ปรารถนาร้อนจอมวายร้าย
“ไม่ตายหรอกคนสวย ร่างกายคุณแค่อ่อนเปลี้ยไปกับระเบิดชีวภาพของผมเป็นครั้งแรกเท่านั้นเอง และ... รับรองว่าครั้งต่อไปคุณจะหลงใหลถึงขั้นหาวิธีจุดชนวนให้มันระเบิดด้วยตัวเองเชียวล่ะ”

ชีวิตอันแสนราบเรียบของนักข่าวสาวอย่าง สิริภัทรา ต้องพบกับปัญหาใหญ่เข้าอย่างจัง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับ เมิร์ธ แบดบอยจอมวายร้ายที่มาพร้อมกับแมวป่าเจ้ามารยาแสนหื่น ห่าม มารยาทติดลบแบบสุดขั้วไม่ต่างจากเจ้าของ บุคลิกภาพเฉียบขาดมีพลังเร่าร้อนดึงดูดมหาศาล นิ้วเรียวยาวกำลังเกาคางสัตว์เลี้ยงที่นอนพาดบนตักทำให้เธออยากสิงร่างของแมวป่าตัวนั้น แต่นั่นคือวิธีที่จอมวายร้ายใช้ล่องลวงและประมวลผลว่าจะหิ้วสาวหุ่นทรง S-Line ที่มาพร้อมหน้าอกคัพซีและบั้นท้ายกลมกลึงแล้วประทับตรา ‘Property Of MIRTH’ ในเวลาสักกี่วัน
เขาควรรู้ว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงสวยใสไร้สมองที่จะยอมเป็นสมบัติส่วนตัวไม่ต่างจากสัตว์เลี้ยงในกรง เธอประจักษ์ว่าชัยชนะของผู้ล่า ซึ่งกระหายทำเรื่องอันตราย ผลตอบแทนนั้นคุ้มค่าและน่าพิสมัยยิ่งกว่า ผู้ถูกล่า งานชิ้นใหม่ของนักข่าวสาวสวยเด็ด หุ่นขยี้ใจคือเรื่องลับสุดเอ็กคลูซีพของตัวอันตรายที่คุมเชิงเซียนพนันเหลี่ยมจัดจึงได้เริ่มขึ้น
อิมเมอร์ทัล ไซซ์ นักธุรกิจเจ้าของ IBeater บริษัทแทงพนันอันรุ่งเรืองของโลก ไม่เคยมีปัญหากับการรับมือผู้คนทุกรูปแบบ ยิ่งเป็นนักล่าเนื้อตัวนุ่มนิ่มยิ่งไม่เกิดปัญหา ความลับ เรื่องลับหรือที่ลับ เขาจะเปิดกว้างให้เธอล้วงทุกซอกทุกมุม เปลือยจนถึงแก่นชนิดที่ไม่เคยใจดีกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน แต่เธอต้องรู้เอาไว้อย่างหนึ่งว่าเดิมพันครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับเสื้อผ้า
...แล้วสิริภัทราจะทำอย่างไร เมื่อต้องกระโจนลงไปในบ่วงล่อปรารถนาที่ตนสร้างขึ้น หนำซ้ำยังได้รู้ภายหลังว่า IBeater คือ?!
