ทรายล้อมเพชร: สะมะเรีย (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เมื่อรจนาอย่างนางรำ ‘เพชรไพลิน’ เสี่ยงพวงมาลัยดอกรักออกไป คนรับหาใช่เจ้าเงาะป่าไม่ แต่กลับเป็นถึง ‘ชีคมุซตาฮ์ซาน บินรามาน อัลซาบาฮัท’ ผู้ปกครองรัฐรามาน
ทั้งสองตกอยู่ในบ่วงเสน่หาซึ่งกันและกันเพียงแค่พบสบตา ความรักได้ก่อตัวขึ้นหวานล้ำราวน้ำผึ้ง ทว่า...ที่ใดมีรัก ก็ย่อมมีทุกข์ เพชรไพลินจึงต้องพบกับอุปสรรคที่เต็มไปด้วยขวากหนามแหลมคม ทั้งจากมารดาเลี้ยงและบรรดาสาวๆ ที่อยู่ในฮาเร็มของชีคหนุ่ม
ซ้ำร้ายที่สุด...ชายคนรักยังลงมือกรีดหัวใจของเธอด้วยตัวเขาเอง
เช่นนี้แล้วเพชรที่ว่ากล้าแกร่งจะทนทานต่อการแผดเผาหัวใจจนปวดร้าวทรมานได้หรือไม่ หรือเธอ...จะลาลับจากเขาไปตลอดกาล
*************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "สะมะเรีย" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งกำลังวางจำหน่ายอยู่ตอนนี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบนิยายแนวทะเลทราย โรมานซ์ ดราม่า มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง นอกจากความฟินชวนให้ยิ้มแก้มแตกในความเป็นสุภาพบุรุษของท่านชีคแล้ว สะมะเรียถ่ายทอดความดราม่าในความรักของหนุ่มสาวได้ชนิดที่น้ำตาไหลพรากทีเดียว ที่สำคัญ ยังผสมผสานศิลปวัฒนธรรมไทยเข้าไปในแนวทะเลทรายได้อย่างน่าประทับใจ #พร้อมตอนพิเศษ #ฟินทวีคูณ! #ติดหนึบ #รับประกันความสนุก!
***********
นักอ่านท่านใดสนใจ มีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
**สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
-ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้าน booksforfun ร้าน booktogothailand และร้าน booksyourlikeshop
-inbox สั่งซื้อโดยตรงกับแอดมินเพจ 'ปลายปากกา สำนักพิมพ์' หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
(หนังสือเหลือแต่เล่มมีตำหนิ)
ราคา 280฿ (จากปก 372฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 320฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 340฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
ทั้งสองตกอยู่ในบ่วงเสน่หาซึ่งกันและกันเพียงแค่พบสบตา ความรักได้ก่อตัวขึ้นหวานล้ำราวน้ำผึ้ง ทว่า...ที่ใดมีรัก ก็ย่อมมีทุกข์ เพชรไพลินจึงต้องพบกับอุปสรรคที่เต็มไปด้วยขวากหนามแหลมคม ทั้งจากมารดาเลี้ยงและบรรดาสาวๆ ที่อยู่ในฮาเร็มของชีคหนุ่ม
ซ้ำร้ายที่สุด...ชายคนรักยังลงมือกรีดหัวใจของเธอด้วยตัวเขาเอง
เช่นนี้แล้วเพชรที่ว่ากล้าแกร่งจะทนทานต่อการแผดเผาหัวใจจนปวดร้าวทรมานได้หรือไม่ หรือเธอ...จะลาลับจากเขาไปตลอดกาล
*************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "สะมะเรีย" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งกำลังวางจำหน่ายอยู่ตอนนี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบนิยายแนวทะเลทราย โรมานซ์ ดราม่า มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง นอกจากความฟินชวนให้ยิ้มแก้มแตกในความเป็นสุภาพบุรุษของท่านชีคแล้ว สะมะเรียถ่ายทอดความดราม่าในความรักของหนุ่มสาวได้ชนิดที่น้ำตาไหลพรากทีเดียว ที่สำคัญ ยังผสมผสานศิลปวัฒนธรรมไทยเข้าไปในแนวทะเลทรายได้อย่างน่าประทับใจ #พร้อมตอนพิเศษ #ฟินทวีคูณ! #ติดหนึบ #รับประกันความสนุก!
