บ่วงรักทาสเสน่หา (ฉบับ e-book)
“คุณธี คุณจะทำอะไรน่ะ ปล่อยนะคะ!” ประณาลีถามเสียงตื่น พยายามดิ้นรนขัดขืนตุบตีและผลักไสร่างใหญ่ให้ออกห่าง แต่ดูเหมือนเขาจะไม่สะทกสะท้าน
“ไม่มีทางที่รัก ผมปล่อยคุณมานานเกินไปแล้ว” เอ่ยจบนิธิภัทรก็เปลี่ยนจากกอดรัดมาตวัดร่างบางขึ้นอุ้ม แล้วเดินดุ่มๆ ตรงไปที่เตียงกว้าง ท่ามกลางเสียงวี้ดร้องและกระเสือกกระสนของหญิงสาว
“ไม่นะคุณธี คุณจะทำอย่างนี้กับฉันไม่ได้นะ ฉันเป็นพี่เลี้ยงไม่ได้เป็นนางบำเรอของคุณ”
“ก็ใครบอกว่าจะให้คุณเป็นนางบำเรอล่ะทูนหัว” นิธิภัทรวางร่างบางลงบนเตียงกว้างแล้วโถมร่างใหญ่ตามลงไปแบบติดๆ จากนั้นเขาก็ทำการปิดปากพี่เลี้ยงสาวที่มักจะปฏิเสธเขาตลอดเวลาด้วยจูบอ่อนหวาน ขณะเดียวกันกำปั้นน้อยๆ ของหญิงสาวก็ยังทุบเข้าที่ไหล่กว้าง แต่ไม่นานมือนั้นก็ค่อยๆ เปลี่ยนมาเป็นลูบไล้อย่างเคลิ้มไปกับจูบที่เริ่มเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ สติที่คอยย้ำเตือนตัวเองอยู่ตลอดเวลาแตกกระเจิงไม่มีชิ้นดี เหลือเพียงความรู้สึกลึกๆ ที่เก็บงำเอาไว้ภายในใจ ที่เริ่มจะแสดงออกมา และเมื่อเป็นอย่างนั้นทำให้ประณาลีกล้าพอที่จะจูบตอบกลับไปอย่างไม่ประสีประสามากนัก หากแต่จูบนั้นแฝงไปด้วยความเร่าร้อนอ่อนหวาน มันจึงสามารถเรียกเสียงครางจากชายหนุ่มได้เป็นระยะๆ สร้างความร้อนรุ่มไปทุกอณูขุมขน เปลวไฟพิศวาสคุกรุ่นพร้อมจะมอดไหม้ นิธิภัทรไม่รอช้าจัดการปราการที่ขวางกั้นทั้งของตัวเองและประณาลีที่นอนอ่อนระทวยใต้ร่างออกอย่างชำนาญ
“คืนนี้คุณจะต้องชดเชยเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมานะที่รัก”


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เรื่องนี้ลงให้อ่านเรื่อยๆ จนครบ 70% นะคะ
Tags: พ่อหม้าย,เรือพ่วง,พี่เลี้ยง,เด็กแฝด,นิยายรัก,รดามณี,เกศมณี,ไหมขวัญ,มายา

ตอน: ตอนที่ 1 พ่อม่ายอกหักกับแม่สาวคานทอง 100%

ตอนที่ 1 พ่อม่ายอกหักกับแม่สาวคานทอง (ต่อ)

“แกไม่รู้จักเหรอ น้ำเปลี่ยนนิสัยน่ะ” ปาณิศาพยักพเยิดไปที่แก้วค็อกเทลที่ตอนนี้เหลือเพียงแก้วเปล่าๆ พลางหัวเราะหึๆ ในลำคออย่างพอใจในผลงาน เพราะต้องการเพิ่มความกล้าให้กับประณาลี เธอจึงได้สั่งค็อกเทลที่เพิ่มความแรงของเหล้าเขาไปอีก และมันก็มากพอที่จะทำให้คนคออ่อนอย่างประณาลีเมาได้

