมถึงพื้นถนนกลายเป็นสีเทาดำไปหมด หญิงท้องคนหนึ่งเปิดประตูออกจากบ้านสี่เหลี่ยมหลังหนึ่ง ใบหน้าโศกเศร้าชวนให้คนเห็นรู้สึกหดหู่ไปด้วย เธอเดินลูบท้องที่โตหลายเดือนของตนเองก่อนจะถือกระเป๋าที่ดูเป็นสิ่งมีค่าที่สุดเดินไปตามถนนเขม่าสีดำ
เด็กหญิงคนหนึ่งวิ่งตัดหน้าเธอไปทำให้หญิงท้องแก่เซล้มลงไป ขณะที่เด็กชายที่วิ่งตามเด็กหญิงมาหันไปพยุงเธอขึ้นมา เธอเอ่ยขอบใจด้วยรอยย้ิมอ่อน เด็กชายช่วยเธอประคองเดินไปข้างหน้าแต่แล้วเด็กหญิงคนเดิมก็วิ่งมาแย่งกระเป๋าในมือเธอไป หญิงท้องแก่ตะโกนขอความช่วยเหลือด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ขณะมองเด็กชายหญิงทั้งคู่วิ่งออกห่างจากเธอมากขึ้นทุกที
“ดูสิ เงินตั้งมากมายอย่างนี้ เราคงเอาไปซื้อของดีๆได้หลายอย่างเลยล่ะ”เสียงเด็กชายเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มขณะรื้อกระเป๋าที่เพิ่งขโมยมาดู
“เย้ๆ แม่จะได้หายป่วยสักที”เด็กหญิงเอ่ยขึ้นบ้างพร้อมรอยยิ้มที่ทำให้เด็กชายต้องหันไปลูบหัวเธอด้วยความเอ็นดู “พี่ชาย เรารีบไปหาแม่กันเถอะ”
“อืม”เด็กชายเอ่ยรับคำขณะจูงมือเด็กหญิงเดินลัดเลาะไปตามตรอกแคบๆ น้องสาวของเขาชวนเขาคุยเสียงเจื้อยแจ้วจนกระทั่ง...
“เด็กน้อย พวกเธอมาทำอะไรที่นี่กัน”ชายหน้าตาน่ากลัวคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นขณะที่พรรคพวกของเขายืนล้อมวงเด็กทั้งสองไว้ “นั่น ในมือของแกดูท่าจะมีค่าไม่น้อยเลยนะ ถ้าจับพวกแกไปขายคงได้หลายตังค์อยู่”
ชายหนุ่มยื้อแย่งกระเป๋าใบเล็กกับเด็กชายอยู่ชั่วครู่ แรงเด็กหรือจะสู้แรงผู้ใหญ่ได้ สุดท้ายกระเป๋าใบนั้นก็ตกอยู่ในมือของชายหนุ่ม พรรคพวกของเขาหัวเราะขึ้นมาอย่างพอใจขณะที่ทั้งหมดรุมค้นสิ่งที่อยู่ในนั้น
‘ปัง’เสียงปืนดังขึ้นก่อนที่ร่างของใครคนหนึ่งในนั้นล้มลงไปกองกับพื้น ทุกคนหันไปสนใจกลุ่มนักเลงอีกกลุ่มที่ยืนอยู่ข้างหลังพร้อมอาวุธ การต่อสู้ระหว่างนักเลงสองกลุ่มจึงเริ่มขึ้น มีด ปืนและอาวุธต่างๆถูกหยิบขึ้นมาใช้เพื่อแย่งชิงของมีค่าในกระเป๋านั่น สุดท้ายต่างฝ่ายต่างก็พลาดท่าให้กันและกัน
เด็กน้อยทั้งสองนั่งกอดกันร้องไห้ขณะเห็นนักเลงทั้งสองกลุ่มค่อยๆล้มลงไปนอนที่พื้นอย่างหมดสภาพ เด็กชายกระถดตัวหนีไปหลบอยู่ข้างกำแพง เขาใช้ตัวเขาบังน้องสาวตัวเล็กเอาไว้ ก่อนจะหันกลับไปเห็นชายชราคนหนึ่งเดินถือไม้เท้าเข้ามาฝ่ากองนักเลงที่นอนบาดเจ็บกันอยู่ กระเป๋าใบเล็กเจ้าปัญหาถูกดึงออกจากมือของร่างที่ไร้ลมหายใจร่างหนึ่ง ชายชรามองของที่อยู่ในมืออย่างพอใจ
