ทรายล้อมเพชร: สะมะเรีย (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เมื่อรจนาอย่างนางรำ ‘เพชรไพลิน’ เสี่ยงพวงมาลัยดอกรักออกไป คนรับหาใช่เจ้าเงาะป่าไม่ แต่กลับเป็นถึง ‘ชีคมุซตาฮ์ซาน บินรามาน อัลซาบาฮัท’ ผู้ปกครองรัฐรามาน
ทั้งสองตกอยู่ในบ่วงเสน่หาซึ่งกันและกันเพียงแค่พบสบตา ความรักได้ก่อตัวขึ้นหวานล้ำราวน้ำผึ้ง ทว่า...ที่ใดมีรัก ก็ย่อมมีทุกข์ เพชรไพลินจึงต้องพบกับอุปสรรคที่เต็มไปด้วยขวากหนามแหลมคม ทั้งจากมารดาเลี้ยงและบรรดาสาวๆ ที่อยู่ในฮาเร็มของชีคหนุ่ม
ซ้ำร้ายที่สุด...ชายคนรักยังลงมือกรีดหัวใจของเธอด้วยตัวเขาเอง
เช่นนี้แล้วเพชรที่ว่ากล้าแกร่งจะทนทานต่อการแผดเผาหัวใจจนปวดร้าวทรมานได้หรือไม่ หรือเธอ...จะลาลับจากเขาไปตลอดกาล
*************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "สะมะเรีย" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งกำลังวางจำหน่ายอยู่ตอนนี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบนิยายแนวทะเลทราย โรมานซ์ ดราม่า มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง นอกจากความฟินชวนให้ยิ้มแก้มแตกในความเป็นสุภาพบุรุษของท่านชีคแล้ว สะมะเรียถ่ายทอดความดราม่าในความรักของหนุ่มสาวได้ชนิดที่น้ำตาไหลพรากทีเดียว ที่สำคัญ ยังผสมผสานศิลปวัฒนธรรมไทยเข้าไปในแนวทะเลทรายได้อย่างน่าประทับใจ #พร้อมตอนพิเศษ #ฟินทวีคูณ! #ติดหนึบ #รับประกันความสนุก!
***********
นักอ่านท่านใดสนใจ มีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
**สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
-ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้าน booksforfun ร้าน booktogothailand และร้าน booksyourlikeshop
-inbox สั่งซื้อโดยตรงกับแอดมินเพจ 'ปลายปากกา สำนักพิมพ์' หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
(หนังสือเหลือแต่เล่มมีตำหนิ)
ราคา 280฿ (จากปก 372฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 320฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 340฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
ทั้งสองตกอยู่ในบ่วงเสน่หาซึ่งกันและกันเพียงแค่พบสบตา ความรักได้ก่อตัวขึ้นหวานล้ำราวน้ำผึ้ง ทว่า...ที่ใดมีรัก ก็ย่อมมีทุกข์ เพชรไพลินจึงต้องพบกับอุปสรรคที่เต็มไปด้วยขวากหนามแหลมคม ทั้งจากมารดาเลี้ยงและบรรดาสาวๆ ที่อยู่ในฮาเร็มของชีคหนุ่ม
ซ้ำร้ายที่สุด...ชายคนรักยังลงมือกรีดหัวใจของเธอด้วยตัวเขาเอง
เช่นนี้แล้วเพชรที่ว่ากล้าแกร่งจะทนทานต่อการแผดเผาหัวใจจนปวดร้าวทรมานได้หรือไม่ หรือเธอ...จะลาลับจากเขาไปตลอดกาล
*************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "สะมะเรีย" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งกำลังวางจำหน่ายอยู่ตอนนี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบนิยายแนวทะเลทราย โรมานซ์ ดราม่า มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง นอกจากความฟินชวนให้ยิ้มแก้มแตกในความเป็นสุภาพบุรุษของท่านชีคแล้ว สะมะเรียถ่ายทอดความดราม่าในความรักของหนุ่มสาวได้ชนิดที่น้ำตาไหลพรากทีเดียว ที่สำคัญ ยังผสมผสานศิลปวัฒนธรรมไทยเข้าไปในแนวทะเลทรายได้อย่างน่าประทับใจ #พร้อมตอนพิเศษ #ฟินทวีคูณ! #ติดหนึบ #รับประกันความสนุก!