“ระวังสายตาหน่อยShawty ถึงจะเปลี่ยนจากบนเตียงมาเป็นบนโต๊ะ ผมก็ไม่เคยทำให้ผิดหวังสักครั้งหรอก คุณจะยิ่งครวญครางดังขึ้นน่ะสิ” แค่ดวงตากลมโตมองเขาด้วยความหยาดเยิ้มอย่างไม่ปิดบัง ความปรารถนาในกายก็แตกระเบิด “อา...พระเจ้า! ผมไม่เคยเจอผู้หญิงอย่างคุณจริงๆ”
“ไม่เคยเจอผู้หญิงมีสมองมานานน่ะสิ”
“จะว่าไปก็ไม่เคยเจอผู้หญิงมีสมองพร้อมหน้าอกแถมสะโพกแบบนี้จริงๆนะ ผมคึกเหมือนอัพคุณมาโอเวอร์โดสเลย”
ให้ตายสิ! ผู้ชายบ้าคนนี้เปรียบเทียบเธอเป็นยาปลุกเซ็กซ์
ประโยคสนทนา
“ถึงไม่ชอบสักวันคุณจะรู้ว่าขาดผมไม่ได้ ถึงรับไม่ไหวสักวันคุณจะรู้ว่าโหยหาอ้อมกอดผมทุกวินาที ผมไม่มีคำว่าตรงกลางหรือพอดีให้กับคุณหรอกพิตต้า” อิมเมอร์ทัลยังยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ถึงแม้รู้ว่าจะสร้างความอึดอัดใจให้เธอมากแค่ไหนแต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้
“คุณทำให้วิถีฉันของฉันผิดแปลกไปจากคนปกติ ฉัน...” เธอไม่มีโอกาสพูดจบประโยคด้วยซ้ำ
“ผมจะไม่ขอโทษคุณหรอกนะ เพราะความรักที่ให้คุณมันมีแค่...รักที่สุด สุดที่รัก” น้ำเสียงมั่นคงและทำให้ความอึดอัดของเธอถูกแทนที่ด้วยความอุ่นซ่านไปทั้งหัวใจ

Tags: ปรารถนาร้อนจอมวายร้าย, เมิร์ธ, อิมเมอร์ทัล, พิตต้า, มิสไซล์

ตอน: ตอนที่ 3 30%

หลังวางสายจากคู่หู สิริภัทราใช้เวลาในการอาบน้ำชำระร่างกายตัวเองอย่างเร็วที่สุดเท่าที่เคยทำมาเพียงเพราะอยากทำตามเล่ห์กลขั้นต่อไปเช่นหนังสือฮาวทูที่เคยอ่าน หัวใจเธอเต้นตึกตักราวกับสาวน้อยวัยแรกแย้มที่ริอ่านต่อสายถึงหนุ่มที่สนใจ แต่มันผิดแปลกไปบ้างตรงที่เธอกำลังกดเบอร์โทรศัพท์ของตัวเองและรอฟังเสียงเขาอย่างใจจดใจจ่อ
“ตกลงคืนนี้จะไม่ให้ผมนอนใช่ไหม พิตต้า”
น้ำเสียงห้าวที่ได้ยินทำให้สิริภัทราต้องรีบยกมือข้างหนึ่งขึ้นทาบหน้าอกตัวเอง ถ้าหากเขามีตาวิเศษคงได้เห็นว่าตอนนี้เธอทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ชุดทำงาน ยื่นโทรศัพท์ออกไปจนสุดแขนพลางย่ำสองเท้ากับพื้นไม่ต่างจากเด็กที่ได้ของขวัญถูกใจ
“เอ่อ... คุณรู้ได้ยังไงว่าเป็นฉันโทร. เข้ามา” ข่มความตื่นเต้นเอาไว้จนลึกแล้วถามออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบที่สุด
“ก็คุณทำมันตกไว้ในรถผมนี่ จะให้คิดว่าใครโทร. เข้ามาได้อีก” บอกและไม่คิดจะหรี่เสียงเพลงลงสักนิด เขาเอนตัวให้แผ่นหลังแกร่งสัมผัสกับความนุ่มของหัวเตียงซึ่งบุด้วยกำมะหยี่สีดำสนิท ดึงบุ๋มแล้วประดับด้วยกระดุมคริสตัล ขณะที่ฝ่ามือก็สัมผัสกับขนนุ่มของแมวป่าที่นอนพาดอยู่บนตัก
คำตอบของเขาทำให้เกิดความเงียบไปชั่วขณะเพราะสิริภัทราไม่รู้ว่าจะชวนเขาคุยต่อไปอย่างไร ทั้งเสียงเพลงที่เล็ดลอดเข้ามาก็ทำให้นึกหงุดหงิดใจขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ จนแล้วจนรอดอุปกรณ์สื่อสารก็คงจะเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้เกิดบทสนทนาต่อไป
“ค่ะ ฉันไม่รู้ว่ามันหล่นจากกระเป๋ากางเกงเมื่อไหร่ ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนคะ ถ้าจะกลับแล้วช่วยแวะ...”