***********
นักอ่านท่านใดสนใจ มีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
**สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
-ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้าน booksforfun ร้าน booktogothailand และร้าน booksyourlikeshop
-inbox สั่งซื้อโดยตรงกับแอดมินเพจ 'ปลายปากกา สำนักพิมพ์' หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
(หนังสือเหลือแต่เล่มมีตำหนิ)
ราคา 280฿ (จากปก 372฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 320฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 340฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: โรมานซ์ ชีค นางรำ พาฝัน ดราม่า ริษยา
ตอน: บทที่ 11 -100%
“เก่งนี่ แสดงละครได้แนบเนียนดีแท้”
เขาปล่อยมือที่เชยคางหญิงสาวออกอย่างรังเกียจแล้วปรบมือเสียงดัง “แกล้งมาทำให้ฉันหลงรัก แล้วก็ให้แม่เลี้ยงมาแบล็กเมล์ฉันข้อหาพรากผู้เยาว์ ลงท้ายด้วยการรีดไถเงินจากฉันไปถึงสิบล้านบาทเพื่อแลกกับค่าปิดปาก หิวโซกันทั้งแม่ทั้งลูกถึงได้ใช้วิธีสกปรกแบบนี้”
“ท่านชีคพูดเรื่องอะไร เพชรไม่เข้าใจ” เพชรไพลินหน้าแดงก่ำกับกิริยาประชดประชันของเขา
“ยังมาทำไขสืออยู่อีก ไส้กี่ขดต่อกี่ขดของเธอฉันเห็นหมดแล้ว เลิกมารยาเสียที” เขากระชากร่างบางเข้าปะทะอกกว้างก่อนจะผลักแรงจนหญิงสาวล้มลงไปกับพื้น
เพชรไพลินไม่ได้พยายามลุกขึ้นมา เธอยังคงนั่งนิ่งอยู่แบบนั้น
“แม่ทำแบบนั้นจริงๆ หรือคะ” เธอเงยหน้าขึ้นถามเขาทั้งน้ำตา หากมันเป็นความจริง แม่เอาเงินสิบล้านไปทำอะไร ทำไมเธอไม่เห็นรู้เรื่องเลย
“คนที่รู้ดีที่สุดคือแม่ของเธอเพชรไพลิน” ชายหนุ่มอารมณ์เย็นลงมาก เมื่อเห็นท่าทางช็อกจนพูดไม่ออกของเพชรไพลิน เขาจึงเริ่มสับสน จิตใจส่วนลึกยังต้องการเพชรไพลินและพร้อมจะเชื่อหากเธอมีเหตุผลมากพอ ที่จะทำให้หัวใจของเขาให้อภัยและยอมกลับไปหาเธอ
“เพชรไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด ท่านชีคเบื่อเพชรอยากมีคนใหม่ใช่ไหมคะ ถึงได้แต่งเรื่องพวกนี้ขึ้นมา ไม่รักกันแล้วก็บอกดีๆ แต่อย่าใส่ร้ายคุณแม่ของเพชร” เธอลุกขึ้นยืนแล้วตรงเข้าทุบตีชายหนุ่มอย่างไม่พอใจ
เขามิได้ปัดป้อง แต่รวบตัวหญิงสาวเข้าไปกอดเอาไว้แนบแน่น ก่อนจะท้าให้เธอพิสูจน์
“ถ้าไม่เชื่อเธอลองถามแม่ของเธอดูสิ”