***********
นักอ่านท่านใดสนใจ มีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
**สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
-ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้าน booksforfun ร้าน booktogothailand และร้าน booksyourlikeshop
-inbox สั่งซื้อโดยตรงกับแอดมินเพจ 'ปลายปากกา สำนักพิมพ์' หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
(หนังสือเหลือแต่เล่มมีตำหนิ)
ราคา 280฿ (จากปก 372฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 320฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 340฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: โรมานซ์ ชีค นางรำ พาฝัน ดราม่า ริษยา
ตอน: บทที่ 4 -50% + หนังสือวางจำหน่าย
“ฉันขอโทษที่เป็นต้นเหตุให้เธอต้องมาเจอเรื่องแย่ๆ แบบนี้” ชีคมุซตาฮ์ซานพูด พลางล้วงผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาซับน้ำที่ใบหน้าของหญิงสาว
เพชรไพลินยิ้มน้อยๆ หยุดร้องไห้ตั้งแต่ได้ยินคำว่าคนรักจากปากของเขาแล้ว ความน้อยใจที่ประดังเข้ามาก่อนหน้านี้พลันจางหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“ช่างเถอะค่ะ เรื่องเล็กน้อย ความจริงเพชรควรจะเตรียมใจกับเรื่องเหล่านี้เอาไว้เสียแต่เนิ่นๆ ถ้าริอ่านคบกับท่านชีคก็คงต้องทำใจเรื่องผู้หญิง” เธอยิ้มขัน
แม้จะมีแววขมขื่นในน้ำเสียงเพียงเล็กน้อย กระนั้นชีคหนุ่มก็จับน้ำเสียงและความรู้สึกของเธอได้
“ก่อนหน้านี้ฉันอาจจะมีผู้หญิงมากมาย แต่ขอให้เชื่อใจว่านับจากนี้ฉันจะมีแต่เธอ” คำพูดหนักแน่นทำให้หัวใจที่อ่อนไหวหยุดแกว่งไกวลงอย่างฉับพลัน
“ขอบคุณค่ะท่านชีค ขอบคุณที่มอบความรู้สึกดีๆ ให้กับเพชร”
“กลับกันเถอะเพชร ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่คอนโดฯ ฉันก่อน กลับไปที่บ้านเธอตอนนี้คงไม่ดีนัก เดี๋ยวคุณแม่ของเธอจะตกใจ” ชายหนุ่มจับมือของหญิงสาวแล้วเรียกบริกรมาเก็บเงินค่าอาหาร เพชรไพลินมองอาหารพวกนั้นอย่างเสียดายก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเขา
“แล้วอาหารพวกนี้ล่ะคะ”
“ช่างเถอะ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน แล้วค่อยออกไปหาอะไรอร่อยๆ ทานที่ร้านอื่นก็ได้” เขามิได้สนใจอาหารราคาแพงที่เพิ่งสั่งมาเหล่านั้นแม้แต่น้อย
หญิงสาวส่ายหน้าไปมาแล้วจึงหันไปพูดกับบริกรหนุ่ม “ช่วยห่ออาหารพวกนี้ให้ด้วยนะคะ ดิฉันจะเอากลับไปด้วย”
“ครับคุณผู้หญิง” บริกรโค้งตัวแล้วหยิบจานอาหารเดินกลับเข้าไปในครัว
ชีคมุซตาฮ์ซานเลิกคิ้วสูงด้วยความงุนงง
“ไหนๆ ก็ต้องกลับไปที่คอนโดฯ ท่านชีคอยู่แล้ว เอาอาหารพวกนี้ไปอุ่นทานก็ไม่น่าจะมีอะไรเสียหายนี่คะ ดีเสียอีกจะได้ประหยัด แล้วก็รู้คุณค่าของอาหารด้วย เพชรรู้สึกไม่ดีค่ะถ้าต้องกินทิ้งกินขว้าง พอคิดถึงเด็กๆ ที่อดอยากและหิวโหยมันทำให้เพชรรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนใจร้าย” หญิงสาวเสียงเครือในตอนท้าย
“เธอมีความคิดที่ดี ต่อไปฉันจะรู้จักคุณค่าของอาหารเหมือนเธอ จะไม่กินเหลือ จะกินอาหารให้หมดจานทุกครั้งเลย” ชายหนุ่มรับถุงอาหารจาก บริกรมาถือไว้แล้วจูงมือหญิงสาวกลับไปที่รถ
ยิ่งได้เรียนรู้ เขาก็ยิ่งหลงรักหญิงสาวข้างกาย จนคิดไม่ออกเลยว่าจะมีอะไรมาทำให้เขาหยุดรักเธอได้!
