ใต้รอยสวาท
เมื่อเรื่องราวในอดีต..ยังโลดแล่นลงทัณฑ์หัวใจทุกดวง
ความผิดพลาดใต้รอยสวาทนี้ จะมีบทลงเอยอย่างไร
..........................................................................
คนในอดีตย้อนกลับเข้ามาในชีวิต และหวังช่วงชิงแก้วตาดวงใจ เพื่อแก้แค้นเอาคืน
ลลนาจะทำเช่นไร เมื่อหล่อนไม่เคยรักพ่อของลูก แต่ก็ไม่อาจหนีพ้นความรักปนแค้นที่เขาหยิบยื่นให้ หล่อนต้องสู้เพื่อลูก และผู้ชายอีกคนที่เข้ามาสอนให้หล่อนรู้จักความหมายของคำว่า 'รัก'
Tags: สวาท,รักร้าย,ซิงเกิ้ลมัม,ริษยา,นิยายรัก,ดราม่า

ตอน: บทที่ 2 พ่อของลูก

สีหน้าอิดโรยของลลนาทำให้ไม่กล้าเซ้าซี้ต่อ คัมภันหิ้วถุงเปลือกหอยที่วางอยู่มุมห้องแล้วเดินออกไปทันที เขายืนอยู่ข้างนอกนานแล้ว ได้ฟังเรื่องของลลนากับผู้ชายนิสัยหยาบคนนั้นมาตั้งแต่ต้น ไม่ใช่ว่าเสียมารยาทสอดรู้ แต่ประตูกระจกเลื่อนนั้นปิดไม่สนิท ลลนาล้มเหลวกับชีวิตคู่ แต่ยังเหลือแก้วตาดวงใจที่ล้ำค่า ต่างจากเขา ที่ไม่เหลืออะไรเลย

“อ้าวพ่อภัน มีธุระอะไรรึเปล่า มาหาพ่อนนท์เหรอ”

เสียงเอ่ยทักคุ้นเคยทำให้คัมภันต้องปรับสีหน้า เขาพนมมือไหว้พัทนี ลูกค้าประจำที่เคยอุดหนุนปูปลากับเขาอยู่บ่อยครั้ง

“เปล่าครับ ผมมาหาน้องไลท์ ตั้งใจจะเอาเปลือกหอยพวกนี้มาให้”

คัมภันชูถุงในมือแล้วยิ้ม พันทีมองเขาอย่างสำรวจอยู่ครู่หนึ่งก่อนพยักหน้า

“สงสัยจะเป็นเธอสินะ ที่ยายรันเคยเล่าให้ฟังว่าชอบทำลับๆ ล่อๆ แอบมองลูกสาวเขา”

“ครับ ผมเอง แต่ตอนนี้คุณรันเข้าใจแล้วว่าผมไม่ได้คิดร้ายอะไร”

“แต่เธอก็หายไปกับหลานสาวฉันทั้งคืน”

“คุณพัดอย่างเพิ่งเข้าใจผิดไปนะครับ”

เสียงพัทนีดุขึ้นจนคัมภันตกใจ เขาละล่ำละลักอธิบายให้พัทนีเข้าใจว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมีต้นสายปลายเหตุอย่างไรบ้าง ตัวเขาเองบริสุทธิ์ใจแต่ต้น ไม่เคยคิดร้ายกับลลนาและลูกสาวสักนิด เขาเต็มใจช่วยเหลือ และเข้าใจความรู้สึกของลลนาเป็นอย่างดี แรกเริ่มเขาไม่ได้คิด แต่ถามใจตัวเองตอนนี้ก็พูดได้ไม่เต็มปากว่าไม่คิดอะไรกับลลนา

“เพราะเป็นเธอหรอกฉันถึงหมดห่วง ตั้งแต่พ่อนนท์บอกว่ายายรันขึ้นเรือเธอไป แต่ไอ้หนวดเครารกๆ นี่น่ะ โกนออกบ้างได้ไหม ใครเขาเห็นเขาก็มองไปในแง่ร้ายซะหมด”

