ทัณฑ์รักรานใจ (รูปเล่มเร็วๆนี้)

Tags: บุลินทร

ตอน: บทที่ 3 เข้าทางเพื่อน



เข้าทางเพื่อน








“ค่ะ!”

อุรัสยาตอบโดยไม่ยินดียินร้าย เธอไม่ชอบผู้ชายมาดเพลย์บอยมาแต่ไหนแต่ไร ดังนั้นจึงไม่อยากสานสัมพันธ์กับคามินนัก เพราะไม่นึกว่าเจอกันครั้งนั้นแล้วจะได้พบอีกเป็นครั้งที่สอง

“คุณหนึ่งรู้จักกับยายเอิงมานานหรือยังคะ อ้อ หรือว่าเป็นเพื่อนที่เรียนแฟชั่นดีไซน์ที่อิตาลีด้วยกัน” นิษฐาคาดเดา เพราะเธอกับอุรัสยาเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ป.๑ เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไม่รู้จักคามิน

“ยายนิษ! จะไปบอกประวัติการเรียนฉันทำไม” อุรัสยาเอ็ดเพื่อนเบาๆ เธอไม่ได้อยากรู้จักอีตาคามินนี่สักหน่อย ท่าทางเหลาะแหละแบบนั้น ไม่รู้ทำงานทำการหรือเปล่า น่ากลัวจะลอยชายไปวันๆ แถมเจอเธอก็อวดอ้างสรรพคุณยกใหญ่ว่าเป็นลูกชายเจ้าของรีสอร์ตดัง!

คนอย่างอุรัสยาไม่ได้เลือกคบใครเพราะเงิน ดังนั้นคนอวดรวยแบบนี้ตกรอบคัดเลือกไปแบบไม่ต้องสงสัย แต่ไม่ใช่ว่าเธออคติกับคนรวย ถ้าคนคนนั้นรวยเพราะความสามารถ หรือเอาเงินทองของพ่อแม่มาต่อยอดให้งอกเงยได้ เธอก็จะให้โอกาส

“อ้าว เธอกับเขาไม่รู้จักกันหรอกเหรอ” นิษฐาไม่ได้ออมเสียง แถมยังหันไปขอคำตอบจากคามินด้วย

“เราไม่ได้เรียนด้วยกันหรอกครับ แล้วผมกับคุณเอิงก็เพิ่งรู้จักกันไม่ถึงอาทิตย์ครับ” คนถูกถามตอบตามความจริง

“นิษ ไม่ต้องไปพูดกับเขา” อุรัสยาปรามเพื่อนโดยให้ชายหนุ่มได้ยินเช่นเดียวกัน “วันนี้นัดฉันมากินข้าวไม่ใช่เหรอ จะไปสนใจคนอื่นทำไม”

“แล้วเธอกับคุณหนึ่งรู้จักกันในฐานะอะไร” นิษฐาขมวดคิ้วเข้าหากัน

ภัคพลที่นั่งมองอยู่แอบอมยิ้มเล็กๆ เห็นทีแรกนึกว่านิษฐาจะเป็นสาวหวานเรียบร้อยพูดน้อย แต่เธอพูดเก่งกว่าที่คิดเสียอีก

“ในฐานะคนแปลกหน้าไงล่ะ แล้วเขาก็จะไม่รู้จักชื่อฉันถ้าไม่ได้ยินจากเธอเมื่อกี้” อุรัสยายกมือขึ้นมากอดอกและกลอกตาไปทางอื่นอย่างเซ็งๆ ก่อนหน้าไปเรียนต่อตรีและโทที่อิตาลี ไปวัดทีไรก็ไม่เคยเจอเขา แต่วันนั้นซวยจริงๆ!