***************
ห้องเพนท์เฮาส์หรูชั้นบนสุดของคอนโดฯ ที่ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิททำให้เพชรไพลินลังเลเล็กน้อยที่จะก้าวเข้าไป เมื่อประตูบานใหญ่เปิดออกแสงสีส้มอ่อนก็สว่างขึ้น หญิงสาวเหลือบมองไปรอบๆ จนแทบจะลืมหายใจ ห้องเพนท์เฮาส์ราคาแพงถูกตบแต่งด้วยพรมสีเข้ม ผนังบุด้วยอิฐก้อนใหญ่สำหรับตกแต่ง พื้นห้องเล่นระดับลดหลั่นตามความสำคัญของพื้นที่ใช้สอย ทำให้แยกเป็นสัดส่วนได้อย่างชัดเจน
“รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียเถอะ เดี๋ยวชุดนี้ฉันจะให้แม่บ้านเอาลงไปซักให้” ชายหนุ่มส่งผ้าเช็ดตัวผืนหนาให้เธอ แล้วเดินไปกดกริ่ง ครู่เดียวแม่บ้านก็เดินเข้ามา โค้งตัวอย่างนอบน้อม
“พาคุณเพชรไปอาบน้ำที่ห้องของฉัน แล้วเอาเสื้อผ้าของเธอไปซักให้ด้วย”
“ค่ะท่านชีค” แม่บ้านรับคำแล้วเดินนำเพชรไพลินไป
หญิงสาวเดินผ่านห้องโถง ประตูโค้งมนคล้ายรูปดอกบัวบุโมเสกสีเขียวมรกตสลับทองระยิบระยับ
“เชิญค่ะคุณเพชร” แม่บ้านเปิดประตูห้องนอนของชีคหนุ่ม ปฏิบัติกับหญิงสาวตรงหน้าอย่างนอบน้อม ผู้หญิงคนนี้เป็นคนแรกเลยก็ว่าได้ที่ท่านชีคยอมให้เข้ามาในห้องนอนของท่าน เพราะหากเป็นผู้หญิงคนอื่น ท่านจะหลับนอนกับพวกหล่อนอีกห้องหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องรับรองโดยเฉพาะ
แม่บ้านจึงรู้ได้ในทันทีว่า หญิงสาวคนนี้พิเศษกว่าคนอื่นๆ
“ขอบคุณมากค่ะ” เพชรไพลินเอ่ยขอบคุณแล้วหมุนตัวมองไปรอบห้องด้วยความตื่นตาตื่นใจ
“อีกสักครู่ดิฉันจะเข้ามารับเสื้อผ้านะคะ”
“ค่ะ” เพชรไพลินรอจนแม่บ้านออกไปแล้ว เธอจึงเปลี่ยนชุดเดรสที่เปียกชื้นออก พันกายด้วยผ้าเช็ดตัว เธอมองที่เตียงนอนไม้โอ๊กสีเข้ม เป็นเตียงสี่เสาไม่ได้ห้อยผ้าลูกไม้ระย้าอย่างที่หญิงสาวชอบ แต่คลุมพาดระหว่างเสาด้วยผ้าคล้ายพรมสีน้ำตาลแก่ ตัวที่นอนเองก็เป็นสีน้ำตาลเช่นเดียวกัน
หญิงสาวเดินไปหยุดยืนอยู่ข้างเตียงตรงโต๊ะไม้เล็กๆ วางโคมไฟที่ทำจากกระจกสีเลือดหมูสลับกับน้ำตาลอ่อน ข้างโคมไฟมีกรอบรูปถ่ายวางอยู่ หญิงสาวหยิบมันขึ้นมาดูอย่างถือวิสาสะ เป็นรูปของชีคหนุ่มสวมโต๊บ สีเขียวไข่กาซึ่งเป็นเสื้อคลุมยาวคอปิด แขนยาว ปลายเสื้อยาวจดปลายเท้า อิริยาบถสบายๆ นั่งคู่กับชายสูงวัยที่เดาว่าน่าจะเป็นบิดาของเขา เพราะมีใบหน้าพิมพ์เดียวกัน ส่วนที่นั่งขนาบบิดาอีกข้างเดาว่าน่าจะเป็นมารดาแต่งกายอย่างสตรีอาหรับคลุมผมด้วยฮิญาบสีอ่อนดิ้นด้วยไหมทองงดงามจับตา ข้างหญิงสูงวัยคือหญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มวัยเยาว์ ดวงตากลมโตสุกใสน่ารัก
ครอบครัวของท่านชีค...หญิงสาวอดคิดไม่ได้ว่าหากเธอต้องพบกับพวกเขา เธอจะวางตัวเช่นไร
“ฮัดเช้ย!” หญิงสาวจามออกมา จึงรีบเข้าไปในห้องน้ำ เพราะมัวโอ้เอ้อยู่นาน ประเดี๋ยวท่านชีคจะรอนาน เสียงสายน้ำจากฝักบัวทำให้คนที่เพิ่งเดินเข้ามาอมยิ้มน้อยๆ เขาเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบเชิ้ตสีฟ้าอ่อนวางไว้บนเตียงก่อนจะเดินออกไปอย่างเงียบเชียบเช่นเดียวกับตอนเดินเข้ามา
