กระซิบรักฝากหัวใจที่ปลายฟ้า: พิมมาศ (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เพราะเสียงกระซิบจากชายในฝัน
ทำให้ 'เอริน' จดจำฝังใจและรอวันที่จะได้พบเจอ
จนเวลาผันผ่านนานนับยี่สิบปี...
เสียงนั้นกลับเข้ามาย้ำเตือนความทรงจำของเธออีกครั้ง
ซีอีโอหนุ่มใหญ่ที่แก่กว่าเธอร่วมสิบกว่าปีได้ ทั้งแววตาและน้ำเสียงอบอุ่นของเขา
ยิ่งใกล้ชิดยิ่งติดพัน ยิ่งใกล้กันยิ่งหวั่นไหว เธอจะทำอย่างไรกับใจของตัวเอง
Love go on, until the end of the world…
เพราะความน่ารัก สดใส เยาว์วัยของเธอ
ทำให้ 'ชานนท์' กลับมายิ้มได้อีกครั้งพร้อมความรู้สึกดีๆ
ผ่านไปอีกหนึ่งปี...
เขากลับมาหาเธอพร้อมคำสัญญาที่เคยให้ไว้
รอยยิ้มของยายกุหลาบชมพูแก้มกลมผู้สดใส อ่อนโยน
กำลังหลอมละลายความแค้นในใจของเขาให้กลายกลับมาเป็นความรักอีกครั้ง
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "พิมมาศ" และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เปิดจองเร็วๆ นี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้โรแมนติก น่ารักน่าหยิกมากๆ ใครชอบพระเอกหนุ่มใหญ่สายเปย์ รุกจีบเด็ก ส่วนเด็กมีความใสซื่อแต่แก่นแก้วนิดๆ และแอบตามตื๊อ มิควรพลาดจ้าาาาา นอกจากนี้ยังได้ไปเที่ยวยุโรปกันด้วย มีความดราม่าของเรื่องราวในวัยเด็กระหว่างกันแฝงอยู่ด้วยค่ะ #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านภาวิกา ร้านbestbooksmile เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 624 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 385฿ จากราคาปก 445฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 430฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 455฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
ทำให้ 'เอริน' จดจำฝังใจและรอวันที่จะได้พบเจอ
จนเวลาผันผ่านนานนับยี่สิบปี...
เสียงนั้นกลับเข้ามาย้ำเตือนความทรงจำของเธออีกครั้ง
ซีอีโอหนุ่มใหญ่ที่แก่กว่าเธอร่วมสิบกว่าปีได้ ทั้งแววตาและน้ำเสียงอบอุ่นของเขา
ยิ่งใกล้ชิดยิ่งติดพัน ยิ่งใกล้กันยิ่งหวั่นไหว เธอจะทำอย่างไรกับใจของตัวเอง
Love go on, until the end of the world…
เพราะความน่ารัก สดใส เยาว์วัยของเธอ
ทำให้ 'ชานนท์' กลับมายิ้มได้อีกครั้งพร้อมความรู้สึกดีๆ
ผ่านไปอีกหนึ่งปี...