“แค่ค็อกเทลแก้วเดียวเนี่ยนะ ไม่น่าจะทำให้ยัยลีเมาได้ ถึงจะไม่เคยดื่มเครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์ก็เหอะ อย่างมากก็แค่มึนๆ” ได้ยินอย่างนั้น คนต้นคิดป้องปากหัวเราะชอบใจ

“ก็เพราะแก้วนี้...ฉันสั่งพิเศษเพื่อยัยลีโดยเฉพาะยังไงล่ะ เพิ่มความแรงของเหล้าไปอีกเท่าตัว และผลมันก็ออกมาเป็นเยี่ยงนี้แล” มุทิตามองประณาลีที่ดูจะมีนิสัยต่างออกไปจากเวลาปกติที่สติสัมปชัญญะครบถ้วน แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่คิดว่าพอเหล้าเข้าปากคนเราจะเปลี่ยนกันได้ขนาดนี้

“ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ พวกแกก็อย่ามัวมองหนุ่มๆ เพลินจนลืมดูยัยลีล่ะ เดี๋ยวฉันมา” สั่งเสร็จร่างเล็กของมุทิตาก็เดินหายออกไป เหลือเพียงสามสาวที่จ้องประณาลีกับหนุ่มหล่อลูกครึ่งคนนั้นอยู่เป็นระยะๆ แต่พอมีหนุ่มหล่อหน้าตาดีเดินผ่าน พวกเธอก็ไม่พลาดที่จะพร้อมใจกันเหลียวมองตามไปจนสุดสายตา ตามประสาผู้หญิงที่ก็ชอบมองคนหล่อ ซึ่งก็ไม่ต่างกับผู้ชายที่ชอบมองคนสวย และยิ่งมองมันก็ยิ่งเพลิน เพลินซะจนลืมคำสั่งของคนที่ไปเข้าห้องน้ำยังไม่กลับ

ท่าทางกระซิบกระซาบชี้ไม้ชี้มือของเพื่อนๆ ทำให้มุทิตาที่เพิ่งกลับมามองตาม และเมื่อจุดหมายปลายทางของสายตาทุกคนไปตกอยู่ที่หนุ่มหล่อคนหนึ่ง ที่นั่งอยู่ห่างออกไปไม่มากนัก เธอก็ได้แต่ส่ายหน้า

“นี่ฉันว่าถ้าสามีและว่าที่สามีของพวกแกมาเห็นเข้า ว่าพวกแกกำลังจ้องผู้ชายราวกับจะกลืนกินอย่างที่ทำอยู่ตอนนี้ มีหวังได้เป็นเรื่องแน่ๆ” ทั้งสามสาวหันขวับ ก่อนปานรำไพคนที่จะเป็นเจ้าสาวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็แย้งขึ้น

“บ้า! แกก็พูดจาน่าเกลียดนะยัยมุก พวกฉันแค่มองเป็นอาหารตาก็เท่านั้นเอง จริงไหนยัยปลา ยัยแหวน” สองแนวร่วมต่างรีบพยักหน้าหงึกหงัก หากสายตานั้นยังคงจับจ้องมองหาหนุ่มหล่อคนใหม่ไปเรื่อยๆ และพอเห็นคนที่ถูกตาต้องใจ ต่างก็กวักมือเรียกแล้วพยักพเยิดให้กันดู ก่อนจะกรี๊ดออกมาเบาๆ พอให้ได้ยินกันแค่ในกลุ่ม

“พวกแกมัวมองหนุ่มคนนั้นทีคนนี้ที แล้วที่ฉันสั่งให้ดูยัยลีล่ะ…อะไรนี่พวกแก” มุทิตาโวยวายเล็กน้อย ที่เพื่อนอีกสองคนลากเธอเข้ากลุ่มไปดูหนุ่มหล่อหน้าใสคนหนึ่งที่กำลังจะเดินผ่านโต๊ะที่พวกเธอนั่งอยู่

