วิวาห์ฉบับร้าย
เมื่อการแต่งงานเกิดจากเงื่อนไขของเธอ
เขา...ในฐานะผู้ชายที่ถูกเธอเลือก จะทำเช่นไร
เพื่อหักห้ามใจไม่ให้ตกหลุมรัก...นางมารร้ายอย่างเธอ


ใครจะคาดคิดว่าระหว่างเธอกับเขา จะมีวิวาห์เกิดขึ้น แต่มันเป็นวิวาห์ฉบับร้ายที่เกิดจากน้ำมือของเธอ
ปรารถนา ผู้หญิงที่ยื่นข้อเสนอให้เขาแต่งงานเพื่อทำหน้าที่รับผิดชอบเด็กในท้องของเธอแทนพ่อของเด็กโดยมีหุ้นของบริษัทเขาเป็นเดิมพัน
ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับพวกเขา ปราศจากความรัก ความหลง ความไว้เนื้อเชื่อใจ
มีเพียงความหลอกลวงและการแสแสร้ง แต่ความใกล้ชิดกลับเป็นฉนวนนำให้เขาและเธอเกิดความรู้สึกบางอย่างต่อกัน ความรู้สึกที่เรียกว่า...รัก

Tags: หมอ, หนุ่ม, หล่อ, ตลก, โรแมนติก, ความรัก

ตอน: บทนำ

บทนำ
ห้องนอนในคฤหาสน์สุดหรูถูกจัดให้เป็นห้องหอของคู่บ่าวสาว หลังการอวยพรเสร็จสิ้นพร้อมกับประตูห้องที่ปิดสนิทลงอย่างเบามือโดยคนในชุดสูทสีขาวดูสง่า ‘หม่อมหลวงดรณ์ อดิสรวงศ์ณ อยุธยา’ เขาคือเจ้าของวิมานแห่งนี้ ดวงตาคู่คมมองนิ่งไปที่ผู้หญิงร่างเล็ก คนที่ชายหนุ่มเพิ่งได้จดทะเบียนสมรสไปหมาดๆ หรือแปลอีกความหมายหนึ่งก็คือ เธอผู้นี้คือภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย แม้ได้มาโดยปราศจากความรักแต่ทุกอย่างก็ดำเนินการมาจนถึงวินาทีนี้
วินาทีที่เกียรติยศและศักดิ์ศรีของเขาไม่เหลือให้น่าภาคภูมิใจอีก
‘ปรารถนาบุญรักษา’ ผู้หญิงที่สาวๆ ในงานต่างพากันอิจฉาเพราะเธอได้กลายมาเป็นสะใภ้จ้าวแห่งวังอดิสรวงศ์ แต่ภายใต้ความอิจฉาเหล่านั้นใครจะรู้ว่า กว่าหญิงสาวจะมาถึงจุดนี้ได้มันต้องแลกกับอะไรมาบ้าง...
เม็ดฝนตกกระทบหลังคาเสียงดังเป๊าะแป๊ะ บอกเป็นนัยว่าคืนนี้ฝนอาจไม่ยอมหยุดลงโดยง่าย ดรณ์ยืนนิ่งที่หน้าต่างบานใหญ่ มองสายฝนที่ตกหนักผ่านกระจกบานนั้นที่เปิดแง้มออกมาก่อนจะปิดมันลงด้วยความรู้สึกหดหู่
ขณะที่ความเฉยชาของเขาให้ความรู้สึกเย็นยะเยือกในสายตาของปรารถนา เธอนั่งอยู่ที่ปลายเตียงกับความคิดมากมายที่วนเวียนเข้ามาอยู่ในหัว มีบางอย่างกำลังขัดแย้งกับสิ่งที่ได้ตัดสินใจทำลงไป
ความเงียบทำให้ดรณ์ต้องหันมามองและเป็นจังหวะเดียวกับที่อีกฝ่ายก็เงยหน้าขึ้นมามองเช่นกัน ในวินาทีนั้น ความเกลียดชังได้ปรากฏขึ้นในจิตใจของเขา
“คงสมใจคุณแล้วสินะ”