เขาค่อยๆพยุงตัวเองเดินออกไปด้วยไม้เท้า เดินเรื่อยไปจนถึงสะพานข้ามแม่น้ำที่นำไปสู่สถานที่ที่ศิวิไลซ์กว่านัก ทันใดนั้นพาหนะรูปทรงกลมคันหนึ่งก็วิ่งมาหยุดอยู่ข้างฟุตบาทเทียบไปตามทางเดินที่ชายชราก้าวเดิน ชายชราหยุดมองเพียงครู่ ก่อนที่ประตูพาหนะนั้นจะเปิดออกเผยให้เห็นสามีภรรยาคู่หนึ่งที่แต่งตัวดีไม่น้อย สามีในชุดสูทค่อยๆก้าวลงมาก่อนจะเข้าไปผลักชายชราให้ล้มลงและแย่งกระเป๋ามาถือไว้ ยื่นให้ภรรยาที่เปิดประตูออกมาดู ภรรยาในชุดเดรสทรงสวยแย้มรอยยิ้มให้สามี
“หยุดนะ!!”เสียงตะโกนดังขึ้นจากตำรวจสองนายที่กำลังเดินตรวจตราในบริเวณนั้น “พวกคุณทำผิดกฎหมายอาญา มาตรา049 ชิงทรัพย์และทำร้ายร่างกายเจ้าของทรัพย์มีความผิดต้องจำขังเป็นเวลา6เดือน”
สามีภรรยาทั้งสองมีท่าทีขัดขืนแต่สุดท้ายก็ถูกล็อกกุญแจมือไว้ ตำรวจนายหนึ่งนำคนทั้งสองเดินออกไปยังรถตำรวจที่จอดอยู่ไม่ไกล ตำรวจอีกนายก้มลงมองกระเป๋าในมือด้วยสายตาละโมบ เขาเปิดดูของภายในกระเป๋าอย่างกระหายเงินพร้อมกับเอ่ยกับตัวเองเบาๆ “กระเป๋าใบนี้เป็นของฉัน”
‘ปัง’เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด ร่างของตำรวจก็ร่วงลงไปบนพื้น กระเป๋าใบเล็กกลิ้งไปตามทางเดินก่อนจะหยุดลงอยู่ที่เท้าคู่หนึ่ง เจ้าของเท้าคู่นั้นก้มลงมองกระเป๋าใบนั้นด้วยดวงตาที่ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ก่อนที่มือของใครคนหนึ่งจะเอื้อมมาเก็บกระเป๋านั้นขึ้นมาถือไว้
“ทำไม”เขาเอ่ยถามผู้ที่ถือกระเป๋าไว้อยู่
หญิงท้องแก่คนเดิมเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มตรงหน้า ดวงตาที่เคยโศกเศร้าไม่ได้แสดงความรู้สึกผิดกับการยิงปืนนัดเมื่อครู่แม้สักนิด เธอค่อยๆแสยะยิ้มออกมาก่อนจะเอ่ยตอบคำถามคนตรงหน้า “พ่อหนุ่ม ในยุคนี้ ถ้าไม่อยากตาย...ก็ต้องรู้จักคำว่า ‘เลว’”
..... ..... ..... ........... ..... ...... .....
......................... ..... ..... ..... ..... ...... ..... .....
..... ..... ..... ............... ..... ..... ...............
..... ..... ..... ..... ..... ..... ..... .....
..... ..... ..... ..... ........... ..... ..... .....
ถ้าไม่อยากตาย ...ก็ต้องเลว
ประโยคนี้เป็นประโยคที่บอกเล่าเรื่องราวในตัวมันเอง
ไม่มีใครที่อยากเกิดมาอยู่ในยุคอันดำมืดนี้หรอก
แต่คนเราเลือกเกิดไม่ได้
และไม่รู้ว่าสังคมในยุคนั้นจะบีบคั้นให้เรา..
