พรหมหวามกามเทพ
พรหมหวามกามเทพ By กันต์ระพี
ครั้งแรกพลั้งพลาด แต่ครั้งสองเผลอใจไปเต็มๆ
เขามาหลอกให้ช้ำรัก
แล้วจะปล่อยไปได้อย่างไร
หากไม่ไล่ล่า ก็ต้องลุยให้แหลกไปข้าง
งานนี้...จะขอลุ้นรัก มัดใจหนุ่มเจ้าชู้ดูสักที!
***เปิดให้ทดลองอ่านเท่านั้น!!***
ครั้งแรกพลั้งพลาด แต่ครั้งสองเผลอใจไปเต็มๆ
เขามาหลอกให้ช้ำรัก
แล้วจะปล่อยไปได้อย่างไร
หากไม่ไล่ล่า ก็ต้องลุยให้แหลกไปข้าง
งานนี้...จะขอลุ้นรัก มัดใจหนุ่มเจ้าชู้ดูสักที!
***เปิดให้ทดลองอ่านเท่านั้น!!***
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: บทนำ
พรหมหวามกามเทพ
ประพันธ์โดย...กันต์ระพี
บาหลี...แดนสวรรค์ของนักท่องเที่ยว พื้นที่กว่าห้าพันตารางกิโลเมตรบนเกาะเล็กๆ ในอินโดนีเซียมีหาดทรายขาว สถาปัตยกรรมโดดเด่น สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมน่าหลงใหล ระบำพื้นบ้านถ่ายทอดเรื่องราวการต่อสู้ระหว่างพ่อมดหมอผีรังดาฝ่ายอธรรม กับบารองตัวแทนฝ่ายดีในชุดคนครึ่งสิงห์ได้น่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งการแสดงชุดนี้ทางโรงแรมได้เตรียมไว้สำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เข้าพัก
“เลิศว่ะแก...!” มินทิราเอียงหน้ากระซิบกระซาบ สายตาที่มองการแสดงยิ่งใหญ่ตระการตาตรงหน้าสะท้อนความชื่นชมอย่างเห็นได้ชัด
“เห็นไหมล่ะ ฉันบอกแล้ว...แกต้องชอบ แล้วยังจะท่ามากไม่ยอมมาตั้งแต่แรกอีก” ปาหนันค่อนขอด
จำได้ว่าต้องคะยั้นคะยอเพื่อนร่วมงานสาวอยู่นานกว่าจะรับปาก ทั้งที่หล่อนแทบจะกรี๊ดลั่นบริษัทฯ ที่จับฉลากได้ตั๋วเครื่องบินไป-กลับบาหลีสองที่นั่ง พร้อมที่พักและแพ็กเกจมันนี่ ซึ่งเป็นรางวัลใหญ่ที่ทางบริษัทมอบให้พนักงานในช่วงเทศกาลปีใหม่
“ก็แกเป็นคนได้รางวัล ฉันก็ต้องเกรงใจเป็นเรื่องธรรมดา”
“แกจะเกรงใจทำไม บริษัทฯ เป็นสปอนเซอร์ ฉันไม่ได้ควักกระเป๋าจ่ายเสียหน่อย” ปาหนันไหวไหล่ ครั้นเห็นนักแสดงออกมาอำลาเวทีก็เปรยขึ้น “เดี๋ยวเสร็จเนี่ย เราไปเที่ยวกันตามสโลแกนดีกว่า”
“สโลแกนอะไร?” มินทิราขมวดคิ้วมุ่นทันที
“นี่อย่าบอกนะว่าแกมาเที่ยวบาหลีกับฉันทั้งที แต่ไม่ได้เสิร์ชหาข้อมูลอะไรมาเลย”
“ก็ฉันมัวแต่จัดกระเป๋า กลัวลืมโน้นลืมนี่ เพราะตื่นเต้นที่แกชวนน่ะสิ”
“ถ้าอย่างนั้นก็รู้ไว้ซะ ที่นี่...มีทริปเข้าวัด ไปผา...ดูหาดลับแล้วก็เล่นเซิร์ฟ”
“ที่แกพูดมาทั้งหมดเนี่ย เราต้องทำทุกอย่างเลยเหรอ”
“ก็แหงสิ ไหนๆ บริษัทฯ ก็จัดให้แล้ว เราก็ต้องเที่ยวให้คุ้ม แล้วฉันก็เสิร์ชหาข้อมูลมาเรียบร้อยแล้ว” ปาหนันพูดไปพลางก็หยิบแผนที่ออกจากกระเป๋าสะพาย ภูมิใจนำเสนอกึ่งอวดภูมิกลายๆ
