มาลีเริงไฟ: รังสี(วิรัตต์ยา) ปลายปากกาสำนักพิมพ์
‘ญานีน’ ถึงกับช็อกเมื่อรู้ว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเธอ
เป็นฝีมือของ ‘อัคนี’ สามีสุดที่รัก ที่ร่วมมือกับ ‘วิรัลยา’ แฟนเก่าของเขา
เพียงเพราะทั้งคู่อยากกลับไปใช้ชีวิตด้วยกัน
โชคร้ายของพวกเขาที่เธอไม่ตาย
เพราะนับจากนี้จะไม่มีญานีนผู้อ่อนแอ โง่เง่า และขี้ขลาดอีกต่อไป!
เธอวางความรักที่มีต่ออัคนีลง แล้วหยิบความแค้นมาเป็นเข็มทิศนำทาง
ญานีนจะตามล่า และตามฆ่าพวกเขาด้วยมือของเธอเอง
โดยยอมรับความช่วยเหลือจาก ‘เจิมจันทร์’ ผู้เป็นยาย
...ยายซึ่งเป็นพวกเล่นของ!...
นาทีนี้ ญานีนไม่สนถูกผิด ไม่สนว่าใครจะเจ็บ ใครจะตาย
สนเพียงว่าแค้นของเธอต้องได้รับการชำระ
ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนตร์ก็เอาด้วยไสยดำ!
*******************
ใครชอบนิยายรักโรแมนติก ดราม่านำ เน้นความรักและการแก้แค้น และ 'สลับหน้ากัน' ระหว่างนางเอกกับนางร้าย ย้ำ! สลับหน้าของจริงค่ะ 55555 จะมาในรูปแบบใด ติดตามได้ในเรื่องเลยนะคะ นางเอกนางร้ายเชือดเฉือนกัน #รับประกันความเผ็ด! ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์นำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooktogothailand
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
สั่งซื้อมาลีเริงไฟ ราคา 340฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 380฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 400฿)
ราคาสั่งซื้อแพ็ก 4 เล่ม (มาลีเริงไฟ ราคีสีเพลิง เลื่อมลายพรายจันทร์ และม่านมนตกานต์) 1,052฿ (จากราคาเต็ม 1,174฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 65฿ (รวมเป็น 1,117฿)
ค่าจัดส่ง EMS 90฿ (รวมเป็น 1,142฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
**************
หมายเหตุ: นิยายเรื่องนี้เป็นซีรีส์ "ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์" มีทั้งหมด 4 เรื่อง แต่งโดยนักเขียน 3 ท่าน ดังนี้
-ราคีสีเพลิง แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา) ดุจดาริน (พิมาลินย์) รางนาก (สะมะเรีย)
-มาลีเริงไฟ แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา)
-เลื่อมลายพรายจันทร์ แต่งโดย ดุจดาริน (พิมาลินย์)
-ม่านมนตกานต์ แต่งโดย รางนาก (สะมะเรีย)
*******************
จุดเชื่อมโยงคือ 'ยายเจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์' ยายของหลานๆ ทั้ง 4 ซึ่งเป็นตัวเอกของทั้ง 4 เรื่องด้านบนเลยจ้า แต่ละเรื่องก็เป็นเรื่องราวของหลานๆ แต่ละคนแตกต่างกันไป (มาลีเริงไฟ เป็นเรื่องราวของหลานสาวคนเล็กสุดในบ้านเสน่ห์จันทน์ค่ะ)
เป็นฝีมือของ ‘อัคนี’ สามีสุดที่รัก ที่ร่วมมือกับ ‘วิรัลยา’ แฟนเก่าของเขา
เพียงเพราะทั้งคู่อยากกลับไปใช้ชีวิตด้วยกัน
โชคร้ายของพวกเขาที่เธอไม่ตาย
เพราะนับจากนี้จะไม่มีญานีนผู้อ่อนแอ โง่เง่า และขี้ขลาดอีกต่อไป!
เธอวางความรักที่มีต่ออัคนีลง แล้วหยิบความแค้นมาเป็นเข็มทิศนำทาง
ญานีนจะตามล่า และตามฆ่าพวกเขาด้วยมือของเธอเอง
โดยยอมรับความช่วยเหลือจาก ‘เจิมจันทร์’ ผู้เป็นยาย
...ยายซึ่งเป็นพวกเล่นของ!...
นาทีนี้ ญานีนไม่สนถูกผิด ไม่สนว่าใครจะเจ็บ ใครจะตาย
สนเพียงว่าแค้นของเธอต้องได้รับการชำระ
ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนตร์ก็เอาด้วยไสยดำ!