“ม่าย... ถ้าอยากได้คืนก็มาเอาเองสิ” ยิ่งได้ยินน้ำเสียงหงุดหงิดใจของเธอเท่าไหร่ เขายิ่งอดขำไม่ได้ เธอพูดออกมาอย่างนั้นก็คงคิดว่าเขาจะอยู่ในผับหรือกำลังมีกิจกรรมสุดเหวี่ยงกับผู้หญิงสักคน หากไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องเล่นตัวทั้งที่เกิดความสนใจในตัวเขาถึงเพียงนี้ “แค่ได้ยินเสียงเพลงก็ทำให้คุณหงุดหงิดได้แล้วเหรอShawty เล่นตัวหนักขนาดนี้อีกนานนะกว่าจะได้เคลมผม”
หน็อย ไอ้คนโอหัง!
“ค่ะ ก็เพราะคุณมันปากดีแบบนี้ไงฉันเลยไม่อยากเคลมง่ายๆ ถ้าสงบกว่านี้สักหน่อยป่านนี้เราอาจจะไปนั่งฟังเพลงที่ไหนด้วยกันสักแห่งแล้ว” เพียงแค่เขาเริ่มยั่วโมโหเธอก็เป็นต้องหลงลืมความตั้งใจทุกครั้งสิน่า “เข้าเรื่องเลยแล้วกัน จะให้ฉันไปเอาโทรศัพท์คืนที่ไหนคะ”
“อา... ถ้ามาหาผมตอนนี้ คิดเอาไว้รึเปล่าว่าจะกลับไปนอนได้สักกี่ชั่วโมง”
คำถาม น้ำเสียงและจังหวะจะโคนในการพูดมันช่างยั่วยุอารมณ์โมโหของเธอเหลือเกิน “ฉันแค่ถามเอาไว้แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไปหาคุณตอนนี้ อีกอย่างถ้าคุณเริ่มเมาหรือกำลังอยู่ในอารมณ์คึกจัดจนตีความทุกอย่างเป็นเรื่องอย่างว่าเสียหมด ฉันจะวางสายเดี๋ยวนี้เลย”
“ฮ่า... ดุจริงพิตต้า” หัวเราะอย่างถูกใจ ความจริงแล้วอยากบอกเธอว่าเวลาอยู่บนเตียงก็ให้ดุเด็ดแบบนี้ก็แล้วกัน แต่ถ้าพูดออกไปตรงๆแบบนั้น เดี๋ยวเธอจะหาเรื่องตวาดเขาอีก “แล้วคุณคิดไปถึงไหนเนี่ย ผมก็แค่ถามว่าถ้ามาเอาโทรศัพท์ตอนนี้ต้องเดินทางกลับไปกลับมา จะได้พักผ่อนสักชั่วโมงกันเชียว นี่มันตีหนึ่งครึ่งแล้วนะคนสวย”
คนสวยอ้าปากค้างเพราะคำอธิบายของเขาเพิ่งทำให้รู้สึกตัวว่าเธอคิดมากไปเองหรืออย่างไร “ก็... ไม่รู้ล่ะ คุณชอบกวนโมโหฉันนี่นา พูดอะไรออกมาก็ตีความเป็นเรื่องอย่างว่าเสียหมด”
“ไม่ม้าง ผมรู้ว่าคุณคิด” เขาชะงักคำพูดไปชั่วอึดใจและต่อด้วยประโยคที่ทำให้เธอพูดไม่ออก “เสียงเพลงทำให้คุณคิดว่าผมอยู่ในสถานที่อโคจรสักแห่ง”
“หรือไม่จริง” สิริภัทราตอบกลับทันควันและเสียงหัวเราะนั่นยิ่งทำให้เธอหมั่นไส้
“ถ้าผมตอบว่าไม่แล้วจะทำให้คุณนอนหลับโดยไร้ซึ่งความหงุดหงิดใจ ผมก็จะตอบอย่างนั้น อันที่จริงแล้วผมเอนตัวอยู่บนเตียง มือกำลังลูบ เกา เคล้นคลึง”