เพชรไพลินกลอกดวงตากลมโตไปมา ก่อนจะดิ้นออกจากอ้อมกอดแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทร.ออก ชีคหนุ่มแย่งโทรศัพท์ในมือของเธอไปถือไว้ แล้วเปิดสปีกเกอร์โฟนเพื่อให้ได้ยินทั้งสองคน
เสียงสัญญาณดังนานพอสมควรกว่ารุจินภาจะกดรับสาย
“ตายแล้วเพชร แม่ลืมไปสนิทเลยว่าต้องไปรับหนูที่โรงพยาบาล พอดีแม่ติดงานด่วนมาก หนูนั่งแท็กซี่กลับมาเองไหวไหมลูก หรือจะให้แม่โทร.ให้นังออยมันไปรับ” รุจินภาส่งเสียงเจื้อยแจ้วมาตามสาย
“เพชรกลับมาแล้วค่ะคุณแม่”
“อ้าว หรือจ๊ะ ถ้าอย่างนั้นเย็นนี้อยากทานอะไร เดี๋ยวแม่แวะซื้อของโปรดเข้าไปให้ เอากระเพาะปลาใส่ยอดมะพร้าวอ่อนดีไหมลูก ของโปรดของเพชรไง”
“อะไรก็ได้ค่ะคุณแม่” เธอตอบส่งๆ ก่อนจะกลั้นใจถามออกไปในที่สุด “เอ่อ คุณแม่คะ เพชรมีเรื่องอยากจะถาม”
มารดาเลี้ยงเงียบไปหลายอึดใจก่อนจะถามกลับมาอย่างแปลกใจ
“ถามอะไรหรือจ๊ะ”
“แม่รับเงินสิบล้านจากท่านชีคมาหรือคะ” ถามออกไปแล้วก็รู้สึกราวกับว่ามีก้อนแข็งๆ แล่นขึ้นมาจุกอยู่ที่หน้าอก คำตอบไม่ว่าจะออกมาเป็นแบบไหน เธอก็เจ็บปวดใจทั้งนั้น
“เงินอะไรกันจ๊ะเพชร แม่ยังไม่เคยเจอท่านชีคเลย ก็ไหนหนูเป็นคนบอกว่าจะแนะนำท่านชีคให้แม่รู้จักไงล่ะ”
เสียงหัวเราะมาตามสายทำให้เพชรไพลินตัวเย็นเฉียบ มองชีคหนุ่มอย่างตัดพ้อ เมื่อวางสายจากมารดาไปแล้วเธอจึงหันมาเผชิญหน้ากับเขา
“ถ้าไม่รักเพชรแล้ว ก็บอกเพชรดีๆ ได้นี่คะ อย่าทำกับเพชรแบบนี้ เพชรก็มีหัวใจนะคะ” หญิงสาวพยายามกลั้นสะอื้นด้วยความเสียใจ
ชีคหนุ่มยืนนิ่ง เดินกลับเข้าไปในห้องทำงานโดยไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียวก่อนจะกลับออกมาอีกครั้ง พร้อมกระดาษในมือ
“ใครกันแน่ที่โกหก เธอลองดูนี่สิว่าใช่ลายมือแม่เลี้ยงของเธอหรือเปล่า” เขายื่นกระดาษให้หญิงสาวที่กำลังยกมือขึ้นปิดหน้าฟุบนั่งลงกับพื้น ความโกรธเกลียดที่เคยมีก่อนหน้านี้จางหายไปแล้วเมื่อได้ยินกับหูว่าเพชรไพลินถูกมารดาเลี้ยงหลอกใช้ หญิงสาวไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย
“ลายมือของคุณแม่...” เพชรไพลินตัวสั่นเมื่อได้ดูกระดาษในมือเขา สรุปแล้วคุณแม่โกหกเธองั้นหรือ
“มีเรื่องอะไรกันหรือคะท่านชีค”
ทันใดนั้นเอง สายตากลมโตก็เหลือบไปเห็นเมธาวีซึ่งนุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเดินนวยนาดออกมาจากห้องซึ่งติดกับห้องทำงานของชายหนุ่ม แต่ไม่ใช่ห้องนอนของเขา เพชรไพลินน้ำตาร่วงอ้าปากค้างเมื่อเห็นเมธาวีเดินเข้ามาโอบกอดชีคมุซตาฮ์ซานต่อหน้าเธอ