เลือกที่จะมีชีวิตและใช้ชีวิตของตัวเองได้มั้ย
ถือว่าเป็นฤกย์งามยามดีที่จะอำลาเดือนสิงหาคม
ก็เลยเอาเรื่องที่มีอะไรที่เกี่ยวกับเดือนนี้มาลงซะหน่อย
555 งงล่ะสิ!! บอกไว้ก่อนแล้วกันว่าชื่อพระเอกของเรามีความเกี่ยวโยงกับเดือนนี้
เอามาเกริ่นๆก่อนแล้วกันเนอะ ^^
ไม่รู้จะทำให้รีดเดอร์อยากติดตามมั้ย 55
แต่เรื่องนี้รับรองพล็อตเรื่องดีนะ
มีคนชมมาแล้ว อิอิ
ไม่ได้ยอตัวเองอะไร
เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นจากเพื่อนๆไมย่าอีกหลายคน
ไมย่าเป็นแค่ความคิดเล็กๆเท่านั้น 555
สำหรับใครที่เคยชมละครเวทีรามาดราม่าครั้งนี้
ก็ต้องขอออกตัวก่อนว่า ไมย่าแปลงมาจากบทละครอีกที
คำพูดอาจจะทับซ้อนกับบทละครอยู่บ้าง
แต่ไมย่าก็แอบวางแผนว่าจะสอดแทรกปมบางปมเพิ่มขึ้นด้วย
รวมถึงไขความกระจ่างหลายๆอย่างที่มีคนเคยfeedbackมาหลังละคร
ส่วนใครที่ยังไม่เคยดูก็ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ
มาร่วมเอาใจช่วยพระเอกของเราไปด้วยกันเถอะนะ เย่!
ปล.เรื่องนี้ยังไม่ได้คิดว่าจะอัพทุกวันอะไรดี แต่เดี๋ยวเสาร์หน้าจะมาอัพตอนใหม่ให้แล้วจะแจ้งอีกทีนะเจ้าคะ
เรื่องนี้เป็นผลงานเรื่องที่สองของไมย่าแล้วนะเจ้าคะ
ใครที่ยังไม่เคยอ่านผลงานเรื่องแรก ก็เข้าไปดูได้นะเจ้าคะ
แต่งจบแล้ว!! อิอิ
สายลมหวน พัดใบเรือ โบกสะบัด
เกลียวคลื่นซัด เรือใหญ่ ให้หันเห
เรือลำน้อย ลอยล่อง กลางทะเล
ปล่อยให้เว- ลากาล จะพาไป
Araivia
อาราไอเวีย ขุมทรัพย์วิวาห์เงือก
ค้นหาคำตอบความลับแห่งท้องทะเล
ท่านพร้อมแล้วหรือยัง?
ที่จะได้รับรู้เรื่องราวบนโลกที่ท่านไม่เคยรู้จัก
ปล.ถ้าคุณคิดจะโดยสารไปกับลูนาราร์เธีย โปรดระวังกัปตันเรือ!!!
อย่าลืม ติ ชม วิจารณ์ อย่างสุภาพด้วยนะคะ
ใครเจอคำผิดก็เม้นท์มาบอกกันได้ตลอดค่ะ
แอดเฟรนด์กันมาได้เยอะๆนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามคะ ^^
twitter @MaiyaCorprisia
เฟส Maiya Corprisia
อีเมล Fairytale_maiyares@hotmail.com
เพจ Writer Maiya
วันที่ความเลวร้ายมาครอบงำ
ตึกสูงระฟ้าตั้งตระหง่านอวดโฉมฝีมือการออกแบบของสถาปนิก ตึกรูปทรงหลากหลายทำให้โลกตอนนี้ช่างดูแตกต่างจากโลกเมื่อหลายศตวรรษก่อนสิ้นเชิง สีขาวของตึกสะท้อนกับแสงอาทิตย์เป็นภาพที่น่ามองยิ่งนัก แต่หากสังเกตดีๆ แทบจะไม่มีสีเขียวของต้นไม้ปรากฏให้เห็นแม้แต่น้อย รถราไม่ได้วิ่งกันขวักไขว่เหมือนในปัจจุบัน พาหนะรูปทรงประหลาดวิ่งไปมาน้อยคันดูคล้ายกับสัตว์ประหลาดหายากที่วิ่งลดเลี้ยวไปตามถนน