“เมิร์ธ หยุดเดี๋ยวนี้” เธอเรียกชื่อเขาก่อนที่จะพูดจบประโยค ไม่อยากฟังเมื่อรู้ว่ากิริยาเหล่านั้นต้องเกิดขึ้นบนเรือนกายของผู้หญิงสักคน แต่เขาก็เรียกเธอกลับด้วยน้ำเสียงโทนเดียวกัน
“พิตต้า หยุดแล้วฟังผมให้จบ ที่นอนพาดอยู่บนหน้าตักผมไม่ใช่อย่างที่คุณคิดไปเองแต่มันคือมิสไซล์” เมิร์ธเฉลยและยิ้มพรายเมื่อปลายสายเงียบกริบ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเธอกำลังยิ้มอย่างพึงใจ
เปล่าเลยเพราะเธอไม่ได้ยิ้มสักนิด แต่สิริภัทราอยากจะเอาหัวตัวเองโขกผนังแรงๆ ไม่รู้ว่าเผลอตัวแสดงความหงุดหงิดใจไปให้เขาหัวเราะเยาะกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
“ค่ะ เอ่อ... อันที่จริงแล้วคุณไม่ต้องบอกเรื่องพวกนี้กับฉันหรอกนะคะ ฉันแค่จะโทร. มาถามว่าจะให้ไปรับโทรศัพท์คืนที่ไหนเท่านั้น” บอกแล้วก็ต้องส่ายหน้าให้กับตัวเอง เธอพลาดท่าเสียทีให้กับเขาอย่างราบคาบ
“ถ้าคุณยืนยันว่าจะไม่มาเอาคืนที่ห้องของผมก็นัดที่ที่คุณสะดวกมาก็แล้วกัน อีกอย่างผมคิดว่าคุณน่าจะเข้านอนพร้อมความหงุดหงิดใจถ้าไม่ได้รู้ว่ามันคือมิสไซล์” บอกพลางก้มลงมองแมวป่าที่บิดตัวอย่างเกียจคร้านก่อนจะลุกขึ้นกระโดดลงจากเตียงไปหาที่นอนใหม่ เพราะเสียงเพลงที่เขาเปิดกระหึ่มอยู่นี้รบกวนการพักผ่อนของมันอย่างหนัก
“ฉันพอจะเข้าใจได้นะคะเมิร์ธ คุณอาจจะได้เจอแต่ผู้หญิงที่สามารถอ่านใจได้ง่ายดาย พอใจแล้วก็ไปจบลงที่เตียง แต่อยากจะบอกคุณว่ามันใช้ไม่ได้กับผู้หญิงทุกคน” สิริภัทราบอกด้วยน้ำเสียงจริงจังระคนอ่อนใจ
จริงอยู่ว่าเธอเองก็เกิดความสนใจในตัวเขาไม่น้อย หรือหากพูดให้ถูกก็คือสนใจมากจนกระทั่งทำเรื่องบ้าๆที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต แต่ท่าทีที่เขารุกหนักมันทำให้เธอหวาดกลัวว่ามันจะเป็นเพียงวัน ไนท์ สแตนด์ เมื่อจบเกมต่างคนก็ต่างไป
“บางทีผมอาจจะต้องเป็นฝ่ายขอโทษที่ทำให้คุณคิดอย่างนั้น แต่เชื่อเถอะว่าไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณรู้สึกแย่นะ” น้ำเสียงจริงจังของเธอทำให้เขาอยากรักษามิตรภาพที่เกิดขึ้นในสถานการณ์อันคับขัน แม้ไม่รู้ว่ามันจะพัฒนาไปได้ไกลสักแค่ไหน แต่ที่รู้ตอนนี้คือเขาเกิดความพึงใจในตัวเธออย่างมาก