“อ้าวเพชรไพลินนี่เอง ตอนแรกนึกว่าเด็กส่งพิซซ่าเสียอีก” เมธาวีแอบฟังเรื่องราวทั้งหมดอยู่นานแล้ว เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์กำลังจะคลี่คลาย สีหน้าของท่านชีคฉายชัดว่าใจอ่อนลงไปเกินครึ่ง เธอจึงต้องออกมาแสดงตัว จะไม่ยอมถูกเฉดหัวทิ้งเป็นครั้งที่สองอย่างเด็ดขาด
“คุณเมธาวี...!” เพชรไพลินอ้าปากค้างมองนางแบบสาวสลับกับชีคหนุ่ม การแต่งกายของทั้งคู่ทำให้หญิงสาวรู้ว่าก่อนหน้านี้ทั้งสองทำอะไรกันบ้าง
“เพชรขอตัวนะคะ ขอโทษกับสิ่งที่คุณแม่ทำลงไป แล้วเพชรจะหาเงินมาใช้คืนค่ะ” หญิงสาววางกระดาษลงบนโต๊ะ แล้วเดินกลับออกไปด้วยหัวใจแหลกสลาย
“เดี๋ยวก่อนเพชรไพลิน” ชีคหนุ่มรั้งข้อมือแล้วตวัดร่างบางเข้ามาไว้ในอ้อมกอดอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกระซิบที่ข้างหู “ฉันมีเรื่องมากมายที่ต้องคุยกับเธอ”
พูดจบชายหนุ่มก็อุ้มหญิงสาวขึ้นโดยที่เธอยังไม่ทันตั้งตัว ก่อนจะหันมาบอกกับคู่ขาสาวด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า
“เมธาวีหน้าที่ของเธอวันนี้หมดแล้ว เธอกลับไปได้”
เมธาวีมองชีคหนุ่มอุ้มศัตรูหัวใจหายเข้าไปในห้องนอนของเขาแล้วก็อยากจะกรีดร้องออกไปด้วยความเจ็บแค้น แต่ก็จำต้องอดทนเอาไว้ ชีคมุซตาฮ์ซานอุ้มมันกลับเข้าไปในห้องนอน ทั้งที่หล่อนเป็นคู่ขาเขามาร่วมปี แต่ไม่เคยแม้แต่ได้เหยียบย่างเข้าไปในห้องนั้นเลยสักครั้ง
“ฉันไม่ยอมหรอกเพชรไพลิน ครั้งนี้เธอหยามฉันมากเกินไปแล้ว” เมธาวีต่อโทรศัพท์หาใครสักคนที่คิดว่าหากรับรู้เรื่องนี้ก็ต้องเต้นผางไม่ต่างไปจากเธอ
“สวัสดีค่ะ กมลทิพย์พูดสายค่ะ...”
***********
พักผ่อนกันในวันหยุดยาวจ้านักอ่านทุกท่าน ^_^ ฝากท่านชีคกับหนูเพชรด้วยนะคะ ทีมงานจะขอลงให้อ่านถึงแค่ จบบทที่17 น้าาาา รักชอบอุดหนุนผลงานของ ‘สะมะเรีย’ กันเยอะๆนะ อิอิ
แจ้งข่าวเพิ่มเติมด้วยว่า เร็วๆ นี้สนพ.กำลังจะเปิดจองนิยายเรื่องใหม่ล่าสุดของ ‘ทักษิณา’ เจ้าของผลงานนิยายรักโรแมนติกสุดแสนน่ารัก ที่เคยได้ทำเป็นละครทั้งทางช่อง3 กับช่อง7 มาแล้ว อย่าง #บ่วงอธิฏฐาน #เรือนล้อมรัก
ครั้งนี้ ทักษิณา กลับมาพร้อมนิยายรักโรแมนติก ดราม่า #รักรออุ้ม ตีพิมพ์โดยปลายปากกาสำนักพิมพ์จ้า
ตามข่าว+รอเปิดจองได้ในเพจ ‘ปลายปากกา สำนักพิมพ์’ นะคะ เริ่มโชว์ปกแล้วด้วย ^O^ (มีราคาพิเศษเฉพาะช่วงเปิดจอง)
ทีมงานจะลงตัวอย่างให้อ่านที่นี่ เร็วๆ นี้!