จริงอย่างพัทนีว่า เพราะสดๆ ร้อนๆ เขาเพิ่งถูกดูแคลนจากผู้ชายใจหยาบคนนั้น แม้ลลนาจะเคยทำผิดต่อสามีมาก่อน แต่ไม่ใช่เหตุผลที่ลูกผู้ชายจะทำร้ายผู้หญิงได้

“น้องไลท์อยู่กับตานนท์ที่ใต้ต้นไม้ข้างในนั่นละ เดินเข้าไปอีกหน่อยก็ถึง”

“ขอบคุณครับ”

คัมภันนอบน้อมกับผู้ใหญ่ทุกคน นั่นเป็นข้อดีให้มีคนรัก เมตตา และคอยช่วยเหลือ ชายหนุ่มเดินไปตามทางที่พัทนีบอก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองออฟฟิศด้านหน้า เห็นพัทนีเดินเข้าไปในนั้น คงเป็นห่วงหลานสาว เช่นเดียวกับเขา ที่ห่วงจิตใจบอบช้ำของลลนา อยากอยู่เคียงข้างหล่อน และแบ่งเบาทุกข์หนักหนาเหล่านั้นบ้างด้วยความเต็มใจ

“คุณลุง”

เสียงใสของเลศยาดังมาก่อนตัว หนูน้อยกระโดดลงจากชิงช้าแล้วถลาล้ม ร้อนให้รัชชานนท์รีบประคองให้ลุกขึ้น

“เป็นแผลรึเปล่า เจ็บตรงไหนไหม ไหนให้ลุงนนท์ดูสิ”

“ไม่เจ็บค่ะ น้องไลท์จะไปหาคุณลุง”

แม่หนูน้อยดิ้นหนีความเป็นห่วงของรัชชานนท์ไปหาคัมภัน พร้อมแจกยิ้มกว้างโชว์ฟันเรียงเกือบสวย เสียว่าหลุดหายไปแล้วซีกหนึ่ง

“เปลือกหอยฉวยของน้องไลท์ใช่ไหมคะ”

“ใช่ค่ะ ของน้องไลท์หมดถุงนี่เลย”

คัมภันย่อตัวลงนั่งแล้วยื่นถุงเปลือกหอยให้เลศยารับไปถือเอาไว้ แม่หนูน้อยกล่าวขอบคุณเสียงใสแล้วชี้ชวนเขาให้ไปเล่นด้วยกันที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ มีของเล่นมากมายกองอยู่บนเสื่อสีน้ำเงิน บนโต๊ะกลางสนามมีแก้วน้ำและแก้วนมของเลศยา

“คุณนั่นเอง คุณลุงเปลือกหอยฉวยของยายตัวแสบ”

รัชชานนท์เอ่ยแซว เรียกรอยยิ้มของคัมภันให้กว้างยิ่งขึ้น เลศยาน่ารักสดใสสมวัยสี่ขวบ เด็กน้อยไร้เดียงสาเกินกว่าจะรู้เรื่องซับซ้อนของผู้ใหญ่ ป่านนี้ลลนาจะเป็นอย่างไรบ้าง ดูแล้วผู้ชายคนนั้นคงไม่ยอมเลิกราง่ายๆ

“เมื่อวานน้องไลท์หายไปไหนมาคะ แม่รันตามหาให้ทั่วเลย”

รัชชานนท์เอ่ยถามในสิ่งที่คัมภันเองก็อยากรู้

“คุณพ่อพาน้องไลท์นั่งเรือไปดูนางเงือกฉวยค่ะ มีนางยักษ์ด้วย”

“ทำไมไม่ขอแม่รันก่อน” รัชชานนท์ซักต่อ

“คุณพ่อขอแล้ว บอกว่าแม่รันให้น้องไลท์ไปได้” เด็กน้อยจะรู้อะไร ใครลวงใครหลอกคงตามไม่ทัน ส่วนใหญ่จะเชื่อคำพูดของผู้ใหญ่ว่าเป็นจริงเสมอ

“เมื่อวานผมพาคุณรันไปตามหาที่เกาะ แต่กลางทะเลมีพายุ เราเลยต้องหาที่หลบกันก่อน”

คัมภันหันไปอธิบายกับรัชชานนท์ เขาเองเป็นห่วงชื่อเสียงของลลนา หายไปกับเขาตามลำพังทั้งคืน คนอื่นอาจมองไม่ดีและนินทาเสียหาย