เขากลับมาหาเธอพร้อมคำสัญญาที่เคยให้ไว้
รอยยิ้มของยายกุหลาบชมพูแก้มกลมผู้สดใส อ่อนโยน
กำลังหลอมละลายความแค้นในใจของเขาให้กลายกลับมาเป็นความรักอีกครั้ง
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "พิมมาศ" และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เปิดจองเร็วๆ นี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้โรแมนติก น่ารักน่าหยิกมากๆ ใครชอบพระเอกหนุ่มใหญ่สายเปย์ รุกจีบเด็ก ส่วนเด็กมีความใสซื่อแต่แก่นแก้วนิดๆ และแอบตามตื๊อ มิควรพลาดจ้าาาาา นอกจากนี้ยังได้ไปเที่ยวยุโรปกันด้วย มีความดราม่าของเรื่องราวในวัยเด็กระหว่างกันแฝงอยู่ด้วยค่ะ #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านภาวิกา ร้านbestbooksmile เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 624 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 385฿ จากราคาปก 445฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 430฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 455฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: สายเปย์ รุกจีบ น่ารัก ดราม่า แก้แค้น ลอนดอน ฟลอเรนซ์
ตอน: บทที่ 9 -100%
อะแฮ่มๆ วันนี้มาต่อพร้อมแจ้งข่าวด้วยค่ะ^^ งานหนังสือวันที่ 2-13 ตุลาคมนี้ปลายปากกาสำนักพิมพ์ไม่ได้ไปฝากวางขายนะคะ ขอมีหลายๆ เรื่องก่อน ถ้าใครสนใจสั่งซื้อทางออนไลน์กันไปก่อนน้าาา หรือไม่ก็ที่ ‘ศูนย์หนังสือจุฬาฯ’ นะคะมีครบทุกเรื่องเลย
ส่วนกระซิบรักฯ เตรียมเข้าโรงพิมพ์สัปดาห์หน้าแล้วจ้าาา ใครสั่งจองรอรับ เย้ๆ รายละเอียดสั่งจองกดที่ปุ่ม ‘อ่านเรื่องย่อ’ ด้านบนนะคะ ปิดจอง 25 กันยายนนี้
*************
“อะไรนะ! ได้แค่ห้องเดียว!?”
ชานนท์เสียงดังลั่นล็อบบี้ทันทีที่เข้ามาเช็กอิน ทำเอาเอรินถึงกับหน้าเสียเพราะยืนอยู่ข้างเขาเห็นแขกของโรงแรมจ้องมองมาเป็นตาเดียวกัน เลยสะกิดแขนเขาเตือนสติ แต่กลับถูกเขาทำหน้าดุใส่แล้วหันกลับไปต่อว่าพนักงานต่อเป็นภาษาอังกฤษน้ำเสียงดุดัน
“ผมจองไว้สองห้อง ทำไมได้แค่ห้องเดียว! พวกคุณทำงานกันยังไงถึงผิดพลาดได้ขนาดนี้ ราคาห้องไม่ใช่ถูกๆ เงินก็ตัดผ่านบัตรไปแล้ว”
“ต้องขอโทษคุณลูกค้าจริงๆ ค่ะ น่าจะผิดพลาดที่ระบบจอง ทางเราไม่ทราบก็เลยให้ห้องนึงกับแขกที่วอล์กอินเข้ามาก่อนหน้าแล้ว”
“คุณจะอ้างว่าไม่มีข้อมูลในระบบไม่ได้! ผมเสียเงินไปแล้ว และมันก็ไม่ใช่ความผิดของผม” ชานนท์ยังคงเอาเรื่องหน้าดำหน้าแดง ก็เขาให้เลขาจองผ่านเว็บไว้ ไม่มีทางที่จะเกิดความผิดพลาดกับเว็บระดับโลกได้
“ใจเย็นๆ ก่อนนะคะคุณลูกค้า ทางเราจะแจ้งเว็บทำเรื่องรีฟันด์เงินคืนให้ค่ะ แต่ถ้าต้องการห้องอื่น ยังมีห้องสูทว่างอยู่ แต่ต้องรบกวนคุณลูกค้าจ่ายราคาเต็มสำหรับเข้าพัก...”