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บเลิฟ
เขาปล่อยมือที่เชยคางหญิงสาวออกอย่างรังเกียจแล้วปรบมือเสียงดัง “แกล้งมาทำให้ฉันหลงรัก แล้วก็ให้แม่เลี้ยงมาแบล็กเมล์ฉันข้อหาพรากผู้เยาว์ ลงท้ายด้วยการรีดไถเงินจากฉันไปถึงสิบล้านบาทเพื่อแลกกับค่าปิดปาก หิวโซกันทั้งแม่ทั้งลูกถึงได้ใช้วิธีสกปรกแบบนี้”
“ท่านชีคพูดเรื่องอะไร เพชรไม่เข้าใจ” เพชรไพลินหน้าแดงก่ำกับกิริยาประชดประชันของเขา
“ยังมาทำไขสืออยู่อีก ไส้กี่ขดต่อกี่ขดของเธอฉันเห็นหมดแล้ว เลิกมารยาเสียที” เขากระชากร่างบางเข้าปะทะอกกว้างก่อนจะผลักแรงจนหญิงสาวล้มลงไปกับพื้น
เพชรไพลินไม่ได้พยายามลุกขึ้นมา เธอยังคงนั่งนิ่งอยู่แบบนั้น
“แม่ทำแบบนั้นจริงๆ หรือคะ” เธอเงยหน้าขึ้นถามเขาทั้งน้ำตา หากมันเป็นความจริง แม่เอาเงินสิบล้านไปทำอะไร ทำไมเธอไม่เห็นรู้เรื่องเลย
“คนที่รู้ดีที่สุดคือแม่ของเธอเพชรไพลิน” ชายหนุ่มอารมณ์เย็นลงมาก เมื่อเห็นท่าทางช็อกจนพูดไม่ออกของเพชรไพลิน เขาจึงเริ่มสับสน จิตใจส่วนลึกยังต้องการเพชรไพลินและพร้อมจะเชื่อหากเธอมีเหตุผลมากพอ ที่จะทำให้หัวใจของเขาให้อภัยและยอมกลับไปหาเธอ
“เพชรไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด ท่านชีคเบื่อเพชรอยากมีคนใหม่ใช่ไหมคะ ถึงได้แต่งเรื่องพวกนี้ขึ้นมา ไม่รักกันแล้วก็บอกดีๆ แต่อย่าใส่ร้ายคุณแม่ของเพชร” เธอลุกขึ้นยืนแล้วตรงเข้าทุบตีชายหนุ่มอย่างไม่พอใจ
เขามิได้ปัดป้อง แต่รวบตัวหญิงสาวเข้าไปกอดเอาไว้แนบแน่น ก่อนจะท้าให้เธอพิสูจน์
“ถ้าไม่เชื่อเธอลองถามแม่ของเธอดูสิ”
เพชรไพลินกลอกดวงตากลมโตไปมา ก่อนจะดิ้นออกจากอ้อมกอดแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทร.ออก ชีคหนุ่มแย่งโทรศัพท์ในมือของเธอไปถือไว้ แล้วเปิดสปีกเกอร์โฟนเพื่อให้ได้ยินทั้งสองคน
เสียงสัญญาณดังนานพอสมควรกว่ารุจินภาจะกดรับสาย
“ตายแล้วเพชร แม่ลืมไปสนิทเลยว่าต้องไปรับหนูที่โรงพยาบาล พอดีแม่ติดงานด่วนมาก หนูนั่งแท็กซี่กลับมาเองไหวไหมลูก หรือจะให้แม่โทร.ให้นังออยมันไปรับ” รุจินภาส่งเสียงเจื้อยแจ้วมาตามสาย
“เพชรกลับมาแล้วค่ะคุณแม่”
“อ้าว หรือจ๊ะ ถ้าอย่างนั้นเย็นนี้อยากทานอะไร เดี๋ยวแม่แวะซื้อของโปรดเข้าไปให้ เอากระเพาะปลาใส่ยอดมะพร้าวอ่อนดีไหมลูก ของโปรดของเพชรไง”