เธอรู้ว่าถ้าทำเป็นไม่สนใจตอนคามินเข้ามาทำความรู้จัก เขาจะต้องตามตื๊อเหมือนพระเอกเจ้าชู้ในละครที่รักความท้าทาย แต่เธอไม่ได้อยากให้เป็นอย่างนั้นสักหน่อย ที่พยายามบ่ายเบี่ยงไม่บอกชื่อก็เพราะไม่อยากเป็นมากกว่าคนแปลกหน้าจริงๆ จะให้พูดดีด้วยก็ไม่ใช่เรื่อง เพราะเขาจะคิดว่าเธอพึงพอใจในตัวเขาเสียอีก

“ผมว่าเราควรทำความรู้จักกันให้มากกว่านี้” คามินไม่ยอมแพ้ อยากรู้เหมือนกันเธอจะหยิ่งแบบนี้ไปตลอดได้หรือไม่

“ไม่ละค่ะ” หญิงสาวบอกอย่างไร้เยื่อใย แล้วก็หันไปหาเพื่อนสาวตัวดี “ยายนิษ สั่งอาหารไปหรือยัง”

“สั่งแล้ว ก็เธอบอกว่าหิว ให้ฉันสั่งอาหารรอเลย”

“งั้นขอย้ายโต๊ะดีกว่า บรรยากาศข้างๆไม่ดี พาลจะกินข้าวไม่อร่อย”

“จะมีโต๊ะว่างไหมเนี่ย เมื่อกี้ก็เหลือโต๊ะนี้โต๊ะเดียวพอดี” นิษฐาทักท้วง

“มีไม่มีก็ลองดูก่อน” อุรัสยายกมือเรียกบริกร ก่อนแจ้งความต้องการ โชคดีที่ลูกค้าโต๊ะหนึ่งเพิ่งลุกออกไปพอดีจึงย้ายได้ ถือว่าโชคเข้าข้างเธอจริงๆ “เร็วเข้ายายนิษ” เธอเร่งเพื่อนรักที่แสนชักช้า แล้วก็เดินตามพนักงานร้านอาหารจีนไป

“คุณนิษครับ” คามินเรียกนิษฐาเอาไว้ ก่อนจะหยิบนามบัตรออกมาจากกระเป๋าสตางค์และยื่นให้ “ว่างๆถ้าอยากไปเที่ยววสุนธรารีสอร์ต ติดต่อผมได้นะครับ ผมมีที่พักฟรีให้ แต่อย่าลืมชวนคุณเอิงไปด้วยนะครับ”

หญิงสาวลังเล หันไปมองเพื่อนที่นั่งรออยู่ และหันกลับมามองหน้าคามิน “ท่าทางเพื่อนฉันคงไม่อยากไปหรอกค่ะ”

“งั้นคุณนิษไปคนเดียวก็ได้ครับ ไม่เป็นไร” คามินคิดว่าอย่างน้อยผูกมิตรกับนิษฐาเอาไว้ก็ไม่เสียหลาย เข้าทางอุรัสยาตรงๆไม่ได้ก็ขอเข้าทางเพื่อนแทนนี่ละ

“อืม…” หญิงสาวยังละล้าละลัง จะยื่นมือออกมาแล้วแต่ก็ไม่ทำ จนสุดท้ายคามินต้องจับมือเธอมายัดนามบัตรใส่

“ไม่ต้องเกรงใจครับ”

“งั้นก็ขอบคุณมากนะคะ ฉันคงต้องไปแล้ว” นิษฐาค้อมศีรษะ ก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายเดินไปยังโต๊ะอีกฝั่ง ซึ่งแม้จะอยู่ในระยะมองเห็นโต๊ะของคามินได้ แต่สำหรับเพื่อนเธอคงดีกว่านั่งใกล้กัน

เมื่อหญิงสาวออกไปแล้ว ภัคพลก็จ้องเพื่อนเขม็ง “นี่แกคงไม่คิดจะจีบคุณนิษแทนหรอกนะ”

“เปล่า ฉันก็แค่อยากจะเข้าทางคุณนิษ” ดวงตาคมเต็มไปด้วยแผนการ

“เข้าอะไร อะไรเข้า เข้าทางไหนของคุณนิษ พูดดีๆนะเว้ย” ศิลปินหนุ่มทำท่าปั้นหมัด

คามินอดขำท่าทางเพื่อนไม่ได้ “ไอ้นี่ มองตาขวางเชียว ฉันรู้น่าว่าแกชอบคุณนิษ แล้วฉันก็ไม่เปลี่ยนใจจากคุณเอิงง่ายๆหรอก ไม่ต้องห่วง”

“งั้นก็ดี แกจะจีบคุณเอิงก็จีบไป แต่คุณนิษฉันจอง เข้าใจตรงกันนะ” ถึงจะครอบครองไม่ได้ แต่ก็ขอตีตราจองไว้ก่อนแล้วกัน

“ประกาศซะขนาดนี้ ใครจะกล้าแย่ง แล้วฉันก็ไม่อยากต่อยกับเพื่อนที่คบกันมาตั้งแต่อนุบาลเพราะเรื่องผู้หญิงด้วย!”