ปากหนาเอ่ยวาจาแสนเรียบแต่ให้ความรู้สึกเย็นชาเมื่อมองผ่านใบหน้าอันหล่อเหลา ปรารถนาเผยยิ้มให้อีกฝ่ายแล้วลุกขึ้นยืนตอบอย่างไม่ยี่หระว่า
“ถ้าคุณกำลังหมายถึงใบทะเบียนสมรสนั่น ฉันขอบอกว่าสมใจฉันมากค่ะ ขอบคุณนะคะ” แววตาเย้ยหยันส่งมาให้เขา ดรณ์เห็นแล้วอารมณ์เสียขบกรามแน่นแล้วพูดน้ำเสียงแข็งกระด้าง
“เด็กในท้องคงจะภูมิใจมาก ถ้ารู้ว่าแม่ของแกหาคนให้มารับผิดชอบเป็นพ่อด้วยวิธีจ่ายเงินซื้อตัวมา”
“ก็คงไม่แปลกเพราะในเมื่อคนที่ซื้อตัวมา...ยอมขาย” ปรารถนาเน้นคำสุดท้าย ดรณ์หน้าร้อนราวกับเลือดขึ้นหัวย่างเท้ามาไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวหญิงสาว เผลอฉุดแขนเรียวแล้วดึงเข้าหาตัวด้านปรารถนาถึงกับคิ้วขมวดเพราะความเจ็บแต่ก็ยังเงียบไม่ปริปากพูดออกไป ซ้ำยังจ้องหน้าดรณ์อย่างท้าทาย
“ผมไม่ได้ยินยอมแต่เป็นเพราะคุณ คุณวางกับดักเอาไว้ ทำทุกทางให้ผมไม่มีทางเลือก จนผมต้องยอมแต่งงานกับคุณ”
“แล้วยังไงล่ะ เงินก็เอาไปแล้ว สัญญาก็ได้เซ็นกันอย่างถูกต้องมีพยานรู้เห็นกันทั้งสองฝ่าย คุณได้ทุกอย่างกลับคืนมาส่วนฉันก็ได้พ่อของลูก มันก็ลงตัวแล้วนี่”ปรารถนาเอ่ยอย่างไม่สะทกสะท้านถึงแววตาดุดันที่ส่งมา เธอไม่ได้กลัวเพราะถ้ากลัวก็คงไม่ตัดสินใจทำแบบนี้ตั้งแต่ทีแรก ในเมื่อรู้อยู่เต็มอกว่าหม่อมหลวงดรณ์ อดิสรวงศ์ ณ อยุธยา เกลียดเธอมากแค่ไหน
“ได้ คุณชนะ ผมมันโง่เองที่หลงคิดว่าคุณจะเป็นคนดี คิดว่าครอบครัวที่ดูอบอุ่นแบบนั้นจะขัดเกลาให้คุณเป็นคนที่มีจิตเมตตาและไม่เห็นแก่ตัวแต่ผมคิดผิด ผมผิดเองที่ตามเล่ห์เหลี่ยมของคุณไม่ทัน แต่ให้รู้ไว้อย่างว่าคุณใช้เงินซื้อความเป็นสามีและพ่อของลูกคุณได้แต่คุณไม่สามารถซื้อความรักจากผมได้”ดรณ์ปล่อยแขนปรารถนาทันทีที่พูดจบ ท่าทางที่เขาแสดงต่อเธอมีแต่ความขยะแขยงซึ่งปรารถนาก็สัมผัสได้ ดรณ์หันหลังจะเดินจากแต่สะดุดตรงคำพูดประโยคหนึ่งของหญิงสาว
“ในเมื่อฉันได้ในสิ่งที่ฉันต้องการแล้ว อย่างอื่นฉันก็ไม่ต้องการ เพราะฉะนั้น วางใจได้ค่ะ ฉันจะไม่มีวันยอมเสียเงินซื้อความรักจากคุณอีกแน่นอน” ปรารถนาเชิดหน้าตอบยังมีอารมณ์ยั่วโมโหในตอนท้าย
ดรณ์หันหน้ามามองเห็นความเย่อหยิ่งในตัวเธอ ยิ่งรู้สึกเกลียดมากขึ้นไปอีก ทั้งร้ายกาจ ทั้งเจ้าเล่ห์ ไม่เคยพานพบผู้หญิงคนไหนที่จะเป็นเหมือนเธอมาก่อน หากย้อนเวลากลับไปได้ เขายอมกลายเป็นคนอกตัญญูที่จะปฏิเสธเซ็นสัญญากู้ฉบับนั้นและยอมเป็นคนเห็นแก่ตัวที่จะเดินออกไปจากความเป็นอดิสรวงศ์โดยไม่มีอะไรติดตัว