“ค่ะ การสื่อสารระหว่างเราคงจะมีอะไรสักอย่างที่ผิดพลาดไป” สิริภัทรายิ้มอ่อนเมื่อได้รับคำขอโทษทื่อๆแต่สัมผัสได้ว่ามาจากใจของเขาล้วนๆ
“แต่ผมก็ยังยืนยันความตั้งใจเดิม เพราะคิดว่าจับความหงุดหงิดใจในน้ำเสียงของคุณได้แต่ผมอาจจะใช้คำพูดกับคุณแข็งทื่อไปหน่อย”
คนฟังได้แต่พยักหน้ารับและคิดต่อในใจว่า ไม่หน่อยหรอกแต่มันแข็งทื่อมากจนเธอทั้งอายทั้งโมโหเชียวล่ะ
เมื่อเธอรับฟังอย่างเงียบๆมันก็เป็นสัญญาณอันดีให้เขาได้อธิบายต่อ “หรืออีกอย่างผมก็อาจจะไม่เข้าใจว่าทำไมคุณถึงปฏิเสธ ทั้งที่รู้ว่าเราคิดไม่ต่างกัน”
“อ๋อ... มันต่างกันตรงที่คุณคิดว่ามันจบลงบนเตียง แต่สำหรับฉันไม่นะคะ” สิริภัทราเริ่มแลกเปลี่ยนในความคิดของตน
“ก็อาจจะจริงเพราะเรายังไม่เริ่มต้น แต่เชื่อเถอะว่าระหว่างเรามันต้องไปถึงจุดนั้น”
สิริภัทราส่ายหน้าเพราะรู้ว่าถึงจะต่อล้อต่อเถียงกับผู้ชายคนนี้ยันสว่างก็ยังหาบทสรุปไม่ได้ และเธอก็เหนื่อยเกินกว่าที่จะทำเช่นนั้นอีกทั้งพรุ่งนี้ยังต้องขุดตัวออกจากเตียงเพื่อเริ่มเช้าวันใหม่ของการทำงาน
“แล้วแต่คุณจะคิดก็แล้วกัน วันนี้ฉันเหนื่อยมากและไม่อยากรบกวนเวลาพักผ่อนของคุณด้วย ตกลงว่าพรุ่งนี้เช้าฉันไปรับโทรศัพท์คืนได้ใช่ไหม” ถามและจ้องมองหน้าจอแล็ปท้อปซึ่งเปิดแอพพลิเคชั่นหนึ่งเอาไว้ จู่ๆตัวเลขแสดงการส่งคำร้องเพิ่มเป็นเพื่อนก็เพิ่มขึ้น
“ม่าย... ผมไม่เคยตื่นขึ้นมาทันมื้อเที่ยงเลยสักวัน เป็นไปไม่ได้ที่จะให้คุณมาหาในตอนเช้า” คนที่ทำงานในช่วงกลางคืนไปจนถึงสว่างบอกในขณะที่ก้มลงมองหน้าจอโทรศัพท์ของตน เป็นครั้งแรกที่เขารอคอยการตอบรับเป็นเพื่อนจากใครสักคนด้วยใจจดจ่อเช่นนี้
POM คือชื่อที่เธอเห็นว่าเพิ่งส่งคำร้องขอเป็นเพื่อนเข้ามาและต้องยิ้มโดยไม่รู้ตัวเมื่อเห็นรูปโปรไฟล์เป็นแมวป่าที่เคยช่วยชีวิตตนไว้เมื่อสามเดือนที่แล้ว มิสไซล์
“ถ้างั้นก็คงต้องแล้วแต่คุณ จะให้ไปเอาที่ไหน เมื่อไหร่นัดมาเลยนะคะแต่ขอเร็วหน่อยเพราะฉันต้องใช้งาน” ตอบและยังไม่ยอมรับเขาเป็นเพื่อน
“ถ้ารีบก็มาหาผมตอนนี้สิ”
“เมิร์ธ อย่าเริ่ม!”