“งั้นไม่ต้อง!” ชานนท์ปฏิเสธเสียงเข้ม
“ไป...เอริน”
“ไป? ไปไหนคะ” เอรินหน้าตาเหลอหลา มองชานนท์ทีพนักงานทีสลับกันไปมา เพราะแปลทันบ้างไม่ทันบ้าง แม้หล่อนจะพยายามเรียนเสริมภาษาเพื่อเป็นมัคคุเทศก์ตามที่ใฝ่ฝัน แต่ชีวิตจริงนี่สิ แค่เหยียบต่างประเทศครั้งแรกก็รู้แล้วว่าภาคทฤษฎีในห้องเรียนต่างกับภาคปฏิบัติมาก
นี่สินะคือผลของความอวดเก่ง บิดามารดาห้ามก็ไม่ฟัง หล่อนดื้อแพ่งจะมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้วินซ์เพื่อนรักจนเลยเถิดมาไกลถึงฟลอเรนซ์
“คิดอะไรอยู่คุณ จะไปหรือเปล่า” ชานนท์เร่ง
“คะ อ๋อ คือ...” เอรินยิ้มเหยเก
“ฉันยังงงๆ ฟังไม่ค่อยทันน่ะค่ะ แต่ได้ยินว่าเขามีห้องอื่นให้ เราก็ให้เขาเปลี่ยนดีไหมคะ”
“คุณไม่รู้อะไรเงียบไปเถอะน่า”
ชานนท์บอกอย่างหงุดหงิด แต่ความเห็นของหล่อนก็ทำให้เขาหันกลับไปคุยกับพนักงานอีกรอบ
“งั้นเอางี้ ห้องสูทยังว่างใช่ไหม ถ้าอัปเกรดห้องที่ผมจองไว้หนึ่งห้อง แล้วผมจะจ่ายห้องสูทเพิ่มอีกห้อง ขอเป็นห้องติดกัน”
“แต่ว่า...”
“ไม่ได้อีกใช่ไหม งั้นถ้าคุณไม่อัปเกรดให้ ทางโรงแรมคงต้องคืนเงินเต็มราคาเพราะผมไม่ได้เป็นฝ่ายผิด”
“งั้นสักครู่นะคะ”
พนักงานสาวรีบต่อโทรศัพท์คุยกับปลายสายสีหน้าเครียด ครู่ต่อมาก็เป็นอันว่าทางโรงแรมยอมทำตามข้อเสนอของชานนท์ โดยอัปเกรดห้องให้ฟรีและยังมีห้องสูทว่างให้เขาได้เข้าพัก เรียกรอยยิ้มพึงพอใจจากชายหนุ่ม เพราะก็ไม่อยากลำบากออกไปหาที่พักใหม่อยู่เหมือนกัน
แต่พอเขาหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาจะควักบัตรเครดิตให้พนักงานเอรินกลับดึงมือเขาเอาไว้
“เดี๋ยวๆ คุณจะทำอะไรคะ”
“ก็จ่ายค่าห้องสูทเพิ่มไง”
“แล้วทำไมต้องจ่ายเพิ่ม ห้องสูทคืนละตั้งเกือบเจ็ดหมื่นเลยนะคุณ มันแพงมาก”
“แล้วคุณจะเอายังไงไหนบอกซิ”
“ก็แบบว่า เอิ่ม มันแพงเกินไป” หล่อนยังคงย้ำคำเดิมเสียงอ่อย กลัวสีหน้าขึงขังของอีกฝ่าย
“เรายังพอมีวิธีอื่นอีกไหมคะ”
“มี ก็แค่ทิ้งเงินทั้งหมดแล้วไปหาที่พักที่อื่น”
“ได้ไง! คุณจะทิ้งเงินหรือคะ”
หญิงสาวถึงกับหน้าซีด รู้สึกทันทีว่าตัวเองคือภาระที่เขาไม่ควรต้องมายุ่งยาก เสียดายเงินแทนเขาด้วยเพราะจำนวนไม่ใช่น้อยๆ ครั้นจะออกปากขอจ่ายเพิ่มเองก็สู้ไม่ไหว ราคาห้องพักโรงแรมหรูระดับนี้ ต่อให้ชาตินี้ทั้งชาติหล่อนก็คงไม่มีปัญญาจ่าย
“ตกลงจะเอายังไง ตอนนี้โรงแรมว่างแค่ห้องสูท เรามากันแค่สองคน แถมไม่ได้เป็นอะไรกันจะมาพักห้องเดียวกัน คุณเป็นผู้หญิงมีแต่จะโดนครหา”
“ไม่เป็นไรค่ะ” เอรินโพล่งออกมาหน้าตาเฉย
“ฉันเสียดายเงินน่ะคุณ” พอเห็นชานนท์เลิกคิ้วสูงเป็นเชิงถามย้ำ หล่อนเลยอ้อมแอ้มบอกเขา “อีกอย่างเรามากันแค่นี้จะมีใครรู้ละคะ พักแค่คืนสองคืน ห้องสูทห้องเดียวคงไม่เล็กขนาดพักสองคนไม่ได้”
“แน่ใจ?”