*******************
ใครชอบนิยายรักโรแมนติก ดราม่านำ เน้นความรักและการแก้แค้น และ 'สลับหน้ากัน' ระหว่างนางเอกกับนางร้าย ย้ำ! สลับหน้าของจริงค่ะ 55555 จะมาในรูปแบบใด ติดตามได้ในเรื่องเลยนะคะ นางเอกนางร้ายเชือดเฉือนกัน #รับประกันความเผ็ด! ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์นำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooktogothailand
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
สั่งซื้อมาลีเริงไฟ ราคา 340฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 380฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 400฿)
ราคาสั่งซื้อแพ็ก 4 เล่ม (มาลีเริงไฟ ราคีสีเพลิง เลื่อมลายพรายจันทร์ และม่านมนตกานต์) 1,052฿ (จากราคาเต็ม 1,174฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 65฿ (รวมเป็น 1,117฿)
ค่าจัดส่ง EMS 90฿ (รวมเป็น 1,142฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
**************
หมายเหตุ: นิยายเรื่องนี้เป็นซีรีส์ "ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์" มีทั้งหมด 4 เรื่อง แต่งโดยนักเขียน 3 ท่าน ดังนี้
-ราคีสีเพลิง แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา) ดุจดาริน (พิมาลินย์) รางนาก (สะมะเรีย)
-มาลีเริงไฟ แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา)
-เลื่อมลายพรายจันทร์ แต่งโดย ดุจดาริน (พิมาลินย์)
-ม่านมนตกานต์ แต่งโดย รางนาก (สะมะเรีย)
*******************
จุดเชื่อมโยงคือ 'ยายเจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์' ยายของหลานๆ ทั้ง 4 ซึ่งเป็นตัวเอกของทั้ง 4 เรื่องด้านบนเลยจ้า แต่ละเรื่องก็เป็นเรื่องราวของหลานๆ แต่ละคนแตกต่างกันไป (มาลีเริงไฟ เป็นเรื่องราวของหลานสาวคนเล็กสุดในบ้านเสน่ห์จันทน์ค่ะ)
Tags: ผี ดราม่า แก้แค้น แต่งงาน สลับตัว เล่นของ
ตอน: บทที่ 3 -30%
การกระทำของญานีนในห้องทำงานของวิรัลยา ลือไปทั่ววายอีเอสในเวลาอันรวดเร็ว เหล่าพนักงานต่างจับกลุ่มซุบซิบนินทากันไม่หยุดปาก เป็นผลให้วิญญูต้องเรียกลูกสาวคนเล็กเข้าพบในช่วงสายของวันนั้นทันที โดยมีอัคนีและวารุณนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“ไอศูรย์เล่าเรื่องที่แกไปอวดเก่งที่แผนกของเขาให้ฉันฟังหมดแล้ว”
วิญญูเอ่ยขึ้นเมื่อญานีนนั่งลงตรงหน้าเขาแล้ว
“แล้วไงคะ” ญานีนย้อนถามกวนๆ
“แล้วไงล่ะ นั่นมันไม่ใช่งานของแก ไอ้ความคิดที่แกเสนอมาน่ะ มันก็ฟังเข้าที แต่แกไม่มีสิทธิ์เข้าไปก้าวก่าย เข้าใจไหม”
“ยิหวาก็แค่อยากให้ทุกคนรู้ว่ายิหวาก็คิดอะไรดีๆ เป็นเหมือนกัน แต่ถ้าพ่อไม่ให้ยิหวายุ่ง ยิหวาก็จะไม่ยุ่งค่ะ ดีเหมือนกัน ไม่เหนื่อยทำงาน” หญิงสาวทำหน้าเซ็งๆ
