จำนนเสน่หาแบดบอย
“ผมมีเงินให้คุณมากเท่าที่ต้องการ อสังหาริมทรัพย์ ข้อมูลผลกำไรหรือความเชื่อถือต่างๆไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการเหมือนแบงก์ทั่วไป แต่เงินของผมที่จะไหลเข้าบัญชีสิริแอทเซทมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับคุณคนเดียว” เขาบอกและมองเธอด้วยแววตาร้อนแรงอย่างเปิดเผย ไม่แยแสต่อพันธะสมรสที่เธอเพิ่งย้ำเตือนไปเมื่อครู่ “ผมต้องการคุณพิลาสินี”
นั่นคือความต้องการอันรุนแรงที่คุโชนขึ้นในกายของ ‘พ่อมดทางการเงิน’ จนต้องกลับมายื่นข้อเสนอให้ ‘พิลาสินี’ ผู้หญิงที่ครั้งหนึ่งเคยผลักเขาให้ตกลงไปในหุบเหวแห่งความทรยศ แม้สถานการณ์ที่เธอเผชิญจะถึงขั้นวิกฤตอย่างหนักแต่ความทรมานที่ซ่อนลึกในก้นบึ้งหัวใจก็เรียกร้องให้เขาพร่าผลาญโลกอันงดงามของเธอ เหลือไว้เพียงแค่เขาเป็นที่พึ่งพิงสุดท้าย
‘ลินเนอุส คอนราดสัน’ นักลงทุนคนดังของโลกผู้มีความแม่นยำในการวิเคราะห์ ดุดันและกระหายในชัยชนะ ท่าทีของเขาส่งผลต่อนักลงทุนทั่วโลก เป็นผู้ชายที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของโลกคนหนึ่ง ทว่าพิศวาสอันเร่าร้อนที่เรียกจากเธอกำลังสั่นคลอนความคิดของเขาอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อเป็นคนทำลายความพิสุทธิ์ของผู้หญิงที่ผ่านการแต่งงานมาแล้วถึงห้าปี!
...เขาต้องกลายเป็นคน ‘สอนเรื่องรัก’ ให้กับเธอ ส่งผลให้บาดแผลลึกในหัวใจกลับตื้นเขินอย่างไม่น่าเชื่อ

ลินเนอุสยกมือข้างที่เพิ่งมอบความสุขสมให้กับเธอค้างไว้กลางอากาศ “ผมก็ชิมวิสกี้ของเพลงไปเหมือนกัน แล้วทำไมเพลงจะชิมครีมชีสของผมไม่ได้ ถึงวันนี้จะเลี่ยงได้แต่เพลงคิดเหรอว่าเวลาที่จูบผมทั้งตัวจะหนีพ้น”
เธออยากจะกรีดร้องออกมาดังๆ กับคำเปรียบเปรยนั้น ‘ครีมชีส!’
“ไม่ต้องกังวลไปน่า... เมื่อกี้นี้เพลงก็เห็นแล้วว่าผมเก่งแค่ไหน สอนอะไรไปเพลงก็เชื่อหมด นับประสาอะไรกับสอนให้เพลงชิมครีมชีสที่คั้นเองกับมือ”
เธออ้าปากค้างมองเขาผ่านกระจกเงาบานใหญ่ที่ใช้นิ้วก้อยแตะที่มุมปากของตัวเองแล้วยื่นมาแตะที่ริมฝีปากอิ่มของเธอ
“วิสกี้ของเพลง” บอกพลางตีคิ้วใส่ดวงตาคู่สวย พร้อมคำพูดที่ทำให้เธอร้อนไปทั้งตัว “วันหลังผมจะชิมจากโรงกลั่นโดยตรง”