“รันก็แบบนี้ละครับ กับเรื่องลูกน่ะ ใจร้อนตลอด”

“แต่ผมเข้าใจคุณรันนะ ลูกทั้งคน แถมน่ารักแบบน้องไลท์นี่ เป็นใครใครก็ห่วง”

“ไปเที่ยวกับคุณพ่อสนุกไหมคะน้องไลท์”

รัชชานนท์หันมาซักหนูน้อยที่ดูเหมือนจะสนใจแต่เปลือกหอยในถุง

“ชาหนุกค่ะ แต่คุณพ่อไม่มีนิทานชาหนุกแบบแม่รัน”

“คุณลุง พาน้องไลท์ไปหาแม่รันนะคะ”

เลศยาเกาะแขนแล้วจ้องคัมภันตาใส แต่เขาคงใจอ่อนไม่ได้ เวลานี้ลลนายังไม่พร้อมจะพบหน้าใครแม้แต่ลูกรัก

“อยู่เล่นกับลุงดีกว่านะ แม่รันมีงานต้องทำอีกเยอะ”

“คุณพ่อกลับซาหวันรึยังคะ”

รัชชานนท์คงกลั้นขำเอาไว้ไม่อยู่ เมื่อคัมภันตอบหนูน้อยไปว่าพ่อของหล่อนกลับสวรรค์แล้ว แม้ใจคิดอยากส่งบดินทร์ฉัตรลงนรก ไม่ต้องได้กลับมาเหยียบที่นี่อีกเลยก็ตาม

“ผมสบายแล้วละงานนี้ ยายตัวแสบมีพี่เลี้ยงเพิ่มอีกคน คุยกันรู้เรื่องด้วยแหะ”

“เด็กคนเดียวต้องเลี้ยงกันสองคนเลยรึตานนท์”

พัทนีเดินมาเมื่อไหร่ไม่มีใครได้ทันสังเกต ส่วนเลศยา ทันทีที่ได้ยินเสียงของพัทนีก็วิ่งเข้าไปกอดขาร้องขอขนมอร่อย เด็กยังไงก็คือเด็ก เลี้ยงง่าย ดูแลง่าย จิตใจยังสะอาดสะอ้าน จะด่างพร้อยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่จะแต่งแต้มขัดเกลา

“ไปเถอะตานนท์ ไปอยู่ที่ออฟฟิศเผื่อลูกค้าขาดเหลืออะไร เดี๋ยวป้าดูยายไลท์เอง”

รัชชานนท์รับคำอย่างว่าง่าย คัมภันเองก็หมดธุระแล้วจึงกล่าวลา แต่พัทนีรั้งไว้ให้อยู่ต่อ เพราะมีงานไม่ยากไม่ง่ายขอแบ่งน้ำใจให้คัมภันช่วยเหลือ

“ปั้มน้ำเสียอยู่ตัวหนึ่ง ช่างเขายังไม่มีเวลามาดูให้เลย พ่อภันพอจะซ่อมได้ไหมล่ะ”

“อยู่ที่ไหนครับ เดี๋ยวผมช่วยดูให้”

พัทนีจูงเลศยาเดินนำหน้าไป แท้งค์น้ำข้างรีสอร์ทหลังใหญ่มีปั้มน้ำใช้การไม่ได้อีกตัว คัมภันเดินเข้าไปสำรวจ เขาเคยซ่อมปั้มน้ำตัวเล็กๆ มาบ้างและคิดว่ากลไกต่างๆ คงคล้ายคลึงกัน

“พอไหวไหมล่ะ”

“น่าจะพอได้ครับ แต่คงต้องใช้เครื่องมือหลายตัว”

“ตามมานี่สิ กล่องเครื่องมืออยู่ที่โรงเก็บด้านหลัง ฉันจะพาไป”