ชานนท์ยังถามย้ำ หล่อนกลัวเขาไม่เชื่อเลยพยักหน้ายืนยัน
“ไม่กลัวคนนินทาด้วย?”
หล่อนยังคงพยักหน้ายืนยันอีกเช่นกัน แต่คราวนี้หน้าแดงก่ำท่า ทางหวาดกลัวขึ้นมานิดๆ คนถามเลยโคลงศีรษะไปมา ถอนใจออกมาเบาๆ
“อย่าเลย ผมไม่อยากให้ใครมานินทาว่าผมพาเด็กเข้าโรงแรม”
“เอ๊ะ! ฉันบอกว่าอายุยี่สิบห้า” หล่อนยังไม่วายเถียงเขา
ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มคงไม่รู้ว่าลึกๆ แล้ว ‘เด็ก’ ใจชื้นขึ้นเป็นกองที่ได้ยินเขาพูดออกมาแบบนั้น อย่างน้อยชานนท์ก็มีความเป็นสุภาพบุรุษ แต่ในเมื่อหล่อนยืนยันกับเขาไปเสียขนาดนั้นแล้ว เลยไม่อยากเสียเวลาเถียงกับเขาอีก
เอรินเข้าไปคุยกับพนักงานคนเดิมด้วยตัวเองทั้งที่ภาษาอังกฤษยังกระท่อนกระแท่นก็ตาม สุดท้ายได้คีย์การ์ดห้องพักมาหนึ่งห้อง โดยชานนท์เป็นฝ่ายรับจากพนักงาน
“ถือว่าผมเตือนคุณแล้วนะ” เขาโน้มตัวลงมาจงใจกระซิบที่ข้างหูหญิงสาว “เกิดอะไรขึ้นอย่ามาเสียใจภายหลังก็แล้วกัน”
“คุณไม่ต้องมาขู่ฉันเลย”
“ไม่ได้ขู่ ผมพูดความจริง ผู้ชายน่ะเอาแน่อะไรไม่ได้หรอกนะสาวน้อย อย่าชะล่าใจไป” ไม่แค่กระซิบตอบกลับมา ดวงตาของเขาวาววับแถมเหยียดยิ้มเจ้าเล่ห์
เอรินถึงกับขนลุกซู่ แต่ยังทำใจดีสู้เสือแยกเขี้ยวใส่เขา ตามด้วยยืดอกทำทีเป็นไม่เกรงกลัวอีกฝ่าย “ฉันรู้ว่าคุณเป็นสุภาพบุรุษพอ คุณเป็นคนดี พ่อพระ เพราะฉะนั้นคุณไม่ทำอะไรคนไม่มีทางสู้หรอก”
“ถึงจะปะเหลาะเก่งแต่อย่ามั่นใจไปนัก คุณอาจจะผิดหวังถ้าหลงไว้ใจคนผิด”
“แต่ฉันมั่นใจว่าดูคนไม่ผิดค่ะ...ฉันไว้ใจคุณ”
“โอเคๆ ตกลงจะพูดให้ผมรู้สึกผิดให้ได้ใช่ไหม”
ชานนท์ถึงกับส่ายหน้า เขาเองก็ไม่ได้เตรียมใจมาล่วงหน้าเหมือนกันว่าจะได้มากับหญิงสาว ที่ดูยังไงหล่อนก็เหมือนลูกแมวเชื่องชอบพันแข้งพันขาจนน่ารำคาญ แต่ลึกๆ แล้วเขาก็ต้องยอมรับว่าหล่อนเป็นคนหัวไว ใช้วิธีพูดดักคอให้เขาได้ละอายไม่น้อย
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ส่วนกระซิบรักฯ เตรียมเข้าโรงพิมพ์สัปดาห์หน้าแล้วจ้าาา ใครสั่งจองรอรับ เย้ๆ รายละเอียดสั่งจองกดที่ปุ่ม ‘อ่านเรื่องย่อ’ ด้านบนนะคะ ปิดจอง 25 กันยายนนี้
*************
“อะไรนะ! ได้แค่ห้องเดียว!?”