“อย่าบ่นนักเลยมาดูอาหารตาดีกว่า ไม่ต้องห่วงหรอกยัยลีน่ะ...นั่งหัวโด่อยู่นั่นไง...” ปานรำไพชี้นิ้วค้าง พลางขมวดคิ้วเพ่งมองไปที่เคาน์เตอร์บาร์ ที่เมื่อครู่ยังเห็นเพื่อนของเธอกับหนุ่มลูกครึ่งคนนั้น นั่งอยู่ตรงนั้นอยู่เลย เมื่อทั้งเพ่งและกวาดสายตามองไปจนรอบก็ไม่เห็นแม้เงา ปานรำไพจึงอุทานเสียงหลง

“เฮ้ย! ยัยลีหาย!”

“ยัยลีหาย!” สามคนที่เหลือหันขวับ พร้อมกับอุทานอย่างตกใจไม่แพ้กัน มุทิตามองไปที่เคาน์เตอร์บาร์ ที่ก่อนเธอจะไปเข้าห้องน้ำ ประณาลีกับหนุ่มลูกครึ่งคนนั้นยังนั่งคุยกันอยู่เลย ก่อนจะหันมามองหน้าเพื่อนๆ ทั้งสามอย่างเอาเรื่อง จากนั้นจึงรีบเดินรี่เข้าไปหาบาร์เทนเดอร์หนุ่มทันที

“โทษนะคะน้อง ผู้ชายลูกครึ่งหล่อๆ ที่นั่งอยู่ตรงนี้กับผู้หญิงหน้าตาคมๆ หน่อยเขาไปไหนคะ แล้วไปตั้งแต่เมื่อไหร่ น้องพอทราบไหมคะ”

“อืม...ผมไม่ทราบหรอกครับว่าทั้งสองคนไปไหน รู้แค่ว่าออกไปได้สักพักแล้วล่ะครับ” คำตอบที่ได้ ไม่ได้ช่วยอะไรเลย นอกจากจะรู้แค่ว่าประณาลีคงโดยไอ้หนุ่มลูกครึ่งหน้าหล่อหิ้วไปซะแล้ว ดังนั้นมุทิตาที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ตั้งแต่แรก หันมาจ้องคนต้นคิดทั้งสามอย่างไม่พอใจ

“พวกแกจะทำยังไงกันล่ะทีนี้ ฉันจะเดินออกไปดูข้างนอกเผื่อจะเจอ”

“ฉันไปด้วย ยัยแหวนแกไปเชคบิล แล้วรีบตามออกมานะ” ปาณิศาบอกก่อนจะฉุดปานรำไพวิ่งตามหลังมุทิตาที่เดินลิ่วๆ ไปอย่างไม่คิดจะรอใคร เธอร้อนใจมาก กลัวว่าผู้ชายคนนั้นจะทำมิดีมิร้ายเพื่อนประณาลีแล้วทิ้ง อย่างไม่สนใจใยดี และถ้าหากเป็นอย่างนั้นจริง เชื่อได้เลยว่าคนอย่างประณาลีคงจะทั้งเข็ดขยาด หวาดกลัว และเกลียดชังผู้ชายมากกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้เป็นร้อยเท่าพันเท่า เรียกได้ว่าคงจะเกลียดเข้ากระดูกดำกันเลยทีเดียว

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
E-book : https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMTgyNTMyIjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiMjE2ODQiO30



เกศมณี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 พ.ย. 2558, 16:09:00 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 พ.ย. 2558, 16:09:00 น.

จำนวนการเข้าชม : 919





<< ตอนที่ 1 พ่อม่ายอกหักกับแม่สาวคานทอง 70%   
นักอ่านเหนียวหนึบ 9 พ.ย. 2558, 18:18:14 น.
หูยยย หายไปไหนกันนะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account