ปัญหาใหญ่ของหญิงสาวเมื่อเดินกลับเข้ามาอีกครั้งก็คือ แม่บ้านเก็บเสื้อผ้าของเธอไปแล้ว รวมทั้งบราเซียร์และกางเกงชั้นในของเธอด้วย แล้วเธอจะทำเช่นไร จะอยู่โดยปราศจากชุดชั้นในถึงสองชั่วโมงได้อย่างไรกัน
“คงมองไม่เห็นหรอกมั้ง” หญิงสาวปลอบใจตัวเองแล้วเอาเสื้อเชิ้ตบนเตียงที่เดาว่าแม่บ้านคงนำมาวางไว้ขึ้นมาสวม ทว่ากลิ่นจากเสื้อเชิ้ตก็ทำให้เธอรู้ได้ในทันทีว่าเสื้อตัวนี้คือเสื้อของใคร กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เธอจำได้อย่างแม่นยำตอนที่เขากอดเธอครั้งแรก
เพชรไพลินหน้าแดง รีบสลัดความรู้สึกหวามไหวออกไป แล้วเดินออกจากห้องนอน ชีคมุซตาฮ์ซานนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่ห้องนั่งเล่น เมื่อเห็นหญิงสาวเดินเข้ามาเขาก็พับหนังสือพิมพ์เก็บแล้วเดินเข้าไปหาหญิงสาว
“ผมยังเปียกอยู่เลย มาสิ เดี๋ยวฉันเป่าผมให้ ปล่อยเอาไว้แบบนี้เดี๋ยวได้เป็นหวัดกันพอดี” เขาจูงมือเธอให้กลับเข้าไปในห้องนอน
“ไม่เป็นไรค่ะท่านชีค เดี๋ยวเพชรทำเอง แค่บอกว่าไดร์เป่าผมอยู่ตรงไหนก็พอค่ะ”
หญิงสาวเอ่ยขึ้นอย่างเกรงใจ ทว่าชายหนุ่มกลับส่ายหน้า
“ฉันเป็นต้นเหตุ ให้ฉันได้รับผิดชอบอะไรบ้างเถอะ”
เขากดไหล่บางให้นั่งลงที่โซฟาสีเข้มแล้วหยิบไดร์จากตู้เสื้อผ้าออกมา เร่งความร้อนอ่อนๆ แล้วเป่าลงบนผมสีดำสลวยยาวจรดเอวของหญิงสาวอย่างตั้งใจ เขาเพิ่งรู้ว่าแชมพูที่เขาใช้สระผมทุกวันนั้นมันหอมถึงขนาดนี้ หรือนั่นอาจเป็นเพราะมันติดอยู่บนเรือนผมของผู้หญิงที่เขามีจิตปฏิพัทธ์ด้วย
คนตัวเล็กนั่งเกร็งแทบไม่ยอมขยับเขยื้อนกาย กระทั่งผมของเธอหมาดจนแห้งสนิท เขาจึงปิดไดร์ หยิบหวีมาสางผมให้ช้าๆ แล้วจับช่อผมขึ้นมาจดปลายจมูก
“แม้แต่ผมก็ยังสวย”
เพชรไพลินยิ้มกว้าง หัวเราะคิก คลายอาการเกร็งเมื่อครู่ไปจนสิ้น
“สวยหมดทุกอย่างเลยหรือคะท่านชีค ปากหวานแบบนี้อยากได้อะไรเพชรยอมทั้งนั้น”
“ได้ทุกอย่างจริงหรือ”
หญิงสาวถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นแววตากรุ้มกริ่มของเขา “เอ่อ...คงต้องดูก่อนว่าเพชรจะให้ท่านชีคได้หรือเปล่า”
ไม่น่าเสียรู้ให้เขาเลย ทั้งที่น่าจะรู้ว่าเขาเจ้าเล่ห์สักแค่ไหน เด็กไม่ประสาอย่างเธอจะไปตามเล่ห์กลเหยี่ยวทะเลทรายผู้มีสายตาแหลมคมได้อย่างไรกัน
“ไหนว่าอะไรก็ยอมทั้งนั้น” เขาทวงถามสิ่งที่เธอเพิ่งจะพูดออกมา
“เพชรก็ต้องดูก่อนสิคะว่าสิ่งนั้นเพชรเสียเปรียบหรือเปล่า” หญิงสาวลุกขึ้นยืน ถอยห่างจากหมาป่าเจ้าเล่ห์ที่โน้มตัวใกล้จนแทบชิดแก้มของเธอ “เราไปทานอาหารกันดีกว่าค่ะ ห้องครัวไปทางไหนคะ เดี๋ยวเพชรจะถ่ายอาหารใส่จานแล้วเอาไปอุ่นในไมโครเวฟ”
“ทางนี้” เขาไม่ได้ชี้บอกแต่จูงมือเธอเดินไปในครัว แล้วลงมือช่วยหญิงสาวเทอาหารใส่จานแบนสีขาวค่อนข้างใหญ่
“ท่านชีคไปนั่งข้างนอกเถอะค่ะ เดี๋ยวเพชรทำเอง”
หญิงสาวเก้อเขินเมื่อมีเขาคอยยืนใกล้ๆ ช่วยจับนู้นนี้ ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอเขาไม่ใช่ชายหนุ่มสามัญชนธรรมดา แต่เป็นถึงชีคแห่งรัฐรามาน จะให้เขาเข้ามาทำครัวแบบนี้คงดูไม่ดีนัก
“จะเป็นไรเล่า ช่วยกันทำสิดี จะได้เสร็จไวๆ” ชายหนุ่มหยิบจานอาหารใส่ไมโครเวฟอย่างคล่องแคล่วราวกับว่าเขาทำอาหารเป็น
“แต่...”
