พนาพร่ำรัก: หอมดึก (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เมื่อ 'พนสณฑ์' ทายาทเจ้าสัวพันล้าน ถูกกลั่นแกล้งให้รับมรดกเป็นที่ดินรกร้าง พร้อมเงื่อนไขต้องสร้างเงินล้านให้ได้ภายในปีเดียว แถมยังพ่วงเมียขัดดอก ลูกสาวนักพนันมาด้วย จะไหวไหมงานนี้...
***************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งกำลังวางจำหน่ายอยู่ในตอนนี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบแนวโรแมนติก น่ารักละมุน หวานซึ้ง มิควรพลาดจ้า เพราะพ่อสณฑ์ของเราถึงแม้จะเป็นพระเอกสายโหด แต่ขยัน ‘รัก’ เมียสุดหัวใจ พ่วงด้วยความฮาแบบชาวบ้านตามท้องไร่ท้องนา บทเลิฟซีนสวย #รับประกันความสนุก!
**************
นักอ่านท่านใดสนใจ มีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
**สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
-ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com และร้าน booksforfun
-สั่งซื้อกับสนพ.โดยตรงโดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์
(หนังสือพร้อมส่ง)
ราคา 329฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 369฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 389฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
**แบบ eBook มีวางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket**
***************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งกำลังวางจำหน่ายอยู่ในตอนนี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบแนวโรแมนติก น่ารักละมุน หวานซึ้ง มิควรพลาดจ้า เพราะพ่อสณฑ์ของเราถึงแม้จะเป็นพระเอกสายโหด แต่ขยัน ‘รัก’ เมียสุดหัวใจ พ่วงด้วยความฮาแบบชาวบ้านตามท้องไร่ท้องนา บทเลิฟซีนสวย #รับประกันความสนุก!
**************
นักอ่านท่านใดสนใจ มีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
**สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
-ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com และร้าน booksforfun
-สั่งซื้อกับสนพ.โดยตรงโดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์
(หนังสือพร้อมส่ง)
ราคา 329฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 369฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 389฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
**แบบ eBook มีวางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket**
Tags: แบดบอย ทายาทเศรษฐี ลูกสาวนักพนัน เมียขัดดอก น่ารัก ละมุน คู่ชีวิต ท้องไร่ท้องนา
ตอน: บทที่ 10 - 50%