“เออ คบกันมาตั้งนาน จะแตกคอกันเพราะเรื่องผู้หญิงก็แย่นะ” เมื่อทำความตกลงกันแล้ว สองหนุ่มจึงคุยเรื่องของสองสาวต่อด้วยความเพลิดเพลิน



ฝ่ายอุรัสยาและนิษฐาเองก็กำลังคุยเรื่องของคามินและภัคพลเช่นกันระหว่างรออาหารที่สั่งไว้

“เธอกับเขาเจอกันครั้งแรกที่วัด? โรแมนติกชะมัด ดีนะเป็นตอนกลางวัน ไม่ใช่กลางดึก ไม่งั้นจะยิ่งได้บรรยากาศ”

“ไปกันใหญ่แล้ว ว่าแต่…เธอคิดว่าท่าทางแบบเขาไปทำอะไรที่วัด” ไม่รู้ว่าทำไมเธอต้องอยากรู้ด้วย

“เธอคิดว่าท่าทางเขาไม่น่าเข้าวัดเหรอ”

“ใช่ แต่ผับคงเข้าจนรู้จักทุกซอกทุกมุม” หญิงสาวเอ่ยพลางเบ้ปากน้อยๆ และชำเลืองไปมองเขานิดหนึ่ง ทว่าหลบตาแทบไม่ทันเมื่อคามินก็กำลังมองเธออยู่เช่นกัน และแม้จะอยู่ไม่ใกล้กันนัก แต่เธอก็เห็นว่าดวงตาคมคู่นั้นวิบวับเพียงใด

“แหม เขาก็อาจไปทำบุญล้างซวยอะไรตามประสาแหละ แล้วว่าแต่เขา คุณหนึ่งก็อาจสงสัยเหมือนกันว่าท่าทางแบบเธอไปทำอะไรที่วัด” นิษฐาหัวเราะคิกคัก

“แล้วทำไมฉันจะไปวัดไม่ได้ล่ะ”

“ก็ดูเธอแต่งตัวเป็นสาวเปรี้ยวยุคใหม่ออกอย่างนี้ ใครจะคิดว่าสนใจเข้าวัด”

“เธอก็รู้ว่าฉันไปทำอะไร”

“ฉันรู้จักเธอนี่นา แต่คนที่ไม่รู้จักก็คงสงสัย เหมือนที่เธอสงสัยคุณหนึ่ง เพราะเธอไม่รู้จักเขานั่นละ”

“แต่ฉันคงไม่ลงทุนทำความรู้จักเขาเพื่อให้รู้คำตอบหรอกนะ” อุรัสยาไหวไหล่ ถึงเขาจะหล่อและรวยแค่ไหน แต่นิสัยแบบนั้น ท่าทางคงไปกันได้ยาก

“ย่ะ แม่สวยเลือกได้” นิษฐาบอกอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะเอ่ยอย่างนึกขึ้นได้ “อ้อ เมื่อกี้คุณหนึ่งเขาให้นามบัตรฉันมา บอกว่าถ้าอยากไปเที่ยววสุนธรารีสอร์ตเมื่อไหร่ติดต่อเขาได้ และให้ชวนเธอด้วย”

“นายนั่นมีนามบัตรกับเขาด้วยเหรอ แต่สงสัยเอาไว้แจกสาวๆ ไม่ใช่เพื่อติดต่องาน” เธอถามเองตอบเอง ยังเชื่ออย่างยิ่งยวดว่าคนอย่างเขาไม่น่าจะเอาถ่าน

“เฮ้ย นามบัตรบอกว่าเขาประธานบริษัทเดอะวันโฮมดีไซน์แอนด์เดคคอร์ อยู่แถวทองหล่อนี่เอง มิน่าถึงมากินข้าวที่นี่” หญิงสาวทำเสียงตื่นเต้น คิดว่าไม่ได้บังเอิญเท่าไรที่เธอกับอุรัสยาและคามินกับภัคพลมาพบกันที่ห้างนี้ เพราะร้านเสื้อผ้าของอุรัสยาและร้านกาแฟของเธอก็อยู่แถวเอกมัย-ทองหล่อ ซึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลกัน

“เมื่อก่อนไม่ยักเจอ สงสัยปีนี้ปีชง”

“ก็ตามหลักความน่าจะเป็นไงยะ อยู่ละแวกเดียวกัน ใช่ว่าจะเจอกันได้ทุกวัน แต่ยังไงมันต้องเจอกันมากกว่าหนึ่งครั้งในรอบปีละ คนทำงานแถวนี้ก็มาห้างนี้กันทั้งนั้น แต่ก่อนคุณหนึ่งก็อาจจะมา เพียงแต่เธอยังไม่รู้จักเขา เลยไม่ได้สังเกต หรือไม่ก็กินคนละร้าน”

“อืม เป็นไปได้” อุรัสยาพยักพเยิดแบบไม่ได้ใส่ใจนัก

“นี่ แต่คุณหนึ่งมีบริษัทรับออกแบบตกแต่งบ้านเป็นของตัวเองแบบนี้ แสดงว่าไม่ใช่คนเลวเกวล่องลอยใช้สมบัติครอบครัวไปวันๆนะ” นิษฐาเองก็ผิดคาด เพราะคิดว่าเขาจะเป็นหนุ่มรักสนุกสุขนิยม เหลวไหลไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย

“แน่ใจนะว่าไม่ได้เอาชื่อไปประดับบริษัทไว้เฉยๆ แล้วให้คนอื่นบริหารแทน” อุรัสยาถึงกับแบมือขอดูนามบัตรให้เห็นกับตา เมื่อเพื่อนยื่นให้จึงอ่านอย่างละเอียด



The One Home Design and Decor

คามิน ชยกรสกุล

KAMIN CHAYAKORNSAKUN

President

Tel: 02-777-98XX Mobile-081-909-22XX



“ลองโทร.ไปดีไหมเนี่ยว่าเข้าบริษัทบ้างหรือเปล่า” อ่านจบแล้วอุรัสยาก็นึกสนุกขึ้นมา

“เธอนี่อคติกับเขาเกินไปแล้วนะ ใครจะกล้าเอาชื่อตัวเองเป็นประธานโดยไม่ทำงาน”

“ก็น่าจะมีไม่ใช่เหรอ สมัยนี้มีนอมินีแทบทุกวงการ” เธอยื่นนามบัตรคืนเพื่อนโดยไม่จดเบอร์คามินเอาไว้ เพราะที่บอกว่าจะโทร.ก็แค่ล้อเล่น นายนั่นจะทำงานหรือไม่ทำงานไม่เกี่ยวกับเธอสักหน่อย!

“ไม่หรอกน่า เธอก็ หรือไม่เราก็คอยดูกันต่อไป”

“ไม่รอละ ฉันหวังเหลือเกินว่าจะไม่ต้องเจอเขาอีก”



แต่อุรัสยาหารู้ไม่ว่าความหวังของเธอไม่มีวันเป็นจริง เพราะนอกจากคามินจะไม่ล้มเลิกความตั้งใจในการจีบหญิงสาวแล้ว เขายังเพิ่งได้ข้อมูลจากนักสืบเกี่ยวกับเธอพร้อมภาพถ่าย ดวงตาคมไล่อ่านเอกสารที่ได้รับมาด้วยความพึงพอใจ



นางสาว อุรัสยา กังวารธนะเสรี

เกิดวันที่ 9 พฤศจิกายน 2530 อายุ 26 ปี 11 เดือน สถานะภาพ โสด

เรียนจบปริญญาตรีสาขา Fashion Design และโทสาขา Luxury Marketing Management

จาก Istituto Europeo di Design ประเทศอิตาลี

ปัจจุบันเปิดร้านเสื้อผ้าชื่อ Urassaya’s ที่เอกมัย

เป็นบุตรบุญธรรมของนางจิดาภา กังวารธนะเสรีเจ้าของโรงแรม Grand J.D.P Hotel ซึ่งเป็นหม้าย

นางจิดาภามีลูกชายหนึ่งคนคือนายสวิช กังวารธนะเสรี

ไม่ปรากฏชื่อบิดามารดาที่แท้จริงของนางสาวอุรัสยา





ข้อมูลที่ได้มานั้นเป็นเรื่องทั่วไปรวมถึงที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวของหญิงสาว คามินเก็บเอกสารลงในซองและใส่ในลิ้นชักโต๊ะทำงานเมื่ออ่านจบ