ที่ศาลาบ้านไม้ทรงไทย อดิศรกำลังยืนกอดอกมองท้องฟ้า เพราะเรื่องของปรารถนาผู้เป็นลูกสาวทำให้คืนนี้ท่านนอนไม่หลับ กังวลอยู่หลายเรื่องจนตอนนี้เกิดความเป็นห่วงด้วยรู้นิสัยของลูกสาวดี ปราณีเดินมาหาเพราะเห็นสามียืนพิงที่เสาในศาลาอยู่นานแล้ว บวกกับเวลานี้ก็ดึกมากจึงเป็นห่วงตามมาถามไถ่
“พี่ศร”
อดิศรหันมามองแล้วยิ้มให้ภรรยาก่อนจะเดินมาโอบไหล่แล้วพากันมานั่งที่เก้าอี้ไม้ในศาลาตัวเดิม
“วันนี้เราเหนื่อยกันมาทั้งวันแล้ว ฉะนั้นเวลานี้พี่ศรควรพักผ่อนให้มากๆ นะจ๊ะ”
“ผมนอนไม่หลับเป็นห่วงยัยนา คุณปราณ การตัดสินใจของผมในตอนนั้นถูกต้องแล้วใช่ไหม”อดิศรถามสีหน้าเป็นกังวล ปราณีหยิบมือสามีมากุมไว้แล้วบีบเบาๆ เพื่อให้ผ่อนคลายตอบอย่างปลงใจว่า
“พี่ศรอย่าคิดมากเลยจ้ะ ทุกอย่างมันเป็นความต้องการของยัยนา หากจะมีอะไรเกิดขึ้นกับลูก เราก็ได้แต่ตั้งหน้ายอมรับกับสิ่งที่มันจะเกิด ต่อให้เรื่องมันจะเลวร้ายหรือแย่ลงไปกว่านี้ เราในฐานะพ่อและแม่ก็จะไม่ปล่อยให้ลูกต้องเผชิญหน้าเพียงลำพัง เอาเป็นว่าตอนนี้พี่ศรอย่าเพิ่งคิดอะไรไปเลยนะ เดี๋ยวจะพลอยกระทบถึงสุขภาพไปอีก”
อดิศรดึงภรรยามากอดไว้ ปราณีกอดสามีตอบถึงกายอุ่นแต่หากหัวใจของทั้งสองตอนนี้กลับร้อนเป็นไฟเพราะความเป็นห่วงลูกสาว
ที่ผับ นิตยาตามมาเป็นเพื่อนมนัสเพราะกลัวว่ามนัสจะทำอะไรบ้าๆ หลังจากที่อกหักจากปรารถนาและตอนนี้สภาพมนัสก็ดูแย่เหลือเกิน นิตยานั่งดูมนัสดื่มเหล้าจากแก้วที่หนึ่งตอนนี้ผ่านไปเกือบสิบแก้วแล้วอดไม่ได้ต้องพูดเตือนสติ
“นายจะเมาแบบนี้ให้มันได้อะไรถึงยังไงยัยนาก็แต่งงานไปแล้วและนี่มันก็ดึกมากแล้ว กลับบ้านไปนอนเถอะพรุ่งนี้นายยังต้องทำงานแต่เช้านะ” นิตยาพูดแต่มนัสทำเหมือนหูทวนลมไม่สนใจกับสิ่งที่เธอพูด มือเล็กแย่งแก้วเหล้ามาจากมือของมนัสแต่มนัสก็แย่งกลับมาได้แล้วดื่มใส่ปากต่อ
“นายจะทำตัวแย่ๆ แบบนี้ไปทำไม”
“เธอไม่รู้หรอกว่าฉันเสียใจมากแค่ไหน นาแต่งงานไปแล้วฉันแทบไม่มีสิทธิ์คิดอะไรกับนาอีก” มนัสพูดกึ่งคนเมา นิตยาฟังแล้วรู้สึกเศร้าไปกับมนัสด้วย
“ยัยนาแต่งงานไปแล้วก็จริงแต่ความเป็นเพื่อนของพวกเราก็ยังเหมือนเดิม นายังเป็นเพื่อนนาย เป็นเพื่อนฉันพวกเราจะยังมีกันและกันอยู่”
มนัสส่ายหน้า รินเหล้าขึ้นดื่มหมดแก้ว พูดจาลากเสียงยาว