“ลูกกวาดๆ อย่าวิ่ง หยุดนะ เดี๋ยวตกบ้าน”
เสียงหวานใสที่คุ้นหูมากขึ้นทุกวันดังอยู่นอกประตูห้องนอน แสงแดดลอดฝากระดานกระท่อมเข้ามาแยงตา พนสณฑ์ยังเปลือยเปล่าอยู่ใต้ผ้าห่มหนา เขาพลิกกายแกร่งไปด้านที่ว่างของเตียง รวบหมอนนิ่มมีรอยบุ๋มเข้าดม กดใบหน้าเข้ากับกลิ่นผมหอมกรุ่นที่อ้อยอิ่งอยู่กับหมอน
“อย่าวิ่ง เดี๋ยวตกนะ อยู่นิ่งๆ มาดื่มนมเสียดีๆ ลูกอมมานี่เลย นิ่งๆ” เสียงหวานใสแว่วเข้ามาอีก เขาอมยิ้มในหน้า นึกภาพเจ้าลูกอมกับเจ้าลูกกวาดเป็นลูกน้อยชายหญิงเล็กๆ แสนน่ารัก วิ่งดุกดิกๆ ทั่วบ้านให้แม่วิ่งจับ ยิ่งคิดยิ่งอยากมีลูก เอ...ป่านนี้ลูกจะมาเกิดหรือยังนะ
“ไหน ใครดื้อ มาให้ตีเสียดีๆ”
เขาออกจากห้องนอนมาในสภาพสวมเพียงกางเกงนอนขายาวตัวเดียว เผยแผงอกกว้างบึกบึนที่หล่อนซบนอนทั้งคืน
รุจิรัตน์เงยหน้ามองเขาแล้วก็เสก้มลงเล่นกับเจ้าสุนัขตัวน้อยทั้งสอง
“วิ่งทั่วบ้านเลยค่ะ กลัวตก สูงเหมือนกัน”
“มันไม่ตกหรอกน่า ปล่อยๆ มันเล่นไปเถอะ หรือไม่ก็เอาลงไปเล่นข้างล่างดีไหม”
“เดี๋ยวลงไปด้วยกันค่ะ ลูกแก้วกลัวมันร้องหาแม่” หล่อนเดินไปรินกาแฟใส่ถ้วยมายื่นให้เขา พนสณฑ์กุมมือน้อย ดึงมานั่งลงข้างๆ
“ปล่อยให้พวกมันได้รับรู้ความจริง แล้วก็ใช้ชีวิตต่อไปเถอะ อย่าห่วงจนเกินไปเลยนะ”
“เข้าใจค่ะ แต่ยังทำใจไม่ได้นี่คะ หิวไหม วันนี้ลูกแก้วทำข้าวต้มปลาหม้อใหญ่ ช่างชัยมายกไปบ้านพักคนงานแล้วหม้อนึง แต่ของคุณลูกแก้วทำพิเศษต่างหาก ใส่เนื้อปลาเยอะเลย”
“ชอบจังที่เมียทำอะไรพิเศษๆ ให้”
เขาก้มลงจูบต้นแขนเปลือยเปล่านอกเสื้อแขนกุดแบบสบายๆ ของหล่อน รุจิรัตน์ค้อนขวับ ก็แน่ล่ะสิ พ่อเจ้าประคุณเรียกร้องความพิเศษทั้งคืนเสียจนหล่อนแทบจะลุกไม่ไหวอยู่แล้ว รุจิรัตน์ขี้เกียจจะนั่งให้สามีแทะโลมด้วยสายตา หล่อนเดินเข้าครัวไปเตรียมสำรับอาหารเช้า
“นายครับนาย” เสียงช่างชัยให้สัญญาณการมาดังลั่นใต้ถุนบ้าน
“เรียกอะไรดังนักหนาวะ หูจะแตก” นายชะโงกหน้าลงไปมอง
“อ้าว ไม่รู้เรอะ ไม่อยากเป็นกอขอคอนี่นา แน่ะ เสื้อแสงก็ไม่ใส่ ทำอะไรเกรงใจคนโสดบ้างสิครับ”
“มีอะไรพ่อคุณ” นายประชดประชัน
“ได้เรื่องแล้วครับ ไอ้คนที่นายยิงฝังขามันน่ะ รู้ตัวแล้วว่าใคร”
“ดี ส่งคนไปล็อกตัวมันไว้ กินข้าวเช้าเสร็จกูจะไปสะสางกับมัน”
“ครับนาย” สมชัยหันหลังเดินกลับไป
เจ้าคนนั้นรูปร่างไม่ได้สูงใหญ่ไปกว่าสมบัติเด็กหนุ่มที่ทำงานให้เขามากนัก มันผอมและสูงกว่าเล็กน้อย ผมยาวรุงรังรวบไว้ข้างหลัง แขนขาสักลายประหลาดๆ เต็มตัว เพื่อนของมันก็ไม่ต่างกัน
“ชื่ออะไรกัน” นายถามเสียงเย็น มันเงยหน้าขึ้นสบตา แล้วก็ก้มลงมองดิน
“อาร์ม ไอ้นั่นไอ้ท็อป”
“ใครใช้ให้ทำ”
“เงิน ยา ใครให้ไม่สน มีให้ ทำทั้งนั้น”
