: + : + : + : + : ผู้ช่วยกามเทพ : + : + : + : + :
นี่มันไม่ใช่แค่พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก หรือราหูอมธรรมดาละ
อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ทายาทคนเล็กบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังอันดับหนึ่ง และเจ้าของบริษัทจับคู่ยอดฮิตแห่งยุค อยากรู้นักว่าเธอเคยไปบนบานศาลกล่าวที่ไหนแล้วลืมแก้บนหรือเปล่า ทำไมเรื่องวุ่นๆถึงประดังเข้ามาในชีวิตแบบนี้ก็ไม่รู้
เพราะถูกแม่จับคลุมถุงชนกับคนแปลกหน้า ลูกสาวคนเล็กที่ถูกเลี้ยงอย่างเอาแต่ใจมาตลอดจึงประกาศกร้าวขอแต่งงานกับเพื่อนสนิทเพื่อขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน แต่โชคร้ายที่แม่เล่นใหญ่ชนิดรัชดาลัยเธียเตอร์ชิดซ้าย เมื่อบังคับกันดีๆไม่ได้ ท่านจึงตัดความช่วยเหลือทางการเงินจนเหี้ยน ทำให้เธอยิ่งต้องเอาชนะคำสั่งของแม่ให้ได้
สาวัช ปรเมศวร์ เกิดมาในฐานะลูกเมียน้อย เขาจึงทำตัวให้เลือนรางที่สุด เมื่อบ้านที่พรั่งพร้อมด้วยเงินทอง ชื่อเสียงและอำนาจ แต่กลับไม่เคยมีความรักให้เขาสักนิด สาวัชจึงชดเชยให้ตัวเองด้วยการปฏิเสธทุกคำร้องขอจากคนภายนอก ใครๆก็ว่าเขาเย็นชา ไร้น้ำใจ ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ แต่สาวัชก็ไม่เคยแคร์
ครั้นหนทางแห่งผลประโยชน์ชักนำ อิงอรุณจำต้องเข้าขอความช่วยเหลือจากสาวัช เมื่อคนหนึ่งเติบโตด้วยความรักพร้อมพรั่งรอบกายจนกลายเป็นคนแสนเอาแต่ใจ ต้องมาเจอกับคนที่ชีวิตแล้งไร้ความรักแถมยังไม่เคยตามใจใคร ย่อมต้องมีสักคนเป็นฝ่ายถอย!
เมื่อคนสุดขั้วสองคนต้องมาเจอกันในภารกิจเอาตัวรอดของอิงอรุณ ความวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น แต่คนที่ใจอ่อนก่อน บอกรักก่อน อาจไม่ใช่คนแพ้เสมอไปก็ได้!
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
หายไปสองปี หวังว่าเพื่อนๆคงยังไม่ลืมสิริณกันนะค้า
ผู้ช่วยกามเทพ เป็นตอนต่อของ สนิมดอกรักค่ะ
อ่านแยกกันได้ ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าอ่านสนิมดอกรักก่อนจะยิ่งได้อรรถรสสุดฤทธิ์ (ขายของค่ะ 555)
เช่นเคยนะคะ สิริณยินดีและน้อมรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ
จะติก็ได้ ชมก็ยิ่งดี อ่านแล้วจัดเต็มกันได้เลย
มิต้องกลัวคนเขียนนอยด์ค่ะ
ฝากเนื้อฝากตัว ฝากผลงานไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าเพจนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต
หากฝ่าฝืน สิริณ(แม่มณี) จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยไม่มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น
ผู้ใดชี้เบาะแสการคัดลอก สิริณ(แม่มณี) มีรางวัลนำจับให้ด้วยนะคะ ^^
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
ชวนเพื่อนๆนักอ่านไปกดไล้ค์แฟนเพจของสิริณกันด้วย
www.facebook.com/SirinFC
ตรงนั้นจะมีกิจกรรมร่วมสนุก แจกของที่ระลึกกันเป็นระยะ
(แน่นอนว่าของที่สิริณมีมากที่สุดคือ 'หนังสือ' :D )
ไปกดไล้ค์กันเยอะๆนะคะ
อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ทายาทคนเล็กบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังอันดับหนึ่ง และเจ้าของบริษัทจับคู่ยอดฮิตแห่งยุค อยากรู้นักว่าเธอเคยไปบนบานศาลกล่าวที่ไหนแล้วลืมแก้บนหรือเปล่า ทำไมเรื่องวุ่นๆถึงประดังเข้ามาในชีวิตแบบนี้ก็ไม่รู้
เพราะถูกแม่จับคลุมถุงชนกับคนแปลกหน้า ลูกสาวคนเล็กที่ถูกเลี้ยงอย่างเอาแต่ใจมาตลอดจึงประกาศกร้าวขอแต่งงานกับเพื่อนสนิทเพื่อขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน แต่โชคร้ายที่แม่เล่นใหญ่ชนิดรัชดาลัยเธียเตอร์ชิดซ้าย เมื่อบังคับกันดีๆไม่ได้ ท่านจึงตัดความช่วยเหลือทางการเงินจนเหี้ยน ทำให้เธอยิ่งต้องเอาชนะคำสั่งของแม่ให้ได้
สาวัช ปรเมศวร์ เกิดมาในฐานะลูกเมียน้อย เขาจึงทำตัวให้เลือนรางที่สุด เมื่อบ้านที่พรั่งพร้อมด้วยเงินทอง ชื่อเสียงและอำนาจ แต่กลับไม่เคยมีความรักให้เขาสักนิด สาวัชจึงชดเชยให้ตัวเองด้วยการปฏิเสธทุกคำร้องขอจากคนภายนอก ใครๆก็ว่าเขาเย็นชา ไร้น้ำใจ ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ แต่สาวัชก็ไม่เคยแคร์
ครั้นหนทางแห่งผลประโยชน์ชักนำ อิงอรุณจำต้องเข้าขอความช่วยเหลือจากสาวัช เมื่อคนหนึ่งเติบโตด้วยความรักพร้อมพรั่งรอบกายจนกลายเป็นคนแสนเอาแต่ใจ ต้องมาเจอกับคนที่ชีวิตแล้งไร้ความรักแถมยังไม่เคยตามใจใคร ย่อมต้องมีสักคนเป็นฝ่ายถอย!
