Honey Pie...สัญญา(รัก)ร้าย / เพิ่มตอนพิเศษ
เมื่อหนึ่งอยากสานสัมพันธ์
แต่อีกหนึ่งกลับพยายาม "ตัด"
ปฏิบัติการ "รัก" พาตัว จึงเริ่มต้นขึ้น!


-------------------------------------------


เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันใย...ฉันทำอะไรให้เธอเคืองขุ่น

ปรักปรำฉันเป็นจำเลย? เชลย? ตัวประกัน?

จู่ๆ สติก็ดับวูบ ตื่นมาอีกครั้ง “พาริน” ก็พบว่านอนอยู่บนเตียงใหญ่ภายในห้องที่ไม่คุ้นเคย พร้อมๆ กับพบว่าตัวเองถูกลักพาตัว!!!

ราวกับฉากในละครที่เพิ่งย้อนดู เสียงเพลงประกอบดังกระหึ่มในหัว...

ไม่นะ นี่มันยุคไหนสมัยไหนแล้ว ยังจะมีการลักพาตัวอยู่อีก ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ หึ...แต่อย่าหวังว่าลูกพระพายอย่างเธอจะยอมให้ใครกดขี่ง่ายๆ ลองดูสิ ได้เห็นดีกันแน่!

ทว่าทุกอย่างกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด ดูเหมือน “ธารณ์” เตรียมตัวมาดี เขาสามารถแก้เกมของเธอได้ทุกกระบวน รู้ทันไปเสียทุกเรื่องราวกับเลี้ยงกุมารทองเอาไว้อย่างไรอย่างนั้น

ถูกลักพาตัว ริบเงิน โทรศัพท์มือถือว่าร้ายแล้ว การอยู่ใกล้ธารณ์กลับร้ายยิ่งกว่า รับมือกับเขาไม่พอ ยังมีของแถมเป็นอริของเขาด้วยสิ โอ๊ยยยย เธออยากจะบ้า!



** เรื่องนี้มีตัวละครเกี่ยวเนื่องกับเรื่อง เลื่อมลายดอกรัก ที่วางแผงไปกับสนพ.แจ่มใสนะคะ
แต่สามารถอ่านแยกกันได้ค่ะ จะไม่ได้งงอะไรน้าาาา
Tags: เนตรนภัส, ธารณ์, พาริน, พาย, รักโรแมนติก, Oh! My Honey

ตอน: บทที่ 4 [1/2]






กลับมายืนที่เดิม ที่ที่เคยคุ้นตา ที่ที่ใจนั้นคอยเรียกหา...

พารินเกลียดตัวเองที่คิดอะไรก็เหมือนมีเพลงลอยเข้ามาหลอกหลอนในหัว ตอนนี้ก็เหมือนกัน

ใช่ที่ไหนกันเล่า เธอไม่อยากอยู่ที่นี่สักนิด แต่หนีไม่พ้นต่างหาก

“ไปอาบน้ำเสียสิ”

ประโยคดังกล่าวดึงพารินกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง ตอนนี้ นาทีนี้ เธอยังติดแหง็กอยู่กับธารณ์ด้วยสภาพทุเรศ ผมเผ้ารุงรัง เนื้อตัวเต็มไปด้วยขยะ แถมเท้ายังถูกมดกัดจนเป็นปื้น... เธอไม่แน่ใจว่าจะมีอะไรแย่กว่านี้อีกไหม แต่ถ้าได้อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าสกปรกออกก็คงดี

หญิงสาวจึงรับผ้าขนหนูผืนใหญ่จากชายหนุ่มอย่างไม่ลังเล กำลังจะหมุนตัวเข้าห้องน้ำที่จำได้แม่นว่าอยู่ตรงไหนจากการสำรวจห้องของชายหนุ่มฆ่าเวลา...ชะงัก

“ผ้าผืนใหม่ ยังไม่ได้ใช้ รับรองว่าสะอาด” ธารณ์เห็นหญิงสาวลังเลก็เอ่ยรับรอง เพื่อให้พารินอาบน้ำได้อย่างสบายใจ