“อะไรก็ได้ค่ะคุณแม่” เธอตอบส่งๆ ก่อนจะกลั้นใจถามออกไปในที่สุด “เอ่อ คุณแม่คะ เพชรมีเรื่องอยากจะถาม”
มารดาเลี้ยงเงียบไปหลายอึดใจก่อนจะถามกลับมาอย่างแปลกใจ
“ถามอะไรหรือจ๊ะ”
“แม่รับเงินสิบล้านจากท่านชีคมาหรือคะ” ถามออกไปแล้วก็รู้สึกราวกับว่ามีก้อนแข็งๆ แล่นขึ้นมาจุกอยู่ที่หน้าอก คำตอบไม่ว่าจะออกมาเป็นแบบไหน เธอก็เจ็บปวดใจทั้งนั้น
“เงินอะไรกันจ๊ะเพชร แม่ยังไม่เคยเจอท่านชีคเลย ก็ไหนหนูเป็นคนบอกว่าจะแนะนำท่านชีคให้แม่รู้จักไงล่ะ”
เสียงหัวเราะมาตามสายทำให้เพชรไพลินตัวเย็นเฉียบ มองชีคหนุ่มอย่างตัดพ้อ เมื่อวางสายจากมารดาไปแล้วเธอจึงหันมาเผชิญหน้ากับเขา
“ถ้าไม่รักเพชรแล้ว ก็บอกเพชรดีๆ ได้นี่คะ อย่าทำกับเพชรแบบนี้ เพชรก็มีหัวใจนะคะ” หญิงสาวพยายามกลั้นสะอื้นด้วยความเสียใจ
ชีคหนุ่มยืนนิ่ง เดินกลับเข้าไปในห้องทำงานโดยไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียวก่อนจะกลับออกมาอีกครั้ง พร้อมกระดาษในมือ
“ใครกันแน่ที่โกหก เธอลองดูนี่สิว่าใช่ลายมือแม่เลี้ยงของเธอหรือเปล่า” เขายื่นกระดาษให้หญิงสาวที่กำลังยกมือขึ้นปิดหน้าฟุบนั่งลงกับพื้น ความโกรธเกลียดที่เคยมีก่อนหน้านี้จางหายไปแล้วเมื่อได้ยินกับหูว่าเพชรไพลินถูกมารดาเลี้ยงหลอกใช้ หญิงสาวไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย
“ลายมือของคุณแม่...” เพชรไพลินตัวสั่นเมื่อได้ดูกระดาษในมือเขา สรุปแล้วคุณแม่โกหกเธองั้นหรือ
“มีเรื่องอะไรกันหรือคะท่านชีค”
ทันใดนั้นเอง สายตากลมโตก็เหลือบไปเห็นเมธาวีซึ่งนุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเดินนวยนาดออกมาจากห้องซึ่งติดกับห้องทำงานของชายหนุ่ม แต่ไม่ใช่ห้องนอนของเขา เพชรไพลินน้ำตาร่วงอ้าปากค้างเมื่อเห็นเมธาวีเดินเข้ามาโอบกอดชีคมุซตาฮ์ซานต่อหน้าเธอ
“อ้าวเพชรไพลินนี่เอง ตอนแรกนึกว่าเด็กส่งพิซซ่าเสียอีก” เมธาวีแอบฟังเรื่องราวทั้งหมดอยู่นานแล้ว เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์กำลังจะคลี่คลาย สีหน้าของท่านชีคฉายชัดว่าใจอ่อนลงไปเกินครึ่ง เธอจึงต้องออกมาแสดงตัว จะไม่ยอมถูกเฉดหัวทิ้งเป็นครั้งที่สองอย่างเด็ดขาด
“คุณเมธาวี...!” เพชรไพลินอ้าปากค้างมองนางแบบสาวสลับกับชีคหนุ่ม การแต่งกายของทั้งคู่ทำให้หญิงสาวรู้ว่าก่อนหน้านี้ทั้งสองทำอะไรกันบ้าง