เมื่อคนสุดขั้วสองคนต้องมาเจอกันในภารกิจเอาตัวรอดของอิงอรุณ ความวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น แต่คนที่ใจอ่อนก่อน บอกรักก่อน อาจไม่ใช่คนแพ้เสมอไปก็ได้!
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
หายไปสองปี หวังว่าเพื่อนๆคงยังไม่ลืมสิริณกันนะค้า
ผู้ช่วยกามเทพ เป็นตอนต่อของ สนิมดอกรักค่ะ
อ่านแยกกันได้ ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าอ่านสนิมดอกรักก่อนจะยิ่งได้อรรถรสสุดฤทธิ์ (ขายของค่ะ 555)
เช่นเคยนะคะ สิริณยินดีและน้อมรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ
จะติก็ได้ ชมก็ยิ่งดี อ่านแล้วจัดเต็มกันได้เลย
มิต้องกลัวคนเขียนนอยด์ค่ะ
ฝากเนื้อฝากตัว ฝากผลงานไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าเพจนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต
หากฝ่าฝืน สิริณ(แม่มณี) จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยไม่มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น
ผู้ใดชี้เบาะแสการคัดลอก สิริณ(แม่มณี) มีรางวัลนำจับให้ด้วยนะคะ ^^
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
ชวนเพื่อนๆนักอ่านไปกดไล้ค์แฟนเพจของสิริณกันด้วย
www.facebook.com/SirinFC
ตรงนั้นจะมีกิจกรรมร่วมสนุก แจกของที่ระลึกกันเป็นระยะ
(แน่นอนว่าของที่สิริณมีมากที่สุดคือ 'หนังสือ' :D )
ไปกดไล้ค์กันเยอะๆนะคะ
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: ตอนที่ 12 (50%)
อิงอรุณคอยจนพันเทพกินยาและหลับไปอีกครั้ง แล้วจึงลงมาสมทบกับมารดาเพื่อเตรียมกลับบ้าน ระหว่างคอยคนขับรถวนมารับยังหน้าโรงพยาบาล หญิงสาวก็ตัดสินใจ...
“อิงอยากรีบแต่งงานให้เร็วที่สุด แล้วย้ายไปอยู่ต่างประเทศค่ะแม่” แน่ละว่านั่นไม่ใช่คำขอ แต่เป็นเหมือนการบอกกล่าวมากกว่า
เปรมิกาตวัดค้อน น้ำเสียงไม่พอใจ “แม่ไม่ยอม ทำไมต้องไปเมืองนอก นี่เกี่ยวกับเรื่องที่เราคุยกันค้างไว้เมื่อตอนเย็นใช่ไหม”
อิงอรุณกลอกตา กำลังเรียบเรียงสิ่งที่จะอธิบายอยู่ในใจ ทว่ามารดาคงเข้าใจว่าเธอยอมรับด้วยการนิ่งเงียบ ท่านจึงเอ่ยต่อเสียเอง...
“น้องอิง พ่อกับแม่ไม่ได้งกสมบัตินะ เงินทองข้าวของแค่ที่เขาให้จัดการ มันไม่ได้มากมายเลยสำหรับบ้านเรา แต่พ่อกับแม่ไม่อยากให้น้องอิงเป็นเครื่องมือของคนบ้าอำนาจไม่รู้จักพอ วันนี้เขาเป็นแค่นายพลระดับผู้บังคับบัญชา เขายังใช้อำนาจในทางที่ผิด ถ้าวันหน้าเขาเป็นใหญ่เป็นโตกว่าที่เป็นอยู่ ด้วยอำนาจที่มีเงินหนุนหลัง แม่ไม่อยากนึกภาพเลย บ้านเมืองคงถึงคราวกลียุคกันก็เพราะพวกเรานี่ละ บอกตามตรงแม่ไม่อยากดองกับคนแบบนั้น แค่คิดก็สะอิดสะเอียนแล้ว”
อิงอรุณดึงมือมารดามากุมแล้วบีบเบาๆ “อิงเข้าใจพ่อกับแม่นะคะ แต่อิงอยากให้พ่อกับแม่เห็นใจเทพด้วย พ่อเขาหวังกับการแต่งงานนี้ไว้มาก เขาคงไม่ยอมปล่อยมือง่ายๆเพียงแค่ให้อิงบอกเลิกกับเทพแน่นอน”
“ห่วงเทพ แล้วไม่ห่วงพ่อแม่เหรอ” เปรมิกากระฟัดกระเฟียด สะบัดมือเธออย่างกระแทกกระทั้น เห็นได้ชัดว่าน้อยใจมากกว่าอย่างอื่น
ที่หญิงสาวตัดสินใจเช่นนั้น เพราะรู้ดีว่าคนระดับสุพจน์และคุณหญิงเปรมิกา เทียมสุบรรณ ย่อมต้องมีอำนาจทั้งในวงการสีเขียวสีกากี รวมถึงแวดวงการเมืองหนุนหลัง ที่พ่อเจ็บวันนี้ ก็คงเพราะโกรธจัด แต่อิงอรุณเชื่อว่าพ่อต้องปลอดภัย และจากนี้ท่านคงคุมอารมณ์ตัวเองให้ตอบโต้กับอีกฝ่ายได้อย่างทัดเทียมกันแน่นอน ให้ยังไงสิงห์ก็ต้องเป็นเจ้าป่าวันยังค่ำ!
แต่พันเทพละ รู้กันอยู่ว่าพลเอกศักดิ์สิทธิ์วาดหวังถึงการแต่งงานของเธอกับบุตรชายไว้ว่าจะเป็นกุญแจไขเข้าสู่ขุมสมบัติของบ้านเทียมสุบรรณ หากเธอตัดขาดกับพันเทพ ท่านนายพลต้องเอาความผิดหวังไปลงที่ลูกแน่นอน ถ้าเธอปล่อยมือชายหนุ่มอีกคน ก็เท่ากับเธอผลักให้เพื่อนไปยืนอยู่ตรงปากเหวด้วยมือตัวเอง เธอทำเช่นนั้นไม่ลงจริงๆ!