“ไม่มีแต่ คนส่วนใหญ่มักคิดว่าผู้ชายตะวันออกกลางเอาเปรียบผู้หญิง ทำให้ผู้หญิงช้ำใจโดยการมีภรรยาทีละหลายๆ คน ฉันจะพิสูจน์ให้เธอรู้ว่าฉันเป็นข้อยกเว้น” เขาหันมายิ้มเท่ แกล้งปั่นป่วนจนหัวใจสาวน้อยละลายราวกับเนยโดนความร้อน
“เพชรจะคอยดูค่ะ” หญิงสาวยิ้มแล้วหมุนตัวเพื่อที่จะเดินไปหยิบช้อน แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อจู่ๆ มือหนาก็โอบรัดรอบเอวของเธอเอาไว้ ร่างบางถูกรั้งเข้าไปกอดจากทางด้านหลัง ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาจนปลายจมูกและริมฝีปากของเขาคลอเคลียอยู่ตรงต้นคอของเธอ
“ยะ...อย่าค่ะท่านชีค” เสียงห้ามสั่นพร่าขาดหาย
“แค่ขอกอด... กอดแบบนี้ได้ไหม” ท่อนแขนแข็งแกร่งโอบกระชับแน่นขึ้น แผ่นหลังบอบบางรับรู้ได้ถึงแผงอกหนาและเสียงหัวใจที่เต้นแรงของอีกฝ่าย
“กอดเฉยๆ นะคะ” หญิงสาวเอ่ยย้ำอีกครั้ง ด้วยกลัวว่าเขาจะทำอะไรที่มันมากกว่านี้ แล้วเธอเองนั่นล่ะที่จะไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะปฏิเสธ
“หอมด้วยได้ไหม”
“ไม่ได้ค่ะ” หญิงสาวปฏิเสธเสียงแข็ง แต่ก็รู้ตัวว่าหากเขาตื๊อเสียหน่อย เธอคงยอมให้เขาหอม แต่มันจะเหมือนคราวก่อนหรือเปล่า เพราะคราวก่อนเขาหอมเธอบริเวณหน้าผาก แต่หากคราวนี้เขารบเร้าจะหอมแก้ม เธอจะปฏิเสธอย่างไร
****************
ปุกาศๆ ทรายล้อมเพชรวางจำหน่ายทุกช่องทางแล้วจ้าาาาา
eBook วางจำหน่ายเว็บ Mebmarket
แบบหนังสือเล่ม วางจำหน่าย 3 ช่องทาง ดังนี้
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksyourlikeshop และร้านbooktogo
3สั่งซื้อโดยตรงกับแอดมินเพจ ‘ปลายปากกา สำนักพิมพ์’
(หนังสือพร้อมส่ง)
ฝากท่านชีคกับหนูเพชรไพลินด้วยนะคะ^^ หลังๆอย่าลืมเตรียมทิชชูไว้หนา มีเสียน้ำตาแน่นอน T^T
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บเลิฟ
เพชรไพลินยิ้มน้อยๆ หยุดร้องไห้ตั้งแต่ได้ยินคำว่าคนรักจากปากของเขาแล้ว ความน้อยใจที่ประดังเข้ามาก่อนหน้านี้พลันจางหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“ช่างเถอะค่ะ เรื่องเล็กน้อย ความจริงเพชรควรจะเตรียมใจกับเรื่องเหล่านี้เอาไว้เสียแต่เนิ่นๆ ถ้าริอ่านคบกับท่านชีคก็คงต้องทำใจเรื่องผู้หญิง” เธอยิ้มขัน
แม้จะมีแววขมขื่นในน้ำเสียงเพียงเล็กน้อย กระนั้นชีคหนุ่มก็จับน้ำเสียงและความรู้สึกของเธอได้
“ก่อนหน้านี้ฉันอาจจะมีผู้หญิงมากมาย แต่ขอให้เชื่อใจว่านับจากนี้ฉันจะมีแต่เธอ” คำพูดหนักแน่นทำให้หัวใจที่อ่อนไหวหยุดแกว่งไกวลงอย่างฉับพลัน
“ขอบคุณค่ะท่านชีค ขอบคุณที่มอบความรู้สึกดีๆ ให้กับเพชร”
“กลับกันเถอะเพชร ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่คอนโดฯ ฉันก่อน กลับไปที่บ้านเธอตอนนี้คงไม่ดีนัก เดี๋ยวคุณแม่ของเธอจะตกใจ” ชายหนุ่มจับมือของหญิงสาวแล้วเรียกบริกรมาเก็บเงินค่าอาหาร เพชรไพลินมองอาหารพวกนั้นอย่างเสียดายก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเขา
“แล้วอาหารพวกนี้ล่ะคะ”
“ช่างเถอะ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน แล้วค่อยออกไปหาอะไรอร่อยๆ ทานที่ร้านอื่นก็ได้” เขามิได้สนใจอาหารราคาแพงที่เพิ่งสั่งมาเหล่านั้นแม้แต่น้อย
หญิงสาวส่ายหน้าไปมาแล้วจึงหันไปพูดกับบริกรหนุ่ม “ช่วยห่ออาหารพวกนี้ให้ด้วยนะคะ ดิฉันจะเอากลับไปด้วย”
“ครับคุณผู้หญิง” บริกรโค้งตัวแล้วหยิบจานอาหารเดินกลับเข้าไปในครัว
ชีคมุซตาฮ์ซานเลิกคิ้วสูงด้วยความงุนงง
“ไหนๆ ก็ต้องกลับไปที่คอนโดฯ ท่านชีคอยู่แล้ว เอาอาหารพวกนี้ไปอุ่นทานก็ไม่น่าจะมีอะไรเสียหายนี่คะ ดีเสียอีกจะได้ประหยัด แล้วก็รู้คุณค่าของอาหารด้วย เพชรรู้สึกไม่ดีค่ะถ้าต้องกินทิ้งกินขว้าง พอคิดถึงเด็กๆ ที่อดอยากและหิวโหยมันทำให้เพชรรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนใจร้าย” หญิงสาวเสียงเครือในตอนท้าย
“เธอมีความคิดที่ดี ต่อไปฉันจะรู้จักคุณค่าของอาหารเหมือนเธอ จะไม่กินเหลือ จะกินอาหารให้หมดจานทุกครั้งเลย” ชายหนุ่มรับถุงอาหารจาก บริกรมาถือไว้แล้วจูงมือหญิงสาวกลับไปที่รถ
ยิ่งได้เรียนรู้ เขาก็ยิ่งหลงรักหญิงสาวข้างกาย จนคิดไม่ออกเลยว่าจะมีอะไรมาทำให้เขาหยุดรักเธอได้!