ชานนท์เสียงดังลั่นล็อบบี้ทันทีที่เข้ามาเช็กอิน ทำเอาเอรินถึงกับหน้าเสียเพราะยืนอยู่ข้างเขาเห็นแขกของโรงแรมจ้องมองมาเป็นตาเดียวกัน เลยสะกิดแขนเขาเตือนสติ แต่กลับถูกเขาทำหน้าดุใส่แล้วหันกลับไปต่อว่าพนักงานต่อเป็นภาษาอังกฤษน้ำเสียงดุดัน
“ผมจองไว้สองห้อง ทำไมได้แค่ห้องเดียว! พวกคุณทำงานกันยังไงถึงผิดพลาดได้ขนาดนี้ ราคาห้องไม่ใช่ถูกๆ เงินก็ตัดผ่านบัตรไปแล้ว”
“ต้องขอโทษคุณลูกค้าจริงๆ ค่ะ น่าจะผิดพลาดที่ระบบจอง ทางเราไม่ทราบก็เลยให้ห้องนึงกับแขกที่วอล์กอินเข้ามาก่อนหน้าแล้ว”
“คุณจะอ้างว่าไม่มีข้อมูลในระบบไม่ได้! ผมเสียเงินไปแล้ว และมันก็ไม่ใช่ความผิดของผม” ชานนท์ยังคงเอาเรื่องหน้าดำหน้าแดง ก็เขาให้เลขาจองผ่านเว็บไว้ ไม่มีทางที่จะเกิดความผิดพลาดกับเว็บระดับโลกได้
“ใจเย็นๆ ก่อนนะคะคุณลูกค้า ทางเราจะแจ้งเว็บทำเรื่องรีฟันด์เงินคืนให้ค่ะ แต่ถ้าต้องการห้องอื่น ยังมีห้องสูทว่างอยู่ แต่ต้องรบกวนคุณลูกค้าจ่ายราคาเต็มสำหรับเข้าพัก...”
“งั้นไม่ต้อง!” ชานนท์ปฏิเสธเสียงเข้ม
“ไป...เอริน”
“ไป? ไปไหนคะ” เอรินหน้าตาเหลอหลา มองชานนท์ทีพนักงานทีสลับกันไปมา เพราะแปลทันบ้างไม่ทันบ้าง แม้หล่อนจะพยายามเรียนเสริมภาษาเพื่อเป็นมัคคุเทศก์ตามที่ใฝ่ฝัน แต่ชีวิตจริงนี่สิ แค่เหยียบต่างประเทศครั้งแรกก็รู้แล้วว่าภาคทฤษฎีในห้องเรียนต่างกับภาคปฏิบัติมาก
นี่สินะคือผลของความอวดเก่ง บิดามารดาห้ามก็ไม่ฟัง หล่อนดื้อแพ่งจะมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้วินซ์เพื่อนรักจนเลยเถิดมาไกลถึงฟลอเรนซ์
“คิดอะไรอยู่คุณ จะไปหรือเปล่า” ชานนท์เร่ง
“คะ อ๋อ คือ...” เอรินยิ้มเหยเก
“ฉันยังงงๆ ฟังไม่ค่อยทันน่ะค่ะ แต่ได้ยินว่าเขามีห้องอื่นให้ เราก็ให้เขาเปลี่ยนดีไหมคะ”
“คุณไม่รู้อะไรเงียบไปเถอะน่า”
ชานนท์บอกอย่างหงุดหงิด แต่ความเห็นของหล่อนก็ทำให้เขาหันกลับไปคุยกับพนักงานอีกรอบ
“งั้นเอางี้ ห้องสูทยังว่างใช่ไหม ถ้าอัปเกรดห้องที่ผมจองไว้หนึ่งห้อง แล้วผมจะจ่ายห้องสูทเพิ่มอีกห้อง ขอเป็นห้องติดกัน”
“แต่ว่า...”