“ผมดีใจนะที่คุณยังไม่มีใคร และเร็วๆนี้เราจะได้พบกันอีกแน่” ชายหนุ่มยิ้มหมายมาดพลางวางแผนในใจ แล้วก็ต้องหลุดจากความคิดเมื่อเสียงอินเตอร์คอมจากเลขาฯดังขึ้น

“คุณหนึ่งคะ ทุกคนพร้อมสำหรับการประชุมตอนบ่ายแล้วนะคะ”

ดวงตาสีเข้มตวัดมองนาฬิกาฝาผนังที่บอกเวลาบ่ายโมงสิบห้านาที “อ้อ โทษทีครับ ผมไปเดี๋ยวนี้ละ” เจ้าของร่างสูงลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงาน และตรงไปยังห้องประชุมซึ่งวันนี้จะคุยกันเรื่องการขยายสาขาไปยังต่างจังหวัดหลังจากที่บริษัทเดอะวันโฮมดีไซน์แอนด์เดคคอร์ดำเนินงานในกรุงเทพฯมาสี่ปีและค่อนข้างอยู่ตัวแล้ว

ส่วนหนึ่งของความสำเร็จที่รวดเร็วก็มาจากพ่อของเขาด้วย เพราะท่านมีเพื่อนนักธุรกิจมากมาย ทำให้บริษัทของคามินได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ารายใหญ่หลายเจ้า

เมื่อผลงานออกมาดีไม่ใช่มีแต่ราคาคุยและอาศัยชื่อเสียงของบิดา ผู้ใช้บริการก็บอกต่อกันไปเรื่อยๆ และถือเป็นข้อดีของยุคโซเชียลมีเดียที่ไม่ว่าจะประชาสัมพันธ์อะไรผ่านช่องทางนั้น ข่าวสารก็กระจายอย่างรวดเร็ว ซึ่งพอคนทั่วไปเห็นโฆษณาของบริษัทเขาในเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และเว็บไซต์ดังต่างๆว่ามีลูกค้ารายใหญ่ใช้บริการก็ยิ่งเชื่อมั่นที่จะจ้างมากขึ้น

แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ไม่ทำให้คามินประมาท เพราะหากไม่หมั่นพัฒนาคุณภาพและบริการ บริษัทเขาอาจถูกลืม เนื่องจากในท้องตลาดมีบริษัทประเภทเดียวกันให้เลือกมากมาย และแต่ละที่ก็ล้วนใช้กลยุทธ์ประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลมีเดียกันทั้งนั้น เพราะมีประสิทธิภาพและใช้งบน้อยกว่าเมื่อเทียบกับช่องทางอื่น

นอกจากเดอะวันจะเป็นความภูมิใจของคามินแล้ว ยังเป็นความภาคภูมิใจของพ่อด้วย

‘ฉันดีใจนะที่เห็นแกทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันก่อนฉันตาย’ ที่พ่อพูดอย่างนั้นก็เพราะสมัยเรียนมหาวิทยาลัย เขาไม่ใส่ใจเรียนเอาเสียเลย ต่างจากตอนประถมซึ่งสอบได้ที่หนึ่งเสมอและมาเริ่มแย่ตอนมัธยม แต่ถึงคามินจะดูเหลวไหลในสายตาท่าน แต่สุดท้ายก็จบปริญญาตรีมาด้วยเกรด ๓.๐๐ พอดีแบบที่พ่อไม่คาดคิด

‘ผมก็ดีใจที่ได้ทำให้พ่อมีความสุขครับ’ หลังจากโดนรสิตาแฟนเก่าทิ้ง คามินก็เสียศูนย์ไปเกือบสามเดือน แต่ภัคพลก็ช่วยกระตุ้นจนกลับมาเป็นผู้เป็นคนอีกครั้ง

‘แกจะปล่อยให้ชีวิตแย่ลงไปเรื่อยๆจนพังพินาศเลยไหม แทนที่จะทำอะไรสร้างสรรค์ กลับมานั่งจมปลักกับความเศร้า ปล่อยเวลาให้หมดไปวันๆอยู่ได้ ไอ้กองขยะเดินได้!’