มินทิราอมยิ้มกึ่งขำ แรกทีเดียว...คิดว่าตัวเองตื่นเต้นคนเดียวที่ได้มาเที่ยวที่นี่เสียอีก แต่ที่ไหนได้...แม่เพื่อนร่วมงานสาวท่าทางจะตื่นเต้นยิ่งกว่า สังเกตจากการเตรียมพร้อม รวมทั้งจุดกากบาทสีแดงที่เต็มพรืดทั้งแผนที่แผ่นนี้
“ทำไมมันเยอะอย่างนี้ล่ะ”
“เยอะที่ไหนกัน ที่กาไว้ทั้งหมดเนี่ยเจ๋งสุดแล้ว ไปกันเถอะ...” ปาหนันดีดนิ้วแล้วเดินนำออกจากห้องที่ทางโรงแรมเตรียมการแสดงไว้ต้อนรับ ทันทีที่มาถึงล็อบบี้ หล่อนก็วิ่งตื๋อออกไปหน้าโรงแรม พร้อมทั้งป้องปากตะโกนออกไป “ฉันมาแล้ว...บาหลีที่รัก!”
มินทิรายิ้มขำ ไม่คิดว่าปาหนันจะกล้าทำอะไรห่ามๆ ครั้นเห็นเพื่อนสาวหันหน้ากลับมากวักมือเรียกไหวๆ ให้ออกไปปลดปล่อยความบ้าด้วยกัน หล่อนก็ส่ายหน้าดิก แต่คนชวนก็ยังป้องปากเรียกไม่หยุด
“มาเร็วๆ ยัยมิน ไม่ต้องอาย ไม่มีใครรู้จักเราหรอก”
แม้ปาหนันจะพูดเช่นนั้น แต่มินทิราก็ยังกระดาก ไม่วายชำเลืองมองรอบตัว ครั้นเห็นคนที่เดินไปมาไม่มีใครสนใจใคร ราวกับจะบอกว่าเอ็งอยากทำอะไรก็ทำไป...ข้าไม่สน! หล่อนก็คิดว่าจะลองทำเรื่องบ้าบอดูสักครั้ง ไหนๆ ก็มาไกลถึงต่างแดน หล่อนก็ควรสนุกให้สุดเหวี่ยง
“ช่วยฉันคิดหน่อยสิ จะตะโกนว่าอะไรดี”
“ไอเลิฟยูบาหลีไง ดังๆ นะ ถ้าเบากว่าถือว่าแพ้”
“โอเคๆ” มินทิราเห็นปาหนันทำมือทำไม้ให้สัญญาณ ก็นึกสนุกกับคำท้าทายนั้นขึ้นมา ไม่ทันดูว่ามีรถยนต์คันหนึ่งวิ่งมาจอดเทียบที่หน้าโรงแรม หล่อนก็กางแขนออกแล้ววิ่งไปปลดปล่อยความบ้าทันที
“ไอเลิฟยู...”
มินทิราตะโกนออกไปได้แค่นั้นก็ต้องชะงัก จะทวงคำพูดคืนก็ไม่ทันเสียแล้ว ซ้ำสองเท้าที่วิ่งมาเต็มกำลังก็ยั้งไม่อยู่ นอกจากจะวิ่งเลยผ่านปาหนัน หล่อนยังพาตัวเองเข้าไปหาชายต่างชาติที่ก้าวลงจากรถคันหรูในจังหวะนั้นพอดี แรงปะทะอย่างจังทำให้ร่างสูงในชุดสูทที่ไม่ทันระวังล้มทั้งยืน โดยมีหล่อนตามติดลงไปนั่งทับบนตัวเขา
“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ เอ้ย...ไม่ใช่สิ! ซอรี่...ซอรี่ค่ะ” มินทิราละล่ำละลัก ลนลาน อารามตกใจ กลัวเขาได้รับบาดเจ็บ มือไม้หล่อนก็ลูบคลำตามเนื้อตามตัวชายต่างชาติคนนั้น
“Are you okay?” เสียงหวานๆ ถามอย่างเป็นกังวล
แต่ชายหนุ่มไม่ตอบ ซ้ำยังส่งผ่านความไม่พอใจมาทางนัยน์ตาขุ่น เป็นใครก็ต้องโกรธด้วยกันทั้งนั้น ก็ผู้หญิงคนนี้วิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามาบอกรักซึ่งหน้ายังไม่พอ เวลานี้ยังถือวิสาสะลูบคลำเนื้อเขาตัวเป็นว่าเล่น หล่อนต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่ขยับยุกยิกทั้งที่นั่งคร่อมบนตัวเขาในท่วงท่าล่อแหลม จนกระทั่งผู้หญิงอีกคนเดินมารั้งตัวให้ลุกขึ้นนั่นแหละ หล่อนถึงได้หยุดลวนลามเขา
“แกเป็นอะไรหรือเปล่ายัยมิน!?”