***************
ห้องเพนท์เฮาส์หรูชั้นบนสุดของคอนโดฯ ที่ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิททำให้เพชรไพลินลังเลเล็กน้อยที่จะก้าวเข้าไป เมื่อประตูบานใหญ่เปิดออกแสงสีส้มอ่อนก็สว่างขึ้น หญิงสาวเหลือบมองไปรอบๆ จนแทบจะลืมหายใจ ห้องเพนท์เฮาส์ราคาแพงถูกตบแต่งด้วยพรมสีเข้ม ผนังบุด้วยอิฐก้อนใหญ่สำหรับตกแต่ง พื้นห้องเล่นระดับลดหลั่นตามความสำคัญของพื้นที่ใช้สอย ทำให้แยกเป็นสัดส่วนได้อย่างชัดเจน
“รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียเถอะ เดี๋ยวชุดนี้ฉันจะให้แม่บ้านเอาลงไปซักให้” ชายหนุ่มส่งผ้าเช็ดตัวผืนหนาให้เธอ แล้วเดินไปกดกริ่ง ครู่เดียวแม่บ้านก็เดินเข้ามา โค้งตัวอย่างนอบน้อม
“พาคุณเพชรไปอาบน้ำที่ห้องของฉัน แล้วเอาเสื้อผ้าของเธอไปซักให้ด้วย”
“ค่ะท่านชีค” แม่บ้านรับคำแล้วเดินนำเพชรไพลินไป
หญิงสาวเดินผ่านห้องโถง ประตูโค้งมนคล้ายรูปดอกบัวบุโมเสกสีเขียวมรกตสลับทองระยิบระยับ
“เชิญค่ะคุณเพชร” แม่บ้านเปิดประตูห้องนอนของชีคหนุ่ม ปฏิบัติกับหญิงสาวตรงหน้าอย่างนอบน้อม ผู้หญิงคนนี้เป็นคนแรกเลยก็ว่าได้ที่ท่านชีคยอมให้เข้ามาในห้องนอนของท่าน เพราะหากเป็นผู้หญิงคนอื่น ท่านจะหลับนอนกับพวกหล่อนอีกห้องหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องรับรองโดยเฉพาะ
แม่บ้านจึงรู้ได้ในทันทีว่า หญิงสาวคนนี้พิเศษกว่าคนอื่นๆ
“ขอบคุณมากค่ะ” เพชรไพลินเอ่ยขอบคุณแล้วหมุนตัวมองไปรอบห้องด้วยความตื่นตาตื่นใจ
“อีกสักครู่ดิฉันจะเข้ามารับเสื้อผ้านะคะ”
“ค่ะ” เพชรไพลินรอจนแม่บ้านออกไปแล้ว เธอจึงเปลี่ยนชุดเดรสที่เปียกชื้นออก พันกายด้วยผ้าเช็ดตัว เธอมองที่เตียงนอนไม้โอ๊กสีเข้ม เป็นเตียงสี่เสาไม่ได้ห้อยผ้าลูกไม้ระย้าอย่างที่หญิงสาวชอบ แต่คลุมพาดระหว่างเสาด้วยผ้าคล้ายพรมสีน้ำตาลแก่ ตัวที่นอนเองก็เป็นสีน้ำตาลเช่นเดียวกัน
หญิงสาวเดินไปหยุดยืนอยู่ข้างเตียงตรงโต๊ะไม้เล็กๆ วางโคมไฟที่ทำจากกระจกสีเลือดหมูสลับกับน้ำตาลอ่อน ข้างโคมไฟมีกรอบรูปถ่ายวางอยู่ หญิงสาวหยิบมันขึ้นมาดูอย่างถือวิสาสะ เป็นรูปของชีคหนุ่มสวมโต๊บ สีเขียวไข่กาซึ่งเป็นเสื้อคลุมยาวคอปิด แขนยาว ปลายเสื้อยาวจดปลายเท้า อิริยาบถสบายๆ นั่งคู่กับชายสูงวัยที่เดาว่าน่าจะเป็นบิดาของเขา เพราะมีใบหน้าพิมพ์เดียวกัน ส่วนที่นั่งขนาบบิดาอีกข้างเดาว่าน่าจะเป็นมารดาแต่งกายอย่างสตรีอาหรับคลุมผมด้วยฮิญาบสีอ่อนดิ้นด้วยไหมทองงดงามจับตา ข้างหญิงสูงวัยคือหญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มวัยเยาว์ ดวงตากลมโตสุกใสน่ารัก
ครอบครัวของท่านชีค...หญิงสาวอดคิดไม่ได้ว่าหากเธอต้องพบกับพวกเขา เธอจะวางตัวเช่นไร