“เพชรขอตัวนะคะ ขอโทษกับสิ่งที่คุณแม่ทำลงไป แล้วเพชรจะหาเงินมาใช้คืนค่ะ” หญิงสาววางกระดาษลงบนโต๊ะ แล้วเดินกลับออกไปด้วยหัวใจแหลกสลาย
“เดี๋ยวก่อนเพชรไพลิน” ชีคหนุ่มรั้งข้อมือแล้วตวัดร่างบางเข้ามาไว้ในอ้อมกอดอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกระซิบที่ข้างหู “ฉันมีเรื่องมากมายที่ต้องคุยกับเธอ”
พูดจบชายหนุ่มก็อุ้มหญิงสาวขึ้นโดยที่เธอยังไม่ทันตั้งตัว ก่อนจะหันมาบอกกับคู่ขาสาวด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า
“เมธาวีหน้าที่ของเธอวันนี้หมดแล้ว เธอกลับไปได้”
เมธาวีมองชีคหนุ่มอุ้มศัตรูหัวใจหายเข้าไปในห้องนอนของเขาแล้วก็อยากจะกรีดร้องออกไปด้วยความเจ็บแค้น แต่ก็จำต้องอดทนเอาไว้ ชีคมุซตาฮ์ซานอุ้มมันกลับเข้าไปในห้องนอน ทั้งที่หล่อนเป็นคู่ขาเขามาร่วมปี แต่ไม่เคยแม้แต่ได้เหยียบย่างเข้าไปในห้องนั้นเลยสักครั้ง
“ฉันไม่ยอมหรอกเพชรไพลิน ครั้งนี้เธอหยามฉันมากเกินไปแล้ว” เมธาวีต่อโทรศัพท์หาใครสักคนที่คิดว่าหากรับรู้เรื่องนี้ก็ต้องเต้นผางไม่ต่างไปจากเธอ
“สวัสดีค่ะ กมลทิพย์พูดสายค่ะ...”
***********
พักผ่อนกันในวันหยุดยาวจ้านักอ่านทุกท่าน ^_^ ฝากท่านชีคกับหนูเพชรด้วยนะคะ ทีมงานจะขอลงให้อ่านถึงแค่ จบบทที่17 น้าาาา รักชอบอุดหนุนผลงานของ ‘สะมะเรีย’ กันเยอะๆนะ อิอิ
แจ้งข่าวเพิ่มเติมด้วยว่า เร็วๆ นี้สนพ.กำลังจะเปิดจองนิยายเรื่องใหม่ล่าสุดของ ‘ทักษิณา’ เจ้าของผลงานนิยายรักโรแมนติกสุดแสนน่ารัก ที่เคยได้ทำเป็นละครทั้งทางช่อง3 กับช่อง7 มาแล้ว อย่าง #บ่วงอธิฏฐาน #เรือนล้อมรัก
ครั้งนี้ ทักษิณา กลับมาพร้อมนิยายรักโรแมนติก ดราม่า #รักรออุ้ม ตีพิมพ์โดยปลายปากกาสำนักพิมพ์จ้า
ตามข่าว+รอเปิดจองได้ในเพจ ‘ปลายปากกา สำนักพิมพ์’ นะคะ เริ่มโชว์ปกแล้วด้วย ^O^ (มีราคาพิเศษเฉพาะช่วงเปิดจอง)
ทีมงานจะลงตัวอย่างให้อ่านที่นี่ เร็วๆ นี้!
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บเลิฟ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 ก.ค. 2561, 09:16:05 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ก.ค. 2561, 09:16:05 น.
จำนวนการเข้าชม : 600
<< บทที่ 11 -70% | บทที่ 12 -30% >> |