Tags: จำนนเสน่หาแบดบอย, ลินเนอุส, พิลาสินี

ตอน: ตอนที่ 2 100%

พิลาสินีนั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่นไม่นานนัก ร่างของชินเขตที่อยู่ในเสื้อเชิ้ตกับกางเกงขาสั้นก็เดินเข้ามาสมทบด้วยท่าทีที่สบายอารมณ์ ใบหน้ายังดูรื่นรมย์ รอยยิ้มที่มีให้ยังคงเหมือนเดิมไม่ผิดเพี้ยนจนคนได้รับต้องเบือนหน้าหนี ไม่อยากเห็นคนหน้าเนื้อใจเสือที่ทำร้ายเธออย่างร้ายกาจ
“เรื่องกู้แบงก์ที่คุณไปติดต่อ เป็นยังไงบ้าง?”
ชินเขตทั้งตัวนั่งลงบนโซฟาตัวตรงกันข้ามกับภรรยาในนาม มองใบหน้างดงามที่หันกลับมาสบสายตาด้วยความว่างเปล่าหากแต่ไม่ได้ทำให้เขาสะทกสะท้าน “ไม่อนุมัติ ทางแบงก์บอกว่าหนี้เสียเรามากเกินไป ระบบการบริหารจัดการก็ด้อยประสิทธิภาพ ถ้าปล่อยกู้ให้ก็รังแต่จะสร้างปัญหาให้กับทางเขา”
พิลาสินีหัวเราะพรืดกับคำตอบที่ได้ยิน ทั้งที่คิดเอาไว้แล้วว่าจะได้ยินคำปฏิเสธแต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะพูดปัญหาที่ตัวเองสร้างไว้ออกมาได้หน้าตาเฉยราวกับว่า ความผิดพลาดที่เรื้อรังในทั้งสองบริษัทนั้นไม่ใช่ความผิดของตัวเอง “แปลว่าคุณจะปล่อยให้ดับเบิ้ลซีถูกฟ้องล้มละลาย?”
ชินเขตไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ “ก็ไม่แย่ขนาดนั้น การถูกฟ้องล้มละลายและตัวผมก็ต้องถูกฟ้องให้กลายเป็นคนไร้ความสามารถ มันคงไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น ตัวผมเองคงจะมีอาจไปทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวต่อไป ผม...”
“พูดมาตรงๆดีกว่า เรื่องมาจนถึงป่านนี้แล้ว ฉันเบื่อที่จะฟังสำนวนดูเป็นคนดีของคุณเหลือเกิน” พิลาสินีดักคอและเป็นครั้งแรกที่ต่อว่าเขาตรงๆด้วยน้ำเสียงแข็งทื่อ
“ใจเย็นๆสิ ผมไม่ได้เห็นแก่ตัว หาทางออกให้ดับเบิ้ลซีรอดคนเดียว สิริแอทเซทของคุณก็รอดด้วย อยู่ที่คุณจะยอมไหม เท่านั้นเอง”
พิลาสินีเลิกคิ้วเป็นเชิงถามและเลือกที่จะเงียบรอฟังคำตอบจากปากของเขา รอฟังด้วยอยากรู้ว่าคนใจดำอย่างเขาจะหลุดคำพูดใดออกมา
“ถึงแบงก์จะไม่ปล่อยกู้แต่ผมก็ติดต่อกับบริษัทลงทุนต่างชาติสำเร็จ ถ้าคุณตอบตกลงขายหุ้นสิริแอทเซทให้พวกเขา คุณก็จะสามารถผ่านวิกฤตินี้ไปได้”
“นี่คุณปล่อยให้บริษัทของคุณถูกเทกโอเวอร์อย่างนั้นเหรอ?!” คำถามที่ฟังแล้วเข้าใจง่ายหลุดออกจากปากพิลาสินีอย่างเหลือเชื่อ
“แค่ถอยมาตั้งหลัก มันเป็นทางออกเดียวที่ผมทำได้ดีที่สุด” ชินเขตบอกด้วยสีหน้าเรียบเฉย “คุณก็ด้วย ถ้าไม่อยากให้สิริแอทเซทต้องล้มไม่เป็นท่า ควรจะทำตามที่ผมแนะนำ”
“ไม่มีทาง!” โต้กลับอย่างไม่ต้องเสียเวลาคิด ธุรกิจที่พ่อสร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรง หวังจะให้มันเป็นมรดกของลูกหลาน เธอจะไม่ยอมให้มันกลายไปเป็นของคนอื่นอย่างแน่นอน
“งั้น... ผมก็จนใจ”
“ถึงคุณจะปล่อยให้ดับเบิ้ลซีถูกเทกโอเวอร์ ก็ไม่ได้หมายความว่าหนี้สินที่เกิดขึ้นจะหมดไป ยังไงเสียก็ต้องหาแหล่งเงินกู้มาใช้หนี้ที่เกิดขึ้นแล้วอยู่ดี มัน...” พิลาสินีไม่มีโอกาสได้พูดจบประโยคเพราะคนฟังมีท่าทางรำคาญใจและพูดตัดบทในทันที