พาหนะรูปทรงกลมคันหนึ่งวิ่งตามถนนที่เต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย เบื้องหน้าคือสะพานข้ามแม่น้ำสีขาวสะอาดที่ถูกออกแบบเป็นอย่างดี มันหมุนข้ามสะพานไปเรื่อยๆจนเกือบถึงตีนสะพานอีกฝั่ง แต่แล้วจู่ๆมันก็หยุดชะงักลงก่อนจะหมุนกลับไปทางเดิม
เพียงข้ามแม่น้ำมาอีกฝั่ง ทุกอย่างก็ดูหม่นหมองลงไปทันที บ้านเรือนรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าไร้ซึ่งการออกแบบให้วิจิตรพิสดารใดๆ เรียงติดกันหนาแน่น เขม่าที่ปกคลุมไปทั่วทำให้สิ่งก่อสร้างต่างๆรวมถึงพื้นถนนกลายเป็นสีเทาดำไปหมด หญิงท้องคนหนึ่งเปิดประตูออกจากบ้านสี่เหลี่ยมหลังหนึ่ง ใบหน้าโศกเศร้าชวนให้คนเห็นรู้สึกหดหู่ไปด้วย เธอเดินลูบท้องที่โตหลายเดือนของตนเองก่อนจะถือกระเป๋าที่ดูเป็นสิ่งมีค่าที่สุดเดินไปตามถนนเขม่าสีดำ
เด็กหญิงคนหนึ่งวิ่งตัดหน้าเธอไปทำให้หญิงท้องแก่เซล้มลงไป ขณะที่เด็กชายที่วิ่งตามเด็กหญิงมาหันไปพยุงเธอขึ้นมา เธอเอ่ยขอบใจด้วยรอยย้ิมอ่อน เด็กชายช่วยเธอประคองเดินไปข้างหน้าแต่แล้วเด็กหญิงคนเดิมก็วิ่งมาแย่งกระเป๋าในมือเธอไป หญิงท้องแก่ตะโกนขอความช่วยเหลือด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ขณะมองเด็กชายหญิงทั้งคู่วิ่งออกห่างจากเธอมากขึ้นทุกที
“ดูสิ เงินตั้งมากมายอย่างนี้ เราคงเอาไปซื้อของดีๆได้หลายอย่างเลยล่ะ”เสียงเด็กชายเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มขณะรื้อกระเป๋าที่เพิ่งขโมยมาดู
“เย้ๆ แม่จะได้หายป่วยสักที”เด็กหญิงเอ่ยขึ้นบ้างพร้อมรอยยิ้มที่ทำให้เด็กชายต้องหันไปลูบหัวเธอด้วยความเอ็นดู “พี่ชาย เรารีบไปหาแม่กันเถอะ”
“อืม”เด็กชายเอ่ยรับคำขณะจูงมือเด็กหญิงเดินลัดเลาะไปตามตรอกแคบๆ น้องสาวของเขาชวนเขาคุยเสียงเจื้อยแจ้วจนกระทั่ง...
“เด็กน้อย พวกเธอมาทำอะไรที่นี่กัน”ชายหน้าตาน่ากลัวคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นขณะที่พรรคพวกของเขายืนล้อมวงเด็กทั้งสองไว้ “นั่น ในมือของแกดูท่าจะมีค่าไม่น้อยเลยนะ ถ้าจับพวกแกไปขายคงได้หลายตังค์อยู่”
ชายหนุ่มยื้อแย่งกระเป๋าใบเล็กกับเด็กชายอยู่ชั่วครู่ แรงเด็กหรือจะสู้แรงผู้ใหญ่ได้ สุดท้ายกระเป๋าใบนั้นก็ตกอยู่ในมือของชายหนุ่ม พรรคพวกของเขาหัวเราะขึ้นมาอย่างพอใจขณะที่ทั้งหมดรุมค้นสิ่งที่อยู่ในนั้น
‘ปัง’เสียงปืนดังขึ้นก่อนที่ร่างของใครคนหนึ่งในนั้นล้มลงไปกองกับพื้น ทุกคนหันไปสนใจกลุ่มนักเลงอีกกลุ่มที่ยืนอยู่ข้างหลังพร้อมอาวุธ การต่อสู้ระหว่างนักเลงสองกลุ่มจึงเริ่มขึ้น มีด ปืนและอาวุธต่างๆถูกหยิบขึ้นมาใช้เพื่อแย่งชิงของมีค่าในกระเป๋านั่น สุดท้ายต่างฝ่ายต่างก็พลาดท่าให้กันและกัน