“ฮัดเช้ย!” หญิงสาวจามออกมา จึงรีบเข้าไปในห้องน้ำ เพราะมัวโอ้เอ้อยู่นาน ประเดี๋ยวท่านชีคจะรอนาน เสียงสายน้ำจากฝักบัวทำให้คนที่เพิ่งเดินเข้ามาอมยิ้มน้อยๆ เขาเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบเชิ้ตสีฟ้าอ่อนวางไว้บนเตียงก่อนจะเดินออกไปอย่างเงียบเชียบเช่นเดียวกับตอนเดินเข้ามา
ปัญหาใหญ่ของหญิงสาวเมื่อเดินกลับเข้ามาอีกครั้งก็คือ แม่บ้านเก็บเสื้อผ้าของเธอไปแล้ว รวมทั้งบราเซียร์และกางเกงชั้นในของเธอด้วย แล้วเธอจะทำเช่นไร จะอยู่โดยปราศจากชุดชั้นในถึงสองชั่วโมงได้อย่างไรกัน
“คงมองไม่เห็นหรอกมั้ง” หญิงสาวปลอบใจตัวเองแล้วเอาเสื้อเชิ้ตบนเตียงที่เดาว่าแม่บ้านคงนำมาวางไว้ขึ้นมาสวม ทว่ากลิ่นจากเสื้อเชิ้ตก็ทำให้เธอรู้ได้ในทันทีว่าเสื้อตัวนี้คือเสื้อของใคร กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เธอจำได้อย่างแม่นยำตอนที่เขากอดเธอครั้งแรก
เพชรไพลินหน้าแดง รีบสลัดความรู้สึกหวามไหวออกไป แล้วเดินออกจากห้องนอน ชีคมุซตาฮ์ซานนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่ห้องนั่งเล่น เมื่อเห็นหญิงสาวเดินเข้ามาเขาก็พับหนังสือพิมพ์เก็บแล้วเดินเข้าไปหาหญิงสาว
“ผมยังเปียกอยู่เลย มาสิ เดี๋ยวฉันเป่าผมให้ ปล่อยเอาไว้แบบนี้เดี๋ยวได้เป็นหวัดกันพอดี” เขาจูงมือเธอให้กลับเข้าไปในห้องนอน
“ไม่เป็นไรค่ะท่านชีค เดี๋ยวเพชรทำเอง แค่บอกว่าไดร์เป่าผมอยู่ตรงไหนก็พอค่ะ”
หญิงสาวเอ่ยขึ้นอย่างเกรงใจ ทว่าชายหนุ่มกลับส่ายหน้า
“ฉันเป็นต้นเหตุ ให้ฉันได้รับผิดชอบอะไรบ้างเถอะ”
เขากดไหล่บางให้นั่งลงที่โซฟาสีเข้มแล้วหยิบไดร์จากตู้เสื้อผ้าออกมา เร่งความร้อนอ่อนๆ แล้วเป่าลงบนผมสีดำสลวยยาวจรดเอวของหญิงสาวอย่างตั้งใจ เขาเพิ่งรู้ว่าแชมพูที่เขาใช้สระผมทุกวันนั้นมันหอมถึงขนาดนี้ หรือนั่นอาจเป็นเพราะมันติดอยู่บนเรือนผมของผู้หญิงที่เขามีจิตปฏิพัทธ์ด้วย
คนตัวเล็กนั่งเกร็งแทบไม่ยอมขยับเขยื้อนกาย กระทั่งผมของเธอหมาดจนแห้งสนิท เขาจึงปิดไดร์ หยิบหวีมาสางผมให้ช้าๆ แล้วจับช่อผมขึ้นมาจดปลายจมูก
“แม้แต่ผมก็ยังสวย”
เพชรไพลินยิ้มกว้าง หัวเราะคิก คลายอาการเกร็งเมื่อครู่ไปจนสิ้น
“สวยหมดทุกอย่างเลยหรือคะท่านชีค ปากหวานแบบนี้อยากได้อะไรเพชรยอมทั้งนั้น”
“ได้ทุกอย่างจริงหรือ”
หญิงสาวถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นแววตากรุ้มกริ่มของเขา “เอ่อ...คงต้องดูก่อนว่าเพชรจะให้ท่านชีคได้หรือเปล่า”
ไม่น่าเสียรู้ให้เขาเลย ทั้งที่น่าจะรู้ว่าเขาเจ้าเล่ห์สักแค่ไหน เด็กไม่ประสาอย่างเธอจะไปตามเล่ห์กลเหยี่ยวทะเลทรายผู้มีสายตาแหลมคมได้อย่างไรกัน
“ไหนว่าอะไรก็ยอมทั้งนั้น” เขาทวงถามสิ่งที่เธอเพิ่งจะพูดออกมา
“เพชรก็ต้องดูก่อนสิคะว่าสิ่งนั้นเพชรเสียเปรียบหรือเปล่า” หญิงสาวลุกขึ้นยืน ถอยห่างจากหมาป่าเจ้าเล่ห์ที่โน้มตัวใกล้จนแทบชิดแก้มของเธอ “เราไปทานอาหารกันดีกว่าค่ะ ห้องครัวไปทางไหนคะ เดี๋ยวเพชรจะถ่ายอาหารใส่จานแล้วเอาไปอุ่นในไมโครเวฟ”