“ไม่ได้อีกใช่ไหม งั้นถ้าคุณไม่อัปเกรดให้ ทางโรงแรมคงต้องคืนเงินเต็มราคาเพราะผมไม่ได้เป็นฝ่ายผิด”
“งั้นสักครู่นะคะ”
พนักงานสาวรีบต่อโทรศัพท์คุยกับปลายสายสีหน้าเครียด ครู่ต่อมาก็เป็นอันว่าทางโรงแรมยอมทำตามข้อเสนอของชานนท์ โดยอัปเกรดห้องให้ฟรีและยังมีห้องสูทว่างให้เขาได้เข้าพัก เรียกรอยยิ้มพึงพอใจจากชายหนุ่ม เพราะก็ไม่อยากลำบากออกไปหาที่พักใหม่อยู่เหมือนกัน
แต่พอเขาหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาจะควักบัตรเครดิตให้พนักงานเอรินกลับดึงมือเขาเอาไว้
“เดี๋ยวๆ คุณจะทำอะไรคะ”
“ก็จ่ายค่าห้องสูทเพิ่มไง”
“แล้วทำไมต้องจ่ายเพิ่ม ห้องสูทคืนละตั้งเกือบเจ็ดหมื่นเลยนะคุณ มันแพงมาก”
“แล้วคุณจะเอายังไงไหนบอกซิ”
“ก็แบบว่า เอิ่ม มันแพงเกินไป” หล่อนยังคงย้ำคำเดิมเสียงอ่อย กลัวสีหน้าขึงขังของอีกฝ่าย
“เรายังพอมีวิธีอื่นอีกไหมคะ”
“มี ก็แค่ทิ้งเงินทั้งหมดแล้วไปหาที่พักที่อื่น”
“ได้ไง! คุณจะทิ้งเงินหรือคะ”
หญิงสาวถึงกับหน้าซีด รู้สึกทันทีว่าตัวเองคือภาระที่เขาไม่ควรต้องมายุ่งยาก เสียดายเงินแทนเขาด้วยเพราะจำนวนไม่ใช่น้อยๆ ครั้นจะออกปากขอจ่ายเพิ่มเองก็สู้ไม่ไหว ราคาห้องพักโรงแรมหรูระดับนี้ ต่อให้ชาตินี้ทั้งชาติหล่อนก็คงไม่มีปัญญาจ่าย
“ตกลงจะเอายังไง ตอนนี้โรงแรมว่างแค่ห้องสูท เรามากันแค่สองคน แถมไม่ได้เป็นอะไรกันจะมาพักห้องเดียวกัน คุณเป็นผู้หญิงมีแต่จะโดนครหา”
“ไม่เป็นไรค่ะ” เอรินโพล่งออกมาหน้าตาเฉย
“ฉันเสียดายเงินน่ะคุณ” พอเห็นชานนท์เลิกคิ้วสูงเป็นเชิงถามย้ำ หล่อนเลยอ้อมแอ้มบอกเขา “อีกอย่างเรามากันแค่นี้จะมีใครรู้ละคะ พักแค่คืนสองคืน ห้องสูทห้องเดียวคงไม่เล็กขนาดพักสองคนไม่ได้”
“แน่ใจ?”