หญิงสาวรีบคว้ามือมารดาไว้อีกครั้ง เมื่อเห็นท่านตั้งท่าอาละวาด “ที่เทพเป็นอย่างนั้น พ่อเขาเป็นคนทำค่ะแม่”
เปรมิกาอ้าปากค้าง ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ ครู่ใหญ่กว่าจะตะกุกตะกักเปรยประโยคถัดมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “พ่อเขาตีลูกตัวเองขนาดนั้นเลยเหรอ”
“อิงโทร.ไปคาดคั้นคนใช้บ้านเทพมา เขาเล่าว่าเทพเข้าไปคุยอะไรกับท่านนายพลที่ห้องทำงานก็ไม่รู้ พักใหญ่ก็ได้ยินเสียงโครมคราม แล้วพอ ทส. เข้าไปในห้องไม่นาน ก็ได้ยินเสียงปืน”
คนอายุมากกว่ายกมือทาบอก ซวนเซจนอิงอรุณต้องรีบผวาเข้าไปประคองให้มารดานั่งยังเก้าอี้ใกล้ๆ
“ลูกชายเขาทั้งคนนะน้องอิง” เปรมิกาเปรยเสียงรวยรินละม้ายใกล้เป็นลมเต็มที
“อิงก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ คนใช้บอกว่าเทพออกจากห้องในสภาพดูไม่ได้ เลือดไหลเป็นทางเต็มหน้าเต็มตัว แต่เขาก็ยังฝืนขับรถ”
“เวรกรรม หมาแมวมันยังรักลูกตัวเอง นี่เขาเป็นคนแท้ๆ ทำทารุณอย่างนั้นกับลูกในไส้ลงคอได้ยังไงกัน”
“พอฟื้น เทพก็ขอเลิกกับอิง แม่คะ ถ้าอิงเลิกกับเทพจริง พ่อเขาคงยิ่งโกรธกว่านี้ และคราวนี้อาจไม่ใช่แค่ปืนลั่นใส่เพดานก็ได้นะคะ”
เปรมิกาชะงัก กลอกตาอย่างครุ่นคิด สุดท้ายจึงยิ้มหยัน หัวเราะในคอเสียงต่ำ ก่อนเอ่ยช้าๆราวกับใคร่ครวญไปด้วย “นายพลศักดิ์สิทธิ์เป็นคนฉลาดจริงๆ”
“อะไรนะคะแม่” อิงอรุณตามไม่ทันว่ามารดากำลังพูดเรื่องใดอยู่
“เขารู้จักลูกชายตัวเองดีเชียวละ แล้วเขาก็คาดเดาลูกสาวของแม่ไม่ผิดเลยด้วย” เปรมิกาสบตาลูกสาวนิ่งๆ “ที่อิงยืนกรานว่ายังไงก็จะไม่เลิกกับพันเทพ เพราะกลัวเทพถูกพ่อฆ่าตายคามือใช่ไหม ไม่คิดเหรอว่านั่นแหละคือสิ่งที่นายพลศักดิ์สิทธิ์ต้องการที่สุด และน้องอิงก็ทำให้เขาได้สมใจจริงๆ แม่พูดผิดไหมล่ะ”
อิงอรุณเริ่มคล้อยตาม...ทีละนิด เอ่ยกระท่อนกระแท่นไม่แน่ใจนัก “แม่คิดว่า...เขาไม่ได้คิดจะฆ่าลูกตัวเอง แต่แค่ขู่ไม่ให้อิงเลิกกับเทพแค่นั้นเองเหรอคะ”
“แม่เชื่อว่าพันเทพยังมีประโยชน์กับท่านนายพลอีกเยอะ เขาไม่ฆ่าลูกชายตัวเองด้วยเหตุผลตื้นๆแค่นั้นหรอก นี่มันไม่ใช่ยุคมืดที่คนมีอำนาจคิดจะปิดปากใครตามใจชอบก็ได้หรอกนะ ต่อให้น้องอิงกับเทพเลิกกันจริง เขาก็คงจับผู้หญิงคนใหม่สักคนมาแต่งงานกับลูกชายจนได้ และแน่นอนว่าผู้หญิงคนนั้นจะต้องให้ผลประโยชน์ในสิ่งที่ท่านนายพลต้องการเท่านั้น”
จู่ๆอิงอรุณก็นึกถึงพิมพ์สนิท นี่สินะ เหตุผลที่พันเทพเลือกเธอ ทั้งที่ผู้หญิงคนนั้นรักเขามากกว่าที่เธอรักแน่นอน เพราะพิมพ์สนิทเป็นเพียงลูกสาวข้าราชการระดับกลางในต่างจังหวัดซึ่งสอบชิงทุนไปเรียนต่อที่สหรัฐได้ ขณะที่เธอคืออิงอรุณ เทียมสุบรรณ ทายาทคนเล็กของอาณาจักรเครื่องดื่มชูกำลังอันดับหนึ่งของประเทศ ทั้งยังพ่วงตำแหน่งหลานสาวคนโปรดของผู้บัญชาการทหารบกอีกด้วย!
“แม่แน่ใจเหรอคะ ถ้าเราคาดผิด คนที่จะตกอยู่ในอันตรายก็คือเทพนะคะ”
“ยังไงพันเทพก็ปลอดภัย แต่คนที่กำลังไต่อยู่บนเชือกที่ริมผาน่ะ คือพวกเราเทียมสุบรรณต่างหาก ถ้าถามแม่นะ แม่ไม่อยากให้น้องอิงสุงสิงกับคนบ้านนั้น แม่ไม่เถียงว่าเทพเป็นคนดี และแม่ก็รักเขาเหมือนลูกชายคนนึงด้วย แต่แม่ไม่อยากเอาชีวิตลูกสาวของแม่ไปเสี่ยงกับคนบ้าเลือดพรรค์นั้น มันได้ไม่คุ้มเสียหรอก กับลูกชายตัวเองเขายังลงไม้ลงมือลงคอ แล้วน้องอิงละ ถ้าแต่งเข้าไปเป็นสะใภ้ เขาอาจทำรุนแรงกับหนูมากกว่านั้นก็ได้นะลูก นี่ถ้าน้องอิงยอมแต่งกับคนที่แม่เลือกให้ รับรองว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้แน่นอน”
อิงอรุณลังเล เหตุผลของมารดามีความเป็นไปได้ทุกประการ แต่ถ้าแม่คาดผิดล่ะ...