พัทนีปล่อยคัมภันทิ้งไว้กับปั้มน้ำชำรุดแล้วพาเลศยามาที่ห้องครัว หลานตัวน้อยร้องขอขนมกับน้ำหวานของโปรด เมื่อได้ตามต้องการก็เงียบเสียงแล้วหยิบคุกกี้ช็อกโกแลตเข้าปากไม่หยุดมือ เลศยาเลี้ยงง่าย คงเพราะเป็นเด็กผู้หญิงจึงไม่ค่อยซุกซน แต่ประสาเด็กวัยนี้ช่างพูดช่างถาม พัทนีหวั่นใจอยู่เหมือนกันว่าต้องโกหกหลานอีกหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของลลนาและบดินทร์ฉัตร

เรื่องมันก็ผ่านมานานตั้งแต่ลลนาตั้งครรภ์โดยไม่พึงประสงค์ ความสัมพันธ์ของทั้งสองคลุมเครือตลอดมา ลลนาที่เคยใช้ชีวิตอยู่บนความสนุกและหลงระเริง ครั้นเมื่อประมาทจึงพลาดพลั้ง หลานสาวยืนยันว่าไม่ได้รักบดินทร์ฉัตรและไม่ต้องการเป็นตัวปัญหาสำหรับเขา หล่อนตั้งใจปิดบังเรื่องลูก ไม่ต้องการให้เขารับผิดชอบช่วยเหลือในความผิดพลาดนี้ แต่ความลับกลับไม่มีในโลก เมื่อบดินทร์ฉัตรรู้ความจริง สงครามแย่งลูกจึงบังเกิด และนั่นคือฉนวนเหตุให้ลลนาตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตที่สเปนอีกครั้ง สเปนเปรียบเสมือนบ้านที่ลลนาคุ้นเคย หล่อนเติบโตขึ้นที่นั่น และชีวิตเหลวแหลกของหล่อนก็เริ่มต้นจากที่นั่นเช่นกัน

‘ถ้าเขาติดต่อกลับมา กรุณาบอกผมด้วยนะครับ’, ‘อย่างน้อยก็ขอให้ผมได้เห็นหน้าลูกสักครั้ง’

คำขอของบดินทร์ฉัตรเมื่อห้าปีก่อน พัทนีไม่เคยทำตาม เพราะต้องการปกป้องหลานสาว และเชื่อว่าลูกในท้องจะเปลี่ยนลลนาให้เป็นคนใหม่ได้ ในวันนี้ลลนาเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ เหมือนไม่ใช่หลานสาวเหลวใหลคนเดิมที่เคยรู้จัก ความคิดอ่านเติบโตเป็นผู้ใหญ่สมวัย อีกทั้งงานบ้านงานเรือนที่ไม่เคยได้เรื่องก็เนี๊ยบขึ้นทุกระเบียบนิ้วแทบไม่มีที่ติเลย อดีตที่ผ่านมาของลลนาไม่น่าจดจำนัก หลานสาวคงอยากลืมทุกเรื่องในอดีตและคนในอดีต แต่ในวันนี้ลลนาคงรู้ซึ้งแล้วว่า หล่อนหนีอดีตไปได้ไม่พ้น

“อิ่มแล้วก็ไปนอนนะลูก สิบโมงกว่าแล้ว ยายพัดจะได้เตรียมมือเที่ยงเอาไว้ให้”

เห็นเลศยานั่งตาปรืออยู่ที่เก้าอี้ คุกกี้พร่องไปหลายชิ้น ส่วนน้ำหวานก็ซดเสียจนหมดแก้ว

“แม่รันอยู่ไหนคะ น้องไลท์คิดถึงแม่รัน”

พัทนีลุกขึ้นเดินไปอุ้มหลานตัวน้อย ลลนากินยาแก้ปวดหัวแล้วขึ้นไปนอนพักอยู่บนห้อง ครั้นจะพาเลศยาเข้าไปรบกวน ก็กลัวหนูน้อยจะพูดถึงเรื่องสะเทือนใจ เมื่อครู่ที่ได้คุยกับลลนา สภาพของหลานสาวยังแย่เพราะเอาแต่ร้องไห้ ต้องปลอบให้กำลังใจกันอยู่พักใหญ่กว่าที่ลลนาจะสงบและยอมขึ้นไปพักผ่อน

“แม่รันอยู่นี่ค่ะน้องไลท์ ขึ้นไปดูการ์ตูนข้างบนดีไหมคะ”