“เทียบตัวเลขแล้วมันก็ยังมีโอกาสหาได้ อย่าลืมนะเพลงว่าเงินที่ต้องหามาอุดรอยรั่วของสิริแอทเซทไม่ใช่แค่สิบล้านแต่มันเกือบห้าร้อยล้าน”
คำโต้กลับของเขาทำให้เธอนิ่งไปชั่วอึดใจ ใช่ว่าจะไม่รู้ถึงตัวเลขดังกล่าวแต่การปล่อยให้บริษัทถูกเทกโอเวอร์ไม่ใช่ทางออกที่เธอคิดเลยสักครั้ง ทางออกที่นักธุรกิจทั่วไปคิดถึงเป็นทางสุดท้ายซึ่งหลุดออกจากปากประกอบกับท่าทางเรียบเฉยราวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ ทำให้พิลาสินีเกิดความคลางแคลงใจแต่ยังเลือกที่จะเก็บความสงสัยที่เกิดขึ้นเอาไว้เพราะรู้ดีว่าหากเอ่ยถามออกไป ก็คงไม่ได้คำตอบที่เกิดขึ้นตามจริง
“คิดดูดีๆนะเพลง มันเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเราในตอนนี้ เรายังหนุ่มสาวด้วยกันทั้งคู่ ยังมีโอกาสสร้างธุรกิจได้อีกในอนาคต” ชินเขตตะล่อมบอกอย่างใจเย็น หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนการที่วางไว้ก็นับว่าไม่เสียเวลาที่ลงทุนไปห้าปี แม้ว่าจะพลาดเป้าหมายใหญ่ไปสักหน่อย
หากคำพูดที่ไม่ต่างจากการสร้างวิมานในอากาศของเขาทำให้พิลาสินีส่ายหน้า ไม่อยากเชื่อหูว่าหลังจากเกิดเรื่องเมื่อครู่แล้ว เธอและเขายังจะมีอนาคตร่วมกันอีกหรืออย่างไร
“ที่ได้ยินมันคือทางตันสำหรับฉัน คือความพินาศย่อยยับสำหรับครอบครัวของฉัน คุณบ้าไปแล้วใช่ไหมที่ปล่อยเวลาให้มันผ่านไปจนทุกอย่างเลวร้ายแบบนี้แล้วเอาข้อเสนอสิ้นคิดนั้นมายัดเยียดให้ฉัน” เป็นครั้งแรกที่เธอขึ้นเสียง ตวาดดุเขาด้วยความเหลืออด “ถ้าฉันยังวาดอนาคตกับคุณก็คงจะตาบอดหรือไม่ก็บ้าไปแล้ว”
ชินเขตกรอกสายตาอย่างระอาใจเมื่อประโยคหลังดังขึ้นพร้อมสายตาของพิลาสินีที่ตวัดไปมองร่างของอินทุอรที่เดินผ่านหน้าห้องนั่งเล่นไป “ไม่เอาน่า... เราเคยตกลงกันเรื่องนี้แล้วนี่”
“นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว ฉันจะไม่มีวันเป็นเมียหุ่นเชิดให้คุณอีกเด็ดขาด”
“คุณเป็นผู้หญิงที่ใจเย็นที่สุดเท่าที่ผมเคยรู้จักมานี่เพลง ทำไมวันนี้ถึงได้หงุดหงิดนักล่ะ?”
พิลาสินีเห็นสายตาที่หรี่มองตนอย่างลำพองใจ เปิดโอกาสให้เขาพูดพล่ามต่อไปเรื่อยๆ
“แค่ผมมีรสนิยมทางเพศที่ไม่เหมือนคนส่วนมาก จำเป็นด้วยเหรอที่ต้องใช้สายตาเหยียดหยันหรือน้ำเสียงไร้มารยาทแบบนั้น” ไม่มีความจำเป็นใดที่เขาต้องมีความอดทนกับเธออีกต่อไป
“อย่าเบี่ยงเบนประเด็นสิคะ ฉันไม่เคยเหยียดเพศ มองคุณเป็นตัวประหลาดหรือเป็นคนจิตใจคับแคบแบบนั้น ไม่ว่าในจิตใจของคุณจะรักจะชอบหรือมีรสนิยมทางเพศแบบไหน นั่นก็ตามสบาย แต่การที่คุณหิ้วผู้หญิงอื่นมาทำเรื่องโสมมในที่ส่วนตัวของฉันแบบนี้มันน่ารังเกียจ วันที่ฉันรู้ว่าคุณชอบผู้ชายด้วยกันฉันตกใจมากแต่ก็ยอมรับในสิ่งที่คุณเป็นและให้เกียรติมาตลอด แบกรับคำต่อว่าของแม่คุณโดยที่คุณไม่เคยห้ามปรามหรือแก้ต่างให้ฉันเลยสักนิด” พิลาสินีถอดหายใจออกมาเฮือกใหญ่พลางลุกขึ้นยืน “ฉันคิดว่าเราจะเป็นเพื่อนที่ดีมีความจริงใจให้กัน แต่นั่นมันเป็นความคิดของฉันคนเดียว”