“ในสายตาของพ่อ ยิหวาทำอะไรก็คงดูผิดไปหมดสินะคะ”
สามคนในที่นั้นหันสบตากัน เป็นอัคนีที่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อน โยนว่า
“คุณพ่อแค่อยากให้ยิหวารับผิดชอบงานในส่วนของยิหวาให้ดีเท่านั้นเองจ้ะ แต่ต่อไปนี้ เวลาเข้าประชุมผู้บริหาร คุณพ่ออนุญาตให้ยิหวาเข้าประชุมด้วยนะ”
“จริงเหรอคะ” ญานีนตาโตขึ้นมาทันที มองหน้าสามีสลับกับผู้ให้กำเนิดอย่างไม่เชื่อหู
“ก็ถ้าแกไม่เสนอความคิดโง่ๆ เหมือนเมื่อก่อนให้ฉันอายคนอื่น ฉันก็ให้แกเข้า” วิญญูขยายความในสิ่งที่อัคนีบอก แต่ยังติดกระแทกเสียงใส่ลูกสาวด้วยความเคยชิน
“อ้อ แล้วในส่วนรายการและละครที่แกดูแล ช่วงที่แกไม่อยู่ พวกเราประชุมกันแล้ว ตกลงกันว่าเราจะเพิ่มสัดส่วนขึ้นมาอีกหนึ่งเปอร์เซ็นต์ ส่วนจะเน้นแนวไหน แกกับทีมงานของแกไปตัดสินใจกันมาแล้วเอามาเสนอฉัน”
“นี่ถ้าไม่ได้ยินกับหู ยิหวาต้องคิดว่าพ่อกินยาลืมเขย่าขวดเป็นแน่” ญานีนยังคงไม่อยากเชื่อ
“หรือแกจะไม่ทำ ฉันจะได้ให้คนอื่นที่เขาพร้อมและตั้งใจกว่าแก”
“เรื่องอะไรยิหวาจะให้คนอื่นทำล่ะคะ” ญานีนรีบบอกบิดา ไม่วายยิ้มกระหยิ่มพอใจกับตัวเอง แล้วปรายตาไปทางมารดาเลี้ยง
“แบบนี้ทีมงานของเราแข็งแรงขึ้นหรือยังคะ น้าวารุณ”
“ยิหวา” อัคนีเรียกปรามภรรยา ขณะที่วารุณยิ้มเย็น
“เอาไว้คุณเริ่มงานคุณก่อนแล้วค่อยมาถามน้าอีกทีก็ยังไม่สายค่ะ”
“แกออกไปได้แล้ว ยายยิหวา ไปทำงานแกให้มันดีๆ จะได้ไม่ต้องมานั่งแขวะคนอื่นเขาแบบนี้” วิญญูโบกไล่ด้วยความรำคาญ ญานีนไม่อิดออด หล่อนลุกขึ้นเดินเชิดๆ ออกจากห้องไปอย่างว่าง่าย
**************
เมื่อเรื่องที่วิญญูยอมให้ญานีนเข้าร่วมประชุมผู้บริหาร ถูกถ่ายทอดออกไป เหล่าพนักงานในวายอีเอสเกิดปฏิกิริยาเสียงแตกออกเป็นสองฝ่าย ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ฝ่ายที่เห็นด้วยนั้นก็ยินดีกับญานีนและพร้อมจะเปิดโอกาสให้หล่อนพิสูจน์ตัวเอง ขณะที่อีกฝ่ายซึ่งไม่เห็นด้วยยังคงไม่เชื่อ มั่นในศักยภาพของหญิงสาว แต่ในเมื่อเจ้าหล่อนคือลูกสาวของเจ้าของช่อง พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้ อย่างมากก็แค่จับกลุ่มนินทา...
ไอศูรย์เป็นอีกหนึ่งคนที่รับรู้ข่าวนี้ด้วยเช่นกัน ความกังวลที่เขามีอยู่ก่อนแล้วจึงยิ่งเพิ่มขึ้นทบทวี
ใช่ ในที่สุด สิ่งที่เขากลัวก็เกิดขึ้นจริงๆ!
แล้วนี่เขาจะทำอย่างไรดี เขาต้องทำเช่นไรถึงจะรักษาตำแหน่งไว้ให้วิรัลยาได้จนถึงวันที่หล่อนกลับมา
จริงสิ คุณวารุณไง...
ชายหนุ่มนึกชื่อนั้นได้ วารุณต้องจัดการเรื่องนี้ได้แน่ เขามั่นใจว่าเธอเองก็ต้องหวงตำแหน่งของลูกสาวแท้ๆ เช่นกัน
“คุณไอซ์คะ คุณไอซ์...”