เด็กน้อยทั้งสองนั่งกอดกันร้องไห้ขณะเห็นนักเลงทั้งสองกลุ่มค่อยๆล้มลงไปนอนที่พื้นอย่างหมดสภาพ เด็กชายกระถดตัวหนีไปหลบอยู่ข้างกำแพง เขาใช้ตัวเขาบังน้องสาวตัวเล็กเอาไว้ ก่อนจะหันกลับไปเห็นชายชราคนหนึ่งเดินถือไม้เท้าเข้ามาฝ่ากองนักเลงที่นอนบาดเจ็บกันอยู่ กระเป๋าใบเล็กเจ้าปัญหาถูกดึงออกจากมือของร่างที่ไร้ลมหายใจร่างหนึ่ง ชายชรามองของที่อยู่ในมืออย่างพอใจ
เขาค่อยๆพยุงตัวเองเดินออกไปด้วยไม้เท้า เดินเรื่อยไปจนถึงสะพานข้ามแม่น้ำที่นำไปสู่สถานที่ที่ศิวิไลซ์กว่านัก ทันใดนั้นพาหนะรูปทรงกลมคันหนึ่งก็วิ่งมาหยุดอยู่ข้างฟุตบาทเทียบไปตามทางเดินที่ชายชราก้าวเดิน ชายชราหยุดมองเพียงครู่ ก่อนที่ประตูพาหนะนั้นจะเปิดออกเผยให้เห็นสามีภรรยาคู่หนึ่งที่แต่งตัวดีไม่น้อย สามีในชุดสูทค่อยๆก้าวลงมาก่อนจะเข้าไปผลักชายชราให้ล้มลงและแย่งกระเป๋ามาถือไว้ ยื่นให้ภรรยาที่เปิดประตูออกมาดู ภรรยาในชุดเดรสทรงสวยแย้มรอยยิ้มให้สามี
“หยุดนะ!!”เสียงตะโกนดังขึ้นจากตำรวจสองนายที่กำลังเดินตรวจตราในบริเวณนั้น “พวกคุณทำผิดกฎหมายอาญา มาตรา049 ชิงทรัพย์และทำร้ายร่างกายเจ้าของทรัพย์มีความผิดต้องจำขังเป็นเวลา6เดือน”
สามีภรรยาทั้งสองมีท่าทีขัดขืนแต่สุดท้ายก็ถูกล็อกกุญแจมือไว้ ตำรวจนายหนึ่งนำคนทั้งสองเดินออกไปยังรถตำรวจที่จอดอยู่ไม่ไกล ตำรวจอีกนายก้มลงมองกระเป๋าในมือด้วยสายตาละโมบ เขาเปิดดูของภายในกระเป๋าอย่างกระหายเงินพร้อมกับเอ่ยกับตัวเองเบาๆ “กระเป๋าใบนี้เป็นของฉัน”
‘ปัง’เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด ร่างของตำรวจก็ร่วงลงไปบนพื้น กระเป๋าใบเล็กกลิ้งไปตามทางเดินก่อนจะหยุดลงอยู่ที่เท้าคู่หนึ่ง เจ้าของเท้าคู่นั้นก้มลงมองกระเป๋าใบนั้นด้วยดวงตาที่ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ก่อนที่มือของใครคนหนึ่งจะเอื้อมมาเก็บกระเป๋านั้นขึ้นมาถือไว้
“ทำไม”เขาเอ่ยถามผู้ที่ถือกระเป๋าไว้อยู่
หญิงท้องแก่คนเดิมเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มตรงหน้า ดวงตาที่เคยโศกเศร้าไม่ได้แสดงความรู้สึกผิดกับการยิงปืนนัดเมื่อครู่แม้สักนิด เธอค่อยๆแสยะยิ้มออกมาก่อนจะเอ่ยตอบคำถามคนตรงหน้า “พ่อหนุ่ม ในยุคนี้ ถ้าไม่อยากตาย...ก็ต้องรู้จักคำว่า ‘เลว’”
..... ..... ..... ........... ..... ...... .....
......................... ..... ..... ..... ..... ...... ..... .....