“มีสมองเสือกเอาหัวแม่ตีนคิด ไอ้เด็กเมื่อวานซืน” ช่างชดอดไม่ได้ เหวี่ยงฝ่ามือลงบนใบหน้าอวดดีนั่นทีนึง กระท่อมที่พวกมันมาพี้ยากันห่างไกลบ้านเรือนผู้คนพอสมควร ทำการสอบสวนได้สบายๆ
“อย่า อย่าตีผมนะ นายที่ป่าไม้โน่นให้ทำ พอดีผมกับไอ้อาร์มโดนจับไม้ เขาตกลงว่าจะปล่อยถ้ามา เอ่อ ทำร้ายนายคนนี้” ไอ้คนที่ชื่อท็อปใจเสาะกว่าที่คิด
“เออ มึงฉลาดกว่ามัน ป่าไม้คนไหน”
“คนที่ไปที่ไร่วันนั้นไง เขาว่าเขาไปเตือนมาแล้วพวกนายไม่กลัวเอง ต้องสั่งสอน”
“อ้อ คนนั้นนั่นเอง เดี๋ยวจะไปคุย”
“ไม่ต้องไปหรอกครับ ผมพามาด้วย อยู่ในรถ” เอกชัยเอ่ย ก่อนจะเดินไปลากตัวเจ้าหน้าที่ชายวัยกลางคนร่างท้วมออกมาจากรถกระบะติดฟิล์มดำสนิท
“ไอ้ขี้ยาเลี้ยงไม่เชื่อง” นายคนนั้นพ่นใส่สองคนที่นั่งตัวงออยู่ที่พื้น
“กูเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ พวกมึงจับกูมามีความผิด ระวังไว้ดีๆ” มืออ้วนป้อมสั่นน้อยๆ ยามชี้หน้าด่ากราด ดวงตาแดงก่ำ
“ไปลากมาจากร้านคาราโอเกะครับนาย แดดเปรี้ยงงานการไม่ทำ ไปคั่วผู้หญิง เจ้าหน้าที่ของรัฐแบบพี่นี่ ติดคุกกี่ปีครับ”
“อย่ามาเสือกรู้ดี จับกูมาทำไม”
“อยากรู้ว่าทำไมส่งคนไปทำร้ายเรา” พนสณฑ์ถามช้าๆ ชัดๆ
“หน้าใหม่ กร่างๆ อย่างนาย ก็ต้องโดนเสียบ้าง”
“เท่านั้นเองรึ แค่สั่งสอน?”
“ใช่ ทำไม ใหญ่มาจากไหน” เขาสะบัดแขนหลุดจากเอกชัย หากยังยืนไม่มั่นนัก
“รับคำสั่งมาจากใคร”
“ทำไมกูต้องบอกมึง”
“ไม่บอกก็ได้ เมาๆ แบบนี้ขับรถลงเขาลาดชันอันตรายนะ อย่างที่คุณเคยเตือนผมกับลูกน้องวันที่รถพลิกคว่ำไง อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ง่ายๆ”
“นี่ นี่ขู่กันเรอะ คิดจะฆ่ากูหรือไง”
ใบหน้าอวบอูม ที่เคยแดงก่ำเปลี่ยนเป็นซีดเผือด ผงะถอย
“มันอาจจะเป็นอุบัติเหตุก็ได้นะ ข่าวหน้าหนึ่งเลยล่ะ เจ้าหน้าที่ป่าไม้เมาเหล้ากลางวันแสกๆ ขับรถหลุดโค้งตกเขา ตาย” พนสณฑ์เอ่ยเสียงเย็นเฉียบ สองขาก้าวรุก มันผงะถอย
“เรื่องอะไร อย่ามาลงที่ผม ผมแค่รับเงิน เรื่องในครอบครัวเดียวกันแท้ๆ ก็เจ้าสัวบอกว่าแค่สั่งสอนลูกหลาน ทำไมจะมาฆ่าผม”
“เจ้าสัวรึ” ใบหน้าคมสันแปรเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ ดวงตาคมตวัดจ้องมอง มือแกร่งรวบคอเสื้อสกปรกยกสูงจนเท้าแทบพ้นดิน
“เจ้าสัวไหน”
“ประภาส เสถียรพงศ์ประภากร”
เสียงตอบชัดเจนก้องในหูเขา พนสณฑ์ปล่อยร่างอ้วนเผละลงกระแทกพื้นจนจุก ตวัดสายตามองเอกชัยและลูกน้อง
“สั่งสอนให้หลาบจำ จัดการให้เรียบร้อยแล้วปล่อยไป”
“ครับนาย” ร่างสูง เหยียดตรง เตรียมจะก้าวออกไป แล้วกลับชะงัก ใบหน้าคมหันขวับมามองเจ้าขี้ยาทั้งสอง มันหลบวูบ
“มึงคนไหนวางยาหมากู”
“อะ ไอ้ ไอ้ท็อปครับ”
เพียะ! พลั่ก!