“น้องอิงยังไม่ต้องรีบตัดสินใจ รอคุณพ่อฟื้น แล้วเราค่อยปรึกษาเรื่องนี้กันก็ได้ แม่มั่นใจว่าพ่อจะต้องเห็นด้วยกับแม่” เปรมิกาย้ำเสียงหนัก “พี่ชายเราก็ไปประชุมที่สวิตฯไม่กลับสักที นี่ถ้าอยู่ด้วยกัน อย่างน้อยก็จะได้ช่วยกันคิด ฮึ!”
ในที่สุดอิงอรุณก็ยิ้มออก แม่ช่างเอาแต่ใจสมกับที่เป็นแม่จริงๆ คงต้องโทษพ่อที่ตามใจกันจนแม่มั่นใจว่าจักรวาลนี้ต้องหมุนรอบตัวท่าน ไม่ว่าแม่อยากได้อะไรก็ต้องได้เสมอ! “แม่ขา พี่นราติดตามนำทีมคณะทำงานไปประชุมกับดับเบิลยูทีโอในฐานะตัวแทนของรัฐบาลนะคะ ไม่ได้ไปเที่ยว จะให้ไปปุ๊บกลับปั๊บตามใจตัวเองไม่ได้หรอก”
“มัวแต่ไปเจรจากับองค์การการค้าโลกช่วยรัฐบาล แต่ปล่อยให้พ่อแม่กับน้องมีปัญหาเนี่ยนะ” มารดาหน้างอ เพราะไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรกแล้วที่นราธิป บุตรชายคนโตเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในรัฐบาลปัจจุบัน
“พี่นราอยู่ก็ทำอะไรไม่ได้มากหรอกค่ะ พี่ชายอิงเป็นนักปราชญ์นะคะ ไม่ใช่นักเลง แม่ก็เห็นกันอยู่ว่ารายนั้นเขากร่าง วางอำนาจขนาดไหน”
“น่าโมโหจริงๆ ทำไมท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุดต้องมาเกษียณเอาปีนี้ก็ไม่รู้ ใครๆก็รู้กันทั้งเมืองว่าท่านนายกฯไม่ปลื้มคุณลุงของอิง ถ้า ผบ.สส เกษียณ แล้วท่านนายกฯโยกคุณลุงขึ้นไป จากนั้นก็ดันนายพลศักดิ์สิทธิ์ขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารบกแทน แค่นี้รัฐบาลก็จะรวบอำนาจไว้กับฝ่ายตัวเองได้เบ็ดเสร็จแล้ว ไม่อยากนึกภาพเลยว่าประเทศเราจะเข้าใกล้กลียุคขนาดไหน” เปรมิกาถอนใจ
เมื่อการเมืองต้องการฐานอำนาจจากกองทัพหนุนหลัง พี่ชายของมารดาซึ่งอยู่คนละขั้วกับรัฐบาล ก็เปรียบเหมือนเสี้ยนหนามชิ้นใหญ่ที่ขวางหนทางแห่งผลประโยชน์อยู่ ไม่แปลกที่ผู้นำรัฐบาลอยากเขี่ยเขาให้พ้นทาง ด้วยการดันขึ้นไปสู่ตำแหน่งที่ใหญ่กว่าเดิม แต่ไร้อำนาจ สั่งทหารไม่ได้แม้แต่กองร้อยเดียว! จากนั้นก็เอาคนของตัวเองมาคุมแต่ละเหล่าทัพ โดยเฉพาะกองทัพบก ด้วยกำลังพลเกือบสามแสนนาย แค่นี้ทั้งอำนาจและการเมืองก็รวมเป็นหนึ่งเดียว
รัฐบาลมีเสถียรภาพ ไม่ต้องกังวลว่าทหารจะลุกขึ้นมาทำรัฐประหาร แต่นั่นก็เป็นช่องทางสำคัญที่ทำให้เกิดการคอร์รัปชันได้ง่ายดาย เพราะไม่มีใครคอยคานอำนาจ ในฐานะที่บิดามารดาทำธุรกิจหลักอยู่ในประเทศ อิงอรุณรู้ดีว่าการที่คนบางกลุ่มมีอิสระในการฉ้อโกง ย่อมส่งผลกระทบกับภาคเอกชนแน่นอน ทุกอย่างจะกระทบเกี่ยวพันกันเป็นลูกโซ่
“อะไรก็ยังไม่แน่นอนค่ะแม่ ที่แม่พูดมันเป็นแค่การคาดการณ์เท่านั้นเอง ยังอีกตั้งหลายเดือนกว่าจะถึงฤดูโยกย้าย อีกอย่าง ถึงคุณพ่อเทพจะสนิทกับท่านนายกฯ แต่คุณลุงก็มีคนหนุนหลังเหมือนกัน ยังไงเสียรัฐมนตรีกลาโหมที่เป็นเพื่อนสนิทของคุณลุงคงต้องค้านท่านนายกฯสุดฤทธิ์ เราต้องไม่ลืมจุดนี้นะคะ”
“ใครก็รู้ว่าปัจจัยในการโยกย้ายมันมีมากกว่าคนแค่สองสามคน” เปรมิกาถอนหายใจ “ทหารดีๆมีเต็มกองทัพ ทำไมเราต้องมาแจ็คพ็อตเจอเอาพวกหนึ่งในล้านด้วยก็ไม่รู้” ตอนท้ายท่านเปรยอย่างท้อแท้
“อิงจะลองปรึกษาเรื่องนี้กับเพชรดู พี่เผ่าอาจมีคำแนะนำดีๆให้ก็ได้”
แค่เอ่ยชื่อถึงอดีตสะใภ้ เปรมิกาก็หน้าตึง “เพื่อนคนอื่นมีเยอะแยะ ทำไมต้อง...”