“จ้ะ แต่ตกลงคุณจะเล่นตัวไปถึงไหน” ถามขึ้นในที่สุด หากคนที่คิดว่าตัวเองกำลังได้เปรียบเพราะได้รู้ว่าเขากำลังรอคอยบางอย่างจากเธอกลับต้องคิดเสียใหม่เมื่อได้ยินคำพูดเชิงขู่ “อย่าลืมนะว่าผมใช้โทรศัพท์คุณอยู่ หลังจากวางสายมันจะปลดล็อกแล้วจากนั้นมันก็คือโทรศัพท์ของผม”
แน่ล่ะว่าคงไม่มีใครจะทำการล็อกเอ้าท์จากระบบแอพพลิเคชั่นต่างๆในมือถือ มันง่าย สะดวกรวดเร็วในการใช้งานแต่มันคือข้อเสียมหาศาลที่เกิดขึ้น เธอกลับไม่ได้นึกถึงมันเลยตอนที่ตั้งใจหย่อนมันลงบนเบาะในรถของเขา
สิ้นคำเตือนแกมขู่บังคับเขาก็ยิ้มพรายเมื่อได้รับการแจ้งเตือนคำตอบรับเป็นเพื่อนจากเธอพร้อมๆกับเสียงหวานที่ดังมาตามสายอีกครั้ง
“พอใจรึยังคะ” ถามทั้งอดประชดไม่ได้เมื่อภาพแรกในหน้าไทม์ไลน์ของเขาเมื่อสิบนาทีที่แล้วนั้นมันคือภาพของมิสไซล์ที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ตรงหน้าตัก แต่องศาที่เจ้าตัวถ่ายภาพนั้นต้นขาแกร่งทั้งสองข้างมันแย่งซีนไปจากแมวป่า แถมข้อความกว่าครึ่งร้อยก็เป็นผู้หญิงที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างโจ่งครึ่ม!
‘อยากซุกหัวกับตรงนั้นแทนแมวป่าตัวนี้จังค่ะ’
‘ผิดทิศทางไปหน่อยนะคะ น่าจะยื่นแขนออกมาไกลอีกสักหน่อยแล้วใช้กล้องหน้าแทน’
สิริภัทราใบหน้าร้อนผ่าวเมื่อคิดตามคอมเม้นต์ล่าสุด ถ้าทำอย่างนั้นเขาก็คงเป็นพวกไอ้ชอบโชว์เพราะดูจากสภาพแล้วคงจะไม่มีเสื้อผ้าติดตัวสักชิ้น ทว่ารอยสักบางอย่างซึ่งเธอมองไม่ชัดเจนนักบนต้นขาข้างขวากลับดึงดูดความสนใจเสียมากกว่า
“ที่เงียบนี่เพราะกำลังสำรวจรสนิยมของเพื่อนใหม่ใช่ไหม” เมิร์ธถามอย่างรู้ทัน เพราะเขาเองกำลังทำอย่างนั้นเหมือนกันแต่ออกจะผิดหวังอยู่มากเมื่อเธอเป็นพวกโลว์โปรไฟล์ เดือนหนึ่งจะโพสต์สักสองสามครั้งได้ล่ะมั้ง
“ค่ะ ดูเหมือนว่าเพื่อนคนนี้จะเป็นพวกชอบโชว์เสียด้วย” ตอบแล้วต้องทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเมื่อมีสาวๆเข้ามาแสดงข้อความจนเธออ่านแทบไม่ทัน “ถ้าสูงกว่านี้อีกสักนิดหรือไม่มีมิสไซล์นอนอยู่ล่ะก็ ฉันบล็อกคุณแน่”
“ที่โกรธเนี่ยเพราะเห็นว่ามีแต่ผู้หญิงเข้ามาคุยด้วยใช่ไหม คุณลองทำอย่างพวกเธอมั่งสิ เผื่อจะไม่ต้องหึงมากแบบนี้” หลายต่อหลายครั้งที่คิดว่าบทสนทนาระหว่างกันคงสิ้นสุดลงแต่กลับเป็นเขาเองที่ชวนเธอคุยได้เรื่อยๆ
สิริภัทราหัวเราะพรืดออกมาเมื่อได้ยินคนหลงตัวเองพูดจาได้อย่างหน้าไม่อาย “เหลือเชื่อเลยเมิร์ธ ตอนนี้ฉันจะไม่เถียงหรอกนะว่าเราต่างก็สนใจกันมากแค่ไหน ไม่อยากรู้ด้วยว่าเลเวลความสนใจของใครจะอยู่สูงกว่า แต่... คุณเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า การหึงมันจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคนคู่หนึ่งมีความรักต่อกัน”
“ผู้หญิงถนัดทำให้เรื่องทุกอย่างดูซับซ้อน แบ่งแยกทุกสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวหลายลำดับขั้นแล้วสุดท้ายก็กำหนดจิตใจตัวเองให้เป็นไปตามแบบแผนที่วางไว้ไม่ได้ แต่ผมไม่ใช่เพราะมีแค่สนใจกับโคตรจืดชืด อยากคุยด้วยกับโคตรรำคาญ ชอบกับโคตรเบื่อ ใช่กับไม่ใช่เท่านั้นแหละ”
สิริภัทราไม่รู้ว่าจะส่ายหน้าให้กับตัวเองหรือคำพูดดิบๆของเขาดี มันเถรตรง เข้าใจง่ายและถ้าให้เขาแปลความคำพูดของเธอก็คงไม่พ้นต้องบอกว่า โคตรเห็นภาพ!