“มึงมันชิงหมามาเกิด จำไว้อย่าเฉียดไปใกล้ไร่กูอีก ไม่งั้นพ่อแม่หาศพมึงไม่เจอแน่”
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บเลิฟ
เสียงหวานใสที่คุ้นหูมากขึ้นทุกวันดังอยู่นอกประตูห้องนอน แสงแดดลอดฝากระดานกระท่อมเข้ามาแยงตา พนสณฑ์ยังเปลือยเปล่าอยู่ใต้ผ้าห่มหนา เขาพลิกกายแกร่งไปด้านที่ว่างของเตียง รวบหมอนนิ่มมีรอยบุ๋มเข้าดม กดใบหน้าเข้ากับกลิ่นผมหอมกรุ่นที่อ้อยอิ่งอยู่กับหมอน
“อย่าวิ่ง เดี๋ยวตกนะ อยู่นิ่งๆ มาดื่มนมเสียดีๆ ลูกอมมานี่เลย นิ่งๆ” เสียงหวานใสแว่วเข้ามาอีก เขาอมยิ้มในหน้า นึกภาพเจ้าลูกอมกับเจ้าลูกกวาดเป็นลูกน้อยชายหญิงเล็กๆ แสนน่ารัก วิ่งดุกดิกๆ ทั่วบ้านให้แม่วิ่งจับ ยิ่งคิดยิ่งอยากมีลูก เอ...ป่านนี้ลูกจะมาเกิดหรือยังนะ
“ไหน ใครดื้อ มาให้ตีเสียดีๆ”
เขาออกจากห้องนอนมาในสภาพสวมเพียงกางเกงนอนขายาวตัวเดียว เผยแผงอกกว้างบึกบึนที่หล่อนซบนอนทั้งคืน
รุจิรัตน์เงยหน้ามองเขาแล้วก็เสก้มลงเล่นกับเจ้าสุนัขตัวน้อยทั้งสอง
“วิ่งทั่วบ้านเลยค่ะ กลัวตก สูงเหมือนกัน”
“มันไม่ตกหรอกน่า ปล่อยๆ มันเล่นไปเถอะ หรือไม่ก็เอาลงไปเล่นข้างล่างดีไหม”
“เดี๋ยวลงไปด้วยกันค่ะ ลูกแก้วกลัวมันร้องหาแม่” หล่อนเดินไปรินกาแฟใส่ถ้วยมายื่นให้เขา พนสณฑ์กุมมือน้อย ดึงมานั่งลงข้างๆ
“ปล่อยให้พวกมันได้รับรู้ความจริง แล้วก็ใช้ชีวิตต่อไปเถอะ อย่าห่วงจนเกินไปเลยนะ”
“เข้าใจค่ะ แต่ยังทำใจไม่ได้นี่คะ หิวไหม วันนี้ลูกแก้วทำข้าวต้มปลาหม้อใหญ่ ช่างชัยมายกไปบ้านพักคนงานแล้วหม้อนึง แต่ของคุณลูกแก้วทำพิเศษต่างหาก ใส่เนื้อปลาเยอะเลย”
“ชอบจังที่เมียทำอะไรพิเศษๆ ให้”
เขาก้มลงจูบต้นแขนเปลือยเปล่านอกเสื้อแขนกุดแบบสบายๆ ของหล่อน รุจิรัตน์ค้อนขวับ ก็แน่ล่ะสิ พ่อเจ้าประคุณเรียกร้องความพิเศษทั้งคืนเสียจนหล่อนแทบจะลุกไม่ไหวอยู่แล้ว รุจิรัตน์ขี้เกียจจะนั่งให้สามีแทะโลมด้วยสายตา หล่อนเดินเข้าครัวไปเตรียมสำรับอาหารเช้า
“นายครับนาย” เสียงช่างชัยให้สัญญาณการมาดังลั่นใต้ถุนบ้าน
“เรียกอะไรดังนักหนาวะ หูจะแตก” นายชะโงกหน้าลงไปมอง