“ฉันไม่มีเสื้อเปลี่ยนนี่ ให้ใส่ชุดเดิมไม่ไหวหรอกนะ”ในที่สุดพารินก็พูดออกมา ถึงจะมีสภาพเหมือนนักโทษ แต่เธอไม่ยอมอยู่อย่างถูกกดขี่หรอกนะ ในเมื่อถูกขังแล้วก็ขอสบายๆหน่อยเถอะ ให้มาตกระกำลำบากเหมือนในละครทีวีเธอไม่เอาหรอก หรือถ้าเขายัดเยียดให้เธอก็จะป่วนให้เขาทนไม่ได้เลยทีเดียว คอยดู!

“เลือกเอาสิ เสื้อพี่ในตู้เยอะแยะ เดี๋ยวหาเข็มขัดให้ใส่” ชายหนุ่มตอบหน้าตาเฉย อยากรู้ว่าเจ้าหล่อนจะมีปัญหาอะไรอีก

ก็น่าสนใจ...ตัวนอกน่ะไม่เท่าไร แต่ตัวในนี่สิ ใช้ร่วมกันไม่ได้หรอกนะ

“แต่ผู้หญิงไม่เหมือนผู้ชายนะ ที่จะได้...เอ่อ” หญิงสาวอึกอัก กระดากปากที่จะพูดออกมาตรงๆ แต่ก็คิดคำไม่ออกว่าควรพูดอย่างไรดีถึงจะไม่อาย สุดท้ายก็ทำได้แต่โบกมือให้ว่อน

“จะได้อะไร” ธารณ์เห็นพารินอึกอัก ใบหน้าน่ารักแดงก่ำตั้งแต่คอไปจนถึงใบหูแล้วอดเอ็นดูไม่ได้

“ก็...”

“อ๋อ...ถ้าเป็นเรื่องนั้น บอกไซส์มาสิ เดี๋ยวพี่ไปซื้อให้”

“หน้าด้าน”

“อ้าว...พอพี่จะช่วยก็บอกหน้าด้าน ตามใจนะ ปล่อยโล่งๆคงเย็นดี” ชายหนุ่มแนะกลั้วเสียงหัวเราะ ได้เห็นพารินออกอาการฮึดฮัดก็สนุกดี

“บ้า เป็นโรคจิตหรือไง”

“ถ้าพี่เป็นไอ้โรคจิตขึ้นมาจริงๆ พายไม่รอดมาว่าพี่อยู่อย่างนี้หรอกนะ” ธารณ์เอ่ยจริงจัง บอกว่าเขาเอาจริง ทว่าพอเห็นดวงตากลมเบิกโพลง เต็มไปด้วยความหวาดหวั่น แถมยังถอยหลังกรูด ธารณ์ก็แทบตบปากตัวเอง

เขากำลังทำให้เธอกลัว...บ้าจริง

ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าลึกเพื่อสะกดความรู้สึกผิด ถอยออกห่างจากหญิงสาวก่อนที่จะเผลอทำอะไรตามใจอีก

พารินถึงกับเป่าลมออกจากปากอย่างโล่งอก ท่าทางของธารณ์เมื่อสักครู่บอกว่าเขาพูดจริงทำจริง ถ้าเธอแผลงฤทธิ์ขึ้นมาละก็ เขาคงมีวิธีกำราบให้อยู่หมัด...ซึ่งเธอคงไม่ชอบมันนัก

“บางที เสื้อผ้าพวกนี้น่าจะดีกว่า”

ประโยคนั้นมาพร้อมกระเป๋าเดินทางใบเขื่องถูกวางลงบนพื้นตรงหน้าพาริน เพียงเห็นเท่านั้นหญิงสาวก็หน้าบานด้วยความดีใจ ถลาลงไปนั่งขัดสมาธิเปิดกระเป๋าอย่างเร็วรี่ เห็นว่าทุกอย่างยังอยู่ดีทุกประการก็โล่งใจ

อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องสวมเสื้อผ้าของเขา แล้วยังปล่อย...เอ่อ โล่งๆอีก

“กระเป๋าแล็ปท็อปล่ะ โทรศัพท์มือถือด้วย นายจะคืนให้ฉันเมื่อไร” เมื่อเห็นว่าเขาใจดี เธอจึงทวงอย่างมีความหวัง เผื่อว่าเขาจะคืนให้ เธอจะได้ติดต่อกับคนอื่นได้

“ได้คืบจะเอาศอกนะ...ยังไม่ถึงเวลา”

“อีกแล้ว ไม่ถึงเวลาอีกแล้ว” หญิงสาวบ่นอุบอิบ “ฉันมีงานมีการต้องทำนะ คุณเล่นจับฉันมาขังไว้ แถมยังยึดเครื่องมือทำมาหากินของฉันอีก เกิดงานฉันพังขึ้นมา คุณรับผิดชอบไหวหรือเปล่าล่ะ”

“ก็บอกแล้วไง พายคนเดียวพี่เลี้ยงไหว”

ทั้งน้ำเสียงและประกายวับวาวที่ส่งมาทำให้แก้มร้อนผ่าว พารินเริ่มวางหน้าไม่ถูกฟังอย่างไรเขาและเธอก็พูดกันคนละเรื่องชัดๆ คนอะไรวกเข้าข้างตัวเองได้หน้าด้านที่สุด

“บ้า”สุดท้ายก็ทำได้เพียงแลบลิ้นใส่ หยิบชุดที่ต้องการและกระเป๋าใส่ชุดชั้นในได้ก็หอบแนบอก วิ่งหายเข้าห้องน้ำไป



พอได้อาบน้ำ ชำระคราบไคลและสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย พารินก็รู้สึกสดชื่นและสบายตัวขึ้นเป็นกอง แต่จะมาไม่สบายใจเมื่อพบหน้าธารณ์นี่แหละ มือที่กำลังใช้ผ้าขนหนูซับน้ำออกจากผมอยู่ชะงัก ใบหน้ารูปไข่ปิดอาการเซ็งเอาไว้ไม่มิด

“มานี่” ธารณ์สั่ง เมื่อเห็นคนที่ปล่อยให้เขารอมาร่วมยี่สิบนาทีทำท่าจะเดินเข้าห้องน้ำอีกรอบ “อย่าต้องให้พี่พูดซ้ำนะพาย”

พารินกลอกตาอย่างเซ็งๆ ยอมเดินเข้าไปหาชายหนุ่มตรงมุมนั่งเล่น กระนั้นก็พยายามลากเท้า ถ่วงเวลาให้นานที่สุด

ชายหนุ่มมองอาการประท้วงเป็นเด็กของหญิงสาวอย่างระอา จนเขาหมดความอดทน ต้องลุกไปออกแรงลากหญิงสาวให้รีบเดิน

“เบาๆ สิ เจ็บนะ”พอนั่งปุลงบนโซฟาได้พารินก็ประท้วงทันที มือลูบแขนตัวเองป้อยๆ

“ทำไมชอบต่อต้านนักฮึ”

“เพราะใครล่ะ”

ธารณ์ส่ายหน้าอย่างระอาแต่ไม่พูดอะไร เพราะเกรงว่าจะกลายเป็นทะเลาะกันมากกว่าเดิม เขาเปิดกล่องยาสามัญประจำบ้านที่ไปหยิบมาตอนหญิงสาวเข้าไปอาบน้ำใหม่ๆ ค้นกุกกักได้ยาที่ต้องการก็นำมันออกมาวางเรียงบนโต๊ะ

“แพ้ยาหรือเปล่า”

“ไม่ค่ะ ไม่เคยแพ้ แต่ถ้ายาที่ไม่เคยกินก็ไม่รู้เหมือนกัน”