ชานนท์ยังถามย้ำ หล่อนกลัวเขาไม่เชื่อเลยพยักหน้ายืนยัน
“ไม่กลัวคนนินทาด้วย?”
หล่อนยังคงพยักหน้ายืนยันอีกเช่นกัน แต่คราวนี้หน้าแดงก่ำท่า ทางหวาดกลัวขึ้นมานิดๆ คนถามเลยโคลงศีรษะไปมา ถอนใจออกมาเบาๆ
“อย่าเลย ผมไม่อยากให้ใครมานินทาว่าผมพาเด็กเข้าโรงแรม”
“เอ๊ะ! ฉันบอกว่าอายุยี่สิบห้า” หล่อนยังไม่วายเถียงเขา
ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มคงไม่รู้ว่าลึกๆ แล้ว ‘เด็ก’ ใจชื้นขึ้นเป็นกองที่ได้ยินเขาพูดออกมาแบบนั้น อย่างน้อยชานนท์ก็มีความเป็นสุภาพบุรุษ แต่ในเมื่อหล่อนยืนยันกับเขาไปเสียขนาดนั้นแล้ว เลยไม่อยากเสียเวลาเถียงกับเขาอีก
เอรินเข้าไปคุยกับพนักงานคนเดิมด้วยตัวเองทั้งที่ภาษาอังกฤษยังกระท่อนกระแท่นก็ตาม สุดท้ายได้คีย์การ์ดห้องพักมาหนึ่งห้อง โดยชานนท์เป็นฝ่ายรับจากพนักงาน
“ถือว่าผมเตือนคุณแล้วนะ” เขาโน้มตัวลงมาจงใจกระซิบที่ข้างหูหญิงสาว “เกิดอะไรขึ้นอย่ามาเสียใจภายหลังก็แล้วกัน”
“คุณไม่ต้องมาขู่ฉันเลย”
“ไม่ได้ขู่ ผมพูดความจริง ผู้ชายน่ะเอาแน่อะไรไม่ได้หรอกนะสาวน้อย อย่าชะล่าใจไป” ไม่แค่กระซิบตอบกลับมา ดวงตาของเขาวาววับแถมเหยียดยิ้มเจ้าเล่ห์
เอรินถึงกับขนลุกซู่ แต่ยังทำใจดีสู้เสือแยกเขี้ยวใส่เขา ตามด้วยยืดอกทำทีเป็นไม่เกรงกลัวอีกฝ่าย “ฉันรู้ว่าคุณเป็นสุภาพบุรุษพอ คุณเป็นคนดี พ่อพระ เพราะฉะนั้นคุณไม่ทำอะไรคนไม่มีทางสู้หรอก”
“ถึงจะปะเหลาะเก่งแต่อย่ามั่นใจไปนัก คุณอาจจะผิดหวังถ้าหลงไว้ใจคนผิด”
“แต่ฉันมั่นใจว่าดูคนไม่ผิดค่ะ...ฉันไว้ใจคุณ”
“โอเคๆ ตกลงจะพูดให้ผมรู้สึกผิดให้ได้ใช่ไหม”
ชานนท์ถึงกับส่ายหน้า เขาเองก็ไม่ได้เตรียมใจมาล่วงหน้าเหมือนกันว่าจะได้มากับหญิงสาว ที่ดูยังไงหล่อนก็เหมือนลูกแมวเชื่องชอบพันแข้งพันขาจนน่ารำคาญ แต่ลึกๆ แล้วเขาก็ต้องยอมรับว่าหล่อนเป็นคนหัวไว ใช้วิธีพูดดักคอให้เขาได้ละอายไม่น้อย
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ก.ย. 2562, 09:32:04 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ก.ย. 2562, 09:38:32 น.
จำนวนการเข้าชม : 569
<< บทที่ 9 -50% | บทที่ 10 -70% >> |