“อ้าว ไม่รู้เรอะ ไม่อยากเป็นกอขอคอนี่นา แน่ะ เสื้อแสงก็ไม่ใส่ ทำอะไรเกรงใจคนโสดบ้างสิครับ”
“มีอะไรพ่อคุณ” นายประชดประชัน
“ได้เรื่องแล้วครับ ไอ้คนที่นายยิงฝังขามันน่ะ รู้ตัวแล้วว่าใคร”
“ดี ส่งคนไปล็อกตัวมันไว้ กินข้าวเช้าเสร็จกูจะไปสะสางกับมัน”
“ครับนาย” สมชัยหันหลังเดินกลับไป
เจ้าคนนั้นรูปร่างไม่ได้สูงใหญ่ไปกว่าสมบัติเด็กหนุ่มที่ทำงานให้เขามากนัก มันผอมและสูงกว่าเล็กน้อย ผมยาวรุงรังรวบไว้ข้างหลัง แขนขาสักลายประหลาดๆ เต็มตัว เพื่อนของมันก็ไม่ต่างกัน
“ชื่ออะไรกัน” นายถามเสียงเย็น มันเงยหน้าขึ้นสบตา แล้วก็ก้มลงมองดิน
“อาร์ม ไอ้นั่นไอ้ท็อป”
“ใครใช้ให้ทำ”
“เงิน ยา ใครให้ไม่สน มีให้ ทำทั้งนั้น”
“มีสมองเสือกเอาหัวแม่ตีนคิด ไอ้เด็กเมื่อวานซืน” ช่างชดอดไม่ได้ เหวี่ยงฝ่ามือลงบนใบหน้าอวดดีนั่นทีนึง กระท่อมที่พวกมันมาพี้ยากันห่างไกลบ้านเรือนผู้คนพอสมควร ทำการสอบสวนได้สบายๆ
“อย่า อย่าตีผมนะ นายที่ป่าไม้โน่นให้ทำ พอดีผมกับไอ้อาร์มโดนจับไม้ เขาตกลงว่าจะปล่อยถ้ามา เอ่อ ทำร้ายนายคนนี้” ไอ้คนที่ชื่อท็อปใจเสาะกว่าที่คิด
“เออ มึงฉลาดกว่ามัน ป่าไม้คนไหน”
“คนที่ไปที่ไร่วันนั้นไง เขาว่าเขาไปเตือนมาแล้วพวกนายไม่กลัวเอง ต้องสั่งสอน”
“อ้อ คนนั้นนั่นเอง เดี๋ยวจะไปคุย”
“ไม่ต้องไปหรอกครับ ผมพามาด้วย อยู่ในรถ” เอกชัยเอ่ย ก่อนจะเดินไปลากตัวเจ้าหน้าที่ชายวัยกลางคนร่างท้วมออกมาจากรถกระบะติดฟิล์มดำสนิท
“ไอ้ขี้ยาเลี้ยงไม่เชื่อง” นายคนนั้นพ่นใส่สองคนที่นั่งตัวงออยู่ที่พื้น
“กูเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ พวกมึงจับกูมามีความผิด ระวังไว้ดีๆ” มืออ้วนป้อมสั่นน้อยๆ ยามชี้หน้าด่ากราด ดวงตาแดงก่ำ
“ไปลากมาจากร้านคาราโอเกะครับนาย แดดเปรี้ยงงานการไม่ทำ ไปคั่วผู้หญิง เจ้าหน้าที่ของรัฐแบบพี่นี่ ติดคุกกี่ปีครับ”
“อย่ามาเสือกรู้ดี จับกูมาทำไม”
“อยากรู้ว่าทำไมส่งคนไปทำร้ายเรา” พนสณฑ์ถามช้าๆ ชัดๆ
“หน้าใหม่ กร่างๆ อย่างนาย ก็ต้องโดนเสียบ้าง”
“เท่านั้นเองรึ แค่สั่งสอน?”