..... ..... ..... ............... ..... ..... ...............
..... ..... ..... ..... ..... ..... ..... .....
..... ..... ..... ..... ........... ..... ..... .....
ถ้าไม่อยากตาย ...ก็ต้องเลว
ประโยคนี้เป็นประโยคที่บอกเล่าเรื่องราวในตัวมันเอง
ไม่มีใครที่อยากเกิดมาอยู่ในยุคอันดำมืดนี้หรอก
แต่คนเราเลือกเกิดไม่ได้
และไม่รู้ว่าสังคมในยุคนั้นจะบีบคั้นให้เรา..
เลือกที่จะมีชีวิตและใช้ชีวิตของตัวเองได้มั้ย
ถือว่าเป็นฤกย์งามยามดีที่จะอำลาเดือนสิงหาคม
ก็เลยเอาเรื่องที่มีอะไรที่เกี่ยวกับเดือนนี้มาลงซะหน่อย
555 งงล่ะสิ!! บอกไว้ก่อนแล้วกันว่าชื่อพระเอกของเรามีความเกี่ยวโยงกับเดือนนี้
เอามาเกริ่นๆก่อนแล้วกันเนอะ ^^
ไม่รู้จะทำให้รีดเดอร์อยากติดตามมั้ย 55
แต่เรื่องนี้รับรองพล็อตเรื่องดีนะ
มีคนชมมาแล้ว อิอิ
ไม่ได้ยอตัวเองอะไร
เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นจากเพื่อนๆไมย่าอีกหลายคน
ไมย่าเป็นแค่ความคิดเล็กๆเท่านั้น 555
สำหรับใครที่เคยชมละครเวทีรามาดราม่าครั้งนี้
ก็ต้องขอออกตัวก่อนว่า ไมย่าแปลงมาจากบทละครอีกที
คำพูดอาจจะทับซ้อนกับบทละครอยู่บ้าง
แต่ไมย่าก็แอบวางแผนว่าจะสอดแทรกปมบางปมเพิ่มขึ้นด้วย
รวมถึงไขความกระจ่างหลายๆอย่างที่มีคนเคยfeedbackมาหลังละคร
ส่วนใครที่ยังไม่เคยดูก็ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ
มาร่วมเอาใจช่วยพระเอกของเราไปด้วยกันเถอะนะ เย่!
ปล.เรื่องนี้ยังไม่ได้คิดว่าจะอัพทุกวันอะไรดี แต่เดี๋ยวเสาร์หน้าจะมาอัพตอนใหม่ให้แล้วจะแจ้งอีกทีนะเจ้าคะ
เรื่องนี้เป็นผลงานเรื่องที่สองของไมย่าแล้วนะเจ้าคะ
ใครที่ยังไม่เคยอ่านผลงานเรื่องแรก ก็เข้าไปดูได้นะเจ้าคะ
แต่งจบแล้ว!! อิอิ
สายลมหวน พัดใบเรือ โบกสะบัด
เกลียวคลื่นซัด เรือใหญ่ ให้หันเห
เรือลำน้อย ลอยล่อง กลางทะเล
ปล่อยให้เว- ลากาล จะพาไป
Araivia
อาราไอเวีย ขุมทรัพย์วิวาห์เงือก
ค้นหาคำตอบความลับแห่งท้องทะเล
ท่านพร้อมแล้วหรือยัง?
ที่จะได้รับรู้เรื่องราวบนโลกที่ท่านไม่เคยรู้จัก
ปล.ถ้าคุณคิดจะโดยสารไปกับลูนาราร์เธีย โปรดระวังกัปตันเรือ!!!
อย่าลืม ติ ชม วิจารณ์ อย่างสุภาพด้วยนะคะ
ใครเจอคำผิดก็เม้นท์มาบอกกันได้ตลอดค่ะ
แอดเฟรนด์กันมาได้เยอะๆนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามคะ ^^
twitter @MaiyaCorprisia
เฟส Maiya Corprisia
อีเมล Fairytale_maiyares@hotmail.com
เพจ Writer Maiya
MaiYA
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ก.ย. 2558, 19:59:15 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ก.ย. 2558, 21:04:47 น.
จำนวนการเข้าชม : 758
H.O.P.E.2 คือพวกเราในที่แห่งนี้มาร่วมมือ >> |