นักข่าวสาวคนหนึ่งร้องเรียก ขณะที่ไอศูรย์กำลังจะเปิดประตูออก ไปจากห้องฝ่ายข่าว
“ว่าไงหมอก มีอะไร”
“เอ่อ...หมอกอยากรู้ว่า แบบนี้คุณยิหวาจะมานั่งแทนที่คุณหนึ่งหรือเปล่าคะ” สีหน้าคนถามเต็มไปด้วยความวิตกและหวั่นใจไม่แพ้เขา
“คงไม่แทนกันได้ง่ายๆ ขนาดนั้นหรอก” เขาไม่แน่ใจเหมือนกันว่าที่พูดออกไปนั้น กำลังปลอบใจตัวเองหรือเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ลูกน้อง
“ตอนแรกพวกเราก็มั่นใจนะคะว่าท่านคงไม่ยอมให้ใครมาแทนที่คุณหนึ่งแน่ๆ ยังไงท่านก็ต้องรอคุณหนึ่ง แต่ตอนนี้ไม่มั่นใจเลยค่ะ”
“ถ้าคุณยิหวามาเป็นหัวหน้าพวกเรามันจะเป็นอะไรไปล่ะ คุณก็เห็นว่าเธอเก่งขึ้นเยอะ” ไอศูรย์ว่ายิ้มๆ
“อูย ไม่เอาด้วยหรอกค่ะ ยังไงก็เก่ง ฉลาด และนิสัยดีสู้คุณหนึ่งไม่ได้ ถ้าให้เธอมาเป็นหัวหน้า พวกเราขอให้คุณมาเป็นจะดีกว่า...แต่ว่าก็ว่าเถอะนะคะ รอบนี้ท่านดูให้เกียรติคุณยิหวามากเลยนะคะ ให้เกียรติจนน่ากลัว”
“แปลกตรงไหนล่ะ ธุรกิจครอบครัว จะดีจะชั่วยังไงก็ต้องเลือกคนในครอบครัวก่อนนั่นแหละ...เอาละ ไม่ต้องห่วงนะ ผมเองก็ไม่อยากได้เจ้านายคนใหม่ในตอนนี้เหมือนกัน”
“ได้ยินอย่างนี้ค่อยสบายใจขึ้นหน่อยค่ะ มีอะไรให้พวกเราช่วยก็บอกนะคะ”
ไอศูรย์ยิ้ม ก่อนเดินผละออกมา
จุดหมายของเขาคือชั้นของผู้บริหารระดับสูง
**************
ตอนเที่ยง ณัฐยาแจ้งให้ญานีนทราบถึงงานเลี้ยงที่จะจัดขึ้นในช่วงค่ำวันนี้ เป็นงานเลี้ยงของบริษัทผลิตรายการรายสำคัญของช่อง ณัฐยาอยากให้หล่อนไป เพื่อเป็นการเปิดตัวหลังจากพักฟื้นหลายเดือน
“พี่รู้ว่าคุณไม่ชอบงานเลี้ยง แต่ถ้าคุณอยากนั่งตำแหน่งคุณหนึ่งคุณก็ต้องไปค่ะ ไปประกาศให้ทุกคนเห็นความสวย ความเก่ง และความฉลาดของคุณ” ประโยคท้ายๆ นั้น ณัฐยาลดเสียงให้เบาลงพลางยิ้มอย่างคนที่รู้ใจนาย
“ขอบคุณมากค่ะพี่ณัฐ ที่อยู่ข้างๆ ยิหวาเสมอ ยังไงยิหวาก็ต้องพึ่งพี่ณัฐอีกเยอะนะคะ”
“ด้วยความยินดีค่ะ”
ตอนนั้นเอง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น แล้วอัคนีก็เปิดประตูเข้ามาเพื่อรับภรรยาสาวสวยไปทานข้าวกลางวัน
และค่ำนั้น ญานีนก็เฉิดฉายเคียงข้างสามีในงานเลี้ยง ความสวยของหล่อนจับตาผู้พบเห็น และหล่อนคนใหม่นี้ก็เรียกสายตาชื่นชมจากผู้ที่ได้พูดคุยกับหล่อนด้วย สร้างความภูมิใจให้แก่อัคนียิ่งนัก
ส่วนวิรัลยา ยังคงนอนเดียวดายอยู่ในคอกกระจกกั้น ที่มีพยาบาลกำลังนั่งพิมพ์นิยายอยู่อย่างเคร่งเครียด