“แม่ขา... เรื่องมันก็ผ่านมาหลายปีแล้ว แม่ยังไม่ให้อภัยเพชรอีกหรือคะ”
มารดาค้อนงอนๆ “น้องอิงก็เข้าข้างแต่เพื่อน ไม่ว่าเมื่อก่อนหรือเดี๋ยวนี้ น้องอิงก็เลือกเพื่อนก่อนแม่ทุกที”
“ไม่เกี่ยวสักหน่อย อิงแค่พยายามมองด้วยใจที่เป็นกลางต่างหาก” คนพูดยิ้มปะเหลาะ ยื่นหน้าไปจูบแก้มมารดา ครั้นเหลือบไปเห็นรถยุโรปคันโตเคลื่อนใกล้เข้ามา จึงเปลี่ยนเรื่อง “รถมาแล้ว กลับกันดีกว่า มีอะไรไปคุยกันต่อที่บ้านนะคะ”
อิงอรุณกอดแขนมารดา เดินเคียงคู่กันไปขึ้นรถที่คนขับเปิดประตูด้านหลังคอยอยู่แล้ว
เปรมิกาเหลือบมองธิดาคนเล็กข้างกายด้วยความหนักใจ ครั้งบุตรชายคนโต เธอเคยเลือกคู่ให้เขาแต่งงานกับลูกสาวของเพื่อนสนิทเพราะความเหมาะสม แต่สุดท้ายกลับต้องลงเอยด้วยการหย่าร้าง มาครั้งนี้แม้ไม่อยากบังคับใจใครอีก ปล่อยให้ลูกเลือกเส้นทางชีวิตของตัวเอง แต่เธอก็อดไม่ได้อยู่ดี ผู้ชายที่เธอเลือกให้ลูกสาว มีทั้งรูปสมบัติ คุณสมบัติ แล้วก็ทรัพย์สมบัติครบครัน มีอนาคตสดใสรออยู่ แล้วดูเถิด...อิงอรุณกลับไปพัวพันกับครอบครัวที่ไม่น่าคบที่สุดแทนซะได้
โลกไม่ยุติธรรมเลย ให้เธอพรั่งพร้อมด้วยทรัพย์สินมากเท่าที่ทำให้คนครึ่งประเทศนี้อิจฉา แต่เงินทองที่เธอมี กลับไม่สามารถไขว่คว้าซื้อหาความสุขมาให้ลูกๆได้ บางที...เธอก็อดคิดไม่ได้ว่าความร่ำรวยเหล่านั้นอาจจะเป็นคำสาปเสียด้วยซ้ำ!
คำสาป...ซึ่งทำให้ทุกคนที่เข้ามาหา ล้วนใส่หน้ากากไว้นับสิบนับร้อยอัน ไขว่คว้าหาแต่ผลประโยชน์ ไม่เคยมีใครเลยสักคนที่จริงใจกับเธอและครอบครัว ไม่มีเลย!
“อิงอยากรีบแต่งงานให้เร็วที่สุด แล้วย้ายไปอยู่ต่างประเทศค่ะแม่” แน่ละว่านั่นไม่ใช่คำขอ แต่เป็นเหมือนการบอกกล่าวมากกว่า
เปรมิกาตวัดค้อน น้ำเสียงไม่พอใจ “แม่ไม่ยอม ทำไมต้องไปเมืองนอก นี่เกี่ยวกับเรื่องที่เราคุยกันค้างไว้เมื่อตอนเย็นใช่ไหม”
อิงอรุณกลอกตา กำลังเรียบเรียงสิ่งที่จะอธิบายอยู่ในใจ ทว่ามารดาคงเข้าใจว่าเธอยอมรับด้วยการนิ่งเงียบ ท่านจึงเอ่ยต่อเสียเอง...
“น้องอิง พ่อกับแม่ไม่ได้งกสมบัตินะ เงินทองข้าวของแค่ที่เขาให้จัดการ มันไม่ได้มากมายเลยสำหรับบ้านเรา แต่พ่อกับแม่ไม่อยากให้น้องอิงเป็นเครื่องมือของคนบ้าอำนาจไม่รู้จักพอ วันนี้เขาเป็นแค่นายพลระดับผู้บังคับบัญชา เขายังใช้อำนาจในทางที่ผิด ถ้าวันหน้าเขาเป็นใหญ่เป็นโตกว่าที่เป็นอยู่ ด้วยอำนาจที่มีเงินหนุนหลัง แม่ไม่อยากนึกภาพเลย บ้านเมืองคงถึงคราวกลียุคกันก็เพราะพวกเรานี่ละ บอกตามตรงแม่ไม่อยากดองกับคนแบบนั้น แค่คิดก็สะอิดสะเอียนแล้ว”
อิงอรุณดึงมือมารดามากุมแล้วบีบเบาๆ “อิงเข้าใจพ่อกับแม่นะคะ แต่อิงอยากให้พ่อกับแม่เห็นใจเทพด้วย พ่อเขาหวังกับการแต่งงานนี้ไว้มาก เขาคงไม่ยอมปล่อยมือง่ายๆเพียงแค่ให้อิงบอกเลิกกับเทพแน่นอน”
“ห่วงเทพ แล้วไม่ห่วงพ่อแม่เหรอ” เปรมิกากระฟัดกระเฟียด สะบัดมือเธออย่างกระแทกกระทั้น เห็นได้ชัดว่าน้อยใจมากกว่าอย่างอื่น
ที่หญิงสาวตัดสินใจเช่นนั้น เพราะรู้ดีว่าคนระดับสุพจน์และคุณหญิงเปรมิกา เทียมสุบรรณ ย่อมต้องมีอำนาจทั้งในวงการสีเขียวสีกากี รวมถึงแวดวงการเมืองหนุนหลัง ที่พ่อเจ็บวันนี้ ก็คงเพราะโกรธจัด แต่อิงอรุณเชื่อว่าพ่อต้องปลอดภัย และจากนี้ท่านคงคุมอารมณ์ตัวเองให้ตอบโต้กับอีกฝ่ายได้อย่างทัดเทียมกันแน่นอน ให้ยังไงสิงห์ก็ต้องเป็นเจ้าป่าวันยังค่ำ!