“อ้าวรัน ทำไมไม่นอนพักสักงีบล่ะลูก”

คนที่กำลังนึกถึงโผล่หน้าเข้ามายิ้มเหนื่อย สองตายังดูบวม แต่จมูกและแก้มหายแดงลงบ้างแล้ว

“อยู่กับลูกดีกว่าค่ะ ให้นอนตอนนี้คงยากจะหลับ”

ลลนาอุ้มเลศยาเดินออกจากครัวไป แต่เสียงของหนูน้อยยังแจ้วๆ ถึงการ์ตูนแสนสนุก เพราะยังเลือกไม่ได้ว่าจะดูเรื่องอะไร พัทนีเข้าใจลลนา และเข้าใจความรู้สึกของบดินทร์ฉัตรเช่นกัน ช่วงเช้าที่เขาพาเลศยากลับมาส่ง เขากล่าวขอโทษที่พาลูกไปโดยไม่ได้ขออนุญาต เพราะรู้อยู่แก่ใจว่า ลลนาไม่มีวันยอมให้ลูกไปกับเขา ตัวเขาเองมีธุรกิจที่ต้องดูแลอยู่ในจังหวัดนี้ จึงมักให้ลูกน้องคอยติดตามข่าวของลลนากับลูกเสมอ และทันทีที่ได้ข้อมูลแน่ชัดว่าลลนากับลูกอยู่ที่นี่ เขาจึงมา เขาดีใจที่ได้พบลูก มีความสุขที่ได้กอดได้หอม และอยู่กับลูกอย่างที่เขาต้องการ

‘ผมไม่เคยลืมลลนากับลูกเลย’

คำพูดของบดินทร์ฉัตรบอกความรู้สึกทั้งหมดของเขาได้ดี ก่อนหน้านี้ พัทนียังหวังอยู่ลึกๆ ให้หลานสาวเห็นแก่ลูกและพิจารณาการใช้ชีวิตคู่ร่วมกับบดินทร์ฉัตรอีกครั้ง แต่เมื่อเขายืนยันกับลลนาว่ายังเกลียด ในฐานะป้า คงไม่มีความสุขถ้าหลานสาวต้องทนอยู่กับคนที่ไม่ได้รักเพื่อเติมเต็มคำว่า ‘พ่อ’ สำหรับลูกน้อย ครอบครัวที่อบอุ่นไม่จำเป็นต้องพร้อมด้วย พ่อ แม่ และลูกเสมอไป ยุคสมัยเปลี่ยนไปมากแล้ว ผู้หญิงยุคนี้แกร่งพอจะใช้ชีวิตและยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง ถ้าต้องร่วมชีวิตกับใครสักคนที่ไร้รักจนทุกข์หนักหนา การเลือกอยู่ได้ด้วยตัวเองถือว่าดียิ่งกว่าเป็นไหนๆ



“พักกินข้าวกินน้ำก่อนสิพ่อภัน”

พัทนียกน้ำเก๊กฮวยมาเสิร์ฟให้ช่างจำเป็น พร้อมข้าวผัดกุนเชียงจานใหญ่ที่เพิ่งปรุงเสร็จเมื่อครู่

“ขอบคุณครับคุณพัด อีกนิดเดียวก็จวนจะเสร็จแล้วครับ”

หน้าที่รกไปด้วยหนวดเครา มอมยิ่งขึ้นเพราะน้ำมันจารบีเลอะแก้ม และคงไม่ใช่แค่ที่หน้า สองมือใหญ่ของเขาก็เลอะมากทีเดียว

“เรียนมารึ ดูคล่องเชียว”

“ครูพักลักจำน่ะครับ พวกลุงๆ น้าๆ พาซ่อมเครื่องเรือบ่อย พวกปั้มพวกวาล์วก็พอผ่านมือมาบ้างครับ”

“ก็ดีนะ แล้วช่วงนี้พอหาปูหาปลาได้เยอะไหมล่ะ เห็นว่าเข้าหน้ามรสุมแล้ว รายได้คงน้อยลงสินะ”