“ฉันไม่เป็นไร แต่เขาสิ...” มินทิราพยักพเยิดหน้าให้ปาหนันหันมองชายต่างชาติ
ในจังหวะนั้นเอง...เสียงฝีเท้าเร่งรีบที่บอกถึงความรีบร้อนของใครบางคนก็หยุดลงตรงหน้าชายคนนั้น พร้อมทั้งสื่อสารออกมาเป็นภาษาอังกฤษ
“Mr. Cordoba, Are you okay?”
“อืม...” เสียงทุ้มก้องกังวานในลำคอ ขณะเจ้าตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง พลางขยับเนคไทให้เข้าที่เข้าทาง เขาไม่พูดกับสองสาวเลยสักคำ นอกจากใช้หางตามองผ่านๆ แล้วสาวเท้ายาวๆ เข้าไปในโรงแรมหรู โดยมีเลขาส่วนตัวที่เข้ามาสอบถามเมื่อครู่คอยปัดเสื้อสูทให้อย่างรู้ใจคนเป็นนาย
“คนอะไร...ขี้เก๊กชะมัด!” มินทิราเบ้ปาก นึกหมั่นไส้ท่าทางหยิ่งผยอง เขาทำราวกับว่าอยู่กันคนละชั้นวรรณะ สายตาจิกกัดที่มองไล่หลังก็ตวัดค้อนขวับทีเดียว
“อย่าไปสนใจเลยแก พวกนักธุรกิจก็อย่างนี้แหละ เราไปเที่ยวกันดีกว่า” ปาหนันดึงมือมินทิราไปหาเช่ารถมอเตอร์ไซค์ตามที่ได้ข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต ทุกคนต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเจ้าพาหนะชนิดนี้หาเช่าได้ง่ายในราคาไม่แพง อีกทั้งยังทำให้การเดินทางไปสถานที่ต่างๆ สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น...
ประพันธ์โดย...กันต์ระพี
บาหลี...แดนสวรรค์ของนักท่องเที่ยว พื้นที่กว่าห้าพันตารางกิโลเมตรบนเกาะเล็กๆ ในอินโดนีเซียมีหาดทรายขาว สถาปัตยกรรมโดดเด่น สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมน่าหลงใหล ระบำพื้นบ้านถ่ายทอดเรื่องราวการต่อสู้ระหว่างพ่อมดหมอผีรังดาฝ่ายอธรรม กับบารองตัวแทนฝ่ายดีในชุดคนครึ่งสิงห์ได้น่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งการแสดงชุดนี้ทางโรงแรมได้เตรียมไว้สำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เข้าพัก
“เลิศว่ะแก...!” มินทิราเอียงหน้ากระซิบกระซาบ สายตาที่มองการแสดงยิ่งใหญ่ตระการตาตรงหน้าสะท้อนความชื่นชมอย่างเห็นได้ชัด
“เห็นไหมล่ะ ฉันบอกแล้ว...แกต้องชอบ แล้วยังจะท่ามากไม่ยอมมาตั้งแต่แรกอีก” ปาหนันค่อนขอด
จำได้ว่าต้องคะยั้นคะยอเพื่อนร่วมงานสาวอยู่นานกว่าจะรับปาก ทั้งที่หล่อนแทบจะกรี๊ดลั่นบริษัทฯ ที่จับฉลากได้ตั๋วเครื่องบินไป-กลับบาหลีสองที่นั่ง พร้อมที่พักและแพ็กเกจมันนี่ ซึ่งเป็นรางวัลใหญ่ที่ทางบริษัทมอบให้พนักงานในช่วงเทศกาลปีใหม่