แต่พันเทพละ รู้กันอยู่ว่าพลเอกศักดิ์สิทธิ์วาดหวังถึงการแต่งงานของเธอกับบุตรชายไว้ว่าจะเป็นกุญแจไขเข้าสู่ขุมสมบัติของบ้านเทียมสุบรรณ หากเธอตัดขาดกับพันเทพ ท่านนายพลต้องเอาความผิดหวังไปลงที่ลูกแน่นอน ถ้าเธอปล่อยมือชายหนุ่มอีกคน ก็เท่ากับเธอผลักให้เพื่อนไปยืนอยู่ตรงปากเหวด้วยมือตัวเอง เธอทำเช่นนั้นไม่ลงจริงๆ!
หญิงสาวรีบคว้ามือมารดาไว้อีกครั้ง เมื่อเห็นท่านตั้งท่าอาละวาด “ที่เทพเป็นอย่างนั้น พ่อเขาเป็นคนทำค่ะแม่”
เปรมิกาอ้าปากค้าง ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ ครู่ใหญ่กว่าจะตะกุกตะกักเปรยประโยคถัดมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “พ่อเขาตีลูกตัวเองขนาดนั้นเลยเหรอ”
“อิงโทร.ไปคาดคั้นคนใช้บ้านเทพมา เขาเล่าว่าเทพเข้าไปคุยอะไรกับท่านนายพลที่ห้องทำงานก็ไม่รู้ พักใหญ่ก็ได้ยินเสียงโครมคราม แล้วพอ ทส. เข้าไปในห้องไม่นาน ก็ได้ยินเสียงปืน”
คนอายุมากกว่ายกมือทาบอก ซวนเซจนอิงอรุณต้องรีบผวาเข้าไปประคองให้มารดานั่งยังเก้าอี้ใกล้ๆ
“ลูกชายเขาทั้งคนนะน้องอิง” เปรมิกาเปรยเสียงรวยรินละม้ายใกล้เป็นลมเต็มที
“อิงก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ คนใช้บอกว่าเทพออกจากห้องในสภาพดูไม่ได้ เลือดไหลเป็นทางเต็มหน้าเต็มตัว แต่เขาก็ยังฝืนขับรถ”
“เวรกรรม หมาแมวมันยังรักลูกตัวเอง นี่เขาเป็นคนแท้ๆ ทำทารุณอย่างนั้นกับลูกในไส้ลงคอได้ยังไงกัน”
“พอฟื้น เทพก็ขอเลิกกับอิง แม่คะ ถ้าอิงเลิกกับเทพจริง พ่อเขาคงยิ่งโกรธกว่านี้ และคราวนี้อาจไม่ใช่แค่ปืนลั่นใส่เพดานก็ได้นะคะ”
เปรมิกาชะงัก กลอกตาอย่างครุ่นคิด สุดท้ายจึงยิ้มหยัน หัวเราะในคอเสียงต่ำ ก่อนเอ่ยช้าๆราวกับใคร่ครวญไปด้วย “นายพลศักดิ์สิทธิ์เป็นคนฉลาดจริงๆ”
“อะไรนะคะแม่” อิงอรุณตามไม่ทันว่ามารดากำลังพูดเรื่องใดอยู่
“เขารู้จักลูกชายตัวเองดีเชียวละ แล้วเขาก็คาดเดาลูกสาวของแม่ไม่ผิดเลยด้วย” เปรมิกาสบตาลูกสาวนิ่งๆ “ที่อิงยืนกรานว่ายังไงก็จะไม่เลิกกับพันเทพ เพราะกลัวเทพถูกพ่อฆ่าตายคามือใช่ไหม ไม่คิดเหรอว่านั่นแหละคือสิ่งที่นายพลศักดิ์สิทธิ์ต้องการที่สุด และน้องอิงก็ทำให้เขาได้สมใจจริงๆ แม่พูดผิดไหมล่ะ”
อิงอรุณเริ่มคล้อยตาม...ทีละนิด เอ่ยกระท่อนกระแท่นไม่แน่ใจนัก “แม่คิดว่า...เขาไม่ได้คิดจะฆ่าลูกตัวเอง แต่แค่ขู่ไม่ให้อิงเลิกกับเทพแค่นั้นเองเหรอคะ”
“แม่เชื่อว่าพันเทพยังมีประโยชน์กับท่านนายพลอีกเยอะ เขาไม่ฆ่าลูกชายตัวเองด้วยเหตุผลตื้นๆแค่นั้นหรอก นี่มันไม่ใช่ยุคมืดที่คนมีอำนาจคิดจะปิดปากใครตามใจชอบก็ได้หรอกนะ ต่อให้น้องอิงกับเทพเลิกกันจริง เขาก็คงจับผู้หญิงคนใหม่สักคนมาแต่งงานกับลูกชายจนได้ และแน่นอนว่าผู้หญิงคนนั้นจะต้องให้ผลประโยชน์ในสิ่งที่ท่านนายพลต้องการเท่านั้น”
จู่ๆอิงอรุณก็นึกถึงพิมพ์สนิท นี่สินะ เหตุผลที่พันเทพเลือกเธอ ทั้งที่ผู้หญิงคนนั้นรักเขามากกว่าที่เธอรักแน่นอน เพราะพิมพ์สนิทเป็นเพียงลูกสาวข้าราชการระดับกลางในต่างจังหวัดซึ่งสอบชิงทุนไปเรียนต่อที่สหรัฐได้ ขณะที่เธอคืออิงอรุณ เทียมสุบรรณ ทายาทคนเล็กของอาณาจักรเครื่องดื่มชูกำลังอันดับหนึ่งของประเทศ ทั้งยังพ่วงตำแหน่งหลานสาวคนโปรดของผู้บัญชาการทหารบกอีกด้วย!