“งั้นขอพี่ดูเท้าหน่อยซิ”ไม่ใช่คำขออนุญาต เพราะเพียงจบประโยคเท่านั้น ธารณ์ก็ย้ายตัวเองจากโซฟาลงไปนั่งบนพื้นทันที

พารินชักเท้ากลับอย่างตกใจ เมื่อธารณ์จับเท้าของเธอวางบนขาของเขา

“อยู่นิ่งๆสิ”

“ก็จับทำไมเล่า” หญิงสาวยังพยายามชักเท้าหนี แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล เพราะนอกจากธารณ์ไม่ปล่อยแล้ว เขายังกระชับแน่นกว่าเดิมอีก เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ยอมแน่ สุดท้ายพารินก็ยอมให้เท้าของตัวเองวางอยู่บนขาของเขา

ธารณ์มองเท้าของพารินอย่างพิจารณา เท้าของหญิงสาวมีรอยถลอกบางแห่ง น่าจะถูกกิ่งไม้เกี่ยวเอาตอนวิ่งหนี แต่ก็ไม่น่าห่วงเพราะเป็นแค่รอยเล็กที่มองแล้วไม่น่ามีเลือดออก ที่เขาห่วงเป็นรอยจากมดกัดมากกว่า ตอนนี้รอยจ้ำนูนแผ่กว้างมากขึ้น และคง...

“เจ็บมากไหม” ชายหนุ่มถาม ใช้ยาหม่องไล้ไปตามรอยมดกัดทั้งหมดแผ่วๆ

“ก็...คันๆแสบๆค่ะ”

พารินตอบตะกุกตะกัก ไม่อยากบอกเลยว่า อาการดังกล่าวน่ะทำอะไรเธอไม่ได้เท่าสัมผัสผะแผ่วจากนิ้วมือของเขาที่กำลังไล้ไปทั่ว...มันทำให้เธอรู้สึกแปลกๆบอกไม่ถูก

“ปกติพายแพ้มดหรือแมลงหรือเปล่า”

“ทำไมคะ”

“ก็ถ้าไม่แพ้ ทายาบ่อยๆ อย่าเกาแป๊บเดียวก็หาย แต่ถ้าแพ้ พี่จะพาไปหาหมอ”ชายหนุ่มหยิบกระดาษมาเช็ดมือ เมื่อทายาให้หญิงสาวเรียบร้อย

หาหมอ...พารินตาวาว หรือเธอจะหลอกเขาว่าแพ้มด ให้เขาพาไปหาหมอ แล้วหาทางหนี

“ไปคลินิกใช่ไหม” ที่เล็กๆ คนน้อยๆ เธอคงหาโอกาสง่ายกว่าโรงพยาบาล

“อย่าแม้แต่จะคิดนะ บัญชีวันนี้ยังไม่ได้สะสาง อย่าให้พี่ต้องเหนื่อยอีกรอบ” ธารณ์ปรามเมื่อเห็นประกายวิบวับจากดวงตากลมโต

พอถูกจับได้ พารินก็หน้าม่อย...อย่าว่าแต่หนีเลย แค่วางแผนก็ถูกรู้ทันเสียแล้ว เซ็งจริงๆ

“ไม่แพ้” หญิงสาวตอบเสียงสะบัด

ธารณ์ยิ้มออกเมื่อได้รับคำตอบที่น่าพอใจ “ไหนขอดูมือหน่อย”

“อะไรอีกล่ะ ที่เท้าก็ทายาแล้ว จะดูมือทำไมอีก”

“พี่จะดูว่าเป็นแผลหรือเปล่า ถ้าเป็นแผลจะได้ใส่ยา”

ตอนหญิงสาวเข้าไปอาบน้ำ นอกจากไปหยิบยาแล้วเขาก็ยังสำรวจรอบห้อง เขาอยากรู้ว่าพารินหนีออกไปได้อย่างไรทั้งๆที่เป็นชั้นสอง ก็พบว่าผ้าที่เคยใช้ปูเตียงถูกฉีกจนขาด แล้วใช้เป็นเชือกเพื่อปีนลงไปชั้นล่าง ไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่าผู้หญิงตัวเล็กอย่างพารินจะฤทธิ์เยอะ ความพยายามสูงขนาดนี้