ชินเขตยอมรับว่าพลาดไปเพราะคิดว่าพิลาสินีจะค้างที่บ้านของเจ้าสัวสันต์ หากร่างอ้อนแอ้นที่เดินผ่านหน้าออกไปทั้งที่ยังคุยกันไม่รู้เรื่องทำให้รีบเอ่ยปากเรียกเธอ “เดี๋ยวก่อนสิเพลง เรื่องเทกโอเวอร์ผมคิดว่าคุณน่าจะเก็บเอาไปทบทวนอีกครั้งนะ”
น้ำเสียงประนีประนอมทำให้การก้าวเดินของพิลาสินีชะงักลงชั่วครู่ แต่ก็ไม่ได้หันกลับไปสบสายตาคู่สนทนา “รอให้ฉันตายก่อนก็แล้วกันถึงเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูด”
“เพลง... เดี๋ยวก่อนสิเพลง” ชินเขตรีบเดินตามออกมาจากห้องนั่งเล่นก็พบว่าผู้หญิงทั้งสองคนกำลังยืนเผชิญหน้ากันอยู่ตรงห้องโถงของบ้าน
“ขอโทษนะคะคุณเพลง เป็นความผิดของดิฉันเองไม่เกี่ยวกับคุณชินเขตหรอกค่ะ” อินทุอรบอกด้วยน้ำเสียงสีหน้าขอลุแก่โทษ พร้อมปรี่เข้าไปจับมือของพิลาสินีเอาไว้แล้วกล่าวขอโทษซ้ำอีกครั้ง “ดิฉันเข้าใจว่าคุณกำลังโกรธ เป็นธรรมดาที่จะเกิดความหึงหวง จะด่าจะว่าดิฉันก็ได้นะคะ”
พิลาสินีแกะมือออกและเบี่ยงตัวออกไม่ยอมรับคำขอโทษนั้น เธอหมุนตัวกลับไปมองทั้งคู่ที่เดินเข้าไปยืนเคียงคู่กันด้วยความรู้สึกย่ำแย่ แต่กลับไม่มีความหึงหวงปนอยู่เลยแม้แต่น้อย “เมื่อก่อนฉันคงโง่งมที่เกิดความรู้สึกหึงหวงต่อคุณ แต่ตอนนี้ที่ได้รู้ว่าคุณมันน่าขยะแขยงแค่ไหน ฉันดูเป็นคนที่โชคดีเอามากๆเลยนะคะชินเขต ขอบคุณที่ไม่เคยล่วงเกินฉันแม้แต่ปลายก้อย ถึงคุณจะชั่วแค่ไหนแต่ถ้าคิดถึงเรื่องนี้ ฉันก็ยังคิดว่าติดค้างคำขอบคุณอยู่ดี”
ชินเขตกำหมัดแน่นเมื่อถูกด่าว่าอย่างตรงไปตรงมา แต่ยังไม่สามารถตอบโต้ตามใจอยากได้ในตอนนี้ ทำได้แค่เพียงมองร่างอ้อนแอ้นก้าวฉับๆออกไปหยุดหน้าประตูบ้าน
“ถ้าภายในหนึ่งสัปดาห์ฉันไม่ได้รับการติดต่อเรื่องหย่า ฉันจะให้ทนายยื่นโนติส” จบคำพูดพิลาสินีก็เดินออกจากกรงขังที่พันธนาการเธอไว้นานถึงห้าปี แม้ว่าสมองจะหนักอึ้งกับเรื่องที่พบเห็นแต่จิตใจกลับเบาโหวง โล่งสบาย แม้เหนื่อยแสนเหนื่อยกับเรื่องที่ต้องเผชิญแต่เธอยังมีแรงสู้ต่อไหว
เป็นครั้งแรกในรอบปีที่พิลาสินีขับรถกลับบ้านด้วยความโล่งใจ ไร้ซึ่งความกังวลใดๆในชีวิตส่วนตัว เธอกำลังจะมีอิสระและได้กลับไปใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขกับครอบครัวอันเป็นที่รัก แม้ว่ายังมีปัญหาใหญ่ขวางหน้าแต่การเดินหันหลังให้ผู้ชายที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีมาตลอดเวลาห้าปีก็ทำให้เธอมีแรงใจฮึดสู้กับปัญหาต่างๆได้เป็นอย่างดี



ศิริพารา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ก.ย. 2558, 21:09:07 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ก.ย. 2558, 21:09:07 น.

จำนวนการเข้าชม : 961





<< ตอนที่ 2 50%   ตอนที่ 3 50% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account