“ก็แกเป็นคนได้รางวัล ฉันก็ต้องเกรงใจเป็นเรื่องธรรมดา”
“แกจะเกรงใจทำไม บริษัทฯ เป็นสปอนเซอร์ ฉันไม่ได้ควักกระเป๋าจ่ายเสียหน่อย” ปาหนันไหวไหล่ ครั้นเห็นนักแสดงออกมาอำลาเวทีก็เปรยขึ้น “เดี๋ยวเสร็จเนี่ย เราไปเที่ยวกันตามสโลแกนดีกว่า”
“สโลแกนอะไร?” มินทิราขมวดคิ้วมุ่นทันที
“นี่อย่าบอกนะว่าแกมาเที่ยวบาหลีกับฉันทั้งที แต่ไม่ได้เสิร์ชหาข้อมูลอะไรมาเลย”
“ก็ฉันมัวแต่จัดกระเป๋า กลัวลืมโน้นลืมนี่ เพราะตื่นเต้นที่แกชวนน่ะสิ”
“ถ้าอย่างนั้นก็รู้ไว้ซะ ที่นี่...มีทริปเข้าวัด ไปผา...ดูหาดลับแล้วก็เล่นเซิร์ฟ”
“ที่แกพูดมาทั้งหมดเนี่ย เราต้องทำทุกอย่างเลยเหรอ”
“ก็แหงสิ ไหนๆ บริษัทฯ ก็จัดให้แล้ว เราก็ต้องเที่ยวให้คุ้ม แล้วฉันก็เสิร์ชหาข้อมูลมาเรียบร้อยแล้ว” ปาหนันพูดไปพลางก็หยิบแผนที่ออกจากกระเป๋าสะพาย ภูมิใจนำเสนอกึ่งอวดภูมิกลายๆ
มินทิราอมยิ้มกึ่งขำ แรกทีเดียว...คิดว่าตัวเองตื่นเต้นคนเดียวที่ได้มาเที่ยวที่นี่เสียอีก แต่ที่ไหนได้...แม่เพื่อนร่วมงานสาวท่าทางจะตื่นเต้นยิ่งกว่า สังเกตจากการเตรียมพร้อม รวมทั้งจุดกากบาทสีแดงที่เต็มพรืดทั้งแผนที่แผ่นนี้
“ทำไมมันเยอะอย่างนี้ล่ะ”
“เยอะที่ไหนกัน ที่กาไว้ทั้งหมดเนี่ยเจ๋งสุดแล้ว ไปกันเถอะ...” ปาหนันดีดนิ้วแล้วเดินนำออกจากห้องที่ทางโรงแรมเตรียมการแสดงไว้ต้อนรับ ทันทีที่มาถึงล็อบบี้ หล่อนก็วิ่งตื๋อออกไปหน้าโรงแรม พร้อมทั้งป้องปากตะโกนออกไป “ฉันมาแล้ว...บาหลีที่รัก!”
มินทิรายิ้มขำ ไม่คิดว่าปาหนันจะกล้าทำอะไรห่ามๆ ครั้นเห็นเพื่อนสาวหันหน้ากลับมากวักมือเรียกไหวๆ ให้ออกไปปลดปล่อยความบ้าด้วยกัน หล่อนก็ส่ายหน้าดิก แต่คนชวนก็ยังป้องปากเรียกไม่หยุด
“มาเร็วๆ ยัยมิน ไม่ต้องอาย ไม่มีใครรู้จักเราหรอก”
แม้ปาหนันจะพูดเช่นนั้น แต่มินทิราก็ยังกระดาก ไม่วายชำเลืองมองรอบตัว ครั้นเห็นคนที่เดินไปมาไม่มีใครสนใจใคร ราวกับจะบอกว่าเอ็งอยากทำอะไรก็ทำไป...ข้าไม่สน! หล่อนก็คิดว่าจะลองทำเรื่องบ้าบอดูสักครั้ง ไหนๆ ก็มาไกลถึงต่างแดน หล่อนก็ควรสนุกให้สุดเหวี่ยง
“ช่วยฉันคิดหน่อยสิ จะตะโกนว่าอะไรดี”
“ไอเลิฟยูบาหลีไง ดังๆ นะ ถ้าเบากว่าถือว่าแพ้”
“โอเคๆ” มินทิราเห็นปาหนันทำมือทำไม้ให้สัญญาณ ก็นึกสนุกกับคำท้าทายนั้นขึ้นมา ไม่ทันดูว่ามีรถยนต์คันหนึ่งวิ่งมาจอดเทียบที่หน้าโรงแรม หล่อนก็กางแขนออกแล้ววิ่งไปปลดปล่อยความบ้าทันที
“ไอเลิฟยู...”