พัทนีเรียบๆ เคียงๆ เพราะเห็นหน่วยก้านของคัมภันใช้ได้ ช่างประจำรีสอร์ทลาออกไปแล้วเป็นเดือน จนป่านนี้ยังไม่มีใครมายื่นใบสมัครเลย นายช่างเก่งๆ ไม่สนทำงานกับรีสอร์ทเล็กที่เงินเดือนไม่สูงนัก ส่วนใหญ่ก็เข้าเมืองหางานกับบริษัทมั่นคงมากกว่า

“ก็น้อยลงครับ แต่ก็พออยู่ได้”

“สนใจทำงานกับฉันไหม ก็พวกงานซ่อมงานสวนเล็กๆ น้อยๆ นี่ละ ไม่ต้องมาทำทุกวันหรอก วันไหนพ่อภันออกทะเลได้ก็ไป วันไหนมีพายุ ออกไม่ได้ก็มาทำ”

คัมภันซับเหงื่อที่หน้าด้วยแขนเสื้อแล้วมองมา เขาไม่ได้ตอบรับในทันที แต่นิ่งคิดอยู่สักพักก่อนจะซักข้อสงสัยเพิ่มเติม

“แบบพาร์ทไทม์ ใช่ไหมครับ”

“ใช่ แบบนั้นละ ค่าจ้างก็คิดเป็นรายวัน ฉันให้วันละสามร้อยห้าสิบ ถ้าพ่อภันสะดวก พรุ่งนี้ก็มาหาฉันนะ ทำผมเผ้าให้มันเรียบร้อย หนวดเครานั่นก็ด้วย ถ้าไม่ลำบากนักก็โกนออกไปเสียบ้าง”

พัทนีไม่ได้รังเกียจในความรกของคัมภัน แต่ถ้าเขาต้องทำงานในรีสอร์ท พบปะคนมากมาย เกรงว่าลูกค้าจะตกใจและมองเขาไปในแง่ร้าย หน้าตาคมเข้มอย่างคัมภันคงดูดีขึ้น ถ้าเขารู้จักจัดแต่งตัวเองเสียบ้าง

“ผมจะเอาไปคิดดูครับ”

พัทนีพยักหน้า รู้สึกถูกชะตากับหนุ่มชาวเรือคนนี้ตั้งแต่แรกเห็นเมื่อสามปีก่อน คนพื้นที่แถบนี้ไม่มีใครไม่รู้จักเขา คัมภันเป็นคนดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น และมีความสามารถพอตัว ที่สำคัญ เขาปกป้องหลานสาวของนางได้ ที่ลลนาเล่าให้ฟังยังแปลกใจไม่หาย คิดไม่ถึงว่าคัมภันจะกล้าซัดหน้าบดินทร์ฉัตรเพียงเพราะลลนาถูกผลักล้มลง พัทนีเชื่อเหลือเกินว่าบดินทร์ฉัตรจะไม่เลิกราวีลลนาและลูกโดยง่าย ดังนั้น การหาองค์รักษ์ดีๆ ให้หลานสาวสักคนก็เป็นสิ่งที่ป้าคนนี้ควรทำ

......................................

ป้าพัทนี ไฟเขียวให้คัมภันของเราได้มีโอกาสได้ทำคะแนน แล้วอย่างนี้บดินทร์ฉัตรจะทำยังไงหนอ จะมีโอกาสได้กลับมารื้อฟื้นหรือทวงคืนความแค้นกับลลนาไหม

นักอ่านหลายคนคงสงสัย ไรท์จะให้ใครเป็นพระเอกกันแน่หนอ เปิดให้เชียร์กันทั้งสองฝั่งเลยจ้า เรื่องนี้ สองหนุ่มเขามีบทบาทเด่นพอๆ กัน ถามใจไรท์ ก็จัดว่าเป็นพระเอกทั้ง 2 คนเลยค่ะ แต่อยู่ที่นางเอกของเราว่าจะเลือกใครเท่านั้นเอง

ขอบคุณทุกการติดตามจ้า




เนตรนที
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 ก.พ. 2560, 13:43:40 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 ก.พ. 2560, 13:44:06 น.

จำนวนการเข้าชม : 1016





<< บทที่ 1 คนในอดีต   บทที่ 3 ความเจ็บที่ไม่เคยลืม >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account