ไอศูรย์จอดรถอยู่นอกรั้ว และมองเข้าไปในคฤหาสน์ของวิญญูด้วยแววตาเคร่งเครียด
‘ทำใจเถอะไอซ์ ยังไงยายหนึ่งก็ไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว...และการที่คุณวิญญูจะดันลูกสาวอีกคนของเขามาแทนที่ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก’
นั่นเป็นเสียงเศร้าๆ ของวารุณ หลังจากที่เขาเข้าไปปรึกษาด้วยเรื่องญานีน
‘แต่คุณวารุณครับ พวกเราก็เห็นๆ กันอยู่ว่าคุณยิหวาเป็นยังไง เรื่องเมื่อเช้า เธออาจแค่ฟลุก’
‘เรื่องนั้นเธอไม่ต้องห่วงหรอก เด็กยิหวามีทั้งอัคนี มีทั้งคุณณัฐเป็นพี่เลี้ยง ไม่นานก็เก่ง’ วารุณเอ่ยอย่างปลงๆ ‘ฉันขอบใจเธอมากที่เป็นห่วงยายหนึ่ง ที่ผ่านมาเธอช่วยเหลืองานยายหนึ่งเป็นอย่างดี แต่เชื่อฉัน ปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปอย่างที่คุณวิญญูต้องการเถอะ’
“ผมปล่อยเรื่องงานให้เป็นไปอย่างที่คุณวิญญูต้องการได้ แต่ผมปล่อยให้คุณหนึ่งเป็นเจ้าหญิงนิทราตลอดไปไม่ได้จริงๆ”
ไอศูรย์กัดฟันกรอด มือทั้งสองข้างของเขากำพวงมาลัยรถแน่น ระบายความอัดอั้นที่เก็บสะสมไว้มานานเกินกว่าที่เขาจะทนได้อีกต่อไป ใช่ เขากำลังพูดกับตัวเอง พูด...อย่างที่ใจเขารู้สึกมาตลอด และในเมื่อตอนนี้เขาอยู่หน้าบ้านของหญิงสาวแล้ว อย่างไรเสีย วันนี้เขาต้องพบวิรัลยาให้ได้!
ไอศูรย์เปิดประตูลงจากรถ ไวเท่าความคิดชายหนุ่มก็มาหยุดยืนอยู่หน้าประตูรั้ว
โชคเข้าข้างเขาเพราะเวลานี้ไม่มียามอยู่ตรงป้อมยามพอดี แต่ประตูรั้วล็อกแน่นหนา ชายหนุ่มไม่ลังเลสักนิดตัดสินใจปีนรั้วเข้าไป แต่แค่เขาสอดเท้าเข้าไปในลายฉลุของรั้วอัลลอย ร่างของเขาก็ถูกกระชากลงมาอย่างแรงล้มไปกองกับพื้น ทว่ายังไม่ทันเห็นว่าเจ้าของมือเป็นใคร ไม้หน้าสามปริศนาก็ฟาดเข้าให้กลางแสกหน้าเขาชนิดไม่ปล่อยให้ทันได้ตั้งตัว สติของไอศูรย์ดับวูบลงทันที...
ชายหนุ่มรู้สึกตัวอีกทีก็พบว่า ตัวเองกลับมานอนอยู่ในรถ แถมมันยังจอดอยู่หน้าคอนโดมิเนียมของเขาด้วย
ไอศูรย์สลัดศีรษะไล่ความมึนงง ใครกันที่ทำกับเขาแบบนี้?
จะว่าเป็นวิญญูกับวารุณ คนทั้งคู่ก็รู้มาตลอดว่าเขาไปที่นั่นบ่อย อย่างมากก็แค่สั่งห้ามและให้ยามมาลากตัวเขาออกไป ไม่เคยใช้ความรุนแรงกับเขา
แต่จะมีใครอื่นอีกหรือ?
ที่สำคัญ คนที่ทำร้ายเขาต้องรู้จักเขาดี ไม่เช่นนั้น เขาคงไม่ได้กลับ มาอยู่หน้าคอนโดฯ ตัวเอง!