มินทิราตะโกนออกไปได้แค่นั้นก็ต้องชะงัก จะทวงคำพูดคืนก็ไม่ทันเสียแล้ว ซ้ำสองเท้าที่วิ่งมาเต็มกำลังก็ยั้งไม่อยู่ นอกจากจะวิ่งเลยผ่านปาหนัน หล่อนยังพาตัวเองเข้าไปหาชายต่างชาติที่ก้าวลงจากรถคันหรูในจังหวะนั้นพอดี แรงปะทะอย่างจังทำให้ร่างสูงในชุดสูทที่ไม่ทันระวังล้มทั้งยืน โดยมีหล่อนตามติดลงไปนั่งทับบนตัวเขา
“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ เอ้ย...ไม่ใช่สิ! ซอรี่...ซอรี่ค่ะ” มินทิราละล่ำละลัก ลนลาน อารามตกใจ กลัวเขาได้รับบาดเจ็บ มือไม้หล่อนก็ลูบคลำตามเนื้อตามตัวชายต่างชาติคนนั้น
“Are you okay?” เสียงหวานๆ ถามอย่างเป็นกังวล
แต่ชายหนุ่มไม่ตอบ ซ้ำยังส่งผ่านความไม่พอใจมาทางนัยน์ตาขุ่น เป็นใครก็ต้องโกรธด้วยกันทั้งนั้น ก็ผู้หญิงคนนี้วิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามาบอกรักซึ่งหน้ายังไม่พอ เวลานี้ยังถือวิสาสะลูบคลำเนื้อเขาตัวเป็นว่าเล่น หล่อนต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่ขยับยุกยิกทั้งที่นั่งคร่อมบนตัวเขาในท่วงท่าล่อแหลม จนกระทั่งผู้หญิงอีกคนเดินมารั้งตัวให้ลุกขึ้นนั่นแหละ หล่อนถึงได้หยุดลวนลามเขา
“แกเป็นอะไรหรือเปล่ายัยมิน!?”
“ฉันไม่เป็นไร แต่เขาสิ...” มินทิราพยักพเยิดหน้าให้ปาหนันหันมองชายต่างชาติ
ในจังหวะนั้นเอง...เสียงฝีเท้าเร่งรีบที่บอกถึงความรีบร้อนของใครบางคนก็หยุดลงตรงหน้าชายคนนั้น พร้อมทั้งสื่อสารออกมาเป็นภาษาอังกฤษ
“Mr. Cordoba, Are you okay?”
“อืม...” เสียงทุ้มก้องกังวานในลำคอ ขณะเจ้าตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง พลางขยับเนคไทให้เข้าที่เข้าทาง เขาไม่พูดกับสองสาวเลยสักคำ นอกจากใช้หางตามองผ่านๆ แล้วสาวเท้ายาวๆ เข้าไปในโรงแรมหรู โดยมีเลขาส่วนตัวที่เข้ามาสอบถามเมื่อครู่คอยปัดเสื้อสูทให้อย่างรู้ใจคนเป็นนาย
“คนอะไร...ขี้เก๊กชะมัด!” มินทิราเบ้ปาก นึกหมั่นไส้ท่าทางหยิ่งผยอง เขาทำราวกับว่าอยู่กันคนละชั้นวรรณะ สายตาจิกกัดที่มองไล่หลังก็ตวัดค้อนขวับทีเดียว
“อย่าไปสนใจเลยแก พวกนักธุรกิจก็อย่างนี้แหละ เราไปเที่ยวกันดีกว่า” ปาหนันดึงมือมินทิราไปหาเช่ารถมอเตอร์ไซค์ตามที่ได้ข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต ทุกคนต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเจ้าพาหนะชนิดนี้หาเช่าได้ง่ายในราคาไม่แพง อีกทั้งยังทำให้การเดินทางไปสถานที่ต่างๆ สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น...
กันต์ระพี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 เม.ย. 2562, 18:51:13 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 เม.ย. 2562, 18:51:13 น.