“แม่แน่ใจเหรอคะ ถ้าเราคาดผิด คนที่จะตกอยู่ในอันตรายก็คือเทพนะคะ”
“ยังไงพันเทพก็ปลอดภัย แต่คนที่กำลังไต่อยู่บนเชือกที่ริมผาน่ะ คือพวกเราเทียมสุบรรณต่างหาก ถ้าถามแม่นะ แม่ไม่อยากให้น้องอิงสุงสิงกับคนบ้านนั้น แม่ไม่เถียงว่าเทพเป็นคนดี และแม่ก็รักเขาเหมือนลูกชายคนนึงด้วย แต่แม่ไม่อยากเอาชีวิตลูกสาวของแม่ไปเสี่ยงกับคนบ้าเลือดพรรค์นั้น มันได้ไม่คุ้มเสียหรอก กับลูกชายตัวเองเขายังลงไม้ลงมือลงคอ แล้วน้องอิงละ ถ้าแต่งเข้าไปเป็นสะใภ้ เขาอาจทำรุนแรงกับหนูมากกว่านั้นก็ได้นะลูก นี่ถ้าน้องอิงยอมแต่งกับคนที่แม่เลือกให้ รับรองว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้แน่นอน”
อิงอรุณลังเล เหตุผลของมารดามีความเป็นไปได้ทุกประการ แต่ถ้าแม่คาดผิดล่ะ...
“น้องอิงยังไม่ต้องรีบตัดสินใจ รอคุณพ่อฟื้น แล้วเราค่อยปรึกษาเรื่องนี้กันก็ได้ แม่มั่นใจว่าพ่อจะต้องเห็นด้วยกับแม่” เปรมิกาย้ำเสียงหนัก “พี่ชายเราก็ไปประชุมที่สวิตฯไม่กลับสักที นี่ถ้าอยู่ด้วยกัน อย่างน้อยก็จะได้ช่วยกันคิด ฮึ!”
ในที่สุดอิงอรุณก็ยิ้มออก แม่ช่างเอาแต่ใจสมกับที่เป็นแม่จริงๆ คงต้องโทษพ่อที่ตามใจกันจนแม่มั่นใจว่าจักรวาลนี้ต้องหมุนรอบตัวท่าน ไม่ว่าแม่อยากได้อะไรก็ต้องได้เสมอ! “แม่ขา พี่นราติดตามนำทีมคณะทำงานไปประชุมกับดับเบิลยูทีโอในฐานะตัวแทนของรัฐบาลนะคะ ไม่ได้ไปเที่ยว จะให้ไปปุ๊บกลับปั๊บตามใจตัวเองไม่ได้หรอก”
“มัวแต่ไปเจรจากับองค์การการค้าโลกช่วยรัฐบาล แต่ปล่อยให้พ่อแม่กับน้องมีปัญหาเนี่ยนะ” มารดาหน้างอ เพราะไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรกแล้วที่นราธิป บุตรชายคนโตเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในรัฐบาลปัจจุบัน
“พี่นราอยู่ก็ทำอะไรไม่ได้มากหรอกค่ะ พี่ชายอิงเป็นนักปราชญ์นะคะ ไม่ใช่นักเลง แม่ก็เห็นกันอยู่ว่ารายนั้นเขากร่าง วางอำนาจขนาดไหน”
“น่าโมโหจริงๆ ทำไมท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุดต้องมาเกษียณเอาปีนี้ก็ไม่รู้ ใครๆก็รู้กันทั้งเมืองว่าท่านนายกฯไม่ปลื้มคุณลุงของอิง ถ้า ผบ.สส เกษียณ แล้วท่านนายกฯโยกคุณลุงขึ้นไป จากนั้นก็ดันนายพลศักดิ์สิทธิ์ขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารบกแทน แค่นี้รัฐบาลก็จะรวบอำนาจไว้กับฝ่ายตัวเองได้เบ็ดเสร็จแล้ว ไม่อยากนึกภาพเลยว่าประเทศเราจะเข้าใกล้กลียุคขนาดไหน” เปรมิกาถอนใจ
เมื่อการเมืองต้องการฐานอำนาจจากกองทัพหนุนหลัง พี่ชายของมารดาซึ่งอยู่คนละขั้วกับรัฐบาล ก็เปรียบเหมือนเสี้ยนหนามชิ้นใหญ่ที่ขวางหนทางแห่งผลประโยชน์อยู่ ไม่แปลกที่ผู้นำรัฐบาลอยากเขี่ยเขาให้พ้นทาง ด้วยการดันขึ้นไปสู่ตำแหน่งที่ใหญ่กว่าเดิม แต่ไร้อำนาจ สั่งทหารไม่ได้แม้แต่กองร้อยเดียว! จากนั้นก็เอาคนของตัวเองมาคุมแต่ละเหล่าทัพ โดยเฉพาะกองทัพบก ด้วยกำลังพลเกือบสามแสนนาย แค่นี้ทั้งอำนาจและการเมืองก็รวมเป็นหนึ่งเดียว
รัฐบาลมีเสถียรภาพ ไม่ต้องกังวลว่าทหารจะลุกขึ้นมาทำรัฐประหาร แต่นั่นก็เป็นช่องทางสำคัญที่ทำให้เกิดการคอร์รัปชันได้ง่ายดาย เพราะไม่มีใครคอยคานอำนาจ ในฐานะที่บิดามารดาทำธุรกิจหลักอยู่ในประเทศ อิงอรุณรู้ดีว่าการที่คนบางกลุ่มมีอิสระในการฉ้อโกง ย่อมส่งผลกระทบกับภาคเอกชนแน่นอน ทุกอย่างจะกระทบเกี่ยวพันกันเป็นลูกโซ่
“อะไรก็ยังไม่แน่นอนค่ะแม่ ที่แม่พูดมันเป็นแค่การคาดการณ์เท่านั้นเอง ยังอีกตั้งหลายเดือนกว่าจะถึงฤดูโยกย้าย อีกอย่าง ถึงคุณพ่อเทพจะสนิทกับท่านนายกฯ แต่คุณลุงก็มีคนหนุนหลังเหมือนกัน ยังไงเสียรัฐมนตรีกลาโหมที่เป็นเพื่อนสนิทของคุณลุงคงต้องค้านท่านนายกฯสุดฤทธิ์ เราต้องไม่ลืมจุดนี้นะคะ”
“ใครก็รู้ว่าปัจจัยในการโยกย้ายมันมีมากกว่าคนแค่สองสามคน” เปรมิกาถอนหายใจ “ทหารดีๆมีเต็มกองทัพ ทำไมเราต้องมาแจ็คพ็อตเจอเอาพวกหนึ่งในล้านด้วยก็ไม่รู้” ตอนท้ายท่านเปรยอย่างท้อแท้
“อิงจะลองปรึกษาเรื่องนี้กับเพชรดู พี่เผ่าอาจมีคำแนะนำดีๆให้ก็ได้”
แค่เอ่ยชื่อถึงอดีตสะใภ้ เปรมิกาก็หน้าตึง “เพื่อนคนอื่นมีเยอะแยะ ทำไมต้อง...”