“ไอศูรย์เล่าเรื่องที่แกไปอวดเก่งที่แผนกของเขาให้ฉันฟังหมดแล้ว”
วิญญูเอ่ยขึ้นเมื่อญานีนนั่งลงตรงหน้าเขาแล้ว
“แล้วไงคะ” ญานีนย้อนถามกวนๆ
“แล้วไงล่ะ นั่นมันไม่ใช่งานของแก ไอ้ความคิดที่แกเสนอมาน่ะ มันก็ฟังเข้าที แต่แกไม่มีสิทธิ์เข้าไปก้าวก่าย เข้าใจไหม”
“ยิหวาก็แค่อยากให้ทุกคนรู้ว่ายิหวาก็คิดอะไรดีๆ เป็นเหมือนกัน แต่ถ้าพ่อไม่ให้ยิหวายุ่ง ยิหวาก็จะไม่ยุ่งค่ะ ดีเหมือนกัน ไม่เหนื่อยทำงาน” หญิงสาวทำหน้าเซ็งๆ
“ในสายตาของพ่อ ยิหวาทำอะไรก็คงดูผิดไปหมดสินะคะ”
สามคนในที่นั้นหันสบตากัน เป็นอัคนีที่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อน โยนว่า
“คุณพ่อแค่อยากให้ยิหวารับผิดชอบงานในส่วนของยิหวาให้ดีเท่านั้นเองจ้ะ แต่ต่อไปนี้ เวลาเข้าประชุมผู้บริหาร คุณพ่ออนุญาตให้ยิหวาเข้าประชุมด้วยนะ”
“จริงเหรอคะ” ญานีนตาโตขึ้นมาทันที มองหน้าสามีสลับกับผู้ให้กำเนิดอย่างไม่เชื่อหู
“ก็ถ้าแกไม่เสนอความคิดโง่ๆ เหมือนเมื่อก่อนให้ฉันอายคนอื่น ฉันก็ให้แกเข้า” วิญญูขยายความในสิ่งที่อัคนีบอก แต่ยังติดกระแทกเสียงใส่ลูกสาวด้วยความเคยชิน
“อ้อ แล้วในส่วนรายการและละครที่แกดูแล ช่วงที่แกไม่อยู่ พวกเราประชุมกันแล้ว ตกลงกันว่าเราจะเพิ่มสัดส่วนขึ้นมาอีกหนึ่งเปอร์เซ็นต์ ส่วนจะเน้นแนวไหน แกกับทีมงานของแกไปตัดสินใจกันมาแล้วเอามาเสนอฉัน”
“นี่ถ้าไม่ได้ยินกับหู ยิหวาต้องคิดว่าพ่อกินยาลืมเขย่าขวดเป็นแน่” ญานีนยังคงไม่อยากเชื่อ
“หรือแกจะไม่ทำ ฉันจะได้ให้คนอื่นที่เขาพร้อมและตั้งใจกว่าแก”
“เรื่องอะไรยิหวาจะให้คนอื่นทำล่ะคะ” ญานีนรีบบอกบิดา ไม่วายยิ้มกระหยิ่มพอใจกับตัวเอง แล้วปรายตาไปทางมารดาเลี้ยง
“แบบนี้ทีมงานของเราแข็งแรงขึ้นหรือยังคะ น้าวารุณ”
“ยิหวา” อัคนีเรียกปรามภรรยา ขณะที่วารุณยิ้มเย็น
“เอาไว้คุณเริ่มงานคุณก่อนแล้วค่อยมาถามน้าอีกทีก็ยังไม่สายค่ะ”
“แกออกไปได้แล้ว ยายยิหวา ไปทำงานแกให้มันดีๆ จะได้ไม่ต้องมานั่งแขวะคนอื่นเขาแบบนี้” วิญญูโบกไล่ด้วยความรำคาญ ญานีนไม่อิดออด หล่อนลุกขึ้นเดินเชิดๆ ออกจากห้องไปอย่างว่าง่าย
**************
เมื่อเรื่องที่วิญญูยอมให้ญานีนเข้าร่วมประชุมผู้บริหาร ถูกถ่ายทอดออกไป เหล่าพนักงานในวายอีเอสเกิดปฏิกิริยาเสียงแตกออกเป็นสองฝ่าย ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ฝ่ายที่เห็นด้วยนั้นก็ยินดีกับญานีนและพร้อมจะเปิดโอกาสให้หล่อนพิสูจน์ตัวเอง ขณะที่อีกฝ่ายซึ่งไม่เห็นด้วยยังคงไม่เชื่อ มั่นในศักยภาพของหญิงสาว แต่ในเมื่อเจ้าหล่อนคือลูกสาวของเจ้าของช่อง พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้ อย่างมากก็แค่จับกลุ่มนินทา...
ไอศูรย์เป็นอีกหนึ่งคนที่รับรู้ข่าวนี้ด้วยเช่นกัน ความกังวลที่เขามีอยู่ก่อนแล้วจึงยิ่งเพิ่มขึ้นทบทวี
ใช่ ในที่สุด สิ่งที่เขากลัวก็เกิดขึ้นจริงๆ!
แล้วนี่เขาจะทำอย่างไรดี เขาต้องทำเช่นไรถึงจะรักษาตำแหน่งไว้ให้วิรัลยาได้จนถึงวันที่หล่อนกลับมา
จริงสิ คุณวารุณไง...