ไม่กลัวเจ็บตัวบ้างหรือไงนะ

“อ๋อ” หญิงสาวไม่ได้ส่งมือให้เขาดู แต่ยกขึ้นมองเสียเองแค่สัมผัสแผ่วๆเมื่อครู่ก็ทำเอาเธอใจสั่น หวิวๆอย่างประหลาดแล้ว เธอไม่เสี่ยงให้เขาสำรวจมืออีกหรอก

“ไม่นะ ไม่เจ็บ ไม่ปวด ไม่พอง”หญิงสาวตอบตามจริง

“ก็ดี ถ้าเกิดตุ่มน้ำขึ้นมา แสบอีกหลายวันแน่”

“ฉันไม่ใช่คนมือบางขนาดนั้นหรอกน่า” หญิงสาวเบะปากใส่คนที่ดูถูกกัน...

รู้จักพารินน้อยไปเสียแล้ว

“แปลกนะ เมื่อก่อนไม่เห็นพายเป็นแบบนี้”

“หมายความว่ายังไง ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้มานานแล้ว” เจอหน้ากันแค่ไม่กี่ครั้ง เขารู้จักเธอดีแค่ไหนกันเชียว ชิ

“ก็เมื่อก่อนพายขี้โรคจะตาย ไอ้นั่นก็กลัว ไอ้นี่ก็ไม่เอา ไม่คิดว่าจะปีนบ้านได้”

ในความทรงจำของเขา ทุกครั้งที่เจอพาริน เจ้าหล่อนจะอยู่ในชุดสีชมพู กระโปรงฟูฟ่อง เหมือนเจ้าหญิงตัวน้อยที่รอคอยอัศวินมาปกป้อง ใครจะคิดว่าเวลาไม่นานเธอจะกลายเป็นคนปีนป่ายเก่งขนาดนี้ ดูจากเงื่อนที่ใช้ ไม่ใช่การผูกส่งๆแน่ดูเหมือนเขาต้องมองพารินใหม่

“ผิดกับฉันนะ...” หญิงสาวแกล้งขยักไว้แค่นั้น พอเห็นท่าทางเหมือนดีใจแวบหนึ่งจากดวงตาคู่คม มุมปากก็ยกขึ้น “ไม่มีภาพนายอยู่ในความทรงจำเลย หรือถ้ามี ก็เล็กเท่าเม็ดถั่ว”หญิงสาวจีบนิ้วกะขนาดเม็ดถั่วประกอบ ยิ่งได้เห็นอาการผิดหวังฉาบไปทั่วใบหน้าชายหนุ่มอย่างปิดไม่มิด พารินก็ยิ่งสะใจ

ให้มันรู้เสียบางว่าใครเป็นใคร

ทว่าพารินก็ยิ้มกริ่มได้ไม่นาน ประโยคต่อมาของชายหนุ่มเล่นเอาหญิงสาวแทบกรี๊ด

“สมองเป็นแมลงวันหัวเขียวหรือไง ถึงจำได้แค่เม็ดถั่ว...อ๊ะ อย่านะ”ชายหนุ่มขึงตาปรามเมื่อเห็นหญิงสาวทำท่าจะแว้ดกลับ

“ทำไม นายจะทำอะไรฉัน”

“ก็ไม่รู้สินะ ปกติเวลาโจรจับตัวผู้หญิงมาขังไว้ เวลาดื้อๆ พวกมันใช้วิธีไหนกำราบให้หุบปากนะ”









เนตรนภัส
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 ก.ค. 2560, 19:21:07 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 ก.ค. 2560, 19:21:07 น.

จำนวนการเข้าชม : 803





<< บทที่ 3 [2/2] ครบแล้วจ้า   บทที่ 4 [2/2] ครบแล้วครับป๋ม >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account