จอมวายร้ายที่สาวๆเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นพรวนทุกครั้งที่เขาโพสต์อะไรสักอย่างชันตัวลุกขึ้นจากเตียงกว้าง เดินไปทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ทำงาน ความจริงแล้วมันเลยเวลาทำงานของเขาไปมากโขแต่การได้พูดคุยหรืออาจจะเรียกว่าต่อล้อต่อเถียงกับเธอ ทำให้เขานึกสนุกจนไม่รู้ตัวว่านี่มันไม่ต่างจากการวิ่งไล่ผู้หญิงคนหนึ่ง
“ถ้าเหตุข้อแรกคือคุณหงุดหงิดใจ อารมณ์เสียทุกครั้งที่เห็นผู้หญิงคนอื่นมาข้องแวะกับผม แล้วเหตุข้อที่สองคือคุณหึง อารมณ์เสียทุกครั้งที่เห็นผู้หญิงคนอื่นมาข้องแวะกับแฟนของคุณ ผลที่ได้คือความหงุดหงิดใจก็เป็นความหึงหวง ไม่เกิดทฤษฎีใหม่และสมเหตุสมผลในการคิด”
แหม... น่าทึ่งว่าผู้ชายที่อยู่ตรงกลางระหว่างความเป็นฮิปสเตอร์กับแบดบอย คำพูดดิบๆบ่งบอกว่าความคิดของเขาไม่ได้จัดเรียงอย่างซับซ้อน กลับให้เหตุผลการคิดในเชิงนิรนัยจนเธอเถียงไม่ออก
“เห็นได้ชัดว่าเวลาไม่ใช่ตัวแปรของความรู้สึก แต่สถานภาพต่างหากที่เวลาจะเข้าไปกำหนดว่ามันจะมากขึ้นหรือน้อยลง เช่นว่า ผู้ชายที่คุณสนใจจะเปลี่ยนสถานภาพมาเป็นคนรู้ใจหรือคนเคยรู้จัก” เชื่อแน่ว่าเธอต้องรู้สึกผ่อนคลายและวางใจที่จะพูดคุยกับเขามากกว่าเดิม
สิริภัทราหัวเราะเพราะถูกเขาต้อนเข้ามุมจนเหลือเพียงทางเลือกเดียว หากเธอไม่รู้หรอกว่าเสียงใสกังวานที่ดังอยู่ปลายสายนั้นทำให้จอมวายร้ายต้องยิ้มออกมาไม่ต่างจากครั้งแรกที่จีบสาวติด “คุณทำให้ฉันแปลกใจนะคะเมิร์ธ นาทีที่แล้วฉันคิดว่าคุณเป็นแบบนี้แต่นาทีต่อมาคำพูดของคุณ ทำให้ฉันรู้ว่าตัวเองคิดผิด”
“เพิ่งรู้ว่าผู้หญิงที่คิดทุกอย่างซับซ้อนอย่างคุณเชื่อว่าผู้ชายคนหนึ่งเป็นแบบไหนเพียงเพราะคำพูดของเขา แต่ผมจะไม่บอกคุณหรอกนะ เก่งจริงก็หาคำตอบเอาเองสิ” หว่านล้อมจบก็ต้องส่ายหน้าให้ตัวเองพลางคิดในใจว่า ป๋าอ่อยเต็มที่แล้วนะ ให้โอกาสอีกครั้งไม่งั้นป๋าจะเมิน
แม้ตั้งใจว่าจะวางสายหลายต่อหลายครั้งแต่ทั้งคู่กลับไม่ได้ทำเช่นนั้น เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เมิร์ธยอมทิ้งเวลางานเพื่อคุยกับผู้หญิงที่ลงทุนอ่อยสารพัดวิธี เขาล้มตัวลงบนเตียงกว้างแล้วนอนคุยเรื่องสัพเพเหระกับเธออยู่หลายชั่วโมง มันช่างไร้สาระแต่โคตรเพลินจนลืมเวลา