“ไม่ ฉันไม่อยากเป็นเพื่อน เธอเข้าใจไหมว่าฉันไม่ต้องการเป็นเพื่อนกับนา” มนัสพูดแล้วร้องไห้กระซิกๆ สักพักก็ตะโกนเรียกพนักงานเสิร์ฟให้เอาเหล้ามาอีก นิตยามองแล้วปวดใจไม่รู้จะพูดยังไงให้มนัสเข้าใจในสถานะตอนนี้ว่าควรเลิกหวังในตัวปรารถนาได้แล้วเพราะถึงยังไงปรารถนาก็ไม่มีทางคิดกับมนัสเกินเลยมากกว่าเพื่อนกันแต่ถ้าเธอพูดออกไปแบบนั้นอาจจะทำให้มนัสเลิกเป็นเพื่อนกับเธอเลยก็ได้
ดรณ์กลับเข้ามาในวิมานนั้นอีกครั้งหลังตัดสินใจเดินออกจากห้องหอ แม้จะรู้ว่าธรรมเนียมของการเข้าหอคืนแรกบ่าวสาวไม่ควรก้าวเท้าพ้นจากประตูห้องแต่ครั้งนี้มันสุดจะทน เพราะการต้องอยู่ร่วมห้องแย่งอากาศหายใจกับคนที่ไม่ชอบหน้านั้นช่างเป็นอะไรที่ค่อนข้างอึดอัดใจที่สุด
ภายในห้องเงียบสงัดราวกับไม่มีคนอยู่ เขาใช้สายตากวาดมองโดยรอบก่อนจะพบว่าที่โซฟาสีขาวมีปรารถนานอนอยู่ ความเหนื่อยอาจทำให้เธอเพลียจนหลับลงอย่างง่ายดาย ดรณ์สาวเท้าเข้ามาใกล้ๆ พินิจมองใบหน้ารูปงามอย่างครุ่นคิด ผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่แผงฤทธิ์เอาไว้มากมาย ความเจ้าเล่ห์เพอุบายทำให้เขาตกหลุมพรางที่เธอขุดรอเอาไว้จนตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าคนที่เพียบพร้อมเช่นนี้ เหตุใดถึงได้ร้ายกาจนัก
สูทสีขาวถูกพาดไว้ที่เก้าอี้เครื่องแป้ง ส่วนเจ้าของนั้นเดินกลับมายืนนิ่งมองเจ้าสาวของเขาที่นอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่บนโซฟา หากใจแข็งกว่านี้คงไม่สนใจและปล่อยให้นอนอยู่ตรงนั้นจนถึงเช้าแต่เพราะใจไม่แข็งพอที่จะทนดูอย่างไม่รู้สึกรู้สาได้ ดรณ์โน้มตัวลงก่อนจะช้อนร่างนั้นขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน เขาวางเธอลงบนเตียงอย่างเบามือ สายตายังมองนิ่งที่ใบหน้าเรียวรูปไข่ พลอยนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้า แม้จะรู้ว่าเธอร้ายแต่ก็ไม่คิดว่าจะร้ายถึงขนาดคิดฆ่าคนได้
“ผมอยากรู้จริงๆ ว่าหัวใจของคุณทำด้วยอะไร ทำไมถึงได้ร้ายกาจขนาดนี้”




** เอามาลงให้อ่านใหม่นะคะ**



กรงแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 เม.ย. 2562, 13:38:51 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 เม.ย. 2562, 13:38:51 น.

จำนวนการเข้าชม : 515





กรงแก้ว 6 เม.ย. 2562, 13:39:50 น.
เอามาให้อ่านกันใหม่นะคะ ยังคิดถึงกันอยู่หรือเปล่า


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account