“ทางนี้” เขาไม่ได้ชี้บอกแต่จูงมือเธอเดินไปในครัว แล้วลงมือช่วยหญิงสาวเทอาหารใส่จานแบนสีขาวค่อนข้างใหญ่
“ท่านชีคไปนั่งข้างนอกเถอะค่ะ เดี๋ยวเพชรทำเอง”
หญิงสาวเก้อเขินเมื่อมีเขาคอยยืนใกล้ๆ ช่วยจับนู้นนี้ ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอเขาไม่ใช่ชายหนุ่มสามัญชนธรรมดา แต่เป็นถึงชีคแห่งรัฐรามาน จะให้เขาเข้ามาทำครัวแบบนี้คงดูไม่ดีนัก
“จะเป็นไรเล่า ช่วยกันทำสิดี จะได้เสร็จไวๆ” ชายหนุ่มหยิบจานอาหารใส่ไมโครเวฟอย่างคล่องแคล่วราวกับว่าเขาทำอาหารเป็น
“แต่...”
“ไม่มีแต่ คนส่วนใหญ่มักคิดว่าผู้ชายตะวันออกกลางเอาเปรียบผู้หญิง ทำให้ผู้หญิงช้ำใจโดยการมีภรรยาทีละหลายๆ คน ฉันจะพิสูจน์ให้เธอรู้ว่าฉันเป็นข้อยกเว้น” เขาหันมายิ้มเท่ แกล้งปั่นป่วนจนหัวใจสาวน้อยละลายราวกับเนยโดนความร้อน
“เพชรจะคอยดูค่ะ” หญิงสาวยิ้มแล้วหมุนตัวเพื่อที่จะเดินไปหยิบช้อน แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อจู่ๆ มือหนาก็โอบรัดรอบเอวของเธอเอาไว้ ร่างบางถูกรั้งเข้าไปกอดจากทางด้านหลัง ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาจนปลายจมูกและริมฝีปากของเขาคลอเคลียอยู่ตรงต้นคอของเธอ
“ยะ...อย่าค่ะท่านชีค” เสียงห้ามสั่นพร่าขาดหาย
“แค่ขอกอด... กอดแบบนี้ได้ไหม” ท่อนแขนแข็งแกร่งโอบกระชับแน่นขึ้น แผ่นหลังบอบบางรับรู้ได้ถึงแผงอกหนาและเสียงหัวใจที่เต้นแรงของอีกฝ่าย
“กอดเฉยๆ นะคะ” หญิงสาวเอ่ยย้ำอีกครั้ง ด้วยกลัวว่าเขาจะทำอะไรที่มันมากกว่านี้ แล้วเธอเองนั่นล่ะที่จะไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะปฏิเสธ
“หอมด้วยได้ไหม”
“ไม่ได้ค่ะ” หญิงสาวปฏิเสธเสียงแข็ง แต่ก็รู้ตัวว่าหากเขาตื๊อเสียหน่อย เธอคงยอมให้เขาหอม แต่มันจะเหมือนคราวก่อนหรือเปล่า เพราะคราวก่อนเขาหอมเธอบริเวณหน้าผาก แต่หากคราวนี้เขารบเร้าจะหอมแก้ม เธอจะปฏิเสธอย่างไร
****************
ปุกาศๆ ทรายล้อมเพชรวางจำหน่ายทุกช่องทางแล้วจ้าาาาา
eBook วางจำหน่ายเว็บ Mebmarket
แบบหนังสือเล่ม วางจำหน่าย 3 ช่องทาง ดังนี้
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksyourlikeshop และร้านbooktogo
3สั่งซื้อโดยตรงกับแอดมินเพจ ‘ปลายปากกา สำนักพิมพ์’
(หนังสือพร้อมส่ง)
ฝากท่านชีคกับหนูเพชรไพลินด้วยนะคะ^^ หลังๆอย่าลืมเตรียมทิชชูไว้หนา มีเสียน้ำตาแน่นอน T^T
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บเลิฟ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 ก.ค. 2561, 09:09:18 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 ก.ค. 2561, 09:09:18 น.
จำนวนการเข้าชม : 590
<< บทที่ 3 -100% | บทที่ 4 -100% >> |