สิริภัทราไม่เคยใช้เวลาพูดคุยเรื่องไม่เป็นเรื่องกับใครนานเช่นนี้ แม้ว่าจะเลื่อนลงไปเห็นภาพที่มิสไซล์กำลังคาบโทรศัพท์ของเธอเอาไว้และเจ้าของมันก็ทำให้เธออับอายด้วยคำบรรยายภาพที่ว่า
‘อยากให้ทิ้งตัวไว้มากกว่าโทรศัพท์ ระวังไว้ให้ดี พิตต้า’
สายตามุ่งมั่นและการย่างก้าวของแมวป่าทำให้เธอไพล่คิดถึงเจ้าของมันได้เป็นอย่างดี ไม่อยากคิดหรือเอ่ยถามเขาให้ต้องอายไปมากกว่าเดิม เขาจะล่วงรู้ว่าเธอตั้งใจทำมันตกเอาไว้หรือคิดว่าเป็นอุบัติเหตุก็ไม่ใส่ใจแล้ว เพราะตอนนี้ทุกอย่างบรรลุผล เมื่อเขาเป็นคนนัดส่งโทรศัพท์คืนที่ร้านอาหารบรรยากาศแสนโรแมนติกแห่งหนึ่ง มันเป็นไปตามสเต็ปในหนังสือฮาวทูที่เขียนเอาไว้แม้ว่าตั้งแต่เริ่มบทสนทนากับเขาจะไม่ได้ใช้เล่ห์กลใดๆที่หนังสือฮาวทูแนะนำเลย
เวลาที่ล่วงเลยมาหลายชั่วโมงและน้ำเสียงเจือความง่วงงุน ถามคำตอบคำ และใช้เวลานานกว่าจะตอบโต้กลับมาก็ทำให้เมิร์ธต้องเหลือบสายตามองนาฬิกาและรู้ว่าอีกสองชั่วโมงข้างหน้านี้เธอต้องไปทำงาน จึงจำต้องเอ่ยคำลาเพราะเห็นใจคนที่กล่าวคำลาไปก่อนหน้านี้หลายต่อหลายครั้ง
“แต่งตัวสวยๆนะshawty รู้ใช่ไหมว่ามันคือเดตแรกของเรา”
คนไม่เคยอดหลับอดนอนพยักหน้ารับรู้และหลับไปด้วยรอยยิ้ม เธอไม่ได้กดวางสายด้วยซ้ำและทำให้เมิร์ธต้องเป็นฝ่ายตัดสายไปเสียเอง เป็นอีกวันที่เขาหย่อนวินัยกับการทำงานของตัวเอง ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะเผลอหลับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ปฏิญาณตัวว่าจะไม่ใช้เงินของแม่สักเซ็นต์เดียวและมันก็เป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจอันรุ่งเรืองของเขา
แม้ว่าผู้เป็นแม่ไม่เคยล่วงรู้ว่าเขากำลังทำอาชีพอะไรเพื่อหาเลี้ยงตัวเอง และแสดงท่าทีออกมาอย่างชัดเจนว่าต้องการให้เขาเข้าไปสานต่อธุรกิจของครอบครัวแต่ทุกครั้งที่ยื่นมือเข้าไปช่วย เขามักจะถูกท่านหักหน้า มองด้วยสายตาตำหนิ ซึ่งเป็นกิริยาเดียวกันกับที่ใช้มองตอนที่จับเขายัดเข้าไปกินนอนในโรงเรียนประจำซึ่งเขาเรียกแบบเหมารวมว่า ‘โรงเรียนดัดสันดาน’ ตั้งแต่อยู่เกรดห้า!



ศิริพารา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 ก.พ. 2559, 12:06:27 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 ก.พ. 2559, 12:06:27 น.

จำนวนการเข้าชม : 951





<< ตอนที่ 2 100%   
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account