ชายหนุ่มนึกชื่อนั้นได้ วารุณต้องจัดการเรื่องนี้ได้แน่ เขามั่นใจว่าเธอเองก็ต้องหวงตำแหน่งของลูกสาวแท้ๆ เช่นกัน
“คุณไอซ์คะ คุณไอซ์...”
นักข่าวสาวคนหนึ่งร้องเรียก ขณะที่ไอศูรย์กำลังจะเปิดประตูออก ไปจากห้องฝ่ายข่าว
“ว่าไงหมอก มีอะไร”
“เอ่อ...หมอกอยากรู้ว่า แบบนี้คุณยิหวาจะมานั่งแทนที่คุณหนึ่งหรือเปล่าคะ” สีหน้าคนถามเต็มไปด้วยความวิตกและหวั่นใจไม่แพ้เขา
“คงไม่แทนกันได้ง่ายๆ ขนาดนั้นหรอก” เขาไม่แน่ใจเหมือนกันว่าที่พูดออกไปนั้น กำลังปลอบใจตัวเองหรือเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ลูกน้อง
“ตอนแรกพวกเราก็มั่นใจนะคะว่าท่านคงไม่ยอมให้ใครมาแทนที่คุณหนึ่งแน่ๆ ยังไงท่านก็ต้องรอคุณหนึ่ง แต่ตอนนี้ไม่มั่นใจเลยค่ะ”
“ถ้าคุณยิหวามาเป็นหัวหน้าพวกเรามันจะเป็นอะไรไปล่ะ คุณก็เห็นว่าเธอเก่งขึ้นเยอะ” ไอศูรย์ว่ายิ้มๆ
“อูย ไม่เอาด้วยหรอกค่ะ ยังไงก็เก่ง ฉลาด และนิสัยดีสู้คุณหนึ่งไม่ได้ ถ้าให้เธอมาเป็นหัวหน้า พวกเราขอให้คุณมาเป็นจะดีกว่า...แต่ว่าก็ว่าเถอะนะคะ รอบนี้ท่านดูให้เกียรติคุณยิหวามากเลยนะคะ ให้เกียรติจนน่ากลัว”
“แปลกตรงไหนล่ะ ธุรกิจครอบครัว จะดีจะชั่วยังไงก็ต้องเลือกคนในครอบครัวก่อนนั่นแหละ...เอาละ ไม่ต้องห่วงนะ ผมเองก็ไม่อยากได้เจ้านายคนใหม่ในตอนนี้เหมือนกัน”
“ได้ยินอย่างนี้ค่อยสบายใจขึ้นหน่อยค่ะ มีอะไรให้พวกเราช่วยก็บอกนะคะ”
ไอศูรย์ยิ้ม ก่อนเดินผละออกมา
จุดหมายของเขาคือชั้นของผู้บริหารระดับสูง
**************
ตอนเที่ยง ณัฐยาแจ้งให้ญานีนทราบถึงงานเลี้ยงที่จะจัดขึ้นในช่วงค่ำวันนี้ เป็นงานเลี้ยงของบริษัทผลิตรายการรายสำคัญของช่อง ณัฐยาอยากให้หล่อนไป เพื่อเป็นการเปิดตัวหลังจากพักฟื้นหลายเดือน
“พี่รู้ว่าคุณไม่ชอบงานเลี้ยง แต่ถ้าคุณอยากนั่งตำแหน่งคุณหนึ่งคุณก็ต้องไปค่ะ ไปประกาศให้ทุกคนเห็นความสวย ความเก่ง และความฉลาดของคุณ” ประโยคท้ายๆ นั้น ณัฐยาลดเสียงให้เบาลงพลางยิ้มอย่างคนที่รู้ใจนาย
“ขอบคุณมากค่ะพี่ณัฐ ที่อยู่ข้างๆ ยิหวาเสมอ ยังไงยิหวาก็ต้องพึ่งพี่ณัฐอีกเยอะนะคะ”
“ด้วยความยินดีค่ะ”
ตอนนั้นเอง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น แล้วอัคนีก็เปิดประตูเข้ามาเพื่อรับภรรยาสาวสวยไปทานข้าวกลางวัน
และค่ำนั้น ญานีนก็เฉิดฉายเคียงข้างสามีในงานเลี้ยง ความสวยของหล่อนจับตาผู้พบเห็น และหล่อนคนใหม่นี้ก็เรียกสายตาชื่นชมจากผู้ที่ได้พูดคุยกับหล่อนด้วย สร้างความภูมิใจให้แก่อัคนียิ่งนัก
ส่วนวิรัลยา ยังคงนอนเดียวดายอยู่ในคอกกระจกกั้น ที่มีพยาบาลกำลังนั่งพิมพ์นิยายอยู่อย่างเคร่งเครียด