“แม่ขา... เรื่องมันก็ผ่านมาหลายปีแล้ว แม่ยังไม่ให้อภัยเพชรอีกหรือคะ”
มารดาค้อนงอนๆ “น้องอิงก็เข้าข้างแต่เพื่อน ไม่ว่าเมื่อก่อนหรือเดี๋ยวนี้ น้องอิงก็เลือกเพื่อนก่อนแม่ทุกที”
“ไม่เกี่ยวสักหน่อย อิงแค่พยายามมองด้วยใจที่เป็นกลางต่างหาก” คนพูดยิ้มปะเหลาะ ยื่นหน้าไปจูบแก้มมารดา ครั้นเหลือบไปเห็นรถยุโรปคันโตเคลื่อนใกล้เข้ามา จึงเปลี่ยนเรื่อง “รถมาแล้ว กลับกันดีกว่า มีอะไรไปคุยกันต่อที่บ้านนะคะ”
อิงอรุณกอดแขนมารดา เดินเคียงคู่กันไปขึ้นรถที่คนขับเปิดประตูด้านหลังคอยอยู่แล้ว
เปรมิกาเหลือบมองธิดาคนเล็กข้างกายด้วยความหนักใจ ครั้งบุตรชายคนโต เธอเคยเลือกคู่ให้เขาแต่งงานกับลูกสาวของเพื่อนสนิทเพราะความเหมาะสม แต่สุดท้ายกลับต้องลงเอยด้วยการหย่าร้าง มาครั้งนี้แม้ไม่อยากบังคับใจใครอีก ปล่อยให้ลูกเลือกเส้นทางชีวิตของตัวเอง แต่เธอก็อดไม่ได้อยู่ดี ผู้ชายที่เธอเลือกให้ลูกสาว มีทั้งรูปสมบัติ คุณสมบัติ แล้วก็ทรัพย์สมบัติครบครัน มีอนาคตสดใสรออยู่ แล้วดูเถิด...อิงอรุณกลับไปพัวพันกับครอบครัวที่ไม่น่าคบที่สุดแทนซะได้
โลกไม่ยุติธรรมเลย ให้เธอพรั่งพร้อมด้วยทรัพย์สินมากเท่าที่ทำให้คนครึ่งประเทศนี้อิจฉา แต่เงินทองที่เธอมี กลับไม่สามารถไขว่คว้าซื้อหาความสุขมาให้ลูกๆได้ บางที...เธอก็อดคิดไม่ได้ว่าความร่ำรวยเหล่านั้นอาจจะเป็นคำสาปเสียด้วยซ้ำ!
คำสาป...ซึ่งทำให้ทุกคนที่เข้ามาหา ล้วนใส่หน้ากากไว้นับสิบนับร้อยอัน ไขว่คว้าหาแต่ผลประโยชน์ ไม่เคยมีใครเลยสักคนที่จริงใจกับเธอและครอบครัว ไม่มีเลย!

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 เม.ย. 2559, 15:37:25 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 เม.ย. 2559, 15:37:25 น.
จำนวนการเข้าชม : 1451
<< ตอนที่ 11 (100%) | ตอนที่ 12 (100%) >> |

Zephyr 23 เม.ย. 2559, 00:31:28 น.
อื้ม ก็น่าคิดว่า้ป็นแผนฝั่งบ้านเทพ
แต่พ่อกะโหดไปนะ
เกิดพลาดขึ้นมาจริงๆจะเสียใจรึป่าว
อื้ม ก็น่าคิดว่า้ป็นแผนฝั่งบ้านเทพ
แต่พ่อกะโหดไปนะ
เกิดพลาดขึ้นมาจริงๆจะเสียใจรึป่าว

wane 23 เม.ย. 2559, 01:53:59 น.
คุงแม่ฉลาดเลิศ อ่านเกมส์ออก
คุงแม่ฉลาดเลิศ อ่านเกมส์ออก

นักอ่านเหนียวหนึบ 23 เม.ย. 2559, 21:29:16 น.
ตอนนี้เนี่ยยยยยยยย ไม่ได้แทรกเกร็ดสาระอะไรไว้ใช่ม้ายยยยยยยคะ 555555 ชอบค่ะชอบ อ่านเพลิน อร่อย เอ้ยยย สนุกกก 5555
ตอนนี้เนี่ยยยยยยยย ไม่ได้แทรกเกร็ดสาระอะไรไว้ใช่ม้ายยยยยยยคะ 555555 ชอบค่ะชอบ อ่านเพลิน อร่อย เอ้ยยย สนุกกก 5555

พอใจ 23 เม.ย. 2559, 22:44:53 น.
คุนแม่ดีงามค่ะ แต่นิสนึงนะคะคุณแม่ขา เลิกจับคู่เถอะค่ะ เพนาะคุณแม่จะจับคู่นี่แหล่ะค่ะ. อิงจะไปปะกับจระเข้เข้าให้ เฮ่อออ เกือบโดนไอ้เข้งับเอาซะแล้วค่ะ
คุนแม่ดีงามค่ะ แต่นิสนึงนะคะคุณแม่ขา เลิกจับคู่เถอะค่ะ เพนาะคุณแม่จะจับคู่นี่แหล่ะค่ะ. อิงจะไปปะกับจระเข้เข้าให้ เฮ่อออ เกือบโดนไอ้เข้งับเอาซะแล้วค่ะ