คามินคิดว่าถ้าไม่เป็นเพื่อนกันมาก่อน เขาคงลุกขึ้นไปต่อยปากคนที่พูดแบบนี้ใส่เขา เพราะทั้งน้ำเสียงและหน้าตาของภัคพลยียวนชวนซัดเข้าสักหมัดจริงๆ

‘ป่านนี้สิตาลืมแกไปแล้วมั้ง จะมัวคิดถึงเขาไปทำไม แล้วในโลกนี้มีผู้หญิงอีกมากมาย มันต้องมีใครสักคนที่เหมาะกับแกสิวะ ลุกขึ้นทำอะไรดีๆเพื่อตัวเองได้แล้วเพื่อน’

ตอนแรกคำพูดของภัคพลก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา เข้าหูขวาออกหูซ้ายตลอด แต่นานเข้า สติของคามินก็ค่อยๆกลับมาจนพร้อมลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

ชายหนุ่มเริ่มวางแผนเปิดบริษัทออกแบบและตกแต่งบ้านโดยใช้ความรู้ด้านสถาปนิกที่เรียนจบมาโดยมีรุ่นพี่รุ่นน้องในคณะเดียวกันมาเสริมทีมจนก่อตั้งบริษัทสำเร็จเมื่อสี่ปีที่แล้ว

เดอะวันทำให้คามินรู้สึกว่าชีวิตมีค่า เพราะหากไม่มีบริษัทที่ก่อตั้งด้วยสมองและสองมือของตัวเอง เขาก็คงกลายเป็นคนหลักลอย หาคุณค่าในตัวเองไม่เจอ นอกจากใช้เงินของพ่อไปวันๆ

เงิน…ที่เขารู้แล้วว่าซื้อทุกอย่างไม่ได้ ไม่เช่นนั้นคนรักของเขาคงไม่ตีจาก ทั้งที่เขาพรั่งพร้อมไปด้วยเงินทอง

แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็อยากจะทดสอบผู้หญิงด้วยเงิน!

อุรัสยาทำให้เขาสนใจมากขึ้น เพราะแม้เธอจะรู้ว่าเขาเป็นถึงลูกชายเจ้าของวสุนธรารีสอร์ต แต่เธอก็ยังเฉยเมยใส่ ทำเหมือนความร่ำรวยของเขาเป็นฝุ่นผงเล็กๆไร้ค่า

ถึงครอบครัวของเธอจะร่ำรวยไม่แพ้เขา แต่ก็ไม่น่าใช่เหตุผลที่เธออยากหนี เพราะคนรวยย่อมอยากคบหากับคนรวยด้วยกันไม่ใช่หรือ ดังนั้นเขาจะเอาชนะใจผู้หญิงคนนี้ให้ได้ ไม่ว่าจะต้องใช้ความพยายามมากเพียงใดก็ตาม

ตั้งแต่เลิกกับรสิตา เขาก็คิดว่าคงไม่เจอรักแท้อีกแล้ว แต่อุรัสยาเหมือนแสงสว่างที่สาดส่องมายังหัวใจอันเหี่ยวแห้งอีกครั้ง บทเรียนในอดีตทำให้เขาปรับปรุงตัวให้ดีกว่าเดิม แม้ตอนนี้อาจยังไม่ดีเต็มร้อย แต่ก็คงดีพอและมีค่าคู่ควรกับผู้หญิงดีๆสักคน คามินหวังอย่างยิ่งว่าฟ้าจะให้รางวัลเขากับความตั้งใจในการเปลี่ยนแปลง ครั้งนี้…ขอให้เธอเป็นรักแท้ของเขาเสียที



บุลินทร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 ก.พ. 2559, 18:38:25 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 ก.พ. 2559, 18:38:25 น.

จำนวนการเข้าชม : 1017





<< บทที่ 2 ทฤษฎีโลกกลม   
บุลินทร 6 ก.พ. 2559, 18:39:56 น.
คุณ ดังปัณณ์
จำได้ว่าลงพร้อมยายแอน หายไปไหนแล้ว ไทวะกับอินทุภา ฮ่าๆๆๆๆ

คุณ Zephyr
ก๊าก เฟอร์อุตส่าห์บอกไม่ให้ขาด แต่ก็หายไปหลายวันเลย มาลงให้ยาวๆแล้วนะ


Zephyr 8 ก.พ. 2559, 07:06:58 น.
ต่างคนต่างสืบเรื่องกันและกัน
รู้ไต๋กันหมด
ชนกัน เอ้ย จีบกันคงมันอ่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account