ไอศูรย์จอดรถอยู่นอกรั้ว และมองเข้าไปในคฤหาสน์ของวิญญูด้วยแววตาเคร่งเครียด
‘ทำใจเถอะไอซ์ ยังไงยายหนึ่งก็ไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว...และการที่คุณวิญญูจะดันลูกสาวอีกคนของเขามาแทนที่ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก’
นั่นเป็นเสียงเศร้าๆ ของวารุณ หลังจากที่เขาเข้าไปปรึกษาด้วยเรื่องญานีน
‘แต่คุณวารุณครับ พวกเราก็เห็นๆ กันอยู่ว่าคุณยิหวาเป็นยังไง เรื่องเมื่อเช้า เธออาจแค่ฟลุก’
‘เรื่องนั้นเธอไม่ต้องห่วงหรอก เด็กยิหวามีทั้งอัคนี มีทั้งคุณณัฐเป็นพี่เลี้ยง ไม่นานก็เก่ง’ วารุณเอ่ยอย่างปลงๆ ‘ฉันขอบใจเธอมากที่เป็นห่วงยายหนึ่ง ที่ผ่านมาเธอช่วยเหลืองานยายหนึ่งเป็นอย่างดี แต่เชื่อฉัน ปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปอย่างที่คุณวิญญูต้องการเถอะ’
“ผมปล่อยเรื่องงานให้เป็นไปอย่างที่คุณวิญญูต้องการได้ แต่ผมปล่อยให้คุณหนึ่งเป็นเจ้าหญิงนิทราตลอดไปไม่ได้จริงๆ”
ไอศูรย์กัดฟันกรอด มือทั้งสองข้างของเขากำพวงมาลัยรถแน่น ระบายความอัดอั้นที่เก็บสะสมไว้มานานเกินกว่าที่เขาจะทนได้อีกต่อไป ใช่ เขากำลังพูดกับตัวเอง พูด...อย่างที่ใจเขารู้สึกมาตลอด และในเมื่อตอนนี้เขาอยู่หน้าบ้านของหญิงสาวแล้ว อย่างไรเสีย วันนี้เขาต้องพบวิรัลยาให้ได้!
ไอศูรย์เปิดประตูลงจากรถ ไวเท่าความคิดชายหนุ่มก็มาหยุดยืนอยู่หน้าประตูรั้ว
โชคเข้าข้างเขาเพราะเวลานี้ไม่มียามอยู่ตรงป้อมยามพอดี แต่ประตูรั้วล็อกแน่นหนา ชายหนุ่มไม่ลังเลสักนิดตัดสินใจปีนรั้วเข้าไป แต่แค่เขาสอดเท้าเข้าไปในลายฉลุของรั้วอัลลอย ร่างของเขาก็ถูกกระชากลงมาอย่างแรงล้มไปกองกับพื้น ทว่ายังไม่ทันเห็นว่าเจ้าของมือเป็นใคร ไม้หน้าสามปริศนาก็ฟาดเข้าให้กลางแสกหน้าเขาชนิดไม่ปล่อยให้ทันได้ตั้งตัว สติของไอศูรย์ดับวูบลงทันที...
ชายหนุ่มรู้สึกตัวอีกทีก็พบว่า ตัวเองกลับมานอนอยู่ในรถ แถมมันยังจอดอยู่หน้าคอนโดมิเนียมของเขาด้วย
ไอศูรย์สลัดศีรษะไล่ความมึนงง ใครกันที่ทำกับเขาแบบนี้?
จะว่าเป็นวิญญูกับวารุณ คนทั้งคู่ก็รู้มาตลอดว่าเขาไปที่นั่นบ่อย อย่างมากก็แค่สั่งห้ามและให้ยามมาลากตัวเขาออกไป ไม่เคยใช้ความรุนแรงกับเขา
แต่จะมีใครอื่นอีกหรือ?
ที่สำคัญ คนที่ทำร้ายเขาต้องรู้จักเขาดี ไม่เช่นนั้น เขาคงไม่ได้กลับ มาอยู่หน้าคอนโดฯ ตัวเอง!
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 พ.ย. 2561, 07:56:43 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 พ.ย. 2561, 07:56:43 น.
จำนวนการเข้าชม : 615
<< บทที่ 2 -100% | บทที่ 3 -70% >> |