“ใช่ ทำไม ใหญ่มาจากไหน” เขาสะบัดแขนหลุดจากเอกชัย หากยังยืนไม่มั่นนัก
“รับคำสั่งมาจากใคร”
“ทำไมกูต้องบอกมึง”
“ไม่บอกก็ได้ เมาๆ แบบนี้ขับรถลงเขาลาดชันอันตรายนะ อย่างที่คุณเคยเตือนผมกับลูกน้องวันที่รถพลิกคว่ำไง อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ง่ายๆ”
“นี่ นี่ขู่กันเรอะ คิดจะฆ่ากูหรือไง”
ใบหน้าอวบอูม ที่เคยแดงก่ำเปลี่ยนเป็นซีดเผือด ผงะถอย
“มันอาจจะเป็นอุบัติเหตุก็ได้นะ ข่าวหน้าหนึ่งเลยล่ะ เจ้าหน้าที่ป่าไม้เมาเหล้ากลางวันแสกๆ ขับรถหลุดโค้งตกเขา ตาย” พนสณฑ์เอ่ยเสียงเย็นเฉียบ สองขาก้าวรุก มันผงะถอย
“เรื่องอะไร อย่ามาลงที่ผม ผมแค่รับเงิน เรื่องในครอบครัวเดียวกันแท้ๆ ก็เจ้าสัวบอกว่าแค่สั่งสอนลูกหลาน ทำไมจะมาฆ่าผม”
“เจ้าสัวรึ” ใบหน้าคมสันแปรเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ ดวงตาคมตวัดจ้องมอง มือแกร่งรวบคอเสื้อสกปรกยกสูงจนเท้าแทบพ้นดิน
“เจ้าสัวไหน”
“ประภาส เสถียรพงศ์ประภากร”
เสียงตอบชัดเจนก้องในหูเขา พนสณฑ์ปล่อยร่างอ้วนเผละลงกระแทกพื้นจนจุก ตวัดสายตามองเอกชัยและลูกน้อง
“สั่งสอนให้หลาบจำ จัดการให้เรียบร้อยแล้วปล่อยไป”
“ครับนาย” ร่างสูง เหยียดตรง เตรียมจะก้าวออกไป แล้วกลับชะงัก ใบหน้าคมหันขวับมามองเจ้าขี้ยาทั้งสอง มันหลบวูบ
“มึงคนไหนวางยาหมากู”
“อะ ไอ้ ไอ้ท็อปครับ”
เพียะ! พลั่ก!
“มึงมันชิงหมามาเกิด จำไว้อย่าเฉียดไปใกล้ไร่กูอีก ไม่งั้นพ่อแม่หาศพมึงไม่เจอแน่”
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บเลิฟ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 พ.ค. 2561, 12:10:36 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 พ.ค. 2561, 12:10:36 น.
จำนวนการเข้าชม : 768
<< บทที่ 9 - 100% | บทที่ 10 - 100% >> |
mottanoy 7 พ.ค. 2561, 13:22:44 น.
คุณสณฑ์!!!! บทดุแมนอย่าบอกใครเชียว
คุณสณฑ์!!!! บทดุแมนอย่าบอกใครเชียว
ปลายปากกาสำนักพิมพ์ 7 พ.ค. 2561, 15:12:43 น.
ใช่ๆ คุณสณฑ์เท่บาดใจมากๆค่ะคุณ mottanoy
ใช่ๆ คุณสณฑ์เท่บาดใจมากๆค่ะคุณ mottanoy
กาซะลองพลัดถิ่น 7 พ.ค. 2561, 18:52:19 น.
เด็ดขาด โหด ...แต่ไม่เถื่อน ชอบ
เด็ดขาด โหด ...แต่ไม่เถื่อน ชอบ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์ 8 พ.ค. 2561, 08:58:37 น.
คุณกาซะลองพลัดถิ่น หลงเสน่ห์คุณสณฑ์เข้าแล้ว อิอิ
คุณกาซะลองพลัดถิ่น หลงเสน่ห์คุณสณฑ์เข้าแล้ว อิอิ